ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น

‘ข้าเป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์! บุตรแห่งสวรรค์ของเผ่ามังกรแท้! และได้รับการสืบทอดจากมหาจักรพรรดิ!

เรื่องอะไรที่ข้าจะต้องแพ้!

เรื่องอะไรกัน’

หลงซั่นกำลังคำรามเดือดอยู่ในใจ พลังอันลึกลับที่อยู่ในส่วนลึกของสายเลือดถูกปลุกกำเริบ

เสียงตู้มดังขึ้นคราหนึ่ง!

เขาระเบิดอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ดุจดั่งภูเขาไฟปะทุเดือด พุ่งโจมตีปราณกระบี่และเงากระบี่ ผืนดินรอบบริเวณล้วนแหลกละเอียดกลายเป็นเถ้าถ่าน

หานเจวี๋ยที่อยู่บนฟ้าสูงเห็นเสาแสงสีเงินวูบหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าด้วยตาตนเอง ซัดทะเลปราณกระบี่ของไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิกระจุยในทันที

หานเจวี๋ยอดที่จะเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้

‘เจ้าหมอนี่ระเบิดพลังแล้ว?

ถ้านี่ไม่ใช่รูปแบบตัวเอกแล้วจะเป็นอะไร

แต่ว่า!

ข้าก็ถนัดสยบกำราบตัวเอกพอดี!’

หานเจวี๋ยรีบกระตุ้นพลังเวทหกสายในทันใด ก่อนจะโบกเฉือนทะเลปราณกระบี่ออกมาอีกครั้ง ซ้อนทับกันชั้นแล้วชั้นเล่า

ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นเต็ม!

นี่คือสิ่งที่หานเจวี๋ยรู้แจ้งก่อนหน้านี้ ไม่สามารถทำให้ระดับความแข็งแกร่งของไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิเพิ่มทวีขึ้นได้ ไม่สู้เพิ่มปริมาณตรงๆ เลย ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้น ก็เท่ากับเก้าไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ!

กระบวนท่านี้สิ้นเปลืองพลังเวทของหานเจวี๋ยอย่างมหาศาล หากไม่ใช่เพราะวิชาวัฏจักรหกวิถีเป็นวิชายุทธ์จักรพรรดิเซียน เขาก็ไม่มีทางเร่งกระตุ้นพลังเวทได้ขนาดนี้เด็ดขาด

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น!

ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นควบรวมเป็นเงากระบี่อย่างรวดเร็ว จำนวนนับไม่หวาดไม่ไหว ทำเอามนุษย์ปุถุชนใต้หล้ามองดูจนปากอ้าตาค้าง

มนุษย์ปุถุชนส่วนใหญ่ล้วนมองเห็นไม่ถนัดว่าหานเจวี๋ยกำลังร่ายสำแดงพลังวิเศษ ยังเข้าใจว่าเทพเซียนเตรียมเปิดใช้งานทัณฑ์สวรรค์ ทำลายล้างฟ้าดิน

“สวรรค์ ใครจะมาช่วยพวกเรากัน”

“เพราะอะไร! เหตุใดเทพเซียนต้องสังหารพวกเรา”

“พวกเราทำผิดอะไร”

“มรรคาสวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!”

“เทพเซียนไร้เมตตา! เทพเซียนไร้เมตตา!”

สรรพชีวิตทั่วทั้งใต้หล้าล้วนกำลังร้องโหยหวน พร้อมกับการต่อสู้ครั้งใหญ่ของหานเจวี๋ยกับหลงซั่นที่ยังดำเนินต่อไป ฟ้าดินยากจะแบกรับศึกแห่งเซียนสวรรค์ ภัยธรรมชาตินานัปการปรากฏขึ้นไม่ว่างเว้น

ภายในพระราชวังเทียมเมฆา เหล่าเทพเซียนเองก็ถูกกระบวนท่านี้ทำเอาตะลึงจนตาค้างเช่นกัน

“พลังเวทของเจ้านี่ไร้ขอบเขตไร้ที่สิ้นสุด?”

“ความรู้แจ้งต่อวิชากระบี่ของเขาลึกล้ำยิ่งนัก”

“ไม่ถูกสิ ฝ่าบาทได้รับการสืบทอดจากมหาจักรพรรดิเชียวนะ หรือว่าเจ้านี่ก็เช่นกัน”

“วิชายุทธ์ของเขาไม่ธรรมดา บางทีเขาอาจจะได้สืบทอดจากจักรพรรดิเซียน”

“ไม่แน่ ฝ่าบาทจะเริ่มเอาจริงแล้ว!”

หลงซั่นมาถึงกลางท้องนภาสูงลิ่ว มองเห็นทะเลปราณกระบี่เก้าชั้น เขาก็อดเบิกตากว้างไม่ได้

ในใจของเขาบังเกิดความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเป็นครั้งแรก

‘อีกฝ่ายเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์จากที่ใดกันแน่

เป็นเซียนสวรรค์จริงๆ หรือ

ไม่ได้!

ข้าไม่มีทางยอมแพ้ให้กับคนขอบเขตพลังเดียวกันเด็ดขาด!’

หลงซั่นใช้ความเดือดดาลกดข่มความไม่สงบภายในใจ เขาเงื้อมือขวาขึ้นสูง ทวนสามง่ามลอยกลับมาอยู่ในมือเขาอีกครั้ง

ทั่วร่างของเขาพลันแปรเปลี่ยน กลายเป็นมังกรขาวที่ยาวพันจั้งตัวหนึ่ง หน้าตาเกรี้ยวกราด เขี้ยวฟันในริมฝีปากแหลมคมดุจดั่งมีด

ดวงตามังกรของเขาเปี่ยมไปด้วยโลหิต เสมือนมุกโลหิตขนาดมหึมาสองเม็ด เขาแผดคำรามเสียงพลางพุ่งกระโจนไปทางหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยที่มีสามเศียรหกกรสีหน้าไร้ความรู้สึก โบกกระบี่แผ่วเบา เงากระบี่นับล้านที่ควบรวมออกมาจากทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นร่วงหล่นลงมาในทันที

ขณะนี้ หานเจวี๋ยเสมือนเทพสงครามที่มือบังคับบัญญัติฟ้า ควบคุมทัณฑ์สวรรค์

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิสวรรค์เก้าชั้นนี่ก็คือทัณฑ์สวรรค์!

