ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 219 โรงงาน

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 219 โรงงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 219 โรงงาน

“งั้น สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน คุณมีแผนดำเนินการที่ดีกว่านี้หรือเปล่า?!” มู่หรงเสวี่ยไม่ได้โทษผู้จัดการ ในความคิดของเธอ ผู้จัดการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม

ผู้จัดการปรับท่าทางแล้วเริ่มที่จะพูดถึงเรื่องแผนที่เขาเคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ “เพราะคนในเมืองเล็กๆนี้มีไม่มากเท่าไร ผมคิดว่าเราน่าจะรับสมัครคนมาจากจังหวัดAนะครับ ยังไงซะบริษัทของเราก็มีอาหารและที่พักพร้อมอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล น่าจะมีคนมากมายที่พร้อมจะมาที่นี่นะครับ อีกอย่างเราสร้างบริษัทมาพร้อมกับชื่อเสียงที่ดีไปพร้อมๆกันอยู่แล้ว…”

มู่หรงเสวี่ยก้มหัวและเริ่มที่จะคิดเรื่องแผนที่ผู้จัดการเสนอมา มันเป็นเรื่องที่ทำจริงไม่ได้ ตลาดในเมืองเริ่มอิ่มตัวแล้ว เหตุผลที่ทุกคนอยู่ในเมืองก็เพราะไม่มีสถานประกอบการที่ดีในเมืองเล็ก ๆ บางทีเรื่องนี้อาจจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาของเมืองเล็กๆได้ด้วย

ตอนนี้เธอให้ความสนใจอย่างมาก ที่นี่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงเพียงไม่กี่แห่ง อันที่จริงก็เป็นแค่สาขาเล็กๆเท่านั้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะล้าหลังมากกว่าที่เธอคิดไว้มาก

“แผนของคุณเป็นไปได้นะ เขียนรายงานมาแล้วส่งไปที่สำนักงานใหญ่!” มู่หรงเสวี่ยพูดกับผู้จัดการเพราะงานแบบนี้มีเพียงคนจากสำนักงานใหญ่เท่านั้นที่จะทำได้

“ได้เลยครับท่านประธาน! ผมจะรีบเตรียมให้พร้อมทันทีเลยครับ” ผู้จัดการยังรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อยแต่ท่านประธานก็เห็นด้วยในทันที

มู่หรงเสวี่ยเผยรอยยิ้มจางๆ “ไม่ต้องห่วงนะ ก่อนอื่นพาฉันไปดูที่โรงงานแล้วก็ที่ฐานการเกษตรก่อน แล้วพอกลับมาคุณค่อยเตรียมรายงาน!” เธอหวังว่าที่โรงงานจะไม่หละหลวมเหมือนกับที่บริษัทหรอกนะ

“โรงงานเหรอครับ?!! คือที่ฝั่งโรงงานค่อนข้างที่จะ…”

มู่หรงขมวดคิ้ว ที่โรงงานไม่น่าที่จะมีปัญหาอะไรสิ! “ที่โรงงานมีปัญหาอะไร?”

“ไม่มีครับ! เพียงแค่ว่าพวกคนที่โรงงานก็เป็นแค่ชาวนาชาวไร่ธรรมดาๆ บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้สุภาพเหมือนกับพวกคนในเมืองนะครับ ผมกลัวว่าท่านประธานจะไม่คุ้นกับเรื่องพวกนี้…” แม้แต่เขาเองตอนที่มาถึงแรกๆยังไม่เคยชินกับเรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ พอเวลาผ่านไปสักพักเขาก็เริ่มที่จะเข้าใจว่าชาวไร่ชาวนาพวกนี้ก็เป็นคนแบบนี้ปกติอยู่แล้ว แต่ก็มีจิตใจที่ดีมากๆและในเวลาปกติก็เป็นคนที่อบอุ่นอย่างมาก แม้แต่เวลาที่พวกเขาต้องทำงานล่วงเวลา พวกเขาก็ไม่บ่นอะไรเลย ขนาดเขาที่ทำงานอย่างตั้งใจในทุกๆวันแต่ก็ยังทำไม่ทันจนต้องเอากลับมาทำด้วยตลอด

มู่หรงเสวี่ยลุกขึ้นและพูดออกมาว่า “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง? คุณคิดว่าฉันเป็นลูกคุณหนูที่อยู่แต่ในบ้านหรือไง?”

“เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะครับท่านประธาน…” ผู้จัดการกังวลมากจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกจริงๆว่าท่านประธานคือลูกคุณหนู แต่แน่นอนเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องพวกนี้ออกไป

“ไม่เอาน่า ฉันล้อเล่น ไปกันเถอะ!” มู่หรงเสวี่ยเดินนำออกไปก่อน

“หลงอี้ อยากไปที่อื่นก่อนไหม? ยังไงซะที่โรงงานก็คงจะน่าเบื่อแล้วในเมืองเล็กๆแบบนี้ก็คงไม่มีอันตรายอะไรด้วย…” มู่หรงเสวี่ยพูดกับหลงอี้ ตั้งแต่ที่เธอกลับมาที่จังหวัดA หลงอี้ก็คอยตามคุ้มครองเธอตลอด

“ไม่ครับ พวกเราต้องอยู่กับคุณมู่หรงตลอดเวลา คุณลืมไปแล้วหรือไงว่าครั้งที่แล้วเกิดอะไรขึ้น?” ล้อกันเล่นหรือไง ถ้าเขาไม่อยู่ ดราก้อนมาสเตอร์จะต้องฆ่าเขาแน่ๆ…ถึงแม้เขาจะออกคำสั่งของดราก้อนพาวิลเลี่ยนให้ออกคำเตือนไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรับประกันพวกนอกกฎหมายที่มักจะทำอะไรเพื่อเงินไม่ได้

“ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ไปกันเถอะ” มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ถามอะไรต่อ อันที่จริงเธอเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าหลงอี้และคนอื่นๆจะไม่ยอมไปไหน เธอเพียงแค่รู้สึกขอโทษอยู่นิดหน่อยและอยากที่จะให้พวกเขาได้พักกันบ้าง สุดท้ายแล้วแม้จะถึงประธานของบริษัทแต่ก็ไม่มีสิทธิที่จะจัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ผู้จัดการขับรถของบริษัทไป ในขณะที่มู่หรงเสวี่ยแน่นอนว่ายังนั่งรถกันกระสุนที่สั่งทำมาพิเศษเหมือนเดิม ผู้จัดการขับรถนำหน้าพวกเขาไปในระหว่างที่หลงอี้และลูกน้องขับรถตามไปอยู่ข้างหลัง

ถนนไปโรงงานแย่ยิ่งกว่าถนนในเมืองมาก ตลอดทางมีแต่ถนนที่เป็นหลุม เป็นบ่อและบางครั้งก็เป็นถนนที่มีโคลนด้วย โรงงานถูกสร้างอยู่ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งบอกได้ว่าอยู่ในชนบทและนอกชานเมือง

เมื่อลงมาจากรถ รถทั้งสองก็แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลย ฝุ่นดินสีแดงคลุมรถจนหนาเตอะ มู่หรงเสวี่ยบังเอิญเหยียบลงไปที่แอ่งโคลนจนน้ำโคลนกระเซ็นขึ้นมาทันที

“อ่า” มู่หรงเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาทันทีและเกือบที่จะล้ม

หลงอี้จับคว้ามือมู่หรงไว้ทันที “คุณมู่หรงเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” บ้าจริง นี่มันอะไรกันว่ะเนี่ย? ถนนก็ไม่ได้ซ้อมด้วยซ้ำ คืนนี้ตอนที่รายงานดราก้อนลอร์ดเขาจะต้องเดือดร้อนแน่ๆ

มู่หรงจับมือหลงอี้ไว้เพื่อที่จะทรงตัว หลังจากนั้นสักพักเธอก็ปล่อยมือหลงอี้ ส่ายหัวเล็กน้อยและพูดออกไปว่า “ไม่เป็นไร!”

อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าของเธอก็เลอะโคลนไปด้วยซึ่งทำให้มู่หรงเสวี่ยที่รักความสะอาดอยู่เสมอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไร เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอกำลังคิดว่าในอนาคตการแบ่งแย่งคงจะต้องได้รับการพัฒนาอีกนาน ถนนพวกนี้จะต้องได้รับการซ่อมแซม ไม่งั้นการขนสั่งของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปจะต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่

แต่ผู้จัดการเข้าใจผิดและคิดว่าท่านประธานไม่พอใจ เขารีบวิ่งเข้ามา ถอดเสื้อสูทและอยากที่จะปูลงไปที่พื้น มู่หรงเสวี่ยห้ามเขาและถามออกไป “ผู้จัดการ คุณจะทำอะไร?!!”

ผู้จัดการหยุดไปชั่วขณะแล้วจึงพูดออกมา “ปูเสื้อที่พื้นครับ โคลนจะได้ไม่กระเด็นง่ายๆ…”

สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยสะดุ้งไปนิดหน่อย “ไม่ต้อง ฉันไม่ได้บอบบางขนาดนั้นนะ!” แล้วเธอก็ยกเท้าและเดินไปอีกด้านต่อ แน่นอนว่าท่าทางที่อ่อนเยาว์ของเธอทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเธอมีเสน่ห์

หลงอี้ตบไปที่ไหล่ของผู้จัดการและเดินตามเธอไป

ท่านประธานเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่ายอย่างคาดไม่ถึง ในตอนนี้ความคิดนี้แวบเข้ามาในความคิดของผู้จัดการ

หลังจากเดินไปได้ไม่ไกลก็ถึงประตูหลังของโรงงาน มู่หรงเสวี่ยมองไปที่การติดตั้งจากโรงงานด้วยความพึงพอใจเล็กน้อย นี่ไม่ได้แย่ไปกว่าที่จังหวัดAเลย บริเวณข้างในก็สะอาดอย่างมาก เสียงเครื่องจักรก็ดังเข้ามาบ้างเป็นครั้งคราว โรงงานกำลังทำงานอยู่และด้านนอกก็มีการ์ดคอยเฝ้าเพียงแค่สองคน นอกจากเสียงของเครื่องจักรแล้ว นอกนั้นก็เงียบมาก

ผู้จัดการคอยสังเกตอาการของมู่หรงเสวี่ยแล้วเขาก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อย เมื่อเข้าไปในห้องเครื่องจักร คนงานทุกคนต่างก็กำลังทำงานกันอย่างต่อเนื่อง มีชาวนา ชาวไร่หลายคนที่โป๊เพราะความร้อน

หลงอี้แทบจะรีบเข้ามาบังมู่หรงเสวี่ยไว้ข้างหลังทันที เพื่อที่จะปิดสายตาของเธอไว้ มันจบแล้ว ถ้าคุณมู่หรงได้เห็นเนื้อหนังของผู้ชายคนนี้ ต้องไม่โอเคแน่ๆ

มู่หรงมองไปที่ร่างสูงของหลงอี้ที่จู่ๆก็เข้ามาขวางเธอด้วยท่าทางกังวลและพูดไม่ออก “หลงอี้ นายทำอะไรเนี่ย?!!”

หลงอี้กางแขน หันหัวมาเล็กน้อยและตอบกลับมา “คุณมู่หรง ข้างหน้าคุณมีสิ่งไม่น่ามองเท่าไร ผมเลยมาช่วยบังไว้ให้ครับ…”

มู่หรงเสวี่ยนวดที่ขมับเล็กน้อยแล้วจึงพูดออกมา “ถ้านายไม่ให้ฉันดู แล้วฉันจะตรวจงานของตัวเองได้ยังไงล่ะ?”

“ทุกคนสวมเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” หลงอี้ตะโกนออกไป!!! เขาจะทำให้คุณมู่หรงต้องมาเห็นเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!

