ราชาเหนือราชัน 17 : ข้าจะจดจำแรงกระตุ้นนี้ไว้!

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 17 : ข้าจะจดจำแรงกระตุ้นนี้ไว้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยงเส้าหยุนได้บรรลุถึงระดับพื้นฐานขั้นเจ็ดอย่างราบรื่น ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีร่องรอยแห่งความสุขบนใบหน้า ในดวงตาของเขาความแข็งแกร่งนี้ยังต่ำนัก ความคาดหวังของเขาสูงส่ง มันยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมากที่เขาต้องข้ามผ่าน

หมัดพลังปราณ!

เซี่ยงเส้าหยุนลุกขึ้นผลักร่างของตนไปด้านหน้า เขาเริ่มยื่นแขนและกำปั้นไปด้านหน้า หมัดของเขาแข็งราวกับหิน การต่อยนั้นดุเดือดมากแม้แค่โดนอากาศ ก็ส่งผลให้เกิดคลื่นเสียงได้ ความแข็งแกร่งของหนึ่งหมัดที่ถูกปล่อยออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้มีระดับพื้นฐานขั้นเจ็ดจะต้านทานได้ ขณะหมัดที่สองทะยานออก มันมีพลังปราณเคลื่อนไหวภายในเส้นลมปราณที่แขน พร้อมระเบิดเอาพลังออกมาผ่านหมัด

“ออกมา!” เซี่ยงเส้าหยุนตะโกน ดวงดาวในร่างกายส่องสว่าง จุดสัมผัสเริ่มปั่นป่วนขณะที่พลังปราณเคลื่อนที่ผ่านเส้นลมปราณราวกับสายน้ำก่อนจะออกจากร่างกายของตน

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

ในชั่วอึดใจเดียว เซี่ยงเส้าหยุนปล่อยหมัดสามครั้งติดต่อกัน แต่ละหมัดเต็มไปด้วยพลังงานท่วงท่านั้นเข้าถึงขีดสุด ในขณะที่ปล่อยหมัดที่สี่ ทำให้พลังปราณที่ไหลเกิดระเบิดขึ้นก่อนจะไหลออกมาจากเส้นลมปราณ พลังปราณที่เหมือนกับเมฆหมอกนั้นกลับมีพลังเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนตื่นตกใจได้

ฟึ่บ!

หมัดนี้ทำให้เกิดการสั่นไหวที่รุนแรง และรุนแรงมากขึ้นเมื่อพลังงานดวงดาวแปรเปลี่ยนเป็นพลังปราณ เมื่อปล่อยพลังปราณออกมา โดยปกติแล้วนี่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ขึ้นมาถึงระดับดวงดาวแล้ว

หลังจากที่ปล่อยหมัด ความแข็งแกร่งของเซี่ยงเส้าหยุนได้มากมายกว่าแต่ก่อนราวคนคลุ้มคลั่ง เขาปล่อยหมัดออกไปติดกันสิบครั้ง ทุกหมัดมาพร้อมพลังปราณ มันทิ้งไว้ซึ่งความรู้สึกบีบคั้นในทุกหมัดที่ปล่อยออก ต้นไม้เก่าแก่ที่อยู่ในบริเวณนั้นถูกจู่โจมด้วยพลังปราณและก่อให้เกิดรูขนาดใหญ่ที่ ต้นไม้ที่ไม่อาจพยุงตัวจนที่สุดต้องโค่นลง

ในตอนนี้ทำให้เซี่ยงเส้าหยุนหยุดปล่อยหมัด เขารู้สึกเหนื่อยและเริ่มหอบอย่างหนักพร้อมเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้า

“มหัศจรรย์ ความรู้สึกนี่มันช่างยอดเยี่ยม! ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เซี่ยงเส้าหยุนเหวี่ยงหัวไปด้านหลังและคำรามด้วยเสียงหัวเราะ มีหรือที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับพื้นฐานขั้นที่เจ็ดสามารถปลดปล่อยพลังปราณออกนอกร่าง? หากทำได้ เช่นนั้นคิดพลิกฟ้าเบิกสวรรค์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก!

