ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 246 วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 246 วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 246 วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา

“คุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลคือคุณสมบัติที่อยู่นอกมรรคาสวรรค์ มรรคาสวรรค์นั้นเป็นฟ้าบุพกาลมาก่อน สามารถถือกำเนิดด้วยคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลนอกมรรคาสวรรค์ได้ เจ้าเป็นใครมาจากที่ใดกันแน่”

น้ำเสียงของจักรพรรดิสวรรค์นั้นจริงจัง ทั่วทั้งวังสวรรค์ล้วนไม่มีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลนี้

หานเจวี๋ยพูดในใจว่า ‘ข้าเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ได้รับการสืบทอดจากจักรพรรดิเซียน ไม่ได้มาจากที่ใด’

เขาถามต่อว่า “คุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลนั้นหายากมากหรือ หรือมีเพียงข้าเท่านั้น”

คำถามนี้สำคัญมาก!

อันแรกแสดงถึงความเป็นไปได้ของศัตรูที่แข็งแกร่ง และอันหลังแสดงถึงการอยู่ยงคงกระพัน

“วังเทพมีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลหนึ่งคน ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าสร้างความตกใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน เมื่อหลายล้านปีก่อน สั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และโลกา วังเทพสามารถมีวันนี้ได้ เขาถือเป็นแรงสำคัญ”

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวอย่างสบายๆ น้ำเสียงยากที่จะคาดเดา

‘วังเทพอีกแล้ว!’

เหตุใดหานเจวี๋ยถึงมีความรู้สึกว่าในแดนเซียนนี้วังเทพนั้นเจ๋งที่สุด

เดี๋ยวก็บุตรแห่งสวรรค์ เดี๋ยวก็ปีศาจ

หานเจวี๋ยพูดในใจทันทีว่า ‘สักวัน ข้าจะก้าวข้ามผู้ที่อยู่ในวังเทพผู้นั้น และช่วยให้วังสวรรค์แข็งแกร่งขึ้น’

ในตอนนั้น จะต้องทำให้ตำแหน่งของตนชัดเจนให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะดึงความหวาดกลัวของจักรพรรดิสวรรค์

ยิ่งจักรพรรดิสวรรค์ปฏิบัติต่อเขาดีมากเท่าไร หากเขาทรยศ จักรพรรดิสวรรค์ยิ่งปฏิบัติต่อเขาโหดเหี้ยมมากขึ้นเท่านั้น

จักรพรรดิสวรรค์ไร้การโต้ตอบ

หานเจวี๋ยรู้สึกวิตกกังวล

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาปฏิเสธจักรพรรดิสวรรค์

จักรพรรดิสวรรค์จะพาลโกรธหรือไม่

“อืม ไม่มาก็ไม่มา ก่อนหน้านี้เจ้าก็บอกแล้วว่าเจ้ามีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาล เราจะให้ไท่ไป๋ส่งสมบัติหนึ่งชิ้นไปให้ เพื่อประโยชน์ต่อการฝึกฝนของเจ้า” จักรพรรดิสวรรค์แค่นเสียงเอ่ย

หานเจวี๋ยรีบขอบคุณเขา

จักรพรรดิสวรรค์ไม่ได้กล่าวอะไรอีกต่อไป

อู้เต้าเจี้ยนเห็นหานเจวี๋ยพลันลุกขึ้นยืนขึ้นและโค้งคำนับ จึงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจว่า “นายท่าน ท่ายกำลังทำอะไรหรือ”

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “เหนือศีรษะสามฉื่อมีเทพอยู่ ข้ากำลังอธิษฐานขอให้เทพปกป้องคุ้มครองข้า”

“ท่านก็ไม่ใช่เทพหรอกหรือ”

“เจ้าต้องการงัดข้าหรือ”

“งัดคือสิ่งใด”

“เจ้าจงพูดว่าข้าผิดไปแล้วหมื่นครั้ง!”

“หา?”

“เร็วเข้า! ไม่เช่นนั้นก็ออกไปเสีย!”

“เจ้าค่ะ…”

อู้เต้าเจี้ยนเม้มริมฝีปากของตนด้วยความโศกเศร้า และเริ่มพูดซ้ำไปซ้ำมาว่านางผิดไปแล้ว

หานเจวี๋ยยิ้มด้วยความพึงพอใจ

…..

สามปีต่อมา

ตี้ไท่ไป๋ส่งมรรควิถีมาให้หนึ่งม้วน เขาเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรมาก เมื่อส่งแล้วก็จากไป

หานเจวี๋ยนั่งบนเตียงพร้อมกับม้วนมรรควิถีในมือ ในมรรควิถีม้วนนั้นไม่มีตัวอักษรใด จำเป็นต้องใช้พลังจิต

หานเจวี๋ยใช้พลังจิตสำรวจในม้วนมรรควิถีทันที

ตู้ม!

ความทรงจำมหาศาลหลั่งไหลเข้ามาในสมองของหานเจวี๋ยมากมายราวกับแม่น้ำที่ไหลล้นตลิ่ง

วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา!

นี่เป็นวิธีการดับกายาที่เหมาะสำหรับคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาล มีความล้ำลึกเป็นอย่างมาก สามารถกระตุ้นศักยภาพของคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลได้

หานเจวี๋ยใช้เวลาสองสามวันในสะสางปัญหาได้สำเร็จ

เขารู้สึกปีติเป็นอย่างมาก

เป็นของที่เยี่ยมยอดยิ่งนัก!

วิธีนี้ไม่ต้องใช้แรงจากภายนอก ใช้แรงในร่างของตัวเองมาฝึกดับคุณสมบัติกาย แม้ว่ากระบวนการจะซับซ้อน แต่ข้อกำหนดเบื้องต้นก็เรียบง่าย

หานเจวี๋ยเริ่มฝึกวิชาชุบร่างวัฏจักรดาราในทันที

แรกเริ่มค่อนข้างยาก แต่โชคดีที่พรสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งมาก ใช้เวลาราวครึ่งปีในการเรียนรู้พื้นฐาน

พลังเวทหกวิถีดับกายดาราอนธการ ทำให้พลังที่ออกมาของหานเจวี๋ยกดดันมากเสียจนอู้เต้าเจี้ยนลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ

นางถูกกดดันจนรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง

หลังจากทนทุกข์อยู่พักหนึ่ง อู้เต้าเจี้ยนก็ทนไม่ไหว นางจึงเลือกที่จะออกจากถ้ำไป

ช่วงนี้ถูหลิงเอ๋อร์ไม่ได้ออกไปที่ใด เมื่อเห็นนางออกมา จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าออกมาด้วยเหตุใดกัน”

อู้เต้าเจี้ยนตอบว่า “ดูเหมือนว่านายท่านกำลังทะลวงขั้น ความกดดันภายในนั้นแรงเกินไป ข้าทนรับไม่ไหว”

ทะลวงขั้น?

คนอื่นๆ จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองดู

เหตุใดไม่ทันไรหานเจวี๋ยก็จะทะลวงขั้นอีกแล้ว

หลงเฮ่าเอ่ยด้วยความซาบซึ้งว่า “อาจารย์เก่งกาจมากจริงๆ ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับอาจารย์ ข้าก็กลัวเป็นอย่างมาก”

นับตั้งแต่ที่เขาถูกหานเจวี๋ยลากไปสั่งสอนที่ห้วงอวกาศ เขาก็กลัวหานเจวี๋ยเป็นอย่างมาก

“ฮ่าๆๆ ไม่แน่นายท่านอาจจะอยู่เหนือเทพเซียนเสียนานแล้ว!” ไก่คุกรัตติกาลเอ่ยราวกับว่าตนเป็นผู้ทะลวงเสียเอง หาใช่หานเจวี๋ยไม่

คนอื่นได้แต่ทอดถอนใจ

ในเวลาเดียวกันนั้น

จักรพรรดิสวรรค์ผู้อยู่เหนือเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าในแดนเซียนก็เผยรอยยิ้มออกมา

‘เจ้าเด็กนี่! คาดไม่ถึงว่าจะมีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลจริงๆ! วังสวรรค์กำลังจะผงาดขึ้นแล้ว!’

จักรพรรดิสวรรค์พึมพำกับตนเอง เผยรอยยิ้มพออกพอใจ

กี่ปีมาแล้ว!

ในที่สุดเขาก็รอจนพบบุตรแห่งสวรรค์เช่นนี้!

ทุกครั้งที่เขาได้ยินเกี่ยวกับความสำเร็จอันน่าสะพรึงกลัวของเหล่าบุตรแห่งสวรรค์ในวังเทพ แม้ภายนอกเขาจะเฉยเมย แต่ในใจกลับรู้สึกอิจฉายิ่งนัก

แม้ว่ายอดแม่ทัพเทพจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับพวกปีศาจในวังเทพก็ยังแย่กว่าอยู่ดี

ยกตัวอย่างจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจิน ในวังเทพก็ไม่ได้นับว่าแข็งแกร่งที่สุด แต่กลับสามารถทำให้ยอดแม่ทัพเทพและหลงจวินเลื่อมใสได้เป็นอย่างมาก นี่จึงสามารถสะท้อนช่องว่างระหว่างกองกำลังทั้งสองได้

เบื้องลึกของวังสวรรค์ยิ่งแข็งแกร่ง มีเทพเจ้าโบราณมากมายไม่ว่าจะเป็นสี่ยอดมหาจักรพรรดิ หรือยี่สิบสี่จอมเวท

หากภายภาคหน้าวังเทพแข็งแกร่งขึ้น คงมีบุตรแห่งสวรรค์นับไม่ถ้วน

เมื่อนึกถึงภาพฉากที่หานเจวี๋ยเติบโตขึ้น จิตใจของจักรพรรดิสวรรค์ก็รู้สึกมีความสุขมาก

เขารีบเรียกตี้ไท่ไป๋ขึ้นในทันที

ไม่ช้า ตี้ไท่ไป๋ก็มาถึงวังจักพรรดิสวรรค์

จักรพรรดิสวรรค์มีรับสั่งว่า “จงหาวิธียกระดับโชคชะตาและพลังของโลกเขย่าพิภพ เราต้องการทำให้โลกเขย่าพิภพกลายเป็นโลกมนุษย์ห้าสิบอันดับแรกบนศิลาจารึกของวังสวรรค์”

ตี้ไท่ไป๋ตะลึงงันไป กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ฝ่าบาท เช่นนี้จะเป็นการทำลายสมดุลหรือไม่…”

โลกเขย่าพิภพผงาดขึ้นเร็วเกินไปแล้ว!

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหานเจวี๋ยเป็นเจ้าของร้านมือเปล่า!

เทพโลกมนุษย์เช่นนี้ เหตุใดต้องทำเพื่อเขาขนาดนี้ด้วย

“บุตรแห่งสวรรค์ต้องการชื่อเสียง เขาก็ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อวังสวรรค์ด้วย” จักรพรรดิสวรรค์กล่าวอย่างใจเย็น

ตี้ไท่ไป๋เผยรอยยิ้มออกมาในทันที เป็นการแสดงออกว่าเข้าใจแล้ว

…..

สิบปีต่อมา

กายดาราอนธการของหานเจวี๋ยเกิดการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่กำลังมีคุณสมบัติชุบร่างพลังเวทก็แข็งแกร่งขึ้น

แม้กระทั่งเขารู้สึกว่าวิชาชุบร่างวัฏจักรดารานั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าวิชาวัฏจักรหกวิถี!

วิชาชุบร่างวัฏจักรดาราเหมาะสำหรับคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลเท่านั้น ไม่สามารถสร้างพลังเวทได้ ทำได้เพียงให้พลังเวทเพิ่มขึ้นเองเท่านั้น

หานเจวี๋ยเริ่มทำแบบจำลองการทดสอบกับเจียงอี้

หนึ่งชั่วยามต่อมา

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น

ถึงแม้ว่ายังพ่ายแพ้เช่นเดิม ทว่าเขากลับก็สัมผัสได้ชัดเจนว่าเจียงอี้ไม่ใช่คนที่จะต่อสู้ไม่ได้อีกต่อไป

ในช่วงกลางของการต่อสู้ มีครั้งหนึ่งเขาคุมเจียงอี้ได้

เขาเข้าใกล้การสังหารเจียงอี้ในฉับพลันไปอีกขั้น!

ด้วยความพอใจ หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาและเริ่มสาปแช่งศัตรู

นับตั้งแต่ซูฉีออกจากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ต้าฮวง หานเจวี๋ยก็คร้านที่จะสนใจสาปแช่งทั้งราชวงศ์ จักรพรรดินีปีศาจชิงชิว จักรพรรดิปีศาจ พุทธาเทพฟ้าพิโรธ อวี้เทียนเป่าและศัตรูคนอื่นๆ เขาไม่ได้ละทิ้งไปและจดจำพวกเขาทั้งหมด

แต่ทว่าหลายปีมานี้ ตอนนี้ไม่มีศัตรูคนใดที่ถูกเขาสาปแช่งจนตาย เขายังคงรู้สึกดายอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลางตรวจสอบจดหมาย

ช่วงนี้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น สงบสุขดี

ไม่เลวนี่

ความปรารถนาของหานเจวี๋ยคือสามวัฏจักรสันติ

หลายเดือนต่อมา

หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลงและเรียกอู้เต้าเจี้ยนเข้ามา ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยถาม เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงรีบหยิบป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาในทันที

ป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ร้อนผ่าวขึ้นอีกครั้งและยังคงสั่นไหวไม่หยุด

หานเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไรให้มากความ โยนป้ายมรรคาสวรรค์ออกไปทันที และปล่อยให้มันสั่นอยู่อย่างนั้น

คาดว่าคงเป็นจักรพรรดิสวรรค์กำลังทำสักอย่างกับเขา พยายามเพิ่มอันดับของโลกเขย่าพิภพ ดึงดูดศัตรูที่แข็งแกร่งเข้ามาให้เขาช่วยแก้ปัญหา

สำหรับเรื่องนี้ หานเจวี๋ยไม่ได้ขัดมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเพิ่งได้รับวิชาชุบร่างวัฏจักรดารามา เขาเองก็ควรจะมีส่วนทำประโยชน์ให้วังสวรรค์ด้วย

ตราบใดที่ไม่ใช่จักรพรรดิเซียน เชิญมาได้ตามสบาย!

หากเป็นจักรพรรดิเซียน จักรพรรดิสวรรค์ไม่ลงมือ เช่นนั้นเขาก็ทำได้เพียงวิ่งหนีเท่านั้นแล้ว

‘ชีวิตต้องมาก่อน อย่างอื่นไว้ทีหลัง’

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

“นายท่าน เมื่อครึ่งปีก่อนกิ่งของต้นฝูซังเริ่มสั่นไหว!” อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม

เมื่อครึ่งปีก่อนนางก็อยากจะเข้าไปด้านใน แต่หานเจวี๋ยไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นางกลัวว่าจะถูกความกดดันของหานเจวี๋ยทำร้ายเข้า ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงรอมาตลอด

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

อู้เต้าเจี้ยนกล่าวต่อว่า “ไก่คุกรัตติกาล เจ้าใหญ่และเจ้ารองล้วนอยู่บนต้นไม้ ทว่ากลับไร้ประโยชน์”

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ บทที่ 246 วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา

Now you are reading ระบบสุ่มดวงชะตา ข้าจะเป็นอมตะ Chapter บทที่ 246 วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 246 วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา

“คุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลคือคุณสมบัติที่อยู่นอกมรรคาสวรรค์ มรรคาสวรรค์นั้นเป็นฟ้าบุพกาลมาก่อน สามารถถือกำเนิดด้วยคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลนอกมรรคาสวรรค์ได้ เจ้าเป็นใครมาจากที่ใดกันแน่”

น้ำเสียงของจักรพรรดิสวรรค์นั้นจริงจัง ทั่วทั้งวังสวรรค์ล้วนไม่มีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลนี้

หานเจวี๋ยพูดในใจว่า ‘ข้าเป็นมนุษย์ธรรมดาที่ได้รับการสืบทอดจากจักรพรรดิเซียน ไม่ได้มาจากที่ใด’

เขาถามต่อว่า “คุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลนั้นหายากมากหรือ หรือมีเพียงข้าเท่านั้น”

คำถามนี้สำคัญมาก!

อันแรกแสดงถึงความเป็นไปได้ของศัตรูที่แข็งแกร่ง และอันหลังแสดงถึงการอยู่ยงคงกระพัน

“วังเทพมีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลหนึ่งคน ซึ่งสามารถกล่าวได้ว่าสร้างความตกใจทั้งในอดีตและปัจจุบัน เมื่อหลายล้านปีก่อน สั่นสะเทือนทั้งสวรรค์และโลกา วังเทพสามารถมีวันนี้ได้ เขาถือเป็นแรงสำคัญ”

จักรพรรดิสวรรค์กล่าวอย่างสบายๆ น้ำเสียงยากที่จะคาดเดา

‘วังเทพอีกแล้ว!’

เหตุใดหานเจวี๋ยถึงมีความรู้สึกว่าในแดนเซียนนี้วังเทพนั้นเจ๋งที่สุด

เดี๋ยวก็บุตรแห่งสวรรค์ เดี๋ยวก็ปีศาจ

หานเจวี๋ยพูดในใจทันทีว่า ‘สักวัน ข้าจะก้าวข้ามผู้ที่อยู่ในวังเทพผู้นั้น และช่วยให้วังสวรรค์แข็งแกร่งขึ้น’

ในตอนนั้น จะต้องทำให้ตำแหน่งของตนชัดเจนให้ได้ ไม่เช่นนั้นจะดึงความหวาดกลัวของจักรพรรดิสวรรค์

ยิ่งจักรพรรดิสวรรค์ปฏิบัติต่อเขาดีมากเท่าไร หากเขาทรยศ จักรพรรดิสวรรค์ยิ่งปฏิบัติต่อเขาโหดเหี้ยมมากขึ้นเท่านั้น

จักรพรรดิสวรรค์ไร้การโต้ตอบ

หานเจวี๋ยรู้สึกวิตกกังวล

นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาปฏิเสธจักรพรรดิสวรรค์

จักรพรรดิสวรรค์จะพาลโกรธหรือไม่

“อืม ไม่มาก็ไม่มา ก่อนหน้านี้เจ้าก็บอกแล้วว่าเจ้ามีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาล เราจะให้ไท่ไป๋ส่งสมบัติหนึ่งชิ้นไปให้ เพื่อประโยชน์ต่อการฝึกฝนของเจ้า” จักรพรรดิสวรรค์แค่นเสียงเอ่ย

หานเจวี๋ยรีบขอบคุณเขา

จักรพรรดิสวรรค์ไม่ได้กล่าวอะไรอีกต่อไป

อู้เต้าเจี้ยนเห็นหานเจวี๋ยพลันลุกขึ้นยืนขึ้นและโค้งคำนับ จึงเอ่ยถามด้วยความประหลาดใจว่า “นายท่าน ท่ายกำลังทำอะไรหรือ”

หานเจวี๋ยกล่าวว่า “เหนือศีรษะสามฉื่อมีเทพอยู่ ข้ากำลังอธิษฐานขอให้เทพปกป้องคุ้มครองข้า”

“ท่านก็ไม่ใช่เทพหรอกหรือ”

“เจ้าต้องการงัดข้าหรือ”

“งัดคือสิ่งใด”

“เจ้าจงพูดว่าข้าผิดไปแล้วหมื่นครั้ง!”

“หา?”

“เร็วเข้า! ไม่เช่นนั้นก็ออกไปเสีย!”

“เจ้าค่ะ…”

อู้เต้าเจี้ยนเม้มริมฝีปากของตนด้วยความโศกเศร้า และเริ่มพูดซ้ำไปซ้ำมาว่านางผิดไปแล้ว

หานเจวี๋ยยิ้มด้วยความพึงพอใจ

…..

สามปีต่อมา

ตี้ไท่ไป๋ส่งมรรควิถีมาให้หนึ่งม้วน เขาเองก็ไม่ได้กล่าวอะไรมาก เมื่อส่งแล้วก็จากไป

หานเจวี๋ยนั่งบนเตียงพร้อมกับม้วนมรรควิถีในมือ ในมรรควิถีม้วนนั้นไม่มีตัวอักษรใด จำเป็นต้องใช้พลังจิต

หานเจวี๋ยใช้พลังจิตสำรวจในม้วนมรรควิถีทันที

ตู้ม!

