ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 177 คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 177 คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 177
คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์

ชูอี้เสิ่นเดินไปที่เดินไปที่แผนกต้อนรับของโรงแรมเพื่อถามเจ้าหน้าที่ เพราะท่าทางที่โดดเด่นของชูอี้เสิ่น เจ้าหน้าที่ที่แผนกต้อนรับจึงจำเขาได้อย่างชัดเจน เขาได้รู้ว่าเด็กสาวเป็นคนมาส่งเขาที่นี่และท่าทางน่าจะอายุประมาณ 16 เท่านั้น ความคิดแรกของชูอี้เสิ่นคือมู่หรงเสวี่ยแล้วก็เถียงกับตัวเองว่าถ้าเป็น เสี่ยวเสวี่ย เธอก็คงไม่ทิ้งเขาไว้คนเดียวแน่ๆ แถมยังพาเขามาที่โรงแรมอีกด้วยเพราะเสี่ยวเสวี่ยก็รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหนและถึงขนาดรู้ด้วยว่ากุญแจอยู่ที่ไหน

เขานึกไม่ออกจริงๆว่าใครเป็นคนพาเขามาที่นี่และสุดท้ายก็ยอมแพ้ มันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไร

ชูอี้เสิ่นออกมาจากห้องและไปที่สนามบิน ตอนที่เขาออกมาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชื่อของมู่หรงเสวี่ยที่อยู่ในโทรศัพท์ซ้ำไปซ้ำมา สุดท้ายเขาก็ขึ้นเครื่องบินไปโดยไม่ได้กดโทรออก
เขากลัวว่าถ้าได้ยินเสียงเธอเขาจะไม่อยากกลับ ดังนั้นเขาจึงรอเวลาก่อนแล้วค่อยโทรหาเธอทีหลัง ถึงแม้เขาจะคิดแบบนั้นแต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสูญเสีย หลังจากที่ได้กลับมาที่จังหวัด A ในครั้งนี้ เขาก็เพิ่งตระหนักถึงระยะห่างระหว่างตัวเองและเธอที่ชัดเจนขึ้น

ชูอี้เสิ่นกำหมัดแน่นและไม่ยอมปล่อย ถึงแม้เขาจะปล่อยวางไม่ได้แต่ก็รู้ว่าถึงแม้เขาจะทำได้เพียงแค่ดูแลเธออยู่เบื้องข้างหลังไปตลอดชีวิต เขาก็จะไม่เสียใจ ความคิดนี้ทำให้เขาผ่อนคลายลงมาก ตราบใดที่เขาได้อยู่กับเธอ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเขาก็ยอม ถึงแม้จะเป็นได้แค่เพื่อนก็ตาม

ในตอนเย็น ฮวงฟูอี้ขับรถมาที่อะพาร์ตเมนต์ของ มู่หรงเสวี่ยอีกครั้ง เขาเดินขึ้นไปข้างบนและกดกริ่งที่ประตู เวลาผ่านไปนานก็ไม่มีใครมาเปิดที่ประตู ฮวงฟูอี้ขมวดคิ้วและโทรหาหลงอี้เพื่อออกคำสั่ง

เวลาไม่ถึง 10 นาที หลงอี้ก็เดินมาพร้อมกุญแจ อพาร์ทเม้นท์ของมู่หรงเสวี่ย ฮวงฟูอี้รับกุญแจมาและเปิดประตูเข้าไปทันที
“มู่หรงเสวี่ย?!” เขารีบเข้าไปและร้องเรียก
ฮวงฟูอี้เดินเข้าไปในห้องด้านในทันทีและพูดกับหลงอี้ที่เดินตามเขามา “นายอยู่นี่ ไม่ต้องตามฉันมา…”

หลงอี้ยืนอยู่ที่เดิมพร้อมด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม เขาไม่รู้ว่าทำไมดราก้อนมาสเตอร์ถึงต้องคลั่งขนาดนี้ อย่างไรก็ตามช่วงสองวันที่ผ่านมานี้เขาได้เห็นท่าทางที่ไม่ปกติของดราก้อนมาสเตอร์มาแล้ว และวันนี้ดราก้อนมาสเตอร์ก็ยังมาถามเขาอีกว่าทำไมอยู่ดีๆผู้หญิงถึงได้มีท่าทางที่เปลี่ยนไปกลายเป็นเย็นชาขึ้นมา ในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจ เขารู้ดีว่าทำไมอยู่ดีๆผู้หญิงถึงได้เปลี่ยนไปแต่เขาก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิง เขาไม่กล้าที่จะตอบดราก้อนมาสเตอร์ออกไปแบบนั้นดังนั้นเขาจึงยอมไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับผู้หญิงกองโตเพื่อหาคำตอบเรื่องนี้

