ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี

ผ่านการหยั่งรู้มาหนึ่งปี หานเจวี๋ยรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

เขาเริ่มทำการจำลองการทดสอบ

สู้ประจันหน้ากับยมทูตดำขาว!

ประจันศึกหนึ่งต่อสอง!

ยมทูตดำขาวล้วนเป็นพวกระดับเซียนอิสระขั้นห้า

เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น หานเจวี๋ยก็สำแดงไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิออกมาทันที เงากระบี่หลายล้านเงาแตกปะทุ ฆ่าสังหารจนยมทูตดำขาวไม่มีที่ให้หลบลี้ อานุภาพแข็งแกร่งปลิดชีพในพริบตา!

หานเจวี๋ยเป็นเซียนกระบี่หวนคืน สิ่งมีชีวิตในแดนหยินหยางสองแดนเขาล้วนสามารถขยี้สังหารได้ทันที

ถือว่าไม่เลว!

ขอแค่ปลิดชีพในพริบตาได้ก็พอ

เพียงไม่รู้ว่าหากได้พบนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนที่อยู่ในระดับเซียนอิสระขั้นแปด จะสามารถปลิดชีพในพริบตาได้หรือไม่

เมื่อนึกถึงนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน หานเจวี๋ยก็พลันรู้สึกว่าตนผ่อนปรนลงแล้ว

บางทีจิตใจที่ไม่สงบอาจไม่ได้เป็นเพราะวังสวรรค์ หากแต่เป็นเพราะนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน?

มีความเป็นไปได้มาก!

หานเจวี๋ยรีบนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนทันที

หลังจากสาปแช่งหกวัน เขายังคงไม่วางใจ

เช่นนั้นอาจยอมสละอายุขัยสักหน่อย สาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนจนตายเสียก็สิ้นเรื่อง?

อย่างไรเสียเขาก็มีอายุขัยถึงหนึ่งล้านปี!

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ใจของหานเจวี๋ยก็พลันเต้นรัว

ไม่ได้!

เมื่อมีครั้งแรก ก็จะมีครั้งที่สอง แล้วก็มีครั้งต่อไปอีกนับไม่ถ้วน!

นี่ก็เหมือนกับสิ่งล่อลวงในสังคมยุคสมัยใหม่ นี่เป็นหลุมพราง นี่คือกับดัก!

หานเจวี๋ยส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา จากนั้นก็เริ่มตรวจดูกล่องจดหมาย

ไม่รู้ว่าแดนบำเพ็ญพรตในช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านบังเอิญพบโอกาสวาสนา เมตตาโปรดสัตว์เทพ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จี้เหลิ่งฉานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่าน ตัวตายมรรคผลสลาย]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x76544

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านฝันว่าเข้าสู่มรรคาสวรรค์ในขณะฝึกบำเพ็ญ พลังมรรคเพิ่มพูน]

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสัตว์ปีศาจ] x10223

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน!

เจ้านี่ลงมายังโลกมนุษย์แล้ว?

หานเจวี๋ยตกใจ

จี้เซียนเสินได้รับบาดเจ็บสาหัส จี้เหลิ่งฉานถูกสังหารในทันที หรือจวนเซียนสวรรค์จะถูกนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนจัดการแล้ว

ไม่ได้ ต้องสาปส่งเจ้าหมอนี่ให้ตาย!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาอีกครั้ง สาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนต่อไป

ถึงแม้เขาจะสามารถปลิดชีพยมทูตดำขาวได้ในพริบตา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลิดชีพนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนภายในพริบตาได้

แม้กระทั่งอาจจะไม่สามารถโจมตีให้พ่ายแพ้ได้

อย่างไรเสียยมทูตดำขาวกับนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนก็ห่างกันถึงสามขั้นเล็ก!

ทิวเขาทอดยาวเรียงราย ท้องนภาแจ่มใสไกลหมื่นลี้ ผืนฟ้างดงามวิจิตรเหลือคณา

บนยอดเขามหึมาที่สูงหลายพันจั้ง ตำหนักหลังแล้วหลังเล่าถูกทำลายจนพังยับเยิน ควันคลุ้งขุ่นมัว

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนนั่งอยู่ภายในโถงตำหนักใหญ่ที่ปรักหักพัง ใบหน้าของเขาขาวซีด ราวกับว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส

ที่มุมของโถงตำหนักใหญ่ กลุ่มคนชั้นสูงของจวนเซียนสวรรค์ถูกคุมขังอยู่ในตะรางช่องแต่ละช่อง หนึ่งในนั้นรวมถึงจี้เซียนเสินด้วย

“เขาเป็นอะไร”

“ได้รับบาดเจ็บหรือ ใครทำร้ายเขากัน”

“อาจจะธาตุไฟเข้าแทรกกระมัง”

“เดิมทีเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญสายมาร ในใจอาจจะมีสิ่งชั่วร้าย ยามนี้อาจกำลังต่อสู้อยู่ก็เป็นได้”

“เฮ้อ เขาคิดจะจับพวกเรามาทำอะไรกันแน่ เหตุใดถึงไม่ฆ่าพวกเราเสีย”

จี้เซียนเสินสีหน้ามืดทะมึน ไม่ได้ร่วมวงสนทนาซุบซิบกับคนอื่นๆ

เขาจ้องมองนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนอย่างเอาเป็นเอาตาย แทบอยากจะบดเขาให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น

เมื่อเผชิญหน้ากับนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน เขาพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แม้กระทั่งอนาถกว่ายามที่เผชิญหน้ากับหานเจวี๋ยเสียอีก อย่างน้อยหานเจวี๋ยก็ยังออมมือให้เขาอยู่บ้าง แต่นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนไม่ได้ทำเช่นนั้น

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนไม่เพียงแต่โจมตีเขา ซ้ำยังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา

จี้เซียนเสินเฝ้ารอโอกาสมาโดยตลอด

เขาไม่รู้ว่าเหตุใดนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนถึงไม่สังหารพวกเขาเสียให้หมด แต่เขาเข้าใจดีว่านี่คือโอกาส!

