ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 33 เปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเสี่ยวเข่อลี่

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 33 เปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเสี่ยวเข่อลี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 33
เปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเสี่ยวเข่อลี่

ช่วงเวลาที่คุยกันอย่างมีความสุขผ่านไปแล้ว
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของจางเข่อเหรินก็ดังขึ้นมาและทุกคนก็เงียบลง
สีหน้าของจางเข่อเหรินเปลี่ยนไปในทันที “โอเค…ฉันจะไปที่นั่นทันที…โอเค…”

ตอนที่นั่งอยู่ด้วยกันแล้วแม่เธอรับโทรศัพท์ มู่หรงเสวี่ยก็เดาได้อยู่แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเกือบจะถึงเวลาที่เสี่ยวเข่อลี่จะมาบอกแม่เธอแล้วว่าเธอเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้แม่ของเธอจะไม่ใช่ผู้ปกครองของเสี่ยวเข่อลี่ แต่พ่อแม่ของเสี่ยวเข่อลี่ตายหมดแล้ว ตอนนี้เสี่ยวเข่อลี่อยู่ในบ้านของมู่หรงและคนที่ เสี่ยวเข่อลี่ ลักพาตัวไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นเธอเอง เธอจะต้องบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เธอ

จางเข่อเหรินเดินเข้ามาหามู่หรงเสวี่ย มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วจึงถามออกมา “เสี่ยวเสวี่ย เกิดอะไรขึ้น? เสี่ยวเข่อลี่ เด็กนั่นบอกว่าลูกถูกลักพาตัวและขังไว้โดยพวกโจรห้าคน แต่ลูกอยู่ที่นี่นี่? เกิดอะไรขึ้นลูกรู้หรือเปล่า?”

มู่หรงเฟิงหัวตกใจมาก “อะไรนะ?! ลักพาตัวเหรอ?”

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่โม่จื่อเหวินและพูดออกมา “พี่จื่อเหวิน พี่เปิดเครื่องบันทึกเสียงของเราได้เลย พ่อกับแม่จะได้รู้เรื่อง”

โม่จื่อเหวินพยักหน้าและเปิดโทรศัพท์เพื่อเล่นที่บันทึกเสียงมา

“ผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเข่อลี่ เธอขอให้พวกเราลักพาตัวคุณมู่หรง…”

หลังจากที่ได้ฟังบทสนทนาก็ไม่มีอย่างอื่นที่จะเข้าใจได้อีก

จางเข่อเหรินคิดว่าเธอคิดมากไปเองที่ไม่ชอบเสี่ยวเข่อลี่ แต่เสี่ยวเข่อลี่ก็ได้ทุกอย่างเหมือนกับเสี่ยวเสวี่ยในเรื่องของเสื้อผ้า, อาหาร,ที่อยู่หรือแม้แต่การเดินทาง เธอเป็นคนเลี้ยงเสี่ยวเข่อลี่มากับมือเองเลย ถ้าโม่จื่อเหวินไปช่วยลูกสาวเธอไม่ทัน ตอนนี้ก็คงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเสวี่ย

“เสี่ยวเข่อลี่นี่กล้ามากจริงๆ แม่รู้ว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดาๆแต่ไม่คิดว่าเธอจะโหดร้ายขนาดนี้ทั้งๆที่อายุยังน้อย”

มู่หรงเฟิงหัวโกรธอย่างมาก เด็กสาวนั่นกล้าที่จะทำร้ายลูกสาวของมู่หรงเฟิงหัว “เสี่ยวเสวี่ย ลูกจะทำยังไง?! พ่อพร้อมเสมอเพื่อลูกนะ”

โม่จื่อเหวินรออย่างเงียบๆอยู่ที่ด้านข้าง เขากำลังรอคำสั่งของมู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยคิดอยู่สักพักพร้อมทั้งกัดปากไปด้วย ถึงแม้เธออยากที่จะปล่อยให้เสี่ยวเข่อลี่ถูกขังไปตลอดชีวิตแต่ถึงแม้ตระกูลมู่หรงจะไม่ประกันตัวเสี่ยวเข่อลี่ เสี่ยวเข่อลี่ก็ยังออกมาได้อยู่ดี ในความทรงจำของเธอเสี่ยวเข่อลี่มีคนคอยสนับสนุนและก็มีเยอะด้วย เสี่ยวเข่อลี่มักจะได้รับความช่วยเหลือในเรื่องการจัดการปัญหาใหญ่ๆเสมอ อย่างไรก็ตามเธอก็ยังหาอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเสี่ยวเข่อลี่ไม่ได้จนกระทั่งเธอตายซะก่อน ในเหตุการณ์นี้จะปล่อยให้ตระกูลมู่หรงมารับโทษกับเรื่องนี้ได้ยังไง