ดราก้อนมาสเตอร์ที่ต้องการคำตอบไม่พอใจเลยสักนิด เขาเพียงแค่มองมาที่เขาด้วยสายตารังเกียจ จากสายตาของดราก้อนมาสเตอร์ เห็นได้ชัดว่าเขาสงสัยในเรื่องความสามารถของเขา เขารู้สึกอยากจะร้องไห้และแทบจะเป็นลมในห้องน้ำ ปัญหาเล็กน้อยเรื่องผู้หญิงกลายเป็นมาตรฐานในการวัดความสามารถของเขาไปแล้ว
เขารู้สึกขมขื่นหัวใจแต่ก็ไม่พูดออกมา! นี่เป็นสิ่งที่หลงอี้คิดในหลายวันที่ผ่านมานี้

ฮวงฟูอี้เปิดประตูห้องมู่หรงเสวี่ยและเห็นว่ากระเป๋าถือเธอยังวางอยู่บนเตียงและแม้แต่โทรศัพท์เธอก็ยังอยู่บนเตียงด้วย ที่หน้าจอมีสายโทรเข้าของเขาที่เพิ่งโทรเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน เขาบอกให้คนไปดูที่บ้านของมู่หรงด้วย มู่หรงเสวี่ยไม่ได้อยู่ที่บ้าน งั้นเธอหายไปไหน ฮวงฟูอี้วางกระเป๋าเธอลงและเดินไปหาที่ห้องอื่น แต่ก็ยังไม่เจอใคร แล้วสีหน้าเขาก็เริ่มซีดเผือดและเดินออกไป

“หลงอี้ ฉันอยากรู้ว่าเสี่ยวเสวี่ยอยู่ที่ไหน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย!” ฮวงฟูอี้พูดกับหลงอี้ที่กำลังยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางแปลกๆ

ท่าทางของฮวงฟูอี้ทำให้สีหน้าของหลงอี้เปลี่ยนไป ถึงแม้ดราก้อนมาสเตอร์จะเป็นคนที่เฉยเมยและไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง แต่เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าดราก้อนมาสเตอร์เป็นห่วงมู่หรงเสวี่ยอย่างมาก ตอนนี้คุณมู่หรงหายไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดราก้อนมาสเตอร์จะเป็นห่วงมากแค่ไหน

หลงอี้ไม่กล้าที่จะถ่วงเวลา หลังจากที่ตอบรับ เขาก็รีบวิ่งออกไปทันที เขากำลังรีบ สำหรับพวกเขามันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะหาว่าใครอยู่ที่ไหน ซึ่งใช้เวลาไม่น่าจะถึง 10 นาทีก็น่าจะได้ข่าวแล้ว เขาคิดในตอนนี้

จนกระทั่งครึ่งชั่วโมงต่อมา หลงอี้กลับมาหาฮวงฟูอี้พร้อมสีหน้าสำนึกผิด ภายใต้สายตาที่เย็นชาของดราก้อนมาสเตอร์ เขาก็พูดออกมาอย่างยากลำบาก “ดราก้อนมาสเตอร์ ผมหาตัว คุณมู่หรงไม่เจอครับ…” เขาก้มหัวและไม่กล้าที่จะมองอาการของดราก้อนมาสเตอร์ ในดราก้อนพาวิลเลี่ยน ถ้าเขาหาไม่เจอนั่นก็หมายความว่าเขาทำหน้าที่ไม่สำเร็จ สิ่งที่เขากังวลคืออำนาจของดราก้อนพาวิลเลี่ยน ทำไมเราถึงหาตัวคุณมู่หรงไม่เจอล่ะ? ยังมีอีกความเป็นไปได้หนึ่งถ้าคุณมู่หรงจะหายไปจากโลกนี้นั่นก็คือ เธอตาย

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา เขาก็รีบสลัดมันออกไปทันที ถ้าคุณมู่หรงประสบอุบัติเหตุ คงไม่มีใครทนรับความโกรธของดราก้อนมาสเตอร์ได้แน่ ที่สำคัญกว่านั้น คุณมู่หรงเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใกล้ดราก้อนมาสเตอร์ได้ในหลายปีที่ผ่านนี้ เขาไม่อยากให้ดราก้อนมาสเตอร์กลับไปเย็นชาราวกับเครื่องจักรอีก

