ราชาเหนือราชัน 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ?

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย ราชาเหนือราชั้น ตอนที่ 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ? เมืองหุบเขาทมิฬเป็นเมืองที่ปกคลุม ไปด้วยภูเขามากมายรอบด้าน สิ่งพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือแร่โลหะทมิฬ เป็น วัตถุดิบในการตีเหล็กแม้จะไม่ใช่วัตถุดิบระดับราชาสําหรับเมืองเล็ก มันยังคงเป็นวัตถุดิบที่มีค่าสูง นิกายหุบเขาทมิฬมีเหมืองแร่โลหะ ทมิฬเป็นของตนเองในแต่ละปีจะสามารถขุดโลหะทมิฬได้จํานวนมากส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้าเมืองในขณะที่ส่วนที่เหลือจะถูกแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรที่มีค่าของเมืองอื่น ด้วยเหตุนี้ นิกายหุบเขาทมิฬจึงมี ความร่ํารวยมากเมื่อเทียบกับองค์กรใกล้เคียง และด้วยทรัพยากรนั่น ทําให้เหล่า ศิษย์ผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์สามารถฝึกยุทธ์ได้ง่ายกว่าที่อื่นด้วยเหตุนี้ความ แข็งแกร่งของเมืองจึงเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่า ระหว่างการประลองประจําเมือง เมื่อสามเดือนก่อน พวกเขาต้องประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วยบรรดาศิษย์ ระดับแปรสภาพห้าคนที่มีหนึ่งในนั้นเกือบจะพิการในขณะที่อีกคนสูญหายระ หว่างการแข่งขัน เหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะเป็นความหวังของ นิกายหุบเขาทมิฬ การสูญเสียพวกเขาเพียงสักคนถือเป็นสิ่งน่าวิตกอย่างยิ่งโดยธรรมชาติแล้วเจาทราบดีว่าผู้ใดคือค นร้าย แต่ด้วยไม่เหมาะสมที่จะแก้แค้นอย่างเปิดเผยจึงได้แต่ฝืนความกล้ํากลืนไว้ภายใน ช่างโชคดี พวกเขาพบว่าคนร้ายเอกก็ ไม่รอดชีวิตในระหว่างการแข่งขันเช่นกันนั่นทําให้รู้สึกดีขึ้นบ้างด้วยไม่ทราบว่าคนร้ายได้เข้ามายังดินแดนของคนเข้า แล้ว เซี่ยงเส้าหยุนไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนดีด้วยถือหลักความแค้นต้องชําระเสมอหากผู้ใดทําให้ตนไม่สบายใจเขา รับรองว่าอีกฝ่ายจะต้องรู้สึกไม่ดีเช่นกัน เด็กหนุ่มเข้าไปในเมืองอย่างไร้กังวล ด้วยคงไม่มีผู้ใดจําตนเองได้ แม้จะไม่ทราบว่าเหตุใดจึงถูกนิกายหุบเขาทมิฬ ตามล่าตัวในระหว่างการแข่งขันแต่ก็แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ถูกผู้ทรยศของตระกู ลส่งมา ด้วยหากถูกส่งมาโดยคนทรยศนั่นจะสามารถสังหารตนได้ก่อนที่จะทันได้ตอบโต้และจะไม่ส่งผู้มีข้อบกพร่องมาเพื่อสังหารตนแน่นอน แท้จริงแล้ว เซี่ยงเส้าหยุนสงสัยทั้งส ถาบันประตูธง และตระกูลอู่ หนึ่งในนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับนิกายหุบเขาทมิฬ และได้ได้ให้ความช่วยเหลือในการสั่งหารตนแต่นั่นไม่สําคัญอีกแล้วตอนนี้เขาได้เข้ามายังที่แห่งนี้เพื่อให้นิกายหุบเขาทมิฬได้ลิ้มรสการแก้แค้นของตน เซี่ยงเส้าหยุนได้เดินทางไปรอบเมือง และคอยฟังบทสนทนาของผู้คนในเมืองพยายามหาข้อมูลของนิกายหุบเขาทมิฬ ให้มากแต่โชคร้ายเขาไม่พบข้อมูลที่มีประโยชน์แม้แต่น้อย “บ้าฉิบ นี่เราอยู่บนถนนมาพักหนึ่งแล้ว เราควรจะคิดหลังจากทานอาหารมื้อนี้เสียก่อน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบาก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเหลาอาหารที่ดูหรูหรา ร้านอาหารแห่งนี้ช่างดูดีนัก ด้วยมีลูก ค้าจํานวนมากเข้า และออกอย่างไม่หยุดหย่อนในเหลาอาหารเซี่ยงเส้าหยุนได้หาโต๊ะนั่งก่อนจะสั่งอาหาร และเครื่องดื่มจํานวนมากเมื่ออาหารได้มาถึงเขาเริ่มเขมือบอย่างรวดเร็ววิธีที่กินทําให้ดูราวกับเขาอดอยากมานาน จากนั้นไม่นาน หลังจากทานจนเสร็จ เขายกขวดสุรา และกระดกมันทันทีเมื่อสัมผัสรสชาติเข้มข้นของสุรา เด็กหนุ่ม อดไม่ได้ที่จะพึมพํา “การกินอาหารที่ดีดื่มเครื่องเดิมเลิศรส ช่างเป็นชีวิตที่คู่ ควรต่อการเป็นอมตะ” เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากได้ทานอา หารอย่างสบายใจ ขณะนั้นเอง มีคนหนึ่งเดินมานั่งลงตรงหน้าเขา ผู้มาใหม่กล่าว “พี่ชาย ท่านดูเป็นผู้ไร้ซึ่งความกังวล โปรดให้ข้าได้ดื่มเหลาสักแก้วได้ไหม?”