หลงซั่นที่แปลงร่างเป็นมังกรไม่อาจมัวมาสนใจให้มากความเพียงนั้น เขาที่กำลังสูญเสียสติพุ่งทะยานไปทางหานเจวี๋ย

เงากระบี่นับล้านร่วงลงมา ในสายตาของสรรพชีวิตทั้งปวง ฟ้าถล่มทลายลงมาแล้ว

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม…

เงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนตกใส่ร่างมังกรขาว มังกรขาวแผดคำรามพลางรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง

ในสายตาของเขามีเพียงหานเจวี๋ย

ตอนที่เขาอยู่ห่างจากหานเจวี๋ยไม่ถึงพันหมี่ เขายังถูกไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิกดทับจนหล่นสู่ผืนดินกว้าง

เงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนหล่นลงมาเหมือนฝนห่าใหญ่ แต่หานเจวี๋ยที่อยู่ท่ามกลางห่าฝนฉากนี้ ดูสูงส่งงามสง่า เหยียดหยันเยียบเย็น

มังกรขาวโหยครวญขณะถูกกดทับบนผืนดินกว้างอีกครั้ง ฝืนข่มความเจ็บปวดที่เกิดจากไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ

แผ่นดินกว้างทั่วทั้งโลกมนุษย์ล้วนกำลังสั่นสะเทือน!

เพียงไม่นาน ทั่วทั้งร่างมังกรขาวล้วนเต็มไปด้วยโลหิต สามารถมองเห็นกระดูกขาวขุ่นได้

สีหน้าหานเจวี๋ยไร้ความรู้สึก ในใจกลับค่อนข้างตกใจกลัว

‘จักรพรรดิสวรรค์ยังไม่เอ่ยปากอีก?’

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป หลงซั่นจะถูกเขาฆ่าตายจริงๆ แล้ว!

หากเป็นเช่นนั้น เขากับวังสวรรค์คงถือว่าไม่ตายกันไปข้างไม่ยอมเลิกรา เขาไม่ได้กลัวหรอก อย่างมากก็แค่หนี แต่โลกมนุษย์ผืนนี้ก็คงดับสิ้น

ต่อให้เขาแกร่งเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางต้านทานทั่วทั้งวังสวรรค์ได้

ขณะเดียวกันนั้น

เหล่าเทพเซียนภายในพระราชวังเทียมเมฆาก็พากันร้อนรน

“ฝ่าบาท นี่ยังไม่จบอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์รัชทายาทจวนจะประคองไม่ไหวแล้ว!”

“เห็นได้ชัดว่าเจ้านี่กำลังรอดูท่าทีของวังสวรรค์ ไม่อย่างนั้นองค์รัชทายาทคงตายไปนานแล้ว!”

“ไม่ผิด ก่อนหน้านี้เทพยุทธ์จวี้หลิงก็ไม่ได้ตกตายไปจริงๆ”

“ข้าคิดว่ายังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้!”

แม้กระทั่งเหล่าเซียนฝ่ายบุ๋นก็ยังเริ่มย้ายข้าง

พรสวรรค์ที่หานเจวี๋ยสำแดงออกมาน่าตกใจเกินไปจริงๆ

บุตรแห่งสวรรค์เช่นนี้ฆ่าไปก็เสียดาย แต่ปล่อยไปยิ่งเป็นภัยมหันต์

ดวงพระเนตรจักรพรรดิสวรรค์เป็นประกาย ไม่ได้ตอบคำถามใด

ยอดแม่ทัพเทพยืนนิ่งเฉยสบายอารมณ์ และไม่เอ่ยปากกล่าวโน้มน้าวจักรพรรดิสวรรค์แต่อย่างใด

หานเจวี๋ยเห็นกายเนื้อของหลงซั่นถูกสังหารดับไปกับตา เหลือไว้เพียงจิตดั้งเดิม

หลงซั่นมีระดับความเกลียดชังต่อเขาเพียงหนึ่งดาว มาถึงขั้นนี้แล้ว แต่ระดับความเกลียดชังยังคงไม่เพิ่มขึ้น

เด็ดเดี่ยวอยู่บ้างนี่!

“เข้าร่วมกับวังสวรรค์เถอะ”

เสียงเวิ้งว้างทว่าเผด็จการสายหนึ่งลอยเข้าหูของหานเจวี๋ย

วิชาถ่ายทอดเสียง?

หานเจวี๋ยเข้าใจในทันใด

[ตรวจสอบพบว่าจักรพรรดิสวรรค์ได้เชิญท่านเข้าร่วมกับวังสวรรค์ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ตอบรับ จะได้รับความประทับใจจากจักรพรรดิสวรรค์ และได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

[สอง ปฏิเสธ จะได้รับความเกลียดชังจากจักรพรรดิสวรรค์ รวมถึงการไล่ล่าสังหารไม่หยุดหย่อนจากวังสวรรค์ แต่จะได้สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ยอดสมบัติหนิ่งชิ้น]

เบื้องหน้าหานเจวี๋ยปรากฏอักขระขึ้นสามแถว เมื่อมองเห็นตัวเลือกที่สองแล้ว เขาอดที่จะจนในคำพูดไม่ได้

หานเจวี๋ยเอ่ยถามขึ้นในใจว่า ‘แล้วโลกมนุษย์เล่า’

“จะไม่ชำระล้างอีก แม่ทัพและทหารสวรรค์จะถอนทัพเดี๋ยวนี้”

“ตกลง แต่สามารถรออีกหน่อยได้หรือไม่ ข้ายังไม่อยากสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ตอนนี้”

“อืม”

“ตกลง ข้ายินดีที่จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์”

หานเจวี๋ยหยุดการกระทำในทันที

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิสวรรค์เก้าชั้นมลายหายลับไปด้วย

วิญญาณของหลงซั่นนอนแผ่อยู่กลางหลุมยักษ์ ลมหายใจรวยริน

เหล่าทหารสวรรค์ต่างทอดถอนใจออกมาอย่างโล่งอก

หากหลงซั่นตายลงต่อหน้าพวกเขา พวกเขาล้วนต้องฝังร่างตามไปด้วย

เวลานี้ สุรเสียงของจักรพรรดิสวรรค์ก็ดังก้องทั่วฟ้าดิน

“โลกมนุษย์แห่งนี้ถูกเผ่ามารแทรกซึม เดิมทีควรกำจัดทิ้ง ในเมื่อมีคนลุกออกมา ใช้คุณสมบัติแห่งตนแลกกับสันติสุขของโลกมนุษย์ หวังว่าสรรพชีวิตทั้งปวงจะจดจำคุณความดีของเขาไว้”

“แม่ทัพและทหารสวรรค์ถอนทัพ เปิดกฎสวรรค์ขึ้นใหม่!”

