ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 114 ขอพี่โม่ให้ฉันเถอะ

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 114 ขอพี่โม่ให้ฉันเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 114
ขอพี่โม่ให้ฉันเถอะ

มู่หรงเสวี่ยถืออาหารที่ทำมาเดินตรงไปที่ห้องทำงานของชางกวนโม่ ตลอดทางไม่มีใครเข้ามาขวางเลยดูเหมือนว่า ชางกวนโม่จะสั่งไว้แล้ว

เธอเปิดประตูห้องทำงานของชางกวนโม่อย่างอารมณ์ดี “พี่โม่ ฉันมาแล้ว…” แต่แล้วรอยยิ้มของเธอก็ต้องนิ่งไปชั่วขณะ

เมื่อเธอเห็นไป๋เสวี่ยหลี่กำลังยืนกอดแขนชางกวนโม่อย่างน่าสงสาร น้ำตาของเธอนองหน้าซึ่งทำให้คนที่เห็นรู้สึกสงสาร ระหว่างที่ชางกวนโม่มองไปที่ไป๋เสวี่ยหลี่ด้วยความสงสารในสายตา เธออยากที่จะหันหลังแล้วเดินออกมาทันทีแต่แล้วก็คิดได้ว่าเธอจะต้องเดินหน้าโดยไม่หันหลังกลับ

ชางกวนโม่รีบดึงมือไป๋เสวี่ยหลี่ออกพร้อมลุกขึ้นอธิบาย “เสี่ยวเสวี่ย ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ…”
มู่หรงเสวี่ยดึงรอยยิ้มอย่างไม่เต็มใจเท่าไร “ฉันคิดอะไรเหรอคะ?! คุณหิวไหม ฉันเอาอาหารมาให้ค่ะ…”

เขาเดินตรงมาโอบเอวมู่หรงเสวี่ยพร้อมรับกล่องข้าวในมือของเธอ “ฉันหิวมากเลย เสวี่ยหลี่เธอกลับไปก่อนนะ!” แล้วเขาก็หันกลับไปพูดกับไป๋เสวี่ยหลี่ที่กำลังยืนอยู่อีกด้าน

“พี่โม่ เกลียดพี่ที่สุด!” ไป๋เสวี่ยหลี่พูดเสียงดังพร้อมทั้งปิดหน้าตัวเองแล้ววิ่งออกไป พวกเขาทั้งสองคืนดีกันแล้ว เธอต้องทำยังไงดี

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ชางกวนโม่ พูดตามตรงในใจเธอไม่ได้รู้สึกดีเท่าไร ตราบใดที่เธอยังเห็นไป๋เสวี่ยหลี่ หัวใจของเธอเจ็บปวดแล้วหวนนึกถึงภาพที่พวกเขากำลังกอดกัน

“เสี่ยวเสวี่ย อย่ามองฉันแบบนี้สิ…” ความผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้ทำร้ายคนทั้งสาม หัวใจของเขาตำหนิตัวเองที่สุด เขาทนคำตำหนิของมู่หรงเสวี่ยไม่ได้ เขาปล่อยเธอไปไม่ได้แต่ก็เข้าใจว่าความเจ็บปวดไม่ใช่มีเพียงเธอคนเดียว บางทีชางกวนโม่อาจจะเป็นคนที่อึดอัดมากว่าเธอ ยังไงซะนั่นก็น้องสาวของเขา ใช่ไหม? หัวใจเธออ่อนลงอย่างมาก “กินเถอะ คุณหิวไม่ใช่เหรอ? ฉันหิวแล้ว…” เธอพูดอย่างเอียงอาย

ชางกวนโม่เผยรอยยิ้มเอาแต่ใจ “เธอป้อนฉันสิ…” เขาจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง

“ถ้าอยากจะกินก็กินเองสิ…”
“ถ้าเธอไม่ป้อนฉันก็จะไม่กิน…”
“ถ้าคุณไม่กิน ฉันจะตีคุณนะ”
“อย่าตีฉันนะ…”
“…”
หลังจากทานอาหารเสร็จ ทั้งสองก็หัวเราะกันเสียงดัง ไม่มีใครอยากที่จะพูดถึงเรื่องของไป๋เสวี่ยหลี่เมื่อกี้ ไม่มีใครอยากที่จะดึงขวากหนามขึ้นมา

