รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ 16 : สถานีรถไฟใต้ดิน (4)

Now you are reading รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ Chapter 16 : สถานีรถไฟใต้ดิน (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่หมิงยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะจ้องมองไปยังด้านใน ทันใดนั้นก็มีกรงเล็บสีเงินขนาดใหญ่พุ่งตรงมาเขาอย่างรวดเร็ว ลู่หมิงยกทวนขึ้นมาป้องกันก่อนจะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

 

“ในที่สุดแกก็ทนไม่ไหวแล้วสินะ”

 

ลู่หมิงกระโดดถอยหลังเพื่อตั้งหลักเล็กน้อยก่อนจะพิจารณาเรดวูฟจ่าฝูงตรงหน้า ซึ่งมันก็จ้องมองมาทางลู่หมิงด้วยเช่นกัน ทั้งคู่จ้องมองกันอยู่สักพักที่เรดวูฟจ่าฝูงจะกระโจนเข้าใส่ลู่หมิงพร้อมกับอ้าปากโชว์คมเขี้ยวที่แหลมคมของมัน

 

ลู่หมิงยิ้มก่อนจะสบัดทวนใส่มัน เมื่อเรดวูฟจ่าฝูงเห็นทวนของลู่หมิงมันก็รีบยกขาข้างหนึ่งมาป้องกันทันที ลู่หมิงที่เห็นว่าเรดวูฟป้องกันการโจมตีของเขาทางตัวเขาเองก็ไม่รอช้ารีบพลิกตัวเปลี่ยนท่าทันที

 

เรดวูฟกระโจนหลบไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว ทำเอาลู่หมิงแปลกใจกับปฏิกิริยาของมันเล็กน้อย

 

‘เจ้านี่มันไวใช้ได้เลยแหะ’

 

ลู่หมิงไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเขาตะโกนบอกกับพวกจางเหว่ยว่า

 

“พวกนายรีบออกไปจากสถานีเดียวนี้เลย”

 

จางเหว่ยที่กำลังกวัดแกว่งกระบี่อยู่นั้นได้ยินคำพูดของลู่หมิงเขาก็อดที่จะหันกลับมาถามไม่ได้

 

“แล้วนายล่ะ ?”

 

“ฉันจะไล่ไปจัดการจ่าฝูงของมัน นายไม่ต้องห่วงพวกนายรีบออกกันเดียวนี้เลย”

 

จางเหว่ยที่ได้ยินแบบนั้นก็กัดฟันเล็กน้อยเขาอยากจะกลับไปช่วยลู่หมิงสู้ แต่ด้วยการที่พวกเขานั้นแค่สู้กับเรดวูฟทั่วไปก็ลำบากมากแล้ว การจะตามลู่หมิงไปนั้นอาจจะยิ่งสร้างภาระให้กับเขามากขึ้นไปอีก

 

แม้ภายนอกจางเหว่ยอาจจะดูเหมือนพวกหุนหันและใช้อารมณ์ตัดสินมากกว่าใช้สมอง แต่เมื่อเจอเหตุการณ์คับขันเขาก็มักจะกลายเป็นผู้นำที่ดีอยู่เสมอ นี่อาจจะเป็นเพราะเขาได้รับยีนความเป็นผู้นำมาจากผู้เป็นพ่อ แต่จะอะไรก็ช่างเอาเป็นว่าในอนาคตจางเหว่ยนั้นจะกลายเป็นผู้นำที่ดีอย่างแน่นอน

 

จางเหว่ยพาคนอื่นๆขึ้นไปด้านบน เมื่อลู่หมิงเห็นแบบนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่ยิ้มออกมาและหันไปสนใจกับเรดวูฟจ่าฝูงต่อ ลู่หมิงไม่รอช้ารีบไล่ตามเรดวูฟจ่าฝูงไป ซึ่งระหว่างทางเขาก็ได้สังหารเรดวูฟธรรมดาและไล่ต้อนตัวจ่าฝูงไปด้วย

 

ทั้งคู่รุกรับสลับกันอย่างบ้าคลั้ง จากที่ได้แลกการปะทะกันมาสักพักลู่หมิงก็คาดว่าตัวของเรดวูฟจ่าฝูงน่าจะมีบางอย่างที่พิเศษคอยช่วยเหลือมันเพราะตอนนี้ลู่หมิงมีค่าสถานะทั้งสี่มากกว่า 25 แต้มการที่จะมีมอนสเตอร์ในระดับนี้สู้กับเขาได้ พวกมันจะต้องมีอะไรที่พิเศษ

 

ซึ่งลู่หมิงคาดว่าน่าจะเป็นเขาที่หน้าผากของมันและดูเหมือนว่าการคาดเดาของเขาจะถูกต้อง เขาบนหน้าผากของเรดวูฟจ่าฝูงเรืองแสงออกมา ก่อนที่กรงเล็บของมันจะเข้าปะทะกับทวนของลู่หมิง

 

อึก !!