เซี่ยงเส้าหยุนเงยหน้าขึ้น และมองดูผู้มาใหม่ ก่อนจะพบว่าคนผู้นั้นช่างดูหล่อ เหลากว่าตนเสียอีก! หรือจะกล่าวให้ชัดเจนคือ ชายผู้นี้มีใบหน้าที่สวยงามกว่าส ตรี มีท่าทางอ่อนโยน และเรียบร้อยสวมอาภรณ์ของสตรี ผู้อื่นที่เห็นคงคิดว่า เขาเป็นผู้หญิงจริง “นี่เจ้าสวมอาภรณ์สตรีภายในชุดคลุม บุรุษหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามด้วยน้ําเสียงต่ํา ผู้มาใหม่หน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะ หยิบพัดขึ้น และโบกมันเล็กน้อย “ท่านนี้ตลกเสียจริง พี่ชาย ข้าดูเหมือนสตรี
หรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนจ้องมองผู้มาใหม่ เมื่อรู้ สึกอัดอั้น ผู้มาใหม่จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ท่านจมองข้าเสร็จหรือยัง?” “เกือบแล้ว” เซี่ยงเส้าหยุนพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อ “นอกจากหน้าอกอันแบนราบแล้ว ร่างกายทุกส่วนของเจ้าช่า งดูเหมือนสตรี” “คะ…คนลามก!” ผู้มาใหม่ยืนขึ้น และ ตําหนิ “นี่ ข้าคิดว่าเจ้ากล่าวว่าตนเองไม่ ใช่สตรีมิใช่หรือ? เหตุใดจึงทําท่าทางเหมือนสตรีนัก? ไม่เอาน่า หยุดเสแสร้ง เสียที” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ในที่สุดผู้มาใหม่ก็รู้ตัวว่าตนเองแสดงกิริยาไม่เหมาะสม เขารีบอธิบายอย่าง รวดเร็ว “ข้าไม่คาดคิดว่าท่านจะเป็นคน มองแต่ผิวเผิน “แน่นอน แน่นอน อย่างไรเสีย ข้าไม่ ได้สนใจเพศของเจ้าเสียด้วยซ้ําดื่มเสียหากเจ้าต้องการ แต่เจ้าต้องรินสุราเอง” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างเกียจคร้านผู้มาใหม่เกือบจะจากไป แต่ด้วยลังเลเล็ กน้อยก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง เขารินสุราจบเต็มแก้ว และเริ่มดื่ม” “แค่ก แค่ก…อืม ช่างเป็นสุราชัดยอด!“ผู้มาใหม่สําลักสุราแต่ด้วยความตื่นเต้นทําให้ใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชม เซี่ยงเส้าหยุนมองดูเขาอีกครั้ง และสัง เกตว่ามีลูกกระเดือกที่คอ ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับตนเอง เช่นนั้น คนผู้นี้คงเป็นบุ รุษจริง แต่เหตุใดช่างดูคล้ายสตรีมาก? นี่เขาคงไม่ได้เป็นคนข้ามเพศหรอก ใช่ไหม?” ความคิดนั่นทําให้เซี่ยงเส้าหยุนไม่ สบายใจ “พี่ชาย! มาเถิด! มาดื่มกับเรา คนแป ลกหน้าสองคนได้มาพบกันโดยบังเอิญ!” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างเป็นมิตร มากขึ้น มันเป็นสิ่งหยาบคายหากปฏิเสธ เซี่ยง เส้าหยุนยกแก้ว และเทมันลง “ข้าดื่มเสร็จแล้ว เจ้าสามารถดื่มที่เห ลือได้ หากต้องการก็จงสั่งเพิ่ม” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ก่อนจะลุกขึ้น ด้วยไม่ต้อง การอยู่ที่นี่นานนัก “มีอะไรหรือ พี่ชาย? มันไม่สนุกหรอก หากต้องดื่มเพียงลําพัง” ผู้มาใหม่ออก่อนให้เซี่ยงเส้าหยุนอยู่ต่อ เซี่ยงเส้าหยุนยืนกรานที่จะออกไป ทําให้ผู้มาใหม่กล่าวอีกครั้ง “พี่ชาย ท่านคงจะเป็นศิษย์ของนิกายหุบเขาทมิฬ ถูก ไหม? หากท่านร่วมดื่มกับข้า ข้าจะเล่าความลับของนิกายหุบเขาทมิฬให้ฟัง” ข้อเสนอนั่นดึงดูดเซี่ยงเส้าหยุนนัก “เจ้าคงไม่ได้พูดปดหรอก ใช่ไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม “จงไปเสีย หากท่านไม่เชื่อข้า” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี เซี่ยงเส้าหยุนนั่งลงอย่างช่วยไม่ได้ และเรียกบริกร “บริกร สุราสองจวดและถั่วสองจาน”
“ฮ่า ฮ่า ต้องแบบนี้สิ” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างยินดี “แล้ว เจ้ารู้สิ่งใดเกี่ยวกับนิกายหุบเขาทมิฬเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบ “เราจะคุยกันหลังข้าดื่มเสร็จแล้ว” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะเป็นคนชอบสุรามาก เมื่อไม่มีทางเลือก เซี่ยงเส้าหยุนจึง เริ่มดื่มอีกครั้ง เขาไม่ลืมที่จะถาม “น้องชายเจ้ามีนามว่าอะไร” “นามของข้าคือ “ตงลื่อ” แล้วท่าน เล่า?” ผู้มาใหม่กล่าวถาม “ข้าหรือ? ข้าจะไม่เปลี่ยนนามของตน เอง ข้าคือผู้อันเป็นที่รัก ข้าคือผู้ที่ปรากฏตัวยามพฤกษาบานสะพรั่ง ผู้หล่อเห ลาเพียงหนึ่งเดียว ราชันเซี่ยง!” เซี่ยง เส้าหยุนกล่าวพร้อมกับเทสุรา คํากล่าวเหล่านั้นทําให้ผู้มาใหม่พ่น สุราออกจากปาก พรืดดด! ช่างโชคดีที่เซี่ยงเส้าหยุนหลบหลีกได้ อย่างรวดเร็ว

