ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 90 การเติบโตของบริษัทอ้ายเสวี่ย

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 90 การเติบโตของบริษัทอ้ายเสวี่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 90
การเติบโตของบริษัทอ้ายเสวี่ย
วันต่อมา ตระกูลหลินพาหลินจื่อชิงมาเพื่อขอโทษ นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ได้ด้วยคำขอโทษ โชคดีที่มู่หรงเสวี่ยรู้วิธีที่จะถอนพิษให้หยางเฟิง ไม่งั้นเขาคงจะถูกทำลายไปตลอดชีวิต เหตุผลที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือหลินจื่อชิงบอกว่าเธอรักหยางเฟิง

นิสัยแบบนี้ของหลินจื่อชิงคือประเด็นความเปลี่ยนแปลงง่ายๆ เพื่อให้ได้ผู้ชายมาแม้ไม่มีวิญญาณ แบบนั้นมันมีความสุขจริงๆงั้นเหรอ?! บางทีหลินจื่อชิงอาจจะไม่ได้รักหยางเฟิงจริงๆก็ได้ เพียงแค่อยากที่จะได้มาเท่านั้น

มู่หรงเสวี่ยไม่สนใจคำแก้ตัวของตระกูลหลิน สิ่งที่เธออยากจะรู้คือเธอมียากลืนวิญญาณได้ยังไง?! น่าเสียดายที่ไม่ว่าตระกูลหยางหรือตระกูลหลินจะถามเธอเท่าไร หลินจื่อชิงก็ไม่ยอมบอกแหล่งที่มาของยาพิษนี้เลย เธอกัดฟันและบอกว่าซื้อมาเอง
เห็นอยู่ชัดๆว่าโกหกแต่ไม่ว่าจะกดดันยังไงก็ไม่ทำให้หลินจื่อชิงยอมเปิดปากออกมาได้ เดาว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ

มู่หรงเสวี่ยแอบสั่งโม่จื่อเหวินอย่างลับๆให้ส่งคนไปคอยดูหลินจื่อชิง เธอรู้สึกว่าองค์กรนั้นต้องกลับไปหาหลินจื่อชิงแน่ๆ บางทีเธออาจจะหาเบาะแสบางอย่างจากหลินจื่อชิงได้ ยากลืนวิญญาณนี้ไม่ควรที่จะมีออกมาตั้งแต่แรกแล้ว

อย่างไรก็ตามหลายวันที่ผ่านมานี้มีข่าวดี นั่นคือการประชาสัมพันธ์ยาของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะกิจกรรมฟรีคลินิกซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก แน่นอนว่าเป็นเพราะคุณภาพที่ดีและผลที่ดีของยาของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ป และคนที่ได้กินยาเข้าไปต่างก็รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาดูสบายขึ้นกว่าแต่ก่อนมากอย่างไม่คาดคิดซึ่งได้กระตุ้นให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อสาธารณชน ในเวลานี้ชื่อเสียงบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปในเรื่องอุตสาหกรรมยาโด่งดังไปไม่มีที่สิ้นสุด…

อย่างไรก็ตามบริษัทยาอื่นๆในเมือง A ต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้เหล่าคนไข้มากมายพร้อมที่จะย้าย

แผนกยาของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปยุ่งกันอย่างมาก ตัวยาทดลองของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปตอนนี้อยู่ในสภาวะขาดตลาด ตอนนี้พนักงานก็ไม่ค่อยเพียงพอ ทั้งบริษัทจึงยุ่งกันมากแต่พนักงานทุกคนต่างก็มีความสุขมากเช่นกัน ครึ่งหนึ่งของพนักงานมาจากบริษัทเก่าของกู่หมิงและชื่อเสียงด้านศิลธรรมของพวกเขาก็เชื่อถือได้ ส่วนอีกครึ่งจะมาจากเหล่าทหารปลดเกษียณและสมาชิกครอบครัวของพวกเขา เมื่อบริษัทประสบความสำเร็จพวกเขาจึงมีความสุขกันมาก ในตอนแรกพวกเขาต่างก็เป็นกังวลว่าบริษัทเปิดใหม่จะไปไม่รอด แต่ตอนนี้พวกเขาต่างก็โล่งอกและเชื่อมั่น

มู่หรงเสวี่ยเรียกกู่หมิงเข้ามาและบอกให้มอบรางวัลให้กับพนักงานทุกคนหลังจากช่วงเวลาที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกันมา เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันที่จะต้องเอาใจพนักงานด้วย นอกจากนี้ช่วงที่บริษัทขาดคนก็ยังมีพนักงานส่วนใหญ่ที่พร้อมจะเข้ามาช่วยทำงานล่วงเวลาเพื่อช่วยบริษัท แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นความสมัครใจของทุกคนเอง
สำหรับบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ป กู่หมิง, ลั่วเฉิงเฟยและโม่จื่อเหวินจะคอยดูแลให้เธอ เธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลยแต่ตอนนี้สิ่งที่เธอเป็นห่วงคืออีกบริษัท หลังจากที่คิดเรื่องนี้เธอก็โทรหาโม่อ้ายหลี่

