ดวงตาของจิวโมไป๋เป็นประกายวูบหนึ่ง เขาจำได้ว่าในอดีตหนิงหายเป๋ย ก็ใช้ความสำเร็จเป็นคนแรกของเทคโนโลยี่สั่งการด้วยความคิด เพื่อเป็นผู้นำในด้านเทคโนโลยี่สั่งการด้วยความคิดเช่นกัน เขาทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทสตาร์ทอัพร้อนแรงที่สุดในเวลา

หนิงหานเป๋ยชี้ไปที่’อาหาร’ เป็นอย่างแรก ด้วยท่าทางตื่นเต้นเล็กน้อย

“เทคโนโลยี่สั่งการด้วยความคิด สามารถจำลอง จากของจริง ทำให้เราสามารถรู้สึกถึงการสัมผัส รับกลิ่น และลิ้มรสได้ ราวกับของจริง อาหารเสมือน จึงเป็นโอกาสในอานาคต ถ้าเราสร้างแอปพลิเคชันสำหรับทานอาหารเสมือน เพื่อให้ผู้ใช้บริการสามารถทดลองทานอาหารเสมือน สามารถเลือกอาหารที่ชอบ ทานอาหารได้หลายๆอย่างไม่ต้องกลัวปัญหาสุภาพ ถ้าถูกใจอาหารเสมือน แล้วต้องการทานจริงๆ สามารถสั่งอาหารออนไลน์ ให้มาส่ง หรือสามารถไปทานอาหารที่ร้านได้ แอปพลิเคชันอาหารเสมือนจะช่วยให้ผู้ใช้ประหยัดเวลา…”

หนิงหานเป๋ยพูดคร่าวๆ ไม่เจาะลึกถึงรายได้ เขาชี้ไปที่’อีคอมเมิร์ซ’และพูด

“ในปัจจบันตลาดอีคอมเมิร์ซของเราพึ่งเริ่ม ผู้คนไม่ค่อยซื้อสินค้าทางออนไลน์ เพราะไม่มั่นใจในคุณภาพสินค้า แต่ด้วยเทคโนโลยี่สั่งการด้วยความคิด เราสามารถจับสินค้าและทดลองอย่างง่ายๆ ทำให้สามารถตัดสินใจซื้อสินค้าดีหรือไม่ เมื่อผู้ซื้อมั่นใจสินค้ามากขึ้น ตลาดอีคอมเมิร์ซจะค่อยๆกลายเป็นที่นิยมมากขึ้น…”

หนิงหานเป๋ยหยุดดื่มน้ำ จากนั้นเขาก็ชี้ไปที่’โลจิสติกส์’

“เมื่อ อาหารและอีคอมเมิร์ซ มีผู้ใช้จำนวนมาก การขนส่งสินค้าจะขาดไม่ได้ ถ้าเรามีการขนส่งของตัวเอง ก็จะง่ายขึ้น เมื่อมีผู้ใช้จำนวนมาก โลจิสติกส์จะกลายเป็นกระแสในเวลาต่อมา…”

หนิงหานเป๋ยชี้ไปที่ข้อความ ‘เกมส์”ความบันเทิง’ พร้อมกัน

“เกมส์และความบันเทิง เป็นสิ่งที่ขาดไม่ได้ สำหรับโลกเสมือน แต่ปัจจุบัน ความบันเทิงได้รับความนิยมอย่างมาก ยากที่เราจะเข้าไปแย่งชิงเศษเนื้อ ผมจึงพักความบันเทิงไว้ก่อน สำหรับเกมส์ตอนนี้ก็ยังไม่ถึงเวลาเช่นกัน…”

จิวโมไป๋ที่ได้ฟังก็พยักหน้าช้าๆ เมื่อโลกเข้าสู่ยุคแห่งการบ่มเพาะพลัง พวกเขามุ่งศึกษาเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลัง ทำให้การพัฒนาของโลกเทไปทางการบ่มเพาะพลังจนหมด ทำให้มีอุตสาหกรรมบางอย่าง ที่ยังไม่พัฒนาเต็มที่

ในปัจจบันอีคอมเมิร์ซหรือการซื้อสินค้าออนไลน์กำลังค่อยๆพัฒนา แต่ก็ยังไม่เป็นที่นิยม เพราะทุกคนแทบจะใช้จ่ายเงินในการซื้อสินค้า สิ่งของเกี่ยวกับการบ่มเพาะพลังจนหมด ทำให้มีคนน้อยที่จะซื้อสินค้าฟุ่มเฟือย ไม่ต้องพูดถึงการสั่งสิ้นค้าออนไลน์ที่ไม่รู้ว่าจะถูกหลอกหรือเปล่า

การเข้าอีคอมเมิร์ซ ในตอนนี้เป็นช่วงเวลาที่ดีที่สุด ในอนาคต เมื่อเข้าสู้ยุคต่างมิติ อีคอมเมิร์ซ จะพัฒนาไปถึงระดับที่ไม่อาจจินตนาการได้ ในอดีตบริษัทอีคอมเมิร์ซของเนี่ยหายเป๋ยเป็นที่นิยมไปทั่วโลกแห่งการบ่มเพาะพลัง การซื้อขายสินค้าออนไลน์ระหว่างมิติเป็นกระแสหลัก หนิงหานเป๋ยสามารถทำเงินได้มากมายจากมัน

