ราชินีพลิกสวรรค์ 230 มีเจ้าอยู่ ข้าก็วางใจ

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 230 มีเจ้าอยู่ ข้าก็วางใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงสัตว์คำรามที่ดังขึ้นกระทันหันนั้น ทำให้เจียงหลีและมู่ชิงเกอต่างก็รู้สึกคาดไม่ถึง

 

 

ในถ้ำนั้น ก็สั่นคลอนขึ้นมาเช่นกัน

 

 

มู่ชิงเกอมองลงดูดอกไม้ประหลาดในมือของนาง…ตามหลักแล้ว แรงที่นางใช้เมื่อครู่นี้ มากพอที่จะดึงดอกไม้ประหลาดนี้ออกมาได้ ทว่า ผลของตอนนี้คือ ดอกไม้ประหลาดยังคงอยู่ในก้อนหิน

 

 

“ชิงเกอ!” ทันใดนั้น ก็มีเสียงตกใจของเจียงหลีลอยมาจากบนฝั่ง

 

 

ดวงตาอันสดใสของมู่ชิงเกอสะท้อนให้เห็นทะเลไฟ ทะเลไฟจับตัวกันเป็นมังกรไฟอ้าปากอันใหญ่ยักษ์ไปทางนาง เผยเขี้ยวอันแหลมคม

 

 

มู่ชิงเกอส่งเสียง หึ! และใช้แรงในมืออีกครั้ง ปลายเท้าแตะพื้นแล้วลอยตัวขึ้นกลางอากาศ

 

 

ในขณะเดียวกันกับที่นางขยับตัว มังกรไฟก็เจ็บปวดจนส่งเสียงร้อง และโมโหยิ่งขึ้น อ้าปากพ่นเปลวไฟใส่นาง เมื่อมู่ชิงเกอลอยตัวไป ในที่สุดดอกไม้ประหลาดก็หลุดออกจากก้อนหิน เมื่อรากของมันถูกถอนออกมา เจียงหลีที่ยืนห่างออกไปจึงพบว่า รากพวกนั้นก็คือหนวดของมังกรไฟ ดอกไม้ประหลาดนี้เป็นผลผลิตที่มังกรไฟพ่นออกมา!

 

 

เมื่อมู่ชิงเกอถอนออก ก็ปลุกมังกรไฟที่หลับไหลอยู่ในหินหนืดนั้นขึ้นมา

 

 

กรร…!

 

 

มังกรไฟส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ และดึงหางอันยาวของมันออกมาจากในหินหนืด เฆี่ยนตีไปบนผนังถ้ำสองข้าง

 

 

เมื่อมันทำเช่นนี้ ผนังถ้ำก็เริ่มมีรอยร้าว ก้อนหินน้อยใหญ่ก็ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย ร่วงหล่นในหินหนืดแล้วละลายหายไป แต่ก็มีหินหลายก้อนหล่นไปทางเจียงหลีด้วย

 

 

เจียงหลีหลบหลีกการจู่โจมของก้อนหินเหล่านี้อย่างคล่องแคล่ว แล้วมีแสงทองประกายขึ้นมาบนตัว เกราะเสวียนกังก็ปรากฏอยู่บนตัวของนาง

 

 

เวลานี้ ก้อนหินที่นางเหยียบอยู่ก็เริ่มมีรอยร้าว ทำให้นางรีบถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วรีบทรงตัว นางมองขึ้นไป เห็นมู่ชิงเกอที่ลอยอยู่บนอากาศกำลังต่อสู้กับมังกรไฟอยู่ สีหน้าก็เคร่งเครียดไป

 

 

ถึงว่า คะแนนของภารกิจนี้ถึงได้สูงเพียงนี้! คำสั่งของภารกิจนี้ก็ช่างเป็นหลุมพราง บอกเพียงให้เด็ดดอกไม้ ไม่บอกว่าที่นี่มีมังกรไฟซ่อนอยู่ เจียงหลีไม่พอใจ

 

 

ยังดีที่เป็นนางและมู่ชิงเกอที่มาที่นี่ หากเป็นคนอื่น คงจะไม่รู้ว่าตายไปอย่างไรด้วยซ้ำ

 

 

ไม่สิ! ที่นี่คนตายไม่ได้นี่!