ทั้งสองไปเจอกันที่ร้านกาแฟเงียบๆ
โม่อ้ายหลี่เข้ามาพร้อมด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวและโยนเอกสารลงที่โต๊ะ
มู่หรงเสวี่ยเงยหน้าขึ้น “คุณหนู ใครทำให้ไม่พอใจอีกล่ะคะ?” แล้วเธอก็จิบกาแฟอย่างใจเย็น
“เธอยังมีหน้ามานั่งชิลจิบกาแฟอีกเหรอ” เธอกระทืบเท้าแล้วพูดต่อ “หายหัวไปไหนมาหลายวันจ๊ะ?” โม่อ้ายหลี่จับไหล่มู่หรงเสวี่ยและเขย่าอย่างสิ้นหวัง
“จะอ้วกแล้ว ปล่อยก่อน รีบปล่อยเลย…” มู่หรงเสวี่ยถูกเขย่าจนเวียนหัวจนแทบจะเป็นลม
วินาทีต่อมาโม่อ้ายหลี่ก็ปล่อยเธอ

“เธอไม่สนใจบริษัทเลยหรือไง?!!! ฉันยุ่งมากเลย…” โม่อ้ายหลี่บ่นออกมาเรื่อยๆ “จะไม่สนใจได้ยังไงล่ะ?! ที่ฉันไม่ได้เข้าบริษัทเพราะฉันไม่มีเวลาเลย”
“งั้นเธอทำอะไร? ทั้งเรื่องอุปกรณ์โรงงาน, ช่างเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญของบริษัทแล้วก็อื่นๆอีก ตอนนี้คนก็ไม่พอด้วย แล้วยังมีปัญหาอีกตั้งมากมายให้คอยแก้ อย่างเรื่องที่ตั้งของบริษัท, การตกแต่งร้านแล้วเรื่องแพ็กเกจสินค้าอีก ที่บริษัทมีคนเก่งๆแค่ไม่กี่คนและตอนนี้ก็ยังรับเพิ่มอยู่อีกแต่ก็ยังไม่เจอคนที่น่าพอใจเลย…” โม่อ้ายหลี่พูดถึงเรื่องปัญหาในช่วงนี้ที่บางปัญหาก็ทำให้เธอถึงกับปวดหัว

“ฉันแค่อยากจะคุยกับเธอ ฉันได้ร่วมงานกับลิซซี่แล้วนะ ในอนาคตสินค้าของเราจะถูกเสนอให้กับสมาชิกของห้างลิซซี่พาวิลเลี่ยน หลังจากนั้นเราก็จะเซ็นต์สัญญากันอาทิตย์หน้า” มู่หรงเสวี่ยพูดอย่างสบายๆ พร้อมทั้งหยิบข้อมูลของบริษัทที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู

“อะไรนะ? ห้างลิซซี่พาวิลเลี่ยนงั้นเหรอ?!! เธอโน้มน้าวให้พวกเขามาร่วมงานกับเราได้ยังไงอะ?! เรื่องจริงงั้นเหรอ?!” โม่อ้ายหลี่พูดด้วยเสียงสูงอย่างประหลาดใจ

มู่หรงเสวี่ยยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารของบริษัท “ก็ห้างลิซซี่พาวิลเลี่ยนอะนะ อย่างแรกเลยเราจะส่งสินค้าทั้งหมดให้ลิซซี่ในเมือง A อีกอย่างทางลิซซี่ขอให้เราส่งสินค้าให้พวกเขาเท่านั้น ห้ามส่งให้เจ้าอื่น ฉันตอบตกลงไป พูดง่ายๆคือการผลิตของบริษัทจะต้องเสร็จสมบูรณ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครั้งหน้าฉันจะช่วยเธอเอง ฉันต้องขอโทษที่ก่อนหน้านี้ปล่อยให้เธอยุ่งอยู่คนเดียว” ตอนที่โม่อ้ายหลี่เดินเข้ามา เธอสังเกตเห็นว่าหน้าเธอซูบไปและเธอผอมลงไปเยอะ หลายวันที่ผ่านมาคงจะทำให้เธอต้องเหนื่อยอย่างมาก

“งั้นฉันยกโทษให้เธอก็ได้ แต่ถ้าเราได้ทำงานกับลิซซี่ งั้นเราก็สำเร็จไปเกือบครึ่งแล้วนะ” โม่อ้ายหลี่พูดอย่างมีความสุข

“อย่าเพิ่งมีความสุขเกินไป บริษัทยังไม่เข้าที่เข้าทางเลย ยังมีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำ เรามีคนไม่พอต้องรีบหาคนมาเพิ่มโดยด่วนเลย อีกอย่างนะเราทั้งคู่จะไม่มีใครได้บริหารบริษัท เราต้องหาคนที่ไว้ใจได้เข้ามานั่งแทน เธอมีคนที่เหมาะสมไหม?”

