ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 222 เกิดอะไรขึ้น

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 222 เกิดอะไรขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 222 เกิดอะไรขึ้น

วันต่อมา มู่หรงเสวี่ยและผู้จัดการไปที่ดูที่ฐานการเกษตร มู่หรงเสวี่ยรู้สึกประหลาดใจกับฐานการเกษตรที่ถูกสร้างไว้อย่างดีมากๆ เธอตรวจพวกผักและพบว่ามันโตได้อย่างดีมาก สุดท้ายแล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เธอพอใจขึ้นมาได้บ้าง

หลังจากตรวจสอบการดำเนินงานทั้งหมดของสาขาแล้ว มู่หรงเสวี่ยและคนอื่น ๆ ก็มีแผนที่จะเดินทางกลับ ส่วนเรื่องปัญหามากมายที่ตรวจพบ มู่หรงเสวี่ยไม่ได้แจ้งเรื่องการจัดสรรทางการเงินกับสำนักงานใหญ่โดยตรง แต่กลับดึงเงินทุนส่วนตัวของตัวเองออกมาและบอกให้ผู้จัดการเอาไปซ่อมแซมโรงงาน นอกจากนี้เธอยังบอกให้ผู้จัดการเขียนรายงานเรื่องการรับสมัครพนักงานซึ่งจะถูกส่งมาจากสำนักงานใหญ่ให้เธอด้วย

ส่วนเหตุผลที่เธอไม่บอกให้แผนกการเงินของสำนักงานใหญ่โอนเงินมาโดยตรงในตอนนี้เพราะเธอสงสัยว่าจะมีบางคนในสำนักงานใหญ่ทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นเธอจึงมีแผนที่จะเข้าไปตรวจสอบเอง

เวลาผ่านไปครึ่งเดือนแล้วแต่ฮวงฟูอี้ก็ยังไม่ติดต่อเธอมาเลย

แต่มู่หรงเสวี่ยรู้ดีว่าตอนนี้ฮวงฟูอี้สุขภาพแข็งแรงดีแล้วเพราะดูเหมือนว่าหลงอี้ยังคงต้องรายงานเรื่องงานกับฮวงฟูอี้อยู่ทุกวัน

แล้วทำไมกันล่ะ?! ทำไมถึงไม่รับสายเธอเลย

ถึงแม้เขาจะเบื่อหรืออยากที่จะเลิกกับเธอ เขาก็ควรที่จะพูดให้ชัดเจนไม่ใช่หรือไง?!! ทำไมถึงต้องหลบหน้าเธอแบบนี้ด้วย

ในหัวใจรู้สึกสับสนขึ้นมาทันที ความเจ็บปวดแวบขึ้นมาชั่วขณะแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถึงแม้จะต้องอกหักแต่เธอก็เชื่อว่าตัวเองจะยังสามารถที่จะยืนหยัดอยู่ได้

หลังจากที่กลับมาที่จังหวัดA มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ไปที่สำนักงานใหญ่ในทันที แต่เธอกลับแวะไปที่บ้านมู่หรงแทน ถึงแม้พ่อแม่เธอจะไม่อยู่แต่เธอก็อยากที่จะแวะไปที่ห้องของพวกท่าน
“คุณหนู!” ป้าหวู่เห็นมู่หรงเสวี่ยจึงรีบวิ่งเข้ามาหาทันที เธอค่อนข้างที่จะแก่แล้วและเป็นห่วงมากด้วย

มู่หรงเสวี่ยทำได้เพียงส่งรอยยิ้มเกร็งๆและพูดออกไปว่า “ป้าหวู่ ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ก็กลับมาค่ะ ไม่ต้องเตรียมอาหารให้หนูนะคะ หนูอยากที่จะไปอยู่ในห้องคุณพ่อกับคุณแม่หน่อยแล้วก็ไม่ต้องเรียกหนูด้วยนะคะ ส่วนคนพวกนี้เป็นเพื่อนหนูเองค่ะ รบกวนป้าหวู่ช่วยดูแลพวกเขาทีนะคะ…” มู่หรงเสวี่ยชี้ไปที่คนของหลงอี้และต่างก็แนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน แล้วเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน

เธอคิดถึงพ่อกับแม่อย่างมากจนนอนไม่หลับเลย เธอเป็นห่วงว่าพ่อกับแม่จะไปเจอเรื่องอันตรายตอนที่พวกท่านเข้าไปในสถานที่แปลกๆ เธอจะต้องหาวิธีให้ได้อย่างเร็วที่สุด