ทั่วทั้งเมืองอู่และแม้แต่นครขอบเมฆา ไม่อาจกล่าวได้ว่ามีผู้ใดที่ทำสิ่งท้าทายต่อสวรรค์ได้สำเร็จ! แม้แต่เซี่ยงเส้าหยุนก็มีความสุขกับความน่าเหลือเชื่อนี้

 

ในสองวันนั้น เซี่ยงเส้าหยุนดูดซับแสงอาทิตย์สีม่วงในยามเช้าตรู่ตามปกติ ณ เวลานี้เขาดูดซับได้มากขึ้นถึงสามเท่า เพราะความก้าวหน้าทางการฝึกฝน อย่างที่กล่าวไว้ แสงอาทิตย์สีม่วงที่ดูดกลืนเข้าไปยังไม่อาจทำร้ายเก้าดวงดาวอันยิ่งใหญ่ได้ เก้าดวงดาวของเขาราวกับเป็นนรกไร้ก้นบึ้งไม่มีผู้ใดทราบว่าอีกนานเพียงใดจึงจะเติมเต็มมันได้

เซี่ยงเส้าหยุนยืนขึ้นก่อนจะตรงไปยังคลังอาวุธ ในฐานะศิษย์ชั้นนอก ในตอนแรกเซี่ยงเส้าหยุนไม่อาจละเลยการฝึกซ้อมได้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้อยู่ในหอคอยแห่งขีดจำกัดในสามวันที่ผ่านมา! อาจไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้แต่กับผู้ดูแลชั้นนอกนั้นรู้ทุกสิ่งที่เขาทำ

เพราะเหตุนี้ทำให้เซี่ยงเส้าหยุนไม่ต้องฝึกอยู่ในสวนชั้นนอกเหมือนศิษย์ผู้อื่นอีกต่อไป เขาจะต้องก้าวขึ้นไปเป็นศิษย์สิบอันดับแรกอย่างแน่นอน และเพื่อการประลองระหว่างอู่หมิงเหลียงกับตนซึ่งที่เป็นเรื่องค้างคามายาวนาน ในสายตาของเขานั้น อู่หมิงเหลียงเป็นเพียงตัวตลกที่ไม่ควรค่าแก่การมองเสียด้วยซ้ำ

คลังอาวุธตั้งอยู่ภายในสวนชั้นใน ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าศิษย์ชั้นในส่วนใหญ่และพวกเขาไม่ค่อยชอบเหล่าศิษย์ชั้นนอกนัก ที่นั่นเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ถูกติดตั้งไปด้วยอุปกรณ์ฝึกฝนพื้นฐาน และยังมีห้องจำนวนมากที่ถูกสร้างสำหรับเหล่าศิษย์ชั้นในเพื่อฝึกตนอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีลานประลองขนาดใหญ่ โดยผู้อาวุโสจะจัดบทเรียนต่าง ๆ ทุกครึ่งเดือน เช่นบทเรียนเกี่ยวกับการฝึกฝนวิทยายุทธ์และอื่น ๆ

ศิษย์ชั้นในจะได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าและออกจากตำหนักยุทธ์ได้อย่างอิสระ ดังนั้นจึงพบเห็นผู้คนที่ในสวนชั้นในแทบไม่ซ้ำหน้า ในขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนก้าวเท้าเข้ามายังสวนชั้นใน เขาได้เห็นเหล่าผู้เยาว์ที่ดูห้าวหาญและน่าเกรงขามหลายคนกำลังขี่สัตว์อสูรที่ต่างกันออกไป

“เมื่อมีโอกาส เราจะต้องหามาขี่บ้างแล้ว เพียงเท่านี้ก็คงจะเป็นที่สะดุดตาแน่” เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบกับตนเอง ในตอนนี้มีหญิงสาวสวมอาภรณ์สีแดงเพลิงและขี่แมวอัคคีแผดเผาวิ่งไปยังทางออกสวนด้านใน