“ฉันมีคนหนึ่งแต่จะต้องเป็นคนที่ฉันคุ้นเคยโอเคไหม?” สำหรับเธอไม่สำคัญหรอกแต่มันเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวและการออกสื่อ
มู่หรงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมาและหัวเราะ “โอเค ฉันเชื่อเธอ! อีกอย่าง เธอตัดสินใจเรื่องแพ็กเกจของผลิตภัณฑ์แล้วหรือยัง?”

โม่อ้ายหลี่คิดอยู่สักพักแล้วจึงพูดออกมา “ขวดของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั้งหมดจะอยู่ในขวดพอร์ซเลนและบรรจุภัณฑ์ด้านนอกอยู่ในบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบย้อนยุค นี่เป็นภาพวาดการออกแบบ เธอคิดว่าไง?” โม่อ้ายหลี่หารูปวาดแพ็กเกจจากกองเอกสารตรงหน้า

มู่หรงเสวี่ยดูภาพออกแบบที่ละรูป จะเป็นแจกันพอร์ซ เลนที่คล้ายๆกันทั้งด้านบนเป็นสีน้ำเงินและสีขาวโดยมีรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป เกือบทุกอันมีความประณีตและสวยงาม เธอพยักหน้าอย่างพอใจ เมื่อดูที่บรรจุภัณฑ์ด้านนอก เป็นรูปแบบที่คล้ายๆกันคือเป็นสีฟ้าและขาว แต่คุณภาพของกระดาษดูเหมือนจะลดลงไปเยอะเลย

หลังจากที่อ่าน มู่หรงเสวี่ยก็พูดถึงความคิดเห็นของเธอ “บรรจุภัณฑ์ภายในสวยมากเลยนะ แต่บรรจุภัณฑ์ด้านนอกยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไรแถมไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษด้วย ฉันลองคิดดูแล้วถ้าเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจสีขาวกับบรรจุภัณฑ์ไม้ย้อนยุคน่าจะดีกว่า มันจะได้เข้ากับตัวผลิตภัณฑ์ของเราด้วย เธอคิดว่าไง?”
“แต่ราคาของแพ็กเกจไม้จะไม่แพงเกินไปเหรอ?”
“เราจะเข้าไปสู่แบรนด์หรูนะ เราจะไม่คิดมากด้วยกันลดราคาแพ็กเกจหรือวัสดุ และการใช้ไม้ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศ, เรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์ด้วยนะ มันจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีเอกลักษณ์มากขึ้น นอกจากนี้พวกคนรวยไม่ถือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไปด้วยทุกที่หรอกนะ และพวกเขาไม่ต้องมาคำนึงถึงปัญหาในการพกพาหรอก และถึงแม้จะใช้กระดาษ ราคามันก็ไม่ถูกนะ ตัวอย่างเช่น แพ็กเกจของแบรนด์หรูมักจะทำกล่องหนาสองหรือสามชั้นและทางโรงงานก็ต้องทำงานหลายครั้ง แต่ถ้าเธอใช้ไม้สังเคราะห์ธรรมชาติ ราคามันก็ไม่ได้สูงมากอะไรขนาดนั้นและถ้าคำนวณดีๆก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรขนาดนั้นด้วย…”

โม่อ้ายหลี่มองมู่หรงเสวี่ยพูดและอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเธอ ไม่เหมือนตัวเอง ที่มักจะเร่งรีบในช่วงแรกเสมอและไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธอมักจะเชื่อในสิ่งที่มู่หรงเสวี่ยพูดและได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเธอ เป็นเรื่องดีจริงๆที่ได้เจอกับเธอ “งั้นเอาตามที่เธอบอกแล้วกัน อีกอย่างนะฉันกำลังจะไปดูขั้นตอนการตกแต่งที่ร้าน เธอจะไปดูด้วยกันไหม?”
ไม่นานพวกเธอก็มาถึงร้านแรกที่อยู่ไม่ไกลนัก โถงของร้านกว้างและพื้นปูด้วยกระเบื้องสีทอง ฉากกั้นแต่ละห้องประดับด้วยหินคริสตัล 7 สีซึ่งกำลังเปล่งประกาย รอบ ๆ กำแพงมีภาพวาดด้วยมือหลายรูปทั้งภูเขา, แม่น้ำ, ดอกไม้และนก บนหลังคามีโคมไฟวังดอกบัวขนาดใหญ่ ในวังจะมีโคมไฟรูปดอกบัว 24 โคม ภายใต้กลีบดอกไม้แต่ละกลีบฝังด้วยหินเรืองแสงที่สวยงามและส่องสว่างของแม่น้ำหลิวลี่ฮี นี่มันหรูหราถึงขีดสุดจริงๆ