หลังจากที่ญาติของเธอสารภาพ ตระกูลมู่หรงก็คงจะสงสารและมองว่าเสี่ยวเข่อลี่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เพราะหล่อนยังเด็กและพ่อแม่ของเสี่ยวเข่อลี่ก็ตายหมดแล้ว ตราบใดที่เสี่ยวเข่อลี่มาสารภาพกับเธอว่าทำผิดพลาด ตระกูลมู่หรงก็พร้อมที่จะให้โอกาสเสี่ยวเข่อลี่ได้เริ่มใหม่และส่งไปเรียนต่างประเทศ

ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ! เสี่ยวเข่อลี่ยังไม่บรรลุนิติภาวะดังนั้นจึงถูกตัดสินแบบผู้ใหญ่ไม่ได้ เธอจะไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ตระกูลมู่หรง

“พ่อคะ แม่คะ ไปรับเข่อลี่กลับมา” หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว มู่หรงเสวี่ยก็พูดออกไปทันที กลุ่มคนจ้องตรงมาที่ มู่หรงเสวี่ยทันที นี่มันใจดีไปหรือเปล่า?! ลูกสาวที่รักของเธอใจดีเกินไป ตอนนี้เธอมีแผนที่จะปล่อยเสี่ยวเข่อลี่ไปโดยไม่พูดอะไรเลย แม่หนูนี่อยากจะแก้ไขอะไรหรือเปล่า? ยังไงซะมันก็ใจดีเกินไป เมื่อเขาและภรรยาแก่ตัวลงก็จะปกป้องเธอไม่ได้อีก แบบนั้นเสี่ยวเสวี่ยจะไม่ถูกรังแกจนตายงั้นเหรอ?!!!

มู่หรงเฟิงหัวคิดเหมือนกับจางเข่อเหริน ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ลูกสาวของเขาใจอ่อนขนาดนี้! มู่หรงเสวี่ยรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมาที่เธอ นี่เธอพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ?!! ด้วยสีหน้าที่แสดงถึงการตัดสินใจที่แน่นอนแล้ว

โม่จื่อเหวินมองท่าทางที่น่ารักนี้และคิดว่าไม่ว่า มู่หรงเสวี่ยจะตัดสินใจอย่างไร เธอก็คงจะมีเหตุผลของตัวเองแน่ๆ จากวิธีที่เธอจัดการกับพวกโจรเมื่อวาน เขาก็รู้ได้เลยว่ามู่หรงเสวี่ยไม่ใช่คนโง่และจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอได้ตามอำเภอใจ เขาคิดว่ามันคงยังมีเรื่องอื่นที่ต้องคิดอีก

โม่จื่อหลินออกไปเล่นกับป้าหวู่ก่อนที่พวกเขาจะคุยกันเรื่องนี้ เขาอ่อนแอและพวกเขาไม่สามารถทนให้ดวงตาที่บริสุทธิ์ต้องมาเห็นเรื่องสกปรกแบบนี้ได้

จางเข่อเหรินกังวลเมื่อคิดถึงชีวิตที่น่าสงสารของลูกสาวเมื่อพวกเขาแก่ตัวลง “เสี่ยวเสวี่ย เสี่ยวเข่อลี่ทำร้ายลูกอย่างมากเลยนะ แล้วลูกจะปล่อยให้เธอลอยนวลไปงั้นเหรอ? ลูกไม่อยากให้เส้นสายของตระกูลมู่หรงไปต้อนรับเสี่ยวเข่อลี่ในคุกหน่อยเหรอ?”

ตอนนี้ทุกคนจ้องมาที่จางเข่อเหริน
มู่หรงเฟิงหัวหัวเราะออกมาเป็นคนแรก ภรรยาของเขา อ่า ช่างอ่อนไหวจริงๆ แล้วแบบนี้เขาจะไม่รักเธอได้ยังไง!

มู่หรงเสวี่ยมองมาที่แม่ของเธออย่างพูดอะไรไม่ออกแต่ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงมีท่าทางแบบนั้นตอนที่เธอบอกว่าจะปล่อยเสี่ยวเข่อลี่ไป แม่คิดว่าเธอใจดีเกินไป เธอเดาว่าพ่อกับแม่คงไม่เข้าใจสิ่งที่เธอหมายถึง

เธอควรจะทำยังไงดี? หัวใจเธออบอุ่นไปหมด! มันช่างอบอุ่นจริงๆ ครอบครัวที่รักของเธอ! แล้วเธอจะปล่อยให้ เสี่ยวเข่อลี่ เข้ามายุ่งในชีวิตเธอได้ยังไง

มู่หรงเสวี่ยทำปากขยุกขยิก เธอดูเหมือนคนโง่จริงๆ! ในชีวิตที่แล้วเธอนี่โง่จริงๆ “พ่อคะ แม่คะ คือหนูมีวิธีอื่นที่จะจัดการกับเสี่ยวเข่อลี่ พ่อกับแม่สบายใจได้”
มู่หรงเฟิงหัวฟังซึ่งก็ยังไม่เข้าใจ แต่ลูกสาวของมู่หรงเฟิงหัวไม่ใช่คนอ่อนแอจึงพยักหน้าอย่างมีความสุข “ฮ่าฮ่า! นี่สิลูกสาวพ่อ”

