ราชินีพลิกสวรรค์ 229 ทำไมถึงได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 229 ทำไมถึงได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เก็บให้เจียงเฮ่าและลู่เสวียนสิบก้าน ภารกิจนั่นข้าลบมันไปแล้ว พวกเขาน่าจะยังไม่เห็น” เจียงหลีอธิบาย

 

 

ทว่า คำพูดเหล่านี้ของนางกลับทำให้มู่ชิงเกอเข้าใจว่าเจียงหลีรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้ว

 

 

ก็เหมือนกับนางในตอนแรก หลังจากที่ประสบพบเจอกับเรื่องต่างๆ ในหลินชวน ก็เริ่มรู้สึกเป็นหนึ่งในสรรพสิ่งของโลกใบนั้นไปแล้ว

 

 

“อืม” มู่ชิงเกอขานรับเบาๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

เวลานี้ จิตใจนางว้าวุ่นนัก

 

 

นางตามหาหมื่นร้อยพันแห่ง ตามหาในโลกใบแล้วใบเล่า ก็เพื่อจะได้พบเจียงหลีแล้วพานางกลับไป ตอนนี้ เมื่อนางพบเจียงหลีแล้ว เจียงหลีกลับยอมทิ้งโอกาสในการจากโลกนี้ไปเสีย

 

 

เจ้ามีทางของเจ้า ข้ามีทางของข้า

 

 

ถนนสามพันสาย ต่างก็มาบรรจบกันทั้งสิ้น!

 

 

มู่ชิงเกอสูดลมหายใจเข้าแล้วปล่อยวาง ไม่ว่าอย่างไร นางและเจียงหลีก็จะได้พบกันใหม่ในโลกใบหลัก ก็แค่เวลาเพียงร้อยปี พันปี นางรอก็ได้

 

 

“ชิงเกอ” เสียงของเจียงหลีปลุกนางตื่นจากภวังค์

 

 

“หืม” มู่ชิงเกอมองไปทางนาง

 

 

เจียงหลีกับนางมองตาแล้วเงียบไปสักพัก แต่แล้วก็ยิ้มออกมา “หากเจ้าเป็นชายจริงๆ ก็คงดี จักรพรรดินีอย่างข้าก็คงแต่งงานกับเจ้าไปนานแล้ว” พูดจบก็ยังไม่ลืมที่จะแอบลูบหน้าของนาง

 

 

มู่ชิงเกอจับมือที่ซุกซนของนาง กล่าวอย่างขบขัน “หากข้าเป็นชายจริงๆ ข้าก็จะขอเจ้าแต่งงานแน่นอน”

 

 

เจียงหลียิ้มอย่างสดใส “เสน่ห์ของจักรพรรดินีอย่างข้ามากล้นเสียจริง”

 

 

“แน่นอนอยู่แล้ว!” มู่ชิงเกอยักคิ้วสนอง

 

 

เจียงหลียิ้มเบาๆ เดินไปพร้อมกับมู่ชิงเกอ มุ่งไปยังที่ที่แผนที่ชี้เป้า “ร้อยคะแนนได้มาอย่างงายดาย”

 

 

“หากพบคนระหว่างทาง จะแย่งคะแนนหรือไม่” มู่ชิงเกอเอ่ยถาม

 

 

เจียงหลีส่ายหน้า “ไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้ยังวันที่สองอยู่ ถึงแม้จะมีคนได้คะแนน แต่จะได้เท่าไรเชียว แพะ ต้องเลี้ยงจนอ้วนก่อนแล้วค่อยเชือด”

 

 

ทันใดนั้น นางก็ชะงักไป กลอกตามองไปทางมู่ชิงเกอ มองดูท่าทางกลั้นหัวเราะของนาง ก็เลิกคิ้ว “ดีจริงๆ! เจ้าลองใจข้า! ว่าแต่ ในสายตาเจ้าข้าโง่เขลาเพียงนั้นเลยหรือ”

 

 