มู่หรงเสวี่ยรู้สึกคุ้นเคยกับการตกแต่งในห้องและดวงตาของเธอก็เริ่มที่จะแดงเล็กน้อย หลังจากเวลาผ่านไปนานสุดท้ายหยดน้ำตาก็ไหลออกมา

มีหลายครั้งที่เธออยากจะก้าวเข้าไปในหลุมดำหลากสีเพื่อที่จะตามหาพ่อกับแม่ แต่เธอก็กลัวว่าจะต้องสูญเสียโอกาสเดียวที่จะช่วยพ่อกับแม่ถ้าเธอเข้าไป มันจะต้องมีวิธีสิ!!!

เธอเชื่อมั่นมาตลอดว่าหากผู้เป็นอมตะมอบเครื่องมืออมตะเช่นนี้มาเพื่อขอบคุณบรรพบุรุษของเธอ งั้นมันก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายได้สิ

มู่หรงเสวี่ยโทรหาพี่กู่

“ฮัลโหล คุณมู่หรง!”

“พี่กู่ วันนี้ว่างไหมคะ?! หลังจากเลิกงานแล้วพี่ช่วยรอฉันที่บริษัทก่อนได้ไหม?” เหตุผลที่เธอเลิกเวลาหลังเลิกงานก็เพื่อไม่อยากให้พวกพนักงานเดาเหตุการณ์ไปต่างๆนานาได้เอง

“โอเคครับ อยากให้ผมแจ้งเฉิงเฟยกับจื่อเหวินด้วยไหม? แต่วันนี้จื่อเหวินไม่ได้อยู่ในจังหวัดนะครับ…”

“ทำไมล่ะ พี่จื่อเหวินไปไหนเหรอ?” มู่หรงเสวี่ยถามอย่างสงสัย
“ดูเหมือนจะมีบางเรื่องที่จะต้องเข้าไปช่วยจัดการ ผมไม่เห็นเขามาสองวันแล้วนะ…” กู่หมิงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้แต่โม่จื่อเหวินก็มักจะโทรกลับมารายงานตลอด จึงเป็นเรื่องแปลกที่ป่านนี้แล้วก็ยังไม่มีการโทรเข้ามาเลยแบบนี้ เขาลองโทรหาแล้วแต่สายก็ไม่ว่างตลอดเลย

“งั้นพี่ไม่ต้องแจ้งพี่จื่อเหวินหรอก เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเจอพี่ที่บริษัทเอง”

หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยวางสาย เธอก็รีบกดโทรหาพี่จื่อเหวินทันทีและก็พบว่าปลายสายติดต่อไม่ได้

แต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอคิดเพียงแค่ว่าพี่จื่อเหวินคงจะแค่ยุ่งอยู่

ในตอนเย็นพนักงานต่างก็เลิกงานกลับบ้านกันแล้ว มู่หรงเสวี่ยและหลงอี้เข้าไปที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ป แล้วก็ตรงไปที่ชั้นบนสุดทันที

“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ…” มู่หรงเสวี่ยพูดกับกู่หมิงและลั่วเฉิงเฟยที่อยู่ในห้องทำงาน

“คนพวกนี้เป็นใครกัน?” กู่หมิงถามออกมาอย่างสงสัย

“พวกเขาเป็นเพื่อนฉันเอง!” มู่หรงเสวี่ยแนะนำพวกเขาพร้อมรอยยิ้ม แล้วหันมาหาหลงอี้และพูดว่า “พวกนายหาที่นั่งตามสบายเลยนะ ฉันจะประชุมหน่อย…”

หลงอี้และคนอื่นๆพยักหน้าและเดินไปนั่งโซฟาที่อยู่อีกฝั่ง

“พี่กู่ ฉันอยากจะตรวจสอบบัญชีการเงินหน่อย พี่ช่วยเอางบการเงินของแผนการขยายเขตชานเมืองจากครั้งที่แล้วมาให้ฉันดูทีได้ไหม…” เพราะเธอมีความสามารถในเรื่องความทรงจำ เธอจึงจำได้ว่างบก่อนหน้านี้และงบที่ถูกแบ่งไปให้สาขามีความแตกต่างกันอย่างมาก