“ถอยออกไป!” หญิงสาวชุดสีแดงตะโกนใส่เซี่ยงเส้าหยุนที่กำลังมึนงง

ทางออกสวนชั้นในกว้างใหญ่ขนาดที่จะใส่ภูเขานับสิบพร้อมกันทั้งเข้าและออก แต่หญิงสาวสวมชุดสีแดงยังคงตรงมาที่เซี่ยงเส้าหยุนที่ยังคงยืนนิ่งกับที่ นางไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อยและตรงดิ่งเข้ามา เซี่ยงเส้าหยุนไม่สามารถหลีกทางให้นางได้ แมวอัคคีแผดเผานั้นรวดเร็วมากและเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว

“โอ๊ะ ไม่นะ!” เซี่ยงเส้าหยุนร้องออกมา

ในช่วงเวลาวิกฤติ หญิงสาวในชุดแดงแทบจะไม่สามารถควบคุมแมวอัคคีแผดเผาให้หลบเซี่ยงเส้าหยุนได้

“เจ้าบ้า! เจ้ากล้าดียังไงถึงมาขวางทางหลี่หงเอ๋อผู้นี้?!” หญิงสาวในชุดแดงกำลังตกใจ แส้ยาวของเธอฟาดไปยังเซี่ยงเส้าหยุน

เพี๊ยะ!

แส้ที่ฟาดลงมาอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาก็ได้ฟาดเข้าที่หน้าของเซี่ยงเส้าหยุน ทำให้เกิดรอยแดงและมีเลือดไหลออกมาจากตรงนั้น

            โอ้ย เจ็บนะ!

อาการปวดแสบปวดร้อนแพร่กระจายไปทุกอณูร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุนทันที ไม่เพียงเท่านั้น เขายังรู้สึกถึงความอัปยศอดสูอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาต้องเสียโฉม!

“นี่จะเป็นบทเรียนแก่เจ้า สุนัขที่ดีจะไม่มาขวางทางหรอกนะ!” หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าหลี่หงเอ๋อถ่มน้ำลายอย่างเย็นชาก่อนจะขี่แมวอัคคีแผดเผาออกไปจากสวนชั้นใน

“บ้าเอ้ย หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เซี่ยงเส้าหยุนเริ่มรู้สึกตัวและตะโกนด้วยความโกรธใส่หลี่หงเอ๋อที่อยู่ห่างไกล นางสามารถตีเขาได้ทุกที่แต่ดันฟาดมายังใบหน้าอันหล่อเหลา! นั่นเป็นสิ่งต้องห้าม! น่าเศร้าที่ตอนนี้นางไปไกลแล้ว เขาจะจับอสูรระดับกลางยังไงด้วยความเร็วในตอนนี้?

“ข้าจะจดจำแส้นั่นไว้!” เซี่ยงเส้าหยุนตะโกนไปในทิศทางที่หญิงสาวชุดแดงไป

“ศิษย์น้อง ดูเหมือนเจ้าไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ นี่เจ้าไม่รู้จักศิษย์พี่หงเอ๋องั้นรึ? แถมเจ้ายังกล้าแสดงกิริยาเช่นนี้ต่อนางด้วย” ศิษย์ชั้นในที่ผ่านมาถามด้วยความประหลาดใจ

เซี่ยงเส้าหยุนส่ายหัวและกล่าว “ข้าเป็นศิษย์คนใหม่ที่นี่ ดังนั้นจึงไม่คุ้นเคยกับสตรีที่ร้ายกาจเช่นนี้ อย่างไรเสียข้าขอคำชี้แนะจากศิษย์พี่ด้วย”

“นางเป็นธิดาของผู้อาวุโสที่สิบสาม หลี่เสวียเหมิง หากเจ้ากล้าต่อต้านนางผู้อาวุโสลำดับที่สิบสามคงจะเตะเจ้าออกไปจากตำหนักยุทธ์แห่งนี้!” ศิษย์ชั้นในกล่าวอย่างกรุณาต่อเซี่ยงเส้าหยุนก่อนจะรีบเดินจากไป

นางเป็นลูกสาวของผู้อาวุโสที่สิบสาม! ไม่แปลกใจในความอวดดีของนางเลย เซี่ยงเส้าหยุนคิดในใจ ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร “แม้จะเป็นลูกสาวของจ้าวตำหนัก หากมาตบหน้าข้า นางก็จะต้องตาย!”

