ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 199 ขอร้องล่ะ! ดราก้อนมาสเตอร์!

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 199 ขอร้องล่ะ! ดราก้อนมาสเตอร์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 199
ขอร้องล่ะ! ดราก้อนมาสเตอร์!

กัปตันของดราก้อนพาวิลเลี่ยนที่อยู่ในห้องประชุมนั่งกันอย่างไม่สบายใจ ทุกคนต่างก็ภาวนาให้ดราก้อนมาสเตอร์ที่อยู่ข้างนอกประตูจบการประเมินให้เร็วที่สุด พวกเขาจริงจังกับงานของตัวเองกันจริงๆ

ฮวงฟูอี้ที่อยู่นอกประตูใจลอยและอยู่ดีๆก็เดาออกมาได้ว่าหรือเป็นเพราะเมื่อวานเธอเห็นเขาที่นี่ก็เลยเลือกที่จะไม่เดินมาทางนี้อีก?!!

เมื่อคิดได้แบบนี้เขาก็รีบกลับเข้าไปที่ออฟฟิศของตัวเองด้วยความโกรธและจ้องไปที่หลงอี้

หลงอี้มองใบหน้าที่น่าเคารพแต่อันที่จริงเขากำลังสิ้นหวัง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง
“ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้ไปตรวจแผนกการวิจัยทางการแพทย์ของดราก้อนพาวิลเลี่ยนนานแล้วนะ…” หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวงฟูอี้ก็พูดขึ้นมาเสียงเบา

หลงอี้นิ่งอึ้งไปสักพัก แล้วก็ตอบออกมาโดยไม่ทันได้คิด “ไม่ได้ ผมเพิ่งไปตรวจมาเมื่อวันก่อนเอง…” ยิ่งเขาพูดมากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเย็นยะเยือกมากขึ้นเท่านั้น เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่เย็นชาของดราก้อนมาสเตอร์ เขาสะดุ้งทันทีและรีบพูดออกไป “อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสถานที่ที่ยังไม่ได้ไปตรวจด้วย ดราก้อนมาสเตอร์ไปเถอะและจะได้เห็นว่าพวกหมอมังกรทำงานกันยังไง…”

ท่าทางเย็นชาของฮวงฟูอี้ค่อยๆคลายลง และตอบออกมาเสียงเบา “อืม!” หลังจากที่เดินไปได้สองสามก้าว เขาก็เห็นว่าหลงอี้ยังยืนอยู่ที่เดิม จึงบ่นออกมาอย่างเย็นชา “นายมัวทำอะไรอยู่ล่ะ? ไม่ลืมเดินนำทางไปเร็วเข้าสิ!”

หลงอี้รีบมาเดินนำทางให้เขาทันที เขารู้สึกโกรธมาก เขาอยากที่จะไปแผนกแพทย์มังกรแต่ก็ต้องทำเป็นปิดบังไว้ มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆที่ต้องรอคำสั่งจากดราก้อนมาสเตอร์
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกังวลเรื่องอื่นแต่ก็แกล้งทำเป็นเย็นชาและรังเกียจคุณมู่หรง เขาเป็นห่วงจริงๆ…เมื่อวานเขาถึงขนาดไปเฝ้าดูกล้องวงจรปิดว่าเขาจะพลาดเรื่องอะไรดีไปหรือเปล่า

จู่ๆฮวงฟูอี้ก็เตะเข้าที่หลงอี้ “ทำหน้าดีๆหน่อยสิ ยิ้มน่ารังเกียจนั่นก็ได้!” หัวใจเขารู้สึกปั่นปวนขึ้นมานิดหน่อยและรู้สึกว่าเขามองเห็นหัวใจเขาทะลุปรุโปร่ง เขาน่ารังเกียจจริงๆ

หลงอี้อยากที่จะร้องไห้โฮจริงๆ มันง่ายสำหรับเขามาก เขาไม่เพียงต้องจัดการงานกองโตทุกวันแต่ยังต้องรับมือกับอารมณ์ที่แปรปรวนอยู่เสมอของดราก้อนมาสเตอร์อีกด้วย โอเค ตอนนี้เขายิ้มไม่ออกด้วยซ้ำ ไอ้บ้าเอ๊ย! ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ถ้าบอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตยก็ควรจะปฏิบัติกับลูกน้องให้มันดีๆหน่อยสิ ความรู้สึกของเขาไม่ได้มองเขาราวกับเป็นคนเลยใช่ไหม?

