ราชินีพลิกสวรรค์ 251 เจ้าช่างน่ารักใสซื่อจริงๆ

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 251 เจ้าช่างน่ารักใสซื่อจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อนึกถึงรัชทายาทแห่งซีเฉียน ก็ปรากฏเงาของตัวร้ายผู้อวดดีในหัว

ตอนที่เพิ่งมาถึงซีเฉียน พวกเขาสองคนเคยขัดแย้งและต่อสู้กันบนถนน

จากนั้นนางเก็บตัวฝึกฝนอย่างหนักในสถาบันไป๋หยวนจึงลืมคนผู้นี้ไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเฉียนจวิ้นแกว่งเท้าหาเสี้ยนต่อหน้านาง เกรงว่าสองพี่น้องนี่คงลืมนางไปหมดสิ้นแล้ว

แต่ทว่า รัชทายาทแห่งซีเฉียนตามหานางเพื่ออะไร

อีกทั้งยังมาตามหาหลังจากสอบเสร็จแล้ว

“เจ้านายของพวกเจ้าคือรัชทายาทแห่งซีเฉียนใช่หรือไม่” เจียงหลีหยั่งเชิงถามอีกครั้ง

“แม่นางช่างฉลาดนัก” เมื่อเห็นว่านางเดาถูก หลิงไซว่ทั้งสี่ก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป

“ไท่จื่อแห่งซีเฉียนอย่างนั้นหรือ”

เขาขมวดคิ้วถามเจียงหลี “เขาตามหาเจ้าเพื่ออะไร หรือการต่อสู้ของพวกเจ้าคราวก่อนยังไม่รู้แพ้รู้ชนะ หนึ่งปีแล้วเขายังไม่หายแค้นเจ้าอีกหรือถึงได้มาหาเรื่องอีก”

เจียงหลีกระตุกมุมปาก ยอมให้กับความคิดในหัวสมองของลู่เสวียน

แต่นางก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของรัชทายาทซีเฉียนที่ตามหานาง ถึงอย่างไรการปะทะระหว่าสองคนอย่างที่ลู่เสวียนกล่าวมาอาจเป็นเหตุผลเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

“ข้าจะไปกับพวกเจ้า” ด้วยความสงสัยในใจ เจียงหลีจึงเปลี่ยนใจไปตามนัดหมาย

“ไม่ได้!” ลู่เสวียนรีบหยุดยั้ง

เจียงหลีส่งสายตาให้เขา ลู่เสวียนผงะ ทันใดนั้นก็เข้าใจความหมายที่เจียงหลีสื่อทันที

“รัชทายาทเทียบเชิญข้าคนเดียว ไม่ต้องให้เขาไปหรอกกระมัง” เจียงหลีชี้ไปที่ลู่เสวียน

หนึ่งในหลิงไซว่กวาดสายตาสำรวจลู่เสวียนแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “แน่นอน”

“ไปสิ” เจียงหลีพยักหน้า

การให้ความร่วมมือของนางจึงทำให้หลิงไซว่ทั้งสองคนยอมหลีกกายเบิกทางให้ จากนั้นปรากฏรถม้าทรงเตี้ยจอดอยู่ด้านหลัง แววตาของเจียงหลีเป็นประกายวูบไหว ดูท่าทางรัชทายาทอวดดีผู้นี้หาตัวจับยาก ไม่อยากให้ใครรู้ว่านัดเจอกับข้า

เจียงหลีขึ้นรถม้าตามสี่คนนั้นไป

ลู่เสวียนยืนอยู่ที่เดิมมองจนรถม้าลับตาไปจากนั้นจึงรีบวิ่งกลับสถาบันไป๋หยวน ซ้อเล็กถูกรัชทายาทซีเฉียนพาตัวไป ที่จริงข้าต้องไปบอกให้พี่ใหญ่ช่วย แต่การที่พี่ใหญ่มาเมืองอู๋อิ๋นก็เป็นความลับอยู่แล้ว สถานะของเขาตอนนี้ละเอียดอ่อนมาก มิอาจให้คนในราชวงศ์ซีเฉียนล่วงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ ดูแล้วคงทำได้เพียงไปตามคนที่สถาบันไป๋หยวน! ไปหาท่านอาจารย์เฟิง!

