ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 40 การประชุมหินพนัน

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 40 การประชุมหินพนัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 40
การประชุมหินพนัน

ผู้เฒ่าโม่เป็นคนใหญ่คนโตของประเทศ เขาสร้างคุณูปการให้กับประเทศนับไม่ถ้วนและผู้คนต่างก็ให้ความเคารพนับถือเขาเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีอำนาจหลายคนจากในและต่างประเทศได้รับการเรียกตัวให้มาที่นี่ ใครที่ทราบข่าวต่างก็ต้องมาที่นี่ แต่ใครจะรู้ว่าชายชราผู้นอนเป็นผักจะถูกรักษาได้โดยผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อมู่หรงเสวี่ย!!
พวกเขาถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะเชื่อในที่สุด!!!

ในช่วงสุดสัปดาห์ เธอจำเรื่องการประชุมหินพนันในเมือง A ที่พ่อของเธอพูดถึงเมื่อสองสามวันก่อนได้และพ่อได้รับจดหมายเชิญ และจึงมอบหมายให้เธอไป ในการประชุมหินพนันที่จะถูกจัดขึ้นในวันนี้

ช่วงนี้เธอไม่รู้ว่าพี่จื่อเหวินยุ่งเรื่องอะไร นอกจากเธอเวลาที่เธอจะออกไปข้างนอกแล้ว นอกนั้นเธอก็ไม่เจอเขาในเวลาอื่นอีกเลย พี่จื่อเหวินยุ่งเรื่องอื่นอยู่หรือเปล่า?! พี่เขาอยากที่จะมาเป็นบอดี้การ์ดจริงๆหรือเปล่า? เดี๋ยวมีเวลาค่อยลองคุยกับเขา

การประชุมหินพนันในเมือง A จัดร่วมกันโดยตระกูลฝาง, ตระกูลหยางและตระกูลหลินแห่งอุตสาหกรรมหยก

สถานที่จัดการประชุมหินพนันจัดขึ้นในคฤหาสน์ชานเมืองซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 5,000 ตารางเมตร ผู้ที่จะได้รับจดหมายเชิญนั้นมีทั้งบุคคลสำคัญหรือครอบครัวชนชั้นสูง พ่อค้าหินหยกธรรมดาหรือคนธรรมดาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า งานรักษาความปลอดภัยจึงดีมากๆ

วัตถุดิบที่จะสามารถนำมาออกการประชุมหินพนันได้จะต้องเป็นของดี ลองนึกดูว่ามีวัตถุดีๆมากมายแค่ไหน
มู่หรงเสวี่ยคิดเรื่องนี้และโทรศัพท์ไปบอกพี่จื่อเหวินว่าวันนี้เขาไม่ต้องไปเพราะพี่กู่เป็นคนดูแลเรื่องหยก ดังนั้นเธอและพี่กู่จะไปด้วยกัน

ในตอนแรกโม่จื่อเหวินไม่เห็นด้วย การผิดพลาดครั้งล่าสุดทำให้เขารู้สึกผิด ในจดหมายเชิญระบุว่าอนุญาตให้พาคนติดตามไปด้วยได้หนึ่งคน ดังนั้นมู่หรงเสวี่ยจึงบอกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการประชุมหินพนัน

ระหว่างทางกู่หมิงถือโอกาสรายงานต่อมู่หรงเสวี่ยเกี่ยวกับสถานการณ์ทางธุรกิจของบริษัท “ เสี่ยวเสวี่ยบริษัทมาถูกทางแล้วและผลตอบรับของร้านเป่าหยูก็ยอดเยี่ยมมาก หลังจากที่หยกถูกตัดออกจากหินหยกที่ซื้อครั้งล่าสุด หยกชั้นหนึ่งถูกขายไป 5 ชิ้นแล้ว แบบนี้ที่งานการประชุมหินพนันก็สามารถซื้อได้มากขึ้น แล้วเงินปันผลก็เข้าบัญชีของคุณเมื่อวานนี้แล้วนะ เมื่อเดือนที่แล้วเราทำกำไรได้เกือบ 600 ล้านโดยเก็บไว้ 200 ล้านเพื่อเป็นเงินหมุนเวียนของบริษัท”

ในที่สุดเขาก็เริ่มมาถูกทาง หลังจากฟังข่าวดีในตอนเช้าแล้ว มู่หรงเสวี่ยก็อารมณ์ดีมาก “ดีค่ะ เหนื่อยหน่อยนะคะพี่กู่ อีกเรื่องนะคะ ที่บริษัทลั่วเฉิงเฟยเป็นยังไงบ้างคะ?”

เมื่อพูดถึงลั่วเฉิงเฟย ตอนที่กู่หมิงเห็นเขามาพร้อมกับจดหมายแต่งตั้งครั้งแรก กู่หมิงคิดว่าเขาโกหกเพราะเขายังเด็กเกินไปและตำแหน่งในจดหมายแต่งตั้งนั้นก็แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไป ซึ่งก็เป็นตำแหน่งที่รองจากเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเขาโทรหาเสี่ยวเสวี่ยเพื่อขอคำยืนยันและได้รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง

“ตอนนี้ผมยังไม่ได้ข่าวอะไรจากเขาเลย”
“ไม่มีเลยเหรอ?! พี่หมายความว่ายังไง?”
ขณะที่เขาขับรถ กู่หมิงก็อธิบายว่า “ช่วงที่ผ่านมาเขากำลังดูข้อมูลของบริษัท แล้วก็ไปแผนกต่างๆ เพื่อตรวจสอบคุณภาพหยกของที่เป่าหยูด้วย แล้วเขาก็จะขีดๆเขียนๆอยู่ในห้องทำงานตลอดจนไม่มีเวลา … ”

มู่หรงเสวี่ยครุ่นคิดสักครู่ เธอไม่เคยสงสัยในความสามารถของลั่วเฉิงเฟย เธอไม่อยากยุ่งกับวิธีการทำงานของเขา เพียงแค่ปล่อยให้เขาพัฒนาอย่างอิสระ “พี่กู่ไม่ต้องกังวลกับงานของลั่วเฉิงเฟยหรอกนะคะ ถ้าเขาเสนอแผนการเปลี่ยนแปลงใด ๆ พี่ก็สามารถอนุมัติได้เลย ถ้าพี่ทำได้ก็ร่วมมือกับเขาด้วยนะคะ”

มือของกู่หมิงสั่นและรถก็แทบจะเบนออกไป“ เสี่ยวเสวี่ย เขาอายุแค่ 17 เองนะ! จากเหตุผลนี้แล้ว เขาไม่อยู่ในวัยที่จะทำงานเลย เสี่ยวเสวี่ย คุณไม่กลัวเขาบ้างเลยเหรอ?”