เมื่อพวกเขามาถึงก็สร้างความตึงเครียดให้เหล่าหมอมังกรอย่างมากมาย โดยเฉพาะความเอื้อเฟื้อของดราก้อนมาสเตอร์ที่อุตส่าห์มาตรวจผลงานวิจัยของพวกเขาซึ่งทำให้เหล่าหมอมังกรรู้สึกดีใจกันอย่างมาก
หลงอี้ที่กำลังคุยและทำงานกับเหล่าหมอมังกรอยู่ ฮวงฟูอี้มองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นร่างของมู่หรงเสวี่ยเลย สีหน้าเขาจึงเข้มขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าเธอทำงานที่นี่เขาจึงมาหาเธอที่นี่ไม่ใช่เหรอ?!!

พวกหมอมังกรที่มักจะสนใจสีหน้าของดราก้อนมาสเตอร์ เริ่มที่จะเงียบลงเรื่อยๆและถึงขนาดรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เป็นเพราะดราก้อนมาสเตอร์ไม่พอใจผลงานวิจัยของพวกเขาหรือเปล่านะ? หมอมังกรที่คอยตอบคำถามของหลงอี้ก็เริ่มที่จะพูดติดอ่างและคำพูดของเขาก็เริ่มที่จะไม่ราบรื่น

ไม่เอาน่า! ดราก้อนมาสเตอร์! ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยหรือไง? พวกหมอมังกรเด็กๆกลัวกันไปหมดแล้ว หลงอี้ขัดการรายงานของหมอมังกรอย่างช่วยไม่ได้และจงใจถามออกมาเสียงดัง “ฉันจำได้ว่ามีเด็กสาวสวยที่เพิ่งเข้ามาที่นี่ใช่ไหม?! ทำไมถึงไม่เห็นเธอที่นี่เลยล่ะ?” หูของฮวงฟูอี้พึ่งขึ้นมาทันทีและร่างกายของหันไปทางหลงอี้

หลงอี้พยายามฝืนหัวใจไม่ให้หัวเราะออกมาอยู่ แกล้งทำเป็นว่าไม่เห็นท่าทางของดราก้อนมาสเตอร์ เขากลัวว่าถ้าตัวเองไม่ระวัง ดราก้อนมาสเตอร์จะมาถล่มเขาอีก

หมอมังกรหลายคนมองหน้ากันและกัน หลายวันที่ผ่านมานี้พวกเขาและมู่หรงเข้ากันได้ดีอย่างมากและพวกเขาก็ชอบเด็กสาวนั้นมากๆด้วย เรื่องทักษะการแพทย์ไม่ต้องพูดถึงเลยแถมยังถ่อมตัวและสุภาพอีกด้วย และเธอก็ช่วยพวกเขาไว้มากด้วย แต่ท่าทางดราก้อนมาสเตอร์จะไม่ค่อยพอใจ เป็นเพราะเด็กสาวเผลอไปทำให้ดราก้อนมาสเตอร์ไม่พอใจหรือเปล่าถึงได้มาที่นี่เพื่อที่จะลงโทษเธอ

ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรเพราะถ้าเขาบอกไปว่าเธอไม่อยู่ที่นี่ ดราก้อนมาสเตอร์จะคิดว่าเด็กสาวขี้เกียจหรืออะไรหรือเปล่านะ

ฮวงฟูอี้ขมวดคิ้วและแม้แต่หลงอี้เองก็ยังเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถามคำถามออกไปแล้วไม่มีใครตอบ สถานการณ์นี้แปลกจริงๆ
“ทำไมถึงไม่มีใครตอบ?! ไม่รู้กันหรือไง?! หัวหน้าของพวกนายอยู่ที่ไหน?” หลงอี้เห็นฮวงฟูอี้เริ่มที่จะโกรธจึงชิงถามออกไปก่อน

หมอมังกร 005 ที่มักจะคุยกับมู่หรงเสวี่ยบ่อยที่สุดเสมอก้าวออกมาและทำความเคารพเป็นอย่างแรก “หัวหน้าทีมของพวกเราไปตรวจปัญหาเรื่องสมุนไพรครับ มู่หรงเสวี่ยหมอมังกรคนใหม่เป็นคนที่ขยันอย่างมาก เธอทำงานอย่างตั้งใจ วันนี้เธอขอลากับหัวหน้าทีมแล้วดังนั้นเธอจึงไม่ได้เข้ามา…”

ขอลางั้นเหรอ?! หลงอี้มองไปในทิศทางของดราก้อนมาสเตอร์ แน่นอนว่าเขาเห็นสีหน้าที่เข้มขึ้นอย่างมากของเขา หลงอี้ปวดหัวขึ้นมาทันที เดาว่าหลังจากนี้เขาจะต้องโดนอะไรแน่ๆ เขาจะต้องหาข้ออ้างอะไรเพื่อที่จะมาใช้หลีกเลี่ยงระเบิดจากดราก้อนมาสเตอร์ดี