ในขณะที่กำลังมองเจียงหลีขึ้นรถม้า ลู่เสวียนก็วิเคราะห์ในใจชัดเจนแล้วว่าควรจะตามใครไปช่วย

เจียงหลีไม่ให้เขาตามไป ไม่ใช่เพราะจะให้เขาหาโอกาสไปตามคนมาช่วยหรือไง!

ลู่เสวียนวิ่งทะยานสู่สถาบันไป๋หยวน

เจียงหลีที่อยู่บนรถม้าก็รู้สึกว่าเสียงวุ่นวายของตลาดด้านนอกค่อยๆ เงียบลง แล้วเอ่ยขึ้นในใจ ดูท่าทางน่าจะพ้นเขตเมืองแล้ว

รถม้าได้รับการปกป้องอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เจียงหลีรู้ว่ามันไปที่ไหน

แต่ทว่า นอกจากเจียงหลีจะเป็นหลิงซือแล้วยังเป็นเนี่ยนซืออีกด้วยจึงแอบใช้พลังอ่านจิตเงียบๆ ในรถม้าออกไป และ ‘มองเห็น’ สภาพภายนอกทุกอย่างอยู่ในสายตา

อีกทั้งนางยังควบคุมก้อนกรวดก้อนหินข้างถนนและทำเครื่องหมายอย่างไม่ชัดเจนนักเอาไว้

เช่นนี้ลู่เสวียนก็จะตามคนมาช่วยได้สะดวก

หลักจากอ้อมวนอยู่นาน ในที่สุดรถม้าก็หยุดลง

เจียงหลีเรียกพลังจิตกลับคืนมา เมื่อลืมตาขึ้นประตูรถม้าก็ถูกเปิดออกพอดี หลิงไซว่ด้านนอกเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา “ลงมา”

น้ำเสียงไร้ซึ่งมารยาททำให้แววตาของเจียงหลีวูบไหวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก นางลุกขึ้นโน้มตัวกระโดดลงจากรถม้า จากนั้นสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างสนใจ

นี่คือทะเลสาบที่สวยงามพร้อมตำหนักหลังงามที่สร้างขึ้นริมทะเลสาบ

และมีป้อมปราการทั้งสี่ด้าน

ช่างเป็นการป้องกันที่แน่นหนาจริงๆ! เจียงหลีหัวเราะเยาะในใจและหันสายตากลับมา

รัชทายาทพระองค์นี้ต้องการพบนางอย่างเงียบเชียบแต่กลับก็ยังอดถือตัวสูงส่งมิได้ คนคุ้มกันที่นี่เยอะขนาดนี้ไม่รู้ว่าคุ้มกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้หรือบอกให้คนอื่นรู้ว่าอย่ามาเข้าใกล้กันแน่ว่าข้ากำลังวางแผนทำเรื่องลับๆ ที่นี่

“เชิญ”

เจียงหลีเข้ามาในตำหนักโดยการนำทางของหลิงไซว่

ในขณะที่หลิงไซว่กำลังนำทางนางก็แอบสำรวจอยู่หลายครั้ง เมื่อเห็นนางเดินเอ้อระเหยทั้งยังมัวแต่มองสำรวจตำหนักอีก

ท่าทางที่ไม่กังวลเรื่องใดสักนิด พฤติกรรมแปลกเกินไปแล้ว

“รออยู่ตรงนี้”

เมื่อมาถึงประตู หลิงไซว่ก็หยุดเดินแล้วหันมาออกคำสั่งกับเจียงหลี

ใยหน้าของเจียงหลีประดับรอยยิ้มแทบไม่มีความรู้สึกต่อต้าน

หลิงไซว่สบถก่อนจะผลักประตูเข้าไป แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นความเย็นในดวงตาที่ยิ้มของเจียงหลี

หลิงไซว่ไม่ปล่อยให้เจียงหลีรออยู่ข้างนอกนานนักและในไม่ช้าก็ออกมาอีกครั้งและพูดเอ่ยกับนาง “เข้าไปสิ”

เจียงหลีก้าวขาข้ามประตูเข้าไป

ประตูปิดตามหลังจากที่นางเข้าไปแล้ว

เพียงแต่เมื่อเข้าไปแล้ว นางก็ได้กลิ่นเหม็นคาวซึ่งเกิดจากการผสมกันของลมหายใจของสัตว์ร้ายหลายชนิด