“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ? มีอะไรหรือเปล่า?” พี่กู่ถามหลังจากที่ได้ฟังเรื่องนี้

“ฉันสงสัยว่าจะมีบางคนในแผนกการเงินที่ทำเรื่องไม่ถูกต้อง พี่ไปที่แผนกการเงินกับฉันก็ได้ หลงอี้นายมาช่วยด้วยนะ…” เธอเกือบที่จะลืมไปเลยว่ามีแรงงานที่ได้มาฟรีๆอยู่ด้วย

“เป็นไปไม่ได้ แผนกการเงินงั้นเหรอ?” กู่หมิงไม่อยากที่จะเชื่อ

“อะไรเป็นไปไม่ได้? ฉันบอกนายแล้วว่าผู้ชายคนนั้นในแผนกการเงินไม่ใช่คนดีเท่าไร…” ลั่วเฉิงเฟยพูดพร้อมทำปากบิดเบี้ยว

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่พวกเขาทั้งสองและพูดออกมา “โอเค ลองไปตรวจดูก่อน เป็นไปได้ที่น่าจะเจออะไรบ้าง…”

ในหัวใจของหลงอี้รู้สึกไม่พอใจเท่าไร เขาเป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาการนะ แล้วจะให้เขามาทำงานเล็กๆแบบนี้เนี่ยนะ นี่มันฆ่ากันชัดๆ เพราะในความคิดของเขามีสมาชิกของดราก้อนพาวิลเลี่ยนหลายคนที่เขาเป็นคนคัดเข้ามาเองกับมือด้วย

ทุกคนต่างก็ช่วยกันทำงานเพื่อที่จะหาข้อมูลอย่างหนัก แน่นอนมู่หรงเสวี่ยเร็วที่สุด เพราะความสามารถเรื่องความทรงจำของเธอ มู่หรงเสวี่ยจึงตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา กู่หมิงก็นั่งลงกับเก้าอี้ทำงานพร้อมสีหน้าที่รู้สึกผิดอย่างมาก มู่หรงถามออกไปเมื่อเห็นท่าทางของพี่กู่ “มีเรื่องอะไรเหรอ?” แม้ว่าฝ่ายการเงินจะยักยอกเงินจำนวนมากก็ตามแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอห่วงพี่ชายคนนี้น้อยลงเลย

“คุณมู่หรง ผมต้องขอโทษคุณด้วย…” มือที่เจ็บปวดของกู่หมิงปิดใบหน้าของเขาและพูดออกมาอย่างเจ็บปวด

ลั่วเฉิงเฟยถอนหายใจเล็กน้อยแล้วจึงพูดออกมา “ผู้จัดการแผนกการเงินเป็นญาติของเขา…”

มู่หรงเสวี่ยตกใจ ชั่วขณะหนึ่งเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร อย่างไรก็ตามเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวก็ต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน “พี่กู่ เรื่องนี้ฉันจะปล่อยให้พี่เป็นคนจัดการ ฉันไม่ถามเรื่องนี้อีก พี่รู้ว่าต้องทำยังไง!”

กู่หมิงเงยหน้าขึ้นมา “แต่เสี่ยวเสวี่ย ผู้ชายคนนี้เป็นน้องของผมนะ…”
“ไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นใคร พฤติกรรมของเขาละเมิดกฎหมายและก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากต่อบริษัท ฉันเชื่อใจพี่นะ พี่กู่” มู่หรงเสวี่ยเชื่อว่าพี่กู่เข้าใจดีว่าการปกป้องของเขามีแต่จะทำให้ลูกพี่ลูกน้องเขาถล้ำลึกในความผิดมากไปกว่านี้

ลั่วเฉิงเฟยเองก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของมู่หรงเสวี่ย ผู้ชายคนนั้นในแผนกการเงินทำตามใจตัวเองตลอดเวลาที่เขาเผลอ ซึ่งเขาไม่ค่อยพอใจเรื่องนี้มานานแล้ว

สุดท้ายมู่หรงเสวี่ยก็ตบไปที่ไหล่ของพี่กู่และเดินออกไป ในตอนนี้พี่กู่ต้องการเวลาที่จะคิดเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะต้องจัดการความผิดที่น้องชายตัวเองเป็นคนก่อขึ้นมา แต่มันก็เป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว

“หลงอี้ ขอบคุณนะ…” เมื่อขึ้นมาในรถเรียบร้อยมู่หรงที่นั่งอยู่ข้างๆมังกรก็พูดออกมา

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลังจากที่ผ่านมานานสุดท้ายเขาก็ได้ยินคุณมู่หรงบอกว่าขอบคุณ ความรู้สึกไม่พอใจทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจมลายหายไปจนหมดสิ้น ในตอนนี้เขาแกล้งทำเป็นตีหน้านิ่งและพูดออกไปว่า “เรื่องเล็กครับ…”

มู่หรงเสวี่ยหัวเราะและพูดออกมา “พรุ่งนี้เราจะกลับเมืองหลวงกัน” เธออยากที่จะเจอฮวงฟูอี้จริงๆ หลังจากที่ออกมานานขนาดนี้ เธอก็ได้รู้แล้วว่าตัวเองคิดถึงอ้อมกอดของฮวงฟูอี้มากแค่ไหน

“พรุ่งนี้เหรอครับ!!! ไม่ได้นะครับ” หลงอี้พูดขึ้นเสียงออกมา

“หลงอี้ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายไม่อยากให้ฉันกลับไปเมืองหลวงเลยล่ะ…” มู่หรงเสวี่ยมองอย่างสงสัยไปที่หลงอี้ที่มีท่าทีโอเวอร์

“อะไรกัน…ใช่ที่ไหนล่ะครับ?!” หลงอี้ตอบกลับมาพร้อมสีหน้าที่ไม่สบายใจเท่าไร

“งั้นบอกฉันมา ที่ฉันบอกว่าพรุ่งนี้ฉันจะกลับเมืองหลวง แล้วทำไมนายถึงบอกว่าไม่ได้…”

“คือ…คือ…” หลงอี้มองไปข้างหน้า แล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่ตอบคำถามอยู่นาน
สีหน้าของมู่หรงเปลี่ยนไปและลางสังหรณ์ไม่ดีก็แวบเข้ามาในหัวใจ “ที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยนมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?! หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับอี้?” เมื่อคิดถึงช่วงที่ผ่านมาที่ฮวงฟูอี้ไม่รับโทรศัพท์เลยก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

“เปล่า…เปล่าครับ…ไม่มีเรื่องอะไรเลย…” ดราก้อนลอร์ดสั่งเขาไว้ให้ถ่วงเวลาการกลับมาที่เมืองหลวงของคุณมู่หรง เขาบอกคุณมู่หรงไม่ได้ว่ามีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าดราก้อนมาสเตอร์เป็นอะไร

มู่หรงมองไปที่ท่าทางลังเลของมังกร แล้วสีหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด “ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้เลย เขาต้องเป็นอะไรแน่ๆเลยใช่ไหม?” มีเสียงร้องไห้เล็กน้อย

หลงอี้ตัวแข็งขึ้นมาทันที โอ้ ถ้าคุณมู่หรงร้องไห้ ดราก้อนมาสเตอร์จะต้องฆ่าเขาตายแน่ๆเลย เขาอธิบายออกไปด้วยความตื่นตระหนก “คุณมู่หรง คุณเข้าใจผิดแล้ว ดราก้อนมาสเตอร์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย!!!! ถ้าดราก้อนมาสเตอร์ได้รับอุบัติเหตุ ผมจะยังอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะครับ?!! จริงๆนะครับ ผมจะไม่โกหกคุณ ผมสาบานเลย”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 222 เกิดอะไรขึ้น

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 222 เกิดอะไรขึ้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 222 เกิดอะไรขึ้น

วันต่อมา มู่หรงเสวี่ยและผู้จัดการไปที่ดูที่ฐานการเกษตร มู่หรงเสวี่ยรู้สึกประหลาดใจกับฐานการเกษตรที่ถูกสร้างไว้อย่างดีมากๆ เธอตรวจพวกผักและพบว่ามันโตได้อย่างดีมาก สุดท้ายแล้วก็มีเรื่องที่ทำให้เธอพอใจขึ้นมาได้บ้าง