มู่หรงเสวี่ยยิ้ม เธอจะกังวลเรื่องเขาได้ยังไงล่ะ? ในชีวิตที่แล้วก็อายุเท่านี้ที่ชื่อลั่วเฉิงเฟยเริ่มจะดังขึ้นมา เธออยากจะหัวเราะเมื่อนึกถึงสไตล์ของเขาในชีวิตที่ผ่านมา ทุกครั้งใคร ๆ ก็จะบอกว่าเขาแค่ป่วนไปทั่ว แต่ผลลัพธ์ที่ตามมากลับยิ่งตอกหน้าของคนอื่นๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“พี่กู่ ตราบใดที่พี่เชื่อฉันว่าฉันต้องเลือกเขาเพราะเขามีบางอย่างที่พิเศษ แม้ว่าจะเกิดเรื่องผิดปกติกับบริษัท ฉันก็จะรับไว้”

กู่หมิงครุ่นคิดสักพักและตอบตกลงหลังจากผ่านไปสักพัก “โอเค”

หนึ่งชั่วโมงต่อมาในที่สุดพวกเขาก็มาถึงคฤหาสน์ของการประชุมหินพนัน หลังจากแสดงบัตรเชิญแล้ว พวกเขาก็เข้าไปด้านใน การมาของทั้งสองไม่ได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน แต่กู่หมิงเป็นที่รู้จักของบางคน อย่างไรก็ตามพวกเขาต่างก็เป็นเพื่อนและคู่แข่งกันดังนั้นพวกเขาจึงเพียงแค่กล่าวทักทายกัน

และมู่หรงเสวี่ยนอกจากใบหน้าที่สวยงามที่ทำให้ผู้คนต้องหันมามอง แต่ก็ไม่มีใครมองว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันเลย

ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันและสังเกตหินหยกอย่างระมัดระวัง มู่หรงเสวี่ยก็เห็นแสงสีแดงที่มีสีทองอยู่ทางด้านซ้ายสุดซึ่งงดงามมาก มู่หรงเสวี่ยรู้สึกตื่นเต้น ต้องมี หยกที่ยอดเยี่ยมอยู่ที่ในนั้นแน่ๆ แต่เรายังต้องตรวจสอบเพื่อดูว่ามันคืออะไร

อย่างไรก็ตามความสามารถในการมองเห็นของเธอดีขึ้น ยิ่งเธอใช้มันมากเท่าไหร่ เธอก็สามารถมองทะลุผ่านมันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เธอมองดูหลายจุดในห้องประชุมที่ตกแต่งแสงไฟไว้มากมาย มันคือการประชุมหินพนัน เพื่อหินหยกที่มีคุณภาพดีที่สุด

มู่หรงเสวี่ยระงับความตื่นเต้นของตัวเอง เธอไม่ได้วางแผนจะไปดูตอนนี้ แม้ว่าจะไม่มีใครสนใจเธอมากนัก แต่ก็ดีกว่าที่จะเก็บมุมมองของเธอไว้ ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะดูวัสดุทำด้วยหินหยกอื่น ๆ ก่อน นอกจากนี้เธอยังไม่กังวลว่าคนอื่นจะซื้อหินหยกเพราะการประชุมหินพนันแตกต่างจากจุดวัตถุดิบทั่วไป ที่จำเป็นต้องเสนอราคาและไม่ทราบราคาประมูล เปิดเผยเฉพาะในช่วงเวลาของการเปิดประมูลเท่านั้นและราคาที่สูงที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะไป

คนสองคน มองรอบๆในขณะที่เขียนหมายเลขหินหยกที่ดีเอาไว้ เพื่อสะดวกในการเสนอราคาได้ทันเวลา
หลังจากนั้นไม่นาน มู่หรงเสวี่ยก็เจอกับฟางฉีฮัวและมีเด็กผู้หญิงอยู่ข้างๆเขาด้วย ซึ่งเป็นลูกสาวของตระกูลจาง

มู่หรงเสวี่ยแสยะ แน่นอนว่าเขาพบเป้าหมายอื่นแล้วเมื่อเขาไม่มีทางเลือกมากนัก เมื่อไม่นานมานี้ฟางฉีฮัวพยายามหาโอกาสที่จะชวนเธอออกไปเที่ยวตลอด แต่เธอไม่อยากที่จะสนใจเขา ในชีวิตที่ผ่านมาเธอคิดว่าตัวเองตาบอดและต้องทนทุกข์ทรมานเพราะตัวเอง ในชีวิตนี้เธอไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย

เมื่อมองไปที่จางเฉียนจินที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข แล้วเธอก็เริ่มที่คิดว่าในชาติที่แล้วเธอยิ้มโง่ ๆ ยืนอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ด้วยหรือเปล่า? ในตอนนั้นเธออยากจะยืนในจุดนั้นได้ยังไงกัน?! ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกขอบคุณพระเจ้าอยู่ตลอดเวลาที่เธอได้พบเขาและคิดว่ามันเป็นรักแท้ ความรู้สึกของการตกจากสวรรค์สู่นรกยังคงชัดเจนในตอนนี้

ทันใดนั้นแรงกระแทกอย่างแรงก็ดึงเธอกลับมา เธอตะลึงและเงยหน้าขึ้นมองด้วยดวงตาที่โกรธเกรี้ยว

ชางกวนโม่ เป็นเขาอีกแล้วได้ยังไงเนี่ย?!!!
ในใจของมู่หรงเสวี่ย เต้นรัวปั่นป่วนไปหมด ราวกับมีฝูงผีเสือบินวนเต็มไปหมด

ไม่กี่วันก่อน ชางกวนโม่ได้รับจดหมายเชิญจากการประชุมหินพนัน เขาจำเป็นต้องรวบรวมหยกจักรพรรดิ ดังนั้นวันนี้เขาจึงมาดู เขาบังเอิญเห็นมู่หรงเสวี่ย เขารู้สึกประหลาดใจจนต้องเข้ามาทักเธอ แต่เขาพบว่าเธอกำลังจ้องมองเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่นานมากแต่กลับไม่สนใจที่จะหันกลับมามองเขาเลย อารมณ์ที่เปลี่ยนไปทางสายตาของเธอทำให้เขารู้สึกตกใจ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นต้องไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา

ถ้ามองไปที่ผู้ชาย ยังมีผู้หญิงที่กำลังยืนยิ้มอยู่ เมื่อเขามองไปที่ชายคนนั้น เขาก็คงจะเดาอะไรไปได้มากมาย ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่ามู่หรงเสวี่ยชอบผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายคนนั้นมีสาวคนอื่นอยู่แล้ว

ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรเขาก็ไม่สามารถยับยั้งความโกรธในตอนนี้ได้ ก่อนที่เขาจะได้สติ เขาก็ดึงเธอออกมาให้พ้นจุดที่ชายคนนั้นยืนอยู่ซะแล้ว

“คุณชางกวน มีอะไรให้ฉันช่วยงั้นเหรอคะ?” มู่หรงเสวี่ยเป็นกังวลมาก ทำไมเขาถึงดูโกรธทุกครั้งที่เห็นเธอด้วยนะ? เธอไม่รู้จริงๆว่าตัวเธอไปยั่วโมโหนายน้อยคนนี้ที่ไหน?! อยากจะร้องไห้จริงๆ

“เรียกฉันว่าพี่โม่หรือพี่ชางกวน!”
“ฮ่ะ?”
นัยน์ตาฉายแววดุดันบ่งบอกว่าอย่าให้ฉันต้องบังคับนะ

มู่หรงเสวี่ยเริ่มจะขาอ่อน คุณชาย ดวงตาของคุณแปลกและน่ากลัวจริงๆ คุณช่วยหันไปทางอื่นทีได้ไหม?!!! แต่ก็ยังไม่กล้าพอที่จะพูดออกมาตรงๆ

“พี่ชางกวน … ” ให้เธอเรียกเขาว่าพี่โม่หรือพี่ชางกวน เธอพูดออกมาไม่ได้จริงๆ

ในที่สุดสีหน้าของเขาก็อ่อนลงและจับมาที่หัวของเธอ

จะทำอะไรเนี่ย?! เธอไม่ใช่หมานะ…หื้อ…แม่จ๋า หนูอยากกลับบ้านแล้ว ที่นี่มีแต่พวกปีศาจ

มู่หรงเสวี่ยมองไปรอบ ๆ และอยากที่จะหาพี่กู่ เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาคนเดียว !!! สถานที่จัดงานใหญ่ไปหน่อย เธอเลยไม่เจอพี่กู่มาพักใหญ่แล้ว

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้ามาในงาน พวกเขาก็แยกกัน เหตุผลหลักคือมู่หรงเสวี่ยไม่ต้องการที่จะให้สะดุดตา หลังจากคุยกับกู่หมิงสักครู่เธอก็ไปซื้อของด้วยตัวเอง ใครจะรู้ว่าเธอจะได้พบกับชางกวนโม่ เทพเจ้าแห่งภัยพิบัติ
“พี่ชางกวนมาดูหินหยกเหมือนกันเหรอคะ?” เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดีขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“ก็ ลองมาดูว่าจะมีหยกจักรพรรดิหรือเปล่าน่ะ!” ชางกวนโม่ตอบเบา ๆ มือข้างหนึ่งยังจับมือเธออยู่

“อืม … งั้นฉันเข้าไปดูก่อนดีกว่า จะได้ไม่รบกวนพี่ด้วย… ” มู่หรงเสวี่ยพูดและอยากที่จะสลัดมือใหญ่ๆ ของชางกวนโม่ แต่เขาไม่ยอมที่จะปล่อย

ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนแค่ไหน ชางกวนโม่ก็พูดว่า “ไปกันเถอะ! หรือเธอไม่เชื่อสายตาฉันที่มีสายตาของนกฟีนิกซ์ที่ทั้งมองการณ์ไกลและแม่นยำแบบนี้ล่ะ”

บ้าเหรอ! ใครจะกล้าดูถูกท่านประมุขแห่งเมืองหลวงล่ะ ช่างน่ากลัวจริงๆ มู่หรงเสวี่ยยิ้มอย่างประจบในทันที “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะคะ? เป็นเกียรติของฉันเลยที่ได้อยู่กับพี่ชางกวน”

นี่คือสิ่งที่เขาชอบที่จะฟัง เขาพยักหน้าอย่างพอใจและพูดออกมาอย่างยโส “รู้ก็ดีแล้ว ฉันชอบเธอนะ! ไปกันเถอะ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมาการประชุมหินพนันก็ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

“ยินดีต้อนรับสู่การประชุมหินพนันในวันนี้ ผมเป็นเจ้าภาพของการประชุมหินพนันในวันนี้ … ”

หลังจากการกล่าวเปิดงานที่ยาวนานซึ่งไม่ได้รับความสนใจจบลง บริกรกลุ่มหนึ่งก็ออกมาจากคฤหาสน์และบริกรหนึ่งคนจะได้รับมอบหมายให้ดูแลแขกวีไอพีหนึ่งคนเท่านั้น

ตรงหน้าชางกวนโม่และมู่หรงเสวี่ยคือชายหน้าตาดีสองคนอายุประมาณ 30 ปีซึ่งดูไม่หยิ่งผยอง, มีความอดทนและให้บริการอย่างดี

ระหว่างทางเธอเลือกหินหยกจำนวนมาก เขียนหมายเลขและราคาประมูลของตัวเองไว้

อีกด้านหนึ่งของชางกวนโม่ก็เลือกไว้จำนวนมากเช่นกัน มู่หรงเสวี่ยมีความสามารถในการมองอยู่ ซึ่งหินหยกที่เธอเขียนเลขเอาไว้ถูกหมายตาโดยชางกวนโม่ถึง 80% หัวใจของการเข้าใจของชางกวนโม่อยู่ในระดับที่สูง เธออาศัยการโกงจากความสามารถในการมอง ชางกวนโม่อาศัยวิสัยทัศน์ของตัวเองล้วนๆ ชายผู้มีอำนาจทุกอย่างเกิดมาเพื่อต่อสู้กับผู้อื่น มู่หรงเสวี่ยพึมพำเป็นร้อยครั้งในหัวใจ

ชางกวนโม่ให้ความสนใจกับมู่หรงเสวี่ย ทั้งๆที่แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงชอบมู่หรงเสวี่ย อย่างไรก็ตามเขาพบเธอเพียงไม่กี่ครั้ง เขาไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นและนั่นคือสาเหตุที่เขาสงสัย ระหว่างทางที่เฝ้าสังเกตเธอก็ได้พบว่าโดยพื้นฐานแล้วเธอไม่ได้มองมันอย่างละเอียดและจดเลขลงไป นี่เป็นเรื่องของความร่ำรวยและความกล้างั้นเหรอ?!!

บางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะต้องคิดยังไง บางครั้งก็น่าโมโหแต่บางครั้งเธอก็ทำตัวน่ารักจนเขาอดที่จะหลงรักไม่ได้
มู่หรงเสวี่ยมัวแต่สนใจแต่เรื่องหินหยกจนไม่ได้สังเกตเห็นดวงตาของชางกวนโม่เลย

ทันใดนั้นเธอก็เห็นมรกตสีเขียวที่เลอค่าและสวยงามมาก พระเจ้า! เธอเจอมรกตเขียวอีกแล้ว!

ฮ่า ฮ่า ฮ่า! พระเจ้านี่เมตตาเธอดีจริงๆ!

มู่หรงเสวี่ยจ้องไปที่มรกตเขียวอย่างถี่ถ้วน เธอไม่กล้าที่จะรีบร้อนเกินไปเพราะกลัวว่าความผิดปกติของเธอจะทำให้คนอื่นสงสัย ดังนั้นเธอจึงลงนั่งยองๆและตรวจสอบอย่างละเอียดช้าๆ

ในสายตาของคนนอกจะเห็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังหัดอ่านหินหยก ทำไมถึงคิดว่าเป็นการเรียนรู้น่ะเหรอ? หลักๆก็เพราะมู่หรงเสวี่ยยังเด็กเกินไปที่ใคร ๆ จะคิดว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพนัน

อย่างไรก็ตามชางกวนโม่ไม่เหมือนคนอื่น เขาสังเกตเห็นได้ทันทีว่ามู่หรงเสวี่ยผิดปกติไป จากเดิมที่ดูสบาย ๆ จนถึงตอนนี้ที่ดูเหมือนจงใจแกล้งทำเป็นจริงจัง ทำไมล่ะ?!

ชางกวนโม่มองไปที่หินหยกตรงหน้าอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อ แต่เขาก็รู้สึกว่ามู่หรงเสวี่ยมีความลับมากมาย

เขาสืบเรื่องของเธอ แต่เขารู้สึกว่ารายงานที่ได้มายังห่างไกลจากตัวเธอมาก นอกจากนี้เธอไม่เพียงแค่รู้ทักษะทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังดูเหมือนจะเก่งในเรื่องการพนันอีกด้วย ครั้งล่าสุดเขาซื้อมรกตสีเขียวของเธอ เขาไม่เชื่อว่าเธอแค่โชคดี ยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของเธอในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกว่า มู่หรงเสวี่ยรู้จักหยกในหินหยก

โชคดีที่มู่หรงเสวี่ยไม่ใช่คู่แข่งของเขาเพราะจริงๆแล้วเขาเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของมู่หรงเสวี่ยและรู้สึกว่าอนาคตของเด็กสาวคนนี้ยังอีกไกลมากจริงๆ

หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยตรวจสอบหินหยกมากกว่าสิบชิ้น ในที่สุดเธอก็พบหินหยกสีเขียวของมรกต มู่หรงเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างอารมณ์ดี หลังจากบันทึกหมายเลขของมรกตเขียวแล้วเธอก็เขียนราคาที่สูง แต่เธอไม่กล้าที่จะให้สูงเกินไป เธอขึ้นราคาตามราคาประมูลปกติ ถ้าสูงเกินไปมันคงจะน่าดึงดูดกว่านี้

หลังจากเขียนหมายเลขแล้ว มู่หรงเสวี่ยก็เงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นดวงตาที่ดูสงสัยคู่หนึ่ง

ชางกวนโม่ไม่ได้เปิดเผยความลับเกี่ยวกับการคาดเดาของเขากับเธอ “เสี่ยวเสวี่ย เธอดูเหมือนจะมีความลับมากมายเลยนะ?”

ชางกวนโม่ที่ดูเหมือนจะเข้าใจทุกสายตาทำให้เธอใจเต้น! บ้าจริง ตาเขาเป็นสแกนหรือเอกซเรย์!! ตาแหลมจริงๆ! แกล้งทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนดีไหมน่ะ?! ภายใต้ความตกตะลึงในหัวใจ มู่หรงเสวี่ยแสร้งทำเป็นสงบ ดึงรอยยิ้มที่น่าขำ
“พี่ชางกวน ฉัน … ฉันจะมีความลับได้ยังไงกันล่ะ?”

“ถ้ามีความลับ ฉันจะขุดมันออกมาทีละนิด ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก!” ชางกวนโม่พูดใกล้หูของเธอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 40 การประชุมหินพนัน

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 40 การประชุมหินพนัน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 40
การประชุมหินพนัน

ผู้เฒ่าโม่เป็นคนใหญ่คนโตของประเทศ เขาสร้างคุณูปการให้กับประเทศนับไม่ถ้วนและผู้คนต่างก็ให้ความเคารพนับถือเขาเป็นอย่างมาก

ตอนนี้ผู้เชี่ยวชาญทางการแพทย์ที่มีอำนาจหลายคนจากในและต่างประเทศได้รับการเรียกตัวให้มาที่นี่ ใครที่ทราบข่าวต่างก็ต้องมาที่นี่ แต่ใครจะรู้ว่าชายชราผู้นอนเป็นผักจะถูกรักษาได้โดยผู้หญิงคนหนึ่งที่ชื่อมู่หรงเสวี่ย!!
พวกเขาถามซ้ำแล้วซ้ำเล่าก่อนจะเชื่อในที่สุด!!!