แกร่กๆ

เสียงดังของโซ่ทำให้เจียงหลีต้องเงยหน้าขึ้น

ในตำหนักที่ดูเหมือนธรรมดานี้มีกรงที่ทำจากเหล็กชั้นดีอยู่รอบๆ ตัวนาง

ในกรงทั้งแปดนั้นสัตว์ร้ายต่างๆ ถูกขัง ลำคออุ้งเท้าและหลังของพวกมันทั้งหมดถูกมัดด้วยโซ่และยึดติดกับผนัง สาเหตุที่สัตว์ร้ายไม่สามารถส่งเสียงคำรามได้เพราะพวกมันถูกเหล็กครอบปิดปากเอาไว้

“เจ้ามาแล้วหรือ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหน้า

เจียงหลีช้อนสายตาขึ้นไปมองและเห็นชายร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากเงามืดช้าๆ

ในมือของเขาเขาถือสิ่งที่เปื้อนเลือดด้วย เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เจียงหลีก็ตระหนักว่าเขากำลังถือศีรษะของมนุษย์

ทันใดนั้นเขาโยนศีรษะในมือทิ้งและศีรษะก็กลิ้งไปบนพื้นจนในที่สุดก็หยุดอยู่ตรงหน้าเจียงหลี

“…” เจียงหลีก้มมองหน้าคนนั้นที่เหลือเพียงความน่าหวาดกลัวเอาไว้ ‘ไม่รู้จัก’

เจียงหลีค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและสบตากับผู้ชายคนนั้น “รัชทายาท นี่หมายความว่าอย่างไร”

เฉียนลี่กระตุกมุมปากดูเหมือนจะยิ้มให้แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้คนรู้สึกเย็นวาบ “ข้าช่วยเหลือเจ้า เจ้าก็ควรขอบใจข้าสักหน่อยใช่หรือไม่”

ช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ

เจียงหลีขมวดคิ้ว รัชทายาทพระองค์นี้ช่วยเหลือนางเรื่องอะไรหรือ

เฉียนลี่ก้าวเข้ามาหาเจียงหลี เขาคนนี้อาจจะเป็นเพราะไอสังหารมากเกินไป ทันทีที่เขาเดินเข้าใกล้มันทำให้คนอื่นรู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบลดลง

เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเจียงหลีแล้วค่อยๆ โน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูนาง “การแสดงของเจ้าที่สถาบันไป๋หยวนสร้างความเดือดร้อนให้เจ้า เมื่อเจ้ากลับไปจะได้รับพระราชโองการให้เข้าวังในอีกสามวัน”

ลมหายใจของเฉียนลี่ปะทะเข้าจมูกของเจียงหลีจึงทำให้นางรู้สึกขยะแขยง

การรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองโดยไม่ทิ้งร่องรอย นางแสร้งทำเป็นไม่รู้และถามว่า “การเข้าวังเป็นสิ่งที่ดีจะมีปัญหาได้อย่างไร”

เฉียนลี่ยกยิ้มและเป็นรอยยิ้มประชด “เจ้านี่ช่างใสซื่อจริงๆ” พูดพลางยื่นมือที่เคยหิ้วหัวคนมาลูบสัมผัสแก้มของนาง

เจียงหลีหลบหลีกทันควัน ดวงตาเย็นชาและฉายแววขยะแขยงอย่างปิดไม่อยู่ “จะพูดก็พูดไป แต่มือเท้าไม่ต้องขยับก็ได้”

เฉียนลี่ประหลาดใจไม่ใช่เพราะโกรธที่นางทำท่ารังเกียจแต่กลับชี้ไปที่ศีรษะของคนนั้นแทน “รู้ไหมว่าเขาคือใคร”

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ราชินีพลิกสวรรค์ 251 เจ้าช่างน่ารักใสซื่อจริงๆ

Now you are reading ราชินีพลิกสวรรค์ Chapter 251 เจ้าช่างน่ารักใสซื่อจริงๆ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