และในตอนนั้นเอง

พรวด…

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนกระอักเลือดออกมา เลือดสดสาดกระจายเต็มพื้น กลิ่นอายทั่วทั้งร่างของเขาก็พลอยหม่นมัวไปด้วย

เขากุมหน้าอกไว้ ลืมตาขึ้น ใบหน้าบิดเบี้ยว กล่าวพึมพำว่า “สมควรตาย! ที่แท้เป็นใครกันแน่!”

เขาสับสนไปหมดแล้ว

เป็นอีกครั้งที่เขาถูกสาปแช่ง และการสาปแช่งครั้งนี้ยังรุนแรงยิ่งกว่าที่ผ่านมา!

พลังเวทของเขาถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ส่วนอายุขัยก็ยิ่งลดน้อยลงอย่างฮวบฮาบ

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะตายก็ได้!

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนรีบร้อนร่ายวิชา ร้องเรียกสตรีชุดดำให้ออกมา

ผ่านไปไม่นานนัก เบื้องหน้าเขาก็ปรากฏวังน้ำวนสีดำขึ้น สตรีชุดดำเดินเยื้องย่างตามออกมา

“มีเรื่องใดกัน ถึงได้ตื่นตระหนกเพียงนี้!”

สตรีชุดดำเอ่ยถามอย่างรำคาญ หลังจากนั้นสายตาของนางก็ตกลงบนร่างของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเริ่มมีเลือดออกทวารทั้งเจ็ด น่าเวทนาอย่างหาที่เปรียบ

เขากัดฟันเอ่ยว่า “คำสาปแช่งที่ข้าบอกก่อนหน้านี้เริ่มขึ้นอีกแล้ว ทั้งยังรุนแรงกว่าที่ผ่านมา…”

สตรีชุดดำยกมือขวาขึ้น นับนิ้วคำนวณ

ทว่า เดิมทีนางกลับคำนวณไม่ได้เลยว่าพลังแห่งคำสาปแช่งนั้นมาจากที่ใด

นางจำเป็นต้องเดินไปหยุดอยู่ข้างหลังนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน ฝ่ามือทั้งสองประทับลงบนแผ่นหลังของเขา ใช้พลังเวทของตนรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา

ไม่ถึงห้าอึดใจ สตรีชุดดำก็เริ่มมีเลือดออกทวารทั้งเจ็ดด้วยเช่นกัน นางจึงจำต้องเก็บมือลง

“ไม่ได้ พลังแห่งคำสาปแช่งนี้แข็งแกร่งเกินไป!” สตรีชุดดำกล่าวเสียงขรึม

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนสิ้นหวัง รีบร้อนตะโกนกล่าวว่า “ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสได้หรือไม่ เร็วเข้า ข้าใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!”

สตรีชุดดำลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังล้วงป้ายคำสั่งออกมา ก่อนจะส่งพลังจิตเข้าไปในนั้น

คนทั่วทั้งจวนเซียนสวรรค์มองดูจนนิ่งอึ้งไป

พลังแห่งคำสาปแช่ง?

มีคนกำลังสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนหรือ

ภายในใจพวกเขาดีใจจนแทบคลั่ง

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเป็นถึงผู้บำเพ็ญทรงพลังที่ผ่านการขึ้นสวรรค์มาก่อน การที่สามารถสาปแช่งเขาจนบาดเจ็บสาหัสได้ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเทพเซียนแน่!

สตรีชุดดำจ้องมองนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนนิ่ง เอ่ยปากกล่าวว่า “จำต้องหาสถานที่ที่มีดวงชะตาแน่นหนาที่สุดเพื่อสยบพลังแห่งคำสาปแช่ง หาไม่เจ้าคงอยู่ได้ไม่ถึงตอนที่เขามุ่งหน้ามา”

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนพยักหน้า ทั้งคู่รีบหยัดกายลุกขึ้นในทันที ก่อนหายลับไปจากที่เดิม

ส่วนกลุ่มคนของจวนเซียนสวรรค์ ในความคิดของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเดิมทีก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว โลกมนุษย์ก็คือกรงขังที่ใหญ่ที่สุด

[นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่านเนื่องด้วยการสาปแช่งของท่าน อายุขัยลดลงห้าแสนปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

เมื่อมองเห็นกล่องจดหมายนี้ หานเจวี๋ยก็หยุดชะงักในทันที

เขาปาดเช็ดคราบเลือดทั่วใบหน้า ก่อนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

คราวนี้ เขาเสียอายุขัยไปเกือบร้อยปี แม้เมื่อเทียบกับอายุขัยหลายล้านปีของเขาแล้วจะไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก แต่เขาก็ยังปวดใจมากอยู่ดี

‘เพียงครั้งนี้เท่านั้น ไม่อาจมีครั้งต่อไป’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบๆ จากนั้นก็เริ่มรักษาอาการบาดเจ็บ