 

 

เจียงหลีสายตาเปลี่ยนไป กฎเกณฑ์การทดสอบยิ่งทำให้นางสงสัยเกี่ยวกับพื้นที่ประหลาดนี้ ความตายในพื้นที่นี้ สำหรับโลกภายนอกแล้ว ก็แค่ตกรอบไป ไม่ตายจริงหรือ นี่มันคล้ายกับในอาณาเขตหลิงอู่ แต่ว่า ในอาณาเขตหลิงอู่นั้นใช้ร่างวิญญาณในการเข้าสู่อาณาเขต แต่ที่นี่ใช้ร่างกายจริงเข้ามานี่!

 

 

คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก!

 

 

กรร…!

 

 

เสียงคำรามของมังกรไฟ ขัดจังหวะความคิดของเจียงหลี

 

 

“หลบไป!” ทันใดนั้น เสียงของมู่ชิงเกอก็ลอยมา

 

 

ดวงตาเจียงหลีชะงักไป แล้วถอยไปด้านข้าง นางเพิ่งจะหลบไป มังกรไฟก็หล่นลงตรงที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ ร่างของมันกระแทกกับผนังถ้ำและพื้นอย่างจัง

 

 

ทันใดนั้น ก็เกิดการแตกร้าวและทรุดตัว ตัวถ้ำสั่นสะเทือนแทบจะถล่มลงมา หินหนืดพวกนั้นก็เริ่มปะทุพุ่งตัวขึ้นมาเรื่อยๆ

 

 

“ไป!”

 

 

แค่เพียงเจียงหลีกะพริบตา มู่ชิงเกอก็ถือดอกไม้ประหลาดมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว

 

 

นางเม้มปากพยักหน้า ไม่ลังเลเลยสักนิด นางและมู่ชิงเกอหันหลังกลับแล้วกระโดดออกมาจากถ้ำที่กำลังจะถล่มลง ทั้งสองเพิ่งจะออกมา ถ้ำด้านหลังก็เริ่มทรุดตัว อุณหภูมิของทะเลทรายที่ร้อนระอุก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

 

 

“ออกไปจากที่นี่ก่อน” เจียงหลีกล่าว

 

 

มู่ชิงเกอพยักหน้า ทั้งสองรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วรีบหนีไกลออกไป

 

 

 

 

วิ่งไปหนึ่งชั่วยามเต็ม เมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวพวกนางเปลี่ยนแปลงไป ทั้งสองจึงได้หยุดลง

 

 

“เก็บไว้” มู่ชิงเกอกล่าวพลางโยนดอกไม้ประหลาดในมือให้เจียงหลี

 

 

เจียงหลีรับไว้อย่างไม่เกรงใจ กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ขอบใจนะ!”

 

 

มู่ชิงเกอกลอกตาใส่นาง เหมือนจะแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางนั้นยังต้องพูดขอบคุณกันอีกหรือ

 

 

“ดอกไม้ประหลาดนี้ มาจากการพ่นลมของมังกรไฟแล้วจับตัวกัน ไม่รู้ว่ามีสรรพคุณอะไร” เจียงหลีสังเกตดอกไม้ประหลาดที่สวยงามเกินจริงในมือ สีแดงอมม่วงนั้นงดงามยิ่งนัก

 

 

“ออกไปแล้วก็ไปถามอาจารย์ที่ไว้ใจได้แล้วกัน” มู่ชิงเกอเสนอแนะ

 

 

คำพูดนี้ของนาง คนแรกที่ทำให้เจียงหลีนึกถึงก็คือหนานอู๋เฮิ่น แต่ว่า หนานอู๋เฮิ่นอยู่ไกลเกินไป นางจึงยับยั้งความคิดนี้ไป

 

 

หรืออาจจะ ถามเขาได้ เจียงหลีหรี่ตา นึกถึงเฟิงสิงอวิ๋นที่มีท่าทีสง่างาม

 

 

“ตอนนี้ข้ามีสามร้อยคะแนนอยู่ในมือแล้ว” เจียงหลียิ้มกล่าว

 

 

มู่ชิงเกอเห็นท่าทางพออกพอใจของนางแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะพูดทำลายขวัญ “ยังไม่พอ”

 

 

เจียงหลีเบะปาก ไม่ได้พูดอะไร

 

 