เมื่อกลับมาที่คฤหาสน์ ไป๋เสวี่ยหลี่ทำลายข้าวของทุกอย่างในบ้านแต่ก็ความรู้สึกเจ็บและไม่พอใจก็ยังไม่หายไปจากใจ มู่หรงเสวี่ย ในโลกนี้มีผู้ชายตั้งมากมาย ทำไมต้องมาขโมยคนที่เธอรักไปด้วย
ในเวลานี้ร่างกายของเธอสั่นไปหมดและวิธีมากมายแวบขึ้นมาในใจ วิธีที่สำคัญที่สุดคือต้องทำให้มู่หรงเสวี่ยหายไปจากโลกนี้ซะ อย่างไรก็ตามเธอไม่กล้าที่จะเสี่ยง ด้วยอำนาจของพี่โม่แล้วจะต้องเจอร่องรอยแน่ๆ ถึงแม้เธอจะทำแบบไร้ร่องรอยก็เถอะ เธอก็ยังกังวลอยู่ดี เธอจะไม่ยอมเสี่ยงนอกจากจะถูกบังคับให้ทำจริงๆ เธอจะทำยังไงดี?! จะทำยังไงดี?! เธอประเมินสถานะของ มู่หรงเสวี่ยในใจพี่โม่ต่ำไป แต่เธอไม่คิดว่าพี่โม่จะทำกับเธอแบบนี้

ในตอนเย็น มู่หรงเสวี่ยที่กลับมาที่วิลล่าได้รับโทรศัพท์จากไป๋เสวี่ยหลี่

“เสี่ยวเสวี่ย ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม?”
มู่หรงเสวี่ยคิดว่าระหว่างพวกเธอไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันอีก ก็ไปเจอกันก็มีแต่จะสร้างความลำบากใจเปล่าๆแต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ “โอเค!”

ทั้งสองมาเจอกันที่คาเฟ่ในห้องที่จองแยกไว้ เมื่อ มู่หรงเสวี่ยมาถึง ไป๋เสวี่ยหลี่ก็นั่งรอเธออยู่แล้ว ใบหน้าเธอยังดูละเอียดราวกับตุ๊กตา ดวงตาเธอแดงระเรื่อดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะร้องไห้มา พูดตามตรงเธอไม่อยากที่จะมีเรื่องกับเธอเลยจริงๆ ผู้หญิงคนนี้คนจะได้เป็นที่รักของคนมากมายไม่ใช่ต้องมาเศร้าโศกร้องไห้แบบนี้

มันน่าเสียดายที่เรื่องเป็นแบบนี้ เธออยากที่จะปฏิบัติกับเธอเหมือนน้องสาว ก่อนหน้านั้นเธอโชคดีมากที่คิดว่าพวกเขาจะเป็นแค่พี่ชายและน้องสาว อย่างไรก็ตามเรื่องคืนนั้นทำลายฝันของเธออย่างสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าไป๋เสวี่ยหลี่รักชางกวนโม่และเธอเกรงว่าเธอจะไม่ได้รักเขาน้อยลงเลย

มู่หรงเสวี่ยนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของไป๋เสวี่ยหลี่ พร้อมพูดออกมาเสียงเบา “ไม่รู้ว่าเธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน?”

“เสี่ยวเสวี่ย เธอเกลียดฉันใช่ไหม?” น้ำตาของไป๋เสวี่ยหลี่ร่วงลงมา มองตรงมาหามู่หรงเสวี่ยด้วยความเจ็บปวด

เกลียดเธองั้นเหรอ?! ถึงแม้เธอจะไม่ชอบความรู้สึกสับสนในหัวใจแต่เธอก็ไม่ได้เกลียด เธอไม่ได้ใจกว้างพอที่จะใจดีกับคู่แข่งของเธอ “ไม่รู้สิ แต่ฉันก็ไม่ชอบอยู่ดี!”

“จริงเหรอ?! ฉันไม่ชอบเธอหรืออาจจะเกลียดเลยด้วยซ้ำ ฉันเกลียดเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเธอแล้ว เธอรู้ไหมว่าพี่โม่เป็นหนึ่งเดียวของฉัน แล้วเธอมาพรากกำลังใจเดียวในชีวิตของฉันไปได้ยังไง ถ้าไม่มีพี่โม่ ฉันก็อยู่ไม่ได้…” น้ำตาของเธอไหลลงมา