หลังจากตรวจสอบการดำเนินงานทั้งหมดของสาขาแล้ว มู่หรงเสวี่ยและคนอื่น ๆ ก็มีแผนที่จะเดินทางกลับ ส่วนเรื่องปัญหามากมายที่ตรวจพบ มู่หรงเสวี่ยไม่ได้แจ้งเรื่องการจัดสรรทางการเงินกับสำนักงานใหญ่โดยตรง แต่กลับดึงเงินทุนส่วนตัวของตัวเองออกมาและบอกให้ผู้จัดการเอาไปซ่อมแซมโรงงาน นอกจากนี้เธอยังบอกให้ผู้จัดการเขียนรายงานเรื่องการรับสมัครพนักงานซึ่งจะถูกส่งมาจากสำนักงานใหญ่ให้เธอด้วย

ส่วนเหตุผลที่เธอไม่บอกให้แผนกการเงินของสำนักงานใหญ่โอนเงินมาโดยตรงในตอนนี้เพราะเธอสงสัยว่าจะมีบางคนในสำนักงานใหญ่ทำเรื่องที่ไม่ถูกต้อง ดังนั้นเธอจึงมีแผนที่จะเข้าไปตรวจสอบเอง

เวลาผ่านไปครึ่งเดือนแล้วแต่ฮวงฟูอี้ก็ยังไม่ติดต่อเธอมาเลย

แต่มู่หรงเสวี่ยรู้ดีว่าตอนนี้ฮวงฟูอี้สุขภาพแข็งแรงดีแล้วเพราะดูเหมือนว่าหลงอี้ยังคงต้องรายงานเรื่องงานกับฮวงฟูอี้อยู่ทุกวัน

แล้วทำไมกันล่ะ?! ทำไมถึงไม่รับสายเธอเลย

ถึงแม้เขาจะเบื่อหรืออยากที่จะเลิกกับเธอ เขาก็ควรที่จะพูดให้ชัดเจนไม่ใช่หรือไง?!! ทำไมถึงต้องหลบหน้าเธอแบบนี้ด้วย

ในหัวใจรู้สึกสับสนขึ้นมาทันที ความเจ็บปวดแวบขึ้นมาชั่วขณะแต่มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่อะไร ถึงแม้จะต้องอกหักแต่เธอก็เชื่อว่าตัวเองจะยังสามารถที่จะยืนหยัดอยู่ได้

หลังจากที่กลับมาที่จังหวัดA มู่หรงเสวี่ยไม่ได้ไปที่สำนักงานใหญ่ในทันที แต่เธอกลับแวะไปที่บ้านมู่หรงแทน ถึงแม้พ่อแม่เธอจะไม่อยู่แต่เธอก็อยากที่จะแวะไปที่ห้องของพวกท่าน
“คุณหนู!” ป้าหวู่เห็นมู่หรงเสวี่ยจึงรีบวิ่งเข้ามาหาทันที เธอค่อนข้างที่จะแก่แล้วและเป็นห่วงมากด้วย

มู่หรงเสวี่ยทำได้เพียงส่งรอยยิ้มเกร็งๆและพูดออกไปว่า “ป้าหวู่ ไม่ต้องห่วงนะคะ เดี๋ยวคุณพ่อกับคุณแม่ก็กลับมาค่ะ ไม่ต้องเตรียมอาหารให้หนูนะคะ หนูอยากที่จะไปอยู่ในห้องคุณพ่อกับคุณแม่หน่อยแล้วก็ไม่ต้องเรียกหนูด้วยนะคะ ส่วนคนพวกนี้เป็นเพื่อนหนูเองค่ะ รบกวนป้าหวู่ช่วยดูแลพวกเขาทีนะคะ…” มู่หรงเสวี่ยชี้ไปที่คนของหลงอี้และต่างก็แนะนำทั้งสองฝ่ายให้รู้จักกัน แล้วเธอก็เดินขึ้นไปชั้นบน

เธอคิดถึงพ่อกับแม่อย่างมากจนนอนไม่หลับเลย เธอเป็นห่วงว่าพ่อกับแม่จะไปเจอเรื่องอันตรายตอนที่พวกท่านเข้าไปในสถานที่แปลกๆ เธอจะต้องหาวิธีให้ได้อย่างเร็วที่สุด

มู่หรงเสวี่ยรู้สึกคุ้นเคยกับการตกแต่งในห้องและดวงตาของเธอก็เริ่มที่จะแดงเล็กน้อย หลังจากเวลาผ่านไปนานสุดท้ายหยดน้ำตาก็ไหลออกมา

มีหลายครั้งที่เธออยากจะก้าวเข้าไปในหลุมดำหลากสีเพื่อที่จะตามหาพ่อกับแม่ แต่เธอก็กลัวว่าจะต้องสูญเสียโอกาสเดียวที่จะช่วยพ่อกับแม่ถ้าเธอเข้าไป มันจะต้องมีวิธีสิ!!!