เมื่อนึกถึงรัชทายาทแห่งซีเฉียน ก็ปรากฏเงาของตัวร้ายผู้อวดดีในหัว

ตอนที่เพิ่งมาถึงซีเฉียน พวกเขาสองคนเคยขัดแย้งและต่อสู้กันบนถนน

จากนั้นนางเก็บตัวฝึกฝนอย่างหนักในสถาบันไป๋หยวนจึงลืมคนผู้นี้ไปแล้ว หากไม่ใช่เพราะเฉียนจวิ้นแกว่งเท้าหาเสี้ยนต่อหน้านาง เกรงว่าสองพี่น้องนี่คงลืมนางไปหมดสิ้นแล้ว

แต่ทว่า รัชทายาทแห่งซีเฉียนตามหานางเพื่ออะไร

อีกทั้งยังมาตามหาหลังจากสอบเสร็จแล้ว

“เจ้านายของพวกเจ้าคือรัชทายาทแห่งซีเฉียนใช่หรือไม่” เจียงหลีหยั่งเชิงถามอีกครั้ง

“แม่นางช่างฉลาดนัก” เมื่อเห็นว่านางเดาถูก หลิงไซว่ทั้งสี่ก็ไม่ปิดบังอีกต่อไป

“ไท่จื่อแห่งซีเฉียนอย่างนั้นหรือ”

เขาขมวดคิ้วถามเจียงหลี “เขาตามหาเจ้าเพื่ออะไร หรือการต่อสู้ของพวกเจ้าคราวก่อนยังไม่รู้แพ้รู้ชนะ หนึ่งปีแล้วเขายังไม่หายแค้นเจ้าอีกหรือถึงได้มาหาเรื่องอีก”

เจียงหลีกระตุกมุมปาก ยอมให้กับความคิดในหัวสมองของลู่เสวียน

แต่นางก็ไม่เข้าใจจุดประสงค์ของรัชทายาทซีเฉียนที่ตามหานาง ถึงอย่างไรการปะทะระหว่าสองคนอย่างที่ลู่เสวียนกล่าวมาอาจเป็นเหตุผลเพียงครึ่งเดียวเท่านั้น

“ข้าจะไปกับพวกเจ้า” ด้วยความสงสัยในใจ เจียงหลีจึงเปลี่ยนใจไปตามนัดหมาย

“ไม่ได้!” ลู่เสวียนรีบหยุดยั้ง

เจียงหลีส่งสายตาให้เขา ลู่เสวียนผงะ ทันใดนั้นก็เข้าใจความหมายที่เจียงหลีสื่อทันที

“รัชทายาทเทียบเชิญข้าคนเดียว ไม่ต้องให้เขาไปหรอกกระมัง” เจียงหลีชี้ไปที่ลู่เสวียน

หนึ่งในหลิงไซว่กวาดสายตาสำรวจลู่เสวียนแล้วเอ่ยอย่างเย็นชา “แน่นอน”

“ไปสิ” เจียงหลีพยักหน้า

การให้ความร่วมมือของนางจึงทำให้หลิงไซว่ทั้งสองคนยอมหลีกกายเบิกทางให้ จากนั้นปรากฏรถม้าทรงเตี้ยจอดอยู่ด้านหลัง แววตาของเจียงหลีเป็นประกายวูบไหว ดูท่าทางรัชทายาทอวดดีผู้นี้หาตัวจับยาก ไม่อยากให้ใครรู้ว่านัดเจอกับข้า

เจียงหลีขึ้นรถม้าตามสี่คนนั้นไป

ลู่เสวียนยืนอยู่ที่เดิมมองจนรถม้าลับตาไปจากนั้นจึงรีบวิ่งกลับสถาบันไป๋หยวน ซ้อเล็กถูกรัชทายาทซีเฉียนพาตัวไป ที่จริงข้าต้องไปบอกให้พี่ใหญ่ช่วย แต่การที่พี่ใหญ่มาเมืองอู๋อิ๋นก็เป็นความลับอยู่แล้ว สถานะของเขาตอนนี้ละเอียดอ่อนมาก มิอาจให้คนในราชวงศ์ซีเฉียนล่วงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ ดูแล้วคงทำได้เพียงไปตามคนที่สถาบันไป๋หยวน! ไปหาท่านอาจารย์เฟิง!

ในขณะที่กำลังมองเจียงหลีขึ้นรถม้า ลู่เสวียนก็วิเคราะห์ในใจชัดเจนแล้วว่าควรจะตามใครไปช่วย

เจียงหลีไม่ให้เขาตามไป ไม่ใช่เพราะจะให้เขาหาโอกาสไปตามคนมาช่วยหรือไง!