“ด้วยเหตุผลอะไร?” หลงอี้ยังคงถามต่อ
หมอมังกร 005 เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อดูให้แน่ใจว่า ดราก้อนมาสเตอร์ไม่ได้โกรธแล้วก็ตอบออกมา “ได้ยินมาว่าคืนนี้เธอไปร่วมงานเลี้ยงของคุณโม่!” เมื่อพูดจบเขาก็มองมาที่มังกรและดราก้อนมาสเตอร์อย่างระวัง

“ไม่เป็นไร นายกลับไปทำงานเถอะ” หลงอี้โบกมือพร้อมทั้งพูดออกมา

เขาหันมาที่ดราก้อนมาสเตอร์และพูดออกมา “ดราก้อนมาสเตอร์ ในเมื่อเรามาอยู่ในเมืองนี้มาก็นานแล้ว เราก็น่าที่จะไปเจอคนที่เป็นผู้บัญชาการทหารของจังหวัดA หน่อยนะครับ!”

สีหน้าที่ตึงเครียดของฮวงฟูอี้ดูเริ่มที่จะคลายลงบ้างแล้วพร้อมด้วยท่าทางที่ดูจะใจดีขึ้น เขาพูดออกมา “ในเมื่อนายอยากที่จะไปขนาดนั้น งั้นฉันก็จะไปดูกับนายด้วยก็ได้…”

ทันทีที่หลงอี้ก้มหัวต่ำลง ที่มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มกว้างออกมา บ้าจริง นี่ถ้าไม่กลัวว่าดราก้อนมาสเตอร์จะทำร้ายเขา เขาก็คงจะพูดอย่างที่คิดออกไปแล้ว งั้นก็รีบๆไปแล้วกัน มันก็น่าจะสนุกดี แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาอาจจะต้องเจอคืนนี้ งั้นก็ไปหาอะไรสนุกๆทำหน่อยดีกว่า

สิ่งที่มู่หรงเสวี่ยไม่รู้คือในตอนนี้ที่เธอกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวแต่เธอก็ยังอยู่ในสายตาของชูอี้เสิ่นตลอด ตั้งแต่วินาทีที่เธอเดินเข้าประตูมาเขาก็ละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย ชูอี้เสิ่นยืนอยู่ข้างเสาที่ห่างจากมู่หรงเสวี่ยไปเพียงไม่กี่เมตรเพราะจากจุดนี้ มู่หรงเสวี่ยจะมองไม่เห็นเขาและสายตาของเขาจะได้ไม่สร้างความลำบากใจให้กับเธอ

อย่างไรก็ตามก็มีบางคนที่อยากจะเข้าขัดความสุขที่หาได้ยากในตอนนี้ของเขา

“คุณชายชู อยากจะดื่มด้วยกันหน่อยไหมคะ?” หลงเหมยจิ่งเดินออกมาพร้อมเผยรอยยิ้มแสนหวาน ดูเหมือนเธอจะเผลอยกผมหยิกยาวของเธอขึ้นและโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ทันทีที่ชูอี้เสิ่นก้มหัวลงมาเล็กน้อย เขาก็เห็นร่องหน้าอกของเธอได้อย่างชัดเจนภายใต้ชุดที่คว้านลึกของเธอ

ชูอี้เสิ่นขมวดคิ้ว พวกตระกูลเล็กๆยังไงก็เป็นตระกูลเล็กๆอยู่วันยังค่ำ เธอใช้เล่ห์เหลี่ยมระดับล่างมายั่วยวนเขา

หลงเหมยจิ่งเองก็สังเกตชูอี้เสิ่นอยู่นานก่อนที่จะรวบรวมความกล้าเพื่อเข้ามาคุยกับเขา เมื่อกี้เธอเห็นคุณชายชูปฏิเสธสาวๆไปหลายคนแต่เธอสวยมากกว่าคนอื่นมาก ถึงแม้เธอจะคิดว่าตัวเองอาจจะทำไม่สำเร็จแต่เธอก็ยังคว้าโอกาสนี้เอาไว้ บางทีนี่อาจจะปลายเป็นโชคดีของเธอก็ได้ บางทีคุณชายชูอาจจะชอบ สเปกแบบเธอก็ได้ เธอจะได้ทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้าซะที

หลงเหมยจิ่งที่ไม่ได้ยินคำตอบอยู่นาน ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างกล้าหาญและมองไปที่ชูอี้เสิ่น เธอเห็นว่าเขากำลังมองมาที่เธออย่างมีเลศนัย เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินขึ้นมา ถ้าพูดกันตามตรงถึงแม้เธอจะคบผู้ชายมาแล้วมากมายแต่ก็ยังไม่เคยเจอใครที่ดีเลิศแบบชูอี้เสิ่นเลย