ฟ้าดินเงียบสงัด

ภัยพิบัติธรรมชาติทั้งหลายล้วนหยุดนิ่ง เสมือนมีพลังลึกลับหอบหนึ่งกำลังกลบซึ่งทุกสิ่งอย่าง

หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกคราหนึ่ง จักรพรรดิสวรรค์รักษาสัญญาดังคาด

[จักรพรรดิสวรรค์เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

[ท่านเลือกที่จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์ ได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

แม่ทัพและทหารสวรรค์รีบพาวิญญาณของเทพยุทธ์จวี้หลิงและหลงซั่นจากไป หลังจากนั้นหานเจวี๋ยจึงตรวจดูค่าความสัมพันธ์ในทันที

ภาพประจำตัวของจักรพรรดิสวรรค์เพียงดูก็รู้สึกถึงความเผด็จการยิ่งนัก เจ้าหมอนี่หน้าตาตรงกับลักษณะจักรพรรดิสวรรค์ในใจของหานเจวี๋ยมาก

ในความคิดของหานเจวี๋ย จักรพรรดิสวรรค์ควรจะสูงส่งงามสง่า พลังเผด็จการแปลกแยก ดุจดั่งจิ๋นซีฮ่องเต้ไม่ผิดเพี้ยน หาใช่เง็กเซียนฮ่องเต้ที่อ่อนแอปวกเปียกอย่างในไซอิ๋ว

[จักรพรรดิสวรรค์: ไม่ทราบตบะ เจ้าแห่งวังสวรรค์ มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ปกครองเทพเซียนทั้งหมด อุปนิสัยยากจะคาดคะเน เนื่องด้วยพรสวรรค์ของท่าน จึงเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

‘มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขตคืออะไร’

หานเจวี๋ยลอบสงสัยกับตัวเอง

เขาหันกายบินกลับเขาเพียรบำเพ็ญเซียน

สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ล้วนพากันโห่ร้องยินดี เพราะพวกเขาต่างเห็นว่าหานเจวี๋ยออกจากเขา

คนที่ช่วยชีวิตมนุษย์โลก และได้รับการยอมรับจากวังสวรรค์ก็คือผู้อาวุโสสังหารเทพของพวกเขา!

มาถึงใต้ต้นฝูซัง บรรดาศิษย์ลูกและศิษย์หลานต่างพากันยินดียิ่งนัก

ไก่คุกรัตติกาลเอ่ยอย่างฮึกเหิมว่า “พวกเราไม่ต้องหนีกันแล้ว?”

หานเจวี๋ยยิ้มพลางพยักหน้า กล่าวว่า “ไม่ผิด”

คนอื่นพากันห้อมล้อมเข้ามา แต่ละคนล้วนตื่นเต้นไม่มีใครยอมใคร

ฟางเหลียงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นว่า “อาจารย์ปู่ ท่านจะเข้าร่วมกับวังสวรรค์หรือไม่”

หานเจวี๋ยกล่าวยิ้มๆ “ไม่รีบ”

แม้จะผ่านเคราะห์ด่านนี้แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้อยากเข้าร่วมกับวังสวรรค์ทันที เพื่อเลี่ยงไม่ให้ปัญหาถาโถม

ศึกครั้งนี้ เขาคงล่วงเกินเทพเซียนไปไม่น้อยแล้วเป็นแน่

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น

‘ข้าเป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์! บุตรแห่งสวรรค์ของเผ่ามังกรแท้! และได้รับการสืบทอดจากมหาจักรพรรดิ!

เรื่องอะไรที่ข้าจะต้องแพ้!

เรื่องอะไรกัน’

หลงซั่นกำลังคำรามเดือดอยู่ในใจ พลังอันลึกลับที่อยู่ในส่วนลึกของสายเลือดถูกปลุกกำเริบ

เสียงตู้มดังขึ้นคราหนึ่ง!

เขาระเบิดอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ดุจดั่งภูเขาไฟปะทุเดือด พุ่งโจมตีปราณกระบี่และเงากระบี่ ผืนดินรอบบริเวณล้วนแหลกละเอียดกลายเป็นเถ้าถ่าน

หานเจวี๋ยที่อยู่บนฟ้าสูงเห็นเสาแสงสีเงินวูบหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าด้วยตาตนเอง ซัดทะเลปราณกระบี่ของไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิกระจุยในทันที

หานเจวี๋ยอดที่จะเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้

‘เจ้าหมอนี่ระเบิดพลังแล้ว?

ถ้านี่ไม่ใช่รูปแบบตัวเอกแล้วจะเป็นอะไร

แต่ว่า!

ข้าก็ถนัดสยบกำราบตัวเอกพอดี!’

หานเจวี๋ยรีบกระตุ้นพลังเวทหกสายในทันใด ก่อนจะโบกเฉือนทะเลปราณกระบี่ออกมาอีกครั้ง ซ้อนทับกันชั้นแล้วชั้นเล่า

ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นเต็ม!

นี่คือสิ่งที่หานเจวี๋ยรู้แจ้งก่อนหน้านี้ ไม่สามารถทำให้ระดับความแข็งแกร่งของไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิเพิ่มทวีขึ้นได้ ไม่สู้เพิ่มปริมาณตรงๆ เลย ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้น ก็เท่ากับเก้าไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ!

กระบวนท่านี้สิ้นเปลืองพลังเวทของหานเจวี๋ยอย่างมหาศาล หากไม่ใช่เพราะวิชาวัฏจักรหกวิถีเป็นวิชายุทธ์จักรพรรดิเซียน เขาก็ไม่มีทางเร่งกระตุ้นพลังเวทได้ขนาดนี้เด็ดขาด

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น!

ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นควบรวมเป็นเงากระบี่อย่างรวดเร็ว จำนวนนับไม่หวาดไม่ไหว ทำเอามนุษย์ปุถุชนใต้หล้ามองดูจนปากอ้าตาค้าง

มนุษย์ปุถุชนส่วนใหญ่ล้วนมองเห็นไม่ถนัดว่าหานเจวี๋ยกำลังร่ายสำแดงพลังวิเศษ ยังเข้าใจว่าเทพเซียนเตรียมเปิดใช้งานทัณฑ์สวรรค์ ทำลายล้างฟ้าดิน

“สวรรค์ ใครจะมาช่วยพวกเรากัน”

“เพราะอะไร! เหตุใดเทพเซียนต้องสังหารพวกเรา”

“พวกเราทำผิดอะไร”

“มรรคาสวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!”

“เทพเซียนไร้เมตตา! เทพเซียนไร้เมตตา!”

สรรพชีวิตทั่วทั้งใต้หล้าล้วนกำลังร้องโหยหวน พร้อมกับการต่อสู้ครั้งใหญ่ของหานเจวี๋ยกับหลงซั่นที่ยังดำเนินต่อไป ฟ้าดินยากจะแบกรับศึกแห่งเซียนสวรรค์ ภัยธรรมชาตินานัปการปรากฏขึ้นไม่ว่างเว้น

ภายในพระราชวังเทียมเมฆา เหล่าเทพเซียนเองก็ถูกกระบวนท่านี้ทำเอาตะลึงจนตาค้างเช่นกัน

“พลังเวทของเจ้านี่ไร้ขอบเขตไร้ที่สิ้นสุด?”

“ความรู้แจ้งต่อวิชากระบี่ของเขาลึกล้ำยิ่งนัก”

“ไม่ถูกสิ ฝ่าบาทได้รับการสืบทอดจากมหาจักรพรรดิเชียวนะ หรือว่าเจ้านี่ก็เช่นกัน”

“วิชายุทธ์ของเขาไม่ธรรมดา บางทีเขาอาจจะได้สืบทอดจากจักรพรรดิเซียน”

“ไม่แน่ ฝ่าบาทจะเริ่มเอาจริงแล้ว!”

หลงซั่นมาถึงกลางท้องนภาสูงลิ่ว มองเห็นทะเลปราณกระบี่เก้าชั้น เขาก็อดเบิกตากว้างไม่ได้

ในใจของเขาบังเกิดความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเป็นครั้งแรก

‘อีกฝ่ายเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์จากที่ใดกันแน่

เป็นเซียนสวรรค์จริงๆ หรือ

ไม่ได้!

ข้าไม่มีทางยอมแพ้ให้กับคนขอบเขตพลังเดียวกันเด็ดขาด!’

หลงซั่นใช้ความเดือดดาลกดข่มความไม่สงบภายในใจ เขาเงื้อมือขวาขึ้นสูง ทวนสามง่ามลอยกลับมาอยู่ในมือเขาอีกครั้ง

ทั่วร่างของเขาพลันแปรเปลี่ยน กลายเป็นมังกรขาวที่ยาวพันจั้งตัวหนึ่ง หน้าตาเกรี้ยวกราด เขี้ยวฟันในริมฝีปากแหลมคมดุจดั่งมีด

ดวงตามังกรของเขาเปี่ยมไปด้วยโลหิต เสมือนมุกโลหิตขนาดมหึมาสองเม็ด เขาแผดคำรามเสียงพลางพุ่งกระโจนไปทางหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยที่มีสามเศียรหกกรสีหน้าไร้ความรู้สึก โบกกระบี่แผ่วเบา เงากระบี่นับล้านที่ควบรวมออกมาจากทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นร่วงหล่นลงมาในทันที

ขณะนี้ หานเจวี๋ยเสมือนเทพสงครามที่มือบังคับบัญญัติฟ้า ควบคุมทัณฑ์สวรรค์

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิสวรรค์เก้าชั้นนี่ก็คือทัณฑ์สวรรค์!

หลงซั่นที่แปลงร่างเป็นมังกรไม่อาจมัวมาสนใจให้มากความเพียงนั้น เขาที่กำลังสูญเสียสติพุ่งทะยานไปทางหานเจวี๋ย

เงากระบี่นับล้านร่วงลงมา ในสายตาของสรรพชีวิตทั้งปวง ฟ้าถล่มทลายลงมาแล้ว

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม…

เงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนตกใส่ร่างมังกรขาว มังกรขาวแผดคำรามพลางรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง

ในสายตาของเขามีเพียงหานเจวี๋ย

ตอนที่เขาอยู่ห่างจากหานเจวี๋ยไม่ถึงพันหมี่ เขายังถูกไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิกดทับจนหล่นสู่ผืนดินกว้าง

เงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนหล่นลงมาเหมือนฝนห่าใหญ่ แต่หานเจวี๋ยที่อยู่ท่ามกลางห่าฝนฉากนี้ ดูสูงส่งงามสง่า เหยียดหยันเยียบเย็น

มังกรขาวโหยครวญขณะถูกกดทับบนผืนดินกว้างอีกครั้ง ฝืนข่มความเจ็บปวดที่เกิดจากไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ

แผ่นดินกว้างทั่วทั้งโลกมนุษย์ล้วนกำลังสั่นสะเทือน!

เพียงไม่นาน ทั่วทั้งร่างมังกรขาวล้วนเต็มไปด้วยโลหิต สามารถมองเห็นกระดูกขาวขุ่นได้

สีหน้าหานเจวี๋ยไร้ความรู้สึก ในใจกลับค่อนข้างตกใจกลัว

‘จักรพรรดิสวรรค์ยังไม่เอ่ยปากอีก?’

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป หลงซั่นจะถูกเขาฆ่าตายจริงๆ แล้ว!

หากเป็นเช่นนั้น เขากับวังสวรรค์คงถือว่าไม่ตายกันไปข้างไม่ยอมเลิกรา เขาไม่ได้กลัวหรอก อย่างมากก็แค่หนี แต่โลกมนุษย์ผืนนี้ก็คงดับสิ้น

ต่อให้เขาแกร่งเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางต้านทานทั่วทั้งวังสวรรค์ได้

ขณะเดียวกันนั้น

เหล่าเทพเซียนภายในพระราชวังเทียมเมฆาก็พากันร้อนรน

“ฝ่าบาท นี่ยังไม่จบอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์รัชทายาทจวนจะประคองไม่ไหวแล้ว!”