ทั้งสองด้านของห้องโถงมีเสาไฟแกะสลักรูปมังกรและนกฟีนิกซ์สองแถว ด้านบนของเสาไฟมีโคมไฟทูลโบราณ ไฟอ่อนด้านในถูกคลุมไว้เล็กน้อยเพื่อสร้างความหรูหราและบรรยากาศ แต่ก็ไม่สูญเสียความอบอุ่นไป แสงไฟสะท้อนกับหินคริสตัลที่พื้นซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกตกใจไปกับการตกแต่ง

โม่อ้ายหลี่มีความสุขมากที่ได้เห็นท่าอ้าปากค้างของมู่หรงเสวี่ยจึงพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ “มันสวยมากเลยใช่ไหมล่ะ?!!”
มู่หรงเสวี่ยพยักหน้าด้วยท่าทางงี่เง่า “สวยมากเลยจริงๆ!” ภาพทั้งหมดที่เห็นมีแต่สีเหลือง, แดงและขาว ผสมกับสีของหินคริสตัลซึ่งดูเรียบง่ายแต่ก็หรูหรา

“มันยังไม่เสร็จเหรอ?! การตกแต่งของออฟฟิศหลักของเรายิ่งน่าตกใจกว่านี้อีกนะ! ฉันจะพาเธอไปดู” เมื่อโม่อ้ายหลี่เปิดโน็ตบุ๊คของเธอ ก็มีภาพสามมิติของการตกแต่งภายในที่ถูกออกแบบโดยนักออกแบบโดยอ้างอิงจากความคิดของเธอ เมื่อเธอได้เห็นมันเป็นครั้งแรก เธอก็ถึงกับต้องช็อกแบบสุดๆไปเลย

มู่หรงเสวี่ยเลื่อนเมาส์เพื่อตรวจอย่างระวัง ไม่คิดเลยว่ามันจะออกมาดีขนาดนี้ เห็นได้เลยว่าโม่อ้ายหลี่ลงแรงกับเรื่องนี้ไปเยอะมาก เธอพยักหน้าด้วยความพอใจ “ดีกว่าที่ฉันคิดไว้อีก สวยมากเลยจริงๆ”
“ใช่” โม่อ้ายหลี่เผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ ช่วงที่ผ่านมาต้องทำงานอย่างหนักแต่พอได้เห็นว่าเธอชอบแค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว

“อุปกรณ์ที่โรงงานมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” มู่หรงเสวี่ยถาม
“อุปกรณ์ถูกสั่งซื้อมาแล้วแต่เป็นเรื่องของพนักงานมากกว่า เพราะเป็นสายงานการผลิต พนักงานที่ได้รับคัดเลือกมาจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะแล้วก็ยังต้องได้รับการฝึกด้วย…”

“ไม่เพียงแค่นี้นะ ในอนาคตพนักงานจะย้ายไปไหนไม่ได้เพราะพวกเขามีหน้าที่จึงต้องป้องกันเพื่อไม่ให้สูตรรั่วไหลออกไป” นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากและนี่คือวิธีการในส่วนของการผลิตของภาคเภสัชกรรม

โม่อ้ายหลี่พยักหน้า “ฉันเองก็คิดเรื่องปัญหาที่เธอพูด ฉันจะใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น อีกไม่นานจะมีประชุมบริษัท เธอมากับฉันด้วยนะ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันโทรบอกอีกทีนะ”
“…”
บริษัทอ้ายเสวี่ยเดินหน้าไปได้อย่างดี มู่หรงเสวี่ยรู้สึกโล่งอกไปอย่างมาก หลังจากที่ได้คุยปัญหามากมายกับโม่อ้ายหลี่แล้วทั้งสองก็แยกกันไป
คืนนั้นระหว่างทางกลับบ้าน มู่หรงเสวี่ยไม่คิดว่าจะมีคนมากมายมายืนรอเธออยู่ที่ประตูทางเข้าคฤหาสน์ของเธอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) 90 การเติบโตของบริษัทอ้ายเสวี่ย

Now you are reading ย้อนเวลาแค้น (重生之千金有点狠) Chapter 90 การเติบโตของบริษัทอ้ายเสวี่ย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 90
การเติบโตของบริษัทอ้ายเสวี่ย
วันต่อมา ตระกูลหลินพาหลินจื่อชิงมาเพื่อขอโทษ นี่ไม่ใช่ปัญหาที่จะแก้ได้ด้วยคำขอโทษ โชคดีที่มู่หรงเสวี่ยรู้วิธีที่จะถอนพิษให้หยางเฟิง ไม่งั้นเขาคงจะถูกทำลายไปตลอดชีวิต เหตุผลที่น่าประหลาดใจที่สุดก็คือหลินจื่อชิงบอกว่าเธอรักหยางเฟิง