เซี่ยงเส้าหยุนที่ตอนแรกจะวางแผนมาเยี่ยมชมคลังอาวุธ ได้พุ่งไปยังโถงโอสถและหาสมุนไพรในการรักษาแผลของตน เพราะเกรงว่าจะมีแผลเป็นหลงเหลือบนใบหน้า โถงโอสถอยู่ไม่ไกลจากคลังอาวุธนัก เมื่อเข้าไปใกล้จึงได้กลิ่นหอมสมุนไพรโชยออกมา

เซี่ยงเส้าหยุนรีบร้อนเข้าไปยังด้านในและถามผู้ดูแลของโถงแห่งนี้ “ท่านผู้ดูแล ท่านมียาวิญญาณหญ้าละลายลิ่มโลหิตเพื่อหยุดการไหลเวียนของโลหิตภายนอกและรักษาบาดแผลหรือไม่?”

“หญ้าละลายลิ่มโลหิตเป็นยาวิญญาณระดับสูงในตำนานเชียวนะ! เจ้าหนู หากเจ้ามาที่นี่เพื่อล้อเล่นเจ้าจงออกไปจากโถงโอสถแห่งนี้เสีย” ผู้ดูแลเผยความโกรธที่รุนแรงออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชาเหนือราชัน 17 : ข้าจะจดจำแรงกระตุ้นนี้ไว้!

Now you are reading ราชาเหนือราชัน Chapter 17 : ข้าจะจดจำแรงกระตุ้นนี้ไว้! at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เซี่ยงเส้าหยุนได้บรรลุถึงระดับพื้นฐานขั้นเจ็ดอย่างราบรื่น ถึงอย่างนั้นกลับไม่มีร่องรอยแห่งความสุขบนใบหน้า ในดวงตาของเขาความแข็งแกร่งนี้ยังต่ำนัก ความคาดหวังของเขาสูงส่ง มันยังมีเรื่องยิบย่อยอีกมากที่เขาต้องข้ามผ่าน

หมัดพลังปราณ!

เซี่ยงเส้าหยุนลุกขึ้นผลักร่างของตนไปด้านหน้า เขาเริ่มยื่นแขนและกำปั้นไปด้านหน้า หมัดของเขาแข็งราวกับหิน การต่อยนั้นดุเดือดมากแม้แค่โดนอากาศ ก็ส่งผลให้เกิดคลื่นเสียงได้ ความแข็งแกร่งของหนึ่งหมัดที่ถูกปล่อยออกมานั้นไม่ใช่สิ่งที่ผู้มีระดับพื้นฐานขั้นเจ็ดจะต้านทานได้ ขณะหมัดที่สองทะยานออก มันมีพลังปราณเคลื่อนไหวภายในเส้นลมปราณที่แขน พร้อมระเบิดเอาพลังออกมาผ่านหมัด

“ออกมา!” เซี่ยงเส้าหยุนตะโกน ดวงดาวในร่างกายส่องสว่าง จุดสัมผัสเริ่มปั่นป่วนขณะที่พลังปราณเคลื่อนที่ผ่านเส้นลมปราณราวกับสายน้ำก่อนจะออกจากร่างกายของตน

ฟึ่บ ฟึ่บ ฟึ่บ!

ในชั่วอึดใจเดียว เซี่ยงเส้าหยุนปล่อยหมัดสามครั้งติดต่อกัน แต่ละหมัดเต็มไปด้วยพลังงานท่วงท่านั้นเข้าถึงขีดสุด ในขณะที่ปล่อยหมัดที่สี่ ทำให้พลังปราณที่ไหลเกิดระเบิดขึ้นก่อนจะไหลออกมาจากเส้นลมปราณ พลังปราณที่เหมือนกับเมฆหมอกนั้นกลับมีพลังเพียงพอที่จะทำให้ผู้คนตื่นตกใจได้

ฟึ่บ!