มู่หรงเสวี่ยแทบอยากที่จะเตะหลงอี้ที่อยู่หน้าเธอ คิดว่าคนที่นี่จะรู้สึกยังไง

ต้องบอกเลยว่าเสียงของหลงอี้ที่พูดออกไปมันดังมากและคนงานทุกคนที่กำลังทำงานต่างก็หันหัวมา แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ลืมหน้าที่ของตัวเอง

“ผู้จัดการมาแล้ว…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วก็พาแขกมาด้วย เป็นใครกันเนี่ย?” เสียงของคนงานเริ่มที่จะตะโกนออกมา

“ผู้จัดการ น้องสาวสวยมากเลยนะ วันหลังแนะนำให้รู้จักบ้างนะ” หนึ่งในคนงานทำท่าทางลามกขึ้นมาทันที

“…”

ในจุดนี้ทำให้ผู้จัดการรู้สึกอายอย่างมาก พยายามส่งสัญญาณให้พวกคนงานเงียบปากไปแต่ท่านประธานกำลังยืนอยู่ข้างๆเขา!!! ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าเขาไม่ได้ชินกันคนงานพวกนี้มานานแล้ว พวกเขาก็คงจะเข้ามาตรวจงานไม่ได้แน่ๆ

ผู้จัดการมองไปที่มู่หรงเสวี่ยที่อยู่ข้างหลังหลงอี้อย่างระวัง และพบว่าสีหน้าของท่านประธานเริ่มที่จะเคร่งขึ้นมา แล้วเขาก็มองไปที่ท่าทางของหลงอี้ที่กั้นสายตาของท่านประธานไว้อย่างสิ้นเชิง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจและตะโกนออกไป “โอเค เอาเสื้อผ้ากลับมาสวมก่อนเลย!”

มู่หรงเสวี่ยยิ้มอย่างไม่พอใจแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรมากเพราะยังไงทุกคนก็พูดไปหมดแล้ว แล้วเธอจะพูดออกไปอีกทำไม?!!! อีกอย่างมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าหลงอี้เห็นอะไร เวลาไปที่ชายหาด พวกผู้ชายก็ยังใส่แค่กางเกงขาสั้นเลย ในเมื่ออากาศร้อนขนาดนี้ก็เป็นเรื่องปกตินิ

ในตอนแรกพวกคนงานต่างก็ตกใจเล็กน้อย แต่ก่อนผู้จัดการยังไม่เห็นเคยพูดอะไรแบบนี้เลยแต่จู่ๆก็มาบอกให้พวกเขาสวมเสื้อผ้าซะ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เริ่มที่จะสังเกตได้ว่าคนที่มากับผู้จัดการอาจจะเป็นคนสำคัญ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบสวมเสื้อผ้า คิดว่าพวกเขาไม่อยากที่จะสร้างปัญหาให้ผู้จัดการ

หลงอี้รอจนทุกคนสวมเสื้อผ้าเสร็จจึงเคลื่อนตัวออก

มู่หรงเสวี่ยจ้องไปที่หลงอี้ แล้วจึงก้าวเดินไปที่เครื่องจักร เหล่าพนักงานเห็นร่างของมู่หรงเสวี่ย เหล่าคนงานที่อยากจะพูดจาตลกก็รีบหยุดในทันที บางทีอาจจะเพราะกลัวว่าจะทำให้เด็กสาวที่น่ารักแบบนี้เกิดกลัวขึ้นมา เพราะด้วยอายุของมู่หรงเสวี่ย จึงไม่มีใครคิดว่ามู่หรงเสวี่ยจะเป็นหัวหน้าที่แท้จริง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 219 โรงงาน

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 219 โรงงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 219 โรงงาน

“งั้น สำหรับสถานการณ์ปัจจุบัน คุณมีแผนดำเนินการที่ดีกว่านี้หรือเปล่า?!” มู่หรงเสวี่ยไม่ได้โทษผู้จัดการ ในความคิดของเธอ ผู้จัดการปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างยอดเยี่ยม

ผู้จัดการปรับท่าทางแล้วเริ่มที่จะพูดถึงเรื่องแผนที่เขาเคยคิดไว้ก่อนหน้านี้ “เพราะคนในเมืองเล็กๆนี้มีไม่มากเท่าไร ผมคิดว่าเราน่าจะรับสมัครคนมาจากจังหวัดAนะครับ ยังไงซะบริษัทของเราก็มีอาหารและที่พักพร้อมอยู่แล้ว จะได้ไม่ต้องเดินทางไกล น่าจะมีคนมากมายที่พร้อมจะมาที่นี่นะครับ อีกอย่างเราสร้างบริษัทมาพร้อมกับชื่อเสียงที่ดีไปพร้อมๆกันอยู่แล้ว…”