หลายวันต่อมา อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นแล้ว เขาจึงตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ

อาการบาดเจ็บของเขาไม่ถือว่าสาหัสนัก แต่ด้านนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนคงใช้เวลาหลายสิบปีถึงจะฟื้นคืนสภาพปกติได้

เวลาหลายสิบปี เพียงพอที่จะทำให้หานเจวี๋ยทะลวงระดับเซียนอิสระวัฏจักรระยะกลางแล้ว

ไอเซียนที่แผ่ซ่านออกมาจากต้นฝูซังอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าพลังวิญญาณของมัน ทุกๆ วันหานเจวี๋ยสามารถสัมผัสได้ถึงการเพิ่มพูนของพลังเวท

แต่ภาพสวยงามมักไม่ยืดยาว

หนึ่งเดือนต่อมา

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนและสตรีชุดดำมาเยือน

พวกเขายืนอยู่เหนือชั้นเมฆา ทอดสายตามองมาที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียนที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าฉายแววประหลาดใจ

“เขาลูกนี้กลับอบอวลไปด้วยไอเซียน มาจากแห่งใดกัน”

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนตกตะลึง ก่อนหน้าที่จะขึ้นสวรรค์เขาเคยเดินทางท่องไปในใต้หล้า แต่ยังไม่เคยพบเห็นภูเขาสมบัติเช่นนี้มาก่อน

สายตาของสตรีชุดดำตกลงบนยอดเขาเพียรบำเพ็ญเซียน นางมองเห็นต้นฝูซังแล้ว

อีกาเพลิงสองตัวที่อยู่บนต้นฝูซังนั้นดูเหมือนจะเป็น…

นางเบิกดวงตากว้าง ความรู้สึกภายในใจถาโถม

เป็นไปได้อย่างไร!

อีกาทองน้อยสองตัว!

หรือเขาลูกนี้คือถิ่นอาศัยของเผ่าเทพอีกาทอง

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ นำนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนมุ่งหน้าเข้าไปอย่างระแวดระวัง

ยามนี้มีเพียงสถานที่แห่งนี้ที่สามารถช่วยสยบพลังแห่งคำสาปแช่งให้นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนได้

เมื่อมาถึงเบื้องหน้าเขาเพียรบำเพ็ญเซียน สตรีชุดดำไม่กล้าอุกอาจพังค่ายกล หากแต่ประสานหมัดโค้งกายลงคารวะ กล่าวว่า “พวกข้าสองคนบังอาจรบกวน ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีนามว่าอะไร”

พวกมู่หรงฉี่ ฟางเหลียงและสวินฉางอันที่อยู่ใต้ต้นฝูซังต่างพากันลืมตาขึ้นมอง

พวกเขาตื่นตระหนกเมื่อพบว่าตนเองมองไม่เห็นตบะของคนทั้งสอง

อีกาทองน้อยสองตัวราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ต่างพากันกางสยายปีกออก

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี

ผ่านการหยั่งรู้มาหนึ่งปี หานเจวี๋ยรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

เขาเริ่มทำการจำลองการทดสอบ

สู้ประจันหน้ากับยมทูตดำขาว!

ประจันศึกหนึ่งต่อสอง!

ยมทูตดำขาวล้วนเป็นพวกระดับเซียนอิสระขั้นห้า

เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น หานเจวี๋ยก็สำแดงไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิออกมาทันที เงากระบี่หลายล้านเงาแตกปะทุ ฆ่าสังหารจนยมทูตดำขาวไม่มีที่ให้หลบลี้ อานุภาพแข็งแกร่งปลิดชีพในพริบตา!

หานเจวี๋ยเป็นเซียนกระบี่หวนคืน สิ่งมีชีวิตในแดนหยินหยางสองแดนเขาล้วนสามารถขยี้สังหารได้ทันที

ถือว่าไม่เลว!

ขอแค่ปลิดชีพในพริบตาได้ก็พอ

เพียงไม่รู้ว่าหากได้พบนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนที่อยู่ในระดับเซียนอิสระขั้นแปด จะสามารถปลิดชีพในพริบตาได้หรือไม่

เมื่อนึกถึงนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน หานเจวี๋ยก็พลันรู้สึกว่าตนผ่อนปรนลงแล้ว

บางทีจิตใจที่ไม่สงบอาจไม่ได้เป็นเพราะวังสวรรค์ หากแต่เป็นเพราะนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน?

มีความเป็นไปได้มาก!

หานเจวี๋ยรีบนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนทันที

หลังจากสาปแช่งหกวัน เขายังคงไม่วางใจ

เช่นนั้นอาจยอมสละอายุขัยสักหน่อย สาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนจนตายเสียก็สิ้นเรื่อง?

อย่างไรเสียเขาก็มีอายุขัยถึงหนึ่งล้านปี!

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ใจของหานเจวี๋ยก็พลันเต้นรัว

ไม่ได้!

เมื่อมีครั้งแรก ก็จะมีครั้งที่สอง แล้วก็มีครั้งต่อไปอีกนับไม่ถ้วน!

นี่ก็เหมือนกับสิ่งล่อลวงในสังคมยุคสมัยใหม่ นี่เป็นหลุมพราง นี่คือกับดัก!