“ไม่โง่ แต่กลับกัน จักรพรรดินีฉลาดเฉลียวมากเพคะ” มู่ชิงเกอส่ายหน้าพลางหัวเราะ “เพียงแต่ เจ้าเกียจคร้านนัก ข้ากลัวว่าเจ้าจะเปื่อยเอาได้”

 

 

หากไม่ได้เห็นกับตาว่าเจียงหลีได้มีชีวิตต่อไปจริงๆ นางจะจากไปอย่างวางใจได้อย่างไร

 

 

ถูกมู่ชิงเกอพูดจี้จุด เจียงหลีมุมปากก็กระตุกอย่างแรง ไร้ซึ่งคำโต้งเถียงใด เหอะๆ นางยอมรับว่าตนนั้นเกียจคร้าน…เล็กน้อย

 

 

ต้องบอกว่า ต่อหน้าคนที่นางไว้ใจและมีความสามารถนั้น เมื่อนางพบเจอปัญหาใดก็มักคร้านที่จะใช้สมอง

 

 

เหมือนเมื่อก่อนที่นางติดตามมู่ชิงเกอ เหมือนปัจจุบันที่นางพึ่งพาอาศัยลู่เจี้ย

 

 

“ข้าจะพยายามปรับปรุงตัว” เจียงหลีถูกสายตาของมู่ชิงเกอจ้องจนขนลุกจึงได้แต่พยักหน้า

 

 

มู่ชิงเกอยิ้มพลางส่ายหน้า ไม่พูดอะไรต่อ

 

 

ระหว่างทาง ก็ไม่ได้พบคนอื่นๆ อีก แต่ว่า ก็ยังพบเบาะแสของภารกิจบางส่วน แต่ว่า ภารกิจเหล่านั้น ล้วนเป็นภารกิจระดับหนึ่ง เสร็จสิ้นแล้วก็ได้คะแนนเพียงหนึ่งคะแนน ไม่ก็ห้าคะแนน จึงถูกเจียงหลีรังเกียจไปโดยปริยาย

 

 

เมื่อพวกนางมาถึงสถานที่ตามที่แผนที่บอกจึงได้พบว่า ที่นี่เป็นทะเลทรายแห้งแล้งอันร้อนระอุ

 

 

“ที่นี่มันพื้นที่อะไรกันแน่ สภาพแวดล้อมอากาศแต่ละอย่างมีเพียงแค่เส้นบางๆ คั่นไว้” เจียงหลีอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง

 

 

มู่ชิงเกอครุ่นคิดไปสักครู่ แล้วกล่าวเสียงแผ่วเบา “เหมือนกับเศษพื้นที่ที่ซือมั่วสร้างขึ้นมา แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว”

 

 

เจียงหลีพยักหน้าเห็นด้วย นางยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก กล่าวขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ร้อนจัง ไม่รู้ว่าภารกิจนี้ จะให้ทำอะไรกันแน่”

 

 

“ในเมื่อเบาะแสเดิมชี้ให้มาที่นี่ ก็ย่อมมีเบาะแสใหม่” มู่ชิงเกอมองท่าทางร้อนรนของนาง ก็โบกมือ แล้วความเย็นสบายก็ครอบคลุมอยู่บนหัวของเจียงหลีทันใด

 

 

ทันใดนั้น เจียงหลีก็มีท่าทีสดชื่น แล้วมองไปยังมู่ชิงเกออย่างนับถือ

 

 

“ไปกันเถิด” มู่ชิงเกอเพิกเฉยกับสายตาประจบประแจงของนางแล้วเชิดหน้าขึ้น

 

 

“ชิงเกอ ข้าพบว่าการพาเจ้าเข้ามา เป็นเรื่องที่ฉลาดยิ่งนัก!” เจียงหลีชะโงกตัวเข้าไปใกล้ด้วยท่าทางยิ้มแย้ม

 

 

มู่ชิงเกอหรี่ตามองนาง “เมื่อครู่ใครกันที่ชังข้าเข้าไส้”

 

 

“ใคร ใครช่างเหิมเกริมนัก กล้าชังชิงเกอของพวกเรา ข้าคนแรกที่จะไม่ไว้ชีวิตมัน!” เจียงหลีกล่าวด้วยสีหน้าประจบ

 

 

ท่าทีไร้ยางอายของนางเช่นนี้ ทำให้มู่ชิงเกอหมดคำพูด

 

 

ยิ่งเดินเข้าไปด้านใน ความร้อนระอุก็ยิ่งทวีคูณ เจียงหลีคิดว่า หากไม่มีมู่ชิงเกอคอยลดอุณหภูมิให้นางอยู่เป็นพักๆ แล้ว นางยังเดินไม่ถึงสถานที่ทำภารกิจก็คงละลายไปก่อนแล้ว

 

 

เฮ้อ ความรู้สึกว่าเป็นไก่อ่อนนั้นไม่ดีงามเลยจริงๆ! จักรพรรดินีบางคนบ่นอุบอิบอยู่ในใจ

 

 

“เจียงหลี ดูนั่น” ทันใดนั้น มู่ชิงเกอก็หยุดเดินแล้วยกมือขึ้นชี้ไปทางที่แห่งหนึ่ง

 

 

เจียงหลีมองไป ก็ชะงักไป แล้วก็ตะโกนเสียงหลง “ปากถ้ำ!” ที่นี่เป็นทะเลทรายแห้งแล้ง มีเพียงปากถ้ำปรากฏอยู่ตรงนี้ “ไป ไปดูกัน”

 

 

ทั้งสองไม่ลังเล เดินไปยังปากถ้ำนั่นอย่างรวดเร็ว

 

 

เมื่อเดินถึงปากถ้ำ คลื่นความร้อนลูกหนึ่งก็ปะทะเข้ามา อากาศแห่งเปลวเพลิงนั้น เหมือนดั่งกลายร่างเป็นกะโหลกของสัตว์ร้าย คำรามใส่คนทั้งสอง อ้าปากกว้างจะกลืนกินทั้งสองลงไป

 

 

มู่ชิงเกอขวางอยู่ข้างหน้าเจียงหลี โบกแขนเสื้อ กรอกลมเย็นสบายเข้าปากถ้ำ สลายอากาศแห่งเปลวเพลิงที่จับตัวกันเป็นหัวสัตว์นั้นไป

 

 

“ชิงเกอ เจ้าเยี่ยมมาก!” เจียงหลีกระพริบตาให้มู่ชิงเกอ

 

 

มู่ชิงเกอจนใจจึงยิ้มออกมา ก้าวเท้ามุดเข้าไปในถ้ำ เจียงหลีตามติดนางเข้าไป เมื่อเข้าไปในถ้ำ ตรงหน้านางก็เต็มไปด้วยสีแดงทั้งผืน

 

 

“หินหนืด!” นางตะโกนออกมา

 

 

ไม่คิดว่า ในถ้ำนี้ จะเป็นหินหนืดที่เหมือนดั่งคลื่นใต้น้ำ

 

 

ตรงข้ามหินหนืดนั้นมีดอกไม้สวยงามประหลาดอยู่ รากของมันเจาะทะลุก้อนหินอันแข็งแกร่งลงไปในหินหนืด เหมือนว่ามันอาศัยการดูดซึมหินหนืดเพื่อการเจริญเติบโต

 

 

บนกำแพงหินด้านหลังของมัน มีตัวหนังสือสีทองสลักอยู่ [เด็ดดอกไม้นี้ รางวัลสองร้อยคะแนน ภารกิจระดับห้า]

 

 

“ช่างเป็นดอกไม้ที่น่าอัศจรรย์นัก! มีชีวิตด้วยหินหนืด ชิงเกอ เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คือพืชชนิดใด” เจียงหลีประหลาดใจ

 

 

มู่ชิงเกอแยกแยะอย่างละเอียด แล้วส่ายหน้า “ในโลกสามพันใบนั้น มีสรรพสิ่งพันหมื่นชนิด โดยเฉพาะพืช ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้อะไร แต่ว่า ในเมื่อมันกำเนิดอยู่ในหินหนืด ก็ย่อมไม่ธรรมดา”

 

 

“เด็ดดอกไม้หนึ่งดอก ก็ให้สองร้อยคะแนนแล้ว! คิดว่าดอกไม้นี้คงจะเด็ดมาไม่ง่ายเป็นแน่” เจียงหลีกล่าวเสียงแผ่วเบา ไม่ได้คิดว่านี่คือดอกอะไรอีก

 

 

“ครั้งนี้ข้าเอง เจ้ายืนดูอยู่ตรงนี้ก็พอ” มู่ชิงเกอกลับกล่าวขึ้นกะทันหัน

 

 

“ฮะ” เจียงหลีมองนางอย่างตกตะลึง

 

 

ทว่า มู่ชิงเกอไม่ได้ให้เวลานางตอบสนอง กระโดดขึ้นข้ามหินหนืดที่ปะทุอยู่ข้างล่าง ลอยไปยังดอกไม้ประหลาดนั่น

 

 

แล้วนางก็ลอยตัวตกลงเหยียบบนหินข้างดอกไม้ประหลาดอย่างง่ายดาย

 

 

ง่ายดายเพียงนี้ ทั้งมู่ชิงเกอและเจียงหลีรู้สึกประหลาด

 

 

“ชิงเกอระวัง! ” เจียงหลีกล่าวเตือน

 

 

มู่ชิงเกอสายตาชะงักไปเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไปจับก้านดอกไม้ประหลาด ยังคง…นิ่งสงบ

 

 

หยุดชะงักไปชั่วครู่ มู่ชิงเกอใช้แรงดึงดอกไม้ประหลาดออกมา

 

 

ทว่า ในเวลานี้เอง ใต้ดอกไม้ประหลาดในถ้ำ กลับมีเสียงคำรามอย่างโหดร้ายของสัตว์ดังขึ้น.

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 229 ทำไมถึงได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 229 ทำไมถึงได้ยอดเยี่ยมเพียงนี้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“เก็บให้เจียงเฮ่าและลู่เสวียนสิบก้าน ภารกิจนั่นข้าลบมันไปแล้ว พวกเขาน่าจะยังไม่เห็น” เจียงหลีอธิบาย

 

 

ทว่า คำพูดเหล่านี้ของนางกลับทำให้มู่ชิงเกอเข้าใจว่าเจียงหลีรู้สึกว่าตนเป็นส่วนหนึ่งของโลกใบนี้ไปแล้ว

 

 

ก็เหมือนกับนางในตอนแรก หลังจากที่ประสบพบเจอกับเรื่องต่างๆ ในหลินชวน ก็เริ่มรู้สึกเป็นหนึ่งในสรรพสิ่งของโลกใบนั้นไปแล้ว

 

 

“อืม” มู่ชิงเกอขานรับเบาๆ แล้วก็ไม่ได้พูดอะไรอีก

 

 

เวลานี้ จิตใจนางว้าวุ่นนัก

 

 

นางตามหาหมื่นร้อยพันแห่ง ตามหาในโลกใบแล้วใบเล่า ก็เพื่อจะได้พบเจียงหลีแล้วพานางกลับไป ตอนนี้ เมื่อนางพบเจียงหลีแล้ว เจียงหลีกลับยอมทิ้งโอกาสในการจากโลกนี้ไปเสีย

 

 

เจ้ามีทางของเจ้า ข้ามีทางของข้า

 

 

ถนนสามพันสาย ต่างก็มาบรรจบกันทั้งสิ้น!

 

 

มู่ชิงเกอสูดลมหายใจเข้าแล้วปล่อยวาง ไม่ว่าอย่างไร นางและเจียงหลีก็จะได้พบกันใหม่ในโลกใบหลัก ก็แค่เวลาเพียงร้อยปี พันปี นางรอก็ได้

 

 

“ชิงเกอ” เสียงของเจียงหลีปลุกนางตื่นจากภวังค์

 

 

“หืม” มู่ชิงเกอมองไปทางนาง

 

 

เจียงหลีกับนางมองตาแล้วเงียบไปสักพัก แต่แล้วก็ยิ้มออกมา “หากเจ้าเป็นชายจริงๆ ก็คงดี จักรพรรดินีอย่างข้าก็คงแต่งงานกับเจ้าไปนานแล้ว” พูดจบก็ยังไม่ลืมที่จะแอบลูบหน้าของนาง

 

 

มู่ชิงเกอจับมือที่ซุกซนของนาง กล่าวอย่างขบขัน “หากข้าเป็นชายจริงๆ ข้าก็จะขอเจ้าแต่งงานแน่นอน”

 

 

เจียงหลียิ้มอย่างสดใส “เสน่ห์ของจักรพรรดินีอย่างข้ามากล้นเสียจริง”

 

 

“แน่นอนอยู่แล้ว!” มู่ชิงเกอยักคิ้วสนอง

 

 

เจียงหลียิ้มเบาๆ เดินไปพร้อมกับมู่ชิงเกอ มุ่งไปยังที่ที่แผนที่ชี้เป้า “ร้อยคะแนนได้มาอย่างงายดาย”

 

 

“หากพบคนระหว่างทาง จะแย่งคะแนนหรือไม่” มู่ชิงเกอเอ่ยถาม

 

 

เจียงหลีส่ายหน้า “ไม่ต้องรีบร้อน ตอนนี้ยังวันที่สองอยู่ ถึงแม้จะมีคนได้คะแนน แต่จะได้เท่าไรเชียว แพะ ต้องเลี้ยงจนอ้วนก่อนแล้วค่อยเชือด”

 

 

ทันใดนั้น นางก็ชะงักไป กลอกตามองไปทางมู่ชิงเกอ มองดูท่าทางกลั้นหัวเราะของนาง ก็เลิกคิ้ว “ดีจริงๆ! เจ้าลองใจข้า! ว่าแต่ ในสายตาเจ้าข้าโง่เขลาเพียงนั้นเลยหรือ”

 

 

“ไม่โง่ แต่กลับกัน จักรพรรดินีฉลาดเฉลียวมากเพคะ” มู่ชิงเกอส่ายหน้าพลางหัวเราะ “เพียงแต่ เจ้าเกียจคร้านนัก ข้ากลัวว่าเจ้าจะเปื่อยเอาได้”

 

 

หากไม่ได้เห็นกับตาว่าเจียงหลีได้มีชีวิตต่อไปจริงๆ นางจะจากไปอย่างวางใจได้อย่างไร

 

 

ถูกมู่ชิงเกอพูดจี้จุด เจียงหลีมุมปากก็กระตุกอย่างแรง ไร้ซึ่งคำโต้งเถียงใด เหอะๆ นางยอมรับว่าตนนั้นเกียจคร้าน…เล็กน้อย

 

 

ต้องบอกว่า ต่อหน้าคนที่นางไว้ใจและมีความสามารถนั้น เมื่อนางพบเจอปัญหาใดก็มักคร้านที่จะใช้สมอง

 

 

เหมือนเมื่อก่อนที่นางติดตามมู่ชิงเกอ เหมือนปัจจุบันที่นางพึ่งพาอาศัยลู่เจี้ย

 

 

“ข้าจะพยายามปรับปรุงตัว” เจียงหลีถูกสายตาของมู่ชิงเกอจ้องจนขนลุกจึงได้แต่พยักหน้า

 

 

มู่ชิงเกอยิ้มพลางส่ายหน้า ไม่พูดอะไรต่อ

 

 

ระหว่างทาง ก็ไม่ได้พบคนอื่นๆ อีก แต่ว่า ก็ยังพบเบาะแสของภารกิจบางส่วน แต่ว่า ภารกิจเหล่านั้น ล้วนเป็นภารกิจระดับหนึ่ง เสร็จสิ้นแล้วก็ได้คะแนนเพียงหนึ่งคะแนน ไม่ก็ห้าคะแนน จึงถูกเจียงหลีรังเกียจไปโดยปริยาย

 

 

เมื่อพวกนางมาถึงสถานที่ตามที่แผนที่บอกจึงได้พบว่า ที่นี่เป็นทะเลทรายแห้งแล้งอันร้อนระอุ

 

 