จางเข่อเหรินไม่สนใจเรื่องพวกนั้น ตราบใดที่ลูกสาวเธอไม่ถูกรังแกง่ายๆ “โอเค แม่จะไปรับแม่เด็กโหดเหี้ยมคนนั้นเอง” จางเข่อเหรินลุกขึ้นหยิบกระเป๋าอย่างวางท่าและพร้อมที่จะไปเจอแม่เด็กสาวไร้หัวใจแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเคยดีกับเสี่ยวเข่อลี่เธอจะพยายามไม่ทำอะไรให้ต่างไปจากเดิม แต่ที่คาดไม่ถึงคือเธอเป็นหมาป่าสาว เสี่ยวเข่อลี่กล้ามาทำร้ายลูกน้อยของเธอ ถึงแม้เธอจะไม่เห็นด้วยที่เสี่ยวเสวี่ยบอกว่าจะปล่อยเสี่ยวเข่อลี่ไปแต่เธอก็ทำอย่างอื่นได้ใช่ไหม?!

มู่หรงเฟิงหัวเสนอตัวที่จะขับรถไปส่งเธออย่างกับเป็นเด็กเล็กๆแต่เธอก็ปฏิเสธไป เธอจึงให้คนขับรถไปส่งที่สถานีตำรวจที่เสี่ยวเข่อลี่อยู่ในเมือง B เสี่ยวเข่อลี่ทำตัวเอง เธอควรจะวางตัวแบบไหน เธอมีความคิดอยู่ในใจแล้ว

ผู้กำกับฟางแห่งสถานีตำรวจเขตคือชายอายุประมาณ 50 พร้อมใบหน้าที่เป็นมิตร เขาได้รับแจ้งข่าวเมื่อเช้าและได้ตรวจสอบตัวตนและสถานะของเสี่ยวเข่อลี่แล้ว เพราะรู้จักกันเป็นพิเศษ เขาไม่ได้ทำให้เด็กสาวอับอายตอนที่เขาสอบสวน เมื่อได้รู้ว่าภรรยาของมู่หรงเฟิงหัวจะมา เขาก็อยู่รอโดยไม่ไปไหน โดยไม่ทำให้เป็นที่สงสัยมากนักจางเข่อเหรินจึงบอกให้คนขับรถรอเธออยู่ในรถ และเธอจะเดินเข้าไปในสถานีคนเดียว
“คุณนายมู่หรง เป็นยังไงบ้างครับ? ผมเป็นผู้กำกับของสถานีนี้ เชิญทางนี้เลยครับ” ผู้กำกับฟางกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม แม้เขาไม่จำเป็นต้องทักทายด้วยความอ่อนน้อม แต่บางคนก็อยู่ในสถานะที่สามารถจะแสดงอาการแบบนี้ได้ ตัวอย่างเช่นผู้หญิงสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าเขาที่ไม่สนใจอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงรีบนำทางเธอไป

“สวัสดีค่ะ ผู้กำกับฟาง ขอร้องเถอะค่ะฉันกำลังรีบไม่มีเวลามานั่งเล่น เสี่ยวเข่อลี่อยู่ที่ไหนคะ?” สายตาของจางเข่อเหรินมองผู้กำกับฟางอย่างพอใจ เขาสุภาพและไม่ประจบประแจง เสี่ยวเข่อลี่ถูกขังอยู่ในห้องสอบสวนสำหรับผู้เยาว์และกันให้เฉพาะญาติเท่านั้นที่เข้าไปได้

ทันทีที่เสี่ยวเข่อลี่เห็นจางเข่อเหรินกำลังเดินเข้ามา เธอก็ลงไปนั่งคุกเข่าและร้องไห้เป็นเผาเต่าทันที ดวงตาที่กลมโตของเธอทั้งแดงและบวม และผมของเธอก็ออกจะยุ่งเหยิงซึ่งเพิ่มความน่ารักเข้าไปอีก ถ้าจางเข่อเหรินไม่รู้ความจริงก็คงไม่เชื่อว่าเด็กสาวน่ารักแบบนี้จะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ “คุณป้าคะ! ไม่ใช่หนูนะคะ หนูไม่ได้ทำ หนูถูกใส่ร้าย…”

สีหน้าของจางเข่อเหรินที่มองหลานสาวดูเยือกเย็น จริงๆแล้วเธอต้องเป็นคนดูแลเสี่ยวเข่อลี่ ถึงแม้เธอจะไม่ชอบเด็กสาวเท่าไรและเพราะพวกเธอเป็นป้าหลานกัน แล้วเธอจะปล่อยทิ้งเสี่ยวเข่อลี่ได้ยังไง แต่เด็กสาวคนนี้ก็ไม่ควรมาทำร้ายลูกสาวของเธอ
“บอกฉันมาสิ ว่าคนอื่นใส่ร้ายเธอยังไง? ว่าไง?” น้ำเสียงเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ

เสี่ยวเข่อลี่ลุกลี้ลุกลน เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างถูกวางแผนไว้ แต่เมื่อเช้าตอนที่เธอไปหาชายหน้าบาก เธอก็พบว่าพวกเขาทั้งหมดถูกมัดไว้กับเสา ในตอนนั้นเธอรู้สึกแย่มากจึงหันหลังกลับและอยากที่จะหนีไป แต่ก่อนที่เธอจะไปถึงประตูก็มีพวกการ์ดมาล้อมรอบเธอไว้แล้ว

อะไรนะ?! แม้แต่ผู้กำกับฟางที่ได้รับรายงานมาอย่างดีก็ยังรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้ยังเด็กและเต็มไปด้วยแผนการ

ตอนที่เขาไปถึงที่เกิดเหตุเมื่อเช้านี้ เด็กสาวเพิ่งจะวิ่งออกมาจากโกดังรกร้าง สีหน้าเธอหวาดกลัวและร้องให้ช่วย “ช่วยด้วย! ข้างในมีพวกโจรที่อยากจะลักพาตัวฉัน…”

ถ้าเขาไม่ได้รับเทปบันทึกเสียงที่เป็นหลักฐานเมื่อเช้านี้ เขาก็คงจะคิดว่าเด็กสาวคนนี้ถูกพวกโจรจับตัวมาแน่ๆและสีหน้าของเธอก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลยด้วย เขาสั่งให้จับกุมเธอด้วยใบหน้าที่เย็นชา

เดี๋ยวนี้เด็กๆโหดร้ายขนาดนี้ได้ยังไง

ผู้กำกับฟางถอนหายใจเบาๆและไม่ได้พูดอะไร ไม่ช้าก็เร็วเด็กนั่นจะต้องถูกปล่อยตัว คำพิพากษาของผู้เยาว์จะถูกดีเลย์ออกไป

เสี่ยวเข่อลี่ร้องไห้อย่างแปลกใจ ร้องไห้อย่างน่าสงสาร “คุณป้า หนูไม่รู้จริงๆนะคะ เมื่อเช้าอยู่ดีๆหนูก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าเสี่ยวเสวี่ยถูกลักพาตัวและบอกให้หนูไปที่โกดังรกร้าง ทันทีที่หนูได้ยินหนูก็กังวลมากจึงรีบออกไปทันที หนูไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณป้า…” ในตอนนี้เสี่ยวเข่อลี่ไม่คิดว่าจะมีเทปบันทึกเสียง

เสี่ยวเข่อลี่ยิ่งร้องไห้มากขึ้นไปอีก ทั้งเสียง ทั้งน้ำตา จางเข่อเหรินแอบคิดในใจว่า: แสดงได้ดีมาก!

จางเข่อเหรินที่รู้สึกว่าได้เห็นมาพอแล้ว ในที่สุดก็พูดออกมาอย่างเหลืออด “พอได้แล้ว นี่มันอะไรกันเนี่ย?”

จางเข่อเหรินหยิบเทปบันทึกเสียงที่โม่จื่อเหวินให้เธอมาและกดปุ่มเปิด

ทุกประโยคในเทปบันทึกเสียงชัดเจนมาก โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายพร้อมทั้งเสียงหัวเราะดังลั่นก็ได้ยินอย่างชัดเจน
จบแล้ว!
เสี่ยวเข่อลี่ถึงกับหน้าซีดและทรุดลงไปกับพื้น น้ำตาของเธอยังค้างอยู่ในตา ร่างทั้งร่างดูเหมือนจะไร้สติอย่างห้ามไม่ได้ “มีอะไรจะพูดอีกไหม? แม่หลานสาว “แสนดี” ของป้า ฉันกล้าพูดเลยว่าตระกูลมู่หรงดูแลเธออย่างดี เธอทำแบบนี้ทำไม?” จางเข่อเหรินไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมเสี่ยวเข่อลี่ถึงทำแบบนี้

เสี่ยวเข่อลี่โง่หรือไง?!! ไม่เลย ในความคิดของจางเข่อเหริน เสี่ยวเข่อลี่ฉลาดอย่างมาก เธอต้องการการปกป้องดูแลจากตระกูลมู่หรง แล้วเธอโง่ขนาดนี้จนทำเรื่องที่จะทำให้ตระกูล มู่หรงเสื่อมเสียได้ยังไง?!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 33 เปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเสี่ยวเข่อลี่

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 33 เปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเสี่ยวเข่อลี่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 33
เปิดโปงใบหน้าที่แท้จริงของเสี่ยวเข่อลี่

ช่วงเวลาที่คุยกันอย่างมีความสุขผ่านไปแล้ว
ทันใดนั้นโทรศัพท์ของจางเข่อเหรินก็ดังขึ้นมาและทุกคนก็เงียบลง
สีหน้าของจางเข่อเหรินเปลี่ยนไปในทันที “โอเค…ฉันจะไปที่นั่นทันที…โอเค…”