“เห็นได้ชัดว่าเจ้านี่กำลังรอดูท่าทีของวังสวรรค์ ไม่อย่างนั้นองค์รัชทายาทคงตายไปนานแล้ว!”

“ไม่ผิด ก่อนหน้านี้เทพยุทธ์จวี้หลิงก็ไม่ได้ตกตายไปจริงๆ”

“ข้าคิดว่ายังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้!”

แม้กระทั่งเหล่าเซียนฝ่ายบุ๋นก็ยังเริ่มย้ายข้าง

พรสวรรค์ที่หานเจวี๋ยสำแดงออกมาน่าตกใจเกินไปจริงๆ

บุตรแห่งสวรรค์เช่นนี้ฆ่าไปก็เสียดาย แต่ปล่อยไปยิ่งเป็นภัยมหันต์

ดวงพระเนตรจักรพรรดิสวรรค์เป็นประกาย ไม่ได้ตอบคำถามใด

ยอดแม่ทัพเทพยืนนิ่งเฉยสบายอารมณ์ และไม่เอ่ยปากกล่าวโน้มน้าวจักรพรรดิสวรรค์แต่อย่างใด

หานเจวี๋ยเห็นกายเนื้อของหลงซั่นถูกสังหารดับไปกับตา เหลือไว้เพียงจิตดั้งเดิม

หลงซั่นมีระดับความเกลียดชังต่อเขาเพียงหนึ่งดาว มาถึงขั้นนี้แล้ว แต่ระดับความเกลียดชังยังคงไม่เพิ่มขึ้น

เด็ดเดี่ยวอยู่บ้างนี่!

“เข้าร่วมกับวังสวรรค์เถอะ”

เสียงเวิ้งว้างทว่าเผด็จการสายหนึ่งลอยเข้าหูของหานเจวี๋ย

วิชาถ่ายทอดเสียง?

หานเจวี๋ยเข้าใจในทันใด

[ตรวจสอบพบว่าจักรพรรดิสวรรค์ได้เชิญท่านเข้าร่วมกับวังสวรรค์ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ตอบรับ จะได้รับความประทับใจจากจักรพรรดิสวรรค์ และได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

[สอง ปฏิเสธ จะได้รับความเกลียดชังจากจักรพรรดิสวรรค์ รวมถึงการไล่ล่าสังหารไม่หยุดหย่อนจากวังสวรรค์ แต่จะได้สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ยอดสมบัติหนิ่งชิ้น]

เบื้องหน้าหานเจวี๋ยปรากฏอักขระขึ้นสามแถว เมื่อมองเห็นตัวเลือกที่สองแล้ว เขาอดที่จะจนในคำพูดไม่ได้

หานเจวี๋ยเอ่ยถามขึ้นในใจว่า ‘แล้วโลกมนุษย์เล่า’

“จะไม่ชำระล้างอีก แม่ทัพและทหารสวรรค์จะถอนทัพเดี๋ยวนี้”

“ตกลง แต่สามารถรออีกหน่อยได้หรือไม่ ข้ายังไม่อยากสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ตอนนี้”

“อืม”

“ตกลง ข้ายินดีที่จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์”

หานเจวี๋ยหยุดการกระทำในทันที

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิสวรรค์เก้าชั้นมลายหายลับไปด้วย

วิญญาณของหลงซั่นนอนแผ่อยู่กลางหลุมยักษ์ ลมหายใจรวยริน

เหล่าทหารสวรรค์ต่างทอดถอนใจออกมาอย่างโล่งอก

หากหลงซั่นตายลงต่อหน้าพวกเขา พวกเขาล้วนต้องฝังร่างตามไปด้วย

เวลานี้ สุรเสียงของจักรพรรดิสวรรค์ก็ดังก้องทั่วฟ้าดิน

“โลกมนุษย์แห่งนี้ถูกเผ่ามารแทรกซึม เดิมทีควรกำจัดทิ้ง ในเมื่อมีคนลุกออกมา ใช้คุณสมบัติแห่งตนแลกกับสันติสุขของโลกมนุษย์ หวังว่าสรรพชีวิตทั้งปวงจะจดจำคุณความดีของเขาไว้”

“แม่ทัพและทหารสวรรค์ถอนทัพ เปิดกฎสวรรค์ขึ้นใหม่!”

ฟ้าดินเงียบสงัด

ภัยพิบัติธรรมชาติทั้งหลายล้วนหยุดนิ่ง เสมือนมีพลังลึกลับหอบหนึ่งกำลังกลบซึ่งทุกสิ่งอย่าง

หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกคราหนึ่ง จักรพรรดิสวรรค์รักษาสัญญาดังคาด

[จักรพรรดิสวรรค์เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

[ท่านเลือกที่จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์ ได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

แม่ทัพและทหารสวรรค์รีบพาวิญญาณของเทพยุทธ์จวี้หลิงและหลงซั่นจากไป หลังจากนั้นหานเจวี๋ยจึงตรวจดูค่าความสัมพันธ์ในทันที

ภาพประจำตัวของจักรพรรดิสวรรค์เพียงดูก็รู้สึกถึงความเผด็จการยิ่งนัก เจ้าหมอนี่หน้าตาตรงกับลักษณะจักรพรรดิสวรรค์ในใจของหานเจวี๋ยมาก

ในความคิดของหานเจวี๋ย จักรพรรดิสวรรค์ควรจะสูงส่งงามสง่า พลังเผด็จการแปลกแยก ดุจดั่งจิ๋นซีฮ่องเต้ไม่ผิดเพี้ยน หาใช่เง็กเซียนฮ่องเต้ที่อ่อนแอปวกเปียกอย่างในไซอิ๋ว

[จักรพรรดิสวรรค์: ไม่ทราบตบะ เจ้าแห่งวังสวรรค์ มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ปกครองเทพเซียนทั้งหมด อุปนิสัยยากจะคาดคะเน เนื่องด้วยพรสวรรค์ของท่าน จึงเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

‘มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขตคืออะไร’

หานเจวี๋ยลอบสงสัยกับตัวเอง

เขาหันกายบินกลับเขาเพียรบำเพ็ญเซียน

สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ล้วนพากันโห่ร้องยินดี เพราะพวกเขาต่างเห็นว่าหานเจวี๋ยออกจากเขา

คนที่ช่วยชีวิตมนุษย์โลก และได้รับการยอมรับจากวังสวรรค์ก็คือผู้อาวุโสสังหารเทพของพวกเขา!