มู่หรงเสวี่ยตกใจ ในหัวใจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ในตอนนี้ ไป๋เสวี่ยหลี่เหมือนกับเธอในชีวิตที่แล้ว ตอนที่เสี่ยวเข่อลี่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอพร้อมมือที่จับอยู่กับฟางฉีฮัว เธอแทบจะล้มทั้งยืน เธอตรงเข้าไปดึงพวกเขาแยกออกจากกัน ตรงกันข้ามฟางฉีฮัวตบเธออย่างแรงจนล้มลงไปกับพื้น คนทั้งสองอยู่ด้วยกันและไม่สนใจเธอเลยสักนิด

ทันใดนั้นไป๋เสวี่ยหลี่ก็คุกเข่าลงตรงหน้ามู่หรงเสวี่ย “เสี่ยวเสวี่ย ฉันขอร้องละนะ…ฉันขอให้เธอคืนพี่โม่ให้ฉัน…ฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ ตราบใดที่เธอยกพี่โม่คืนให้ฉัน…”

มู่หรงเสวี่ยตัวแข็ง หัวใจรู้สึกเจ็บจนแทบหายใจไม่ออก เธอเองก็คุกเข่าลงกับพื้น “เสวี่ยหลี่ ฉันรักเขา…ฉันทิ้งเขาไม่ได้…ฉันขอโทษด้วย…”
“เธอรักเขางั้นเหรอ?” เธอถาม?! “เธอรักอะไรในตัวเขา…เธอรู้นิสัยประจำวันเขาหรือเปล่า…เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาชอบกินอะไรที่สุด…เธอรู้หรือเปล่าว่าเวลาที่เขาหัวเราะเขาเหมือนกับเด็กๆเลย…รู้หรือเปล่า…” เธอเฝ้ามองเขามามากกว่าสิบปีโดยไม่มีใครเข้ามายุ่ง

มู่หรงเสวี่ยตะลึงและคิดอยู่สักพัก เธอไม่รู้จริงๆว่า ชางกวนโม่ชอบอะไร ทุกครั้งที่เธอทำอาหาร เธอจะถามเขาว่าชอบกินอะไร เขาก็จะตอบว่าตราบใดที่เธอเป็นคนทำเขาก็ชอบหมด แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่รู้เลยว่าเขาชอบอะไร ในทุกๆวันท่าทางของเขาตรงหน้าเธอก็เหมือนกันคือทำแต่งานและบางครั้งก็ทำตัวเป็นอันธพาล

มู่หรงเสวี่ยอยากที่จะพูดว่าเธอรู้เรื่องนี้ดีแต่เธอกลับอธิบายนิสัยของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชอบสีอะไร
“เธอไม่รู้ใช่ไหม? เธอมีผู้ชายมาล้อมรอบตั้งมากมาย ทำไมต้องมาแย่งพี่โม่ของฉันไปด้วย?” เธอพูดพร้อมนั่งยองๆลงข้างๆ มือจับหัวพร้อมร้องไห้ เห็นได้ชัดว่าเธอคือคนที่รู้จักพี่โม่ดีที่สุดแต่กลับไม่ได้หัวใจของพี่โม่
มู่หรงเสวี่ยคุกเข่าลงกับพื้น รู้สึกมึนงงไม่รู้จะเอาอะไรมาโต้กลับ “แต่ฉันรักเขาจริงๆ…” ประโยคนี้ไร้พลังไปเลย ไป๋เสวี่ยหลี่ยังคงร้องไห้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดเลย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในระหว่างที่เธอรักชางกวนโม่เธอคอยระวังตัวอยู่ตลอด ถึงแม้เธอจะสร้างกำแพงสูงในหัวใจและเหลือไว้เพียงช่องหน้าต่างเล็กๆแต่เธอก็ยังมีความสุขกับช่องหน้าต่างเล็กๆนั้น

ไป๋เสวี่ยหลี่เงยหน้าขึ้นและคุกเข่าลงตรงหน้ามู่หรงเสวี่ย “ฉันขอร้องล่ะนะ ช่วยยกพี่โม่ให้ฉันได้ไหม…ก่อนที่เธอจะเลิกกัน เธอก็นอนไม่หลับใช่ไหม? ฉันขอร้องล่ะ….ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่โม่…”

“แต่ความรักไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แล้วจะยกให้กันง่ายๆได้ยังไง?” เธอไม่ได้มีชีวิตที่ดีแต่เธอก็ไม่อยากที่จะต้องเห็นด้านมืดของตัวเอง ระหว่างทศวรรษที่เธออยู่ในมิติลับ ถ้าเธอไม่คิดถึงพ่อแม่ตัวเอง เธอก็คิดที่จะตายไปหลายรอบแล้ว…ใครจะรู้ว่าเธอเหมือนตกนรกแค่ไหน