ตอนที่นั่งอยู่ด้วยกันแล้วแม่เธอรับโทรศัพท์ มู่หรงเสวี่ยก็เดาได้อยู่แล้วว่ามันเกิดอะไรขึ้น มันเกือบจะถึงเวลาที่เสี่ยวเข่อลี่จะมาบอกแม่เธอแล้วว่าเธอเกิดอุบัติเหตุ ถึงแม้แม่ของเธอจะไม่ใช่ผู้ปกครองของเสี่ยวเข่อลี่ แต่พ่อแม่ของเสี่ยวเข่อลี่ตายหมดแล้ว ตอนนี้เสี่ยวเข่อลี่อยู่ในบ้านของมู่หรงและคนที่ เสี่ยวเข่อลี่ ลักพาตัวไม่ใช่คนอื่นแต่เป็นเธอเอง เธอจะต้องบอกเรื่องนี้กับพ่อแม่เธอ

จางเข่อเหรินเดินเข้ามาหามู่หรงเสวี่ย มองตั้งแต่หัวจรดเท้าแล้วจึงถามออกมา “เสี่ยวเสวี่ย เกิดอะไรขึ้น? เสี่ยวเข่อลี่ เด็กนั่นบอกว่าลูกถูกลักพาตัวและขังไว้โดยพวกโจรห้าคน แต่ลูกอยู่ที่นี่นี่? เกิดอะไรขึ้นลูกรู้หรือเปล่า?”

มู่หรงเฟิงหัวตกใจมาก “อะไรนะ?! ลักพาตัวเหรอ?”

มู่หรงเสวี่ยมองไปที่โม่จื่อเหวินและพูดออกมา “พี่จื่อเหวิน พี่เปิดเครื่องบันทึกเสียงของเราได้เลย พ่อกับแม่จะได้รู้เรื่อง”

โม่จื่อเหวินพยักหน้าและเปิดโทรศัพท์เพื่อเล่นที่บันทึกเสียงมา

“ผู้หญิงที่ชื่อเสี่ยวเข่อลี่ เธอขอให้พวกเราลักพาตัวคุณมู่หรง…”

หลังจากที่ได้ฟังบทสนทนาก็ไม่มีอย่างอื่นที่จะเข้าใจได้อีก

จางเข่อเหรินคิดว่าเธอคิดมากไปเองที่ไม่ชอบเสี่ยวเข่อลี่ แต่เสี่ยวเข่อลี่ก็ได้ทุกอย่างเหมือนกับเสี่ยวเสวี่ยในเรื่องของเสื้อผ้า, อาหาร,ที่อยู่หรือแม้แต่การเดินทาง เธอเป็นคนเลี้ยงเสี่ยวเข่อลี่มากับมือเองเลย ถ้าโม่จื่อเหวินไปช่วยลูกสาวเธอไม่ทัน ตอนนี้ก็คงไม่รู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับเสี่ยวเสวี่ย

“เสี่ยวเข่อลี่นี่กล้ามากจริงๆ แม่รู้ว่าเธอไม่ใช่คนธรรมดาๆแต่ไม่คิดว่าเธอจะโหดร้ายขนาดนี้ทั้งๆที่อายุยังน้อย”

มู่หรงเฟิงหัวโกรธอย่างมาก เด็กสาวนั่นกล้าที่จะทำร้ายลูกสาวของมู่หรงเฟิงหัว “เสี่ยวเสวี่ย ลูกจะทำยังไง?! พ่อพร้อมเสมอเพื่อลูกนะ”

โม่จื่อเหวินรออย่างเงียบๆอยู่ที่ด้านข้าง เขากำลังรอคำสั่งของมู่หรงเสวี่ย

มู่หรงเสวี่ยคิดอยู่สักพักพร้อมทั้งกัดปากไปด้วย ถึงแม้เธออยากที่จะปล่อยให้เสี่ยวเข่อลี่ถูกขังไปตลอดชีวิตแต่ถึงแม้ตระกูลมู่หรงจะไม่ประกันตัวเสี่ยวเข่อลี่ เสี่ยวเข่อลี่ก็ยังออกมาได้อยู่ดี ในความทรงจำของเธอเสี่ยวเข่อลี่มีคนคอยสนับสนุนและก็มีเยอะด้วย เสี่ยวเข่อลี่มักจะได้รับความช่วยเหลือในเรื่องการจัดการปัญหาใหญ่ๆเสมอ อย่างไรก็ตามเธอก็ยังหาอำนาจที่อยู่เบื้องหลังเสี่ยวเข่อลี่ไม่ได้จนกระทั่งเธอตายซะก่อน ในเหตุการณ์นี้จะปล่อยให้ตระกูลมู่หรงมารับโทษกับเรื่องนี้ได้ยังไง

หลังจากที่ญาติของเธอสารภาพ ตระกูลมู่หรงก็คงจะสงสารและมองว่าเสี่ยวเข่อลี่ทำผิดพลาดครั้งใหญ่เพราะหล่อนยังเด็กและพ่อแม่ของเสี่ยวเข่อลี่ก็ตายหมดแล้ว ตราบใดที่เสี่ยวเข่อลี่มาสารภาพกับเธอว่าทำผิดพลาด ตระกูลมู่หรงก็พร้อมที่จะให้โอกาสเสี่ยวเข่อลี่ได้เริ่มใหม่และส่งไปเรียนต่างประเทศ