ลู่เสวียนวิ่งทะยานสู่สถาบันไป๋หยวน

เจียงหลีที่อยู่บนรถม้าก็รู้สึกว่าเสียงวุ่นวายของตลาดด้านนอกค่อยๆ เงียบลง แล้วเอ่ยขึ้นในใจ ดูท่าทางน่าจะพ้นเขตเมืองแล้ว

รถม้าได้รับการปกป้องอย่างระมัดระวังเพื่อไม่ให้เจียงหลีรู้ว่ามันไปที่ไหน

แต่ทว่า นอกจากเจียงหลีจะเป็นหลิงซือแล้วยังเป็นเนี่ยนซืออีกด้วยจึงแอบใช้พลังอ่านจิตเงียบๆ ในรถม้าออกไป และ ‘มองเห็น’ สภาพภายนอกทุกอย่างอยู่ในสายตา

อีกทั้งนางยังควบคุมก้อนกรวดก้อนหินข้างถนนและทำเครื่องหมายอย่างไม่ชัดเจนนักเอาไว้

เช่นนี้ลู่เสวียนก็จะตามคนมาช่วยได้สะดวก

หลักจากอ้อมวนอยู่นาน ในที่สุดรถม้าก็หยุดลง

เจียงหลีเรียกพลังจิตกลับคืนมา เมื่อลืมตาขึ้นประตูรถม้าก็ถูกเปิดออกพอดี หลิงไซว่ด้านนอกเอ่ยน้ำเสียงเย็นชา “ลงมา”

น้ำเสียงไร้ซึ่งมารยาททำให้แววตาของเจียงหลีวูบไหวแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรมาก นางลุกขึ้นโน้มตัวกระโดดลงจากรถม้า จากนั้นสำรวจสภาพแวดล้อมอย่างสนใจ

นี่คือทะเลสาบที่สวยงามพร้อมตำหนักหลังงามที่สร้างขึ้นริมทะเลสาบ

และมีป้อมปราการทั้งสี่ด้าน

ช่างเป็นการป้องกันที่แน่นหนาจริงๆ! เจียงหลีหัวเราะเยาะในใจและหันสายตากลับมา

รัชทายาทพระองค์นี้ต้องการพบนางอย่างเงียบเชียบแต่กลับก็ยังอดถือตัวสูงส่งมิได้ คนคุ้มกันที่นี่เยอะขนาดนี้ไม่รู้ว่าคุ้มกันไม่ให้ผู้อื่นเข้าใกล้หรือบอกให้คนอื่นรู้ว่าอย่ามาเข้าใกล้กันแน่ว่าข้ากำลังวางแผนทำเรื่องลับๆ ที่นี่

“เชิญ”

เจียงหลีเข้ามาในตำหนักโดยการนำทางของหลิงไซว่

ในขณะที่หลิงไซว่กำลังนำทางนางก็แอบสำรวจอยู่หลายครั้ง เมื่อเห็นนางเดินเอ้อระเหยทั้งยังมัวแต่มองสำรวจตำหนักอีก

ท่าทางที่ไม่กังวลเรื่องใดสักนิด พฤติกรรมแปลกเกินไปแล้ว

“รออยู่ตรงนี้”

เมื่อมาถึงประตู หลิงไซว่ก็หยุดเดินแล้วหันมาออกคำสั่งกับเจียงหลี

ใยหน้าของเจียงหลีประดับรอยยิ้มแทบไม่มีความรู้สึกต่อต้าน

หลิงไซว่สบถก่อนจะผลักประตูเข้าไป แต่เขาไม่ได้สังเกตเห็นความเย็นในดวงตาที่ยิ้มของเจียงหลี

หลิงไซว่ไม่ปล่อยให้เจียงหลีรออยู่ข้างนอกนานนักและในไม่ช้าก็ออกมาอีกครั้งและพูดเอ่ยกับนาง “เข้าไปสิ”

เจียงหลีก้าวขาข้ามประตูเข้าไป

ประตูปิดตามหลังจากที่นางเข้าไปแล้ว

เพียงแต่เมื่อเข้าไปแล้ว นางก็ได้กลิ่นเหม็นคาวซึ่งเกิดจากการผสมกันของลมหายใจของสัตว์ร้ายหลายชนิด