อันที่จริง เธอคิดมากเกินไป ชูอี้เสิ่นเพียงแค่มองไปที่ มู่หรงเสวี่ยที่นั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมยกแก้วไวน์ดื่มขึ้นแก้วแล้วแก้วเล่า เขายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มระหว่างที่หลงเหมยจิ่งพูด

“คุณชายชู…” เสียงอ่อนโยนของหลงเหมยจิ่งดังขึ้นมา พร้อมด้วยร่างอ่อนนุ่มที่อิงไปที่หน้าอกของชูอี้เสิ่น

ชูอี้เสิ่นได้กลิ่นน้ำหอมฉุนจนได้สติกลับมาทันทีและเห็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจกำลังเข้ามาหาเขา เขาผลักเธอออกพร้อมด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “น่าเกลียด!”

หลงเหมยจิ่งเซถอยหลังไปสองสามก้าวจนเกือบจะล้มลงไปที่พื้นด้วยความสับสน หน้าที่ขาวซีดของเธอมองไปที่ชูอี้เสิ่นที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตารังเกียจ สาวๆหลายคนที่ถูกปฏิเสธไปก่อนหน้านี้ที่ยืนอยู่ไม่ห่างต่างก็ชี้นิ้วมาที่เธอ เธอขายหน้าจนไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้อีกแล้วจึงรีบเดินเข้าไปที่ห้องน้ำ

การเคลื่อนไหวเล็กๆของชูอี้เสิ่นเองก็ดึงดูสายตาของ มู่หรงเสวี่ยเช่นกัน ชูอี้เสิ่นเองก็มองไปที่เธอเช่นกัน พวกเธอต่างก็จ้องตากัน มู่หรงเสวี่ยหัวเราะออกมาอย่างใจดีไปทางชูอี้เสิ่นแต่ ชูอี้เสิ่นกลับรู้สึกรำคาญอยู่เล็กๆ นี่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เห็นบ้างเลยหรือไง

เขาเดินมาที่เธอ ในตอนนี้ถึงแม้เขาจะมีความรู้สึกอยากที่จะเดินหนีไปแต่ถ้าเขาทำแบบนั้น เขากับมู่หรงเสวี่ยก็คงที่จะห่างกันออกไปเรื่อยๆจนอาจจะแทบจำชื่อกันไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“พี่ชู เป็นไงบ้างคะ ไวน์นี่ดีมากเลยนะ อยากลองชิมดูหน่อยไหมคะ?” มู่หรงเสวี่ยหัวเราะอย่างสงบ ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีเรื่องที่น่าอายระหว่างกันมาก่อน

ชูอี้เสิ่นบอกให้บริกรที่อยู่ข้างๆเอาแก้วไวน์เปล่ามาให้เขาที หลังจากที่ได้แก้วมาเขาก็ดื่มเข้าไป “ดูเหมือนเธอจะดื่มเข้าไปเยอะเลยนะ อย่าดื่มอีกเลย ถ้าเธอเมามันจะไม่ค่อยดีเท่าไรนะ…”

“ฉันไม่เมาง่ายๆหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วง นี่แอลกอฮอลล์ต่ำมากๆเลยเหมาะกับฉันที่สุด เดี๋ยวฉันจะต้องรอดูการแนะนำตัวของโม่อ้ายลี่ก่อนด้วย ฉันไม่ยอมให้ตัวเองเมาหรอกค่ะ…” มู่หรงเสวี่ยจิบไปอีกอึก

ชูอี้เสิ่นขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ยอมอะไรออกมาอีก… เสี่ยวเสวี่ยดูเหมือนจะกล้าแสดงออกมากกว่าแต่ก่อน แม้แต่หน้าตาก็ดูเอาแต่ใจมากขึ้นด้วย…เธอทำให้เขารู้สึกถึงความมีเสน่ห์

แต่เขาถูกเธอปฏิเสธไปแล้ว เขารินไวน์ใส่แก้วและกระดกเข้าไป

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 199 ขอร้องล่ะ! ดราก้อนมาสเตอร์!

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 199 ขอร้องล่ะ! ดราก้อนมาสเตอร์! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 199
ขอร้องล่ะ! ดราก้อนมาสเตอร์!

กัปตันของดราก้อนพาวิลเลี่ยนที่อยู่ในห้องประชุมนั่งกันอย่างไม่สบายใจ ทุกคนต่างก็ภาวนาให้ดราก้อนมาสเตอร์ที่อยู่ข้างนอกประตูจบการประเมินให้เร็วที่สุด พวกเขาจริงจังกับงานของตัวเองกันจริงๆ

ฮวงฟูอี้ที่อยู่นอกประตูใจลอยและอยู่ดีๆก็เดาออกมาได้ว่าหรือเป็นเพราะเมื่อวานเธอเห็นเขาที่นี่ก็เลยเลือกที่จะไม่เดินมาทางนี้อีก?!!