สายตาของจิวโมไป๋มองไปที่ความบันเทิง

ในอนาคต วัฒนธรรมความบันเทิงกลายเป็นที่นิยมมากกว่าเกมส์เสมือนจริง เพราะโลกแห่งการบ่มเพาะพลังมีมิติมากมาย ทำให้มีวัฒนธรรมแตกต่างกันมากมายและพวกเขาล้วนมีจุดเด่นเป็นของตัวเอง ทำให้ผู้บ่มเพาะพลังที่เข้าสู้โลกเสมือนจริง พวกเขาอยากจะทำอะไรสบายๆ ไม่อยากเล่นเกมส์ พวกเขาส่วนใหญ่จะเข้าไปดูภาพยนตร์ หรือสื่อบันเทิงของมิติต่างๆ

อีคอมเมิร์ซและความบันเทิง กลายเป็นกระแสหลักในอนาคต มูลค่าไม่สามารถประมาณได้

เขาไม่มีทางพลาดอย่างแน่นอน

หนิงหานเป๋ยพูดอธิบายแผนการพัฒนาบริษัทอย่างเมามัน เวลาผ่านไป 30 นาที จึงหยุด

“พี่หนิง พี่ต้องใช้เงินเท่าไหร่ในการทำตามแผนที่พี่วางเอาไว้”จิวโมไป๋ถาม

หนิงหานเป๋ยลูบหัวด้วยความอาย ก่อนจะกัดฟันพูด

“ผมได้สร้างแอพพลิเคชั่นอย่างง่ายๆเสร็จแล้ว เมื่อกำไลข้อมือNL1ออกตลาด มูลค่าของบริษัทเราจะเพิ่มขึ้น ผมสามารถขอธนาคารเพื่อกู้เงินได้ มาพัฒนาตามแผน”

จิวโมไป๋เปิดกำไลข้อมือดูยอดเงินที่ขายสูตรโอสถ เขาเงยหน้าขึ้นหันมามองหนิงหานเป่ย

“2 พันล้านเครดิตพอไหม”

จิวโมเทียนและฮันหวูเหยาตกใจ

หนิงหานเป๋ยอึ้ง 2 พันล้านเครดิตไม่ใช่จำนวนน้อยๆ

“ลูกเอาเงินมาจากไหนตั้งมากมาย?”ฮันหวูเหยาอดไม่ได้ที่จะถาม เธอและสามีสงสัยมาก่อนหน้าแล้ว ว่าถูกชายหาเงินจำนวนมากมาจากไหน แต่เธอไม่ถาม แต่ครั้งนี้มันอดไม่ได้จริงๆ 2 พันล้านเครดิตเป็นจำนวนมหาศาล

“ผมใช้สิทธิ์กู้ยืม โดยใช้หน่วยงานเป็นหลักคำประกัน”จิวโมไป๋พูดโกหก ซึ้งจิวโมเทียนและฮันหวูเหยาก็ไม่เชื่อคำตอบของจิวโมไป๋ แต่พวกเขาไม่ถามอีก

หนิงหานเป๋ยในตอนนี้ตื่นเต็นอย่างมาก เงิน 2 พันล้านเครดิตสามารถทำอะไรได้มากมาย

“พี่หนิ่งเงิน 2 พันล้านเครดิต ผมจะแบ่ง 500 ล้านเครดิตสร้างทีมขนส่งโลจิสติกส์ ให้ครอบคุมทั้งประเทศ อีก 500 ล้านเครดิต ซื้อบริษัทภาพยนตร์ศิลปะและบริษัทภาพยนตร์ที่มีเนื้อหาเกี่ยวข้องกับวัฒธรรมต่างๆทั่วโลก เน้นบริษัทที่มีลิขสิทธิ์ภารยนต์จำนวนมาก…”

หนิงหานเป๋ยจดที่จิวโมไป๋สั่งอย่างแข็งขัน เขาไม่ถามว่าทำไมจิวโมไป๋ถึงให้ทำอย่างนั้น เขาทำตามโดยไม่โต้แย้ง

จิวโมไป๋พยักหน้าโอนเงิน 2 พันล้านเครดิตไปทันที

จิวโมเทียนและฮันหวูเหยาอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ

พวกเขาพูดคุยเกี่ยวกับบริษัทอีกพักใหญ่ จิวโมไป๋ จิวโมเทียนและฮันหวูเหยาก็ลาหนิงหานเป๋ยกลับบ้าน

ก่อนที่จิวโมไป๋จะออกเดินทางไปเมืองเทียนจิน เขาได้บอกถึง สำนักงานที่เขาสร้างที่หมู่บ้านใบไม้ร่วง จิวโมเทียนและฮันหวูเหยาประหลาดใจอีกครั้ง พวกเขาก็ไม่ถามอะไรอีก

จิวโมไป๋ออกจากบ้านเดินไปตามถนน

วูบ

ฟงอี้เฟยปรากฏตัวด้านหลังของจิวโมไป๋ ตอนนี้ฟงอี้เฟยใส่ชุดสูทสีดำ สวมแว่นดาสีดำเหมือนกับบอดี้การ์ด หลังของเขาสะพายกล่องสีดำยาว ด้านในเป็นดาบประจำตัว