หมัดนี้ทำให้เกิดการสั่นไหวที่รุนแรง และรุนแรงมากขึ้นเมื่อพลังงานดวงดาวแปรเปลี่ยนเป็นพลังปราณ เมื่อปล่อยพลังปราณออกมา โดยปกติแล้วนี่เป็นสัญลักษณ์ของผู้ที่ขึ้นมาถึงระดับดวงดาวแล้ว

หลังจากที่ปล่อยหมัด ความแข็งแกร่งของเซี่ยงเส้าหยุนได้มากมายกว่าแต่ก่อนราวคนคลุ้มคลั่ง เขาปล่อยหมัดออกไปติดกันสิบครั้ง ทุกหมัดมาพร้อมพลังปราณ มันทิ้งไว้ซึ่งความรู้สึกบีบคั้นในทุกหมัดที่ปล่อยออก ต้นไม้เก่าแก่ที่อยู่ในบริเวณนั้นถูกจู่โจมด้วยพลังปราณและก่อให้เกิดรูขนาดใหญ่ที่ ต้นไม้ที่ไม่อาจพยุงตัวจนที่สุดต้องโค่นลง

ในตอนนี้ทำให้เซี่ยงเส้าหยุนหยุดปล่อยหมัด เขารู้สึกเหนื่อยและเริ่มหอบอย่างหนักพร้อมเหงื่อผุดขึ้นบนใบหน้า

“มหัศจรรย์ ความรู้สึกนี่มันช่างยอดเยี่ยม! ฮ่า ฮ่า ฮ่า” เซี่ยงเส้าหยุนเหวี่ยงหัวไปด้านหลังและคำรามด้วยเสียงหัวเราะ มีหรือที่ผู้ฝึกยุทธ์ระดับพื้นฐานขั้นที่เจ็ดสามารถปลดปล่อยพลังปราณออกนอกร่าง? หากทำได้ เช่นนั้นคิดพลิกฟ้าเบิกสวรรค์ก็ไม่ใช่เรื่องยาก!

ทั่วทั้งเมืองอู่และแม้แต่นครขอบเมฆา ไม่อาจกล่าวได้ว่ามีผู้ใดที่ทำสิ่งท้าทายต่อสวรรค์ได้สำเร็จ! แม้แต่เซี่ยงเส้าหยุนก็มีความสุขกับความน่าเหลือเชื่อนี้

 

ในสองวันนั้น เซี่ยงเส้าหยุนดูดซับแสงอาทิตย์สีม่วงในยามเช้าตรู่ตามปกติ ณ เวลานี้เขาดูดซับได้มากขึ้นถึงสามเท่า เพราะความก้าวหน้าทางการฝึกฝน อย่างที่กล่าวไว้ แสงอาทิตย์สีม่วงที่ดูดกลืนเข้าไปยังไม่อาจทำร้ายเก้าดวงดาวอันยิ่งใหญ่ได้ เก้าดวงดาวของเขาราวกับเป็นนรกไร้ก้นบึ้งไม่มีผู้ใดทราบว่าอีกนานเพียงใดจึงจะเติมเต็มมันได้

เซี่ยงเส้าหยุนยืนขึ้นก่อนจะตรงไปยังคลังอาวุธ ในฐานะศิษย์ชั้นนอก ในตอนแรกเซี่ยงเส้าหยุนไม่อาจละเลยการฝึกซ้อมได้ ถึงอย่างนั้นเขาก็ได้อยู่ในหอคอยแห่งขีดจำกัดในสามวันที่ผ่านมา! อาจไม่มีผู้ใดรู้เรื่องนี้แต่กับผู้ดูแลชั้นนอกนั้นรู้ทุกสิ่งที่เขาทำ

เพราะเหตุนี้ทำให้เซี่ยงเส้าหยุนไม่ต้องฝึกอยู่ในสวนชั้นนอกเหมือนศิษย์ผู้อื่นอีกต่อไป เขาจะต้องก้าวขึ้นไปเป็นศิษย์สิบอันดับแรกอย่างแน่นอน และเพื่อการประลองระหว่างอู่หมิงเหลียงกับตนซึ่งที่เป็นเรื่องค้างคามายาวนาน ในสายตาของเขานั้น อู่หมิงเหลียงเป็นเพียงตัวตลกที่ไม่ควรค่าแก่การมองเสียด้วยซ้ำ