“ตราบใดที่เธอยอม…ฉันจะทำให้พี่โม่ตกหลุมรักฉันเอง…” ดวงตาแดงก่ำของไป๋เสวี่ยหลี่แวบประกายแห่งความหวัง
มู่หรงเสวี่ยทนไม่ได้ที่จะมองตรงๆไปที่เธอจึงหันหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย

ถึงแม้เธอจะตกใจกับความรู้สึกของไป๋เสวี่ยหลี่ เธอรู้สึกผิดและรู้สึกเศร้าแต่เธอก็ทำไม่ได้ ด้วยวิธีแบบนี้เธอจะได้ใจ ชางกวนโม่มาได้ยังไง “ขอโทษนะ ฉันทำไม่ได้…พวกเรารักกัน…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเธอรักกัน ถ้าไม่มีเธอ พี่โม่ก็จะรักฉัน เธอแย่งพี่โม่ของฉันไป…”

สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเปลี่ยนเป็นซีดขาว ไป๋เสวี่ยหลี่เพิ่งพูดถึงความกลัวในหัวใจเธอ ถ้าไม่เป็นเพราะเธอ พวกเขาสองคนก็คงจะแต่งงานมีความสุขกันไปแล้วอย่างที่เธอเคยเห็นในชีวิตที่แล้ว เป็นเธอเองหรือเปล่าที่เป็นคนผิด

“งั้นในเมื่อเธอใจร้ายแบบนี้ ฉันก็จะตาย ยังไงซะฉันก็ไม่อยากอยู่ถ้าไม่มีพี่โม่” ไป๋เสวี่ยหลี่ทุบแก้วที่ตั้งโชว์อยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็วและรีบเอามากรีดที่ข้อมือซึ่งเมื่อหันไปมองก็มีแต่เลือดสีแดงเต็มไปหมด
มู่หรงเสวี่ยไม่ทันที่จะได้ห้าม เธอรีบหยิบเข็มทองคำและยาออกมาจากมิติลับ ในเวลานี้เธอไม่สนใจที่จะซ่อนมิติลับของเธอแล้ว ไป๋เสวี่ยหลี่เห็นไม่ชัดเพราะเสียเลือดไปมาก เธอหยิบยาออกมาต่อหน้าต่อตาเธอ เธอขัดขืนอย่างอ่อนแรงและแผนของเธอจะต้องไม่พังเพราะการรักษาของเธอ

คนข้างนอกต่างก็แตกตื่นเพราะเสียงกรีดร้องของ มู่หรงเสวี่ย มู่หรงเสวี่ยรีบพูดอย่างรวดเร็ว “เร็ว รีบโทรเรียกรถพยาบาลที!” คนที่เข้ามาตกใจมากแต่ก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรเรียกรถพยาบาล

มู่หรงเสวี่ยกำลังวุ่นอยู่กับเข็มทองคำที่กำลังฝังลงไปที่ข้อมือเธอเพื่อกันเธอจากการเสียเลือดมากเกินไป ระหว่างนั้นก็หยิบยาที่เธอพัฒนาออกมาเพื่อช่วยปิดปากแผล แต่เพราะเสียเลือดไปเยอะมือที่กำลังขัดขืนของไป๋เสวี่ยหลี่จึงอ่อนแรงอย่างมากและสติของเธอก็เริ่มที่จะรางเลือน ในวินาทีที่เธอสลบไป สิ่งที่เธอคิดคือเธอลืมเรื่องทักษะทางการแพทย์ของมู่หรงเสวี่ยไป เธอคิดพลาดเอง

ตอนที่รถพยาบาลมาถึง มู่หรงเสวี่ยก็ห้ามเลือดให้ ไป๋เสวี่ยหลี่ได้แล้ว เธอโทรไปบอกชางกวนโม่คนที่ควรจะรู้เรื่องนี้ที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 114 ขอพี่โม่ให้ฉันเถอะ

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 114 ขอพี่โม่ให้ฉันเถอะ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 114
ขอพี่โม่ให้ฉันเถอะ

มู่หรงเสวี่ยถืออาหารที่ทำมาเดินตรงไปที่ห้องทำงานของชางกวนโม่ ตลอดทางไม่มีใครเข้ามาขวางเลยดูเหมือนว่า ชางกวนโม่จะสั่งไว้แล้ว