“เสียเวลา หาต่อไปจนกว่าจะเจอ!” ฮวงฟูอี้ไม่อยากที่จะคิดถึงเรื่องอื่น เขาหวังเพียงว่าเสี่ยวเสวี่ยจะไม่เล่นซ่อนหากับเขา เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเขาเพิ่งแวบนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น

หลงอี้ไม่กล้าพูดอะไรต่อ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาตัวคุณมู่หรง เขารีบออกไปอย่างเร็ว กดโทรศัพท์และเริ่มใช้ความพยายามของเขาอย่างหนักต่อ เขาเกือบจะส่งคนทั้งหมดออกตามหา เพื่อตามหาเด็กสาวอายุ 16 คนเดียว นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เรื่องนี้สร้างความสงสัยให้คนมากมายในดราก้อนพา วิลเลี่ยนว่าเด็กสาวมู่หรงคนนี้ทำอะไรให้ดราก้อนมาสเตอร์ไม่พอใจถึงได้ต้องใช้มาตรการขั้นสูงขนาดนี้

ในระหว่างนั้นแก๊งทั้งห้าของเมืองหลวงเองก็ได้รับคำสั่งด้วยเหมือนกัน

ในตอนนี้คนทั้งห้านั่งกันอยู่ในห้องปิด มองหน้ากันและกัน แต่ละใบหน้ามีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“จะทำยังไงดี?! ทำไมน้องหกถึงไปมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่สูงสุดของดราก้อนพาวิลเลี่ยนได้?” น้องห้าพูดออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

พี่ใหญ่วางโทรศัพท์และสีหน้าก็เครียดขึ้นมาเล็กน้อย “โทรศัพท์ของน้องหกติดต่อไม่ได้ นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก…” ไม่มีใครรู้เรื่องอำนาจของดราก้อนพาวิลเลี่ยนดีไปกว่าพวกเขา ถ้าเข้าไปยุ่งกับดราก้อนพาวิลเลี่ยนก็มีทางออกเดียวคือความตายเท่านั้น

พี่สามเองก็มีสีหน้าที่จริงจัง “นี่เป็นปัญหาแล้ว ถึงแม้เราจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ออกมาแล้วและคนอื่นก็จะต้องเข้าไปยุ่งแน่ๆ…”
“น้องหกเป็นครอบครัวของเรานะ ฉันส่งเธอให้ดราก้อนพาวิลเลี่ยนไม่ได้หรอก…” น้องสี่พูด

“ใครจะทำล่ะ? เราไม่ยอมหรอก” พี่สองเปิดปากพูดแต่มือที่อยู่ที่คอมพิวเตอร์ก็ยังไม่หยุด

“เป็นไงบ้าง หาเจอไหม?” พี่ใหญ่ถามพี่สองที่กำลังจัดการกองข้อมูลมากมายในคอมพิวเตอร์

พี่สองไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาและสีหน้าของเขาก็ดูเคร่งเครียด “ฉันรู้แค่ว่าตอนนี้น้องหกอยู่ที่จังหวัด A แล้วอยู่ดีๆเธอก็หายตัวไปเฉยๆ ฉันหาร่องรอยของเธอไม่ได้เลย…” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจออะไรแบบนี้

“มันเป็นไปได้ยังไง?!! น้องหกคงไม่ได้ประสบอุบัติเหตุหรอกนะ…” น้องห้าพนมมือเข้าด้วยกันเพื่อสวดมนต์

คนที่เหลือต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
หลังจากนั้นสักพัก พี่ใหญ่ก็พูดออกมาว่า “ไปที่จังหวัด A กันเถอะ อยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ให้พวกเราเป็นคนเจอเองดีกว่าให้คนอื่นในเจอ…”

พวกเขามองหน้ากันและสุดท้ายก็ตัดสินใจมาที่จังหวัด Aกัน

มู่หรงเสวี่ยที่ตอนนี้ยังอยู่ในมิติลับไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยเพราะเรื่องเวลาในมิติลับ ตอนนี้โลกข้างนอกต้องวุ่นวายไปหมดก็เพราะเธอและพวกคนชั้นสูงมากมายจากดราก้อนพาวิลเลี่ยนต่างก็กำลังมาที่จังหวัด A