ในช่วงสุดสัปดาห์ เธอจำเรื่องการประชุมหินพนันในเมือง A ที่พ่อของเธอพูดถึงเมื่อสองสามวันก่อนได้และพ่อได้รับจดหมายเชิญ และจึงมอบหมายให้เธอไป ในการประชุมหินพนันที่จะถูกจัดขึ้นในวันนี้

ช่วงนี้เธอไม่รู้ว่าพี่จื่อเหวินยุ่งเรื่องอะไร นอกจากเธอเวลาที่เธอจะออกไปข้างนอกแล้ว นอกนั้นเธอก็ไม่เจอเขาในเวลาอื่นอีกเลย พี่จื่อเหวินยุ่งเรื่องอื่นอยู่หรือเปล่า?! พี่เขาอยากที่จะมาเป็นบอดี้การ์ดจริงๆหรือเปล่า? เดี๋ยวมีเวลาค่อยลองคุยกับเขา

การประชุมหินพนันในเมือง A จัดร่วมกันโดยตระกูลฝาง, ตระกูลหยางและตระกูลหลินแห่งอุตสาหกรรมหยก

สถานที่จัดการประชุมหินพนันจัดขึ้นในคฤหาสน์ชานเมืองซึ่งครอบคลุมพื้นที่มากกว่า 5,000 ตารางเมตร ผู้ที่จะได้รับจดหมายเชิญนั้นมีทั้งบุคคลสำคัญหรือครอบครัวชนชั้นสูง พ่อค้าหินหยกธรรมดาหรือคนธรรมดาไม่ได้รับอนุญาตให้เข้า งานรักษาความปลอดภัยจึงดีมากๆ

วัตถุดิบที่จะสามารถนำมาออกการประชุมหินพนันได้จะต้องเป็นของดี ลองนึกดูว่ามีวัตถุดีๆมากมายแค่ไหน
มู่หรงเสวี่ยคิดเรื่องนี้และโทรศัพท์ไปบอกพี่จื่อเหวินว่าวันนี้เขาไม่ต้องไปเพราะพี่กู่เป็นคนดูแลเรื่องหยก ดังนั้นเธอและพี่กู่จะไปด้วยกัน

ในตอนแรกโม่จื่อเหวินไม่เห็นด้วย การผิดพลาดครั้งล่าสุดทำให้เขารู้สึกผิด ในจดหมายเชิญระบุว่าอนุญาตให้พาคนติดตามไปด้วยได้หนึ่งคน ดังนั้นมู่หรงเสวี่ยจึงบอกเกี่ยวกับความปลอดภัยของการประชุมหินพนัน

ระหว่างทางกู่หมิงถือโอกาสรายงานต่อมู่หรงเสวี่ยเกี่ยวกับสถานการณ์ทางธุรกิจของบริษัท “ เสี่ยวเสวี่ยบริษัทมาถูกทางแล้วและผลตอบรับของร้านเป่าหยูก็ยอดเยี่ยมมาก หลังจากที่หยกถูกตัดออกจากหินหยกที่ซื้อครั้งล่าสุด หยกชั้นหนึ่งถูกขายไป 5 ชิ้นแล้ว แบบนี้ที่งานการประชุมหินพนันก็สามารถซื้อได้มากขึ้น แล้วเงินปันผลก็เข้าบัญชีของคุณเมื่อวานนี้แล้วนะ เมื่อเดือนที่แล้วเราทำกำไรได้เกือบ 600 ล้านโดยเก็บไว้ 200 ล้านเพื่อเป็นเงินหมุนเวียนของบริษัท”

ในที่สุดเขาก็เริ่มมาถูกทาง หลังจากฟังข่าวดีในตอนเช้าแล้ว มู่หรงเสวี่ยก็อารมณ์ดีมาก “ดีค่ะ เหนื่อยหน่อยนะคะพี่กู่ อีกเรื่องนะคะ ที่บริษัทลั่วเฉิงเฟยเป็นยังไงบ้างคะ?”

เมื่อพูดถึงลั่วเฉิงเฟย ตอนที่กู่หมิงเห็นเขามาพร้อมกับจดหมายแต่งตั้งครั้งแรก กู่หมิงคิดว่าเขาโกหกเพราะเขายังเด็กเกินไปและตำแหน่งในจดหมายแต่งตั้งนั้นก็แต่งตั้งให้เป็นผู้จัดการทั่วไป ซึ่งก็เป็นตำแหน่งที่รองจากเขาเท่านั้น อย่างไรก็ตามเมื่อเขาโทรหาเสี่ยวเสวี่ยเพื่อขอคำยืนยันและได้รู้ว่ามันเป็นเรื่องจริง

“ตอนนี้ผมยังไม่ได้ข่าวอะไรจากเขาเลย”
“ไม่มีเลยเหรอ?! พี่หมายความว่ายังไง?”
ขณะที่เขาขับรถ กู่หมิงก็อธิบายว่า “ช่วงที่ผ่านมาเขากำลังดูข้อมูลของบริษัท แล้วก็ไปแผนกต่างๆ เพื่อตรวจสอบคุณภาพหยกของที่เป่าหยูด้วย แล้วเขาก็จะขีดๆเขียนๆอยู่ในห้องทำงานตลอดจนไม่มีเวลา … ”

มู่หรงเสวี่ยครุ่นคิดสักครู่ เธอไม่เคยสงสัยในความสามารถของลั่วเฉิงเฟย เธอไม่อยากยุ่งกับวิธีการทำงานของเขา เพียงแค่ปล่อยให้เขาพัฒนาอย่างอิสระ “พี่กู่ไม่ต้องกังวลกับงานของลั่วเฉิงเฟยหรอกนะคะ ถ้าเขาเสนอแผนการเปลี่ยนแปลงใด ๆ พี่ก็สามารถอนุมัติได้เลย ถ้าพี่ทำได้ก็ร่วมมือกับเขาด้วยนะคะ”

มือของกู่หมิงสั่นและรถก็แทบจะเบนออกไป“ เสี่ยวเสวี่ย เขาอายุแค่ 17 เองนะ! จากเหตุผลนี้แล้ว เขาไม่อยู่ในวัยที่จะทำงานเลย เสี่ยวเสวี่ย คุณไม่กลัวเขาบ้างเลยเหรอ?”