นิสัยแบบนี้ของหลินจื่อชิงคือประเด็นความเปลี่ยนแปลงง่ายๆ เพื่อให้ได้ผู้ชายมาแม้ไม่มีวิญญาณ แบบนั้นมันมีความสุขจริงๆงั้นเหรอ?! บางทีหลินจื่อชิงอาจจะไม่ได้รักหยางเฟิงจริงๆก็ได้ เพียงแค่อยากที่จะได้มาเท่านั้น

มู่หรงเสวี่ยไม่สนใจคำแก้ตัวของตระกูลหลิน สิ่งที่เธออยากจะรู้คือเธอมียากลืนวิญญาณได้ยังไง?! น่าเสียดายที่ไม่ว่าตระกูลหยางหรือตระกูลหลินจะถามเธอเท่าไร หลินจื่อชิงก็ไม่ยอมบอกแหล่งที่มาของยาพิษนี้เลย เธอกัดฟันและบอกว่าซื้อมาเอง
เห็นอยู่ชัดๆว่าโกหกแต่ไม่ว่าจะกดดันยังไงก็ไม่ทำให้หลินจื่อชิงยอมเปิดปากออกมาได้ เดาว่าอีกฝ่ายคงจะไม่ใช่คนธรรมดาแน่ๆ

มู่หรงเสวี่ยแอบสั่งโม่จื่อเหวินอย่างลับๆให้ส่งคนไปคอยดูหลินจื่อชิง เธอรู้สึกว่าองค์กรนั้นต้องกลับไปหาหลินจื่อชิงแน่ๆ บางทีเธออาจจะหาเบาะแสบางอย่างจากหลินจื่อชิงได้ ยากลืนวิญญาณนี้ไม่ควรที่จะมีออกมาตั้งแต่แรกแล้ว

อย่างไรก็ตามหลายวันที่ผ่านมานี้มีข่าวดี นั่นคือการประชาสัมพันธ์ยาของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปได้รับผลลัพธ์ที่ยอดเยี่ยมมาก โดยเฉพาะกิจกรรมฟรีคลินิกซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก แน่นอนว่าเป็นเพราะคุณภาพที่ดีและผลที่ดีของยาของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ป และคนที่ได้กินยาเข้าไปต่างก็รู้สึกว่าร่างกายของพวกเขาดูสบายขึ้นกว่าแต่ก่อนมากอย่างไม่คาดคิดซึ่งได้กระตุ้นให้เกิดผลกระทบอย่างมากต่อสาธารณชน ในเวลานี้ชื่อเสียงบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปในเรื่องอุตสาหกรรมยาโด่งดังไปไม่มีที่สิ้นสุด…

อย่างไรก็ตามบริษัทยาอื่นๆในเมือง A ต่างก็ได้รับผลกระทบอย่างหนัก ทำให้เหล่าคนไข้มากมายพร้อมที่จะย้าย

แผนกยาของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปยุ่งกันอย่างมาก ตัวยาทดลองของบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ปตอนนี้อยู่ในสภาวะขาดตลาด ตอนนี้พนักงานก็ไม่ค่อยเพียงพอ ทั้งบริษัทจึงยุ่งกันมากแต่พนักงานทุกคนต่างก็มีความสุขมากเช่นกัน ครึ่งหนึ่งของพนักงานมาจากบริษัทเก่าของกู่หมิงและชื่อเสียงด้านศิลธรรมของพวกเขาก็เชื่อถือได้ ส่วนอีกครึ่งจะมาจากเหล่าทหารปลดเกษียณและสมาชิกครอบครัวของพวกเขา เมื่อบริษัทประสบความสำเร็จพวกเขาจึงมีความสุขกันมาก ในตอนแรกพวกเขาต่างก็เป็นกังวลว่าบริษัทเปิดใหม่จะไปไม่รอด แต่ตอนนี้พวกเขาต่างก็โล่งอกและเชื่อมั่น

มู่หรงเสวี่ยเรียกกู่หมิงเข้ามาและบอกให้มอบรางวัลให้กับพนักงานทุกคนหลังจากช่วงเวลาที่ต้องเหน็ดเหนื่อยกันมา เป็นเรื่องสำคัญเช่นกันที่จะต้องเอาใจพนักงานด้วย นอกจากนี้ช่วงที่บริษัทขาดคนก็ยังมีพนักงานส่วนใหญ่ที่พร้อมจะเข้ามาช่วยทำงานล่วงเวลาเพื่อช่วยบริษัท แน่นอนว่าทั้งหมดเป็นความสมัครใจของทุกคนเอง
สำหรับบริษัทเจวี๋ยลี่กรุ๊ป กู่หมิง, ลั่วเฉิงเฟยและโม่จื่อเหวินจะคอยดูแลให้เธอ เธอไม่จำเป็นต้องกังวลอะไรเลยแต่ตอนนี้สิ่งที่เธอเป็นห่วงคืออีกบริษัท หลังจากที่คิดเรื่องนี้เธอก็โทรหาโม่อ้ายหลี่