มู่ชิงเกอรู้สึกว่าน่าขันนัก อาจจะเป็นเพราะชาติกำเนิดและฐานะของเจียงหลีที่ทำให้ในหลายๆ ครั้งนางนั้นมีความทะเยอทะยานไม่มากพอ หากไม่ถึงยามจำเป็น หรือกำหนดวัตถุประสงค์ไว้ หลายครั้งนางจะทำอย่างผ่านๆ มองจากอีกมุมหนึ่ง ก็คือเกียจคร้านนั่นเอง

 

 

“เจ้าบอกแล้วมิใช่หรือ ว่าการทดสอบเกี่ยวพันไปถึงสิทธิในอีกพลังอำนาจหนึ่ง หากผลงานไม่โดดเด่น จะได้รับความสนใจได้อย่างไร” มู่ชิงเกอกล่าวเตือน

 

 

เป็นจริงดั่งคิด เมื่อพูดถึงพลังอำนาจที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน เจียงหลีดวงตาค้างชะงัก ในดวงตาที่สุกสกาวก็มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนขึ้นมา

 

 

นางพยักหน้า “อืม ถูกต้อง! คะแนนพวกนี้ยังไม่พอ เราไปหาภารกิจอื่นทำกันต่อเถิด!”

 

 

“ไม่แน่ว่าที่นี่อาจจะมีเบาะแสอื่นก็ได้” มู่ชิงเกอสังเกตไปรอบๆ ตัว

 

 

“ที่นี่หรือ” เจียงหลีพึมพำแล้วเหลียวซ้ายแลขวา “ที่นี่เหมือนกับซากเมืองร้างเลย!”

 

 

“ลองหาดูก่อนเถิด ในเมื่ออยู่ในการทดสอบ ก็คงไม่ปรากฏสิ่งที่ไร้ความหมายเป็นแน่” มู่ชิงเกอเดินนำไปข้างในก่อน

 

 

เจียงหลีพยักหน้า แล้วเดินตามนางไป ทั้งสองเดินเข้าไปด้วยกัน แล้วลองค้นหาจากซากปรักหักพังนั้นอย่างละเอียด

 

 

ซากปรักหักพังแห่งนี้ มีความเก่าแก่ยิ่งนัก

 

 

สิ่งก่อสร้างที่ถล่มนั้น ล้วนใช้ก้อนหินที่เป็นระเบียบทับซ้อนกันขึ้นมา ในตอนนี้ ก็ดูไม่ออกแล้วว่าเมืองนี้เดิมทีหน้าตาเป็นอย่างไร ทำได้เพียงคาดเดาจากซากรกร้างว่าเมื่อก่อนเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง

 

 

“ทางนั้นมีเสาหิน!” สิ่งก่อสร้างที่ปรากฏอยู่ด้านหน้านั้นทำให้เจียงหลีเดินเร่งฝีเท้าเร็วยิ่งขึ้น

 

 

มู่ชิงเกอเดินตามติดไป เมื่อนางไปถึง เจียงหลีก็ยืนอยู่ใต้สิ่งก่อสร้างนั้นแล้ว

 

 

“เจดีย์หินหรือ” มู่ชิงเกอเพิ่งจะถึงก็ได้ยินเสียงพึมพำสงสัยของเจียงหลี นางมองขึ้นไป พบว่าสิ่งก่อสร้างหินเรียวยาวแหลมคมนั้น มองไกลๆ เหมือนกับเสาหิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเจดีย์หิน

 

 

เจดีย์หินนี้ดูเหมือนว่าข้างในจะตันและเล็กมาก ผู้ใหญ่สองคนอ้าแขนล้อมไว้ก็สามารถล้อมรอบเจดีย์หินนี้ได้แล้ว

 

 

แต่ว่า เจดีย์หินเช่นนี้ ถูกลมฝนมานานเพียงนี้ ก็ยังคงแยกชั้นชัดเจน กระดิ่งหินที่แขวนอยู่บนชายคาเจดีย์แต่ละชั้นก็สมบูรณ์ยิ่งนัก

 

 

เจดีย์หินนี้ เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยังคงสมบูรณ์ที่สุดในซากปรักหักพังนี้ เจียงหลีรู้สึกได้ว่า เบาะแสภารกิจจะต้องเกี่ยวข้องกับมัน

 

 

นางเดินวนรอบเจดีย์หินอย่างช้าๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียด

 

 

ส่วนมู่ชิงเกอยืนอยู่ข้างๆ อมยิ้มมองดูนางไม่ได้ส่งเสียงรบกวนใด

 

 

“จริงด้วย! ” ทันใดนั้น เจียงหลีที่วนไปถึงด้านหลังของเจดีย์หินก็ส่งเสียงประหลาดใจออกมา

 

 

มู่ชิงเกอรีบเดินเข้าไป แล้วก็ได้ยินเจียงหลีอ่านเนื้อหาภารกิจที่สลักอยู่ด้านหลังของเจดีย์หิน “เจดีย์หินนี้ในแต่ละชั้นล้วนมีทักษะการต่อสู้อยู่ ภายในหนึ่งวัน จะต้องเรียนรู้ทักษะการต่อสู้หนึ่งอย่าง ในแต่ละทักษะจะได้รับคะแนนที่แตกต่างกัน”

 

 

เมื่อนางอ่านจบ ก็เห็นเจดีย์หินส่องแสงสีทองขึ้นมาทันใด ลักษณะความเก่าแก่ธรรมดานั้นก็สลายหายไป กลายเป็นเจดีย์ที่ใหม่เอี่ยมและศักดิ์สิทธิ์

 

 

ทันใดนั้น เจดีย์ที่ปิดผนึกอยู่ก็เปิดประตูออกบานหนึ่ง

 

 

“เจ้าเข้าไปอย่างวางใจได้เลย ข้าจะเฝ้าอยู่ตรงนี้” เสียงมู่ชิงเกอลอยมา

 

 

เจียงหลีเหลียวมองแล้วยิ้มให้นาง “มีเจ้าอยู่ ข้าก็วางใจ”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 230 มีเจ้าอยู่ ข้าก็วางใจ

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 230 มีเจ้าอยู่ ข้าก็วางใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เสียงสัตว์คำรามที่ดังขึ้นกระทันหันนั้น ทำให้เจียงหลีและมู่ชิงเกอต่างก็รู้สึกคาดไม่ถึง

 

 

ในถ้ำนั้น ก็สั่นคลอนขึ้นมาเช่นกัน

 

 

มู่ชิงเกอมองลงดูดอกไม้ประหลาดในมือของนาง…ตามหลักแล้ว แรงที่นางใช้เมื่อครู่นี้ มากพอที่จะดึงดอกไม้ประหลาดนี้ออกมาได้ ทว่า ผลของตอนนี้คือ ดอกไม้ประหลาดยังคงอยู่ในก้อนหิน

 

 

“ชิงเกอ!” ทันใดนั้น ก็มีเสียงตกใจของเจียงหลีลอยมาจากบนฝั่ง

 

 

ดวงตาอันสดใสของมู่ชิงเกอสะท้อนให้เห็นทะเลไฟ ทะเลไฟจับตัวกันเป็นมังกรไฟอ้าปากอันใหญ่ยักษ์ไปทางนาง เผยเขี้ยวอันแหลมคม

 

 

มู่ชิงเกอส่งเสียง หึ! และใช้แรงในมืออีกครั้ง ปลายเท้าแตะพื้นแล้วลอยตัวขึ้นกลางอากาศ

 

 

ในขณะเดียวกันกับที่นางขยับตัว มังกรไฟก็เจ็บปวดจนส่งเสียงร้อง และโมโหยิ่งขึ้น อ้าปากพ่นเปลวไฟใส่นาง เมื่อมู่ชิงเกอลอยตัวไป ในที่สุดดอกไม้ประหลาดก็หลุดออกจากก้อนหิน เมื่อรากของมันถูกถอนออกมา เจียงหลีที่ยืนห่างออกไปจึงพบว่า รากพวกนั้นก็คือหนวดของมังกรไฟ ดอกไม้ประหลาดนี้เป็นผลผลิตที่มังกรไฟพ่นออกมา!

 

 

เมื่อมู่ชิงเกอถอนออก ก็ปลุกมังกรไฟที่หลับไหลอยู่ในหินหนืดนั้นขึ้นมา

 

 

กรร…!