หานเจวี๋ยส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา จากนั้นก็เริ่มตรวจดูกล่องจดหมาย

ไม่รู้ว่าแดนบำเพ็ญพรตในช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านบังเอิญพบโอกาสวาสนา เมตตาโปรดสัตว์เทพ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จี้เหลิ่งฉานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่าน ตัวตายมรรคผลสลาย]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x76544

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านฝันว่าเข้าสู่มรรคาสวรรค์ในขณะฝึกบำเพ็ญ พลังมรรคเพิ่มพูน]

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสัตว์ปีศาจ] x10223

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน!

เจ้านี่ลงมายังโลกมนุษย์แล้ว?

หานเจวี๋ยตกใจ

จี้เซียนเสินได้รับบาดเจ็บสาหัส จี้เหลิ่งฉานถูกสังหารในทันที หรือจวนเซียนสวรรค์จะถูกนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนจัดการแล้ว

ไม่ได้ ต้องสาปส่งเจ้าหมอนี่ให้ตาย!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาอีกครั้ง สาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนต่อไป

ถึงแม้เขาจะสามารถปลิดชีพยมทูตดำขาวได้ในพริบตา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลิดชีพนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนภายในพริบตาได้

แม้กระทั่งอาจจะไม่สามารถโจมตีให้พ่ายแพ้ได้

อย่างไรเสียยมทูตดำขาวกับนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนก็ห่างกันถึงสามขั้นเล็ก!

ทิวเขาทอดยาวเรียงราย ท้องนภาแจ่มใสไกลหมื่นลี้ ผืนฟ้างดงามวิจิตรเหลือคณา

บนยอดเขามหึมาที่สูงหลายพันจั้ง ตำหนักหลังแล้วหลังเล่าถูกทำลายจนพังยับเยิน ควันคลุ้งขุ่นมัว

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนนั่งอยู่ภายในโถงตำหนักใหญ่ที่ปรักหักพัง ใบหน้าของเขาขาวซีด ราวกับว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส

ที่มุมของโถงตำหนักใหญ่ กลุ่มคนชั้นสูงของจวนเซียนสวรรค์ถูกคุมขังอยู่ในตะรางช่องแต่ละช่อง หนึ่งในนั้นรวมถึงจี้เซียนเสินด้วย

“เขาเป็นอะไร”

“ได้รับบาดเจ็บหรือ ใครทำร้ายเขากัน”

“อาจจะธาตุไฟเข้าแทรกกระมัง”

“เดิมทีเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญสายมาร ในใจอาจจะมีสิ่งชั่วร้าย ยามนี้อาจกำลังต่อสู้อยู่ก็เป็นได้”

“เฮ้อ เขาคิดจะจับพวกเรามาทำอะไรกันแน่ เหตุใดถึงไม่ฆ่าพวกเราเสีย”

จี้เซียนเสินสีหน้ามืดทะมึน ไม่ได้ร่วมวงสนทนาซุบซิบกับคนอื่นๆ

เขาจ้องมองนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนอย่างเอาเป็นเอาตาย แทบอยากจะบดเขาให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น

เมื่อเผชิญหน้ากับนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน เขาพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แม้กระทั่งอนาถกว่ายามที่เผชิญหน้ากับหานเจวี๋ยเสียอีก อย่างน้อยหานเจวี๋ยก็ยังออมมือให้เขาอยู่บ้าง แต่นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนไม่ได้ทำเช่นนั้น

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนไม่เพียงแต่โจมตีเขา ซ้ำยังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา

จี้เซียนเสินเฝ้ารอโอกาสมาโดยตลอด

เขาไม่รู้ว่าเหตุใดนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนถึงไม่สังหารพวกเขาเสียให้หมด แต่เขาเข้าใจดีว่านี่คือโอกาส!

และในตอนนั้นเอง

พรวด…

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนกระอักเลือดออกมา เลือดสดสาดกระจายเต็มพื้น กลิ่นอายทั่วทั้งร่างของเขาก็พลอยหม่นมัวไปด้วย

เขากุมหน้าอกไว้ ลืมตาขึ้น ใบหน้าบิดเบี้ยว กล่าวพึมพำว่า “สมควรตาย! ที่แท้เป็นใครกันแน่!”

เขาสับสนไปหมดแล้ว

เป็นอีกครั้งที่เขาถูกสาปแช่ง และการสาปแช่งครั้งนี้ยังรุนแรงยิ่งกว่าที่ผ่านมา!

พลังเวทของเขาถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ส่วนอายุขัยก็ยิ่งลดน้อยลงอย่างฮวบฮาบ

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะตายก็ได้!

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนรีบร้อนร่ายวิชา ร้องเรียกสตรีชุดดำให้ออกมา

ผ่านไปไม่นานนัก เบื้องหน้าเขาก็ปรากฏวังน้ำวนสีดำขึ้น สตรีชุดดำเดินเยื้องย่างตามออกมา

“มีเรื่องใดกัน ถึงได้ตื่นตระหนกเพียงนี้!”

