ราชาเหนือราชัน 101 : ต้องช่วยเหลือตนเองยามสิ้นหวัง

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 101 : ต้องช่วยเหลือตนเองยามสิ้นหวัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญ้าอัสนีกลายสภาพเป็นยาวิญญาณระดับกลาง หลังจากใส่ไปในปากของเซี่ยงเส้าหยุนแล้ว มันได้ทำการระงับพลังงานสายฟ้าภายในร่างกายส่วนหนึ่งให้อ่อนลง

ตามชื่อของมัน สมุนไพรนี่เป็นสิ่งที่ไว้ใช้แปรสภาพพลังงานสายฟ้า ด้วยสามารถปิดกั้นพลังงานสายฟ้า และปรามพลังทำลายร้างอันรุนแรงเพื่อช่วยให้สามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้ดีขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ไอพลังงานสายฟ้าภายในร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุนจึงค่อยอ่อนลง ทำให้เด็กหนุ่มฟื้นคืนสติได้เล็กน้อย อย่างรวดเร็ว และทรงพลัง ด้วยพลังใจที่ไม่ยอมมแพ้ที่เกิดภายในจิตใจ

ไม่มีผู้ใดทราบว่าพรสวรรค์จินตภาพจะถูกพลังงานสายฟ้าภายในร่างกายยั่วยุ แต่มันคมชัดกว่ามากในตอนที่เด็กหนุ่มมองเห็นร่างกายภายในได้อย่างชัดเจน ด้วยภายในเต็มไปด้วยสายฟ้า และมันใกล้จะระเบิดออก หากเขาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในเร็วไว แม้แต่หญ้าอัสนีกลายสภาพก็คงมิอาจช่วยเขาได้

“ตำราราชันพิชิตสวรรค์ พลิกผัน!” เซี่ยงเส้าหยุนเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้ โดยปราศจากการครุ่นคิด เด็กหนุ่มคาม และเปิดใช้งานตำราฝึกยุทธ์เพื่อเริ่มนำทางพลังงานสายฟ้าเข้าไปยังเก้าดวงดาว

ทว่า เส้นลมปราณของเขาเต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้า มันจึงเป็นเรื่องยากจะเคลื่อนไหวพลังงานผ่านเส้นลมปราณ สิ่งที่น่ารำคาญยิ่งกว่าคือกระดูกสายฟ้าดูราวกับกระจายไปทั่วแล้วในตอนนี้ ขณะที่มันหยุดดูดซับพลังงานสายฟ้าที่เหลืออยู่ภายในร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์

หากกระดูกสามารถปลดปล่อยพลังสายฟ้าที่แท้จริงออกมาได้ มันจะสามารถดูดซับพลังสายฟ้าได้มหาศาลกว่าที่เคย ในขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนมีระดับยุทธ์ที่ต่ำ หรือบางทีกระดูกสายฟ้าอาจอยู่ระหว่างการวิวัฒนาการ และยังไม่ต้องการพลังงานสายฟ้าเพิ่ม ดังนั้น มีเพียงเซี่ยงเส้าหยุนเท่านั้นที่จะช่วยตนเองได้

“ทะเลจักรวาลดวงดาว จงพัฒนาขึ้น! เซี่ยงเส้าหยุนเปลี่ยนความสนใจ และพัฒนาทะเลจักรวาลดวงดาวแทนด้วยพลังที่เกินออกมา ด้วยทะเลจักรวาลดวงดาวต้องการพลังงานจำนวนมหาศาลเพื่อให้มันเติบโตขึ้น และพลังงานสายฟ้าเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกที่ดี

แต่แน่นอนว่า ทะเลจักรวาลดวงดาวจำเป็นต้องใช้พลังงานหลายประเภท และไม่สามารถเติบโตได้ด้วยพลังงานสายฟ้าเพียงอย่างเดียว หากอาศัยเพียงพลังงานสายฟ้า มันจะกลายเป็นทะเลดวงดาวแห่งการทำลายล้าง แทนที่จะเป็นทะเลดวงดาวแห่งการกักเก็บ