มู่หรงเสวี่ยเอาแต่อ่านหนังสือ, เรียนและค้นคว้าอยู่ในมิติลับและอีกไม่นานก็จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพอีก ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่เธอพัฒนาก่อนหน้านี้ไม่ได้เจาะจงที่เรื่องอายุ เธอไม่ได้สนใจว่าเงื่อนไขของทุกคนที่แตกต่างกันและยาที่พวกเขาควรจะได้รับก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงเกือบจะลืมเรื่องการกินและการนอนไปเลย ในการวิจัยเรื่องปัญหานี้ เธอล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงวิจัยซ้ำอีกไปเรื่อยๆ…

ฮวงฟูอี้นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางที่เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ทุกวินาทีที่ผ่านไปคือความทรมานของเขา เขาไม่เคยต้องรู้สึกตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูกเหมือนตอนนี้มาก่อนเลย เหตุผลก็เพราะการหายตัวไปของมู่หรงเสวี่ยเริ่มที่จะทำให้เขาคิดเรื่องที่เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ เขาถึงขนาดคิดเรื่องที่ว่าคนที่มุ่งร้ายในดราก้อนพาวิลเลี่ยนอาจจะรู้เรื่องมู่หรงเสวี่ยและทำร้ายเธอเพื่อที่จะโจมตีเขา ไม่งั้นคนปกติอยู่ดีๆจะหายไปแบบไร้ร่องรอยได้ยังไงกัน

ทุกครั้งที่หลงอี้รับโทรศัพท์ด้วยความหวังแต่ก็ต้องวางสายด้วยความผิดหวัง เขาแทบจะไปกล้าที่จะไปเจอหน้าดราก้อนมาสเตอร์เลย ไม่กล้าที่จะไปรายงาน จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากที่จะเชื่อว่าอำนาจของดราก้อนพาวิลเลี่ยนถดถอยไปขนาดนี้เลยเหรอ นี่เธอก็แค่คนธรรมดานะ ถึงแม้เธอจะถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านแต่ด้วยความสามารถของดราก้อนพาวิลเลี่ยนก็น่าจะหาเจอ ตอนนี้เวลาผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยนต้องเข้ามารวมในสถานการณ์แบบนี้

ไม่เพียงหลงอี้ที่ตกใจแต่สมาชิกคนอื่นๆของหลงอี้ต่างก็ประหลาดใจด้วยเหมือนกัน…ในตอนนี้สมาชิกทุกคนของดราก้อนพาวิลเลี่ยนต่างก็จำชื่อของมู่หรงเสวี่ยได้เพราะเธอเป็นคนที่นำความลำบากที่คาดไม่ถึงมาให้พวกเขา

แก๊งทั้งห้าเพิ่งมาถึงจังหวัด A พวกเขาเองก็ประหลาดใจที่คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ยังไม่ถูกถอนออก ถ้าคำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ยังอยู่งั้นก็หมายความว่างานยังไม่สำเร็จ ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกประหลาดใจมากแค่ไหนแต่นี่ก็เป็นข่าวดีสำหรับพวกเขาด้วย พวกเขามีเวลาที่จะหาน้องหกเพิ่มขึ้นและหาว่านี่มีเหตุผลอะไรกัน ดราก้อนพาวิลเลี่ยนถึงอยากที่จะได้ตัวน้องหกมากขนาดนี้

ไม่ว่ายังไงน้องหกก็ถือว่าเป็นเพื่อนของพวกเขาไปแล้ว พวกเขาจะไม่ทรยศเพื่อนตัวเอง ถึงแม้พวกเขาจะต้องถูกลงโทษเพราะเรื่องนี้ก็ตาม พวกเขาก็จะไม่ถอยหลังกลับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 177 คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 177 คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 177
คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์

ชูอี้เสิ่นเดินไปที่เดินไปที่แผนกต้อนรับของโรงแรมเพื่อถามเจ้าหน้าที่ เพราะท่าทางที่โดดเด่นของชูอี้เสิ่น เจ้าหน้าที่ที่แผนกต้อนรับจึงจำเขาได้อย่างชัดเจน เขาได้รู้ว่าเด็กสาวเป็นคนมาส่งเขาที่นี่และท่าทางน่าจะอายุประมาณ 16 เท่านั้น ความคิดแรกของชูอี้เสิ่นคือมู่หรงเสวี่ยแล้วก็เถียงกับตัวเองว่าถ้าเป็น เสี่ยวเสวี่ย เธอก็คงไม่ทิ้งเขาไว้คนเดียวแน่ๆ แถมยังพาเขามาที่โรงแรมอีกด้วยเพราะเสี่ยวเสวี่ยก็รู้ว่าบ้านเขาอยู่ที่ไหนและถึงขนาดรู้ด้วยว่ากุญแจอยู่ที่ไหน

