ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ 363

Now you are reading ย้อนเวลากลับมาเป็นเทพยุทธ์ Chapter 363 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

กึก ร่างของเด็กสาวสีแดงค่อยๆขยับตัวอย่างเชื่องช้า ท่าทางอ่อนแรงอย่างเห็นได้ชัด เธอลุกขึ้นยืนและซวนเซเล็กน้อย เสื้อสีแดงเลือดกลายเป็นสีแดงซีดไร้พลัง อักขระเลือดหายไปจากผิวขาว เด็กสาวยืนนิ่งไปเล็กน้อยก่อนจะหันมายังจิวโมไป๋ ดวงตาสีดำมืดมนมองไปยังจิวโมไป๋อย่างไร้ความรู้สึก

“นี่…”จิวโมไป๋นิ่งไปเล็กน้อย ในตอนนั้นเองกระบี่เลือนเร้นในทะเลสติก็สั่นไหวเบาๆ จิวโมไป๋ใช้ดวงตาที่สามารถมองความผิดบาปได้ มองไปยังร่างของเด็กสาวเขาก็ชะงักค้าง

บุญของเด็กสาวสีแดง เอ่อล้นออกมาน่ากลัว เขามองเห็นดอกบัวสีทองเก้ากลีบเบ่งบานใจกลางกลุ่มบุญ!

ต้องมีบุญมากมายขนาดไหนถึงจะก่อเกิดดอกบัวที่บานออกมาได้!

จิวโมไป๋ขมวดคิ้วแน่น เขาไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น

จะโทษจิวโมไป๋ไม่ได้ที่เขาไม่รู้ เพราะเขาไม่รู้เกี่ยวกับวิญญาณมากนัก และเขาไม่รู้ว่าร่างหุ่นเชิดจะต้องใช้ร่างของมนุษย์มาเป็นหุ่นเชิด

เด็กสาวสีดำเลือกเด็กสาวสีแดงมาเป็นร่างแยกหุ่นเชิด เพราะพลังความดีอันมหาศาลของเธอ มันช่วยทำให้เด็กสาวสีดำฝึกการบ่มเพาะวิญญาณที่ต้องใช้พลังความชั่วและพลังบุญสนับสนุนกัน

และเหตุผลที่เด็กสาวสีดำทิ้งเด็กสาวสีแดงไว้ที่นี่ยังมีอีกเหตุผลหนึ่ง

ขณะที่จิวโมไป๋กำลังงุนงง

เด็กสาวสีแดงก็เริ่มเคลื่อนไหว เธอปฏิบัติตามคำสั่งที่เด็กสาวสีดำสั่งเอาไว้ เมื่อถึงการป้องกันสุดท้าย เธอสามารถดึงพลังของ’สิ่งนั้น’มาใช้ได้

พรึบ โคมไฟใต้ฝ่าเท้าของเด็กสาวสีแดงกระพริบอย่างแผ่วเบา

กลิ่นอายบางอย่างแผ่ซ่านออกมา

จิวโมไป๋ขมวดคิ้วแน่น มือกุมที่อกซ้ายและถอยหลังไปหลายก้าวโดยไม่รู้ตัว หัวใจของเขาเจ็บแปลบอย่างรุนแรง มันไม่ได้ความเจ็บปวดที่เกิดการร่างกาย แต่เป็นจิตใจ

จิตมาร!

จิวโมไป๋ไม่เสียเวลาคิดเขาท่องเคล็ดบ่มเพาะพลังจิตวิญญาณหัวใจพิสุทธิ์ทันที ดอกบัวสีความบริสุทธิ์ในทะเลสติหมุนวนอย่างช้าๆ แสงสีขาวแผ่กระจายออกจากผิวหนังของเขาป้องกันกลิ่นอายของโคมไฟ

ความเจ็บปวดที่ตำแหน่งหัวใจก็ค่อยๆลดลง

ราวกับรู้สึกได้ถึงความท้าทาย เปลวไฟสีขาวพลันลุกไหม้อย่างรุนแรง มันลุกท่วมออกมาจากโคมไฟแผ่ขยายอย่างรวดเร็วและเผาท่วมร่างของเด็กสาวสีแดง

น่าแปลกที่มันไม่ทำอันตรายใดๆกับร่างของเด็กสาวสีแดง มันหลอมรวมเข้ากับร่างของเด็กสาว เสื้อสีแดงแปรเปลี่ยนเป็นสีขาวสะอาด เปลวไฟสีขาวที่ลุกไหม้ทั่วร่างของเธอ เหมือนเสื้อคลุมที่ปกป้องเธอจากอันตราย

เด็กสาวสีแดงในตอนนี้เหมือนนักบุญ แทนที่จะเป็นร่างแยกของวิญญาณแค้น

กลิ่นอายบางอย่างรุนแรงขึ้นเรื่อยๆ

ในตอนนั้นเอง เพลิงนิรันดร์ในร่างของเขาก็ลุกไหม้อย่างรุนแรงราวกับตอบสนองต่อศัตรู ตำหนักยุทธ์เตาหลอม 9 สุริยันที่แตกร้าวอยู่แล้วสั่นสะเทือนอย่างรุนแรง

ใบหน้าของจิวโมไป๋ซีดเผือดและกระอักเลือดออกมากองหนึ่ง เขาพยายามข่มเพลิงนิรันต์จนสงบ สายตามองเพลิงสีขาวที่มีกลิ่นอายแปลกประหลาดไม่ละสายตา

เพลิงสีขาว ทำให้จิตมารตอบสนอง

จิวโมไป๋ระลึกความทรงจำอย่างรวดเร็ว ก่อนที่ดวงตาของเขาจะเป็นประกายเจิดจ้า

เพลิงผลาญบาป สมบัติปฐพีระดับ 6!