มาถึงใต้ต้นฝูซัง บรรดาศิษย์ลูกและศิษย์หลานต่างพากันยินดียิ่งนัก

ไก่คุกรัตติกาลเอ่ยอย่างฮึกเหิมว่า “พวกเราไม่ต้องหนีกันแล้ว?”

หานเจวี๋ยยิ้มพลางพยักหน้า กล่าวว่า “ไม่ผิด”

คนอื่นพากันห้อมล้อมเข้ามา แต่ละคนล้วนตื่นเต้นไม่มีใครยอมใคร

ฟางเหลียงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นว่า “อาจารย์ปู่ ท่านจะเข้าร่วมกับวังสวรรค์หรือไม่”

หานเจวี๋ยกล่าวยิ้มๆ “ไม่รีบ”

แม้จะผ่านเคราะห์ด่านนี้แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้อยากเข้าร่วมกับวังสวรรค์ทันที เพื่อเลี่ยงไม่ให้ปัญหาถาโถม

ศึกครั้งนี้ เขาคงล่วงเกินเทพเซียนไปไม่น้อยแล้วเป็นแน่

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 186 ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น

‘ข้าเป็นโอรสจักรพรรดิสวรรค์! บุตรแห่งสวรรค์ของเผ่ามังกรแท้! และได้รับการสืบทอดจากมหาจักรพรรดิ!

เรื่องอะไรที่ข้าจะต้องแพ้!

เรื่องอะไรกัน’

หลงซั่นกำลังคำรามเดือดอยู่ในใจ พลังอันลึกลับที่อยู่ในส่วนลึกของสายเลือดถูกปลุกกำเริบ

เสียงตู้มดังขึ้นคราหนึ่ง!

เขาระเบิดอานุภาพที่น่าสะพรึงกลัวออกมา ดุจดั่งภูเขาไฟปะทุเดือด พุ่งโจมตีปราณกระบี่และเงากระบี่ ผืนดินรอบบริเวณล้วนแหลกละเอียดกลายเป็นเถ้าถ่าน

หานเจวี๋ยที่อยู่บนฟ้าสูงเห็นเสาแสงสีเงินวูบหนึ่งพุ่งทะยานขึ้นไปบนฟ้าด้วยตาตนเอง ซัดทะเลปราณกระบี่ของไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิกระจุยในทันที

หานเจวี๋ยอดที่จะเลิกคิ้วขึ้นไม่ได้

‘เจ้าหมอนี่ระเบิดพลังแล้ว?

ถ้านี่ไม่ใช่รูปแบบตัวเอกแล้วจะเป็นอะไร

แต่ว่า!

ข้าก็ถนัดสยบกำราบตัวเอกพอดี!’

หานเจวี๋ยรีบกระตุ้นพลังเวทหกสายในทันใด ก่อนจะโบกเฉือนทะเลปราณกระบี่ออกมาอีกครั้ง ซ้อนทับกันชั้นแล้วชั้นเล่า

ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นเต็ม!

นี่คือสิ่งที่หานเจวี๋ยรู้แจ้งก่อนหน้านี้ ไม่สามารถทำให้ระดับความแข็งแกร่งของไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิเพิ่มทวีขึ้นได้ ไม่สู้เพิ่มปริมาณตรงๆ เลย ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้น ก็เท่ากับเก้าไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ!

กระบวนท่านี้สิ้นเปลืองพลังเวทของหานเจวี๋ยอย่างมหาศาล หากไม่ใช่เพราะวิชาวัฏจักรหกวิถีเป็นวิชายุทธ์จักรพรรดิเซียน เขาก็ไม่มีทางเร่งกระตุ้นพลังเวทได้ขนาดนี้เด็ดขาด

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ สวรรค์เก้าชั้น!

ทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นควบรวมเป็นเงากระบี่อย่างรวดเร็ว จำนวนนับไม่หวาดไม่ไหว ทำเอามนุษย์ปุถุชนใต้หล้ามองดูจนปากอ้าตาค้าง

มนุษย์ปุถุชนส่วนใหญ่ล้วนมองเห็นไม่ถนัดว่าหานเจวี๋ยกำลังร่ายสำแดงพลังวิเศษ ยังเข้าใจว่าเทพเซียนเตรียมเปิดใช้งานทัณฑ์สวรรค์ ทำลายล้างฟ้าดิน

“สวรรค์ ใครจะมาช่วยพวกเรากัน”

“เพราะอะไร! เหตุใดเทพเซียนต้องสังหารพวกเรา”

“พวกเราทำผิดอะไร”

“มรรคาสวรรค์ไม่ยุติธรรมเลย!”

“เทพเซียนไร้เมตตา! เทพเซียนไร้เมตตา!”

สรรพชีวิตทั่วทั้งใต้หล้าล้วนกำลังร้องโหยหวน พร้อมกับการต่อสู้ครั้งใหญ่ของหานเจวี๋ยกับหลงซั่นที่ยังดำเนินต่อไป ฟ้าดินยากจะแบกรับศึกแห่งเซียนสวรรค์ ภัยธรรมชาตินานัปการปรากฏขึ้นไม่ว่างเว้น

ภายในพระราชวังเทียมเมฆา เหล่าเทพเซียนเองก็ถูกกระบวนท่านี้ทำเอาตะลึงจนตาค้างเช่นกัน

“พลังเวทของเจ้านี่ไร้ขอบเขตไร้ที่สิ้นสุด?”

“ความรู้แจ้งต่อวิชากระบี่ของเขาลึกล้ำยิ่งนัก”

“ไม่ถูกสิ ฝ่าบาทได้รับการสืบทอดจากมหาจักรพรรดิเชียวนะ หรือว่าเจ้านี่ก็เช่นกัน”

“วิชายุทธ์ของเขาไม่ธรรมดา บางทีเขาอาจจะได้สืบทอดจากจักรพรรดิเซียน”

“ไม่แน่ ฝ่าบาทจะเริ่มเอาจริงแล้ว!”

หลงซั่นมาถึงกลางท้องนภาสูงลิ่ว มองเห็นทะเลปราณกระบี่เก้าชั้น เขาก็อดเบิกตากว้างไม่ได้

ในใจของเขาบังเกิดความรู้สึกที่ทำอะไรไม่ถูกขึ้นมาเป็นครั้งแรก

‘อีกฝ่ายเป็นเทพศักดิ์สิทธิ์จากที่ใดกันแน่

เป็นเซียนสวรรค์จริงๆ หรือ

ไม่ได้!