เขานึกไม่ออกจริงๆว่าใครเป็นคนพาเขามาที่นี่และสุดท้ายก็ยอมแพ้ มันไม่ใช่เรื่องที่สำคัญอะไร

ชูอี้เสิ่นออกมาจากห้องและไปที่สนามบิน ตอนที่เขาออกมาก็อดไม่ได้ที่จะมองไปที่ชื่อของมู่หรงเสวี่ยที่อยู่ในโทรศัพท์ซ้ำไปซ้ำมา สุดท้ายเขาก็ขึ้นเครื่องบินไปโดยไม่ได้กดโทรออก
เขากลัวว่าถ้าได้ยินเสียงเธอเขาจะไม่อยากกลับ ดังนั้นเขาจึงรอเวลาก่อนแล้วค่อยโทรหาเธอทีหลัง ถึงแม้เขาจะคิดแบบนั้นแต่ก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกสูญเสีย หลังจากที่ได้กลับมาที่จังหวัด A ในครั้งนี้ เขาก็เพิ่งตระหนักถึงระยะห่างระหว่างตัวเองและเธอที่ชัดเจนขึ้น

ชูอี้เสิ่นกำหมัดแน่นและไม่ยอมปล่อย ถึงแม้เขาจะปล่อยวางไม่ได้แต่ก็รู้ว่าถึงแม้เขาจะทำได้เพียงแค่ดูแลเธออยู่เบื้องข้างหลังไปตลอดชีวิต เขาก็จะไม่เสียใจ ความคิดนี้ทำให้เขาผ่อนคลายลงมาก ตราบใดที่เขาได้อยู่กับเธอ ไม่ว่าจะด้วยวิธีไหนเขาก็ยอม ถึงแม้จะเป็นได้แค่เพื่อนก็ตาม

ในตอนเย็น ฮวงฟูอี้ขับรถมาที่อะพาร์ตเมนต์ของ มู่หรงเสวี่ยอีกครั้ง เขาเดินขึ้นไปข้างบนและกดกริ่งที่ประตู เวลาผ่านไปนานก็ไม่มีใครมาเปิดที่ประตู ฮวงฟูอี้ขมวดคิ้วและโทรหาหลงอี้เพื่อออกคำสั่ง

เวลาไม่ถึง 10 นาที หลงอี้ก็เดินมาพร้อมกุญแจ อพาร์ทเม้นท์ของมู่หรงเสวี่ย ฮวงฟูอี้รับกุญแจมาและเปิดประตูเข้าไปทันที
“มู่หรงเสวี่ย?!” เขารีบเข้าไปและร้องเรียก
ฮวงฟูอี้เดินเข้าไปในห้องด้านในทันทีและพูดกับหลงอี้ที่เดินตามเขามา “นายอยู่นี่ ไม่ต้องตามฉันมา…”

หลงอี้ยืนอยู่ที่เดิมพร้อมด้วยสีหน้าที่เคร่งขรึม เขาไม่รู้ว่าทำไมดราก้อนมาสเตอร์ถึงต้องคลั่งขนาดนี้ อย่างไรก็ตามช่วงสองวันที่ผ่านมานี้เขาได้เห็นท่าทางที่ไม่ปกติของดราก้อนมาสเตอร์มาแล้ว และวันนี้ดราก้อนมาสเตอร์ก็ยังมาถามเขาอีกว่าทำไมอยู่ดีๆผู้หญิงถึงได้มีท่าทางที่เปลี่ยนไปกลายเป็นเย็นชาขึ้นมา ในตอนนั้นเขาไม่เข้าใจ เขารู้ดีว่าทำไมอยู่ดีๆผู้หญิงถึงได้เปลี่ยนไปแต่เขาก็ไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญเรื่องผู้หญิง เขาไม่กล้าที่จะตอบดราก้อนมาสเตอร์ออกไปแบบนั้นดังนั้นเขาจึงยอมไปอ่านหนังสือเกี่ยวกับผู้หญิงกองโตเพื่อหาคำตอบเรื่องนี้

ดราก้อนมาสเตอร์ที่ต้องการคำตอบไม่พอใจเลยสักนิด เขาเพียงแค่มองมาที่เขาด้วยสายตารังเกียจ จากสายตาของดราก้อนมาสเตอร์ เห็นได้ชัดว่าเขาสงสัยในเรื่องความสามารถของเขา เขารู้สึกอยากจะร้องไห้และแทบจะเป็นลมในห้องน้ำ ปัญหาเล็กน้อยเรื่องผู้หญิงกลายเป็นมาตรฐานในการวัดความสามารถของเขาไปแล้ว
เขารู้สึกขมขื่นหัวใจแต่ก็ไม่พูดออกมา! นี่เป็นสิ่งที่หลงอี้คิดในหลายวันที่ผ่านมานี้

ฮวงฟูอี้เปิดประตูห้องมู่หรงเสวี่ยและเห็นว่ากระเป๋าถือเธอยังวางอยู่บนเตียงและแม้แต่โทรศัพท์เธอก็ยังอยู่บนเตียงด้วย ที่หน้าจอมีสายโทรเข้าของเขาที่เพิ่งโทรเข้ามาด้วย อย่างไรก็ตามเขาไม่รู้ว่าเธอหายไปไหน เขาบอกให้คนไปดูที่บ้านของมู่หรงด้วย มู่หรงเสวี่ยไม่ได้อยู่ที่บ้าน งั้นเธอหายไปไหน ฮวงฟูอี้วางกระเป๋าเธอลงและเดินไปหาที่ห้องอื่น แต่ก็ยังไม่เจอใคร แล้วสีหน้าเขาก็เริ่มซีดเผือดและเดินออกไป

“หลงอี้ ฉันอยากรู้ว่าเสี่ยวเสวี่ยอยู่ที่ไหน ตอนนี้ เดี๋ยวนี้เลย!” ฮวงฟูอี้พูดกับหลงอี้ที่กำลังยืนอยู่ในห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางแปลกๆ

ท่าทางของฮวงฟูอี้ทำให้สีหน้าของหลงอี้เปลี่ยนไป ถึงแม้ดราก้อนมาสเตอร์จะเป็นคนที่เฉยเมยและไม่รู้เรื่องความสัมพันธ์ระหว่างชายหญิง แต่เขาก็เห็นได้อย่างชัดเจนว่าดราก้อนมาสเตอร์เป็นห่วงมู่หรงเสวี่ยอย่างมาก ตอนนี้คุณมู่หรงหายไป ไม่ต้องสงสัยเลยว่าดราก้อนมาสเตอร์จะเป็นห่วงมากแค่ไหน

หลงอี้ไม่กล้าที่จะถ่วงเวลา หลังจากที่ตอบรับ เขาก็รีบวิ่งออกไปทันที เขากำลังรีบ สำหรับพวกเขามันเป็นเรื่องที่ง่ายมากที่จะหาว่าใครอยู่ที่ไหน ซึ่งใช้เวลาไม่น่าจะถึง 10 นาทีก็น่าจะได้ข่าวแล้ว เขาคิดในตอนนี้

จนกระทั่งครึ่งชั่วโมงต่อมา หลงอี้กลับมาหาฮวงฟูอี้พร้อมสีหน้าสำนึกผิด ภายใต้สายตาที่เย็นชาของดราก้อนมาสเตอร์ เขาก็พูดออกมาอย่างยากลำบาก “ดราก้อนมาสเตอร์ ผมหาตัว คุณมู่หรงไม่เจอครับ…” เขาก้มหัวและไม่กล้าที่จะมองอาการของดราก้อนมาสเตอร์ ในดราก้อนพาวิลเลี่ยน ถ้าเขาหาไม่เจอนั่นก็หมายความว่าเขาทำหน้าที่ไม่สำเร็จ สิ่งที่เขากังวลคืออำนาจของดราก้อนพาวิลเลี่ยน ทำไมเราถึงหาตัวคุณมู่หรงไม่เจอล่ะ? ยังมีอีกความเป็นไปได้หนึ่งถ้าคุณมู่หรงจะหายไปจากโลกนี้นั่นก็คือ เธอตาย

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา เขาก็รีบสลัดมันออกไปทันที ถ้าคุณมู่หรงประสบอุบัติเหตุ คงไม่มีใครทนรับความโกรธของดราก้อนมาสเตอร์ได้แน่ ที่สำคัญกว่านั้น คุณมู่หรงเป็นคนเดียวที่สามารถเข้าใกล้ดราก้อนมาสเตอร์ได้ในหลายปีที่ผ่านนี้ เขาไม่อยากให้ดราก้อนมาสเตอร์กลับไปเย็นชาราวกับเครื่องจักรอีก

“เสียเวลา หาต่อไปจนกว่าจะเจอ!” ฮวงฟูอี้ไม่อยากที่จะคิดถึงเรื่องอื่น เขาหวังเพียงว่าเสี่ยวเสวี่ยจะไม่เล่นซ่อนหากับเขา เมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้วเขาเพิ่งแวบนึกถึงเหตุการณ์ที่เขาไม่อยากให้เกิดขึ้น