ต้องเป็นมันแน่ๆ

เพลิงผลาญบาป เปลวเพลิงที่เผาไหม้ความชั่วร้ายทั้งปวงจนกว่าจะกลายเป็นขี้เถ้า

ความแข็งแกร่งของเพลิงบาป ธรรมดามากไม่ได้แข็งแกร่งอะไรนัก และอาจจะอ่อนแอกว่าเพลิง สมบัติมนุษย์ระดับ 3 ด้วยซ้ำ

แต่ที่ทำให้มันมันถูกจัดอันดับสมบัติปฐพีระดับ 6 เพราะคุณสมบัติพิเศษของมัน ‘เผาไหม้ความชั่วร้ายทั้งปวงจนกว่าจะกลายเป็นขี้เถ้า’ ความสามารถนี้ไม่มีอะไรที่จะสามารถหยุดการเผาไหม้ของมันได้ นอกจากเพลิงผลาญบาปจะหยุดเอง หรือเจ้าของเพลิงผลาญบาปจะหยุด

หรือจะสร้างบุญจนไร้บาปถึงจะสามารถหยุดการเผาไหม้ได้ แต่มันก็เป็นเรื่องยาก เพราะไม่มีใครสามารถมองเห็นบาป บุญได้ ทำให้ผู้ที่ถูกเพลิงผลาญบาป แผดเผารอความตายได้เลย หรือฝึกฝนจนมีระดับความแข็งแกร่งที่สามารถทนการเผาไหม้เพลิงผลาญบาปได้ แต่มันก็น่ารำคาญที่มีไฟลุกท่วมร่างอยู่ตลอดเวลา

ด้วยคุณสมบัติพิเศษนี้เอง ทำให้เพลิงผลาญบาปกลายเป็น สมบัติระดับปฐพี ระดับ 6 !

อายุของโลกแห่งการบ่มเพาะพลังมากกว่าหลายล้านปี ทำให้มีบันทึกตำนานของเพลิงผลาญบาปจำนวนมากถูกบันทึกเอาไว้ แต่ที่โด่งดังที่สุดคือ เพลิงผลาญบาป ที่เผาไหม้ดาวปีศาจมฤตยู ติดต่อกัน 1 หมื่นปี ทำให้ดาวปีศาจมฤตยูกลายเป็นดินแดนต้องห้าม

ปีศาจมฤตยู เป็นหนึ่งในเผ่าพันธุ์ชั้นสูงของโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง พวกมันก่อกรรมทำชั่วมากมาย แต่ไม่มีใครกล้าที่จะเอาผิดปีศาจมฤตยูเหล่านี้ เพราะอิทธิพลของมันที่ปกคลุมโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง ผู้ที่ท้าทายมันจะถูกตามล่าสังหารทั้งตระกูล

แต่เพลิงผลาญบาป ที่มีจิตวิญญาณตัวนี้ ได้เข้าไปที่ดาวปีศาจมฤตยู ดาวหลักของปีศาจมฤตยู มันได้เผาไหม้ดาวปีศาจมฤตยูอย่างไม่ยอมแพ้นานกว่า 1 หมื่นปี จนในที่สุดก็สามารถทำให้เหล่าปีศาจมฤตยูกลืนความอัปยศย้ายออกจากดาวหลัก จากความอับอายให้กับเหล่าปีศาจมฤตยู จนแทบไม่มีที่ยืนในโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง

หลังจากนั้นเพลิงผลาญบาปก็ได้รับบุญมหาศาล และสร้างร่างมนุษย์ที่มีพรสวรรค์เหนือล้ำ และมันได้ก่อตั้งสำนักของตัวเอง สร้างชื่อเสียง ทำความดี มีผู้คนเข้ามาเป็นศิษย์เรื่อยๆจนกลายเป็นสำนักธรรมที่แข็งแกร่งเป็นอันดับต้นๆของโลกแห่งการบ่มเพาะ.

เพลิงผลาญบาปยังเป็นเครื่องแสดงตัวตนถึงความดี ใครมีเพลิงผลาญบาป สามารถระบุได้ทันทีว่าเป็นคนไร้บาป!

จิวโมไป๋มองเพลิงผลาญบาปด้วยดวงตาเป็นประกายอย่างไม่อาจห้ามได้

เพลิงผลาญบาปเหมือนรับรู้ถึงความโลภเพลิงเล็กน้อยในใจของจิวโมไป๋ มันลุกไหม้ท้วมร่างของเด็กสาวอย่างรุนแรง และแผ่ขยายเข้าหาร่างของจิวโมไป๋

จิวโมไป๋ถอยร่นออกไปเล็กน้อย แต่เขาไม่รู้สึกถึงความร้อนแม้แต่น้อย มีเพียงความรู้สึกเจ็บแปลบที่จิตมารตอบสนองเพลิงผลาญบาปเท่านั้น

เด็กสาวสีแดงที่ตอนนี้กลายเป็นเด็กสาวสีขาว เธอมองจิวโมไป๋ด้วยดวงตาสีดำไร้ความรู้สึก ก่อนที่เธอจะพุ่งเข้าหาจิวโมไป๋ด้วยความรวดเร็ว เพลิงผลาญบาปพลันลุกไหม้อย่างน่าสะพรึงกลัว

“นี่…”จิวโมไป๋ยกมือขึ้นอย่างลังเล

 —

สำนักที่พูดถึง ก็คือสำนัก… เคยปรากฎในเนื้อเรื่องแล้ว

อีก 1 ตอนและเป็นตอนจบการต่อสู้ครับ ผมลงช้าหน่อยนะครับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด