ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 206 สามนิกายสำนักเต๋า และเสียงหลงฝัว

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 206 สามนิกายสำนักเต๋า และเสียงหลงฝัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 206 สามนิกายสำนักเต๋า และเสียงหลงฝัว

การมาของหลงเฮ่าทำให้เขาเพียรบำเพ็ญเซียนคึกคักขึ้น ทีแรกฉู่ซื่อเหรินสนใจหลงเฮ่าเป็นที่สุด มักจะตามติดหลงเฮ่าทั้งวัน

จนกระทั่งหลงเฮ่ามาบ่นที่หน้าถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยถึงค่อยให้ราชามังกรสามหัวดูแลหลงเฮ่า และห้ามไม่ให้ฉู่ซื่อเหรินเข้าใกล้เขา

ไม่นึกว่าฉู่ซื่อเหรินจะเกลี้ยกล่อมหลงเฮ่าไม่ให้ฝึกฝน หลงเฮ่าจึงรู้สึกไม่ชอบหน้าเขามาก

สำหรับหลงเฮ่า หานเจวี๋ยไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

เรื่องอย่างการเลี้ยงเด็กมอบให้คนอื่นทำก็พอแล้ว ในสายตาของหานเจวี๋ย หลงเฮ่าเป็นแค่แขกที่ผ่านทางมา ไม่มีทางอยู่ข้างกายเขาตลอดไป และเป็นไปไม่ได้ที่จะกตัญญูต่อเขา

คนที่สำคัญที่สุดในใจของหลงเฮ่าย่อมเป็นจักรพรรดิสวรรค์

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้พยายามปลูกฝังอะไรให้กับหลงเฮ่า หากหลงเฮ่าเปลี่ยนไปจริงๆ จักรพรรดิสวรรค์ย่อมจับสังเกตได้แน่นอน

การฝึกบำเพ็ญต่างหากถึงสำคัญที่สุด!

การปรากฏตัวของหลงเฮ่าทำให้หานเจวี๋ยคิดได้หลายเรื่อง

ไม่นึกว่าตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์จะสามารถเปลี่ยนคนได้!

หากเฮ่าเทียนตื่นขึ้นมา ไม่แน่ว่าอาจจะอยากได้บัลลังก์จักรพรรดิสวรรค์อีกครั้ง!

สิ่งที่หานเจวี๋ยต้องทำคือแข็งแกร่งขึ้นก่อนที่บัลลังก์จักรพรรดิสวรรค์จะล่มสลาย ถึงแม้จะไม่พึ่งพาวังสวรรค์ ก็ไม่มีใครกล้ามายุแหย่เขา

……

ผ่านไปอีกสิบปี

หานเจวี๋ยตื่นขึ้นมาจากการฝึกบำเพ็ญ เขานำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาและเริ่มสาปแช่งศัตรู

ขณะที่สาปแช่งก็ตรวจสอบจดหมายไปด้วย

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังในแดนเซียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x270,321

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนเผ่าปีศาจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[สวินฉางอันศิษย์ของท่านมรรคจิตแห่งเกิดการเปลี่ยนแปลง พระธาตุตื่นขึ้น]

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านพบกับโอกาสวาสนา ได้รับโอสถทองคำราชาปีศาจบรรพกาล]

[จอมพลเสินเผิงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากแม่ทัพและทหารสวรรค์] x103,872

[จอมพลเสินเผิงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากยอดแม่ทัพเทพสหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[โจวฝานสหายของท่านได้รับโอกาสวาสนา ร่างสกรรจ์เกิดการเปลี่ยนแปลง]

……

‘วังสวรรค์เกิดเรื่องวุ่นวายแล้ว? จี้เซียนเสินก็บาดเจ็บด้วย!’

เมื่อหานเจวี๋ยสังเกตเห็นสภาพการณ์น่าอนาถของจอมพลเสินเผิง ก็อดกล่าวโทษตัวเองไม่ได้

จะต้องเกี่ยวข้องกับการที่เขาฟ้องก่อนหน้านี้แน่

แต่รู้สึกผิดก็ส่วนรู้สึกผิด หานเจวี๋ยไม่เสียใจในภายหลังแต่อย่างใด

หากจอมพลเสินเผิงทำวังสวรรค์ล่มสลายจริง เขาก็จะไม่มีคนหนุนหลังแล้ว

อีกอย่าง วังสวรรค์ต้องมีการพิจารณาของตนเอง ไม่อาจสังหารมหาเทพองค์หนึ่งเพียงเพราะคำพูดประโยคเดียวของหานเจวี๋ย

ทว่าโจวฝานกลับทำให้หานเจวี๋ยต้องมองในมุมใหม่

เจ้าหมอนี่กระโดดข้ามเคราะห์สวรรค์โดยตรง ไปเที่ยวเล่นในแดนเซียนเสียแล้ว

‘สุดยอดไปเลยนี่! ไม่มีโจวฝานอยู่เป็นเพื่อน โม่ฟู่โฉวจะเหงาหรือไม่’

หานเจวี๋ยคิดเช่นนี้

หลายเดือนต่อมา เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง จากนั้นนำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาตรวจสอบอันดับบนป้ายศิลามรรคาสวรรค์

มองดูคราวนี้ หานเจวี๋ยก็ต้องเหนื่อยใจทันที

อันดับเลื่อนขึ้นอีกแล้ว!

อันดับที่ 1,997!

เลื่อนขึ้นมาหลายร้อยอันดับเลย!

ไร้เหตุผลสิ้นดี!

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าโลกเมฆาแดงกำลังสร้างเรื่องอยู่

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วโลกเมฆาแดงจะต้องดึงดูดความสนใจคนอย่างแน่นอน

ไม่เพียงแค่วังสวรรค์ ยังมีกลุ่มอิทธิพลใหญ่อื่นๆ ด้วย

ก่อนหน้านี้มีราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ลึกลับมาทำลายโลกมนุษย์ของวังสวรรค์

หานเจวี๋ยได้แต่อธิษฐานให้โลกมนุษย์ที่อยู่อันดับสูงขึ้นไปเป็นโลกที่ยอดเยี่ยม ยากที่จะแซงขึ้นไปได้

หลังจากนั้น หานเจวี๋ยลุกเดินมายังริมวารีทางช้างเผือกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

ลี่เหยายังฝึกบำเพ็ญอยู่เช่นเคย

หานเจวี๋ยแปลกใจ ลี่เทียนซินจัดงานแต่งที่นางไม่ต้องการให้แล้ว เหตุใดนางถึงไม่สะทกสะท้านเลย

‘เดี๋ยวก่อน! แม่สาวคนนี้ทะลวงถึงระดับเซียนอิสระแล้ว!

น่าสนใจ! มิน่าล่ะนางถึงไม่ยี่หระ’

หานเจวี๋ยมองอยู่พักหนึ่ง ก็กลับไปฝึกบำเพ็ญอีก

สำหรับเขาแล้ว การปรากฏตัวของลี่เหยาเป็นแค่เรื่องเพลิดเพลินใจเรื่องหนึ่งเท่านั้น เหมือนกับการตามดูละครโทรทัศน์ เขาไม่อยากมีส่วนร่วม แค่ต้องการเฝ้าดูเท่านั้น

“คนอื่นเขาทะลวงระดับเซียนอิสระแล้ว เจ้าก็รีบหน่อยเถอะ” หานเจวี๋ยเอ่ยกับอู้เต้าเจี้ยน

อู้เต้าเจี้ยนทำปากยื่นกล่าวว่า “วิชากระบี่เทียมฟ้าฝึกฝนยากเกินไป ทำให้การเลื่อนระดับของข้าล่าช้า”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าเลื่อนระดับก่อน แล้วค่อยฝึกฝนในภายหลัง”

“ถ้าอย่างนั้นข้าสามารถทะลวงถึงระดับเซียนอิสระอย่างแน่นอน!”

“สิ่งที่ข้าต้องการคือไม่ใช่สามารถ แต่เป็นโดยเร็ว”

“เจ้าค่ะ”

อู้เต้าเจี้ยนถูกยั่วยุเข้าแล้ว นางจะไม่แพ้ให้กับแม่นางผู้นั้นเด็ดขาด!

หานเจวี๋ยยิ้มอย่างพึงพอใจ

คุณสมบัติของอู้เต้าเจี้ยนยังคงแข็งแกร่งมาก ประกอบกับพลังวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน ความเร็วในการฝึกบำเพ็ญย่อมไม่ช้าเป็นธรรมดา เพียงแค่ก่อนหน้านั้นเอาแต่ทำความเข้าใจวิชากระบี่เทียมฟ้าอยู่

……

ณ พระราชวังเทียมเมฆา

จักรพรรดิสวรรค์นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง ในตำหนักมีเทพเซียนแค่สองคนคือตี้ไท่ไป๋กับยอดแม่ทัพเทพ

ตี้ไท่ไป๋ถามว่า “ยอดแม่ทัพเทพ จอมพลเสินเผิงรับสารภาพหรือยัง”

ยอดแม่ทัพเทพตอบ “ยังพ่ะย่ะค่ะ เขาไม่ยอมพูดถึงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง แต่ข้าเดาว่าคงเกี่ยวข้องกับสำนักพุทธ อาจารย์ของเขาน่าจะเป็นบรรพชนพุทธบางท่านในสำนักพุทธ เป็นไปได้มากว่าจะเป็นบรรพชนพุทธภควัตที่หายตัวไปนานแล้ว”

บรรพชนพุทธภควัต!

ตี้ไท่ไป๋สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หากเป็นบรรพชนพุทธภควัต อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับสำนักพุทธ ข้ากำลังคิดอยู่ว่านอกจากวังเทพ สำนักพุทธ กับวังปีศาจแล้ว จะยังมีพวกผู้ยิ่งใหญ่ที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดหรือไม่ อย่างเช่นสามนิกายสำนักเต๋าที่โดดเดี่ยวอยู่ในมหาเคราะห์สถาปนาเทพ (ห้องสิน)” จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยปากช้าๆ

น้ำเสียงของเขาสงบ แต่กลับทำให้ตี้ไท่ไป๋และยอดแม่ทัพเทพฟังแล้วสะเทือนอารมณ์

มหาเคราะห์สถาปนาเทพคือมหาเคราะห์ในตำนาน อยู่ในส่วนลึกของสายธารประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ยอดแม่ทัพเทพขมวดคิ้วพูด “ไม่ใช่ว่าบรรพชนเต๋าออกคำสั่ง ห้ามไม่ให้สำนักเต๋าเข้าร่วมการช่วงชิงมรรคาสวรรค์หรอกหรือ”

จักรพรรดิสวรรค์ตอบ “นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้บรรพชนเต๋าปิดด่านฝึกบำเพ็ญหลายปี คนเก่าคนแก่ของสำนักเต๋าเหล่านั้นอยากจะทะลวงระดับให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จึงต้องช่วงชิงดวงชะตามรรคาสวรรค์ ที่วิญญูเต๋ามาก่อนหน้านี้ก็เป็นลางบอกเหตุอย่างหนึ่ง”

ตี้ไท่ไป๋ขมวดคิ้วถามว่า “เช่นนั้นวังสวรรค์ควรทำอย่างไรดี ในวังสวรรค์มีเทพเซียนสำนักเต๋าปะปนอยู่มากมายนัก ศึกผนึกเทพเมื่อยุคบรรพกาลก็เป็นเพราะบรรพชนเต๋าต้องการประคับประคองวังสวรรค์ จึงบีบให้ยอดผู้บำเพ็ญของสามนิกายสำนักเต๋ามาเป็นเทพในวังสวรรค์ หากสามนิกายสำนักเต๋าหวนกลับมามีอำนาจอีก พวกเขาต้องรีบกรูกันมาแน่”

“กลัวอะไรกัน วังสวรรค์มีสี่ยอดมหาจักรพรรดิ สามยอดแม่ทัพเทพ สามสิบหกวิญญูเซียน ยังมีบุตรแห่งสวรรค์อย่างหานเจวี๋ยที่กำลังเติบโตอีก ข้ามีความกังวลเช่นนี้มานานแล้ว!”

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวอย่างวางอำนาจ ไม่หวาดกลัวสามนิกายสำนักเต๋าเลยแม้แต่น้อย

ยอดแม่ทัพเทพถามว่า “ตบะของหานเจวี๋ยเป็นอย่างไรบ้างแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ตี้ไท่ไป๋เอามือลูบหนวดพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านั้นไม่นานได้สังหารเซียนลึกล้ำไปคนหนึ่ง”

“เช่นนั้นก็ไม่เลว”

“นิสัยของเจ้าเด็กนี่ตรงข้ามกับเจ้าพอดี ในภายหน้าเหมาะที่จะนั่งพิทักษ์วังสวรรค์”

“อืม ข้าก็เห็นว่าเขามีอนาคต แม้จะชอบมุมานะฝึกฝน แต่ต้องไม่กลัวการมีเรื่องอย่างแน่นอน”

ยอดแม่ทัพเทพเผยรอยยิ้มออกมา คาดหวังรอคอยอนาคตของหานเจวี๋ย

จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยปาก “ตรวจสอบต่อไป เทพเซียนทั้งหมดที่จอมพลเสินเผิงสมคบคิดด้วยต้องตรวจสอบให้ชัดเจน หากต่อต้านให้สังหารเลย วังสวรรค์ก็ควรจะกวาดล้างคนเลวได้แล้ว นอกจากนี้ให้ตรวจสอบพรรคพวกเก่าของจักรพรรดิหยกเฮ่าเทียนด้วย หากยังมีเทพเก่าแก่ที่เลื่อมใสเฮ่าเทียนให้บันทึกเอาไว้ ข้าจะโค่นตำแหน่งเทพของพวกเขาทีเดียว”

ตี้ไท่ไป๋รีบตอบรับ “น้อมรับคำสั่ง!”

ยอดแม่ทัพเทพเอ่ยต่อ “ฝ่าบาทวางพระทัยได้ ตราบใดที่มีข้าอยู่ บัลลังก์ของฝ่าบาทจะต้องคงอยู่ไปนิจนิรันดร์!”

เขามีสีหน้าเคร่งขรึม แววตาหนักแน่น

……

วสันตฤดูผ่านพ้นไป สารทฤดูมาเยือน เวลาผ่านไปอีกยี่สิบปี

หานเจวี๋ยยังไม่ทะลวงระดับ แต่พลังเวทเพิ่มขึ้นตลอด เวลาในการเอาชนะตี้ไท่ไป๋ก็น้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน

ในวันนี้ หานเจวี๋ยกำลังสาปแช่งศัตรูอยู่ จู่ๆ เขาก็รับรู้ได้ว่าอานุภาพกดดันอันน่ากลัวปกคลุมไปทั่วโลกเมฆาแดง อานุภาพกดดันเช่นนี้พุ่งเป้าแค่ระดับเซียน มนุษย์ธรรมดาไม่อาจรับรู้ได้

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบริเวณรอบๆ โลกเมฆาแดง

[เสียงหลงฝัว: ระดับเซียนทองไท่อี่ระยะปลาย พุทธาเทพแห่งสำนักพุทธ]

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว พุทธาเทพแห่งสำนักพุทธ?

เขานึกถึงสวินฉางอันขึ้นมาทันที

‘หรือว่าจะมาตามหาสวินฉางอัน?’

หานเจวี๋ยค้นหาตำแหน่งของฝ่ายตรงข้าม ค้นพบว่าเสียงหลงฝัวอยู่กลางอากาศ และถูกมหาเทพเหยียนจวินขวางเอาไว้

ทั้งสองต่างก็เป็นเซียนทองไท่อี่ระยะปลาย กำลังตาต่อตาฟันต่อฟัน

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 206 สามนิกายสำนักเต๋า และเสียงหลงฝัว

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 206 สามนิกายสำนักเต๋า และเสียงหลงฝัว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 206 สามนิกายสำนักเต๋า และเสียงหลงฝัว

การมาของหลงเฮ่าทำให้เขาเพียรบำเพ็ญเซียนคึกคักขึ้น ทีแรกฉู่ซื่อเหรินสนใจหลงเฮ่าเป็นที่สุด มักจะตามติดหลงเฮ่าทั้งวัน

จนกระทั่งหลงเฮ่ามาบ่นที่หน้าถ้ำเทวาฟ้าประทาน หานเจวี๋ยถึงค่อยให้ราชามังกรสามหัวดูแลหลงเฮ่า และห้ามไม่ให้ฉู่ซื่อเหรินเข้าใกล้เขา

ไม่นึกว่าฉู่ซื่อเหรินจะเกลี้ยกล่อมหลงเฮ่าไม่ให้ฝึกฝน หลงเฮ่าจึงรู้สึกไม่ชอบหน้าเขามาก

สำหรับหลงเฮ่า หานเจวี๋ยไม่ได้ให้ความสนใจมากนัก

เรื่องอย่างการเลี้ยงเด็กมอบให้คนอื่นทำก็พอแล้ว ในสายตาของหานเจวี๋ย หลงเฮ่าเป็นแค่แขกที่ผ่านทางมา ไม่มีทางอยู่ข้างกายเขาตลอดไป และเป็นไปไม่ได้ที่จะกตัญญูต่อเขา

คนที่สำคัญที่สุดในใจของหลงเฮ่าย่อมเป็นจักรพรรดิสวรรค์

หานเจวี๋ยเองก็ไม่ได้พยายามปลูกฝังอะไรให้กับหลงเฮ่า หากหลงเฮ่าเปลี่ยนไปจริงๆ จักรพรรดิสวรรค์ย่อมจับสังเกตได้แน่นอน

การฝึกบำเพ็ญต่างหากถึงสำคัญที่สุด!

การปรากฏตัวของหลงเฮ่าทำให้หานเจวี๋ยคิดได้หลายเรื่อง

ไม่นึกว่าตำแหน่งจักรพรรดิสวรรค์จะสามารถเปลี่ยนคนได้!

หากเฮ่าเทียนตื่นขึ้นมา ไม่แน่ว่าอาจจะอยากได้บัลลังก์จักรพรรดิสวรรค์อีกครั้ง!

สิ่งที่หานเจวี๋ยต้องทำคือแข็งแกร่งขึ้นก่อนที่บัลลังก์จักรพรรดิสวรรค์จะล่มสลาย ถึงแม้จะไม่พึ่งพาวังสวรรค์ ก็ไม่มีใครกล้ามายุแหย่เขา

……

ผ่านไปอีกสิบปี

หานเจวี๋ยตื่นขึ้นมาจากการฝึกบำเพ็ญ เขานำหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาและเริ่มสาปแช่งศัตรู

ขณะที่สาปแช่งก็ตรวจสอบจดหมายไปด้วย

[จี้เซียนเสินสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากผู้ทรงพลังในแดนเซียน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากปีศาจประหลาด] x270,321

[จักรพรรดิเทพกระบี่สหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากจักรพรรดิเซียนเผ่าปีศาจ ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[สวินฉางอันศิษย์ของท่านมรรคจิตแห่งเกิดการเปลี่ยนแปลง พระธาตุตื่นขึ้น]

[สุนัขสวรรค์ฮุ่นตุ้นสัตว์เลี้ยงเทพของท่านพบกับโอกาสวาสนา ได้รับโอสถทองคำราชาปีศาจบรรพกาล]

[จอมพลเสินเผิงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากแม่ทัพและทหารสวรรค์] x103,872

[จอมพลเสินเผิงสหายของท่านเผชิญกับการโจมตีจากยอดแม่ทัพเทพสหายของท่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัส]

[โจวฝานสหายของท่านได้รับโอกาสวาสนา ร่างสกรรจ์เกิดการเปลี่ยนแปลง]

……

‘วังสวรรค์เกิดเรื่องวุ่นวายแล้ว? จี้เซียนเสินก็บาดเจ็บด้วย!’

เมื่อหานเจวี๋ยสังเกตเห็นสภาพการณ์น่าอนาถของจอมพลเสินเผิง ก็อดกล่าวโทษตัวเองไม่ได้

จะต้องเกี่ยวข้องกับการที่เขาฟ้องก่อนหน้านี้แน่

แต่รู้สึกผิดก็ส่วนรู้สึกผิด หานเจวี๋ยไม่เสียใจในภายหลังแต่อย่างใด

หากจอมพลเสินเผิงทำวังสวรรค์ล่มสลายจริง เขาก็จะไม่มีคนหนุนหลังแล้ว

อีกอย่าง วังสวรรค์ต้องมีการพิจารณาของตนเอง ไม่อาจสังหารมหาเทพองค์หนึ่งเพียงเพราะคำพูดประโยคเดียวของหานเจวี๋ย

ทว่าโจวฝานกลับทำให้หานเจวี๋ยต้องมองในมุมใหม่

เจ้าหมอนี่กระโดดข้ามเคราะห์สวรรค์โดยตรง ไปเที่ยวเล่นในแดนเซียนเสียแล้ว

‘สุดยอดไปเลยนี่! ไม่มีโจวฝานอยู่เป็นเพื่อน โม่ฟู่โฉวจะเหงาหรือไม่’

หานเจวี๋ยคิดเช่นนี้

หลายเดือนต่อมา เขาวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลง จากนั้นนำป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาตรวจสอบอันดับบนป้ายศิลามรรคาสวรรค์

มองดูคราวนี้ หานเจวี๋ยก็ต้องเหนื่อยใจทันที

อันดับเลื่อนขึ้นอีกแล้ว!

อันดับที่ 1,997!

เลื่อนขึ้นมาหลายร้อยอันดับเลย!

ไร้เหตุผลสิ้นดี!

หานเจวี๋ยรู้สึกว่าโลกเมฆาแดงกำลังสร้างเรื่องอยู่

หากเป็นเช่นนี้ต่อไป ไม่ช้าก็เร็วโลกเมฆาแดงจะต้องดึงดูดความสนใจคนอย่างแน่นอน

ไม่เพียงแค่วังสวรรค์ ยังมีกลุ่มอิทธิพลใหญ่อื่นๆ ด้วย

ก่อนหน้านี้มีราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ลึกลับมาทำลายโลกมนุษย์ของวังสวรรค์

หานเจวี๋ยได้แต่อธิษฐานให้โลกมนุษย์ที่อยู่อันดับสูงขึ้นไปเป็นโลกที่ยอดเยี่ยม ยากที่จะแซงขึ้นไปได้

หลังจากนั้น หานเจวี๋ยลุกเดินมายังริมวารีทางช้างเผือกสวรรค์เก้าชั้นฟ้า

ลี่เหยายังฝึกบำเพ็ญอยู่เช่นเคย

หานเจวี๋ยแปลกใจ ลี่เทียนซินจัดงานแต่งที่นางไม่ต้องการให้แล้ว เหตุใดนางถึงไม่สะทกสะท้านเลย

‘เดี๋ยวก่อน! แม่สาวคนนี้ทะลวงถึงระดับเซียนอิสระแล้ว!

น่าสนใจ! มิน่าล่ะนางถึงไม่ยี่หระ’

หานเจวี๋ยมองอยู่พักหนึ่ง ก็กลับไปฝึกบำเพ็ญอีก

สำหรับเขาแล้ว การปรากฏตัวของลี่เหยาเป็นแค่เรื่องเพลิดเพลินใจเรื่องหนึ่งเท่านั้น เหมือนกับการตามดูละครโทรทัศน์ เขาไม่อยากมีส่วนร่วม แค่ต้องการเฝ้าดูเท่านั้น

“คนอื่นเขาทะลวงระดับเซียนอิสระแล้ว เจ้าก็รีบหน่อยเถอะ” หานเจวี๋ยเอ่ยกับอู้เต้าเจี้ยน

อู้เต้าเจี้ยนทำปากยื่นกล่าวว่า “วิชากระบี่เทียมฟ้าฝึกฝนยากเกินไป ทำให้การเลื่อนระดับของข้าล่าช้า”

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าเลื่อนระดับก่อน แล้วค่อยฝึกฝนในภายหลัง”

“ถ้าอย่างนั้นข้าสามารถทะลวงถึงระดับเซียนอิสระอย่างแน่นอน!”

“สิ่งที่ข้าต้องการคือไม่ใช่สามารถ แต่เป็นโดยเร็ว”

“เจ้าค่ะ”

อู้เต้าเจี้ยนถูกยั่วยุเข้าแล้ว นางจะไม่แพ้ให้กับแม่นางผู้นั้นเด็ดขาด!

หานเจวี๋ยยิ้มอย่างพึงพอใจ

คุณสมบัติของอู้เต้าเจี้ยนยังคงแข็งแกร่งมาก ประกอบกับพลังวิญญาณบนเขาเพียรบำเพ็ญเซียน ความเร็วในการฝึกบำเพ็ญย่อมไม่ช้าเป็นธรรมดา เพียงแค่ก่อนหน้านั้นเอาแต่ทำความเข้าใจวิชากระบี่เทียมฟ้าอยู่

……

ณ พระราชวังเทียมเมฆา

จักรพรรดิสวรรค์นั่งอยู่บนบัลลังก์สูง ในตำหนักมีเทพเซียนแค่สองคนคือตี้ไท่ไป๋กับยอดแม่ทัพเทพ

ตี้ไท่ไป๋ถามว่า “ยอดแม่ทัพเทพ จอมพลเสินเผิงรับสารภาพหรือยัง”

ยอดแม่ทัพเทพตอบ “ยังพ่ะย่ะค่ะ เขาไม่ยอมพูดถึงอิทธิพลที่อยู่เบื้องหลัง แต่ข้าเดาว่าคงเกี่ยวข้องกับสำนักพุทธ อาจารย์ของเขาน่าจะเป็นบรรพชนพุทธบางท่านในสำนักพุทธ เป็นไปได้มากว่าจะเป็นบรรพชนพุทธภควัตที่หายตัวไปนานแล้ว”

บรรพชนพุทธภควัต!

ตี้ไท่ไป๋สีหน้าเปลี่ยนไปเล็กน้อย

“หากเป็นบรรพชนพุทธภควัต อาจจะไม่เกี่ยวข้องกับสำนักพุทธ ข้ากำลังคิดอยู่ว่านอกจากวังเทพ สำนักพุทธ กับวังปีศาจแล้ว จะยังมีพวกผู้ยิ่งใหญ่ที่หลบซ่อนอยู่ในเงามืดหรือไม่ อย่างเช่นสามนิกายสำนักเต๋าที่โดดเดี่ยวอยู่ในมหาเคราะห์สถาปนาเทพ (ห้องสิน)” จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยปากช้าๆ

น้ำเสียงของเขาสงบ แต่กลับทำให้ตี้ไท่ไป๋และยอดแม่ทัพเทพฟังแล้วสะเทือนอารมณ์

มหาเคราะห์สถาปนาเทพคือมหาเคราะห์ในตำนาน อยู่ในส่วนลึกของสายธารประวัติศาสตร์อันยาวนาน

ยอดแม่ทัพเทพขมวดคิ้วพูด “ไม่ใช่ว่าบรรพชนเต๋าออกคำสั่ง ห้ามไม่ให้สำนักเต๋าเข้าร่วมการช่วงชิงมรรคาสวรรค์หรอกหรือ”

จักรพรรดิสวรรค์ตอบ “นั่นมันเมื่อก่อน ตอนนี้บรรพชนเต๋าปิดด่านฝึกบำเพ็ญหลายปี คนเก่าคนแก่ของสำนักเต๋าเหล่านั้นอยากจะทะลวงระดับให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น จึงต้องช่วงชิงดวงชะตามรรคาสวรรค์ ที่วิญญูเต๋ามาก่อนหน้านี้ก็เป็นลางบอกเหตุอย่างหนึ่ง”

ตี้ไท่ไป๋ขมวดคิ้วถามว่า “เช่นนั้นวังสวรรค์ควรทำอย่างไรดี ในวังสวรรค์มีเทพเซียนสำนักเต๋าปะปนอยู่มากมายนัก ศึกผนึกเทพเมื่อยุคบรรพกาลก็เป็นเพราะบรรพชนเต๋าต้องการประคับประคองวังสวรรค์ จึงบีบให้ยอดผู้บำเพ็ญของสามนิกายสำนักเต๋ามาเป็นเทพในวังสวรรค์ หากสามนิกายสำนักเต๋าหวนกลับมามีอำนาจอีก พวกเขาต้องรีบกรูกันมาแน่”

“กลัวอะไรกัน วังสวรรค์มีสี่ยอดมหาจักรพรรดิ สามยอดแม่ทัพเทพ สามสิบหกวิญญูเซียน ยังมีบุตรแห่งสวรรค์อย่างหานเจวี๋ยที่กำลังเติบโตอีก ข้ามีความกังวลเช่นนี้มานานแล้ว!”