ความทรงจำมหาศาลหลั่งไหลเข้ามาในสมองของหานเจวี๋ยมากมายราวกับแม่น้ำที่ไหลล้นตลิ่ง

วิชาชุบร่างวัฏจักรดารา!

นี่เป็นวิธีการดับกายาที่เหมาะสำหรับคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาล มีความล้ำลึกเป็นอย่างมาก สามารถกระตุ้นศักยภาพของคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลได้

หานเจวี๋ยใช้เวลาสองสามวันในสะสางปัญหาได้สำเร็จ

เขารู้สึกปีติเป็นอย่างมาก

เป็นของที่เยี่ยมยอดยิ่งนัก!

วิธีนี้ไม่ต้องใช้แรงจากภายนอก ใช้แรงในร่างของตัวเองมาฝึกดับคุณสมบัติกาย แม้ว่ากระบวนการจะซับซ้อน แต่ข้อกำหนดเบื้องต้นก็เรียบง่าย

หานเจวี๋ยเริ่มฝึกวิชาชุบร่างวัฏจักรดาราในทันที

แรกเริ่มค่อนข้างยาก แต่โชคดีที่พรสวรรค์ของเขาแข็งแกร่งมาก ใช้เวลาราวครึ่งปีในการเรียนรู้พื้นฐาน

พลังเวทหกวิถีดับกายดาราอนธการ ทำให้พลังที่ออกมาของหานเจวี๋ยกดดันมากเสียจนอู้เต้าเจี้ยนลืมตาขึ้นด้วยความตกใจ

นางถูกกดดันจนรู้สึกอึดอัดอยู่บ้าง

หลังจากทนทุกข์อยู่พักหนึ่ง อู้เต้าเจี้ยนก็ทนไม่ไหว นางจึงเลือกที่จะออกจากถ้ำไป

ช่วงนี้ถูหลิงเอ๋อร์ไม่ได้ออกไปที่ใด เมื่อเห็นนางออกมา จึงเอ่ยถามด้วยความสงสัย “เจ้าออกมาด้วยเหตุใดกัน”

อู้เต้าเจี้ยนตอบว่า “ดูเหมือนว่านายท่านกำลังทะลวงขั้น ความกดดันภายในนั้นแรงเกินไป ข้าทนรับไม่ไหว”

ทะลวงขั้น?

คนอื่นๆ จึงค่อยๆ ลืมตาขึ้นมองดู

เหตุใดไม่ทันไรหานเจวี๋ยก็จะทะลวงขั้นอีกแล้ว

หลงเฮ่าเอ่ยด้วยความซาบซึ้งว่า “อาจารย์เก่งกาจมากจริงๆ ทุกครั้งที่เผชิญหน้ากับอาจารย์ ข้าก็กลัวเป็นอย่างมาก”

นับตั้งแต่ที่เขาถูกหานเจวี๋ยลากไปสั่งสอนที่ห้วงอวกาศ เขาก็กลัวหานเจวี๋ยเป็นอย่างมาก

“ฮ่าๆๆ ไม่แน่นายท่านอาจจะอยู่เหนือเทพเซียนเสียนานแล้ว!” ไก่คุกรัตติกาลเอ่ยราวกับว่าตนเป็นผู้ทะลวงเสียเอง หาใช่หานเจวี๋ยไม่

คนอื่นได้แต่ทอดถอนใจ

ในเวลาเดียวกันนั้น

จักรพรรดิสวรรค์ผู้อยู่เหนือเก้าสวรรค์ชั้นฟ้าในแดนเซียนก็เผยรอยยิ้มออกมา

‘เจ้าเด็กนี่! คาดไม่ถึงว่าจะมีคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลจริงๆ! วังสวรรค์กำลังจะผงาดขึ้นแล้ว!’

จักรพรรดิสวรรค์พึมพำกับตนเอง เผยรอยยิ้มพออกพอใจ

กี่ปีมาแล้ว!

ในที่สุดเขาก็รอจนพบบุตรแห่งสวรรค์เช่นนี้!

