ราชาเหนือราชัน 142 : เจ้าเป็นหัวหน้า

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 142 : เจ้าเป็นหัวหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายราชาเหนือราชันตอนที่ 142 : เจ้าเป็นหัวหน้า

ศพขนทมิฬเป็นสิ่งที่ผสมระหว่าง ซากศพและผีดิบซึ่งจะเกิดขึ้นกับซากศพที่ไม่เน่าเปื่อยแต่กลับปลุกคลุมไปด้วยขนสีดําและเริ่มเดินบนโลกอีกครั้งมันเป็นปีศาจร้ายที่น่ากลัว

ความต่างระหว่างศพขนทมิฬและผีดิบคือศพขนทมิฬิชอบดื่มเลือดสดในช่วงเวลาที่ฟื้นขึ้นมันจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ดื่มเลือดไม่ไกลจากทั้งสองศพขนทมิฬจํานวนมากกําลังต่อสู้กับสมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬ

สมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬมีผู้อาวุโส ผู้ดูแล เหล่าศิษย์ และคนเหมืองทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับพื้นฐาน จึงไม่อาจต่อกรกับศพขนทมิฬได้สักนิด

พวกเขาล้มลงที่ละคน และศพขน ทมิฬก็เจ้ามาฉีกทิ้ง สร้างเป็นภาพวาดอันหน้าหวาดหวั่น นั่นคือสิ่งที่ตงลื่อได้ เห็น และทําให้รู้สึกรังเกียจ

“คนขุดเหมือง ถอยก่อน ส่วนที่เหลือรุมเข้าไป! สังหารพวกมันให้สิ้น!” ผู้อาวุโสระดับแปรสภาพจากนิกายหุบเขาทมิฬตะโกน

พวกเขาเริ่มปลดปล่อยการโจมตีมากมายเข้าใส่ศพขนทมิฬศพขนทมิฬไม่ได้มีทรงพลังนักแต่พวกมันไร้ซึ่งความหวาดกลัวแม้จะถูกดาบฟันพวกมันก็ยังไม่ตายแต่พวกมันจะใช้โอกาสนี้ลดระยะและกัดมนุษย์ฟังของศพขนทมิฬนั้นมีพิษร้ายแรงสามารถทําให้เหยื่อสูญเสียพลังยุทธ์หรืออาจตายด้วยพิษ

ด้วยเหตุนี้การต่อสู้จึงเป็นไปอย่างยาวนานความหวาดกลัวของสมาชิกนิกายหุบเขาทมิฬได้เพิ่มขึ้นด้วยไม่อาจหยุดยั้งศพขนทมิฬได้หากไม่มีผู้อาวุโสระดับแปรสภาพเพียงไม่กี่คนในตอนนี้นิกายหุบเขาทมิฬจะต้องประสบกับความเลวร้ายยิ่งกว่านี้เสียอีก

“ฟันใส่ที่หัวจะทําให้พวกมันแน่นิ่ง!”ผู้อาวุโสผู้นําทํากล่าวเขาเคลื่อนไหวราวกับสายลมขณะโจมตีไปที่หัวราวกับสายรุ้งเมื่อพลังงานดาวได้พาดผ่านศีรษะของศพขนทมิฬก็กระเด็นไปทั่ว

“ผู้อาวุโสหม่าเฟิงเราควรลองฝ่าเข้าไปไหม?บางทีอาจมีบางสิ่งถูกขุดออกไป”ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวแนะนํา

“แน่นอนเรามาร่วมโจมตีและฝ่าพวกมันเข้าไปข้างในให้ได้ทุกคนถอย”หม่าเฟิงกล่าว

พวกเขาฝ่าเข้าไปอย่างกล้าหาญสังหารศพขนทมิฬเพื่อเปิดทางก่อนจะพยายามเข้าไปด้านในถ้ําแต่ก่อนที่จะเข้าไปด้านในมีคนหนึ่งพุ่งออกมาด้วยท่าที่เสียใจ

คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่นผู้อาวุโสหม่าเฟิงนั่นเองขนสีดํางอกออกจากใบหน้าในขณะที่เดินโซซัดโซเซเขาตะโกนด้วยความยากลําบาก“ทะ-ทุกคนถอย!จะแจ้งไปที่นะ-นิกาย”