ข้าไม่มีทางยอมแพ้ให้กับคนขอบเขตพลังเดียวกันเด็ดขาด!’

หลงซั่นใช้ความเดือดดาลกดข่มความไม่สงบภายในใจ เขาเงื้อมือขวาขึ้นสูง ทวนสามง่ามลอยกลับมาอยู่ในมือเขาอีกครั้ง

ทั่วร่างของเขาพลันแปรเปลี่ยน กลายเป็นมังกรขาวที่ยาวพันจั้งตัวหนึ่ง หน้าตาเกรี้ยวกราด เขี้ยวฟันในริมฝีปากแหลมคมดุจดั่งมีด

ดวงตามังกรของเขาเปี่ยมไปด้วยโลหิต เสมือนมุกโลหิตขนาดมหึมาสองเม็ด เขาแผดคำรามเสียงพลางพุ่งกระโจนไปทางหานเจวี๋ย

หานเจวี๋ยที่มีสามเศียรหกกรสีหน้าไร้ความรู้สึก โบกกระบี่แผ่วเบา เงากระบี่นับล้านที่ควบรวมออกมาจากทะเลปราณกระบี่เก้าชั้นร่วงหล่นลงมาในทันที

ขณะนี้ หานเจวี๋ยเสมือนเทพสงครามที่มือบังคับบัญญัติฟ้า ควบคุมทัณฑ์สวรรค์

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิสวรรค์เก้าชั้นนี่ก็คือทัณฑ์สวรรค์!

หลงซั่นที่แปลงร่างเป็นมังกรไม่อาจมัวมาสนใจให้มากความเพียงนั้น เขาที่กำลังสูญเสียสติพุ่งทะยานไปทางหานเจวี๋ย

เงากระบี่นับล้านร่วงลงมา ในสายตาของสรรพชีวิตทั้งปวง ฟ้าถล่มทลายลงมาแล้ว

ตู้ม! ตู้ม! ตู้ม…

เงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนตกใส่ร่างมังกรขาว มังกรขาวแผดคำรามพลางรุดหน้าอย่างต่อเนื่อง

ในสายตาของเขามีเพียงหานเจวี๋ย

ตอนที่เขาอยู่ห่างจากหานเจวี๋ยไม่ถึงพันหมี่ เขายังถูกไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิกดทับจนหล่นสู่ผืนดินกว้าง

เงากระบี่จำนวนนับไม่ถ้วนหล่นลงมาเหมือนฝนห่าใหญ่ แต่หานเจวี๋ยที่อยู่ท่ามกลางห่าฝนฉากนี้ ดูสูงส่งงามสง่า เหยียดหยันเยียบเย็น

มังกรขาวโหยครวญขณะถูกกดทับบนผืนดินกว้างอีกครั้ง ฝืนข่มความเจ็บปวดที่เกิดจากไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิ

แผ่นดินกว้างทั่วทั้งโลกมนุษย์ล้วนกำลังสั่นสะเทือน!

เพียงไม่นาน ทั่วทั้งร่างมังกรขาวล้วนเต็มไปด้วยโลหิต สามารถมองเห็นกระดูกขาวขุ่นได้

สีหน้าหานเจวี๋ยไร้ความรู้สึก ในใจกลับค่อนข้างตกใจกลัว

‘จักรพรรดิสวรรค์ยังไม่เอ่ยปากอีก?’

ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป หลงซั่นจะถูกเขาฆ่าตายจริงๆ แล้ว!

หากเป็นเช่นนั้น เขากับวังสวรรค์คงถือว่าไม่ตายกันไปข้างไม่ยอมเลิกรา เขาไม่ได้กลัวหรอก อย่างมากก็แค่หนี แต่โลกมนุษย์ผืนนี้ก็คงดับสิ้น

ต่อให้เขาแกร่งเพียงใด แต่ก็ไม่มีทางต้านทานทั่วทั้งวังสวรรค์ได้

ขณะเดียวกันนั้น

เหล่าเทพเซียนภายในพระราชวังเทียมเมฆาก็พากันร้อนรน

“ฝ่าบาท นี่ยังไม่จบอีกหรือพ่ะย่ะค่ะ”

“องค์รัชทายาทจวนจะประคองไม่ไหวแล้ว!”

“เห็นได้ชัดว่าเจ้านี่กำลังรอดูท่าทีของวังสวรรค์ ไม่อย่างนั้นองค์รัชทายาทคงตายไปนานแล้ว!”

“ไม่ผิด ก่อนหน้านี้เทพยุทธ์จวี้หลิงก็ไม่ได้ตกตายไปจริงๆ”

“ข้าคิดว่ายังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้!”

แม้กระทั่งเหล่าเซียนฝ่ายบุ๋นก็ยังเริ่มย้ายข้าง

พรสวรรค์ที่หานเจวี๋ยสำแดงออกมาน่าตกใจเกินไปจริงๆ

บุตรแห่งสวรรค์เช่นนี้ฆ่าไปก็เสียดาย แต่ปล่อยไปยิ่งเป็นภัยมหันต์

ดวงพระเนตรจักรพรรดิสวรรค์เป็นประกาย ไม่ได้ตอบคำถามใด

ยอดแม่ทัพเทพยืนนิ่งเฉยสบายอารมณ์ และไม่เอ่ยปากกล่าวโน้มน้าวจักรพรรดิสวรรค์แต่อย่างใด

หานเจวี๋ยเห็นกายเนื้อของหลงซั่นถูกสังหารดับไปกับตา เหลือไว้เพียงจิตดั้งเดิม

หลงซั่นมีระดับความเกลียดชังต่อเขาเพียงหนึ่งดาว มาถึงขั้นนี้แล้ว แต่ระดับความเกลียดชังยังคงไม่เพิ่มขึ้น

เด็ดเดี่ยวอยู่บ้างนี่!

“เข้าร่วมกับวังสวรรค์เถอะ”

เสียงเวิ้งว้างทว่าเผด็จการสายหนึ่งลอยเข้าหูของหานเจวี๋ย

วิชาถ่ายทอดเสียง?