ทุกครั้งที่เขาได้ยินเกี่ยวกับความสำเร็จอันน่าสะพรึงกลัวของเหล่าบุตรแห่งสวรรค์ในวังเทพ แม้ภายนอกเขาจะเฉยเมย แต่ในใจกลับรู้สึกอิจฉายิ่งนัก

แม้ว่ายอดแม่ทัพเทพจะแข็งแกร่ง แต่เมื่อเทียบกับพวกปีศาจในวังเทพก็ยังแย่กว่าอยู่ดี

ยกตัวอย่างจักรพรรดิเทพเมี่ยวเจิน ในวังเทพก็ไม่ได้นับว่าแข็งแกร่งที่สุด แต่กลับสามารถทำให้ยอดแม่ทัพเทพและหลงจวินเลื่อมใสได้เป็นอย่างมาก นี่จึงสามารถสะท้อนช่องว่างระหว่างกองกำลังทั้งสองได้

เบื้องลึกของวังสวรรค์ยิ่งแข็งแกร่ง มีเทพเจ้าโบราณมากมายไม่ว่าจะเป็นสี่ยอดมหาจักรพรรดิ หรือยี่สิบสี่จอมเวท

หากภายภาคหน้าวังเทพแข็งแกร่งขึ้น คงมีบุตรแห่งสวรรค์นับไม่ถ้วน

เมื่อนึกถึงภาพฉากที่หานเจวี๋ยเติบโตขึ้น จิตใจของจักรพรรดิสวรรค์ก็รู้สึกมีความสุขมาก

เขารีบเรียกตี้ไท่ไป๋ขึ้นในทันที

ไม่ช้า ตี้ไท่ไป๋ก็มาถึงวังจักพรรดิสวรรค์

จักรพรรดิสวรรค์มีรับสั่งว่า “จงหาวิธียกระดับโชคชะตาและพลังของโลกเขย่าพิภพ เราต้องการทำให้โลกเขย่าพิภพกลายเป็นโลกมนุษย์ห้าสิบอันดับแรกบนศิลาจารึกของวังสวรรค์”

ตี้ไท่ไป๋ตะลึงงันไป กล่าวด้วยความประหลาดใจว่า “ฝ่าบาท เช่นนี้จะเป็นการทำลายสมดุลหรือไม่…”

โลกเขย่าพิภพผงาดขึ้นเร็วเกินไปแล้ว!

สิ่งที่สำคัญที่สุดคือหานเจวี๋ยเป็นเจ้าของร้านมือเปล่า!

เทพโลกมนุษย์เช่นนี้ เหตุใดต้องทำเพื่อเขาขนาดนี้ด้วย

“บุตรแห่งสวรรค์ต้องการชื่อเสียง เขาก็ต้องทำอะไรบางอย่างเพื่อวังสวรรค์ด้วย” จักรพรรดิสวรรค์กล่าวอย่างใจเย็น

ตี้ไท่ไป๋เผยรอยยิ้มออกมาในทันที เป็นการแสดงออกว่าเข้าใจแล้ว

…..

สิบปีต่อมา

กายดาราอนธการของหานเจวี๋ยเกิดการเปลี่ยนแปลง ในขณะที่กำลังมีคุณสมบัติชุบร่างพลังเวทก็แข็งแกร่งขึ้น

แม้กระทั่งเขารู้สึกว่าวิชาชุบร่างวัฏจักรดารานั้นมีประสิทธิภาพมากกว่าวิชาวัฏจักรหกวิถี!

วิชาชุบร่างวัฏจักรดาราเหมาะสำหรับคุณสมบัติกายฟ้าบุพกาลเท่านั้น ไม่สามารถสร้างพลังเวทได้ ทำได้เพียงให้พลังเวทเพิ่มขึ้นเองเท่านั้น

หานเจวี๋ยเริ่มทำแบบจำลองการทดสอบกับเจียงอี้

หนึ่งชั่วยามต่อมา

หานเจวี๋ยลืมตาขึ้น

ถึงแม้ว่ายังพ่ายแพ้เช่นเดิม ทว่าเขากลับก็สัมผัสได้ชัดเจนว่าเจียงอี้ไม่ใช่คนที่จะต่อสู้ไม่ได้อีกต่อไป

ในช่วงกลางของการต่อสู้ มีครั้งหนึ่งเขาคุมเจียงอี้ได้

เขาเข้าใกล้การสังหารเจียงอี้ในฉับพลันไปอีกขั้น!