ก่อนที่จะทันได้กล่าวจบเขาได้สิ้นใจลงความตายของเขาทําให้สมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬเริ่มหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีกทุกคนเริ่มวิ่งหนีกิ่งแร่โลหะทมิฬที่สะสมไว้ที่นี่ไม่มีสิ่งใดสําคัญไปกว่าการมีชีวิตรอด

ทั้งเซี่ยงเส้าหยุนและตงลื่อมองเห็นทุกสิ่งและทั้งสองต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นยอดฝีมือระดับแปรสภาพถูกจัดการอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าไปในถ้ํามีสิ่งใดอยู่กันนั้น?

“เราเข้าไปดูกันเถอะ”ตงลื่อกล่าวอย่างตื่นเต้น

เซี่ยงเส้หยุนตกตะลึงต่อการเปลี่ยนใจอันรวดเร็วของสหายสนุกสนานเศร้าโศกขยะแขยงตื่นเต้นเขาช่างโลเลราวกับสตรี

“หากเจ้าอยากตายอย่าเอาข้าไปเกี่ยวด้วยไปคนเดียวเถอะ”เซี่ยงเส้าหยุนหันกลับและจากไปโดยไม่คิดซ้ําสอง

หลังจากผ่านประสบการณ์เฉียดตายเซี่ยงเส้หยุนจึงไม่ลังเลอีกต่อไปไม่ว่าจะมีสมบัติมีค่ามากเพียงใดในถ้ําแห่งนี้เขาจะไม่ยอมเข้าไปเสี่ยงอันตรายอย่างง่ายดายเช่นนี้บางครั้งการเผชิญหน้ากับความบังเอิญอาจเป็นหายนะที่ปลอมตัวมา

“เหอะช่างขลาดนักแล้วเจ้ายังกล้าเรียกตนเองว่าราชันอีกหรือ?ไหนเล่าความกล้าหาญของราชัน?”ตงจอกล่างด้วยความรังเกียจ

“จะกล่าวอะไรก็กล่าวไปข้าจะไม่เอาชีวิตไปทิ้งหรอก”เซี่ยงเส้าหยุนไม่สนใจ

“เฮ้ยเดี๋ยวข้ามียาถอนพิษอยู่นี่แน่ใจนะว่าไม่อยากเสี่ยงโชค?”ตงจื่อกล่าวหลังจากเม็ดยาสองเม็ดขึ้น

“ลองดูรี?เอาสิเจ้าไปลองเอาเองแล้วกัน”เซี่ยงเส้าหยุนปฏิเสธ

ตงจื่อลังเลครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวอีกครั้ง“ข้ามีเกราะระดับราชาอยู่นี่หากเจ้าไปกับข้าเจ้าจะได้ครอบครองมัน”

ขณะที่กล่าวเขาหยิบชุดเกราะขึ้นมาการออกแบบที่ละเอียดอ่อนและวัสดุที่ทนทานในการหลอมเห็นได้ชัดว่าไม่ใช้
ชุดเกราะธรรมดา

“เกราะระดับราชาหรือ?”เซี่ยงเส้าหยุนประหลาดใจแต่ใบหน้าเผยความแปลกประหลาดขณะกล่าว“นะนี่เป็นเกราะชั้นในของผู้หญิง”

เมื่อตงลื่อมองเสื้อเกราะอีกครั้งอย่างรวดเร็วและร้องออก“ขะข้าหยิบผิดไม่ใช่อันนี้”

ชุดเกราะหายไปแทนที่ด้วยชุดเกราะของผู้ชาย

“เขามีบางสิ่งมากกว่าที่เห็นด้วยตาเซี่ยงเส้าหยุนคิดในใจ
ด้วยสังเกตเห็นกําไลข้อมือของตงจื่อชุดเกราะทั้งสองถูกนําออกจากกําไลนั่นกําไลกักเก็บ!