แต่ถึงกระนั้น ทะเลจักรวาลดวงดาวยังคงขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดถึงหกเมตร นี่คือการเติบโตที่เกิดจากระดับยุทธ์ที่เพิ่มขึ้น และพลังงานสายฟ้า แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เซี่ยงเส้าหยุนยังคงต้องการเคลื่อนย้ายพลังงานสายฟ้าให้มากกว่านี้ เพื่อให้รอดจากภัยอันตราย

“กระบี่ราชันผ่าเมฆา!” เซี่ยงเส้าหยุนตะโกนเมื่อเขามองเห็นกระบี่ราชันผ่าเมฆาภายในทะเลจักรวาลดวงดาวกำลังดูดซับพลังงานสายฟ้าอย่างหิวกระหาย แต่เนื่องจากชั้นของทะเลจักรวาลดวงดาวแยกกระบี่ออกจากพลังงานสายฟ้าด้านนอก การดูดซับจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า

หลังจากสังเกตเห็นสิ่งนั้น เซี่ยงเส้าหยุนจึงเปิดทะเลจักรวาลดวงดาว และนำพลังงานสายฟ้าทั้งหมดในเส้นลมปราณเข้าไป กระบี่ราชันผ่าเมฆาเริ่มเผยความตื่นเต้น และเริ่มส่องแสงสว่างขึ้น การเผยตัวของมังกร และพยัคฆ์ได้เผยออกขณะกระบี่ดูดซับพลังงานสายฟ้าจำนวนมาก ทำให้ใบมีดของกระบี่เริ่มค่อยฟื้นฟูอย่างเชื่องช้า

“ทองคำทมิฬ จงละลาย!” เซี่ยงเส้าหยุนสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่กระบี่พยายามจะทำ แม้ว่ามันจะดูดซับพลังงานสายฟ้าทั้งหมด ก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ด้วยมันเสียหายอย่างหนักมาก่อนหน้า ดังนั้น การใช้วัตถุดิบบางอย่างเพื่อช่วยในการฟื้นฟูจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ทองคำทมิฬเป็นสิ่งที่เซี่ยงเส้าหยุนได้จากตลาดโดยบังเอิญ เดิมทีเขาวางแผนจะสร้างอาวุธแห่งโชคชะตาให้แก่ตนเอง แต่ด้วยกระบี่ราชันผ่าเมฆภายในตัว ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ กระบี่ซึ่งดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับโชคชะตาของเขาไปเสียแล้ว และหากเขาสามารถทำให้มันสมบูรณ์ได้ มันอาจจะสามารถเปลี่ยนมาเป็นอาวุธแห่งโชคชะตาของเขาได้เช่นกัน

ทองคำทมิฬนั้นแข็งอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่เมื่อดูดซับพลังงานสายฟ้า มันกลับอ่อนลงอย่างมาก กระบี่ราชันผ่าเมฆาดูเหมือนจะมีสติสัมปชัญญะของตนเอง ขณะที่มันพยายามกลืนกินทองคำทมิฬอย่างเชื่องช้า

“ไม่ มันยังไม่พอ ข้าต้องการพลังงานมากกว่านี้” เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกดีขึ้นหลังจากเคลื่อนย้ายพลังงานสายฟ้าจำนวนมากไปที่กระบี่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทั้งที่เขามีพลังงานสายฟ้ามากเกินไป

ด้วยสมองทำงานตลอดเวลา คอยคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเริ่มถ่ายเทพลังสายฟ้าที่เหลือไปยังดวงดาวแรก ดวงดาวโดยกำเนิดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของมนุษย์ ดวงดาวนี้เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์สามารถฝึกฝน เพื่อให้แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไป

ดวงดาวประจำตัวมีเพียงจุดเล็กที่มีขนาดเท่านิ้วก้อย แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกว่ามันช่างกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต หากกล่าวโดยทั่วไป ระดับดวงดาวเป็นระดับที่ดวงดาวของผู้ฝึกยุทธ์จะเริ่มตื่นขึ้น เมื่อไปถึงระดับแปรสภาพ พลังงานดวงดาวจะอยู่ในรูปของแข็ง และเมื่อไปถึงระดับราชา ผู้ฝึกยุทธ์จะสามารถจุดประกายดวงดาวเพื่อปลดปล่อยศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดได้

ในตอนนี้ เซี่ยงเส้าหยุนจดจ่อกับพลังงานสายฟ้าที่ส่งเข้าไปยังดาวดวงแรกภายใน แทนที่จะกระจายไปให้ทุกดวงดาวอย่างเท่าเทียม พลังงานสายฟ้าเป็นรูปของพลังงานอันบริสุทธิ์ ทั้งหยาบ และมีพลังทำลายล้างสูง ดวงดาวของผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวสามารถรับพลังงานสายฟ้านี้ได้ทั้งหมด

ในความเป็นจริง มีเพียงระดับแปรสภาพเท่านั้นที่จะเริ่มดูดซับพลังงานบริสุทธิ์ที่ยังไม่ถูกสกัดเข้าไปในดวงดาวได้ เมื่อพลังงานสายฟ้ามาบรรจบกับดวงดาวของเด็กหนุ่ม เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกเจ็บปวดราวกับดวงดาวกำลังจะระเบิด เขารู้สึกราวกับกำลังจะตายในไม่ช้า

โชคดี ด้วยตำราราชันพิชิตสวรรค์ได้แสดงพลังขึ้น มันรวยรวมพลังที่กระจัดกระจายไปทั่วทั้งเส้นลมปราณของเซี่ยงเส้าหยุน และใช้มันอย่างเชื่องช้าเพื่อยับยั้งพลังงานสายฟ้าที่กำลังบ้าคลั่ง ควบคู่ไปกับพลังของหญ้าอัสนีกลายสภาพ พลังงานสายฟ้าส่วนเกินได้รวมเข้ากับดวงดาวแรกอย่างเต็มที่

“อ๊ากกกก!”

เซี่ยงเส้าหยุนคำรามด้วยความเจ็บปวด ราวกับร่างกายกำลังจะฉีกออกจากกันเหมือนว่ามันมีชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความมุ่งมั่นของเด็กหนุ่มเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยความดื้อรั้นอันไร้ของเขตซึ่งเกิดจากการสืบทอดแห่งเจตจำนงซึ่งได้รับเมื่อไปยังวังวรยุทธ์ ขณะที่เขาไม่ยอมเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด และทุกข์ใจ ทำให้สติเข้มแข็ง และแข็งแกร่งขึ้น

“เรายังไม่ได้ชำระแค้น และยึดเอาทุกสิ่งกลับคืนมา เพราะงั้นจะตายที่นี่ไม่ได้ ปราบปรามพลังงานสายฟ้า!” ความมุ่งมั่นของเซี่ยงเส้าหยุนแข็งแกร่งขึ้น จนในที่สุดก็ถึงจุดสูงสุดใหม่ ทุบโซ่ตรวนออก และลืมเลือนความรู้สึกอันเจ็บปวดที่กำลังเผชิญ และยังผลักดันพลังงานสายฟ้าที่เหลือทั้งหมดในร่างกายไปยังดวงดาว

ดูเหมือนว่าดวงดาวจะสัมผัสได้ถึงความดื้อรั้นอันไร้ขอบเขตของเซี่ยงเส้าหยุน ขณะที่มันเริ่มส่องแสงสว่างขึ้น ราวกับว่ากำลังจะกลายเป็นดวงดาวที่แท้จริง มันดูดซับพลังงานสายฟ้าทั้งหมด และด้วยกนะแสไฟฟ้าที่ประทุไปทั่วทั้งพื้นผิว จึงมีลักษณะราวกับดวงดาวอัสนีที่เต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้าอันบริสุทธิ์