ทั้งสองไปเจอกันที่ร้านกาแฟเงียบๆ
โม่อ้ายหลี่เข้ามาพร้อมด้วยใบหน้าโกรธเกรี้ยวและโยนเอกสารลงที่โต๊ะ
มู่หรงเสวี่ยเงยหน้าขึ้น “คุณหนู ใครทำให้ไม่พอใจอีกล่ะคะ?” แล้วเธอก็จิบกาแฟอย่างใจเย็น
“เธอยังมีหน้ามานั่งชิลจิบกาแฟอีกเหรอ” เธอกระทืบเท้าแล้วพูดต่อ “หายหัวไปไหนมาหลายวันจ๊ะ?” โม่อ้ายหลี่จับไหล่มู่หรงเสวี่ยและเขย่าอย่างสิ้นหวัง
“จะอ้วกแล้ว ปล่อยก่อน รีบปล่อยเลย…” มู่หรงเสวี่ยถูกเขย่าจนเวียนหัวจนแทบจะเป็นลม
วินาทีต่อมาโม่อ้ายหลี่ก็ปล่อยเธอ

“เธอไม่สนใจบริษัทเลยหรือไง?!!! ฉันยุ่งมากเลย…” โม่อ้ายหลี่บ่นออกมาเรื่อยๆ “จะไม่สนใจได้ยังไงล่ะ?! ที่ฉันไม่ได้เข้าบริษัทเพราะฉันไม่มีเวลาเลย”
“งั้นเธอทำอะไร? ทั้งเรื่องอุปกรณ์โรงงาน, ช่างเทคนิคและผู้เชี่ยวชาญของบริษัทแล้วก็อื่นๆอีก ตอนนี้คนก็ไม่พอด้วย แล้วยังมีปัญหาอีกตั้งมากมายให้คอยแก้ อย่างเรื่องที่ตั้งของบริษัท, การตกแต่งร้านแล้วเรื่องแพ็กเกจสินค้าอีก ที่บริษัทมีคนเก่งๆแค่ไม่กี่คนและตอนนี้ก็ยังรับเพิ่มอยู่อีกแต่ก็ยังไม่เจอคนที่น่าพอใจเลย…” โม่อ้ายหลี่พูดถึงเรื่องปัญหาในช่วงนี้ที่บางปัญหาก็ทำให้เธอถึงกับปวดหัว

“ฉันแค่อยากจะคุยกับเธอ ฉันได้ร่วมงานกับลิซซี่แล้วนะ ในอนาคตสินค้าของเราจะถูกเสนอให้กับสมาชิกของห้างลิซซี่พาวิลเลี่ยน หลังจากนั้นเราก็จะเซ็นต์สัญญากันอาทิตย์หน้า” มู่หรงเสวี่ยพูดอย่างสบายๆ พร้อมทั้งหยิบข้อมูลของบริษัทที่อยู่บนโต๊ะขึ้นมาดู

“อะไรนะ? ห้างลิซซี่พาวิลเลี่ยนงั้นเหรอ?!! เธอโน้มน้าวให้พวกเขามาร่วมงานกับเราได้ยังไงอะ?! เรื่องจริงงั้นเหรอ?!” โม่อ้ายหลี่พูดด้วยเสียงสูงอย่างประหลาดใจ

มู่หรงเสวี่ยยังไม่เงยหน้าขึ้นมาจากเอกสารของบริษัท “ก็ห้างลิซซี่พาวิลเลี่ยนอะนะ อย่างแรกเลยเราจะส่งสินค้าทั้งหมดให้ลิซซี่ในเมือง A อีกอย่างทางลิซซี่ขอให้เราส่งสินค้าให้พวกเขาเท่านั้น ห้ามส่งให้เจ้าอื่น ฉันตอบตกลงไป พูดง่ายๆคือการผลิตของบริษัทจะต้องเสร็จสมบูรณ์ให้เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้ ครั้งหน้าฉันจะช่วยเธอเอง ฉันต้องขอโทษที่ก่อนหน้านี้ปล่อยให้เธอยุ่งอยู่คนเดียว” ตอนที่โม่อ้ายหลี่เดินเข้ามา เธอสังเกตเห็นว่าหน้าเธอซูบไปและเธอผอมลงไปเยอะ หลายวันที่ผ่านมาคงจะทำให้เธอต้องเหนื่อยอย่างมาก

“งั้นฉันยกโทษให้เธอก็ได้ แต่ถ้าเราได้ทำงานกับลิซซี่ งั้นเราก็สำเร็จไปเกือบครึ่งแล้วนะ” โม่อ้ายหลี่พูดอย่างมีความสุข

“อย่าเพิ่งมีความสุขเกินไป บริษัทยังไม่เข้าที่เข้าทางเลย ยังมีอีกหลายอย่างที่จะต้องทำ เรามีคนไม่พอต้องรีบหาคนมาเพิ่มโดยด่วนเลย อีกอย่างนะเราทั้งคู่จะไม่มีใครได้บริหารบริษัท เราต้องหาคนที่ไว้ใจได้เข้ามานั่งแทน เธอมีคนที่เหมาะสมไหม?”