ไม่ยุติธรรมเลยจริงๆ! เสี่ยวเข่อลี่ยังไม่บรรลุนิติภาวะดังนั้นจึงถูกตัดสินแบบผู้ใหญ่ไม่ได้ เธอจะไม่ใช้โอกาสนี้เพื่อสร้างสถานการณ์ให้ตระกูลมู่หรง

“พ่อคะ แม่คะ ไปรับเข่อลี่กลับมา” หลังจากที่คิดอย่างถี่ถ้วนแล้ว มู่หรงเสวี่ยก็พูดออกไปทันที กลุ่มคนจ้องตรงมาที่ มู่หรงเสวี่ยทันที นี่มันใจดีไปหรือเปล่า?! ลูกสาวที่รักของเธอใจดีเกินไป ตอนนี้เธอมีแผนที่จะปล่อยเสี่ยวเข่อลี่ไปโดยไม่พูดอะไรเลย แม่หนูนี่อยากจะแก้ไขอะไรหรือเปล่า? ยังไงซะมันก็ใจดีเกินไป เมื่อเขาและภรรยาแก่ตัวลงก็จะปกป้องเธอไม่ได้อีก แบบนั้นเสี่ยวเสวี่ยจะไม่ถูกรังแกจนตายงั้นเหรอ?!!!

มู่หรงเฟิงหัวคิดเหมือนกับจางเข่อเหริน ไม่ใช่เรื่องดีเลยที่ลูกสาวของเขาใจอ่อนขนาดนี้! มู่หรงเสวี่ยรู้สึกได้ถึงสายตาที่จ้องมาที่เธอ นี่เธอพูดอะไรผิดไปงั้นเหรอ?!! ด้วยสีหน้าที่แสดงถึงการตัดสินใจที่แน่นอนแล้ว

โม่จื่อเหวินมองท่าทางที่น่ารักนี้และคิดว่าไม่ว่า มู่หรงเสวี่ยจะตัดสินใจอย่างไร เธอก็คงจะมีเหตุผลของตัวเองแน่ๆ จากวิธีที่เธอจัดการกับพวกโจรเมื่อวาน เขาก็รู้ได้เลยว่ามู่หรงเสวี่ยไม่ใช่คนโง่และจะไม่ยอมให้ใครมารังแกเธอได้ตามอำเภอใจ เขาคิดว่ามันคงยังมีเรื่องอื่นที่ต้องคิดอีก

โม่จื่อหลินออกไปเล่นกับป้าหวู่ก่อนที่พวกเขาจะคุยกันเรื่องนี้ เขาอ่อนแอและพวกเขาไม่สามารถทนให้ดวงตาที่บริสุทธิ์ต้องมาเห็นเรื่องสกปรกแบบนี้ได้

จางเข่อเหรินกังวลเมื่อคิดถึงชีวิตที่น่าสงสารของลูกสาวเมื่อพวกเขาแก่ตัวลง “เสี่ยวเสวี่ย เสี่ยวเข่อลี่ทำร้ายลูกอย่างมากเลยนะ แล้วลูกจะปล่อยให้เธอลอยนวลไปงั้นเหรอ? ลูกไม่อยากให้เส้นสายของตระกูลมู่หรงไปต้อนรับเสี่ยวเข่อลี่ในคุกหน่อยเหรอ?”

ตอนนี้ทุกคนจ้องมาที่จางเข่อเหริน
มู่หรงเฟิงหัวหัวเราะออกมาเป็นคนแรก ภรรยาของเขา อ่า ช่างอ่อนไหวจริงๆ แล้วแบบนี้เขาจะไม่รักเธอได้ยังไง!

มู่หรงเสวี่ยมองมาที่แม่ของเธออย่างพูดอะไรไม่ออกแต่ในที่สุดเธอก็เข้าใจว่าทำไมทุกคนถึงมีท่าทางแบบนั้นตอนที่เธอบอกว่าจะปล่อยเสี่ยวเข่อลี่ไป แม่คิดว่าเธอใจดีเกินไป เธอเดาว่าพ่อกับแม่คงไม่เข้าใจสิ่งที่เธอหมายถึง

เธอควรจะทำยังไงดี? หัวใจเธออบอุ่นไปหมด! มันช่างอบอุ่นจริงๆ ครอบครัวที่รักของเธอ! แล้วเธอจะปล่อยให้ เสี่ยวเข่อลี่ เข้ามายุ่งในชีวิตเธอได้ยังไง

มู่หรงเสวี่ยทำปากขยุกขยิก เธอดูเหมือนคนโง่จริงๆ! ในชีวิตที่แล้วเธอนี่โง่จริงๆ “พ่อคะ แม่คะ คือหนูมีวิธีอื่นที่จะจัดการกับเสี่ยวเข่อลี่ พ่อกับแม่สบายใจได้”
มู่หรงเฟิงหัวฟังซึ่งก็ยังไม่เข้าใจ แต่ลูกสาวของมู่หรงเฟิงหัวไม่ใช่คนอ่อนแอจึงพยักหน้าอย่างมีความสุข “ฮ่าฮ่า! นี่สิลูกสาวพ่อ”