“ที่นี่มันพื้นที่อะไรกันแน่ สภาพแวดล้อมอากาศแต่ละอย่างมีเพียงแค่เส้นบางๆ คั่นไว้” เจียงหลีอดไม่ได้ที่จะกล่าวออกมาอย่างตกตะลึง

 

 

มู่ชิงเกอครุ่นคิดไปสักครู่ แล้วกล่าวเสียงแผ่วเบา “เหมือนกับเศษพื้นที่ที่ซือมั่วสร้างขึ้นมา แต่ก็ไม่เหมือนเสียทีเดียว”

 

 

เจียงหลีพยักหน้าเห็นด้วย นางยกมือขึ้นเช็ดเหงื่อบนหน้าผาก กล่าวขึ้นอย่างอดไม่ได้ “ร้อนจัง ไม่รู้ว่าภารกิจนี้ จะให้ทำอะไรกันแน่”

 

 

“ในเมื่อเบาะแสเดิมชี้ให้มาที่นี่ ก็ย่อมมีเบาะแสใหม่” มู่ชิงเกอมองท่าทางร้อนรนของนาง ก็โบกมือ แล้วความเย็นสบายก็ครอบคลุมอยู่บนหัวของเจียงหลีทันใด

 

 

ทันใดนั้น เจียงหลีก็มีท่าทีสดชื่น แล้วมองไปยังมู่ชิงเกออย่างนับถือ

 

 

“ไปกันเถิด” มู่ชิงเกอเพิกเฉยกับสายตาประจบประแจงของนางแล้วเชิดหน้าขึ้น

 

 

“ชิงเกอ ข้าพบว่าการพาเจ้าเข้ามา เป็นเรื่องที่ฉลาดยิ่งนัก!” เจียงหลีชะโงกตัวเข้าไปใกล้ด้วยท่าทางยิ้มแย้ม

 

 

มู่ชิงเกอหรี่ตามองนาง “เมื่อครู่ใครกันที่ชังข้าเข้าไส้”

 

 

“ใคร ใครช่างเหิมเกริมนัก กล้าชังชิงเกอของพวกเรา ข้าคนแรกที่จะไม่ไว้ชีวิตมัน!” เจียงหลีกล่าวด้วยสีหน้าประจบ

 

 

ท่าทีไร้ยางอายของนางเช่นนี้ ทำให้มู่ชิงเกอหมดคำพูด

 

 

ยิ่งเดินเข้าไปด้านใน ความร้อนระอุก็ยิ่งทวีคูณ เจียงหลีคิดว่า หากไม่มีมู่ชิงเกอคอยลดอุณหภูมิให้นางอยู่เป็นพักๆ แล้ว นางยังเดินไม่ถึงสถานที่ทำภารกิจก็คงละลายไปก่อนแล้ว

 

 

เฮ้อ ความรู้สึกว่าเป็นไก่อ่อนนั้นไม่ดีงามเลยจริงๆ! จักรพรรดินีบางคนบ่นอุบอิบอยู่ในใจ

 

 

“เจียงหลี ดูนั่น” ทันใดนั้น มู่ชิงเกอก็หยุดเดินแล้วยกมือขึ้นชี้ไปทางที่แห่งหนึ่ง

 

 

เจียงหลีมองไป ก็ชะงักไป แล้วก็ตะโกนเสียงหลง “ปากถ้ำ!” ที่นี่เป็นทะเลทรายแห้งแล้ง มีเพียงปากถ้ำปรากฏอยู่ตรงนี้ “ไป ไปดูกัน”

 

 

ทั้งสองไม่ลังเล เดินไปยังปากถ้ำนั่นอย่างรวดเร็ว

 

 

เมื่อเดินถึงปากถ้ำ คลื่นความร้อนลูกหนึ่งก็ปะทะเข้ามา อากาศแห่งเปลวเพลิงนั้น เหมือนดั่งกลายร่างเป็นกะโหลกของสัตว์ร้าย คำรามใส่คนทั้งสอง อ้าปากกว้างจะกลืนกินทั้งสองลงไป

 

 