“ฉันมีคนหนึ่งแต่จะต้องเป็นคนที่ฉันคุ้นเคยโอเคไหม?” สำหรับเธอไม่สำคัญหรอกแต่มันเป็นเรื่องความเป็นส่วนตัวและการออกสื่อ
มู่หรงเสวี่ยเงยหน้าขึ้นมาและหัวเราะ “โอเค ฉันเชื่อเธอ! อีกอย่าง เธอตัดสินใจเรื่องแพ็กเกจของผลิตภัณฑ์แล้วหรือยัง?”

โม่อ้ายหลี่คิดอยู่สักพักแล้วจึงพูดออกมา “ขวดของผลิตภัณฑ์ดูแลผิวทั้งหมดจะอยู่ในขวดพอร์ซเลนและบรรจุภัณฑ์ด้านนอกอยู่ในบรรจุภัณฑ์กระดาษแบบย้อนยุค นี่เป็นภาพวาดการออกแบบ เธอคิดว่าไง?” โม่อ้ายหลี่หารูปวาดแพ็กเกจจากกองเอกสารตรงหน้า

มู่หรงเสวี่ยดูภาพออกแบบที่ละรูป จะเป็นแจกันพอร์ซ เลนที่คล้ายๆกันทั้งด้านบนเป็นสีน้ำเงินและสีขาวโดยมีรูปทรงที่แตกต่างกันออกไป เกือบทุกอันมีความประณีตและสวยงาม เธอพยักหน้าอย่างพอใจ เมื่อดูที่บรรจุภัณฑ์ด้านนอก เป็นรูปแบบที่คล้ายๆกันคือเป็นสีฟ้าและขาว แต่คุณภาพของกระดาษดูเหมือนจะลดลงไปเยอะเลย

หลังจากที่อ่าน มู่หรงเสวี่ยก็พูดถึงความคิดเห็นของเธอ “บรรจุภัณฑ์ภายในสวยมากเลยนะ แต่บรรจุภัณฑ์ด้านนอกยังไม่ค่อยน่าพอใจเท่าไรแถมไม่มีอะไรโดดเด่นเป็นพิเศษด้วย ฉันลองคิดดูแล้วถ้าเปลี่ยนเป็นแพ็กเกจสีขาวกับบรรจุภัณฑ์ไม้ย้อนยุคน่าจะดีกว่า มันจะได้เข้ากับตัวผลิตภัณฑ์ของเราด้วย เธอคิดว่าไง?”
“แต่ราคาของแพ็กเกจไม้จะไม่แพงเกินไปเหรอ?”
“เราจะเข้าไปสู่แบรนด์หรูนะ เราจะไม่คิดมากด้วยกันลดราคาแพ็กเกจหรือวัสดุ และการใช้ไม้ก็ช่วยเพิ่มบรรยากาศ, เรียบง่ายและเป็นเอกลักษณ์ด้วยนะ มันจะทำให้ผลิตภัณฑ์ของเรามีเอกลักษณ์มากขึ้น นอกจากนี้พวกคนรวยไม่ถือผลิตภัณฑ์ดูแลผิวไปด้วยทุกที่หรอกนะ และพวกเขาไม่ต้องมาคำนึงถึงปัญหาในการพกพาหรอก และถึงแม้จะใช้กระดาษ ราคามันก็ไม่ถูกนะ ตัวอย่างเช่น แพ็กเกจของแบรนด์หรูมักจะทำกล่องหนาสองหรือสามชั้นและทางโรงงานก็ต้องทำงานหลายครั้ง แต่ถ้าเธอใช้ไม้สังเคราะห์ธรรมชาติ ราคามันก็ไม่ได้สูงมากอะไรขนาดนั้นและถ้าคำนวณดีๆก็ไม่ได้ขาดทุนอะไรขนาดนั้นด้วย…”

โม่อ้ายหลี่มองมู่หรงเสวี่ยพูดและอดไม่ได้ที่จะชื่นชมเธอ ไม่เหมือนตัวเอง ที่มักจะเร่งรีบในช่วงแรกเสมอและไม่รู้ว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี เธอมักจะเชื่อในสิ่งที่มู่หรงเสวี่ยพูดและได้รับอิทธิพลอย่างมากจากเธอ เป็นเรื่องดีจริงๆที่ได้เจอกับเธอ “งั้นเอาตามที่เธอบอกแล้วกัน อีกอย่างนะฉันกำลังจะไปดูขั้นตอนการตกแต่งที่ร้าน เธอจะไปดูด้วยกันไหม?”
ไม่นานพวกเธอก็มาถึงร้านแรกที่อยู่ไม่ไกลนัก โถงของร้านกว้างและพื้นปูด้วยกระเบื้องสีทอง ฉากกั้นแต่ละห้องประดับด้วยหินคริสตัล 7 สีซึ่งกำลังเปล่งประกาย รอบ ๆ กำแพงมีภาพวาดด้วยมือหลายรูปทั้งภูเขา, แม่น้ำ, ดอกไม้และนก บนหลังคามีโคมไฟวังดอกบัวขนาดใหญ่ ในวังจะมีโคมไฟรูปดอกบัว 24 โคม ภายใต้กลีบดอกไม้แต่ละกลีบฝังด้วยหินเรืองแสงที่สวยงามและส่องสว่างของแม่น้ำหลิวลี่ฮี นี่มันหรูหราถึงขีดสุดจริงๆ