จางเข่อเหรินไม่สนใจเรื่องพวกนั้น ตราบใดที่ลูกสาวเธอไม่ถูกรังแกง่ายๆ “โอเค แม่จะไปรับแม่เด็กโหดเหี้ยมคนนั้นเอง” จางเข่อเหรินลุกขึ้นหยิบกระเป๋าอย่างวางท่าและพร้อมที่จะไปเจอแม่เด็กสาวไร้หัวใจแล้ว ก่อนหน้านี้เธอเคยดีกับเสี่ยวเข่อลี่เธอจะพยายามไม่ทำอะไรให้ต่างไปจากเดิม แต่ที่คาดไม่ถึงคือเธอเป็นหมาป่าสาว เสี่ยวเข่อลี่กล้ามาทำร้ายลูกน้อยของเธอ ถึงแม้เธอจะไม่เห็นด้วยที่เสี่ยวเสวี่ยบอกว่าจะปล่อยเสี่ยวเข่อลี่ไปแต่เธอก็ทำอย่างอื่นได้ใช่ไหม?!

มู่หรงเฟิงหัวเสนอตัวที่จะขับรถไปส่งเธออย่างกับเป็นเด็กเล็กๆแต่เธอก็ปฏิเสธไป เธอจึงให้คนขับรถไปส่งที่สถานีตำรวจที่เสี่ยวเข่อลี่อยู่ในเมือง B เสี่ยวเข่อลี่ทำตัวเอง เธอควรจะวางตัวแบบไหน เธอมีความคิดอยู่ในใจแล้ว

ผู้กำกับฟางแห่งสถานีตำรวจเขตคือชายอายุประมาณ 50 พร้อมใบหน้าที่เป็นมิตร เขาได้รับแจ้งข่าวเมื่อเช้าและได้ตรวจสอบตัวตนและสถานะของเสี่ยวเข่อลี่แล้ว เพราะรู้จักกันเป็นพิเศษ เขาไม่ได้ทำให้เด็กสาวอับอายตอนที่เขาสอบสวน เมื่อได้รู้ว่าภรรยาของมู่หรงเฟิงหัวจะมา เขาก็อยู่รอโดยไม่ไปไหน โดยไม่ทำให้เป็นที่สงสัยมากนักจางเข่อเหรินจึงบอกให้คนขับรถรอเธออยู่ในรถ และเธอจะเดินเข้าไปในสถานีคนเดียว
“คุณนายมู่หรง เป็นยังไงบ้างครับ? ผมเป็นผู้กำกับของสถานีนี้ เชิญทางนี้เลยครับ” ผู้กำกับฟางกล่าวทักทายด้วยรอยยิ้ม แม้เขาไม่จำเป็นต้องทักทายด้วยความอ่อนน้อม แต่บางคนก็อยู่ในสถานะที่สามารถจะแสดงอาการแบบนี้ได้ ตัวอย่างเช่นผู้หญิงสาวสวยที่อยู่ตรงหน้าเขาที่ไม่สนใจอะไรเลย ดังนั้นเขาจึงรีบนำทางเธอไป

“สวัสดีค่ะ ผู้กำกับฟาง ขอร้องเถอะค่ะฉันกำลังรีบไม่มีเวลามานั่งเล่น เสี่ยวเข่อลี่อยู่ที่ไหนคะ?” สายตาของจางเข่อเหรินมองผู้กำกับฟางอย่างพอใจ เขาสุภาพและไม่ประจบประแจง เสี่ยวเข่อลี่ถูกขังอยู่ในห้องสอบสวนสำหรับผู้เยาว์และกันให้เฉพาะญาติเท่านั้นที่เข้าไปได้

ทันทีที่เสี่ยวเข่อลี่เห็นจางเข่อเหรินกำลังเดินเข้ามา เธอก็ลงไปนั่งคุกเข่าและร้องไห้เป็นเผาเต่าทันที ดวงตาที่กลมโตของเธอทั้งแดงและบวม และผมของเธอก็ออกจะยุ่งเหยิงซึ่งเพิ่มความน่ารักเข้าไปอีก ถ้าจางเข่อเหรินไม่รู้ความจริงก็คงไม่เชื่อว่าเด็กสาวน่ารักแบบนี้จะโหดเหี้ยมได้ขนาดนี้ “คุณป้าคะ! ไม่ใช่หนูนะคะ หนูไม่ได้ทำ หนูถูกใส่ร้าย…”

สีหน้าของจางเข่อเหรินที่มองหลานสาวดูเยือกเย็น จริงๆแล้วเธอต้องเป็นคนดูแลเสี่ยวเข่อลี่ ถึงแม้เธอจะไม่ชอบเด็กสาวเท่าไรและเพราะพวกเธอเป็นป้าหลานกัน แล้วเธอจะปล่อยทิ้งเสี่ยวเข่อลี่ได้ยังไง แต่เด็กสาวคนนี้ก็ไม่ควรมาทำร้ายลูกสาวของเธอ
“บอกฉันมาสิ ว่าคนอื่นใส่ร้ายเธอยังไง? ว่าไง?” น้ำเสียงเห็นได้ชัดว่าไม่เชื่อ