เธอเปิดประตูห้องทำงานของชางกวนโม่อย่างอารมณ์ดี “พี่โม่ ฉันมาแล้ว…” แต่แล้วรอยยิ้มของเธอก็ต้องนิ่งไปชั่วขณะ

เมื่อเธอเห็นไป๋เสวี่ยหลี่กำลังยืนกอดแขนชางกวนโม่อย่างน่าสงสาร น้ำตาของเธอนองหน้าซึ่งทำให้คนที่เห็นรู้สึกสงสาร ระหว่างที่ชางกวนโม่มองไปที่ไป๋เสวี่ยหลี่ด้วยความสงสารในสายตา เธออยากที่จะหันหลังแล้วเดินออกมาทันทีแต่แล้วก็คิดได้ว่าเธอจะต้องเดินหน้าโดยไม่หันหลังกลับ

ชางกวนโม่รีบดึงมือไป๋เสวี่ยหลี่ออกพร้อมลุกขึ้นอธิบาย “เสี่ยวเสวี่ย ไม่ใช่อย่างที่เธอคิดนะ…”
มู่หรงเสวี่ยดึงรอยยิ้มอย่างไม่เต็มใจเท่าไร “ฉันคิดอะไรเหรอคะ?! คุณหิวไหม ฉันเอาอาหารมาให้ค่ะ…”

เขาเดินตรงมาโอบเอวมู่หรงเสวี่ยพร้อมรับกล่องข้าวในมือของเธอ “ฉันหิวมากเลย เสวี่ยหลี่เธอกลับไปก่อนนะ!” แล้วเขาก็หันกลับไปพูดกับไป๋เสวี่ยหลี่ที่กำลังยืนอยู่อีกด้าน

“พี่โม่ เกลียดพี่ที่สุด!” ไป๋เสวี่ยหลี่พูดเสียงดังพร้อมทั้งปิดหน้าตัวเองแล้ววิ่งออกไป พวกเขาทั้งสองคืนดีกันแล้ว เธอต้องทำยังไงดี

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่ชางกวนโม่ พูดตามตรงในใจเธอไม่ได้รู้สึกดีเท่าไร ตราบใดที่เธอยังเห็นไป๋เสวี่ยหลี่ หัวใจของเธอเจ็บปวดแล้วหวนนึกถึงภาพที่พวกเขากำลังกอดกัน

“เสี่ยวเสวี่ย อย่ามองฉันแบบนี้สิ…” ความผิดพลาดที่แก้ไขไม่ได้ทำร้ายคนทั้งสาม หัวใจของเขาตำหนิตัวเองที่สุด เขาทนคำตำหนิของมู่หรงเสวี่ยไม่ได้ เขาปล่อยเธอไปไม่ได้แต่ก็เข้าใจว่าความเจ็บปวดไม่ใช่มีเพียงเธอคนเดียว บางทีชางกวนโม่อาจจะเป็นคนที่อึดอัดมากว่าเธอ ยังไงซะนั่นก็น้องสาวของเขา ใช่ไหม? หัวใจเธออ่อนลงอย่างมาก “กินเถอะ คุณหิวไม่ใช่เหรอ? ฉันหิวแล้ว…” เธอพูดอย่างเอียงอาย

ชางกวนโม่เผยรอยยิ้มเอาแต่ใจ “เธอป้อนฉันสิ…” เขาจะไม่ทำให้เธอผิดหวัง

“ถ้าอยากจะกินก็กินเองสิ…”
“ถ้าเธอไม่ป้อนฉันก็จะไม่กิน…”
“ถ้าคุณไม่กิน ฉันจะตีคุณนะ”
“อย่าตีฉันนะ…”
“…”
หลังจากทานอาหารเสร็จ ทั้งสองก็หัวเราะกันเสียงดัง ไม่มีใครอยากที่จะพูดถึงเรื่องของไป๋เสวี่ยหลี่เมื่อกี้ ไม่มีใครอยากที่จะดึงขวากหนามขึ้นมา