สตรีชุดดำเอ่ยถามอย่างรำคาญ หลังจากนั้นสายตาของนางก็ตกลงบนร่างของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเริ่มมีเลือดออกทวารทั้งเจ็ด น่าเวทนาอย่างหาที่เปรียบ

เขากัดฟันเอ่ยว่า “คำสาปแช่งที่ข้าบอกก่อนหน้านี้เริ่มขึ้นอีกแล้ว ทั้งยังรุนแรงกว่าที่ผ่านมา…”

สตรีชุดดำยกมือขวาขึ้น นับนิ้วคำนวณ

ทว่า เดิมทีนางกลับคำนวณไม่ได้เลยว่าพลังแห่งคำสาปแช่งนั้นมาจากที่ใด

นางจำเป็นต้องเดินไปหยุดอยู่ข้างหลังนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน ฝ่ามือทั้งสองประทับลงบนแผ่นหลังของเขา ใช้พลังเวทของตนรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา

ไม่ถึงห้าอึดใจ สตรีชุดดำก็เริ่มมีเลือดออกทวารทั้งเจ็ดด้วยเช่นกัน นางจึงจำต้องเก็บมือลง

“ไม่ได้ พลังแห่งคำสาปแช่งนี้แข็งแกร่งเกินไป!” สตรีชุดดำกล่าวเสียงขรึม

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนสิ้นหวัง รีบร้อนตะโกนกล่าวว่า “ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสได้หรือไม่ เร็วเข้า ข้าใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!”

สตรีชุดดำลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังล้วงป้ายคำสั่งออกมา ก่อนจะส่งพลังจิตเข้าไปในนั้น

คนทั่วทั้งจวนเซียนสวรรค์มองดูจนนิ่งอึ้งไป

พลังแห่งคำสาปแช่ง?

มีคนกำลังสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนหรือ

ภายในใจพวกเขาดีใจจนแทบคลั่ง

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเป็นถึงผู้บำเพ็ญทรงพลังที่ผ่านการขึ้นสวรรค์มาก่อน การที่สามารถสาปแช่งเขาจนบาดเจ็บสาหัสได้ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเทพเซียนแน่!

สตรีชุดดำจ้องมองนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนนิ่ง เอ่ยปากกล่าวว่า “จำต้องหาสถานที่ที่มีดวงชะตาแน่นหนาที่สุดเพื่อสยบพลังแห่งคำสาปแช่ง หาไม่เจ้าคงอยู่ได้ไม่ถึงตอนที่เขามุ่งหน้ามา”

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนพยักหน้า ทั้งคู่รีบหยัดกายลุกขึ้นในทันที ก่อนหายลับไปจากที่เดิม

ส่วนกลุ่มคนของจวนเซียนสวรรค์ ในความคิดของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเดิมทีก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว โลกมนุษย์ก็คือกรงขังที่ใหญ่ที่สุด

[นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่านเนื่องด้วยการสาปแช่งของท่าน อายุขัยลดลงห้าแสนปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

เมื่อมองเห็นกล่องจดหมายนี้ หานเจวี๋ยก็หยุดชะงักในทันที

เขาปาดเช็ดคราบเลือดทั่วใบหน้า ก่อนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

คราวนี้ เขาเสียอายุขัยไปเกือบร้อยปี แม้เมื่อเทียบกับอายุขัยหลายล้านปีของเขาแล้วจะไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก แต่เขาก็ยังปวดใจมากอยู่ดี

‘เพียงครั้งนี้เท่านั้น ไม่อาจมีครั้งต่อไป’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบๆ จากนั้นก็เริ่มรักษาอาการบาดเจ็บ

หลายวันต่อมา อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นแล้ว เขาจึงตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ

อาการบาดเจ็บของเขาไม่ถือว่าสาหัสนัก แต่ด้านนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนคงใช้เวลาหลายสิบปีถึงจะฟื้นคืนสภาพปกติได้

เวลาหลายสิบปี เพียงพอที่จะทำให้หานเจวี๋ยทะลวงระดับเซียนอิสระวัฏจักรระยะกลางแล้ว

ไอเซียนที่แผ่ซ่านออกมาจากต้นฝูซังอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าพลังวิญญาณของมัน ทุกๆ วันหานเจวี๋ยสามารถสัมผัสได้ถึงการเพิ่มพูนของพลังเวท

แต่ภาพสวยงามมักไม่ยืดยาว

หนึ่งเดือนต่อมา

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนและสตรีชุดดำมาเยือน

พวกเขายืนอยู่เหนือชั้นเมฆา ทอดสายตามองมาที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียนที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าฉายแววประหลาดใจ

“เขาลูกนี้กลับอบอวลไปด้วยไอเซียน มาจากแห่งใดกัน”

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนตกตะลึง ก่อนหน้าที่จะขึ้นสวรรค์เขาเคยเดินทางท่องไปในใต้หล้า แต่ยังไม่เคยพบเห็นภูเขาสมบัติเช่นนี้มาก่อน

สายตาของสตรีชุดดำตกลงบนยอดเขาเพียรบำเพ็ญเซียน นางมองเห็นต้นฝูซังแล้ว

อีกาเพลิงสองตัวที่อยู่บนต้นฝูซังนั้นดูเหมือนจะเป็น…

นางเบิกดวงตากว้าง ความรู้สึกภายในใจถาโถม

เป็นไปได้อย่างไร!

อีกาทองน้อยสองตัว!