เมื่อคิดได้แบบนี้เขาก็รีบกลับเข้าไปที่ออฟฟิศของตัวเองด้วยความโกรธและจ้องไปที่หลงอี้

หลงอี้มองใบหน้าที่น่าเคารพแต่อันที่จริงเขากำลังสิ้นหวัง มีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าเขารู้สึกยังไง
“ดูเหมือนว่าเราจะไม่ได้ไปตรวจแผนกการวิจัยทางการแพทย์ของดราก้อนพาวิลเลี่ยนนานแล้วนะ…” หลังจากเวลาผ่านไปนาน ฮวงฟูอี้ก็พูดขึ้นมาเสียงเบา

หลงอี้นิ่งอึ้งไปสักพัก แล้วก็ตอบออกมาโดยไม่ทันได้คิด “ไม่ได้ ผมเพิ่งไปตรวจมาเมื่อวันก่อนเอง…” ยิ่งเขาพูดมากขึ้นเท่าไร เขาก็ยิ่งรู้สึกเย็นยะเยือกมากขึ้นเท่านั้น เขาค่อยๆเงยหน้าขึ้นมาและเห็นสายตาที่เย็นชาของดราก้อนมาสเตอร์ เขาสะดุ้งทันทีและรีบพูดออกไป “อย่างไรก็ตาม ก็ยังมีสถานที่ที่ยังไม่ได้ไปตรวจด้วย ดราก้อนมาสเตอร์ไปเถอะและจะได้เห็นว่าพวกหมอมังกรทำงานกันยังไง…”

ท่าทางเย็นชาของฮวงฟูอี้ค่อยๆคลายลง และตอบออกมาเสียงเบา “อืม!” หลังจากที่เดินไปได้สองสามก้าว เขาก็เห็นว่าหลงอี้ยังยืนอยู่ที่เดิม จึงบ่นออกมาอย่างเย็นชา “นายมัวทำอะไรอยู่ล่ะ? ไม่ลืมเดินนำทางไปเร็วเข้าสิ!”

หลงอี้รีบมาเดินนำทางให้เขาทันที เขารู้สึกโกรธมาก เขาอยากที่จะไปแผนกแพทย์มังกรแต่ก็ต้องทำเป็นปิดบังไว้ มันเป็นเรื่องยากมากจริงๆที่ต้องรอคำสั่งจากดราก้อนมาสเตอร์
เห็นได้ชัดว่าเขากำลังกังวลเรื่องอื่นแต่ก็แกล้งทำเป็นเย็นชาและรังเกียจคุณมู่หรง เขาเป็นห่วงจริงๆ…เมื่อวานเขาถึงขนาดไปเฝ้าดูกล้องวงจรปิดว่าเขาจะพลาดเรื่องอะไรดีไปหรือเปล่า

จู่ๆฮวงฟูอี้ก็เตะเข้าที่หลงอี้ “ทำหน้าดีๆหน่อยสิ ยิ้มน่ารังเกียจนั่นก็ได้!” หัวใจเขารู้สึกปั่นปวนขึ้นมานิดหน่อยและรู้สึกว่าเขามองเห็นหัวใจเขาทะลุปรุโปร่ง เขาน่ารังเกียจจริงๆ

หลงอี้อยากที่จะร้องไห้โฮจริงๆ มันง่ายสำหรับเขามาก เขาไม่เพียงต้องจัดการงานกองโตทุกวันแต่ยังต้องรับมือกับอารมณ์ที่แปรปรวนอยู่เสมอของดราก้อนมาสเตอร์อีกด้วย โอเค ตอนนี้เขายิ้มไม่ออกด้วยซ้ำ ไอ้บ้าเอ๊ย! ไม่ยุติธรรมเอาซะเลย ถ้าบอกว่าตัวเองเป็นประชาธิปไตยก็ควรจะปฏิบัติกับลูกน้องให้มันดีๆหน่อยสิ ความรู้สึกของเขาไม่ได้มองเขาราวกับเป็นคนเลยใช่ไหม?

เมื่อพวกเขามาถึงก็สร้างความตึงเครียดให้เหล่าหมอมังกรอย่างมากมาย โดยเฉพาะความเอื้อเฟื้อของดราก้อนมาสเตอร์ที่อุตส่าห์มาตรวจผลงานวิจัยของพวกเขาซึ่งทำให้เหล่าหมอมังกรรู้สึกดีใจกันอย่างมาก
หลงอี้ที่กำลังคุยและทำงานกับเหล่าหมอมังกรอยู่ ฮวงฟูอี้มองไปรอบๆแต่ก็ไม่เห็นร่างของมู่หรงเสวี่ยเลย สีหน้าเขาจึงเข้มขึ้นเรื่อยๆ เพราะว่าเธอทำงานที่นี่เขาจึงมาหาเธอที่นี่ไม่ใช่เหรอ?!!