 

 

มังกรไฟส่งเสียงคำรามด้วยความโกรธ และดึงหางอันยาวของมันออกมาจากในหินหนืด เฆี่ยนตีไปบนผนังถ้ำสองข้าง

 

 

เมื่อมันทำเช่นนี้ ผนังถ้ำก็เริ่มมีรอยร้าว ก้อนหินน้อยใหญ่ก็ร่วงหล่นลงมาไม่ขาดสาย ร่วงหล่นในหินหนืดแล้วละลายหายไป แต่ก็มีหินหลายก้อนหล่นไปทางเจียงหลีด้วย

 

 

เจียงหลีหลบหลีกการจู่โจมของก้อนหินเหล่านี้อย่างคล่องแคล่ว แล้วมีแสงทองประกายขึ้นมาบนตัว เกราะเสวียนกังก็ปรากฏอยู่บนตัวของนาง

 

 

เวลานี้ ก้อนหินที่นางเหยียบอยู่ก็เริ่มมีรอยร้าว ทำให้นางรีบถอยหลังไปสองสามก้าว แล้วรีบทรงตัว นางมองขึ้นไป เห็นมู่ชิงเกอที่ลอยอยู่บนอากาศกำลังต่อสู้กับมังกรไฟอยู่ สีหน้าก็เคร่งเครียดไป

 

 

ถึงว่า คะแนนของภารกิจนี้ถึงได้สูงเพียงนี้! คำสั่งของภารกิจนี้ก็ช่างเป็นหลุมพราง บอกเพียงให้เด็ดดอกไม้ ไม่บอกว่าที่นี่มีมังกรไฟซ่อนอยู่ เจียงหลีไม่พอใจ

 

 

ยังดีที่เป็นนางและมู่ชิงเกอที่มาที่นี่ หากเป็นคนอื่น คงจะไม่รู้ว่าตายไปอย่างไรด้วยซ้ำ

 

 

ไม่สิ! ที่นี่คนตายไม่ได้นี่!

 

 

เจียงหลีสายตาเปลี่ยนไป กฎเกณฑ์การทดสอบยิ่งทำให้นางสงสัยเกี่ยวกับพื้นที่ประหลาดนี้ ความตายในพื้นที่นี้ สำหรับโลกภายนอกแล้ว ก็แค่ตกรอบไป ไม่ตายจริงหรือ นี่มันคล้ายกับในอาณาเขตหลิงอู่ แต่ว่า ในอาณาเขตหลิงอู่นั้นใช้ร่างวิญญาณในการเข้าสู่อาณาเขต แต่ที่นี่ใช้ร่างกายจริงเข้ามานี่!

 

 

คิดอย่างไรก็คิดไม่ตก!

 

 

กรร…!

 

 

เสียงคำรามของมังกรไฟ ขัดจังหวะความคิดของเจียงหลี

 

 

“หลบไป!” ทันใดนั้น เสียงของมู่ชิงเกอก็ลอยมา

 

 

ดวงตาเจียงหลีชะงักไป แล้วถอยไปด้านข้าง นางเพิ่งจะหลบไป มังกรไฟก็หล่นลงตรงที่นางยืนอยู่เมื่อครู่ ร่างของมันกระแทกกับผนังถ้ำและพื้นอย่างจัง

 

 

ทันใดนั้น ก็เกิดการแตกร้าวและทรุดตัว ตัวถ้ำสั่นสะเทือนแทบจะถล่มลงมา หินหนืดพวกนั้นก็เริ่มปะทุพุ่งตัวขึ้นมาเรื่อยๆ

 

 

“ไป!”

 

 

แค่เพียงเจียงหลีกะพริบตา มู่ชิงเกอก็ถือดอกไม้ประหลาดมาปรากฏตัวอยู่ตรงหน้าของนางแล้ว

 

 

นางเม้มปากพยักหน้า ไม่ลังเลเลยสักนิด นางและมู่ชิงเกอหันหลังกลับแล้วกระโดดออกมาจากถ้ำที่กำลังจะถล่มลง ทั้งสองเพิ่งจะออกมา ถ้ำด้านหลังก็เริ่มทรุดตัว อุณหภูมิของทะเลทรายที่ร้อนระอุก็ลดลงอย่างรวดเร็ว

 

 

“ออกไปจากที่นี่ก่อน” เจียงหลีกล่าว

 

 

มู่ชิงเกอพยักหน้า ทั้งสองรีบถอยออกไปอย่างรวดเร็ว แล้วรีบหนีไกลออกไป

 

 

 

 

วิ่งไปหนึ่งชั่วยามเต็ม เมื่อสภาพแวดล้อมรอบตัวพวกนางเปลี่ยนแปลงไป ทั้งสองจึงได้หยุดลง

 

 

“เก็บไว้” มู่ชิงเกอกล่าวพลางโยนดอกไม้ประหลาดในมือให้เจียงหลี

 

 

เจียงหลีรับไว้อย่างไม่เกรงใจ กล่าวด้วยใบหน้ายิ้มแย้ม “ขอบใจนะ!”