หรือเขาลูกนี้คือถิ่นอาศัยของเผ่าเทพอีกาทอง

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ นำนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนมุ่งหน้าเข้าไปอย่างระแวดระวัง

ยามนี้มีเพียงสถานที่แห่งนี้ที่สามารถช่วยสยบพลังแห่งคำสาปแช่งให้นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนได้

เมื่อมาถึงเบื้องหน้าเขาเพียรบำเพ็ญเซียน สตรีชุดดำไม่กล้าอุกอาจพังค่ายกล หากแต่ประสานหมัดโค้งกายลงคารวะ กล่าวว่า “พวกข้าสองคนบังอาจรบกวน ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีนามว่าอะไร”

พวกมู่หรงฉี่ ฟางเหลียงและสวินฉางอันที่อยู่ใต้ต้นฝูซังต่างพากันลืมตาขึ้นมอง

พวกเขาตื่นตระหนกเมื่อพบว่าตนเองมองไม่เห็นตบะของคนทั้งสอง

อีกาทองน้อยสองตัวราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ต่างพากันกางสยายปีกออก

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 157 คำสาปลึกลับ ศัตรูผู้แข็งแกร่งมาซุ่มโจมตี

ผ่านการหยั่งรู้มาหนึ่งปี หานเจวี๋ยรู้สึกว่าความแข็งแกร่งของตนพัฒนาอย่างก้าวกระโดด

เขาเริ่มทำการจำลองการทดสอบ

สู้ประจันหน้ากับยมทูตดำขาว!

ประจันศึกหนึ่งต่อสอง!

ยมทูตดำขาวล้วนเป็นพวกระดับเซียนอิสระขั้นห้า

เมื่อการต่อสู้เริ่มต้นขึ้น หานเจวี๋ยก็สำแดงไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิออกมาทันที เงากระบี่หลายล้านเงาแตกปะทุ ฆ่าสังหารจนยมทูตดำขาวไม่มีที่ให้หลบลี้ อานุภาพแข็งแกร่งปลิดชีพในพริบตา!

หานเจวี๋ยเป็นเซียนกระบี่หวนคืน สิ่งมีชีวิตในแดนหยินหยางสองแดนเขาล้วนสามารถขยี้สังหารได้ทันที

ถือว่าไม่เลว!

ขอแค่ปลิดชีพในพริบตาได้ก็พอ

เพียงไม่รู้ว่าหากได้พบนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนที่อยู่ในระดับเซียนอิสระขั้นแปด จะสามารถปลิดชีพในพริบตาได้หรือไม่

เมื่อนึกถึงนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน หานเจวี๋ยก็พลันรู้สึกว่าตนผ่อนปรนลงแล้ว

บางทีจิตใจที่ไม่สงบอาจไม่ได้เป็นเพราะวังสวรรค์ หากแต่เป็นเพราะนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน?

มีความเป็นไปได้มาก!

หานเจวี๋ยรีบนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมา เริ่มสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนทันที

หลังจากสาปแช่งหกวัน เขายังคงไม่วางใจ

เช่นนั้นอาจยอมสละอายุขัยสักหน่อย สาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนจนตายเสียก็สิ้นเรื่อง?

อย่างไรเสียเขาก็มีอายุขัยถึงหนึ่งล้านปี!

ทันทีที่ความคิดนี้ผุดขึ้นมา ใจของหานเจวี๋ยก็พลันเต้นรัว

ไม่ได้!

เมื่อมีครั้งแรก ก็จะมีครั้งที่สอง แล้วก็มีครั้งต่อไปอีกนับไม่ถ้วน!

นี่ก็เหมือนกับสิ่งล่อลวงในสังคมยุคสมัยใหม่ นี่เป็นหลุมพราง นี่คือกับดัก!

หานเจวี๋ยส่ายหน้าหลุดยิ้มออกมา จากนั้นก็เริ่มตรวจดูกล่องจดหมาย

ไม่รู้ว่าแดนบำเพ็ญพรตในช่วงนี้เป็นอย่างไรบ้าง

[โม่ฟู่โฉวสหายของท่านบังเอิญพบโอกาสวาสนา เมตตาโปรดสัตว์เทพ ดวงชะตาเพิ่มพูน]

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จี้เหลิ่งฉานสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่าน ตัวตายมรรคผลสลาย]

[หวงจี๋เฮ่าสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้บำเพ็ญสายมาร] x76544

[ฟางเหลียงศิษย์หลานของท่านฝันว่าเข้าสู่มรรคาสวรรค์ในขณะฝึกบำเพ็ญ พลังมรรคเพิ่มพูน]

[เซวียนฉิงจวินคู่บำเพ็ญเพียรของท่านเผชิญกับการโจมตีจากสัตว์ปีศาจ] x10223

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน!

เจ้านี่ลงมายังโลกมนุษย์แล้ว?

หานเจวี๋ยตกใจ

จี้เซียนเสินได้รับบาดเจ็บสาหัส จี้เหลิ่งฉานถูกสังหารในทันที หรือจวนเซียนสวรรค์จะถูกนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนจัดการแล้ว

ไม่ได้ ต้องสาปส่งเจ้าหมอนี่ให้ตาย!

หานเจวี๋ยนำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาอีกครั้ง สาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนต่อไป

ถึงแม้เขาจะสามารถปลิดชีพยมทูตดำขาวได้ในพริบตา แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าจะปลิดชีพนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนภายในพริบตาได้

แม้กระทั่งอาจจะไม่สามารถโจมตีให้พ่ายแพ้ได้

อย่างไรเสียยมทูตดำขาวกับนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนก็ห่างกันถึงสามขั้นเล็ก!