มู่หรงเสวี่ยยิ้ม เธอจะกังวลเรื่องเขาได้ยังไงล่ะ? ในชีวิตที่แล้วก็อายุเท่านี้ที่ชื่อลั่วเฉิงเฟยเริ่มจะดังขึ้นมา เธออยากจะหัวเราะเมื่อนึกถึงสไตล์ของเขาในชีวิตที่ผ่านมา ทุกครั้งใคร ๆ ก็จะบอกว่าเขาแค่ป่วนไปทั่ว แต่ผลลัพธ์ที่ตามมากลับยิ่งตอกหน้าของคนอื่นๆซ้ำแล้วซ้ำเล่า

“พี่กู่ ตราบใดที่พี่เชื่อฉันว่าฉันต้องเลือกเขาเพราะเขามีบางอย่างที่พิเศษ แม้ว่าจะเกิดเรื่องผิดปกติกับบริษัท ฉันก็จะรับไว้”

กู่หมิงครุ่นคิดสักพักและตอบตกลงหลังจากผ่านไปสักพัก “โอเค”

หนึ่งชั่วโมงต่อมาในที่สุดพวกเขาก็มาถึงคฤหาสน์ของการประชุมหินพนัน หลังจากแสดงบัตรเชิญแล้ว พวกเขาก็เข้าไปด้านใน การมาของทั้งสองไม่ได้ดึงดูดความสนใจของทุกคน แต่กู่หมิงเป็นที่รู้จักของบางคน อย่างไรก็ตามพวกเขาต่างก็เป็นเพื่อนและคู่แข่งกันดังนั้นพวกเขาจึงเพียงแค่กล่าวทักทายกัน

และมู่หรงเสวี่ยนอกจากใบหน้าที่สวยงามที่ทำให้ผู้คนต้องหันมามอง แต่ก็ไม่มีใครมองว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพนันเลย

ในขณะที่ทุกคนกำลังคุยกันและสังเกตหินหยกอย่างระมัดระวัง มู่หรงเสวี่ยก็เห็นแสงสีแดงที่มีสีทองอยู่ทางด้านซ้ายสุดซึ่งงดงามมาก มู่หรงเสวี่ยรู้สึกตื่นเต้น ต้องมี หยกที่ยอดเยี่ยมอยู่ที่ในนั้นแน่ๆ แต่เรายังต้องตรวจสอบเพื่อดูว่ามันคืออะไร

อย่างไรก็ตามความสามารถในการมองเห็นของเธอดีขึ้น ยิ่งเธอใช้มันมากเท่าไหร่ เธอก็สามารถมองทะลุผ่านมันได้ง่ายขึ้นเท่านั้น ตอนนี้เธอมองดูหลายจุดในห้องประชุมที่ตกแต่งแสงไฟไว้มากมาย มันคือการประชุมหินพนัน เพื่อหินหยกที่มีคุณภาพดีที่สุด

มู่หรงเสวี่ยระงับความตื่นเต้นของตัวเอง เธอไม่ได้วางแผนจะไปดูตอนนี้ แม้ว่าจะไม่มีใครสนใจเธอมากนัก แต่ก็ดีกว่าที่จะเก็บมุมมองของเธอไว้ ดังนั้นเธอจึงวางแผนที่จะดูวัสดุทำด้วยหินหยกอื่น ๆ ก่อน นอกจากนี้เธอยังไม่กังวลว่าคนอื่นจะซื้อหินหยกเพราะการประชุมหินพนันแตกต่างจากจุดวัตถุดิบทั่วไป ที่จำเป็นต้องเสนอราคาและไม่ทราบราคาประมูล เปิดเผยเฉพาะในช่วงเวลาของการเปิดประมูลเท่านั้นและราคาที่สูงที่สุดก็จะเป็นผู้ชนะไป

คนสองคน มองรอบๆในขณะที่เขียนหมายเลขหินหยกที่ดีเอาไว้ เพื่อสะดวกในการเสนอราคาได้ทันเวลา
หลังจากนั้นไม่นาน มู่หรงเสวี่ยก็เจอกับฟางฉีฮัวและมีเด็กผู้หญิงอยู่ข้างๆเขาด้วย ซึ่งเป็นลูกสาวของตระกูลจาง

มู่หรงเสวี่ยแสยะ แน่นอนว่าเขาพบเป้าหมายอื่นแล้วเมื่อเขาไม่มีทางเลือกมากนัก เมื่อไม่นานมานี้ฟางฉีฮัวพยายามหาโอกาสที่จะชวนเธอออกไปเที่ยวตลอด แต่เธอไม่อยากที่จะสนใจเขา ในชีวิตที่ผ่านมาเธอคิดว่าตัวเองตาบอดและต้องทนทุกข์ทรมานเพราะตัวเอง ในชีวิตนี้เธอไม่อยากที่จะยุ่งเกี่ยวกับเขาเลย

เมื่อมองไปที่จางเฉียนจินที่ยืนอยู่ข้างๆเขาด้วยรอยยิ้มที่มีความสุข แล้วเธอก็เริ่มที่คิดว่าในชาติที่แล้วเธอยิ้มโง่ ๆ ยืนอยู่ข้างๆเขาแบบนี้ด้วยหรือเปล่า? ในตอนนั้นเธออยากจะยืนในจุดนั้นได้ยังไงกัน?! ดูเหมือนว่าเธอจะรู้สึกขอบคุณพระเจ้าอยู่ตลอดเวลาที่เธอได้พบเขาและคิดว่ามันเป็นรักแท้ ความรู้สึกของการตกจากสวรรค์สู่นรกยังคงชัดเจนในตอนนี้

ทันใดนั้นแรงกระแทกอย่างแรงก็ดึงเธอกลับมา เธอตะลึงและเงยหน้าขึ้นมองด้วยดวงตาที่โกรธเกรี้ยว

ชางกวนโม่ เป็นเขาอีกแล้วได้ยังไงเนี่ย?!!!
ในใจของมู่หรงเสวี่ย เต้นรัวปั่นป่วนไปหมด ราวกับมีฝูงผีเสือบินวนเต็มไปหมด

ไม่กี่วันก่อน ชางกวนโม่ได้รับจดหมายเชิญจากการประชุมหินพนัน เขาจำเป็นต้องรวบรวมหยกจักรพรรดิ ดังนั้นวันนี้เขาจึงมาดู เขาบังเอิญเห็นมู่หรงเสวี่ย เขารู้สึกประหลาดใจจนต้องเข้ามาทักเธอ แต่เขาพบว่าเธอกำลังจ้องมองเด็กผู้ชายคนหนึ่งอยู่นานมากแต่กลับไม่สนใจที่จะหันกลับมามองเขาเลย อารมณ์ที่เปลี่ยนไปทางสายตาของเธอทำให้เขารู้สึกตกใจ ความสัมพันธ์ระหว่างทั้งสองนั้นต้องไม่ใช่แค่เพื่อนธรรมดา