มู่หรงเสวี่ยก้มหัวและเริ่มที่จะคิดเรื่องแผนที่ผู้จัดการเสนอมา มันเป็นเรื่องที่ทำจริงไม่ได้ ตลาดในเมืองเริ่มอิ่มตัวแล้ว เหตุผลที่ทุกคนอยู่ในเมืองก็เพราะไม่มีสถานประกอบการที่ดีในเมืองเล็ก ๆ บางทีเรื่องนี้อาจจะช่วยส่งเสริมการพัฒนาของเมืองเล็กๆได้ด้วย

ตอนนี้เธอให้ความสนใจอย่างมาก ที่นี่มีบริษัทที่มีชื่อเสียงเพียงไม่กี่แห่ง อันที่จริงก็เป็นแค่สาขาเล็กๆเท่านั้น ดูเหมือนว่าที่นี่จะล้าหลังมากกว่าที่เธอคิดไว้มาก

“แผนของคุณเป็นไปได้นะ เขียนรายงานมาแล้วส่งไปที่สำนักงานใหญ่!” มู่หรงเสวี่ยพูดกับผู้จัดการเพราะงานแบบนี้มีเพียงคนจากสำนักงานใหญ่เท่านั้นที่จะทำได้

“ได้เลยครับท่านประธาน! ผมจะรีบเตรียมให้พร้อมทันทีเลยครับ” ผู้จัดการยังรู้สึกกังวลอยู่เล็กน้อยแต่ท่านประธานก็เห็นด้วยในทันที

มู่หรงเสวี่ยเผยรอยยิ้มจางๆ “ไม่ต้องห่วงนะ ก่อนอื่นพาฉันไปดูที่โรงงานแล้วก็ที่ฐานการเกษตรก่อน แล้วพอกลับมาคุณค่อยเตรียมรายงาน!” เธอหวังว่าที่โรงงานจะไม่หละหลวมเหมือนกับที่บริษัทหรอกนะ

“โรงงานเหรอครับ?!! คือที่ฝั่งโรงงานค่อนข้างที่จะ…”

มู่หรงขมวดคิ้ว ที่โรงงานไม่น่าที่จะมีปัญหาอะไรสิ! “ที่โรงงานมีปัญหาอะไร?”

“ไม่มีครับ! เพียงแค่ว่าพวกคนที่โรงงานก็เป็นแค่ชาวนาชาวไร่ธรรมดาๆ บางทีพวกเขาอาจจะไม่ได้สุภาพเหมือนกับพวกคนในเมืองนะครับ ผมกลัวว่าท่านประธานจะไม่คุ้นกับเรื่องพวกนี้…” แม้แต่เขาเองตอนที่มาถึงแรกๆยังไม่เคยชินกับเรื่องพวกนี้เลยด้วยซ้ำ พอเวลาผ่านไปสักพักเขาก็เริ่มที่จะเข้าใจว่าชาวไร่ชาวนาพวกนี้ก็เป็นคนแบบนี้ปกติอยู่แล้ว แต่ก็มีจิตใจที่ดีมากๆและในเวลาปกติก็เป็นคนที่อบอุ่นอย่างมาก แม้แต่เวลาที่พวกเขาต้องทำงานล่วงเวลา พวกเขาก็ไม่บ่นอะไรเลย ขนาดเขาที่ทำงานอย่างตั้งใจในทุกๆวันแต่ก็ยังทำไม่ทันจนต้องเอากลับมาทำด้วยตลอด

มู่หรงเสวี่ยลุกขึ้นและพูดออกมาว่า “คุณพูดแบบนี้หมายความว่าไง? คุณคิดว่าฉันเป็นลูกคุณหนูที่อยู่แต่ในบ้านหรือไง?”