คลังอาวุธตั้งอยู่ภายในสวนชั้นใน ซึ่งเป็นที่อยู่ของเหล่าศิษย์ชั้นในส่วนใหญ่และพวกเขาไม่ค่อยชอบเหล่าศิษย์ชั้นนอกนัก ที่นั่นเป็นพื้นที่ว่างเปล่าขนาดใหญ่ถูกติดตั้งไปด้วยอุปกรณ์ฝึกฝนพื้นฐาน และยังมีห้องจำนวนมากที่ถูกสร้างสำหรับเหล่าศิษย์ชั้นในเพื่อฝึกตนอยู่ภายใน นอกจากนี้ยังมีลานประลองขนาดใหญ่ โดยผู้อาวุโสจะจัดบทเรียนต่าง ๆ ทุกครึ่งเดือน เช่นบทเรียนเกี่ยวกับการฝึกฝนวิทยายุทธ์และอื่น ๆ

ศิษย์ชั้นในจะได้รับอนุญาตให้สามารถเข้าและออกจากตำหนักยุทธ์ได้อย่างอิสระ ดังนั้นจึงพบเห็นผู้คนที่ในสวนชั้นในแทบไม่ซ้ำหน้า ในขณะที่เซี่ยงเส้าหยุนก้าวเท้าเข้ามายังสวนชั้นใน เขาได้เห็นเหล่าผู้เยาว์ที่ดูห้าวหาญและน่าเกรงขามหลายคนกำลังขี่สัตว์อสูรที่ต่างกันออกไป

“เมื่อมีโอกาส เราจะต้องหามาขี่บ้างแล้ว เพียงเท่านี้ก็คงจะเป็นที่สะดุดตาแน่” เซี่ยงเส้าหยุนกระซิบกับตนเอง ในตอนนี้มีหญิงสาวสวมอาภรณ์สีแดงเพลิงและขี่แมวอัคคีแผดเผาวิ่งไปยังทางออกสวนด้านใน

“ถอยออกไป!” หญิงสาวชุดสีแดงตะโกนใส่เซี่ยงเส้าหยุนที่กำลังมึนงง

ทางออกสวนชั้นในกว้างใหญ่ขนาดที่จะใส่ภูเขานับสิบพร้อมกันทั้งเข้าและออก แต่หญิงสาวสวมชุดสีแดงยังคงตรงมาที่เซี่ยงเส้าหยุนที่ยังคงยืนนิ่งกับที่ นางไม่ได้สนใจเขาเลยแม้แต่น้อยและตรงดิ่งเข้ามา เซี่ยงเส้าหยุนไม่สามารถหลีกทางให้นางได้ แมวอัคคีแผดเผานั้นรวดเร็วมากและเข้ามาใกล้อย่างรวดเร็วเพียงพริบตาเดียว

“โอ๊ะ ไม่นะ!” เซี่ยงเส้าหยุนร้องออกมา

ในช่วงเวลาวิกฤติ หญิงสาวในชุดแดงแทบจะไม่สามารถควบคุมแมวอัคคีแผดเผาให้หลบเซี่ยงเส้าหยุนได้

“เจ้าบ้า! เจ้ากล้าดียังไงถึงมาขวางทางหลี่หงเอ๋อผู้นี้?!” หญิงสาวในชุดแดงกำลังตกใจ แส้ยาวของเธอฟาดไปยังเซี่ยงเส้าหยุน

เพี๊ยะ!

แส้ที่ฟาดลงมาอย่างรวดเร็วเพียงพริบตาก็ได้ฟาดเข้าที่หน้าของเซี่ยงเส้าหยุน ทำให้เกิดรอยแดงและมีเลือดไหลออกมาจากตรงนั้น

            โอ้ย เจ็บนะ!

อาการปวดแสบปวดร้อนแพร่กระจายไปทุกอณูร่างกายของเซี่ยงเส้าหยุนทันที ไม่เพียงเท่านั้น เขายังรู้สึกถึงความอัปยศอดสูอย่างที่ไม่เคยประสบมาก่อน ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาต้องเสียโฉม!