พวกหมอมังกรที่มักจะสนใจสีหน้าของดราก้อนมาสเตอร์ เริ่มที่จะเงียบลงเรื่อยๆและถึงขนาดรู้สึกไม่ค่อยสบายใจ เป็นเพราะดราก้อนมาสเตอร์ไม่พอใจผลงานวิจัยของพวกเขาหรือเปล่านะ? หมอมังกรที่คอยตอบคำถามของหลงอี้ก็เริ่มที่จะพูดติดอ่างและคำพูดของเขาก็เริ่มที่จะไม่ราบรื่น

ไม่เอาน่า! ดราก้อนมาสเตอร์! ควบคุมอารมณ์ตัวเองไม่ได้เลยหรือไง? พวกหมอมังกรเด็กๆกลัวกันไปหมดแล้ว หลงอี้ขัดการรายงานของหมอมังกรอย่างช่วยไม่ได้และจงใจถามออกมาเสียงดัง “ฉันจำได้ว่ามีเด็กสาวสวยที่เพิ่งเข้ามาที่นี่ใช่ไหม?! ทำไมถึงไม่เห็นเธอที่นี่เลยล่ะ?” หูของฮวงฟูอี้พึ่งขึ้นมาทันทีและร่างกายของหันไปทางหลงอี้

หลงอี้พยายามฝืนหัวใจไม่ให้หัวเราะออกมาอยู่ แกล้งทำเป็นว่าไม่เห็นท่าทางของดราก้อนมาสเตอร์ เขากลัวว่าถ้าตัวเองไม่ระวัง ดราก้อนมาสเตอร์จะมาถล่มเขาอีก

หมอมังกรหลายคนมองหน้ากันและกัน หลายวันที่ผ่านมานี้พวกเขาและมู่หรงเข้ากันได้ดีอย่างมากและพวกเขาก็ชอบเด็กสาวนั้นมากๆด้วย เรื่องทักษะการแพทย์ไม่ต้องพูดถึงเลยแถมยังถ่อมตัวและสุภาพอีกด้วย และเธอก็ช่วยพวกเขาไว้มากด้วย แต่ท่าทางดราก้อนมาสเตอร์จะไม่ค่อยพอใจ เป็นเพราะเด็กสาวเผลอไปทำให้ดราก้อนมาสเตอร์ไม่พอใจหรือเปล่าถึงได้มาที่นี่เพื่อที่จะลงโทษเธอ

ตอนนี้ไม่มีใครพูดอะไรเพราะถ้าเขาบอกไปว่าเธอไม่อยู่ที่นี่ ดราก้อนมาสเตอร์จะคิดว่าเด็กสาวขี้เกียจหรืออะไรหรือเปล่านะ

ฮวงฟูอี้ขมวดคิ้วและแม้แต่หลงอี้เองก็ยังเลิกคิ้วขึ้นอย่างประหลาดใจ นี่เป็นครั้งแรกที่เขาถามคำถามออกไปแล้วไม่มีใครตอบ สถานการณ์นี้แปลกจริงๆ
“ทำไมถึงไม่มีใครตอบ?! ไม่รู้กันหรือไง?! หัวหน้าของพวกนายอยู่ที่ไหน?” หลงอี้เห็นฮวงฟูอี้เริ่มที่จะโกรธจึงชิงถามออกไปก่อน

หมอมังกร 005 ที่มักจะคุยกับมู่หรงเสวี่ยบ่อยที่สุดเสมอก้าวออกมาและทำความเคารพเป็นอย่างแรก “หัวหน้าทีมของพวกเราไปตรวจปัญหาเรื่องสมุนไพรครับ มู่หรงเสวี่ยหมอมังกรคนใหม่เป็นคนที่ขยันอย่างมาก เธอทำงานอย่างตั้งใจ วันนี้เธอขอลากับหัวหน้าทีมแล้วดังนั้นเธอจึงไม่ได้เข้ามา…”

ขอลางั้นเหรอ?! หลงอี้มองไปในทิศทางของดราก้อนมาสเตอร์ แน่นอนว่าเขาเห็นสีหน้าที่เข้มขึ้นอย่างมากของเขา หลงอี้ปวดหัวขึ้นมาทันที เดาว่าหลังจากนี้เขาจะต้องโดนอะไรแน่ๆ เขาจะต้องหาข้ออ้างอะไรเพื่อที่จะมาใช้หลีกเลี่ยงระเบิดจากดราก้อนมาสเตอร์ดี