หลังจากการกลายสภาพของดวงดาวเสร็จสิ้น กระดูกสายฟ้าของเซี่ยงเส้าหยุนก็เริ่มแปรสภาพ มันเริ่มส่องสว่าง แสงของมันเริ่มเชื่อมต่อกับแสงจากดาวดวงแรก ทะเลดวงดาวได้เริ่มส่องแสงสีม่วง ในบางครั้ง อาจพบเห็นมังกรทะยานขึ้น และเสือที่เสือที่กำลังตะปบ ทำให้ท้องทะเลสีครามดูสง่างามอย่างหาที่เปรียบมิได้

พลังงานสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากเส้นลมปราณ อวัยวะ และกระดูกของเซี่ยงเส้าหยุนอย่างรวดเร็ว  ภายใต้การดูแลของพลังสีม่วง บาดแผลของเขาเริ่มฟื้นฟู แร้งสายฟ้าได้ปกป้องเซี่ยงเส้าหยุนมาตลอด และมันเห็นการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเผยท่าทีตกตะลึงอย่างที่สุด

มันไม่สามารถมองเห็นการกลายสภาพภายในของเด็กหนุ่มได้ แต่มันเห็นการกลายสภาพทางกายภาพของเซี่ยงเส้าหยุน รอยแตกได้เกิดขึ้นบนผิวหนังตามร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาเหนือราชัน 101 : ต้องช่วยเหลือตนเองยามสิ้นหวัง

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 101 : ต้องช่วยเหลือตนเองยามสิ้นหวัง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญ้าอัสนีกลายสภาพเป็นยาวิญญาณระดับกลาง หลังจากใส่ไปในปากของเซี่ยงเส้าหยุนแล้ว มันได้ทำการระงับพลังงานสายฟ้าภายในร่างกายส่วนหนึ่งให้อ่อนลง

ตามชื่อของมัน สมุนไพรนี่เป็นสิ่งที่ไว้ใช้แปรสภาพพลังงานสายฟ้า ด้วยสามารถปิดกั้นพลังงานสายฟ้า และปรามพลังทำลายร้างอันรุนแรงเพื่อช่วยให้สามารถควบคุมพลังสายฟ้าได้ดีขึ้น

ด้วยเหตุนี้ ไอพลังงานสายฟ้าภายในร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุนจึงค่อยอ่อนลง ทำให้เด็กหนุ่มฟื้นคืนสติได้เล็กน้อย อย่างรวดเร็ว และทรงพลัง ด้วยพลังใจที่ไม่ยอมมแพ้ที่เกิดภายในจิตใจ

ไม่มีผู้ใดทราบว่าพรสวรรค์จินตภาพจะถูกพลังงานสายฟ้าภายในร่างกายยั่วยุ แต่มันคมชัดกว่ามากในตอนที่เด็กหนุ่มมองเห็นร่างกายภายในได้อย่างชัดเจน ด้วยภายในเต็มไปด้วยสายฟ้า และมันใกล้จะระเบิดออก หากเขาไม่สามารถแก้ปัญหาได้ในเร็วไว แม้แต่หญ้าอัสนีกลายสภาพก็คงมิอาจช่วยเขาได้

“ตำราราชันพิชิตสวรรค์ พลิกผัน!” เซี่ยงเส้าหยุนเข้าใจถึงสถานการณ์ในตอนนี้ โดยปราศจากการครุ่นคิด เด็กหนุ่มคาม และเปิดใช้งานตำราฝึกยุทธ์เพื่อเริ่มนำทางพลังงานสายฟ้าเข้าไปยังเก้าดวงดาว

ทว่า เส้นลมปราณของเขาเต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้า มันจึงเป็นเรื่องยากจะเคลื่อนไหวพลังงานผ่านเส้นลมปราณ สิ่งที่น่ารำคาญยิ่งกว่าคือกระดูกสายฟ้าดูราวกับกระจายไปทั่วแล้วในตอนนี้ ขณะที่มันหยุดดูดซับพลังงานสายฟ้าที่เหลืออยู่ภายในร่างกายของเขาอย่างสมบูรณ์