เธอเชื่อมั่นมาตลอดว่าหากผู้เป็นอมตะมอบเครื่องมืออมตะเช่นนี้มาเพื่อขอบคุณบรรพบุรุษของเธอ งั้นมันก็ไม่น่าจะเป็นอันตรายได้สิ

มู่หรงเสวี่ยโทรหาพี่กู่

“ฮัลโหล คุณมู่หรง!”

“พี่กู่ วันนี้ว่างไหมคะ?! หลังจากเลิกงานแล้วพี่ช่วยรอฉันที่บริษัทก่อนได้ไหม?” เหตุผลที่เธอเลิกเวลาหลังเลิกงานก็เพื่อไม่อยากให้พวกพนักงานเดาเหตุการณ์ไปต่างๆนานาได้เอง

“โอเคครับ อยากให้ผมแจ้งเฉิงเฟยกับจื่อเหวินด้วยไหม? แต่วันนี้จื่อเหวินไม่ได้อยู่ในจังหวัดนะครับ…”

“ทำไมล่ะ พี่จื่อเหวินไปไหนเหรอ?” มู่หรงเสวี่ยถามอย่างสงสัย
“ดูเหมือนจะมีบางเรื่องที่จะต้องเข้าไปช่วยจัดการ ผมไม่เห็นเขามาสองวันแล้วนะ…” กู่หมิงพูดด้วยน้ำเสียงเป็นกังวลเล็กน้อย ก่อนหน้านี้ก็เคยมีเหตุการณ์แบบนี้แต่โม่จื่อเหวินก็มักจะโทรกลับมารายงานตลอด จึงเป็นเรื่องแปลกที่ป่านนี้แล้วก็ยังไม่มีการโทรเข้ามาเลยแบบนี้ เขาลองโทรหาแล้วแต่สายก็ไม่ว่างตลอดเลย

“งั้นพี่ไม่ต้องแจ้งพี่จื่อเหวินหรอก เดี๋ยวฉันจะเข้าไปเจอพี่ที่บริษัทเอง”

หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยวางสาย เธอก็รีบกดโทรหาพี่จื่อเหวินทันทีและก็พบว่าปลายสายติดต่อไม่ได้

แต่เธอก็ไม่ได้คิดมากอะไรเกี่ยวกับเรื่องนี้ เธอคิดเพียงแค่ว่าพี่จื่อเหวินคงจะแค่ยุ่งอยู่

ในตอนเย็นพนักงานต่างก็เลิกงานกลับบ้านกันแล้ว มู่หรงเสวี่ยและหลงอี้เข้าไปที่สำนักงานใหญ่ของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ป แล้วก็ตรงไปที่ชั้นบนสุดทันที

“ขอโทษที่ทำให้รอนะคะ…” มู่หรงเสวี่ยพูดกับกู่หมิงและลั่วเฉิงเฟยที่อยู่ในห้องทำงาน

“คนพวกนี้เป็นใครกัน?” กู่หมิงถามออกมาอย่างสงสัย

“พวกเขาเป็นเพื่อนฉันเอง!” มู่หรงเสวี่ยแนะนำพวกเขาพร้อมรอยยิ้ม แล้วหันมาหาหลงอี้และพูดว่า “พวกนายหาที่นั่งตามสบายเลยนะ ฉันจะประชุมหน่อย…”

หลงอี้และคนอื่นๆพยักหน้าและเดินไปนั่งโซฟาที่อยู่อีกฝั่ง

“พี่กู่ ฉันอยากจะตรวจสอบบัญชีการเงินหน่อย พี่ช่วยเอางบการเงินของแผนการขยายเขตชานเมืองจากครั้งที่แล้วมาให้ฉันดูทีได้ไหม…” เพราะเธอมีความสามารถในเรื่องความทรงจำ เธอจึงจำได้ว่างบก่อนหน้านี้และงบที่ถูกแบ่งไปให้สาขามีความแตกต่างกันอย่างมาก