นิยาย ราชาเหนือราชั้น ตอนที่ 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ?

เมืองหุบเขาทมิฬเป็นเมืองที่ปกคลุม ไปด้วยภูเขามากมายรอบด้าน สิ่งพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือแร่โลหะทมิฬ เป็น วัตถุดิบในการตีเหล็กแม้จะไม่ใช่วัตถุดิบระดับราชาสําหรับเมืองเล็ก มันยังคงเป็นวัตถุดิบที่มีค่าสูง

นิกายหุบเขาทมิฬมีเหมืองแร่โลหะ ทมิฬเป็นของตนเองในแต่ละปีจะสามารถขุดโลหะทมิฬได้จํานวนมากส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้าเมืองในขณะที่ส่วนที่เหลือจะถูกแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรที่มีค่าของเมืองอื่น

ด้วยเหตุนี้ นิกายหุบเขาทมิฬจึงมี ความร่ํารวยมากเมื่อเทียบกับองค์กรใกล้เคียง และด้วยทรัพยากรนั่น ทําให้เหล่า ศิษย์ผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์สามารถฝึกยุทธ์ได้ง่ายกว่าที่อื่นด้วยเหตุนี้ความ แข็งแกร่งของเมืองจึงเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ทว่า ระหว่างการประลองประจําเมือง เมื่อสามเดือนก่อน พวกเขาต้องประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วยบรรดาศิษย์ ระดับแปรสภาพห้าคนที่มีหนึ่งในนั้นเกือบจะพิการในขณะที่อีกคนสูญหายระ หว่างการแข่งขัน

เหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะเป็นความหวังของ นิกายหุบเขาทมิฬ การสูญเสียพวกเขาเพียงสักคนถือเป็นสิ่งน่าวิตกอย่างยิ่งโดยธรรมชาติแล้วเจาทราบดีว่าผู้ใดคือค นร้าย แต่ด้วยไม่เหมาะสมที่จะแก้แค้นอย่างเปิดเผยจึงได้แต่ฝืนความกล้ํากลืนไว้ภายใน

ช่างโชคดี พวกเขาพบว่าคนร้ายเอกก็ ไม่รอดชีวิตในระหว่างการแข่งขันเช่นกันนั่นทําให้รู้สึกดีขึ้นบ้างด้วยไม่ทราบว่าคนร้ายได้เข้ามายังดินแดนของคนเข้า แล้ว

เซี่ยงเส้าหยุนไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนดีด้วยถือหลักความแค้นต้องชําระเสมอหากผู้ใดทําให้ตนไม่สบายใจเขา รับรองว่าอีกฝ่ายจะต้องรู้สึกไม่ดีเช่นกัน

เด็กหนุ่มเข้าไปในเมืองอย่างไร้กังวล ด้วยคงไม่มีผู้ใดจําตนเองได้ แม้จะไม่ทราบว่าเหตุใดจึงถูกนิกายหุบเขาทมิฬ ตามล่าตัวในระหว่างการแข่งขันแต่ก็แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ถูกผู้ทรยศของตระกู ลส่งมา ด้วยหากถูกส่งมาโดยคนทรยศนั่นจะสามารถสังหารตนได้ก่อนที่จะทันได้ตอบโต้และจะไม่ส่งผู้มีข้อบกพร่องมาเพื่อสังหารตนแน่นอน

แท้จริงแล้ว เซี่ยงเส้าหยุนสงสัยทั้งส ถาบันประตูธง และตระกูลอู่ หนึ่งในนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับนิกายหุบเขาทมิฬ และได้ได้ให้ความช่วยเหลือในการสั่งหารตนแต่นั่นไม่สําคัญอีกแล้วตอนนี้เขาได้เข้ามายังที่แห่งนี้เพื่อให้นิกายหุบเขาทมิฬได้ลิ้มรสการแก้แค้นของตน

เซี่ยงเส้าหยุนได้เดินทางไปรอบเมือง และคอยฟังบทสนทนาของผู้คนในเมืองพยายามหาข้อมูลของนิกายหุบเขาทมิฬ ให้มากแต่โชคร้ายเขาไม่พบข้อมูลที่มีประโยชน์แม้แต่น้อย

“บ้าฉิบ นี่เราอยู่บนถนนมาพักหนึ่งแล้ว เราควรจะคิดหลังจากทานอาหารมื้อนี้เสียก่อน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบาก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเหลาอาหารที่ดูหรูหรา

ร้านอาหารแห่งนี้ช่างดูดีนัก ด้วยมีลูก ค้าจํานวนมากเข้า และออกอย่างไม่หยุดหย่อนในเหลาอาหารเซี่ยงเส้าหยุนได้หาโต๊ะนั่งก่อนจะสั่งอาหาร และเครื่องดื่มจํานวนมากเมื่ออาหารได้มาถึงเขาเริ่มเขมือบอย่างรวดเร็ววิธีที่กินทําให้ดูราวกับเขาอดอยากมานาน

จากนั้นไม่นาน หลังจากทานจนเสร็จ เขายกขวดสุรา และกระดกมันทันทีเมื่อสัมผัสรสชาติเข้มข้นของสุรา เด็กหนุ่ม อดไม่ได้ที่จะพึมพํา “การกินอาหารที่ดีดื่มเครื่องเดิมเลิศรส ช่างเป็นชีวิตที่คู่ ควรต่อการเป็นอมตะ”

เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากได้ทานอา หารอย่างสบายใจ ขณะนั้นเอง มีคนหนึ่งเดินมานั่งลงตรงหน้าเขา ผู้มาใหม่กล่าว “พี่ชาย ท่านดูเป็นผู้ไร้ซึ่งความกังวล โปรดให้ข้าได้ดื่มเหลาสักแก้วได้ไหม?”
เซี่ยงเส้าหยุนเงยหน้าขึ้น และมองดูผู้มาใหม่ ก่อนจะพบว่าคนผู้นั้นช่างดูหล่อ เหลากว่าตนเสียอีก! หรือจะกล่าวให้ชัดเจนคือ ชายผู้นี้มีใบหน้าที่สวยงามกว่าส ตรี มีท่าทางอ่อนโยน และเรียบร้อยสวมอาภรณ์ของสตรี ผู้อื่นที่เห็นคงคิดว่า เขาเป็นผู้หญิงจริง

“นี่เจ้าสวมอาภรณ์สตรีภายในชุดคลุม บุรุษหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามด้วยน้ําเสียงต่ํา

ผู้มาใหม่หน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะ หยิบพัดขึ้น และโบกมันเล็กน้อย “ท่านนี้ตลกเสียจริง พี่ชาย ข้าดูเหมือนสตรี
หรือ?”