“เปล่าครับ ผมไม่ได้หมายความอย่างนั้นนะครับท่านประธาน…” ผู้จัดการกังวลมากจนหน้าเปลี่ยนเป็นสีแดง อย่างไรก็ตามเขาก็รู้สึกจริงๆว่าท่านประธานคือลูกคุณหนู แต่แน่นอนเขาก็ไม่กล้าที่จะพูดเรื่องพวกนี้ออกไป

“ไม่เอาน่า ฉันล้อเล่น ไปกันเถอะ!” มู่หรงเสวี่ยเดินนำออกไปก่อน

“หลงอี้ อยากไปที่อื่นก่อนไหม? ยังไงซะที่โรงงานก็คงจะน่าเบื่อแล้วในเมืองเล็กๆแบบนี้ก็คงไม่มีอันตรายอะไรด้วย…” มู่หรงเสวี่ยพูดกับหลงอี้ ตั้งแต่ที่เธอกลับมาที่จังหวัดA หลงอี้ก็คอยตามคุ้มครองเธอตลอด

“ไม่ครับ พวกเราต้องอยู่กับคุณมู่หรงตลอดเวลา คุณลืมไปแล้วหรือไงว่าครั้งที่แล้วเกิดอะไรขึ้น?” ล้อกันเล่นหรือไง ถ้าเขาไม่อยู่ ดราก้อนมาสเตอร์จะต้องฆ่าเขาแน่ๆ…ถึงแม้เขาจะออกคำสั่งของดราก้อนพาวิลเลี่ยนให้ออกคำเตือนไปแล้ว แต่ก็ไม่มีใครรับประกันพวกนอกกฎหมายที่มักจะทำอะไรเพื่อเงินไม่ได้

“ถ้าเป็นอย่างงั้นก็ไปกันเถอะ” มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ถามอะไรต่อ อันที่จริงเธอเองก็รู้ดีอยู่แล้วว่าหลงอี้และคนอื่นๆจะไม่ยอมไปไหน เธอเพียงแค่รู้สึกขอโทษอยู่นิดหน่อยและอยากที่จะให้พวกเขาได้พักกันบ้าง สุดท้ายแล้วแม้จะถึงประธานของบริษัทแต่ก็ไม่มีสิทธิที่จะจัดการกับเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัย

ผู้จัดการขับรถของบริษัทไป ในขณะที่มู่หรงเสวี่ยแน่นอนว่ายังนั่งรถกันกระสุนที่สั่งทำมาพิเศษเหมือนเดิม ผู้จัดการขับรถนำหน้าพวกเขาไปในระหว่างที่หลงอี้และลูกน้องขับรถตามไปอยู่ข้างหลัง

ถนนไปโรงงานแย่ยิ่งกว่าถนนในเมืองมาก ตลอดทางมีแต่ถนนที่เป็นหลุม เป็นบ่อและบางครั้งก็เป็นถนนที่มีโคลนด้วย โรงงานถูกสร้างอยู่ในพื้นที่ห่างไกลซึ่งบอกได้ว่าอยู่ในชนบทและนอกชานเมือง

เมื่อลงมาจากรถ รถทั้งสองก็แทบจะไม่เหลือเค้าเดิมเลย ฝุ่นดินสีแดงคลุมรถจนหนาเตอะ มู่หรงเสวี่ยบังเอิญเหยียบลงไปที่แอ่งโคลนจนน้ำโคลนกระเซ็นขึ้นมาทันที

“อ่า” มู่หรงเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะร้องออกมาทันทีและเกือบที่จะล้ม

หลงอี้จับคว้ามือมู่หรงไว้ทันที “คุณมู่หรงเป็นอะไรหรือเปล่าครับ?” บ้าจริง นี่มันอะไรกันว่ะเนี่ย? ถนนก็ไม่ได้ซ้อมด้วยซ้ำ คืนนี้ตอนที่รายงานดราก้อนลอร์ดเขาจะต้องเดือดร้อนแน่ๆ

มู่หรงจับมือหลงอี้ไว้เพื่อที่จะทรงตัว หลังจากนั้นสักพักเธอก็ปล่อยมือหลงอี้ ส่ายหัวเล็กน้อยและพูดออกไปว่า “ไม่เป็นไร!”