 

 

มู่ชิงเกอกลอกตาใส่นาง เหมือนจะแสดงให้เห็นว่าไม่พอใจ ความสัมพันธ์ระหว่างพวกนางนั้นยังต้องพูดขอบคุณกันอีกหรือ

 

 

“ดอกไม้ประหลาดนี้ มาจากการพ่นลมของมังกรไฟแล้วจับตัวกัน ไม่รู้ว่ามีสรรพคุณอะไร” เจียงหลีสังเกตดอกไม้ประหลาดที่สวยงามเกินจริงในมือ สีแดงอมม่วงนั้นงดงามยิ่งนัก

 

 

“ออกไปแล้วก็ไปถามอาจารย์ที่ไว้ใจได้แล้วกัน” มู่ชิงเกอเสนอแนะ

 

 

คำพูดนี้ของนาง คนแรกที่ทำให้เจียงหลีนึกถึงก็คือหนานอู๋เฮิ่น แต่ว่า หนานอู๋เฮิ่นอยู่ไกลเกินไป นางจึงยับยั้งความคิดนี้ไป

 

 

หรืออาจจะ ถามเขาได้ เจียงหลีหรี่ตา นึกถึงเฟิงสิงอวิ๋นที่มีท่าทีสง่างาม

 

 

“ตอนนี้ข้ามีสามร้อยคะแนนอยู่ในมือแล้ว” เจียงหลียิ้มกล่าว

 

 

มู่ชิงเกอเห็นท่าทางพออกพอใจของนางแล้ว ก็อดไม่ได้ที่จะพูดทำลายขวัญ “ยังไม่พอ”

 

 

เจียงหลีเบะปาก ไม่ได้พูดอะไร

 

 

มู่ชิงเกอรู้สึกว่าน่าขันนัก อาจจะเป็นเพราะชาติกำเนิดและฐานะของเจียงหลีที่ทำให้ในหลายๆ ครั้งนางนั้นมีความทะเยอทะยานไม่มากพอ หากไม่ถึงยามจำเป็น หรือกำหนดวัตถุประสงค์ไว้ หลายครั้งนางจะทำอย่างผ่านๆ มองจากอีกมุมหนึ่ง ก็คือเกียจคร้านนั่นเอง

 

 

“เจ้าบอกแล้วมิใช่หรือ ว่าการทดสอบเกี่ยวพันไปถึงสิทธิในอีกพลังอำนาจหนึ่ง หากผลงานไม่โดดเด่น จะได้รับความสนใจได้อย่างไร” มู่ชิงเกอกล่าวเตือน

 

 

เป็นจริงดั่งคิด เมื่อพูดถึงพลังอำนาจที่ยังไม่เคยรู้มาก่อน เจียงหลีดวงตาค้างชะงัก ในดวงตาที่สุกสกาวก็มีจิตวิญญาณแห่งการต่อสู้ลุกโชนขึ้นมา

 

 

นางพยักหน้า “อืม ถูกต้อง! คะแนนพวกนี้ยังไม่พอ เราไปหาภารกิจอื่นทำกันต่อเถิด!”

 

 

“ไม่แน่ว่าที่นี่อาจจะมีเบาะแสอื่นก็ได้” มู่ชิงเกอสังเกตไปรอบๆ ตัว

 

 

“ที่นี่หรือ” เจียงหลีพึมพำแล้วเหลียวซ้ายแลขวา “ที่นี่เหมือนกับซากเมืองร้างเลย!”