หากกระดูกสามารถปลดปล่อยพลังสายฟ้าที่แท้จริงออกมาได้ มันจะสามารถดูดซับพลังสายฟ้าได้มหาศาลกว่าที่เคย ในขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนมีระดับยุทธ์ที่ต่ำ หรือบางทีกระดูกสายฟ้าอาจอยู่ระหว่างการวิวัฒนาการ และยังไม่ต้องการพลังงานสายฟ้าเพิ่ม ดังนั้น มีเพียงเซี่ยงเส้าหยุนเท่านั้นที่จะช่วยตนเองได้

“ทะเลจักรวาลดวงดาว จงพัฒนาขึ้น! เซี่ยงเส้าหยุนเปลี่ยนความสนใจ และพัฒนาทะเลจักรวาลดวงดาวแทนด้วยพลังที่เกินออกมา ด้วยทะเลจักรวาลดวงดาวต้องการพลังงานจำนวนมหาศาลเพื่อให้มันเติบโตขึ้น และพลังงานสายฟ้าเหล่านี้จึงเป็นทางเลือกที่ดี

แต่แน่นอนว่า ทะเลจักรวาลดวงดาวจำเป็นต้องใช้พลังงานหลายประเภท และไม่สามารถเติบโตได้ด้วยพลังงานสายฟ้าเพียงอย่างเดียว หากอาศัยเพียงพลังงานสายฟ้า มันจะกลายเป็นทะเลดวงดาวแห่งการทำลายล้าง แทนที่จะเป็นทะเลดวงดาวแห่งการกักเก็บ

แต่ถึงกระนั้น ทะเลจักรวาลดวงดาวยังคงขยายใหญ่ขึ้นจนมีขนาดถึงหกเมตร นี่คือการเติบโตที่เกิดจากระดับยุทธ์ที่เพิ่มขึ้น และพลังงานสายฟ้า แต่ก็ยังไม่เพียงพอ เซี่ยงเส้าหยุนยังคงต้องการเคลื่อนย้ายพลังงานสายฟ้าให้มากกว่านี้ เพื่อให้รอดจากภัยอันตราย

“กระบี่ราชันผ่าเมฆา!” เซี่ยงเส้าหยุนตะโกนเมื่อเขามองเห็นกระบี่ราชันผ่าเมฆาภายในทะเลจักรวาลดวงดาวกำลังดูดซับพลังงานสายฟ้าอย่างหิวกระหาย แต่เนื่องจากชั้นของทะเลจักรวาลดวงดาวแยกกระบี่ออกจากพลังงานสายฟ้าด้านนอก การดูดซับจึงเป็นไปอย่างเชื่องช้า

หลังจากสังเกตเห็นสิ่งนั้น เซี่ยงเส้าหยุนจึงเปิดทะเลจักรวาลดวงดาว และนำพลังงานสายฟ้าทั้งหมดในเส้นลมปราณเข้าไป กระบี่ราชันผ่าเมฆาเริ่มเผยความตื่นเต้น และเริ่มส่องแสงสว่างขึ้น การเผยตัวของมังกร และพยัคฆ์ได้เผยออกขณะกระบี่ดูดซับพลังงานสายฟ้าจำนวนมาก ทำให้ใบมีดของกระบี่เริ่มค่อยฟื้นฟูอย่างเชื่องช้า

“ทองคำทมิฬ จงละลาย!” เซี่ยงเส้าหยุนสามารถสัมผัสได้ถึงสิ่งที่กระบี่พยายามจะทำ แม้ว่ามันจะดูดซับพลังงานสายฟ้าทั้งหมด ก็ยังไม่สามารถฟื้นฟูได้อย่างเต็มที่ ด้วยมันเสียหายอย่างหนักมาก่อนหน้า ดังนั้น การใช้วัตถุดิบบางอย่างเพื่อช่วยในการฟื้นฟูจึงเป็นสิ่งสำคัญ