เซี่ยงเส้าหยุนจ้องมองผู้มาใหม่ เมื่อรู้ สึกอัดอั้น ผู้มาใหม่จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ท่านจมองข้าเสร็จหรือยัง?”

“เกือบแล้ว” เซี่ยงเส้าหยุนพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อ “นอกจากหน้าอกอันแบนราบแล้ว ร่างกายทุกส่วนของเจ้าช่า งดูเหมือนสตรี”

“คะ…คนลามก!” ผู้มาใหม่ยืนขึ้น และ ตําหนิ

“นี่ ข้าคิดว่าเจ้ากล่าวว่าตนเองไม่ ใช่สตรีมิใช่หรือ? เหตุใดจึงทําท่าทางเหมือนสตรีนัก? ไม่เอาน่า หยุดเสแสร้ง เสียที” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

ในที่สุดผู้มาใหม่ก็รู้ตัวว่าตนเองแสดงกิริยาไม่เหมาะสม เขารีบอธิบายอย่าง รวดเร็ว “ข้าไม่คาดคิดว่าท่านจะเป็นคน มองแต่ผิวเผิน

“แน่นอน แน่นอน อย่างไรเสีย ข้าไม่ ได้สนใจเพศของเจ้าเสียด้วยซ้ําดื่มเสียหากเจ้าต้องการ แต่เจ้าต้องรินสุราเอง” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างเกียจคร้านผู้มาใหม่เกือบจะจากไป แต่ด้วยลังเลเล็ กน้อยก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง เขารินสุราจบเต็มแก้ว และเริ่มดื่ม” “แค่ก แค่ก…อืม ช่างเป็นสุราชัดยอด!“ผู้มาใหม่สําลักสุราแต่ด้วยความตื่นเต้นทําให้ใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชม

เซี่ยงเส้าหยุนมองดูเขาอีกครั้ง และสัง เกตว่ามีลูกกระเดือกที่คอ ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับตนเอง เช่นนั้น คนผู้นี้คงเป็นบุ รุษจริง แต่เหตุใดช่างดูคล้ายสตรีมาก? นี่เขาคงไม่ได้เป็นคนข้ามเพศหรอก ใช่ไหม?”

ความคิดนั่นทําให้เซี่ยงเส้าหยุนไม่ สบายใจ

“พี่ชาย! มาเถิด! มาดื่มกับเรา คนแป ลกหน้าสองคนได้มาพบกันโดยบังเอิญ!” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างเป็นมิตร มากขึ้น

มันเป็นสิ่งหยาบคายหากปฏิเสธ เซี่ยง เส้าหยุนยกแก้ว และเทมันลง

“ข้าดื่มเสร็จแล้ว เจ้าสามารถดื่มที่เห ลือได้ หากต้องการก็จงสั่งเพิ่ม” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ก่อนจะลุกขึ้น ด้วยไม่ต้อง การอยู่ที่นี่นานนัก

“มีอะไรหรือ พี่ชาย? มันไม่สนุกหรอก หากต้องดื่มเพียงลําพัง” ผู้มาใหม่ออก่อนให้เซี่ยงเส้าหยุนอยู่ต่อ

เซี่ยงเส้าหยุนยืนกรานที่จะออกไป ทําให้ผู้มาใหม่กล่าวอีกครั้ง “พี่ชาย ท่านคงจะเป็นศิษย์ของนิกายหุบเขาทมิฬ ถูก ไหม? หากท่านร่วมดื่มกับข้า ข้าจะเล่าความลับของนิกายหุบเขาทมิฬให้ฟัง”

ข้อเสนอนั่นดึงดูดเซี่ยงเส้าหยุนนัก

“เจ้าคงไม่ได้พูดปดหรอก ใช่ไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม

“จงไปเสีย หากท่านไม่เชื่อข้า” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี

เซี่ยงเส้าหยุนนั่งลงอย่างช่วยไม่ได้ และเรียกบริกร “บริกร สุราสองจวดและถั่วสองจาน”
“ฮ่า ฮ่า ต้องแบบนี้สิ” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างยินดี

“แล้ว เจ้ารู้สิ่งใดเกี่ยวกับนิกายหุบเขาทมิฬเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบ

“เราจะคุยกันหลังข้าดื่มเสร็จแล้ว” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะเป็นคนชอบสุรามาก

เมื่อไม่มีทางเลือก เซี่ยงเส้าหยุนจึง เริ่มดื่มอีกครั้ง เขาไม่ลืมที่จะถาม “น้องชายเจ้ามีนามว่าอะไร”

“นามของข้าคือ “ตงลื่อ” แล้วท่าน เล่า?” ผู้มาใหม่กล่าวถาม

“ข้าหรือ? ข้าจะไม่เปลี่ยนนามของตน เอง ข้าคือผู้อันเป็นที่รัก ข้าคือผู้ที่ปรากฏตัวยามพฤกษาบานสะพรั่ง ผู้หล่อเห

ลาเพียงหนึ่งเดียว ราชันเซี่ยง!” เซี่ยง เส้าหยุนกล่าวพร้อมกับเทสุรา

คํากล่าวเหล่านั้นทําให้ผู้มาใหม่พ่น สุราออกจากปาก

พรืดดด!

ช่างโชคดีที่เซี่ยงเส้าหยุนหลบหลีกได้ อย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาเหนือราชัน 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ?

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยาย ราชาเหนือราชั้น ตอนที่ 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ? เมืองหุบเขาทมิฬเป็นเมืองที่ปกคลุม ไปด้วยภูเขามากมายรอบด้าน สิ่งพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือแร่โลหะทมิฬ เป็น วัตถุดิบในการตีเหล็กแม้จะไม่ใช่วัตถุดิบระดับราชาสําหรับเมืองเล็ก มันยังคงเป็นวัตถุดิบที่มีค่าสูง นิกายหุบเขาทมิฬมีเหมืองแร่โลหะ ทมิฬเป็นของตนเองในแต่ละปีจะสามารถขุดโลหะทมิฬได้จํานวนมากส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้าเมืองในขณะที่ส่วนที่เหลือจะถูกแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรที่มีค่าของเมืองอื่น ด้วยเหตุนี้ นิกายหุบเขาทมิฬจึงมี ความร่ํารวยมากเมื่อเทียบกับองค์กรใกล้เคียง และด้วยทรัพยากรนั่น ทําให้เหล่า ศิษย์ผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์สามารถฝึกยุทธ์ได้ง่ายกว่าที่อื่นด้วยเหตุนี้ความ แข็งแกร่งของเมืองจึงเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน ทว่า ระหว่างการประลองประจําเมือง เมื่อสามเดือนก่อน พวกเขาต้องประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วยบรรดาศิษย์ ระดับแปรสภาพห้าคนที่มีหนึ่งในนั้นเกือบจะพิการในขณะที่อีกคนสูญหายระ หว่างการแข่งขัน เหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะเป็นความหวังของ นิกายหุบเขาทมิฬ การสูญเสียพวกเขาเพียงสักคนถือเป็นสิ่งน่าวิตกอย่างยิ่งโดยธรรมชาติแล้วเจาทราบดีว่าผู้ใดคือค นร้าย แต่ด้วยไม่เหมาะสมที่จะแก้แค้นอย่างเปิดเผยจึงได้แต่ฝืนความกล้ํากลืนไว้ภายใน ช่างโชคดี พวกเขาพบว่าคนร้ายเอกก็ ไม่รอดชีวิตในระหว่างการแข่งขันเช่นกันนั่นทําให้รู้สึกดีขึ้นบ้างด้วยไม่ทราบว่าคนร้ายได้เข้ามายังดินแดนของคนเข้า แล้ว เซี่ยงเส้าหยุนไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนดีด้วยถือหลักความแค้นต้องชําระเสมอหากผู้ใดทําให้ตนไม่สบายใจเขา รับรองว่าอีกฝ่ายจะต้องรู้สึกไม่ดีเช่นกัน เด็กหนุ่มเข้าไปในเมืองอย่างไร้กังวล ด้วยคงไม่มีผู้ใดจําตนเองได้ แม้จะไม่ทราบว่าเหตุใดจึงถูกนิกายหุบเขาทมิฬ ตามล่าตัวในระหว่างการแข่งขันแต่ก็แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ถูกผู้ทรยศของตระกู ลส่งมา ด้วยหากถูกส่งมาโดยคนทรยศนั่นจะสามารถสังหารตนได้ก่อนที่จะทันได้ตอบโต้และจะไม่ส่งผู้มีข้อบกพร่องมาเพื่อสังหารตนแน่นอน แท้จริงแล้ว เซี่ยงเส้าหยุนสงสัยทั้งส ถาบันประตูธง และตระกูลอู่ หนึ่งในนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับนิกายหุบเขาทมิฬ และได้ได้ให้ความช่วยเหลือในการสั่งหารตนแต่นั่นไม่สําคัญอีกแล้วตอนนี้เขาได้เข้ามายังที่แห่งนี้เพื่อให้นิกายหุบเขาทมิฬได้ลิ้มรสการแก้แค้นของตน เซี่ยงเส้าหยุนได้เดินทางไปรอบเมือง และคอยฟังบทสนทนาของผู้คนในเมืองพยายามหาข้อมูลของนิกายหุบเขาทมิฬ ให้มากแต่โชคร้ายเขาไม่พบข้อมูลที่มีประโยชน์แม้แต่น้อย “บ้าฉิบ นี่เราอยู่บนถนนมาพักหนึ่งแล้ว เราควรจะคิดหลังจากทานอาหารมื้อนี้เสียก่อน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบาก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเหลาอาหารที่ดูหรูหรา ร้านอาหารแห่งนี้ช่างดูดีนัก ด้วยมีลูก ค้าจํานวนมากเข้า และออกอย่างไม่หยุดหย่อนในเหลาอาหารเซี่ยงเส้าหยุนได้หาโต๊ะนั่งก่อนจะสั่งอาหาร และเครื่องดื่มจํานวนมากเมื่ออาหารได้มาถึงเขาเริ่มเขมือบอย่างรวดเร็ววิธีที่กินทําให้ดูราวกับเขาอดอยากมานาน จากนั้นไม่นาน หลังจากทานจนเสร็จ เขายกขวดสุรา และกระดกมันทันทีเมื่อสัมผัสรสชาติเข้มข้นของสุรา เด็กหนุ่ม อดไม่ได้ที่จะพึมพํา “การกินอาหารที่ดีดื่มเครื่องเดิมเลิศรส ช่างเป็นชีวิตที่คู่ ควรต่อการเป็นอมตะ” เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากได้ทานอา หารอย่างสบายใจ ขณะนั้นเอง มีคนหนึ่งเดินมานั่งลงตรงหน้าเขา ผู้มาใหม่กล่าว “พี่ชาย ท่านดูเป็นผู้ไร้ซึ่งความกังวล โปรดให้ข้าได้ดื่มเหลาสักแก้วได้ไหม?”