ถ้ามองไปที่ผู้ชาย ยังมีผู้หญิงที่กำลังยืนยิ้มอยู่ เมื่อเขามองไปที่ชายคนนั้น เขาก็คงจะเดาอะไรไปได้มากมาย ในที่สุดเขาก็ตัดสินใจว่ามู่หรงเสวี่ยชอบผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายคนนั้นมีสาวคนอื่นอยู่แล้ว

ไม่ว่าเขาจะคิดอย่างไรเขาก็ไม่สามารถยับยั้งความโกรธในตอนนี้ได้ ก่อนที่เขาจะได้สติ เขาก็ดึงเธอออกมาให้พ้นจุดที่ชายคนนั้นยืนอยู่ซะแล้ว

“คุณชางกวน มีอะไรให้ฉันช่วยงั้นเหรอคะ?” มู่หรงเสวี่ยเป็นกังวลมาก ทำไมเขาถึงดูโกรธทุกครั้งที่เห็นเธอด้วยนะ? เธอไม่รู้จริงๆว่าตัวเธอไปยั่วโมโหนายน้อยคนนี้ที่ไหน?! อยากจะร้องไห้จริงๆ

“เรียกฉันว่าพี่โม่หรือพี่ชางกวน!”
“ฮ่ะ?”
นัยน์ตาฉายแววดุดันบ่งบอกว่าอย่าให้ฉันต้องบังคับนะ

มู่หรงเสวี่ยเริ่มจะขาอ่อน คุณชาย ดวงตาของคุณแปลกและน่ากลัวจริงๆ คุณช่วยหันไปทางอื่นทีได้ไหม?!!! แต่ก็ยังไม่กล้าพอที่จะพูดออกมาตรงๆ

“พี่ชางกวน … ” ให้เธอเรียกเขาว่าพี่โม่หรือพี่ชางกวน เธอพูดออกมาไม่ได้จริงๆ

ในที่สุดสีหน้าของเขาก็อ่อนลงและจับมาที่หัวของเธอ

จะทำอะไรเนี่ย?! เธอไม่ใช่หมานะ…หื้อ…แม่จ๋า หนูอยากกลับบ้านแล้ว ที่นี่มีแต่พวกปีศาจ

มู่หรงเสวี่ยมองไปรอบ ๆ และอยากที่จะหาพี่กู่ เธอไม่อยากเผชิญหน้ากับเขาคนเดียว !!! สถานที่จัดงานใหญ่ไปหน่อย เธอเลยไม่เจอพี่กู่มาพักใหญ่แล้ว

ไม่นานหลังจากที่พวกเขาเข้ามาในงาน พวกเขาก็แยกกัน เหตุผลหลักคือมู่หรงเสวี่ยไม่ต้องการที่จะให้สะดุดตา หลังจากคุยกับกู่หมิงสักครู่เธอก็ไปซื้อของด้วยตัวเอง ใครจะรู้ว่าเธอจะได้พบกับชางกวนโม่ เทพเจ้าแห่งภัยพิบัติ
“พี่ชางกวนมาดูหินหยกเหมือนกันเหรอคะ?” เมื่อเห็นสีหน้าของอีกฝ่ายที่ดีขึ้นอย่างไม่มีเหตุผล เธอจึงรีบเปลี่ยนเรื่องคุย

“ก็ ลองมาดูว่าจะมีหยกจักรพรรดิหรือเปล่าน่ะ!” ชางกวนโม่ตอบเบา ๆ มือข้างหนึ่งยังจับมือเธออยู่

“อืม … งั้นฉันเข้าไปดูก่อนดีกว่า จะได้ไม่รบกวนพี่ด้วย… ” มู่หรงเสวี่ยพูดและอยากที่จะสลัดมือใหญ่ๆ ของชางกวนโม่ แต่เขาไม่ยอมที่จะปล่อย

ไม่ว่าเธอจะดิ้นรนแค่ไหน ชางกวนโม่ก็พูดว่า “ไปกันเถอะ! หรือเธอไม่เชื่อสายตาฉันที่มีสายตาของนกฟีนิกซ์ที่ทั้งมองการณ์ไกลและแม่นยำแบบนี้ล่ะ”

บ้าเหรอ! ใครจะกล้าดูถูกท่านประมุขแห่งเมืองหลวงล่ะ ช่างน่ากลัวจริงๆ มู่หรงเสวี่ยยิ้มอย่างประจบในทันที “จะเป็นแบบนั้นได้ยังไงล่ะคะ? เป็นเกียรติของฉันเลยที่ได้อยู่กับพี่ชางกวน”

นี่คือสิ่งที่เขาชอบที่จะฟัง เขาพยักหน้าอย่างพอใจและพูดออกมาอย่างยโส “รู้ก็ดีแล้ว ฉันชอบเธอนะ! ไปกันเถอะ”
ครึ่งชั่วโมงต่อมาการประชุมหินพนันก็ได้เปิดขึ้นอย่างเป็นทางการ

“ยินดีต้อนรับสู่การประชุมหินพนันในวันนี้ ผมเป็นเจ้าภาพของการประชุมหินพนันในวันนี้ … ”

หลังจากการกล่าวเปิดงานที่ยาวนานซึ่งไม่ได้รับความสนใจจบลง บริกรกลุ่มหนึ่งก็ออกมาจากคฤหาสน์และบริกรหนึ่งคนจะได้รับมอบหมายให้ดูแลแขกวีไอพีหนึ่งคนเท่านั้น

ตรงหน้าชางกวนโม่และมู่หรงเสวี่ยคือชายหน้าตาดีสองคนอายุประมาณ 30 ปีซึ่งดูไม่หยิ่งผยอง, มีความอดทนและให้บริการอย่างดี