มู่ชิงเกอขวางอยู่ข้างหน้าเจียงหลี โบกแขนเสื้อ กรอกลมเย็นสบายเข้าปากถ้ำ สลายอากาศแห่งเปลวเพลิงที่จับตัวกันเป็นหัวสัตว์นั้นไป

 

 

“ชิงเกอ เจ้าเยี่ยมมาก!” เจียงหลีกระพริบตาให้มู่ชิงเกอ

 

 

มู่ชิงเกอจนใจจึงยิ้มออกมา ก้าวเท้ามุดเข้าไปในถ้ำ เจียงหลีตามติดนางเข้าไป เมื่อเข้าไปในถ้ำ ตรงหน้านางก็เต็มไปด้วยสีแดงทั้งผืน

 

 

“หินหนืด!” นางตะโกนออกมา

 

 

ไม่คิดว่า ในถ้ำนี้ จะเป็นหินหนืดที่เหมือนดั่งคลื่นใต้น้ำ

 

 

ตรงข้ามหินหนืดนั้นมีดอกไม้สวยงามประหลาดอยู่ รากของมันเจาะทะลุก้อนหินอันแข็งแกร่งลงไปในหินหนืด เหมือนว่ามันอาศัยการดูดซึมหินหนืดเพื่อการเจริญเติบโต

 

 

บนกำแพงหินด้านหลังของมัน มีตัวหนังสือสีทองสลักอยู่ [เด็ดดอกไม้นี้ รางวัลสองร้อยคะแนน ภารกิจระดับห้า]

 

 

“ช่างเป็นดอกไม้ที่น่าอัศจรรย์นัก! มีชีวิตด้วยหินหนืด ชิงเกอ เจ้ารู้หรือไม่ว่านี่คือพืชชนิดใด” เจียงหลีประหลาดใจ

 

 

มู่ชิงเกอแยกแยะอย่างละเอียด แล้วส่ายหน้า “ในโลกสามพันใบนั้น มีสรรพสิ่งพันหมื่นชนิด โดยเฉพาะพืช ข้าก็ไม่รู้ว่าเป็นดอกไม้อะไร แต่ว่า ในเมื่อมันกำเนิดอยู่ในหินหนืด ก็ย่อมไม่ธรรมดา”

 

 

“เด็ดดอกไม้หนึ่งดอก ก็ให้สองร้อยคะแนนแล้ว! คิดว่าดอกไม้นี้คงจะเด็ดมาไม่ง่ายเป็นแน่” เจียงหลีกล่าวเสียงแผ่วเบา ไม่ได้คิดว่านี่คือดอกอะไรอีก

 

 

“ครั้งนี้ข้าเอง เจ้ายืนดูอยู่ตรงนี้ก็พอ” มู่ชิงเกอกลับกล่าวขึ้นกะทันหัน

 

 

“ฮะ” เจียงหลีมองนางอย่างตกตะลึง

 

 

ทว่า มู่ชิงเกอไม่ได้ให้เวลานางตอบสนอง กระโดดขึ้นข้ามหินหนืดที่ปะทุอยู่ข้างล่าง ลอยไปยังดอกไม้ประหลาดนั่น

 

 

แล้วนางก็ลอยตัวตกลงเหยียบบนหินข้างดอกไม้ประหลาดอย่างง่ายดาย

 

 

ง่ายดายเพียงนี้ ทั้งมู่ชิงเกอและเจียงหลีรู้สึกประหลาด

 

 

“ชิงเกอระวัง! ” เจียงหลีกล่าวเตือน

 

 

มู่ชิงเกอสายตาชะงักไปเล็กน้อย แล้วยื่นมือออกไปจับก้านดอกไม้ประหลาด ยังคง…นิ่งสงบ

 

 

หยุดชะงักไปชั่วครู่ มู่ชิงเกอใช้แรงดึงดอกไม้ประหลาดออกมา

 

 

ทว่า ในเวลานี้เอง ใต้ดอกไม้ประหลาดในถ้ำ กลับมีเสียงคำรามอย่างโหดร้ายของสัตว์ดังขึ้น.

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+