เป็นสิ่งของกักเก็บที่ต่างจากพื้นที่กักเก็บของทะเลจักรวาลดวงดาวมันถูกสร้างจากวัตสุที่หายากเป็นของที่ไว้ใช้กักเก็บของมีค่าและคนธรรมดาไม่อาจเป็นเจ้าของได้โดยเฉพาะผู้เยาว์เช่นตงจื่อ

เห็นได้ชัดว่าตงลื่อมีภูมิหลังอันทรงพ

เซี่ยงเส้าหยุนยังคงไม่เปลี่ยนความคิดด้วยมองตงลื่ออย่างเฉยเมยและกล่าว“แน่นอนยานั่นอาจจะแก้พิษธรรมดาได้แต่พิษในถ้ําเป็นพิษของศพทมิฬข้าสงสัยว่ายานั่นตะสามารถยื้อเวลาได้นานแค่ไหนนอกจากนี้แม้ชุดเกราะราชาจะสามารถปกป้องร่างกายเจ้าได้แต่เจ้าเคยคิดถึงสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นอาจอยู่ในถ้ําก็ได้เช่นราชาผีดิบอย่างไรเล่าถ้าเป็นเช่นนั้นเราทั้งสองจะต้องตาย”

เมื่อมองไปยังเซี่ยงเส้าหยุนตงลื่อรู้สึกเขินอายขณะที่กล่าว“แต่…ข้าอยากเข้าไปดูข้างในนี่!บางที่การเผชิญหน้าโดยบังเอิญอันท้าทายสวรรค์อาจกําลังรอเราอยู่ที่นั่น!”

เซี่ยงเส้าหยุนลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าว“ตกลงทั้งสองสิ่งที่เจ้าเสนอเมื่อครู่ข้าจะยอมเสี่ยงไปพร้อมเจ้า”เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว“รวบรวมไม้และหินจุดไฟ”

“รับทราบ!”ตงลื่อปิติมากแต่หลังจากเดินไม่กี่ก้าวเข้าหยุดและถาม“เดี๋ยวเหตุใดข้าต้องทําตามที่เจ้าสั่ง?”

“เพราะข้าเป็นหัวหน้าหยุดเสียเวลาไปได้แล้วข้าต้องเตรียมการบางสิ่ง”เซี่ยงเส้าหยุนจ้องตงจื่อ

“ก็ได้เจ้าเป็นหัวหน้า”ตงลื่อยื่นนิ้วกลางให้เซี่ยงเส้าหยุนอย่างไม่พอใจ

ด้วยตัวตนทําให้เขาสั่งคนอื่นมาตลอดวันนี้เขากลับถูกสั่งให้ไปหาของโดยรอบแทนและช่างยากจะยอมรับหลังจากตงลื่อจากไปเซี่ยงเส้าหยุนไม่ได้“เตรียมการ”ใดๆเขายืนและจ้องมองถ้ํานั่นอย่างตั้งใจ

“นี่น่าจะเป็นหลุมฝังศพมิเช่นนั้นผีดิบมากมายเช่นนี้คงไม่โผล่ออกมาแต่พวกมันเกิดขึ้นเองหรือถูกมนุษย์สร้างขึ้นกัน?หากเป็นอย่างหลังสิ่งที่น่ากลัวอาจเกิดขึ้นเอาเถอะในเมื่อเราสอดเข้ามาแล้วคงต้องลองทําบางสิ่งเซี่ยงเส้าหยุนครุ่นคิด

ไม่นานตงลื่อกลับมาพร้อมไม้และหินจุดไฟจํานวนหนึ่ง

เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนเห็นได้ไม่กี่ท่อนนั่นเขากล่าวไม่ออก

“นี่เจ้าโง่หรือไง?ข้าวางแผนจะใช้ไฟโจมตีไม่สามกิ่งและหินจุดไฟอันแค่นี้เราจะไปทําบ้าอะไรได้?”เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างดูถูก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาเหนือราชัน 142 : เจ้าเป็นหัวหน้า

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 142 : เจ้าเป็นหัวหน้า at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายราชาเหนือราชันตอนที่ 142 : เจ้าเป็นหัวหน้า