 

 

“ลองหาดูก่อนเถิด ในเมื่ออยู่ในการทดสอบ ก็คงไม่ปรากฏสิ่งที่ไร้ความหมายเป็นแน่” มู่ชิงเกอเดินนำไปข้างในก่อน

 

 

เจียงหลีพยักหน้า แล้วเดินตามนางไป ทั้งสองเดินเข้าไปด้วยกัน แล้วลองค้นหาจากซากปรักหักพังนั้นอย่างละเอียด

 

 

ซากปรักหักพังแห่งนี้ มีความเก่าแก่ยิ่งนัก

 

 

สิ่งก่อสร้างที่ถล่มนั้น ล้วนใช้ก้อนหินที่เป็นระเบียบทับซ้อนกันขึ้นมา ในตอนนี้ ก็ดูไม่ออกแล้วว่าเมืองนี้เดิมทีหน้าตาเป็นอย่างไร ทำได้เพียงคาดเดาจากซากรกร้างว่าเมื่อก่อนเคยเป็นเมืองที่เจริญรุ่งเรือง

 

 

“ทางนั้นมีเสาหิน!” สิ่งก่อสร้างที่ปรากฏอยู่ด้านหน้านั้นทำให้เจียงหลีเดินเร่งฝีเท้าเร็วยิ่งขึ้น

 

 

มู่ชิงเกอเดินตามติดไป เมื่อนางไปถึง เจียงหลีก็ยืนอยู่ใต้สิ่งก่อสร้างนั้นแล้ว

 

 

“เจดีย์หินหรือ” มู่ชิงเกอเพิ่งจะถึงก็ได้ยินเสียงพึมพำสงสัยของเจียงหลี นางมองขึ้นไป พบว่าสิ่งก่อสร้างหินเรียวยาวแหลมคมนั้น มองไกลๆ เหมือนกับเสาหิน แต่ในความเป็นจริงแล้ว เป็นเจดีย์หิน

 

 

เจดีย์หินนี้ดูเหมือนว่าข้างในจะตันและเล็กมาก ผู้ใหญ่สองคนอ้าแขนล้อมไว้ก็สามารถล้อมรอบเจดีย์หินนี้ได้แล้ว

 

 

แต่ว่า เจดีย์หินเช่นนี้ ถูกลมฝนมานานเพียงนี้ ก็ยังคงแยกชั้นชัดเจน กระดิ่งหินที่แขวนอยู่บนชายคาเจดีย์แต่ละชั้นก็สมบูรณ์ยิ่งนัก

 

 

เจดีย์หินนี้ เป็นสิ่งก่อสร้างที่ยังคงสมบูรณ์ที่สุดในซากปรักหักพังนี้ เจียงหลีรู้สึกได้ว่า เบาะแสภารกิจจะต้องเกี่ยวข้องกับมัน

 

 

นางเดินวนรอบเจดีย์หินอย่างช้าๆ แล้วสำรวจดูอย่างละเอียด

 

 

ส่วนมู่ชิงเกอยืนอยู่ข้างๆ อมยิ้มมองดูนางไม่ได้ส่งเสียงรบกวนใด

 

 

“จริงด้วย! ” ทันใดนั้น เจียงหลีที่วนไปถึงด้านหลังของเจดีย์หินก็ส่งเสียงประหลาดใจออกมา

 

 

มู่ชิงเกอรีบเดินเข้าไป แล้วก็ได้ยินเจียงหลีอ่านเนื้อหาภารกิจที่สลักอยู่ด้านหลังของเจดีย์หิน “เจดีย์หินนี้ในแต่ละชั้นล้วนมีทักษะการต่อสู้อยู่ ภายในหนึ่งวัน จะต้องเรียนรู้ทักษะการต่อสู้หนึ่งอย่าง ในแต่ละทักษะจะได้รับคะแนนที่แตกต่างกัน”

 

 

เมื่อนางอ่านจบ ก็เห็นเจดีย์หินส่องแสงสีทองขึ้นมาทันใด ลักษณะความเก่าแก่ธรรมดานั้นก็สลายหายไป กลายเป็นเจดีย์ที่ใหม่เอี่ยมและศักดิ์สิทธิ์

 

 

ทันใดนั้น เจดีย์ที่ปิดผนึกอยู่ก็เปิดประตูออกบานหนึ่ง

 

 

“เจ้าเข้าไปอย่างวางใจได้เลย ข้าจะเฝ้าอยู่ตรงนี้” เสียงมู่ชิงเกอลอยมา

 

 

เจียงหลีเหลียวมองแล้วยิ้มให้นาง “มีเจ้าอยู่ ข้าก็วางใจ”

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+