เมื่อกลับมาที่คฤหาสน์ ไป๋เสวี่ยหลี่ทำลายข้าวของทุกอย่างในบ้านแต่ก็ความรู้สึกเจ็บและไม่พอใจก็ยังไม่หายไปจากใจ มู่หรงเสวี่ย ในโลกนี้มีผู้ชายตั้งมากมาย ทำไมต้องมาขโมยคนที่เธอรักไปด้วย
ในเวลานี้ร่างกายของเธอสั่นไปหมดและวิธีมากมายแวบขึ้นมาในใจ วิธีที่สำคัญที่สุดคือต้องทำให้มู่หรงเสวี่ยหายไปจากโลกนี้ซะ อย่างไรก็ตามเธอไม่กล้าที่จะเสี่ยง ด้วยอำนาจของพี่โม่แล้วจะต้องเจอร่องรอยแน่ๆ ถึงแม้เธอจะทำแบบไร้ร่องรอยก็เถอะ เธอก็ยังกังวลอยู่ดี เธอจะไม่ยอมเสี่ยงนอกจากจะถูกบังคับให้ทำจริงๆ เธอจะทำยังไงดี?! จะทำยังไงดี?! เธอประเมินสถานะของ มู่หรงเสวี่ยในใจพี่โม่ต่ำไป แต่เธอไม่คิดว่าพี่โม่จะทำกับเธอแบบนี้

ในตอนเย็น มู่หรงเสวี่ยที่กลับมาที่วิลล่าได้รับโทรศัพท์จากไป๋เสวี่ยหลี่

“เสี่ยวเสวี่ย ออกมาคุยกันหน่อยได้ไหม?”
มู่หรงเสวี่ยคิดว่าระหว่างพวกเธอไม่มีอะไรที่จะต้องคุยกันอีก ก็ไปเจอกันก็มีแต่จะสร้างความลำบากใจเปล่าๆแต่เธอก็ปฏิเสธไม่ได้ “โอเค!”

ทั้งสองมาเจอกันที่คาเฟ่ในห้องที่จองแยกไว้ เมื่อ มู่หรงเสวี่ยมาถึง ไป๋เสวี่ยหลี่ก็นั่งรอเธออยู่แล้ว ใบหน้าเธอยังดูละเอียดราวกับตุ๊กตา ดวงตาเธอแดงระเรื่อดูเหมือนว่าเธอเพิ่งจะร้องไห้มา พูดตามตรงเธอไม่อยากที่จะมีเรื่องกับเธอเลยจริงๆ ผู้หญิงคนนี้คนจะได้เป็นที่รักของคนมากมายไม่ใช่ต้องมาเศร้าโศกร้องไห้แบบนี้

มันน่าเสียดายที่เรื่องเป็นแบบนี้ เธออยากที่จะปฏิบัติกับเธอเหมือนน้องสาว ก่อนหน้านั้นเธอโชคดีมากที่คิดว่าพวกเขาจะเป็นแค่พี่ชายและน้องสาว อย่างไรก็ตามเรื่องคืนนั้นทำลายฝันของเธออย่างสิ้นเชิง เห็นได้ชัดว่าไป๋เสวี่ยหลี่รักชางกวนโม่และเธอเกรงว่าเธอจะไม่ได้รักเขาน้อยลงเลย

มู่หรงเสวี่ยนั่งลงที่ฝั่งตรงข้ามของไป๋เสวี่ยหลี่ พร้อมพูดออกมาเสียงเบา “ไม่รู้ว่าเธอมีเรื่องอะไรจะคุยกับฉัน?”

“เสี่ยวเสวี่ย เธอเกลียดฉันใช่ไหม?” น้ำตาของไป๋เสวี่ยหลี่ร่วงลงมา มองตรงมาหามู่หรงเสวี่ยด้วยความเจ็บปวด

เกลียดเธองั้นเหรอ?! ถึงแม้เธอจะไม่ชอบความรู้สึกสับสนในหัวใจแต่เธอก็ไม่ได้เกลียด เธอไม่ได้ใจกว้างพอที่จะใจดีกับคู่แข่งของเธอ “ไม่รู้สิ แต่ฉันก็ไม่ชอบอยู่ดี!”

“จริงเหรอ?! ฉันไม่ชอบเธอหรืออาจจะเกลียดเลยด้วยซ้ำ ฉันเกลียดเธอตั้งแต่ครั้งแรกที่เห็นเธอแล้ว เธอรู้ไหมว่าพี่โม่เป็นหนึ่งเดียวของฉัน แล้วเธอมาพรากกำลังใจเดียวในชีวิตของฉันไปได้ยังไง ถ้าไม่มีพี่โม่ ฉันก็อยู่ไม่ได้…” น้ำตาของเธอไหลลงมา