ศพขนทมิฬเป็นสิ่งที่ผสมระหว่าง ซากศพและผีดิบซึ่งจะเกิดขึ้นกับซากศพที่ไม่เน่าเปื่อยแต่กลับปลุกคลุมไปด้วยขนสีดําและเริ่มเดินบนโลกอีกครั้งมันเป็นปีศาจร้ายที่น่ากลัว

ความต่างระหว่างศพขนทมิฬและผีดิบคือศพขนทมิฬิชอบดื่มเลือดสดในช่วงเวลาที่ฟื้นขึ้นมันจะไม่หยุดจนกว่าจะได้ดื่มเลือดไม่ไกลจากทั้งสองศพขนทมิฬจํานวนมากกําลังต่อสู้กับสมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬ

สมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬมีผู้อาวุโส ผู้ดูแล เหล่าศิษย์ และคนเหมืองทั่วไป ซึ่งส่วนใหญ่ล้วนเป็นเพียงผู้ฝึกยุทธ์ระดับพื้นฐาน จึงไม่อาจต่อกรกับศพขนทมิฬได้สักนิด

พวกเขาล้มลงที่ละคน และศพขน ทมิฬก็เจ้ามาฉีกทิ้ง สร้างเป็นภาพวาดอันหน้าหวาดหวั่น นั่นคือสิ่งที่ตงลื่อได้ เห็น และทําให้รู้สึกรังเกียจ

“คนขุดเหมือง ถอยก่อน ส่วนที่เหลือรุมเข้าไป! สังหารพวกมันให้สิ้น!” ผู้อาวุโสระดับแปรสภาพจากนิกายหุบเขาทมิฬตะโกน

พวกเขาเริ่มปลดปล่อยการโจมตีมากมายเข้าใส่ศพขนทมิฬศพขนทมิฬไม่ได้มีทรงพลังนักแต่พวกมันไร้ซึ่งความหวาดกลัวแม้จะถูกดาบฟันพวกมันก็ยังไม่ตายแต่พวกมันจะใช้โอกาสนี้ลดระยะและกัดมนุษย์ฟังของศพขนทมิฬนั้นมีพิษร้ายแรงสามารถทําให้เหยื่อสูญเสียพลังยุทธ์หรืออาจตายด้วยพิษ

ด้วยเหตุนี้การต่อสู้จึงเป็นไปอย่างยาวนานความหวาดกลัวของสมาชิกนิกายหุบเขาทมิฬได้เพิ่มขึ้นด้วยไม่อาจหยุดยั้งศพขนทมิฬได้หากไม่มีผู้อาวุโสระดับแปรสภาพเพียงไม่กี่คนในตอนนี้นิกายหุบเขาทมิฬจะต้องประสบกับความเลวร้ายยิ่งกว่านี้เสียอีก

“ฟันใส่ที่หัวจะทําให้พวกมันแน่นิ่ง!”ผู้อาวุโสผู้นําทํากล่าวเขาเคลื่อนไหวราวกับสายลมขณะโจมตีไปที่หัวราวกับสายรุ้งเมื่อพลังงานดาวได้พาดผ่านศีรษะของศพขนทมิฬก็กระเด็นไปทั่ว

“ผู้อาวุโสหม่าเฟิงเราควรลองฝ่าเข้าไปไหม?บางทีอาจมีบางสิ่งถูกขุดออกไป”ผู้อาวุโสอีกคนกล่าวแนะนํา

“แน่นอนเรามาร่วมโจมตีและฝ่าพวกมันเข้าไปข้างในให้ได้ทุกคนถอย”หม่าเฟิงกล่าว

พวกเขาฝ่าเข้าไปอย่างกล้าหาญสังหารศพขนทมิฬเพื่อเปิดทางก่อนจะพยายามเข้าไปด้านในถ้ําแต่ก่อนที่จะเข้าไปด้านในมีคนหนึ่งพุ่งออกมาด้วยท่าที่เสียใจ

คนผู้นั้นไม่ใช่ใครอื่นผู้อาวุโสหม่าเฟิงนั่นเองขนสีดํางอกออกจากใบหน้าในขณะที่เดินโซซัดโซเซเขาตะโกนด้วยความยากลําบาก“ทะ-ทุกคนถอย!จะแจ้งไปที่นะ-นิกาย”