ทิวเขาทอดยาวเรียงราย ท้องนภาแจ่มใสไกลหมื่นลี้ ผืนฟ้างดงามวิจิตรเหลือคณา

บนยอดเขามหึมาที่สูงหลายพันจั้ง ตำหนักหลังแล้วหลังเล่าถูกทำลายจนพังยับเยิน ควันคลุ้งขุ่นมัว

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนนั่งอยู่ภายในโถงตำหนักใหญ่ที่ปรักหักพัง ใบหน้าของเขาขาวซีด ราวกับว่าได้รับบาดเจ็บสาหัส

ที่มุมของโถงตำหนักใหญ่ กลุ่มคนชั้นสูงของจวนเซียนสวรรค์ถูกคุมขังอยู่ในตะรางช่องแต่ละช่อง หนึ่งในนั้นรวมถึงจี้เซียนเสินด้วย

“เขาเป็นอะไร”

“ได้รับบาดเจ็บหรือ ใครทำร้ายเขากัน”

“อาจจะธาตุไฟเข้าแทรกกระมัง”

“เดิมทีเขาก็เป็นผู้บำเพ็ญสายมาร ในใจอาจจะมีสิ่งชั่วร้าย ยามนี้อาจกำลังต่อสู้อยู่ก็เป็นได้”

“เฮ้อ เขาคิดจะจับพวกเรามาทำอะไรกันแน่ เหตุใดถึงไม่ฆ่าพวกเราเสีย”

จี้เซียนเสินสีหน้ามืดทะมึน ไม่ได้ร่วมวงสนทนาซุบซิบกับคนอื่นๆ

เขาจ้องมองนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนอย่างเอาเป็นเอาตาย แทบอยากจะบดเขาให้แหลกเป็นหมื่นชิ้น

เมื่อเผชิญหน้ากับนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน เขาพ่ายแพ้ไม่เป็นท่า แม้กระทั่งอนาถกว่ายามที่เผชิญหน้ากับหานเจวี๋ยเสียอีก อย่างน้อยหานเจวี๋ยก็ยังออมมือให้เขาอยู่บ้าง แต่นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนไม่ได้ทำเช่นนั้น

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนไม่เพียงแต่โจมตีเขา ซ้ำยังเหยียบย่ำศักดิ์ศรีของเขา

จี้เซียนเสินเฝ้ารอโอกาสมาโดยตลอด

เขาไม่รู้ว่าเหตุใดนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนถึงไม่สังหารพวกเขาเสียให้หมด แต่เขาเข้าใจดีว่านี่คือโอกาส!

และในตอนนั้นเอง

พรวด…

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนกระอักเลือดออกมา เลือดสดสาดกระจายเต็มพื้น กลิ่นอายทั่วทั้งร่างของเขาก็พลอยหม่นมัวไปด้วย

เขากุมหน้าอกไว้ ลืมตาขึ้น ใบหน้าบิดเบี้ยว กล่าวพึมพำว่า “สมควรตาย! ที่แท้เป็นใครกันแน่!”

เขาสับสนไปหมดแล้ว

เป็นอีกครั้งที่เขาถูกสาปแช่ง และการสาปแช่งครั้งนี้ยังรุนแรงยิ่งกว่าที่ผ่านมา!

พลังเวทของเขาถดถอยลงอย่างรวดเร็ว ส่วนอายุขัยก็ยิ่งลดน้อยลงอย่างฮวบฮาบ

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป เป็นไปได้มากว่าเขาอาจจะตายก็ได้!

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนรีบร้อนร่ายวิชา ร้องเรียกสตรีชุดดำให้ออกมา

ผ่านไปไม่นานนัก เบื้องหน้าเขาก็ปรากฏวังน้ำวนสีดำขึ้น สตรีชุดดำเดินเยื้องย่างตามออกมา

“มีเรื่องใดกัน ถึงได้ตื่นตระหนกเพียงนี้!”

สตรีชุดดำเอ่ยถามอย่างรำคาญ หลังจากนั้นสายตาของนางก็ตกลงบนร่างของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน สีหน้าแปรเปลี่ยนไปเล็กน้อย

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเริ่มมีเลือดออกทวารทั้งเจ็ด น่าเวทนาอย่างหาที่เปรียบ

เขากัดฟันเอ่ยว่า “คำสาปแช่งที่ข้าบอกก่อนหน้านี้เริ่มขึ้นอีกแล้ว ทั้งยังรุนแรงกว่าที่ผ่านมา…”

สตรีชุดดำยกมือขวาขึ้น นับนิ้วคำนวณ

ทว่า เดิมทีนางกลับคำนวณไม่ได้เลยว่าพลังแห่งคำสาปแช่งนั้นมาจากที่ใด

นางจำเป็นต้องเดินไปหยุดอยู่ข้างหลังนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยน ฝ่ามือทั้งสองประทับลงบนแผ่นหลังของเขา ใช้พลังเวทของตนรักษาอาการบาดเจ็บให้เขา

ไม่ถึงห้าอึดใจ สตรีชุดดำก็เริ่มมีเลือดออกทวารทั้งเจ็ดด้วยเช่นกัน นางจึงจำต้องเก็บมือลง

“ไม่ได้ พลังแห่งคำสาปแช่งนี้แข็งแกร่งเกินไป!” สตรีชุดดำกล่าวเสียงขรึม

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนสิ้นหวัง รีบร้อนตะโกนกล่าวว่า “ขอความช่วยเหลือจากผู้อาวุโสได้หรือไม่ เร็วเข้า ข้าใกล้จะทนไม่ไหวแล้ว!”

สตรีชุดดำลังเลอยู่ครู่หนึ่ง แต่ก็ยังล้วงป้ายคำสั่งออกมา ก่อนจะส่งพลังจิตเข้าไปในนั้น

คนทั่วทั้งจวนเซียนสวรรค์มองดูจนนิ่งอึ้งไป

พลังแห่งคำสาปแช่ง?