ทองคำทมิฬเป็นสิ่งที่เซี่ยงเส้าหยุนได้จากตลาดโดยบังเอิญ เดิมทีเขาวางแผนจะสร้างอาวุธแห่งโชคชะตาให้แก่ตนเอง แต่ด้วยกระบี่ราชันผ่าเมฆภายในตัว ทำให้ต้องเปลี่ยนใจ กระบี่ซึ่งดูเหมือนจะเชื่อมต่อกับโชคชะตาของเขาไปเสียแล้ว และหากเขาสามารถทำให้มันสมบูรณ์ได้ มันอาจจะสามารถเปลี่ยนมาเป็นอาวุธแห่งโชคชะตาของเขาได้เช่นกัน

ทองคำทมิฬนั้นแข็งอย่างหาที่เปรียบมิได้ แต่เมื่อดูดซับพลังงานสายฟ้า มันกลับอ่อนลงอย่างมาก กระบี่ราชันผ่าเมฆาดูเหมือนจะมีสติสัมปชัญญะของตนเอง ขณะที่มันพยายามกลืนกินทองคำทมิฬอย่างเชื่องช้า

“ไม่ มันยังไม่พอ ข้าต้องการพลังงานมากกว่านี้” เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกดีขึ้นหลังจากเคลื่อนย้ายพลังงานสายฟ้าจำนวนมากไปที่กระบี่ แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทั้งที่เขามีพลังงานสายฟ้ามากเกินไป

ด้วยสมองทำงานตลอดเวลา คอยคิดหาทางออกจากสถานการณ์นี้ ก่อนที่จะตัดสินใจเริ่มถ่ายเทพลังสายฟ้าที่เหลือไปยังดวงดาวแรก ดวงดาวโดยกำเนิดเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติของมนุษย์ ดวงดาวนี้เป็นสิ่งที่ทำให้มนุษย์สามารถฝึกฝน เพื่อให้แข็งแกร่งกว่ามนุษย์ทั่วไป

ดวงดาวประจำตัวมีเพียงจุดเล็กที่มีขนาดเท่านิ้วก้อย แต่ขณะเดียวกัน ก็รู้สึกว่ามันช่างกว้างใหญ่ไร้ขอบเขต หากกล่าวโดยทั่วไป ระดับดวงดาวเป็นระดับที่ดวงดาวของผู้ฝึกยุทธ์จะเริ่มตื่นขึ้น เมื่อไปถึงระดับแปรสภาพ พลังงานดวงดาวจะอยู่ในรูปของแข็ง และเมื่อไปถึงระดับราชา ผู้ฝึกยุทธ์จะสามารถจุดประกายดวงดาวเพื่อปลดปล่อยศักยภาพอันไร้ขีดจำกัดได้

ในตอนนี้ เซี่ยงเส้าหยุนจดจ่อกับพลังงานสายฟ้าที่ส่งเข้าไปยังดาวดวงแรกภายใน แทนที่จะกระจายไปให้ทุกดวงดาวอย่างเท่าเทียม พลังงานสายฟ้าเป็นรูปของพลังงานอันบริสุทธิ์ ทั้งหยาบ และมีพลังทำลายล้างสูง ดวงดาวของผู้ฝึกยุทธ์ระดับดวงดาวสามารถรับพลังงานสายฟ้านี้ได้ทั้งหมด

ในความเป็นจริง มีเพียงระดับแปรสภาพเท่านั้นที่จะเริ่มดูดซับพลังงานบริสุทธิ์ที่ยังไม่ถูกสกัดเข้าไปในดวงดาวได้ เมื่อพลังงานสายฟ้ามาบรรจบกับดวงดาวของเด็กหนุ่ม เซี่ยงเส้าหยุนรู้สึกเจ็บปวดราวกับดวงดาวกำลังจะระเบิด เขารู้สึกราวกับกำลังจะตายในไม่ช้า

โชคดี ด้วยตำราราชันพิชิตสวรรค์ได้แสดงพลังขึ้น มันรวยรวมพลังที่กระจัดกระจายไปทั่วทั้งเส้นลมปราณของเซี่ยงเส้าหยุน และใช้มันอย่างเชื่องช้าเพื่อยับยั้งพลังงานสายฟ้าที่กำลังบ้าคลั่ง ควบคู่ไปกับพลังของหญ้าอัสนีกลายสภาพ พลังงานสายฟ้าส่วนเกินได้รวมเข้ากับดวงดาวแรกอย่างเต็มที่

“อ๊ากกกก!”