ก่อนที่จะทันได้กล่าวจบเขาได้สิ้นใจลงความตายของเขาทําให้สมาชิกของนิกายหุบเขาทมิฬเริ่มหวาดกลัวยิ่งขึ้นไปอีกทุกคนเริ่มวิ่งหนีกิ่งแร่โลหะทมิฬที่สะสมไว้ที่นี่ไม่มีสิ่งใดสําคัญไปกว่าการมีชีวิตรอด

ทั้งเซี่ยงเส้าหยุนและตงลื่อมองเห็นทุกสิ่งและทั้งสองต่างตกตะลึงกับสิ่งที่เห็นยอดฝีมือระดับแปรสภาพถูกจัดการอย่างรวดเร็วหลังจากเข้าไปในถ้ํามีสิ่งใดอยู่กันนั้น?

“เราเข้าไปดูกันเถอะ”ตงลื่อกล่าวอย่างตื่นเต้น

เซี่ยงเส้หยุนตกตะลึงต่อการเปลี่ยนใจอันรวดเร็วของสหายสนุกสนานเศร้าโศกขยะแขยงตื่นเต้นเขาช่างโลเลราวกับสตรี

“หากเจ้าอยากตายอย่าเอาข้าไปเกี่ยวด้วยไปคนเดียวเถอะ”เซี่ยงเส้าหยุนหันกลับและจากไปโดยไม่คิดซ้ําสอง

หลังจากผ่านประสบการณ์เฉียดตายเซี่ยงเส้หยุนจึงไม่ลังเลอีกต่อไปไม่ว่าจะมีสมบัติมีค่ามากเพียงใดในถ้ําแห่งนี้เขาจะไม่ยอมเข้าไปเสี่ยงอันตรายอย่างง่ายดายเช่นนี้บางครั้งการเผชิญหน้ากับความบังเอิญอาจเป็นหายนะที่ปลอมตัวมา

“เหอะช่างขลาดนักแล้วเจ้ายังกล้าเรียกตนเองว่าราชันอีกหรือ?ไหนเล่าความกล้าหาญของราชัน?”ตงจอกล่างด้วยความรังเกียจ

“จะกล่าวอะไรก็กล่าวไปข้าจะไม่เอาชีวิตไปทิ้งหรอก”เซี่ยงเส้าหยุนไม่สนใจ

“เฮ้ยเดี๋ยวข้ามียาถอนพิษอยู่นี่แน่ใจนะว่าไม่อยากเสี่ยงโชค?”ตงจื่อกล่าวหลังจากเม็ดยาสองเม็ดขึ้น

“ลองดูรี?เอาสิเจ้าไปลองเอาเองแล้วกัน”เซี่ยงเส้าหยุนปฏิเสธ

ตงจื่อลังเลครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวอีกครั้ง“ข้ามีเกราะระดับราชาอยู่นี่หากเจ้าไปกับข้าเจ้าจะได้ครอบครองมัน”

ขณะที่กล่าวเขาหยิบชุดเกราะขึ้นมาการออกแบบที่ละเอียดอ่อนและวัสดุที่ทนทานในการหลอมเห็นได้ชัดว่าไม่ใช้
ชุดเกราะธรรมดา

“เกราะระดับราชาหรือ?”เซี่ยงเส้าหยุนประหลาดใจแต่ใบหน้าเผยความแปลกประหลาดขณะกล่าว“นะนี่เป็นเกราะชั้นในของผู้หญิง”

เมื่อตงลื่อมองเสื้อเกราะอีกครั้งอย่างรวดเร็วและร้องออก“ขะข้าหยิบผิดไม่ใช่อันนี้”

ชุดเกราะหายไปแทนที่ด้วยชุดเกราะของผู้ชาย

“เขามีบางสิ่งมากกว่าที่เห็นด้วยตาเซี่ยงเส้าหยุนคิดในใจ
ด้วยสังเกตเห็นกําไลข้อมือของตงจื่อชุดเกราะทั้งสองถูกนําออกจากกําไลนั่นกําไลกักเก็บ!