อย่างไรก็ตามเสื้อผ้าของเธอก็เลอะโคลนไปด้วยซึ่งทำให้มู่หรงเสวี่ยที่รักความสะอาดอยู่เสมอรู้สึกไม่ค่อยสบายตัวเท่าไร เธอขมวดคิ้วเล็กน้อย เธอกำลังคิดว่าในอนาคตการแบ่งแย่งคงจะต้องได้รับการพัฒนาอีกนาน ถนนพวกนี้จะต้องได้รับการซ่อมแซม ไม่งั้นการขนสั่งของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปจะต้องกลายเป็นปัญหาใหญ่

แต่ผู้จัดการเข้าใจผิดและคิดว่าท่านประธานไม่พอใจ เขารีบวิ่งเข้ามา ถอดเสื้อสูทและอยากที่จะปูลงไปที่พื้น มู่หรงเสวี่ยห้ามเขาและถามออกไป “ผู้จัดการ คุณจะทำอะไร?!!”

ผู้จัดการหยุดไปชั่วขณะแล้วจึงพูดออกมา “ปูเสื้อที่พื้นครับ โคลนจะได้ไม่กระเด็นง่ายๆ…”

สีหน้าของมู่หรงเสวี่ยสะดุ้งไปนิดหน่อย “ไม่ต้อง ฉันไม่ได้บอบบางขนาดนั้นนะ!” แล้วเธอก็ยกเท้าและเดินไปอีกด้านต่อ แน่นอนว่าท่าทางที่อ่อนเยาว์ของเธอทำให้ผู้คนรู้สึกว่าเธอมีเสน่ห์

หลงอี้ตบไปที่ไหล่ของผู้จัดการและเดินตามเธอไป

ท่านประธานเป็นคนที่เข้ากับคนได้ง่ายอย่างคาดไม่ถึง ในตอนนี้ความคิดนี้แวบเข้ามาในความคิดของผู้จัดการ

หลังจากเดินไปได้ไม่ไกลก็ถึงประตูหลังของโรงงาน มู่หรงเสวี่ยมองไปที่การติดตั้งจากโรงงานด้วยความพึงพอใจเล็กน้อย นี่ไม่ได้แย่ไปกว่าที่จังหวัดAเลย บริเวณข้างในก็สะอาดอย่างมาก เสียงเครื่องจักรก็ดังเข้ามาบ้างเป็นครั้งคราว โรงงานกำลังทำงานอยู่และด้านนอกก็มีการ์ดคอยเฝ้าเพียงแค่สองคน นอกจากเสียงของเครื่องจักรแล้ว นอกนั้นก็เงียบมาก

ผู้จัดการคอยสังเกตอาการของมู่หรงเสวี่ยแล้วเขาก็รู้สึกโล่งอกเล็กน้อย เมื่อเข้าไปในห้องเครื่องจักร คนงานทุกคนต่างก็กำลังทำงานกันอย่างต่อเนื่อง มีชาวนา ชาวไร่หลายคนที่โป๊เพราะความร้อน

หลงอี้แทบจะรีบเข้ามาบังมู่หรงเสวี่ยไว้ข้างหลังทันที เพื่อที่จะปิดสายตาของเธอไว้ มันจบแล้ว ถ้าคุณมู่หรงได้เห็นเนื้อหนังของผู้ชายคนนี้ ต้องไม่โอเคแน่ๆ

มู่หรงมองไปที่ร่างสูงของหลงอี้ที่จู่ๆก็เข้ามาขวางเธอด้วยท่าทางกังวลและพูดไม่ออก “หลงอี้ นายทำอะไรเนี่ย?!!”

หลงอี้กางแขน หันหัวมาเล็กน้อยและตอบกลับมา “คุณมู่หรง ข้างหน้าคุณมีสิ่งไม่น่ามองเท่าไร ผมเลยมาช่วยบังไว้ให้ครับ…”

มู่หรงเสวี่ยนวดที่ขมับเล็กน้อยแล้วจึงพูดออกมา “ถ้านายไม่ให้ฉันดู แล้วฉันจะตรวจงานของตัวเองได้ยังไงล่ะ?”