แกร่กๆ

เสียงดังของโซ่ทำให้เจียงหลีต้องเงยหน้าขึ้น

ในตำหนักที่ดูเหมือนธรรมดานี้มีกรงที่ทำจากเหล็กชั้นดีอยู่รอบๆ ตัวนาง

ในกรงทั้งแปดนั้นสัตว์ร้ายต่างๆ ถูกขัง ลำคออุ้งเท้าและหลังของพวกมันทั้งหมดถูกมัดด้วยโซ่และยึดติดกับผนัง สาเหตุที่สัตว์ร้ายไม่สามารถส่งเสียงคำรามได้เพราะพวกมันถูกเหล็กครอบปิดปากเอาไว้

“เจ้ามาแล้วหรือ” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหน้า

เจียงหลีช้อนสายตาขึ้นไปมองและเห็นชายร่างสูงใหญ่เดินออกมาจากเงามืดช้าๆ

ในมือของเขาเขาถือสิ่งที่เปื้อนเลือดด้วย เมื่อเขาเข้าไปใกล้ เจียงหลีก็ตระหนักว่าเขากำลังถือศีรษะของมนุษย์

ทันใดนั้นเขาโยนศีรษะในมือทิ้งและศีรษะก็กลิ้งไปบนพื้นจนในที่สุดก็หยุดอยู่ตรงหน้าเจียงหลี

“…” เจียงหลีก้มมองหน้าคนนั้นที่เหลือเพียงความน่าหวาดกลัวเอาไว้ ‘ไม่รู้จัก’

เจียงหลีค่อยๆ เงยหน้าขึ้นและสบตากับผู้ชายคนนั้น “รัชทายาท นี่หมายความว่าอย่างไร”

เฉียนลี่กระตุกมุมปากดูเหมือนจะยิ้มให้แต่รอยยิ้มนั้นกลับทำให้คนรู้สึกเย็นวาบ “ข้าช่วยเหลือเจ้า เจ้าก็ควรขอบใจข้าสักหน่อยใช่หรือไม่”

ช่วยเหลืออย่างนั้นหรือ

เจียงหลีขมวดคิ้ว รัชทายาทพระองค์นี้ช่วยเหลือนางเรื่องอะไรหรือ

เฉียนลี่ก้าวเข้ามาหาเจียงหลี เขาคนนี้อาจจะเป็นเพราะไอสังหารมากเกินไป ทันทีที่เขาเดินเข้าใกล้มันทำให้คนอื่นรู้สึกว่าอุณหภูมิโดยรอบลดลง

เขาหยุดอยู่ตรงหน้าเจียงหลีแล้วค่อยๆ โน้มตัวลงมากระซิบข้างใบหูนาง “การแสดงของเจ้าที่สถาบันไป๋หยวนสร้างความเดือดร้อนให้เจ้า เมื่อเจ้ากลับไปจะได้รับพระราชโองการให้เข้าวังในอีกสามวัน”

ลมหายใจของเฉียนลี่ปะทะเข้าจมูกของเจียงหลีจึงทำให้นางรู้สึกขยะแขยง

การรักษาระยะห่างระหว่างทั้งสองโดยไม่ทิ้งร่องรอย นางแสร้งทำเป็นไม่รู้และถามว่า “การเข้าวังเป็นสิ่งที่ดีจะมีปัญหาได้อย่างไร”

เฉียนลี่ยกยิ้มและเป็นรอยยิ้มประชด “เจ้านี่ช่างใสซื่อจริงๆ” พูดพลางยื่นมือที่เคยหิ้วหัวคนมาลูบสัมผัสแก้มของนาง

เจียงหลีหลบหลีกทันควัน ดวงตาเย็นชาและฉายแววขยะแขยงอย่างปิดไม่อยู่ “จะพูดก็พูดไป แต่มือเท้าไม่ต้องขยับก็ได้”

เฉียนลี่ประหลาดใจไม่ใช่เพราะโกรธที่นางทำท่ารังเกียจแต่กลับชี้ไปที่ศีรษะของคนนั้นแทน “รู้ไหมว่าเขาคือใคร”

………………….

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+