เสี่ยวเข่อลี่ลุกลี้ลุกลน เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น เห็นได้ชัดว่าทุกอย่างถูกวางแผนไว้ แต่เมื่อเช้าตอนที่เธอไปหาชายหน้าบาก เธอก็พบว่าพวกเขาทั้งหมดถูกมัดไว้กับเสา ในตอนนั้นเธอรู้สึกแย่มากจึงหันหลังกลับและอยากที่จะหนีไป แต่ก่อนที่เธอจะไปถึงประตูก็มีพวกการ์ดมาล้อมรอบเธอไว้แล้ว

อะไรนะ?! แม้แต่ผู้กำกับฟางที่ได้รับรายงานมาอย่างดีก็ยังรู้สึกว่าเด็กสาวคนนี้ยังเด็กและเต็มไปด้วยแผนการ

ตอนที่เขาไปถึงที่เกิดเหตุเมื่อเช้านี้ เด็กสาวเพิ่งจะวิ่งออกมาจากโกดังรกร้าง สีหน้าเธอหวาดกลัวและร้องให้ช่วย “ช่วยด้วย! ข้างในมีพวกโจรที่อยากจะลักพาตัวฉัน…”

ถ้าเขาไม่ได้รับเทปบันทึกเสียงที่เป็นหลักฐานเมื่อเช้านี้ เขาก็คงจะคิดว่าเด็กสาวคนนี้ถูกพวกโจรจับตัวมาแน่ๆและสีหน้าของเธอก็ไม่มีอะไรผิดปกติเลยด้วย เขาสั่งให้จับกุมเธอด้วยใบหน้าที่เย็นชา

เดี๋ยวนี้เด็กๆโหดร้ายขนาดนี้ได้ยังไง

ผู้กำกับฟางถอนหายใจเบาๆและไม่ได้พูดอะไร ไม่ช้าก็เร็วเด็กนั่นจะต้องถูกปล่อยตัว คำพิพากษาของผู้เยาว์จะถูกดีเลย์ออกไป

เสี่ยวเข่อลี่ร้องไห้อย่างแปลกใจ ร้องไห้อย่างน่าสงสาร “คุณป้า หนูไม่รู้จริงๆนะคะ เมื่อเช้าอยู่ดีๆหนูก็ได้รับโทรศัพท์แจ้งว่าเสี่ยวเสวี่ยถูกลักพาตัวและบอกให้หนูไปที่โกดังรกร้าง ทันทีที่หนูได้ยินหนูก็กังวลมากจึงรีบออกไปทันที หนูไม่รู้จริงๆว่ามันเกิดอะไรขึ้น คุณป้า…” ในตอนนี้เสี่ยวเข่อลี่ไม่คิดว่าจะมีเทปบันทึกเสียง

เสี่ยวเข่อลี่ยิ่งร้องไห้มากขึ้นไปอีก ทั้งเสียง ทั้งน้ำตา จางเข่อเหรินแอบคิดในใจว่า: แสดงได้ดีมาก!

จางเข่อเหรินที่รู้สึกว่าได้เห็นมาพอแล้ว ในที่สุดก็พูดออกมาอย่างเหลืออด “พอได้แล้ว นี่มันอะไรกันเนี่ย?”

จางเข่อเหรินหยิบเทปบันทึกเสียงที่โม่จื่อเหวินให้เธอมาและกดปุ่มเปิด

ทุกประโยคในเทปบันทึกเสียงชัดเจนมาก โดยเฉพาะประโยคสุดท้ายพร้อมทั้งเสียงหัวเราะดังลั่นก็ได้ยินอย่างชัดเจน
จบแล้ว!
เสี่ยวเข่อลี่ถึงกับหน้าซีดและทรุดลงไปกับพื้น น้ำตาของเธอยังค้างอยู่ในตา ร่างทั้งร่างดูเหมือนจะไร้สติอย่างห้ามไม่ได้ “มีอะไรจะพูดอีกไหม? แม่หลานสาว “แสนดี” ของป้า ฉันกล้าพูดเลยว่าตระกูลมู่หรงดูแลเธออย่างดี เธอทำแบบนี้ทำไม?” จางเข่อเหรินไม่เข้าใจเลยจริงๆว่าทำไมเสี่ยวเข่อลี่ถึงทำแบบนี้

เสี่ยวเข่อลี่โง่หรือไง?!! ไม่เลย ในความคิดของจางเข่อเหริน เสี่ยวเข่อลี่ฉลาดอย่างมาก เธอต้องการการปกป้องดูแลจากตระกูลมู่หรง แล้วเธอโง่ขนาดนี้จนทำเรื่องที่จะทำให้ตระกูล มู่หรงเสื่อมเสียได้ยังไง?!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+