เป็นสิ่งของกักเก็บที่ต่างจากพื้นที่กักเก็บของทะเลจักรวาลดวงดาวมันถูกสร้างจากวัตสุที่หายากเป็นของที่ไว้ใช้กักเก็บของมีค่าและคนธรรมดาไม่อาจเป็นเจ้าของได้โดยเฉพาะผู้เยาว์เช่นตงจื่อ

เห็นได้ชัดว่าตงลื่อมีภูมิหลังอันทรงพ

เซี่ยงเส้าหยุนยังคงไม่เปลี่ยนความคิดด้วยมองตงลื่ออย่างเฉยเมยและกล่าว“แน่นอนยานั่นอาจจะแก้พิษธรรมดาได้แต่พิษในถ้ําเป็นพิษของศพทมิฬข้าสงสัยว่ายานั่นตะสามารถยื้อเวลาได้นานแค่ไหนนอกจากนี้แม้ชุดเกราะราชาจะสามารถปกป้องร่างกายเจ้าได้แต่เจ้าเคยคิดถึงสิ่งที่น่ากลัวกว่านั้นอาจอยู่ในถ้ําก็ได้เช่นราชาผีดิบอย่างไรเล่าถ้าเป็นเช่นนั้นเราทั้งสองจะต้องตาย”

เมื่อมองไปยังเซี่ยงเส้าหยุนตงลื่อรู้สึกเขินอายขณะที่กล่าว“แต่…ข้าอยากเข้าไปดูข้างในนี่!บางที่การเผชิญหน้าโดยบังเอิญอันท้าทายสวรรค์อาจกําลังรอเราอยู่ที่นั่น!”

เซี่ยงเส้าหยุนลังเลเล็กน้อยก่อนจะกล่าว“ตกลงทั้งสองสิ่งที่เจ้าเสนอเมื่อครู่ข้าจะยอมเสี่ยงไปพร้อมเจ้า”เขาหยุดครู่หนึ่งก่อนจะกล่าว“รวบรวมไม้และหินจุดไฟ”

“รับทราบ!”ตงลื่อปิติมากแต่หลังจากเดินไม่กี่ก้าวเข้าหยุดและถาม“เดี๋ยวเหตุใดข้าต้องทําตามที่เจ้าสั่ง?”

“เพราะข้าเป็นหัวหน้าหยุดเสียเวลาไปได้แล้วข้าต้องเตรียมการบางสิ่ง”เซี่ยงเส้าหยุนจ้องตงจื่อ

“ก็ได้เจ้าเป็นหัวหน้า”ตงลื่อยื่นนิ้วกลางให้เซี่ยงเส้าหยุนอย่างไม่พอใจ

ด้วยตัวตนทําให้เขาสั่งคนอื่นมาตลอดวันนี้เขากลับถูกสั่งให้ไปหาของโดยรอบแทนและช่างยากจะยอมรับหลังจากตงลื่อจากไปเซี่ยงเส้าหยุนไม่ได้“เตรียมการ”ใดๆเขายืนและจ้องมองถ้ํานั่นอย่างตั้งใจ

“นี่น่าจะเป็นหลุมฝังศพมิเช่นนั้นผีดิบมากมายเช่นนี้คงไม่โผล่ออกมาแต่พวกมันเกิดขึ้นเองหรือถูกมนุษย์สร้างขึ้นกัน?หากเป็นอย่างหลังสิ่งที่น่ากลัวอาจเกิดขึ้นเอาเถอะในเมื่อเราสอดเข้ามาแล้วคงต้องลองทําบางสิ่งเซี่ยงเส้าหยุนครุ่นคิด

ไม่นานตงลื่อกลับมาพร้อมไม้และหินจุดไฟจํานวนหนึ่ง

เมื่อเซี่ยงเส้าหยุนเห็นได้ไม่กี่ท่อนนั่นเขากล่าวไม่ออก

“นี่เจ้าโง่หรือไง?ข้าวางแผนจะใช้ไฟโจมตีไม่สามกิ่งและหินจุดไฟอันแค่นี้เราจะไปทําบ้าอะไรได้?”เซี่ยงเส้าหยุนกล่าวอย่างดูถูก

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+