เซี่ยงเส้าหยุนเงยหน้าขึ้น และมองดูผู้มาใหม่ ก่อนจะพบว่าคนผู้นั้นช่างดูหล่อ เหลากว่าตนเสียอีก! หรือจะกล่าวให้ชัดเจนคือ ชายผู้นี้มีใบหน้าที่สวยงามกว่าส ตรี มีท่าทางอ่อนโยน และเรียบร้อยสวมอาภรณ์ของสตรี ผู้อื่นที่เห็นคงคิดว่า เขาเป็นผู้หญิงจริง “นี่เจ้าสวมอาภรณ์สตรีภายในชุดคลุม บุรุษหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามด้วยน้ําเสียงต่ํา ผู้มาใหม่หน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะ หยิบพัดขึ้น และโบกมันเล็กน้อย “ท่านนี้ตลกเสียจริง พี่ชาย ข้าดูเหมือนสตรี
หรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนจ้องมองผู้มาใหม่ เมื่อรู้ สึกอัดอั้น ผู้มาใหม่จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ท่านจมองข้าเสร็จหรือยัง?” “เกือบแล้ว” เซี่ยงเส้าหยุนพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อ “นอกจากหน้าอกอันแบนราบแล้ว ร่างกายทุกส่วนของเจ้าช่า งดูเหมือนสตรี” “คะ…คนลามก!” ผู้มาใหม่ยืนขึ้น และ ตําหนิ “นี่ ข้าคิดว่าเจ้ากล่าวว่าตนเองไม่ ใช่สตรีมิใช่หรือ? เหตุใดจึงทําท่าทางเหมือนสตรีนัก? ไม่เอาน่า หยุดเสแสร้ง เสียที” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า ในที่สุดผู้มาใหม่ก็รู้ตัวว่าตนเองแสดงกิริยาไม่เหมาะสม เขารีบอธิบายอย่าง รวดเร็ว “ข้าไม่คาดคิดว่าท่านจะเป็นคน มองแต่ผิวเผิน “แน่นอน แน่นอน อย่างไรเสีย ข้าไม่ ได้สนใจเพศของเจ้าเสียด้วยซ้ําดื่มเสียหากเจ้าต้องการ แต่เจ้าต้องรินสุราเอง” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างเกียจคร้านผู้มาใหม่เกือบจะจากไป แต่ด้วยลังเลเล็ กน้อยก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง เขารินสุราจบเต็มแก้ว และเริ่มดื่ม” “แค่ก แค่ก…อืม ช่างเป็นสุราชัดยอด!“ผู้มาใหม่สําลักสุราแต่ด้วยความตื่นเต้นทําให้ใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชม เซี่ยงเส้าหยุนมองดูเขาอีกครั้ง และสัง เกตว่ามีลูกกระเดือกที่คอ ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับตนเอง เช่นนั้น คนผู้นี้คงเป็นบุ รุษจริง แต่เหตุใดช่างดูคล้ายสตรีมาก? นี่เขาคงไม่ได้เป็นคนข้ามเพศหรอก ใช่ไหม?” ความคิดนั่นทําให้เซี่ยงเส้าหยุนไม่ สบายใจ “พี่ชาย! มาเถิด! มาดื่มกับเรา คนแป ลกหน้าสองคนได้มาพบกันโดยบังเอิญ!” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างเป็นมิตร มากขึ้น มันเป็นสิ่งหยาบคายหากปฏิเสธ เซี่ยง เส้าหยุนยกแก้ว และเทมันลง “ข้าดื่มเสร็จแล้ว เจ้าสามารถดื่มที่เห ลือได้ หากต้องการก็จงสั่งเพิ่ม” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ก่อนจะลุกขึ้น ด้วยไม่ต้อง การอยู่ที่นี่นานนัก “มีอะไรหรือ พี่ชาย? มันไม่สนุกหรอก หากต้องดื่มเพียงลําพัง” ผู้มาใหม่ออก่อนให้เซี่ยงเส้าหยุนอยู่ต่อ เซี่ยงเส้าหยุนยืนกรานที่จะออกไป ทําให้ผู้มาใหม่กล่าวอีกครั้ง “พี่ชาย ท่านคงจะเป็นศิษย์ของนิกายหุบเขาทมิฬ ถูก ไหม? หากท่านร่วมดื่มกับข้า ข้าจะเล่าความลับของนิกายหุบเขาทมิฬให้ฟัง” ข้อเสนอนั่นดึงดูดเซี่ยงเส้าหยุนนัก “เจ้าคงไม่ได้พูดปดหรอก ใช่ไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม “จงไปเสีย หากท่านไม่เชื่อข้า” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี เซี่ยงเส้าหยุนนั่งลงอย่างช่วยไม่ได้ และเรียกบริกร “บริกร สุราสองจวดและถั่วสองจาน”
“ฮ่า ฮ่า ต้องแบบนี้สิ” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างยินดี “แล้ว เจ้ารู้สิ่งใดเกี่ยวกับนิกายหุบเขาทมิฬเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบ “เราจะคุยกันหลังข้าดื่มเสร็จแล้ว” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะเป็นคนชอบสุรามาก เมื่อไม่มีทางเลือก เซี่ยงเส้าหยุนจึง เริ่มดื่มอีกครั้ง เขาไม่ลืมที่จะถาม “น้องชายเจ้ามีนามว่าอะไร” “นามของข้าคือ “ตงลื่อ” แล้วท่าน เล่า?” ผู้มาใหม่กล่าวถาม “ข้าหรือ? ข้าจะไม่เปลี่ยนนามของตน เอง ข้าคือผู้อันเป็นที่รัก ข้าคือผู้ที่ปรากฏตัวยามพฤกษาบานสะพรั่ง ผู้หล่อเห ลาเพียงหนึ่งเดียว ราชันเซี่ยง!” เซี่ยง เส้าหยุนกล่าวพร้อมกับเทสุรา คํากล่าวเหล่านั้นทําให้ผู้มาใหม่พ่น สุราออกจากปาก พรืดดด! ช่างโชคดีที่เซี่ยงเส้าหยุนหลบหลีกได้ อย่างรวดเร็ว