มีคนกำลังสาปแช่งนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนหรือ

ภายในใจพวกเขาดีใจจนแทบคลั่ง

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเป็นถึงผู้บำเพ็ญทรงพลังที่ผ่านการขึ้นสวรรค์มาก่อน การที่สามารถสาปแช่งเขาจนบาดเจ็บสาหัสได้ ย่อมต้องเป็นฝีมือของเทพเซียนแน่!

สตรีชุดดำจ้องมองนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนนิ่ง เอ่ยปากกล่าวว่า “จำต้องหาสถานที่ที่มีดวงชะตาแน่นหนาที่สุดเพื่อสยบพลังแห่งคำสาปแช่ง หาไม่เจ้าคงอยู่ได้ไม่ถึงตอนที่เขามุ่งหน้ามา”

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนพยักหน้า ทั้งคู่รีบหยัดกายลุกขึ้นในทันที ก่อนหายลับไปจากที่เดิม

ส่วนกลุ่มคนของจวนเซียนสวรรค์ ในความคิดของนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนเดิมทีก็หนีไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว โลกมนุษย์ก็คือกรงขังที่ใหญ่ที่สุด

[นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนศัตรูของท่านเนื่องด้วยการสาปแช่งของท่าน อายุขัยลดลงห้าแสนปี ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

เมื่อมองเห็นกล่องจดหมายนี้ หานเจวี๋ยก็หยุดชะงักในทันที

เขาปาดเช็ดคราบเลือดทั่วใบหน้า ก่อนพยักหน้าอย่างพึงพอใจ

คราวนี้ เขาเสียอายุขัยไปเกือบร้อยปี แม้เมื่อเทียบกับอายุขัยหลายล้านปีของเขาแล้วจะไม่ได้สลักสำคัญอะไรนัก แต่เขาก็ยังปวดใจมากอยู่ดี

‘เพียงครั้งนี้เท่านั้น ไม่อาจมีครั้งต่อไป’

หานเจวี๋ยครุ่นคิดอย่างเงียบๆ จากนั้นก็เริ่มรักษาอาการบาดเจ็บ

หลายวันต่อมา อาการบาดเจ็บของเขาดีขึ้นแล้ว เขาจึงตั้งหน้าฝึกบำเพ็ญต่อ

อาการบาดเจ็บของเขาไม่ถือว่าสาหัสนัก แต่ด้านนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนคงใช้เวลาหลายสิบปีถึงจะฟื้นคืนสภาพปกติได้

เวลาหลายสิบปี เพียงพอที่จะทำให้หานเจวี๋ยทะลวงระดับเซียนอิสระวัฏจักรระยะกลางแล้ว

ไอเซียนที่แผ่ซ่านออกมาจากต้นฝูซังอุดมสมบูรณ์ยิ่งกว่าพลังวิญญาณของมัน ทุกๆ วันหานเจวี๋ยสามารถสัมผัสได้ถึงการเพิ่มพูนของพลังเวท

แต่ภาพสวยงามมักไม่ยืดยาว

หนึ่งเดือนต่อมา

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนและสตรีชุดดำมาเยือน

พวกเขายืนอยู่เหนือชั้นเมฆา ทอดสายตามองมาที่เขาเพียรบำเพ็ญเซียนที่อยู่ไกลออกไป สีหน้าฉายแววประหลาดใจ

“เขาลูกนี้กลับอบอวลไปด้วยไอเซียน มาจากแห่งใดกัน”

นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนตกตะลึง ก่อนหน้าที่จะขึ้นสวรรค์เขาเคยเดินทางท่องไปในใต้หล้า แต่ยังไม่เคยพบเห็นภูเขาสมบัติเช่นนี้มาก่อน

สายตาของสตรีชุดดำตกลงบนยอดเขาเพียรบำเพ็ญเซียน นางมองเห็นต้นฝูซังแล้ว

อีกาเพลิงสองตัวที่อยู่บนต้นฝูซังนั้นดูเหมือนจะเป็น…

นางเบิกดวงตากว้าง ความรู้สึกภายในใจถาโถม

เป็นไปได้อย่างไร!

อีกาทองน้อยสองตัว!

หรือเขาลูกนี้คือถิ่นอาศัยของเผ่าเทพอีกาทอง

นางสูดหายใจเข้าลึกๆ นำนักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนมุ่งหน้าเข้าไปอย่างระแวดระวัง

ยามนี้มีเพียงสถานที่แห่งนี้ที่สามารถช่วยสยบพลังแห่งคำสาปแช่งให้นักพรตเต๋าเจวี๋ยเหยี่ยนได้

เมื่อมาถึงเบื้องหน้าเขาเพียรบำเพ็ญเซียน สตรีชุดดำไม่กล้าอุกอาจพังค่ายกล หากแต่ประสานหมัดโค้งกายลงคารวะ กล่าวว่า “พวกข้าสองคนบังอาจรบกวน ไม่ทราบว่าผู้อาวุโสมีนามว่าอะไร”

พวกมู่หรงฉี่ ฟางเหลียงและสวินฉางอันที่อยู่ใต้ต้นฝูซังต่างพากันลืมตาขึ้นมอง

พวกเขาตื่นตระหนกเมื่อพบว่าตนเองมองไม่เห็นตบะของคนทั้งสอง

อีกาทองน้อยสองตัวราวกับเผชิญหน้ากับศัตรูตัวฉกาจ ต่างพากันกางสยายปีกออก

………………………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+