“ด้วยเหตุผลอะไร?” หลงอี้ยังคงถามต่อ
หมอมังกร 005 เงยหน้าขึ้นมาเล็กน้อยเพื่อดูให้แน่ใจว่า ดราก้อนมาสเตอร์ไม่ได้โกรธแล้วก็ตอบออกมา “ได้ยินมาว่าคืนนี้เธอไปร่วมงานเลี้ยงของคุณโม่!” เมื่อพูดจบเขาก็มองมาที่มังกรและดราก้อนมาสเตอร์อย่างระวัง

“ไม่เป็นไร นายกลับไปทำงานเถอะ” หลงอี้โบกมือพร้อมทั้งพูดออกมา

เขาหันมาที่ดราก้อนมาสเตอร์และพูดออกมา “ดราก้อนมาสเตอร์ ในเมื่อเรามาอยู่ในเมืองนี้มาก็นานแล้ว เราก็น่าที่จะไปเจอคนที่เป็นผู้บัญชาการทหารของจังหวัดA หน่อยนะครับ!”

สีหน้าที่ตึงเครียดของฮวงฟูอี้ดูเริ่มที่จะคลายลงบ้างแล้วพร้อมด้วยท่าทางที่ดูจะใจดีขึ้น เขาพูดออกมา “ในเมื่อนายอยากที่จะไปขนาดนั้น งั้นฉันก็จะไปดูกับนายด้วยก็ได้…”

ทันทีที่หลงอี้ก้มหัวต่ำลง ที่มุมปากของเขาก็เผยรอยยิ้มกว้างออกมา บ้าจริง นี่ถ้าไม่กลัวว่าดราก้อนมาสเตอร์จะทำร้ายเขา เขาก็คงจะพูดอย่างที่คิดออกไปแล้ว งั้นก็รีบๆไปแล้วกัน มันก็น่าจะสนุกดี แต่เมื่อนึกถึงเรื่องที่เขาอาจจะต้องเจอคืนนี้ งั้นก็ไปหาอะไรสนุกๆทำหน่อยดีกว่า

สิ่งที่มู่หรงเสวี่ยไม่รู้คือในตอนนี้ที่เธอกำลังนั่งดื่มอยู่คนเดียวแต่เธอก็ยังอยู่ในสายตาของชูอี้เสิ่นตลอด ตั้งแต่วินาทีที่เธอเดินเข้าประตูมาเขาก็ละสายตาไปจากเธอไม่ได้เลย ชูอี้เสิ่นยืนอยู่ข้างเสาที่ห่างจากมู่หรงเสวี่ยไปเพียงไม่กี่เมตรเพราะจากจุดนี้ มู่หรงเสวี่ยจะมองไม่เห็นเขาและสายตาของเขาจะได้ไม่สร้างความลำบากใจให้กับเธอ

อย่างไรก็ตามก็มีบางคนที่อยากจะเข้าขัดความสุขที่หาได้ยากในตอนนี้ของเขา

“คุณชายชู อยากจะดื่มด้วยกันหน่อยไหมคะ?” หลงเหมยจิ่งเดินออกมาพร้อมเผยรอยยิ้มแสนหวาน ดูเหมือนเธอจะเผลอยกผมหยิกยาวของเธอขึ้นและโน้มตัวไปข้างหน้าเล็กน้อย ทันทีที่ชูอี้เสิ่นก้มหัวลงมาเล็กน้อย เขาก็เห็นร่องหน้าอกของเธอได้อย่างชัดเจนภายใต้ชุดที่คว้านลึกของเธอ

ชูอี้เสิ่นขมวดคิ้ว พวกตระกูลเล็กๆยังไงก็เป็นตระกูลเล็กๆอยู่วันยังค่ำ เธอใช้เล่ห์เหลี่ยมระดับล่างมายั่วยวนเขา

หลงเหมยจิ่งเองก็สังเกตชูอี้เสิ่นอยู่นานก่อนที่จะรวบรวมความกล้าเพื่อเข้ามาคุยกับเขา เมื่อกี้เธอเห็นคุณชายชูปฏิเสธสาวๆไปหลายคนแต่เธอสวยมากกว่าคนอื่นมาก ถึงแม้เธอจะคิดว่าตัวเองอาจจะทำไม่สำเร็จแต่เธอก็ยังคว้าโอกาสนี้เอาไว้ บางทีนี่อาจจะปลายเป็นโชคดีของเธอก็ได้ บางทีคุณชายชูอาจจะชอบ สเปกแบบเธอก็ได้ เธอจะได้ทะยานขึ้นไปสู่ท้องฟ้าซะที

หลงเหมยจิ่งที่ไม่ได้ยินคำตอบอยู่นาน ก็เงยหน้าขึ้นมาอย่างกล้าหาญและมองไปที่ชูอี้เสิ่น เธอเห็นว่าเขากำลังมองมาที่เธออย่างมีเลศนัย เธอก็อดไม่ได้ที่จะรู้สึกเขินขึ้นมา ถ้าพูดกันตามตรงถึงแม้เธอจะคบผู้ชายมาแล้วมากมายแต่ก็ยังไม่เคยเจอใครที่ดีเลิศแบบชูอี้เสิ่นเลย