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวอย่างวางอำนาจ ไม่หวาดกลัวสามนิกายสำนักเต๋าเลยแม้แต่น้อย

ยอดแม่ทัพเทพถามว่า “ตบะของหานเจวี๋ยเป็นอย่างไรบ้างแล้วพ่ะย่ะค่ะ”

ตี้ไท่ไป๋เอามือลูบหนวดพลางกล่าวด้วยรอยยิ้ม “ก่อนหน้านั้นไม่นานได้สังหารเซียนลึกล้ำไปคนหนึ่ง”

“เช่นนั้นก็ไม่เลว”

“นิสัยของเจ้าเด็กนี่ตรงข้ามกับเจ้าพอดี ในภายหน้าเหมาะที่จะนั่งพิทักษ์วังสวรรค์”

“อืม ข้าก็เห็นว่าเขามีอนาคต แม้จะชอบมุมานะฝึกฝน แต่ต้องไม่กลัวการมีเรื่องอย่างแน่นอน”

ยอดแม่ทัพเทพเผยรอยยิ้มออกมา คาดหวังรอคอยอนาคตของหานเจวี๋ย

จักรพรรดิสวรรค์เอ่ยปาก “ตรวจสอบต่อไป เทพเซียนทั้งหมดที่จอมพลเสินเผิงสมคบคิดด้วยต้องตรวจสอบให้ชัดเจน หากต่อต้านให้สังหารเลย วังสวรรค์ก็ควรจะกวาดล้างคนเลวได้แล้ว นอกจากนี้ให้ตรวจสอบพรรคพวกเก่าของจักรพรรดิหยกเฮ่าเทียนด้วย หากยังมีเทพเก่าแก่ที่เลื่อมใสเฮ่าเทียนให้บันทึกเอาไว้ ข้าจะโค่นตำแหน่งเทพของพวกเขาทีเดียว”

ตี้ไท่ไป๋รีบตอบรับ “น้อมรับคำสั่ง!”

ยอดแม่ทัพเทพเอ่ยต่อ “ฝ่าบาทวางพระทัยได้ ตราบใดที่มีข้าอยู่ บัลลังก์ของฝ่าบาทจะต้องคงอยู่ไปนิจนิรันดร์!”

เขามีสีหน้าเคร่งขรึม แววตาหนักแน่น

……

วสันตฤดูผ่านพ้นไป สารทฤดูมาเยือน เวลาผ่านไปอีกยี่สิบปี

หานเจวี๋ยยังไม่ทะลวงระดับ แต่พลังเวทเพิ่มขึ้นตลอด เวลาในการเอาชนะตี้ไท่ไป๋ก็น้อยลงเรื่อยๆ เช่นกัน

ในวันนี้ หานเจวี๋ยกำลังสาปแช่งศัตรูอยู่ จู่ๆ เขาก็รับรู้ได้ว่าอานุภาพกดดันอันน่ากลัวปกคลุมไปทั่วโลกเมฆาแดง อานุภาพกดดันเช่นนี้พุ่งเป้าแค่ระดับเซียน มนุษย์ธรรมดาไม่อาจรับรู้ได้

หานเจวี๋ยรีบตรวจสอบผู้ที่แข็งแกร่งที่สุดบริเวณรอบๆ โลกเมฆาแดง

[เสียงหลงฝัว: ระดับเซียนทองไท่อี่ระยะปลาย พุทธาเทพแห่งสำนักพุทธ]

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว พุทธาเทพแห่งสำนักพุทธ?

เขานึกถึงสวินฉางอันขึ้นมาทันที

‘หรือว่าจะมาตามหาสวินฉางอัน?’

หานเจวี๋ยค้นหาตำแหน่งของฝ่ายตรงข้าม ค้นพบว่าเสียงหลงฝัวอยู่กลางอากาศ และถูกมหาเทพเหยียนจวินขวางเอาไว้

ทั้งสองต่างก็เป็นเซียนทองไท่อี่ระยะปลาย กำลังตาต่อตาฟันต่อฟัน

……………………………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+