มู่หรงเสวี่ยตกใจ ในหัวใจรู้สึกอึดอัดเล็กน้อย ในตอนนี้ ไป๋เสวี่ยหลี่เหมือนกับเธอในชีวิตที่แล้ว ตอนที่เสี่ยวเข่อลี่ปรากฏตัวต่อหน้าเธอพร้อมมือที่จับอยู่กับฟางฉีฮัว เธอแทบจะล้มทั้งยืน เธอตรงเข้าไปดึงพวกเขาแยกออกจากกัน ตรงกันข้ามฟางฉีฮัวตบเธออย่างแรงจนล้มลงไปกับพื้น คนทั้งสองอยู่ด้วยกันและไม่สนใจเธอเลยสักนิด

ทันใดนั้นไป๋เสวี่ยหลี่ก็คุกเข่าลงตรงหน้ามู่หรงเสวี่ย “เสี่ยวเสวี่ย ฉันขอร้องละนะ…ฉันขอให้เธอคืนพี่โม่ให้ฉัน…ฉันจะให้ทุกอย่างที่เธอต้องการ ตราบใดที่เธอยกพี่โม่คืนให้ฉัน…”

มู่หรงเสวี่ยตัวแข็ง หัวใจรู้สึกเจ็บจนแทบหายใจไม่ออก เธอเองก็คุกเข่าลงกับพื้น “เสวี่ยหลี่ ฉันรักเขา…ฉันทิ้งเขาไม่ได้…ฉันขอโทษด้วย…”
“เธอรักเขางั้นเหรอ?” เธอถาม?! “เธอรักอะไรในตัวเขา…เธอรู้นิสัยประจำวันเขาหรือเปล่า…เธอรู้หรือเปล่าว่าเขาชอบกินอะไรที่สุด…เธอรู้หรือเปล่าว่าเวลาที่เขาหัวเราะเขาเหมือนกับเด็กๆเลย…รู้หรือเปล่า…” เธอเฝ้ามองเขามามากกว่าสิบปีโดยไม่มีใครเข้ามายุ่ง

มู่หรงเสวี่ยตะลึงและคิดอยู่สักพัก เธอไม่รู้จริงๆว่า ชางกวนโม่ชอบอะไร ทุกครั้งที่เธอทำอาหาร เธอจะถามเขาว่าชอบกินอะไร เขาก็จะตอบว่าตราบใดที่เธอเป็นคนทำเขาก็ชอบหมด แต่สุดท้ายแล้วเธอก็ไม่รู้เลยว่าเขาชอบอะไร ในทุกๆวันท่าทางของเขาตรงหน้าเธอก็เหมือนกันคือทำแต่งานและบางครั้งก็ทำตัวเป็นอันธพาล

มู่หรงเสวี่ยอยากที่จะพูดว่าเธอรู้เรื่องนี้ดีแต่เธอกลับอธิบายนิสัยของเขาไม่ได้ด้วยซ้ำ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาชอบสีอะไร
“เธอไม่รู้ใช่ไหม? เธอมีผู้ชายมาล้อมรอบตั้งมากมาย ทำไมต้องมาแย่งพี่โม่ของฉันไปด้วย?” เธอพูดพร้อมนั่งยองๆลงข้างๆ มือจับหัวพร้อมร้องไห้ เห็นได้ชัดว่าเธอคือคนที่รู้จักพี่โม่ดีที่สุดแต่กลับไม่ได้หัวใจของพี่โม่
มู่หรงเสวี่ยคุกเข่าลงกับพื้น รู้สึกมึนงงไม่รู้จะเอาอะไรมาโต้กลับ “แต่ฉันรักเขาจริงๆ…” ประโยคนี้ไร้พลังไปเลย ไป๋เสวี่ยหลี่ยังคงร้องไห้ ดูเหมือนว่าเธอจะไม่สนใจสิ่งที่เธอพูดเลย ปฏิเสธไม่ได้เลยว่าในระหว่างที่เธอรักชางกวนโม่เธอคอยระวังตัวอยู่ตลอด ถึงแม้เธอจะสร้างกำแพงสูงในหัวใจและเหลือไว้เพียงช่องหน้าต่างเล็กๆแต่เธอก็ยังมีความสุขกับช่องหน้าต่างเล็กๆนั้น

ไป๋เสวี่ยหลี่เงยหน้าขึ้นและคุกเข่าลงตรงหน้ามู่หรงเสวี่ย “ฉันขอร้องล่ะนะ ช่วยยกพี่โม่ให้ฉันได้ไหม…ก่อนที่เธอจะเลิกกัน เธอก็นอนไม่หลับใช่ไหม? ฉันขอร้องล่ะ….ฉันอยู่ไม่ได้ถ้าไม่มีพี่โม่…”