อันที่จริง เธอคิดมากเกินไป ชูอี้เสิ่นเพียงแค่มองไปที่ มู่หรงเสวี่ยที่นั่งอยู่ที่โซฟาพร้อมยกแก้วไวน์ดื่มขึ้นแก้วแล้วแก้วเล่า เขายกแก้วไวน์ขึ้นดื่มระหว่างที่หลงเหมยจิ่งพูด

“คุณชายชู…” เสียงอ่อนโยนของหลงเหมยจิ่งดังขึ้นมา พร้อมด้วยร่างอ่อนนุ่มที่อิงไปที่หน้าอกของชูอี้เสิ่น

ชูอี้เสิ่นได้กลิ่นน้ำหอมฉุนจนได้สติกลับมาทันทีและเห็นผู้หญิงที่น่ารังเกียจกำลังเข้ามาหาเขา เขาผลักเธอออกพร้อมด้วยน้ำเสียงไม่แยแส “น่าเกลียด!”

หลงเหมยจิ่งเซถอยหลังไปสองสามก้าวจนเกือบจะล้มลงไปที่พื้นด้วยความสับสน หน้าที่ขาวซีดของเธอมองไปที่ชูอี้เสิ่นที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตารังเกียจ สาวๆหลายคนที่ถูกปฏิเสธไปก่อนหน้านี้ที่ยืนอยู่ไม่ห่างต่างก็ชี้นิ้วมาที่เธอ เธอขายหน้าจนไม่อยากจะยืนอยู่ตรงนี้อีกแล้วจึงรีบเดินเข้าไปที่ห้องน้ำ

การเคลื่อนไหวเล็กๆของชูอี้เสิ่นเองก็ดึงดูสายตาของ มู่หรงเสวี่ยเช่นกัน ชูอี้เสิ่นเองก็มองไปที่เธอเช่นกัน พวกเธอต่างก็จ้องตากัน มู่หรงเสวี่ยหัวเราะออกมาอย่างใจดีไปทางชูอี้เสิ่นแต่ ชูอี้เสิ่นกลับรู้สึกรำคาญอยู่เล็กๆ นี่เธอไม่ได้รู้สึกอะไรกับเรื่องที่เห็นบ้างเลยหรือไง

เขาเดินมาที่เธอ ในตอนนี้ถึงแม้เขาจะมีความรู้สึกอยากที่จะเดินหนีไปแต่ถ้าเขาทำแบบนั้น เขากับมู่หรงเสวี่ยก็คงที่จะห่างกันออกไปเรื่อยๆจนอาจจะแทบจำชื่อกันไม่ได้ด้วยซ้ำ เขาไม่อยากให้เป็นแบบนั้น
“พี่ชู เป็นไงบ้างคะ ไวน์นี่ดีมากเลยนะ อยากลองชิมดูหน่อยไหมคะ?” มู่หรงเสวี่ยหัวเราะอย่างสงบ ราวกับว่าพวกเขาไม่เคยมีเรื่องที่น่าอายระหว่างกันมาก่อน

ชูอี้เสิ่นบอกให้บริกรที่อยู่ข้างๆเอาแก้วไวน์เปล่ามาให้เขาที หลังจากที่ได้แก้วมาเขาก็ดื่มเข้าไป “ดูเหมือนเธอจะดื่มเข้าไปเยอะเลยนะ อย่าดื่มอีกเลย ถ้าเธอเมามันจะไม่ค่อยดีเท่าไรนะ…”

“ฉันไม่เมาง่ายๆหรอกค่ะ ไม่ต้องห่วง นี่แอลกอฮอลล์ต่ำมากๆเลยเหมาะกับฉันที่สุด เดี๋ยวฉันจะต้องรอดูการแนะนำตัวของโม่อ้ายลี่ก่อนด้วย ฉันไม่ยอมให้ตัวเองเมาหรอกค่ะ…” มู่หรงเสวี่ยจิบไปอีกอึก

ชูอี้เสิ่นขมวดคิ้วแต่ก็ไม่ได้ยอมอะไรออกมาอีก… เสี่ยวเสวี่ยดูเหมือนจะกล้าแสดงออกมากกว่าแต่ก่อน แม้แต่หน้าตาก็ดูเอาแต่ใจมากขึ้นด้วย…เธอทำให้เขารู้สึกถึงความมีเสน่ห์

แต่เขาถูกเธอปฏิเสธไปแล้ว เขารินไวน์ใส่แก้วและกระดกเข้าไป

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+