ด้วยความพอใจ หานเจวี๋ยหยิบหนังสือแห่งความโชคร้ายออกมาและเริ่มสาปแช่งศัตรู

นับตั้งแต่ซูฉีออกจากราชวงศ์ศักดิ์สิทธิ์ต้าฮวง หานเจวี๋ยก็คร้านที่จะสนใจสาปแช่งทั้งราชวงศ์ จักรพรรดินีปีศาจชิงชิว จักรพรรดิปีศาจ พุทธาเทพฟ้าพิโรธ อวี้เทียนเป่าและศัตรูคนอื่นๆ เขาไม่ได้ละทิ้งไปและจดจำพวกเขาทั้งหมด

แต่ทว่าหลายปีมานี้ ตอนนี้ไม่มีศัตรูคนใดที่ถูกเขาสาปแช่งจนตาย เขายังคงรู้สึกดายอยู่บ้าง

หานเจวี๋ยสาปแช่งไปพลางตรวจสอบจดหมาย

ช่วงนี้ไม่มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น สงบสุขดี

ไม่เลวนี่

ความปรารถนาของหานเจวี๋ยคือสามวัฏจักรสันติ

หลายเดือนต่อมา

หานเจวี๋ยวางหนังสือแห่งความโชคร้ายลงและเรียกอู้เต้าเจี้ยนเข้ามา ในขณะที่เขากำลังจะเอ่ยถาม เขาสัมผัสได้ถึงอะไรบางอย่าง จึงรีบหยิบป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ออกมาในทันที

ป้ายคำสั่งมรรคาสวรรค์ร้อนผ่าวขึ้นอีกครั้งและยังคงสั่นไหวไม่หยุด

หานเจวี๋ยไม่ได้พูดอะไรให้มากความ โยนป้ายมรรคาสวรรค์ออกไปทันที และปล่อยให้มันสั่นอยู่อย่างนั้น

คาดว่าคงเป็นจักรพรรดิสวรรค์กำลังทำสักอย่างกับเขา พยายามเพิ่มอันดับของโลกเขย่าพิภพ ดึงดูดศัตรูที่แข็งแกร่งเข้ามาให้เขาช่วยแก้ปัญหา

สำหรับเรื่องนี้ หานเจวี๋ยไม่ได้ขัดมากนัก โดยเฉพาะอย่างยิ่งเขาเพิ่งได้รับวิชาชุบร่างวัฏจักรดารามา เขาเองก็ควรจะมีส่วนทำประโยชน์ให้วังสวรรค์ด้วย

ตราบใดที่ไม่ใช่จักรพรรดิเซียน เชิญมาได้ตามสบาย!

หากเป็นจักรพรรดิเซียน จักรพรรดิสวรรค์ไม่ลงมือ เช่นนั้นเขาก็ทำได้เพียงวิ่งหนีเท่านั้นแล้ว

‘ชีวิตต้องมาก่อน อย่างอื่นไว้ทีหลัง’

หานเจวี๋ยคิดอย่างเงียบๆ

“นายท่าน เมื่อครึ่งปีก่อนกิ่งของต้นฝูซังเริ่มสั่นไหว!” อู้เต้าเจี้ยนเอ่ยอย่างเคร่งขรึม

เมื่อครึ่งปีก่อนนางก็อยากจะเข้าไปด้านใน แต่หานเจวี๋ยไม่ได้เอ่ยสิ่งใด นางกลัวว่าจะถูกความกดดันของหานเจวี๋ยทำร้ายเข้า ดังนั้นนางจึงทำได้เพียงรอมาตลอด

หานเจวี๋ยขมวดคิ้ว

อู้เต้าเจี้ยนกล่าวต่อว่า “ไก่คุกรัตติกาล เจ้าใหญ่และเจ้ารองล้วนอยู่บนต้นไม้ ทว่ากลับไร้ประโยชน์”

………………………………………………

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+