“นี่จะเป็นบทเรียนแก่เจ้า สุนัขที่ดีจะไม่มาขวางทางหรอกนะ!” หญิงสาวที่เรียกตัวเองว่าหลี่หงเอ๋อถ่มน้ำลายอย่างเย็นชาก่อนจะขี่แมวอัคคีแผดเผาออกไปจากสวนชั้นใน

“บ้าเอ้ย หยุดเดี๋ยวนี้นะ!” เซี่ยงเส้าหยุนเริ่มรู้สึกตัวและตะโกนด้วยความโกรธใส่หลี่หงเอ๋อที่อยู่ห่างไกล นางสามารถตีเขาได้ทุกที่แต่ดันฟาดมายังใบหน้าอันหล่อเหลา! นั่นเป็นสิ่งต้องห้าม! น่าเศร้าที่ตอนนี้นางไปไกลแล้ว เขาจะจับอสูรระดับกลางยังไงด้วยความเร็วในตอนนี้?

“ข้าจะจดจำแส้นั่นไว้!” เซี่ยงเส้าหยุนตะโกนไปในทิศทางที่หญิงสาวชุดแดงไป

“ศิษย์น้อง ดูเหมือนเจ้าไม่คุ้นเคยกับสถานที่แห่งนี้ นี่เจ้าไม่รู้จักศิษย์พี่หงเอ๋องั้นรึ? แถมเจ้ายังกล้าแสดงกิริยาเช่นนี้ต่อนางด้วย” ศิษย์ชั้นในที่ผ่านมาถามด้วยความประหลาดใจ

เซี่ยงเส้าหยุนส่ายหัวและกล่าว “ข้าเป็นศิษย์คนใหม่ที่นี่ ดังนั้นจึงไม่คุ้นเคยกับสตรีที่ร้ายกาจเช่นนี้ อย่างไรเสียข้าขอคำชี้แนะจากศิษย์พี่ด้วย”

“นางเป็นธิดาของผู้อาวุโสที่สิบสาม หลี่เสวียเหมิง หากเจ้ากล้าต่อต้านนางผู้อาวุโสลำดับที่สิบสามคงจะเตะเจ้าออกไปจากตำหนักยุทธ์แห่งนี้!” ศิษย์ชั้นในกล่าวอย่างกรุณาต่อเซี่ยงเส้าหยุนก่อนจะรีบเดินจากไป

นางเป็นลูกสาวของผู้อาวุโสที่สิบสาม! ไม่แปลกใจในความอวดดีของนางเลย เซี่ยงเส้าหยุนคิดในใจ ดวงตาเต็มไปด้วยเจตนาสังหาร “แม้จะเป็นลูกสาวของจ้าวตำหนัก หากมาตบหน้าข้า นางก็จะต้องตาย!”

เซี่ยงเส้าหยุนที่ตอนแรกจะวางแผนมาเยี่ยมชมคลังอาวุธ ได้พุ่งไปยังโถงโอสถและหาสมุนไพรในการรักษาแผลของตน เพราะเกรงว่าจะมีแผลเป็นหลงเหลือบนใบหน้า โถงโอสถอยู่ไม่ไกลจากคลังอาวุธนัก เมื่อเข้าไปใกล้จึงได้กลิ่นหอมสมุนไพรโชยออกมา

เซี่ยงเส้าหยุนรีบร้อนเข้าไปยังด้านในและถามผู้ดูแลของโถงแห่งนี้ “ท่านผู้ดูแล ท่านมียาวิญญาณหญ้าละลายลิ่มโลหิตเพื่อหยุดการไหลเวียนของโลหิตภายนอกและรักษาบาดแผลหรือไม่?”

“หญ้าละลายลิ่มโลหิตเป็นยาวิญญาณระดับสูงในตำนานเชียวนะ! เจ้าหนู หากเจ้ามาที่นี่เพื่อล้อเล่นเจ้าจงออกไปจากโถงโอสถแห่งนี้เสีย” ผู้ดูแลเผยความโกรธที่รุนแรงออกมา

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+