นิยาย ราชาเหนือราชั้น ตอนที่ 140 : นี่เขาแต่งตัวข้ามเพศหรือ?

เมืองหุบเขาทมิฬเป็นเมืองที่ปกคลุม ไปด้วยภูเขามากมายรอบด้าน สิ่งพิเศษของสถานที่แห่งนี้คือแร่โลหะทมิฬ เป็น วัตถุดิบในการตีเหล็กแม้จะไม่ใช่วัตถุดิบระดับราชาสําหรับเมืองเล็ก มันยังคงเป็นวัตถุดิบที่มีค่าสูง

นิกายหุบเขาทมิฬมีเหมืองแร่โลหะ ทมิฬเป็นของตนเองในแต่ละปีจะสามารถขุดโลหะทมิฬได้จํานวนมากส่วนหนึ่งจะถูกส่งเข้าเมืองในขณะที่ส่วนที่เหลือจะถูกแลกเปลี่ยนกับทรัพยากรที่มีค่าของเมืองอื่น

ด้วยเหตุนี้ นิกายหุบเขาทมิฬจึงมี ความร่ํารวยมากเมื่อเทียบกับองค์กรใกล้เคียง และด้วยทรัพยากรนั่น ทําให้เหล่า ศิษย์ผู้เยาว์ที่มีพรสวรรค์สามารถฝึกยุทธ์ได้ง่ายกว่าที่อื่นด้วยเหตุนี้ความ แข็งแกร่งของเมืองจึงเติบโตไปได้อย่างรวดเร็วเช่นกัน

ทว่า ระหว่างการประลองประจําเมือง เมื่อสามเดือนก่อน พวกเขาต้องประสบกับการสูญเสียครั้งใหญ่ ด้วยบรรดาศิษย์ ระดับแปรสภาพห้าคนที่มีหนึ่งในนั้นเกือบจะพิการในขณะที่อีกคนสูญหายระ หว่างการแข่งขัน

เหล่าผู้เยาว์อัจฉริยะเป็นความหวังของ นิกายหุบเขาทมิฬ การสูญเสียพวกเขาเพียงสักคนถือเป็นสิ่งน่าวิตกอย่างยิ่งโดยธรรมชาติแล้วเจาทราบดีว่าผู้ใดคือค นร้าย แต่ด้วยไม่เหมาะสมที่จะแก้แค้นอย่างเปิดเผยจึงได้แต่ฝืนความกล้ํากลืนไว้ภายใน

ช่างโชคดี พวกเขาพบว่าคนร้ายเอกก็ ไม่รอดชีวิตในระหว่างการแข่งขันเช่นกันนั่นทําให้รู้สึกดีขึ้นบ้างด้วยไม่ทราบว่าคนร้ายได้เข้ามายังดินแดนของคนเข้า แล้ว

เซี่ยงเส้าหยุนไม่เคยคิดว่าตนเองเป็นคนดีด้วยถือหลักความแค้นต้องชําระเสมอหากผู้ใดทําให้ตนไม่สบายใจเขา รับรองว่าอีกฝ่ายจะต้องรู้สึกไม่ดีเช่นกัน

เด็กหนุ่มเข้าไปในเมืองอย่างไร้กังวล ด้วยคงไม่มีผู้ใดจําตนเองได้ แม้จะไม่ทราบว่าเหตุใดจึงถูกนิกายหุบเขาทมิฬ ตามล่าตัวในระหว่างการแข่งขันแต่ก็แน่ใจว่าพวกเขาไม่ได้ถูกผู้ทรยศของตระกู ลส่งมา ด้วยหากถูกส่งมาโดยคนทรยศนั่นจะสามารถสังหารตนได้ก่อนที่จะทันได้ตอบโต้และจะไม่ส่งผู้มีข้อบกพร่องมาเพื่อสังหารตนแน่นอน

แท้จริงแล้ว เซี่ยงเส้าหยุนสงสัยทั้งส ถาบันประตูธง และตระกูลอู่ หนึ่งในนั้นจะต้องเกี่ยวข้องกับนิกายหุบเขาทมิฬ และได้ได้ให้ความช่วยเหลือในการสั่งหารตนแต่นั่นไม่สําคัญอีกแล้วตอนนี้เขาได้เข้ามายังที่แห่งนี้เพื่อให้นิกายหุบเขาทมิฬได้ลิ้มรสการแก้แค้นของตน

เซี่ยงเส้าหยุนได้เดินทางไปรอบเมือง และคอยฟังบทสนทนาของผู้คนในเมืองพยายามหาข้อมูลของนิกายหุบเขาทมิฬ ให้มากแต่โชคร้ายเขาไม่พบข้อมูลที่มีประโยชน์แม้แต่น้อย

“บ้าฉิบ นี่เราอยู่บนถนนมาพักหนึ่งแล้ว เราควรจะคิดหลังจากทานอาหารมื้อนี้เสียก่อน” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวคําเบาก่อนจะมุ่งหน้าไปยังเหลาอาหารที่ดูหรูหรา

ร้านอาหารแห่งนี้ช่างดูดีนัก ด้วยมีลูก ค้าจํานวนมากเข้า และออกอย่างไม่หยุดหย่อนในเหลาอาหารเซี่ยงเส้าหยุนได้หาโต๊ะนั่งก่อนจะสั่งอาหาร และเครื่องดื่มจํานวนมากเมื่ออาหารได้มาถึงเขาเริ่มเขมือบอย่างรวดเร็ววิธีที่กินทําให้ดูราวกับเขาอดอยากมานาน

จากนั้นไม่นาน หลังจากทานจนเสร็จ เขายกขวดสุรา และกระดกมันทันทีเมื่อสัมผัสรสชาติเข้มข้นของสุรา เด็กหนุ่ม อดไม่ได้ที่จะพึมพํา “การกินอาหารที่ดีดื่มเครื่องเดิมเลิศรส ช่างเป็นชีวิตที่คู่ ควรต่อการเป็นอมตะ”

เป็นเวลาเนิ่นนานหลังจากได้ทานอา หารอย่างสบายใจ ขณะนั้นเอง มีคนหนึ่งเดินมานั่งลงตรงหน้าเขา ผู้มาใหม่กล่าว “พี่ชาย ท่านดูเป็นผู้ไร้ซึ่งความกังวล โปรดให้ข้าได้ดื่มเหลาสักแก้วได้ไหม?”
เซี่ยงเส้าหยุนเงยหน้าขึ้น และมองดูผู้มาใหม่ ก่อนจะพบว่าคนผู้นั้นช่างดูหล่อ เหลากว่าตนเสียอีก! หรือจะกล่าวให้ชัดเจนคือ ชายผู้นี้มีใบหน้าที่สวยงามกว่าส ตรี มีท่าทางอ่อนโยน และเรียบร้อยสวมอาภรณ์ของสตรี ผู้อื่นที่เห็นคงคิดว่า เขาเป็นผู้หญิงจริง

“นี่เจ้าสวมอาภรณ์สตรีภายในชุดคลุม บุรุษหรือ?” เซี่ยงเส้าหยุนถามด้วยน้ําเสียงต่ํา

ผู้มาใหม่หน้าแดงเล็กน้อย ก่อนจะ หยิบพัดขึ้น และโบกมันเล็กน้อย “ท่านนี้ตลกเสียจริง พี่ชาย ข้าดูเหมือนสตรี
หรือ?”