หานเจวี๋ยเข้าใจในทันใด

[ตรวจสอบพบว่าจักรพรรดิสวรรค์ได้เชิญท่านเข้าร่วมกับวังสวรรค์ ท่านมีตัวเลือกดังต่อไปนี้]

[หนึ่ง ตอบรับ จะได้รับความประทับใจจากจักรพรรดิสวรรค์ และได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

[สอง ปฏิเสธ จะได้รับความเกลียดชังจากจักรพรรดิสวรรค์ รวมถึงการไล่ล่าสังหารไม่หยุดหย่อนจากวังสวรรค์ แต่จะได้สืบทอดพลังวิเศษหนึ่งครั้ง ยอดสมบัติหนิ่งชิ้น]

เบื้องหน้าหานเจวี๋ยปรากฏอักขระขึ้นสามแถว เมื่อมองเห็นตัวเลือกที่สองแล้ว เขาอดที่จะจนในคำพูดไม่ได้

หานเจวี๋ยเอ่ยถามขึ้นในใจว่า ‘แล้วโลกมนุษย์เล่า’

“จะไม่ชำระล้างอีก แม่ทัพและทหารสวรรค์จะถอนทัพเดี๋ยวนี้”

“ตกลง แต่สามารถรออีกหน่อยได้หรือไม่ ข้ายังไม่อยากสำเร็จมรรคผลขึ้นสู่สวรรค์ตอนนี้”

“อืม”

“ตกลง ข้ายินดีที่จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์”

หานเจวี๋ยหยุดการกระทำในทันที

ไตรวิสุทธิ์กำราบภูมิสวรรค์เก้าชั้นมลายหายลับไปด้วย

วิญญาณของหลงซั่นนอนแผ่อยู่กลางหลุมยักษ์ ลมหายใจรวยริน

เหล่าทหารสวรรค์ต่างทอดถอนใจออกมาอย่างโล่งอก

หากหลงซั่นตายลงต่อหน้าพวกเขา พวกเขาล้วนต้องฝังร่างตามไปด้วย

เวลานี้ สุรเสียงของจักรพรรดิสวรรค์ก็ดังก้องทั่วฟ้าดิน

“โลกมนุษย์แห่งนี้ถูกเผ่ามารแทรกซึม เดิมทีควรกำจัดทิ้ง ในเมื่อมีคนลุกออกมา ใช้คุณสมบัติแห่งตนแลกกับสันติสุขของโลกมนุษย์ หวังว่าสรรพชีวิตทั้งปวงจะจดจำคุณความดีของเขาไว้”

“แม่ทัพและทหารสวรรค์ถอนทัพ เปิดกฎสวรรค์ขึ้นใหม่!”

ฟ้าดินเงียบสงัด

ภัยพิบัติธรรมชาติทั้งหลายล้วนหยุดนิ่ง เสมือนมีพลังลึกลับหอบหนึ่งกำลังกลบซึ่งทุกสิ่งอย่าง

หานเจวี๋ยถอนหายใจออกมาอย่างโล่งอกคราหนึ่ง จักรพรรดิสวรรค์รักษาสัญญาดังคาด

[จักรพรรดิสวรรค์เกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

[ท่านเลือกที่จะเข้าร่วมกับวังสวรรค์ ได้รับหินวิญญาณมรรคาสวรรค์หนึ่งก้อน]

แม่ทัพและทหารสวรรค์รีบพาวิญญาณของเทพยุทธ์จวี้หลิงและหลงซั่นจากไป หลังจากนั้นหานเจวี๋ยจึงตรวจดูค่าความสัมพันธ์ในทันที

ภาพประจำตัวของจักรพรรดิสวรรค์เพียงดูก็รู้สึกถึงความเผด็จการยิ่งนัก เจ้าหมอนี่หน้าตาตรงกับลักษณะจักรพรรดิสวรรค์ในใจของหานเจวี๋ยมาก

ในความคิดของหานเจวี๋ย จักรพรรดิสวรรค์ควรจะสูงส่งงามสง่า พลังเผด็จการแปลกแยก ดุจดั่งจิ๋นซีฮ่องเต้ไม่ผิดเพี้ยน หาใช่เง็กเซียนฮ่องเต้ที่อ่อนแอปวกเปียกอย่างในไซอิ๋ว

[จักรพรรดิสวรรค์: ไม่ทราบตบะ เจ้าแห่งวังสวรรค์ มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขต ปกครองเทพเซียนทั้งหมด อุปนิสัยยากจะคาดคะเน เนื่องด้วยพรสวรรค์ของท่าน จึงเกิดความประทับใจในตัวท่าน ระดับความประทับใจในขณะนี้คือ 3 ดาว]

‘มหาจักรพรรดิไร้ขอบเขตคืออะไร’

หานเจวี๋ยลอบสงสัยกับตัวเอง

เขาหันกายบินกลับเขาเพียรบำเพ็ญเซียน

สำนักศักดิ์สิทธิ์หยกพิสุทธิ์ล้วนพากันโห่ร้องยินดี เพราะพวกเขาต่างเห็นว่าหานเจวี๋ยออกจากเขา

คนที่ช่วยชีวิตมนุษย์โลก และได้รับการยอมรับจากวังสวรรค์ก็คือผู้อาวุโสสังหารเทพของพวกเขา!

มาถึงใต้ต้นฝูซัง บรรดาศิษย์ลูกและศิษย์หลานต่างพากันยินดียิ่งนัก

ไก่คุกรัตติกาลเอ่ยอย่างฮึกเหิมว่า “พวกเราไม่ต้องหนีกันแล้ว?”

หานเจวี๋ยยิ้มพลางพยักหน้า กล่าวว่า “ไม่ผิด”

คนอื่นพากันห้อมล้อมเข้ามา แต่ละคนล้วนตื่นเต้นไม่มีใครยอมใคร

ฟางเหลียงเอ่ยถามอย่างตื่นเต้นว่า “อาจารย์ปู่ ท่านจะเข้าร่วมกับวังสวรรค์หรือไม่”

หานเจวี๋ยกล่าวยิ้มๆ “ไม่รีบ”

แม้จะผ่านเคราะห์ด่านนี้แล้ว แต่เขาก็ไม่ได้อยากเข้าร่วมกับวังสวรรค์ทันที เพื่อเลี่ยงไม่ให้ปัญหาถาโถม

ศึกครั้งนี้ เขาคงล่วงเกินเทพเซียนไปไม่น้อยแล้วเป็นแน่

…………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+