ระหว่างทางเธอเลือกหินหยกจำนวนมาก เขียนหมายเลขและราคาประมูลของตัวเองไว้

อีกด้านหนึ่งของชางกวนโม่ก็เลือกไว้จำนวนมากเช่นกัน มู่หรงเสวี่ยมีความสามารถในการมองอยู่ ซึ่งหินหยกที่เธอเขียนเลขเอาไว้ถูกหมายตาโดยชางกวนโม่ถึง 80% หัวใจของการเข้าใจของชางกวนโม่อยู่ในระดับที่สูง เธออาศัยการโกงจากความสามารถในการมอง ชางกวนโม่อาศัยวิสัยทัศน์ของตัวเองล้วนๆ ชายผู้มีอำนาจทุกอย่างเกิดมาเพื่อต่อสู้กับผู้อื่น มู่หรงเสวี่ยพึมพำเป็นร้อยครั้งในหัวใจ

ชางกวนโม่ให้ความสนใจกับมู่หรงเสวี่ย ทั้งๆที่แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าทำไมตัวเองถึงชอบมู่หรงเสวี่ย อย่างไรก็ตามเขาพบเธอเพียงไม่กี่ครั้ง เขาไม่ใช่คนหุนหันพลันแล่นและนั่นคือสาเหตุที่เขาสงสัย ระหว่างทางที่เฝ้าสังเกตเธอก็ได้พบว่าโดยพื้นฐานแล้วเธอไม่ได้มองมันอย่างละเอียดและจดเลขลงไป นี่เป็นเรื่องของความร่ำรวยและความกล้างั้นเหรอ?!!

บางครั้งก็ไม่รู้ว่าจะต้องคิดยังไง บางครั้งก็น่าโมโหแต่บางครั้งเธอก็ทำตัวน่ารักจนเขาอดที่จะหลงรักไม่ได้
มู่หรงเสวี่ยมัวแต่สนใจแต่เรื่องหินหยกจนไม่ได้สังเกตเห็นดวงตาของชางกวนโม่เลย

ทันใดนั้นเธอก็เห็นมรกตสีเขียวที่เลอค่าและสวยงามมาก พระเจ้า! เธอเจอมรกตเขียวอีกแล้ว!

ฮ่า ฮ่า ฮ่า! พระเจ้านี่เมตตาเธอดีจริงๆ!

มู่หรงเสวี่ยจ้องไปที่มรกตเขียวอย่างถี่ถ้วน เธอไม่กล้าที่จะรีบร้อนเกินไปเพราะกลัวว่าความผิดปกติของเธอจะทำให้คนอื่นสงสัย ดังนั้นเธอจึงลงนั่งยองๆและตรวจสอบอย่างละเอียดช้าๆ

ในสายตาของคนนอกจะเห็นเพียงเด็กผู้หญิงตัวเล็ก ๆ ที่กำลังหัดอ่านหินหยก ทำไมถึงคิดว่าเป็นการเรียนรู้น่ะเหรอ? หลักๆก็เพราะมู่หรงเสวี่ยยังเด็กเกินไปที่ใคร ๆ จะคิดว่าเธอเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการพนัน

อย่างไรก็ตามชางกวนโม่ไม่เหมือนคนอื่น เขาสังเกตเห็นได้ทันทีว่ามู่หรงเสวี่ยผิดปกติไป จากเดิมที่ดูสบาย ๆ จนถึงตอนนี้ที่ดูเหมือนจงใจแกล้งทำเป็นจริงจัง ทำไมล่ะ?!

ชางกวนโม่มองไปที่หินหยกตรงหน้าอย่างระมัดระวัง แม้ว่าเขาจะไม่อยากเชื่อ แต่เขาก็รู้สึกว่ามู่หรงเสวี่ยมีความลับมากมาย

เขาสืบเรื่องของเธอ แต่เขารู้สึกว่ารายงานที่ได้มายังห่างไกลจากตัวเธอมาก นอกจากนี้เธอไม่เพียงแค่รู้ทักษะทางการแพทย์เท่านั้น แต่ยังดูเหมือนจะเก่งในเรื่องการพนันอีกด้วย ครั้งล่าสุดเขาซื้อมรกตสีเขียวของเธอ เขาไม่เชื่อว่าเธอแค่โชคดี ยิ่งไปกว่านั้นการเปลี่ยนแปลงที่เห็นได้ชัดของเธอในตอนนี้ทำให้เขารู้สึกว่า มู่หรงเสวี่ยรู้จักหยกในหินหยก

โชคดีที่มู่หรงเสวี่ยไม่ใช่คู่แข่งของเขาเพราะจริงๆแล้วเขาเห็นอารมณ์ที่เปลี่ยนไปของมู่หรงเสวี่ยและรู้สึกว่าอนาคตของเด็กสาวคนนี้ยังอีกไกลมากจริงๆ

หลังจากที่มู่หรงเสวี่ยตรวจสอบหินหยกมากกว่าสิบชิ้น ในที่สุดเธอก็พบหินหยกสีเขียวของมรกต มู่หรงเสวี่ยอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างอารมณ์ดี หลังจากบันทึกหมายเลขของมรกตเขียวแล้วเธอก็เขียนราคาที่สูง แต่เธอไม่กล้าที่จะให้สูงเกินไป เธอขึ้นราคาตามราคาประมูลปกติ ถ้าสูงเกินไปมันคงจะน่าดึงดูดกว่านี้

หลังจากเขียนหมายเลขแล้ว มู่หรงเสวี่ยก็เงยหน้าขึ้นมอง แต่ก็ต้องประหลาดใจเมื่อเห็นดวงตาที่ดูสงสัยคู่หนึ่ง

ชางกวนโม่ไม่ได้เปิดเผยความลับเกี่ยวกับการคาดเดาของเขากับเธอ “เสี่ยวเสวี่ย เธอดูเหมือนจะมีความลับมากมายเลยนะ?”

ชางกวนโม่ที่ดูเหมือนจะเข้าใจทุกสายตาทำให้เธอใจเต้น! บ้าจริง ตาเขาเป็นสแกนหรือเอกซเรย์!! ตาแหลมจริงๆ! แกล้งทำเป็นหัวเราะกลบเกลื่อนดีไหมน่ะ?! ภายใต้ความตกตะลึงในหัวใจ มู่หรงเสวี่ยแสร้งทำเป็นสงบ ดึงรอยยิ้มที่น่าขำ
“พี่ชางกวน ฉัน … ฉันจะมีความลับได้ยังไงกันล่ะ?”

“ถ้ามีความลับ ฉันจะขุดมันออกมาทีละนิด ไม่ต้องขอบคุณฉันหรอก!” ชางกวนโม่พูดใกล้หูของเธอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+