ทั้งสองด้านของห้องโถงมีเสาไฟแกะสลักรูปมังกรและนกฟีนิกซ์สองแถว ด้านบนของเสาไฟมีโคมไฟทูลโบราณ ไฟอ่อนด้านในถูกคลุมไว้เล็กน้อยเพื่อสร้างความหรูหราและบรรยากาศ แต่ก็ไม่สูญเสียความอบอุ่นไป แสงไฟสะท้อนกับหินคริสตัลที่พื้นซึ่งทำให้ผู้คนรู้สึกตกใจไปกับการตกแต่ง

โม่อ้ายหลี่มีความสุขมากที่ได้เห็นท่าอ้าปากค้างของมู่หรงเสวี่ยจึงพูดออกมาอย่างภาคภูมิใจ “มันสวยมากเลยใช่ไหมล่ะ?!!”
มู่หรงเสวี่ยพยักหน้าด้วยท่าทางงี่เง่า “สวยมากเลยจริงๆ!” ภาพทั้งหมดที่เห็นมีแต่สีเหลือง, แดงและขาว ผสมกับสีของหินคริสตัลซึ่งดูเรียบง่ายแต่ก็หรูหรา

“มันยังไม่เสร็จเหรอ?! การตกแต่งของออฟฟิศหลักของเรายิ่งน่าตกใจกว่านี้อีกนะ! ฉันจะพาเธอไปดู” เมื่อโม่อ้ายหลี่เปิดโน็ตบุ๊คของเธอ ก็มีภาพสามมิติของการตกแต่งภายในที่ถูกออกแบบโดยนักออกแบบโดยอ้างอิงจากความคิดของเธอ เมื่อเธอได้เห็นมันเป็นครั้งแรก เธอก็ถึงกับต้องช็อกแบบสุดๆไปเลย

มู่หรงเสวี่ยเลื่อนเมาส์เพื่อตรวจอย่างระวัง ไม่คิดเลยว่ามันจะออกมาดีขนาดนี้ เห็นได้เลยว่าโม่อ้ายหลี่ลงแรงกับเรื่องนี้ไปเยอะมาก เธอพยักหน้าด้วยความพอใจ “ดีกว่าที่ฉันคิดไว้อีก สวยมากเลยจริงๆ”
“ใช่” โม่อ้ายหลี่เผยรอยยิ้มอย่างพึงพอใจ ช่วงที่ผ่านมาต้องทำงานอย่างหนักแต่พอได้เห็นว่าเธอชอบแค่นี้ก็คุ้มค่าแล้ว

“อุปกรณ์ที่โรงงานมีปัญหาอะไรหรือเปล่า?” มู่หรงเสวี่ยถาม
“อุปกรณ์ถูกสั่งซื้อมาแล้วแต่เป็นเรื่องของพนักงานมากกว่า เพราะเป็นสายงานการผลิต พนักงานที่ได้รับคัดเลือกมาจำเป็นต้องมีการตรวจสอบเป็นระยะแล้วก็ยังต้องได้รับการฝึกด้วย…”

“ไม่เพียงแค่นี้นะ ในอนาคตพนักงานจะย้ายไปไหนไม่ได้เพราะพวกเขามีหน้าที่จึงต้องป้องกันเพื่อไม่ให้สูตรรั่วไหลออกไป” นี่เป็นเรื่องที่สำคัญมากและนี่คือวิธีการในส่วนของการผลิตของภาคเภสัชกรรม

โม่อ้ายหลี่พยักหน้า “ฉันเองก็คิดเรื่องปัญหาที่เธอพูด ฉันจะใส่ใจเรื่องนี้มากขึ้น อีกไม่นานจะมีประชุมบริษัท เธอมากับฉันด้วยนะ”
“โอเค งั้นเดี๋ยวฉันโทรบอกอีกทีนะ”
“…”
บริษัทอ้ายเสวี่ยเดินหน้าไปได้อย่างดี มู่หรงเสวี่ยรู้สึกโล่งอกไปอย่างมาก หลังจากที่ได้คุยปัญหามากมายกับโม่อ้ายหลี่แล้วทั้งสองก็แยกกันไป
คืนนั้นระหว่างทางกลับบ้าน มู่หรงเสวี่ยไม่คิดว่าจะมีคนมากมายมายืนรอเธออยู่ที่ประตูทางเข้าคฤหาสน์ของเธอ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+