เซี่ยงเส้าหยุนคำรามด้วยความเจ็บปวด ราวกับร่างกายกำลังจะฉีกออกจากกันเหมือนว่ามันมีชีวิต สิ่งที่เกิดขึ้นทำให้ความมุ่งมั่นของเด็กหนุ่มเพิ่มขึ้นอย่างไม่หยุดยั้ง ด้วยความดื้อรั้นอันไร้ของเขตซึ่งเกิดจากการสืบทอดแห่งเจตจำนงซึ่งได้รับเมื่อไปยังวังวรยุทธ์ ขณะที่เขาไม่ยอมเผชิญหน้ากับความเจ็บปวด และทุกข์ใจ ทำให้สติเข้มแข็ง และแข็งแกร่งขึ้น

“เรายังไม่ได้ชำระแค้น และยึดเอาทุกสิ่งกลับคืนมา เพราะงั้นจะตายที่นี่ไม่ได้ ปราบปรามพลังงานสายฟ้า!” ความมุ่งมั่นของเซี่ยงเส้าหยุนแข็งแกร่งขึ้น จนในที่สุดก็ถึงจุดสูงสุดใหม่ ทุบโซ่ตรวนออก และลืมเลือนความรู้สึกอันเจ็บปวดที่กำลังเผชิญ และยังผลักดันพลังงานสายฟ้าที่เหลือทั้งหมดในร่างกายไปยังดวงดาว

ดูเหมือนว่าดวงดาวจะสัมผัสได้ถึงความดื้อรั้นอันไร้ขอบเขตของเซี่ยงเส้าหยุน ขณะที่มันเริ่มส่องแสงสว่างขึ้น ราวกับว่ากำลังจะกลายเป็นดวงดาวที่แท้จริง มันดูดซับพลังงานสายฟ้าทั้งหมด และด้วยกนะแสไฟฟ้าที่ประทุไปทั่วทั้งพื้นผิว จึงมีลักษณะราวกับดวงดาวอัสนีที่เต็มไปด้วยพลังงานสายฟ้าอันบริสุทธิ์

หลังจากการกลายสภาพของดวงดาวเสร็จสิ้น กระดูกสายฟ้าของเซี่ยงเส้าหยุนก็เริ่มแปรสภาพ มันเริ่มส่องสว่าง แสงของมันเริ่มเชื่อมต่อกับแสงจากดาวดวงแรก ทะเลดวงดาวได้เริ่มส่องแสงสีม่วง ในบางครั้ง อาจพบเห็นมังกรทะยานขึ้น และเสือที่เสือที่กำลังตะปบ ทำให้ท้องทะเลสีครามดูสง่างามอย่างหาที่เปรียบมิได้

พลังงานสีม่วงพวยพุ่งออกมาจากเส้นลมปราณ อวัยวะ และกระดูกของเซี่ยงเส้าหยุนอย่างรวดเร็ว  ภายใต้การดูแลของพลังสีม่วง บาดแผลของเขาเริ่มฟื้นฟู แร้งสายฟ้าได้ปกป้องเซี่ยงเส้าหยุนมาตลอด และมันเห็นการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา จึงเผยท่าทีตกตะลึงอย่างที่สุด

มันไม่สามารถมองเห็นการกลายสภาพภายในของเด็กหนุ่มได้ แต่มันเห็นการกลายสภาพทางกายภาพของเซี่ยงเส้าหยุน รอยแตกได้เกิดขึ้นบนผิวหนังตามร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุน

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+