“แต่ความรักไม่ใช่เรื่องธุรกิจ แล้วจะยกให้กันง่ายๆได้ยังไง?” เธอไม่ได้มีชีวิตที่ดีแต่เธอก็ไม่อยากที่จะต้องเห็นด้านมืดของตัวเอง ระหว่างทศวรรษที่เธออยู่ในมิติลับ ถ้าเธอไม่คิดถึงพ่อแม่ตัวเอง เธอก็คิดที่จะตายไปหลายรอบแล้ว…ใครจะรู้ว่าเธอเหมือนตกนรกแค่ไหน

“ตราบใดที่เธอยอม…ฉันจะทำให้พี่โม่ตกหลุมรักฉันเอง…” ดวงตาแดงก่ำของไป๋เสวี่ยหลี่แวบประกายแห่งความหวัง
มู่หรงเสวี่ยทนไม่ได้ที่จะมองตรงๆไปที่เธอจึงหันหน้าไปทางอื่นเล็กน้อย

ถึงแม้เธอจะตกใจกับความรู้สึกของไป๋เสวี่ยหลี่ เธอรู้สึกผิดและรู้สึกเศร้าแต่เธอก็ทำไม่ได้ ด้วยวิธีแบบนี้เธอจะได้ใจ ชางกวนโม่มาได้ยังไง “ขอโทษนะ ฉันทำไม่ได้…พวกเรารักกัน…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า พวกเธอรักกัน ถ้าไม่มีเธอ พี่โม่ก็จะรักฉัน เธอแย่งพี่โม่ของฉันไป…”

สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยเปลี่ยนเป็นซีดขาว ไป๋เสวี่ยหลี่เพิ่งพูดถึงความกลัวในหัวใจเธอ ถ้าไม่เป็นเพราะเธอ พวกเขาสองคนก็คงจะแต่งงานมีความสุขกันไปแล้วอย่างที่เธอเคยเห็นในชีวิตที่แล้ว เป็นเธอเองหรือเปล่าที่เป็นคนผิด

“งั้นในเมื่อเธอใจร้ายแบบนี้ ฉันก็จะตาย ยังไงซะฉันก็ไม่อยากอยู่ถ้าไม่มีพี่โม่” ไป๋เสวี่ยหลี่ทุบแก้วที่ตั้งโชว์อยู่บนโต๊ะอย่างรวดเร็วและรีบเอามากรีดที่ข้อมือซึ่งเมื่อหันไปมองก็มีแต่เลือดสีแดงเต็มไปหมด
มู่หรงเสวี่ยไม่ทันที่จะได้ห้าม เธอรีบหยิบเข็มทองคำและยาออกมาจากมิติลับ ในเวลานี้เธอไม่สนใจที่จะซ่อนมิติลับของเธอแล้ว ไป๋เสวี่ยหลี่เห็นไม่ชัดเพราะเสียเลือดไปมาก เธอหยิบยาออกมาต่อหน้าต่อตาเธอ เธอขัดขืนอย่างอ่อนแรงและแผนของเธอจะต้องไม่พังเพราะการรักษาของเธอ

คนข้างนอกต่างก็แตกตื่นเพราะเสียงกรีดร้องของ มู่หรงเสวี่ย มู่หรงเสวี่ยรีบพูดอย่างรวดเร็ว “เร็ว รีบโทรเรียกรถพยาบาลที!” คนที่เข้ามาตกใจมากแต่ก็รีบหยิบโทรศัพท์ออกมาโทรเรียกรถพยาบาล

มู่หรงเสวี่ยกำลังวุ่นอยู่กับเข็มทองคำที่กำลังฝังลงไปที่ข้อมือเธอเพื่อกันเธอจากการเสียเลือดมากเกินไป ระหว่างนั้นก็หยิบยาที่เธอพัฒนาออกมาเพื่อช่วยปิดปากแผล แต่เพราะเสียเลือดไปเยอะมือที่กำลังขัดขืนของไป๋เสวี่ยหลี่จึงอ่อนแรงอย่างมากและสติของเธอก็เริ่มที่จะรางเลือน ในวินาทีที่เธอสลบไป สิ่งที่เธอคิดคือเธอลืมเรื่องทักษะทางการแพทย์ของมู่หรงเสวี่ยไป เธอคิดพลาดเอง

ตอนที่รถพยาบาลมาถึง มู่หรงเสวี่ยก็ห้ามเลือดให้ ไป๋เสวี่ยหลี่ได้แล้ว เธอโทรไปบอกชางกวนโม่คนที่ควรจะรู้เรื่องนี้ที่สุด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+