“ทุกคนสวมเสื้อผ้าเดี๋ยวนี้” หลงอี้ตะโกนออกไป!!! เขาจะทำให้คุณมู่หรงต้องมาเห็นเรื่องแบบนี้ได้ยังไง!

มู่หรงเสวี่ยแทบอยากที่จะเตะหลงอี้ที่อยู่หน้าเธอ คิดว่าคนที่นี่จะรู้สึกยังไง

ต้องบอกเลยว่าเสียงของหลงอี้ที่พูดออกไปมันดังมากและคนงานทุกคนที่กำลังทำงานต่างก็หันหัวมา แน่นอนว่าพวกเขาไม่ได้ลืมหน้าที่ของตัวเอง

“ผู้จัดการมาแล้ว…”

“ฮ่าฮ่าฮ่า แล้วก็พาแขกมาด้วย เป็นใครกันเนี่ย?” เสียงของคนงานเริ่มที่จะตะโกนออกมา

“ผู้จัดการ น้องสาวสวยมากเลยนะ วันหลังแนะนำให้รู้จักบ้างนะ” หนึ่งในคนงานทำท่าทางลามกขึ้นมาทันที

“…”

ในจุดนี้ทำให้ผู้จัดการรู้สึกอายอย่างมาก พยายามส่งสัญญาณให้พวกคนงานเงียบปากไปแต่ท่านประธานกำลังยืนอยู่ข้างๆเขา!!! ถ้าเป็นแบบนี้ถ้าเขาไม่ได้ชินกันคนงานพวกนี้มานานแล้ว พวกเขาก็คงจะเข้ามาตรวจงานไม่ได้แน่ๆ

ผู้จัดการมองไปที่มู่หรงเสวี่ยที่อยู่ข้างหลังหลงอี้อย่างระวัง และพบว่าสีหน้าของท่านประธานเริ่มที่จะเคร่งขึ้นมา แล้วเขาก็มองไปที่ท่าทางของหลงอี้ที่กั้นสายตาของท่านประธานไว้อย่างสิ้นเชิง ทันใดนั้นเขาก็เข้าใจและตะโกนออกไป “โอเค เอาเสื้อผ้ากลับมาสวมก่อนเลย!”

มู่หรงเสวี่ยยิ้มอย่างไม่พอใจแต่ก็ยังไม่ได้พูดอะไรมากเพราะยังไงทุกคนก็พูดไปหมดแล้ว แล้วเธอจะพูดออกไปอีกทำไม?!!! อีกอย่างมีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าหลงอี้เห็นอะไร เวลาไปที่ชายหาด พวกผู้ชายก็ยังใส่แค่กางเกงขาสั้นเลย ในเมื่ออากาศร้อนขนาดนี้ก็เป็นเรื่องปกตินิ

ในตอนแรกพวกคนงานต่างก็ตกใจเล็กน้อย แต่ก่อนผู้จัดการยังไม่เห็นเคยพูดอะไรแบบนี้เลยแต่จู่ๆก็มาบอกให้พวกเขาสวมเสื้อผ้าซะ อย่างไรก็ตามพวกเขาก็เริ่มที่จะสังเกตได้ว่าคนที่มากับผู้จัดการอาจจะเป็นคนสำคัญ ดังนั้นพวกเขาจึงรีบสวมเสื้อผ้า คิดว่าพวกเขาไม่อยากที่จะสร้างปัญหาให้ผู้จัดการ

หลงอี้รอจนทุกคนสวมเสื้อผ้าเสร็จจึงเคลื่อนตัวออก

มู่หรงเสวี่ยจ้องไปที่หลงอี้ แล้วจึงก้าวเดินไปที่เครื่องจักร เหล่าพนักงานเห็นร่างของมู่หรงเสวี่ย เหล่าคนงานที่อยากจะพูดจาตลกก็รีบหยุดในทันที บางทีอาจจะเพราะกลัวว่าจะทำให้เด็กสาวที่น่ารักแบบนี้เกิดกลัวขึ้นมา เพราะด้วยอายุของมู่หรงเสวี่ย จึงไม่มีใครคิดว่ามู่หรงเสวี่ยจะเป็นหัวหน้าที่แท้จริง

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+