หลงอี้ไม่กล้าพูดอะไรต่อ ตอนนี้สิ่งที่สำคัญที่สุดคือการหาตัวคุณมู่หรง เขารีบออกไปอย่างเร็ว กดโทรศัพท์และเริ่มใช้ความพยายามของเขาอย่างหนักต่อ เขาเกือบจะส่งคนทั้งหมดออกตามหา เพื่อตามหาเด็กสาวอายุ 16 คนเดียว นี่เป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

เรื่องนี้สร้างความสงสัยให้คนมากมายในดราก้อนพา วิลเลี่ยนว่าเด็กสาวมู่หรงคนนี้ทำอะไรให้ดราก้อนมาสเตอร์ไม่พอใจถึงได้ต้องใช้มาตรการขั้นสูงขนาดนี้

ในระหว่างนั้นแก๊งทั้งห้าของเมืองหลวงเองก็ได้รับคำสั่งด้วยเหมือนกัน

ในตอนนี้คนทั้งห้านั่งกันอยู่ในห้องปิด มองหน้ากันและกัน แต่ละใบหน้ามีสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ

“จะทำยังไงดี?! ทำไมน้องหกถึงไปมีเรื่องกับเจ้าหน้าที่สูงสุดของดราก้อนพาวิลเลี่ยนได้?” น้องห้าพูดออกมาด้วยสีหน้าเป็นกังวล

พี่ใหญ่วางโทรศัพท์และสีหน้าก็เครียดขึ้นมาเล็กน้อย “โทรศัพท์ของน้องหกติดต่อไม่ได้ นี่เป็นสถานการณ์ที่เลวร้ายมาก…” ไม่มีใครรู้เรื่องอำนาจของดราก้อนพาวิลเลี่ยนดีไปกว่าพวกเขา ถ้าเข้าไปยุ่งกับดราก้อนพาวิลเลี่ยนก็มีทางออกเดียวคือความตายเท่านั้น

พี่สามเองก็มีสีหน้าที่จริงจัง “นี่เป็นปัญหาแล้ว ถึงแม้เราจะไม่เข้าไปยุ่ง แต่คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ออกมาแล้วและคนอื่นก็จะต้องเข้าไปยุ่งแน่ๆ…”
“น้องหกเป็นครอบครัวของเรานะ ฉันส่งเธอให้ดราก้อนพาวิลเลี่ยนไม่ได้หรอก…” น้องสี่พูด

“ใครจะทำล่ะ? เราไม่ยอมหรอก” พี่สองเปิดปากพูดแต่มือที่อยู่ที่คอมพิวเตอร์ก็ยังไม่หยุด

“เป็นไงบ้าง หาเจอไหม?” พี่ใหญ่ถามพี่สองที่กำลังจัดการกองข้อมูลมากมายในคอมพิวเตอร์

พี่สองไม่ได้เงยหน้าขึ้นมาและสีหน้าของเขาก็ดูเคร่งเครียด “ฉันรู้แค่ว่าตอนนี้น้องหกอยู่ที่จังหวัด A แล้วอยู่ดีๆเธอก็หายตัวไปเฉยๆ ฉันหาร่องรอยของเธอไม่ได้เลย…” นี่เป็นครั้งแรกที่เขาเจออะไรแบบนี้

“มันเป็นไปได้ยังไง?!! น้องหกคงไม่ได้ประสบอุบัติเหตุหรอกนะ…” น้องห้าพนมมือเข้าด้วยกันเพื่อสวดมนต์

คนที่เหลือต่างก็มีสีหน้าเคร่งเครียด
หลังจากนั้นสักพัก พี่ใหญ่ก็พูดออกมาว่า “ไปที่จังหวัด A กันเถอะ อยู่ที่นี่ก็ไม่มีประโยชน์อะไร ให้พวกเราเป็นคนเจอเองดีกว่าให้คนอื่นในเจอ…”

พวกเขามองหน้ากันและสุดท้ายก็ตัดสินใจมาที่จังหวัด Aกัน

มู่หรงเสวี่ยที่ตอนนี้ยังอยู่ในมิติลับไม่รู้เรื่องที่เกิดขึ้นเลยเพราะเรื่องเวลาในมิติลับ ตอนนี้โลกข้างนอกต้องวุ่นวายไปหมดก็เพราะเธอและพวกคนชั้นสูงมากมายจากดราก้อนพาวิลเลี่ยนต่างก็กำลังมาที่จังหวัด A

มู่หรงเสวี่ยเอาแต่อ่านหนังสือ, เรียนและค้นคว้าอยู่ในมิติลับและอีกไม่นานก็จะเปิดตัวผลิตภัณฑ์ด้านสุขภาพอีก ผลิตภัณฑ์ดูแลสุขภาพที่เธอพัฒนาก่อนหน้านี้ไม่ได้เจาะจงที่เรื่องอายุ เธอไม่ได้สนใจว่าเงื่อนไขของทุกคนที่แตกต่างกันและยาที่พวกเขาควรจะได้รับก็ไม่เหมือนกัน ดังนั้นเธอจึงเกือบจะลืมเรื่องการกินและการนอนไปเลย ในการวิจัยเรื่องปัญหานี้ เธอล้มเหลวซ้ำแล้วซ้ำเล่าจึงวิจัยซ้ำอีกไปเรื่อยๆ…

ฮวงฟูอี้นั่งอยู่ที่ห้องนั่งเล่นด้วยท่าทางที่เย็นชาขึ้นเรื่อยๆ ทุกวินาทีที่ผ่านไปคือความทรมานของเขา เขาไม่เคยต้องรู้สึกตื่นตระหนกและทำอะไรไม่ถูกเหมือนตอนนี้มาก่อนเลย เหตุผลก็เพราะการหายตัวไปของมู่หรงเสวี่ยเริ่มที่จะทำให้เขาคิดเรื่องที่เลวร้ายมากขึ้นเรื่อยๆ เขาถึงขนาดคิดเรื่องที่ว่าคนที่มุ่งร้ายในดราก้อนพาวิลเลี่ยนอาจจะรู้เรื่องมู่หรงเสวี่ยและทำร้ายเธอเพื่อที่จะโจมตีเขา ไม่งั้นคนปกติอยู่ดีๆจะหายไปแบบไร้ร่องรอยได้ยังไงกัน

ทุกครั้งที่หลงอี้รับโทรศัพท์ด้วยความหวังแต่ก็ต้องวางสายด้วยความผิดหวัง เขาแทบจะไปกล้าที่จะไปเจอหน้าดราก้อนมาสเตอร์เลย ไม่กล้าที่จะไปรายงาน จนถึงตอนนี้เขาก็ยังไม่อยากที่จะเชื่อว่าอำนาจของดราก้อนพาวิลเลี่ยนถดถอยไปขนาดนี้เลยเหรอ นี่เธอก็แค่คนธรรมดานะ ถึงแม้เธอจะถูกเผาจนเป็นเถ้าถ่านแต่ด้วยความสามารถของดราก้อนพาวิลเลี่ยนก็น่าจะหาเจอ ตอนนี้เวลาผ่านไปสามชั่วโมงแล้ว และนี่เป็นครั้งแรกที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยนต้องเข้ามารวมในสถานการณ์แบบนี้

ไม่เพียงหลงอี้ที่ตกใจแต่สมาชิกคนอื่นๆของหลงอี้ต่างก็ประหลาดใจด้วยเหมือนกัน…ในตอนนี้สมาชิกทุกคนของดราก้อนพาวิลเลี่ยนต่างก็จำชื่อของมู่หรงเสวี่ยได้เพราะเธอเป็นคนที่นำความลำบากที่คาดไม่ถึงมาให้พวกเขา

แก๊งทั้งห้าเพิ่งมาถึงจังหวัด A พวกเขาเองก็ประหลาดใจที่คำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ยังไม่ถูกถอนออก ถ้าคำสั่งของดราก้อนมาสเตอร์ยังอยู่งั้นก็หมายความว่างานยังไม่สำเร็จ ไม่ว่าพวกเขาจะรู้สึกประหลาดใจมากแค่ไหนแต่นี่ก็เป็นข่าวดีสำหรับพวกเขาด้วย พวกเขามีเวลาที่จะหาน้องหกเพิ่มขึ้นและหาว่านี่มีเหตุผลอะไรกัน ดราก้อนพาวิลเลี่ยนถึงอยากที่จะได้ตัวน้องหกมากขนาดนี้

ไม่ว่ายังไงน้องหกก็ถือว่าเป็นเพื่อนของพวกเขาไปแล้ว พวกเขาจะไม่ทรยศเพื่อนตัวเอง ถึงแม้พวกเขาจะต้องถูกลงโทษเพราะเรื่องนี้ก็ตาม พวกเขาก็จะไม่ถอยหลังกลับ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+