“มีเรื่องอะไรงั้นเหรอ? มีอะไรหรือเปล่า?” พี่กู่ถามหลังจากที่ได้ฟังเรื่องนี้

“ฉันสงสัยว่าจะมีบางคนในแผนกการเงินที่ทำเรื่องไม่ถูกต้อง พี่ไปที่แผนกการเงินกับฉันก็ได้ หลงอี้นายมาช่วยด้วยนะ…” เธอเกือบที่จะลืมไปเลยว่ามีแรงงานที่ได้มาฟรีๆอยู่ด้วย

“เป็นไปไม่ได้ แผนกการเงินงั้นเหรอ?” กู่หมิงไม่อยากที่จะเชื่อ

“อะไรเป็นไปไม่ได้? ฉันบอกนายแล้วว่าผู้ชายคนนั้นในแผนกการเงินไม่ใช่คนดีเท่าไร…” ลั่วเฉิงเฟยพูดพร้อมทำปากบิดเบี้ยว

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่พวกเขาทั้งสองและพูดออกมา “โอเค ลองไปตรวจดูก่อน เป็นไปได้ที่น่าจะเจออะไรบ้าง…”

ในหัวใจของหลงอี้รู้สึกไม่พอใจเท่าไร เขาเป็นหัวหน้าผู้บังคับบัญชาการนะ แล้วจะให้เขามาทำงานเล็กๆแบบนี้เนี่ยนะ นี่มันฆ่ากันชัดๆ เพราะในความคิดของเขามีสมาชิกของดราก้อนพาวิลเลี่ยนหลายคนที่เขาเป็นคนคัดเข้ามาเองกับมือด้วย

ทุกคนต่างก็ช่วยกันทำงานเพื่อที่จะหาข้อมูลอย่างหนัก แน่นอนมู่หรงเสวี่ยเร็วที่สุด เพราะความสามารถเรื่องความทรงจำของเธอ มู่หรงเสวี่ยจึงตรวจสอบได้อย่างรวดเร็ว

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา กู่หมิงก็นั่งลงกับเก้าอี้ทำงานพร้อมสีหน้าที่รู้สึกผิดอย่างมาก มู่หรงถามออกไปเมื่อเห็นท่าทางของพี่กู่ “มีเรื่องอะไรเหรอ?” แม้ว่าฝ่ายการเงินจะยักยอกเงินจำนวนมากก็ตามแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอห่วงพี่ชายคนนี้น้อยลงเลย

“คุณมู่หรง ผมต้องขอโทษคุณด้วย…” มือที่เจ็บปวดของกู่หมิงปิดใบหน้าของเขาและพูดออกมาอย่างเจ็บปวด

ลั่วเฉิงเฟยถอนหายใจเล็กน้อยแล้วจึงพูดออกมา “ผู้จัดการแผนกการเงินเป็นญาติของเขา…”

มู่หรงเสวี่ยตกใจ ชั่วขณะหนึ่งเธอไม่รู้ว่าจะพูดอะไร อย่างไรก็ตามเรื่องงานและเรื่องส่วนตัวก็ต้องแยกออกจากกันให้ชัดเจน “พี่กู่ เรื่องนี้ฉันจะปล่อยให้พี่เป็นคนจัดการ ฉันไม่ถามเรื่องนี้อีก พี่รู้ว่าต้องทำยังไง!”

กู่หมิงเงยหน้าขึ้นมา “แต่เสี่ยวเสวี่ย ผู้ชายคนนี้เป็นน้องของผมนะ…”
“ไม่สำคัญว่าเขาจะเป็นใคร พฤติกรรมของเขาละเมิดกฎหมายและก่อให้เกิดความสูญเสียอย่างมากต่อบริษัท ฉันเชื่อใจพี่นะ พี่กู่” มู่หรงเสวี่ยเชื่อว่าพี่กู่เข้าใจดีว่าการปกป้องของเขามีแต่จะทำให้ลูกพี่ลูกน้องเขาถล้ำลึกในความผิดมากไปกว่านี้

ลั่วเฉิงเฟยเองก็เห็นด้วยกับการตัดสินใจของมู่หรงเสวี่ย ผู้ชายคนนั้นในแผนกการเงินทำตามใจตัวเองตลอดเวลาที่เขาเผลอ ซึ่งเขาไม่ค่อยพอใจเรื่องนี้มานานแล้ว