เซี่ยงเส้าหยุนจ้องมองผู้มาใหม่ เมื่อรู้ สึกอัดอั้น ผู้มาใหม่จึงกล่าวขึ้นอีกครั้ง “ท่านจมองข้าเสร็จหรือยัง?”

“เกือบแล้ว” เซี่ยงเส้าหยุนพยักหน้า ก่อนจะกล่าวต่อ “นอกจากหน้าอกอันแบนราบแล้ว ร่างกายทุกส่วนของเจ้าช่า งดูเหมือนสตรี”

“คะ…คนลามก!” ผู้มาใหม่ยืนขึ้น และ ตําหนิ

“นี่ ข้าคิดว่าเจ้ากล่าวว่าตนเองไม่ ใช่สตรีมิใช่หรือ? เหตุใดจึงทําท่าทางเหมือนสตรีนัก? ไม่เอาน่า หยุดเสแสร้ง เสียที” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวด้วยรอยยิ้มบนใบหน้า

ในที่สุดผู้มาใหม่ก็รู้ตัวว่าตนเองแสดงกิริยาไม่เหมาะสม เขารีบอธิบายอย่าง รวดเร็ว “ข้าไม่คาดคิดว่าท่านจะเป็นคน มองแต่ผิวเผิน

“แน่นอน แน่นอน อย่างไรเสีย ข้าไม่ ได้สนใจเพศของเจ้าเสียด้วยซ้ําดื่มเสียหากเจ้าต้องการ แต่เจ้าต้องรินสุราเอง” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างเกียจคร้านผู้มาใหม่เกือบจะจากไป แต่ด้วยลังเลเล็ กน้อยก่อนจะนั่งลงอีกครั้ง เขารินสุราจบเต็มแก้ว และเริ่มดื่ม” “แค่ก แค่ก…อืม ช่างเป็นสุราชัดยอด!“ผู้มาใหม่สําลักสุราแต่ด้วยความตื่นเต้นทําให้ใบหน้าเต็มไปด้วยความชื่นชม

เซี่ยงเส้าหยุนมองดูเขาอีกครั้ง และสัง เกตว่ามีลูกกระเดือกที่คอ ดังนั้นเขาจึงกล่าวกับตนเอง เช่นนั้น คนผู้นี้คงเป็นบุ รุษจริง แต่เหตุใดช่างดูคล้ายสตรีมาก? นี่เขาคงไม่ได้เป็นคนข้ามเพศหรอก ใช่ไหม?”

ความคิดนั่นทําให้เซี่ยงเส้าหยุนไม่ สบายใจ

“พี่ชาย! มาเถิด! มาดื่มกับเรา คนแป ลกหน้าสองคนได้มาพบกันโดยบังเอิญ!” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างเป็นมิตร มากขึ้น

มันเป็นสิ่งหยาบคายหากปฏิเสธ เซี่ยง เส้าหยุนยกแก้ว และเทมันลง

“ข้าดื่มเสร็จแล้ว เจ้าสามารถดื่มที่เห ลือได้ หากต้องการก็จงสั่งเพิ่ม” เซี่ยงเส้าหยุนกล่าว ก่อนจะลุกขึ้น ด้วยไม่ต้อง การอยู่ที่นี่นานนัก

“มีอะไรหรือ พี่ชาย? มันไม่สนุกหรอก หากต้องดื่มเพียงลําพัง” ผู้มาใหม่ออก่อนให้เซี่ยงเส้าหยุนอยู่ต่อ

เซี่ยงเส้าหยุนยืนกรานที่จะออกไป ทําให้ผู้มาใหม่กล่าวอีกครั้ง “พี่ชาย ท่านคงจะเป็นศิษย์ของนิกายหุบเขาทมิฬ ถูก ไหม? หากท่านร่วมดื่มกับข้า ข้าจะเล่าความลับของนิกายหุบเขาทมิฬให้ฟัง”

ข้อเสนอนั่นดึงดูดเซี่ยงเส้าหยุนนัก

“เจ้าคงไม่ได้พูดปดหรอก ใช่ไหม?” เซี่ยงเส้าหยุนถาม

“จงไปเสีย หากท่านไม่เชื่อข้า” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะดึงดูดความสนใจได้เป็นอย่างดี

เซี่ยงเส้าหยุนนั่งลงอย่างช่วยไม่ได้ และเรียกบริกร “บริกร สุราสองจวดและถั่วสองจาน”
“ฮ่า ฮ่า ต้องแบบนี้สิ” ผู้มาใหม่กล่าว อย่างยินดี

“แล้ว เจ้ารู้สิ่งใดเกี่ยวกับนิกายหุบเขาทมิฬเล่า?” เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบ

“เราจะคุยกันหลังข้าดื่มเสร็จแล้ว” ผู้มา ใหม่กล่าว ดูเหมือนจะเป็นคนชอบสุรามาก

เมื่อไม่มีทางเลือก เซี่ยงเส้าหยุนจึง เริ่มดื่มอีกครั้ง เขาไม่ลืมที่จะถาม “น้องชายเจ้ามีนามว่าอะไร”

“นามของข้าคือ “ตงลื่อ” แล้วท่าน เล่า?” ผู้มาใหม่กล่าวถาม

“ข้าหรือ? ข้าจะไม่เปลี่ยนนามของตน เอง ข้าคือผู้อันเป็นที่รัก ข้าคือผู้ที่ปรากฏตัวยามพฤกษาบานสะพรั่ง ผู้หล่อเห

ลาเพียงหนึ่งเดียว ราชันเซี่ยง!” เซี่ยง เส้าหยุนกล่าวพร้อมกับเทสุรา

คํากล่าวเหล่านั้นทําให้ผู้มาใหม่พ่น สุราออกจากปาก

พรืดดด!

ช่างโชคดีที่เซี่ยงเส้าหยุนหลบหลีกได้ อย่างรวดเร็ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+