สุดท้ายมู่หรงเสวี่ยก็ตบไปที่ไหล่ของพี่กู่และเดินออกไป ในตอนนี้พี่กู่ต้องการเวลาที่จะคิดเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องยากมากที่เขาจะต้องจัดการความผิดที่น้องชายตัวเองเป็นคนก่อขึ้นมา แต่มันก็เป็นหนทางที่ดีที่สุดแล้ว

“หลงอี้ ขอบคุณนะ…” เมื่อขึ้นมาในรถเรียบร้อยมู่หรงที่นั่งอยู่ข้างๆมังกรก็พูดออกมา

นี่ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย หลังจากที่ผ่านมานานสุดท้ายเขาก็ได้ยินคุณมู่หรงบอกว่าขอบคุณ ความรู้สึกไม่พอใจทั้งหมดที่อยู่ในหัวใจมลายหายไปจนหมดสิ้น ในตอนนี้เขาแกล้งทำเป็นตีหน้านิ่งและพูดออกไปว่า “เรื่องเล็กครับ…”

มู่หรงเสวี่ยหัวเราะและพูดออกมา “พรุ่งนี้เราจะกลับเมืองหลวงกัน” เธออยากที่จะเจอฮวงฟูอี้จริงๆ หลังจากที่ออกมานานขนาดนี้ เธอก็ได้รู้แล้วว่าตัวเองคิดถึงอ้อมกอดของฮวงฟูอี้มากแค่ไหน

“พรุ่งนี้เหรอครับ!!! ไม่ได้นะครับ” หลงอี้พูดขึ้นเสียงออกมา

“หลงอี้ ทำไมฉันถึงรู้สึกว่านายไม่อยากให้ฉันกลับไปเมืองหลวงเลยล่ะ…” มู่หรงเสวี่ยมองอย่างสงสัยไปที่หลงอี้ที่มีท่าทีโอเวอร์

“อะไรกัน…ใช่ที่ไหนล่ะครับ?!” หลงอี้ตอบกลับมาพร้อมสีหน้าที่ไม่สบายใจเท่าไร

“งั้นบอกฉันมา ที่ฉันบอกว่าพรุ่งนี้ฉันจะกลับเมืองหลวง แล้วทำไมนายถึงบอกว่าไม่ได้…”

“คือ…คือ…” หลงอี้มองไปข้างหน้า แล้วหันมองออกไปนอกหน้าต่างโดยไม่ตอบคำถามอยู่นาน
สีหน้าของมู่หรงเปลี่ยนไปและลางสังหรณ์ไม่ดีก็แวบเข้ามาในหัวใจ “ที่ดราก้อนพาวิลเลี่ยนมีเรื่องอะไรหรือเปล่า?! หรือมีเรื่องอะไรเกิดขึ้นกับอี้?” เมื่อคิดถึงช่วงที่ผ่านมาที่ฮวงฟูอี้ไม่รับโทรศัพท์เลยก็ทำให้เธอรู้สึกไม่สบายใจขึ้นมา

“เปล่า…เปล่าครับ…ไม่มีเรื่องอะไรเลย…” ดราก้อนลอร์ดสั่งเขาไว้ให้ถ่วงเวลาการกลับมาที่เมืองหลวงของคุณมู่หรง เขาบอกคุณมู่หรงไม่ได้ว่ามีเพียงพระเจ้าเท่านั้นที่รู้ว่าดราก้อนมาสเตอร์เป็นอะไร

มู่หรงมองไปที่ท่าทางลังเลของมังกร แล้วสีหน้าเธอก็เปลี่ยนเป็นซีดเผือด “ฉันจะกลับเดี๋ยวนี้เลย เขาต้องเป็นอะไรแน่ๆเลยใช่ไหม?” มีเสียงร้องไห้เล็กน้อย

หลงอี้ตัวแข็งขึ้นมาทันที โอ้ ถ้าคุณมู่หรงร้องไห้ ดราก้อนมาสเตอร์จะต้องฆ่าเขาตายแน่ๆเลย เขาอธิบายออกไปด้วยความตื่นตระหนก “คุณมู่หรง คุณเข้าใจผิดแล้ว ดราก้อนมาสเตอร์ไม่ได้เกี่ยวอะไรกับเรื่องนี้เลย!!!! ถ้าดราก้อนมาสเตอร์ได้รับอุบัติเหตุ ผมจะยังอยู่ที่นี่ได้ยังไงล่ะครับ?!! จริงๆนะครับ ผมจะไม่โกหกคุณ ผมสาบานเลย”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+