 

การปะทะกันเมื่อคู่ทำเอาลู่หมิงถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งเพราะแรงของเจ้าเรดวูฟจ่าฝูงนี้มหาศาลมาก และเจ้าเรดวูฟจ่าฝูงก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เขารีบใช้กรงเล็บอีกข้างหนึ่งของมันตะปบใส่ลู่หมิงทันที

 

ลู่หมิงที่กำลังรู้สึกชาจากการปะทะเมื่อครู่อยู่นั้นทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาช้าไปครู่หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้แต่ด้วยเพราอาการชา ทำให้เขาถูกกรงเล็บของเรดวูฟจ่าฝูงเฉือนเข้าที่เอวของเขา

 

“อ๊า !!”

 

ลู่หมิงกรีดร้องออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอี้ยวตัวหลบและใช้ทวนแทงเข้าไปที่ลำตัวของเรดวูฟ

 

“เอ๊ง !!”

 

การโจมตีของทั้งคู่ต่างสร้างบาดแผลให้อีกฝ่าย ลู่หมิงกระโดดถอยหลังออกมาตั้งหลักเล็กน้อย ในตอนนี้ลู่หมิงไม่อยากจะยืดเยื้อการต่อสู้อีกต่อไปแล้วเพราะยิ่งเขาใช้เวลามากเท่าไหร่ อาการบาดเจ็บของเขาก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นและดีไม่ดีอาจจะทำให้เขาพลาดท่า

 

ทั้งคู่ตั้งหลักเล็กน้อยก่อนจะกระโจนเข้าใส่กัน ลู่หมิงกวัดแกว่งทวนในมือของเขาโจมตีใส่เรดวูฟจ่าฝูงอย่างหนักหน่วง และทางเรดวูฟเองก็เช่นกันมันระดมการโจมตีใส่ลู่หมิงทั้งกัด ทั้งข่วน ทั้งตะปบ

 

ยิ่งสู้กันนานมากเท่าไหร่บาดแผลของทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณในตอนนี้ร่างกายของลู่หมิงเริ่มที่จะมีบาดแผลมากขึ้น แม้อีกฝ่ายจะมีมากกว่าเขาแต่ด้วยการที่มันเป็นสัตว์ป่าสัญชาตญาณของมันก็ยิ่งทำให้มันดุร้ายและเกรี้ยวกราดมากยิ่งขึ้น

 

ด้วยความเหนื่อยล้าสะสมและบาดแผลที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีจังหวะหนึ่งที่เข่าของลู่หมิงเกิดอาการอ่อนแรงเพียงเสี้ยววินาที แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เวลาเสี้ยววินาที แต่ภายในการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิตแบบนี้ก็อาจทำให้ลู่หมิงนั้นตายได้

 

และแน่นอนว่าเรดวูฟล่าฝูงไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป มันรีบใช้อุ้งเท้าที่เต็มไปด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของมันตวัดเข้าใส่ลู่หมิงทันที ลู่หมิงที่เห็นแบบนั้นก็กรีดร้องออกมาในใจ

 

‘แย่แล้ว !’

 

ตูม !!!

 

‘อั๊ค !!’

 

ลู่หมิงปลิวกระเด็นออกไปกว่าสองเมตรจากการโจมตีเมื่อครู่ โชคดีที่เขานั้นสามารถป้องกันได้ทันเวลาแต่จากแรงปะทะเมื่อครู่ทำให้ตอนนี้กระดูกซี่โครงของเขาหัก

 

ลู่หมิงนอนแช่อยู่กับพื้นเพราะอาการบาดเจ็บของเขา เขาหอยหายใจออกมาและพยายามจะลุกขึ้นแต่ด้วยอาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ทำให้ทุกการกระทำของลู่หมิงกลายเป็นเชื่องช้าและยากลำบาก

 

เรดวูฟจ่าฝูงรีบกระโจนเข้าใส่ลู่หมิงทันทีเมื่อมันเห็นว่าลู่หมิงกำลังพลาดท่า ลู่หมิงพยายามลุกขึ้นแต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ซี่โครงของเขาทำให้เป็นการยากที่จะลุกขึ้นในตอนนี้

 

‘ฉันจะมาตายที่นี้ไม่ได้ !’

 

ลู่หมิงกัดฟันพยายามลุกขึ้นอย่างสุดความสามารถพร้อมกับจ้องมองเรดวูฟจ่าฝูงที่กำลังใกล้เข้ามา ในจังหวะนั้นเองก็ได้มีบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

 

{ ด้วยอารมณ์และจิตใจของผู้เล่นที่ไม่ยอมแพ้ต่อความตายที่ใกล้เข้ามาแม้จะอยู่ใกล้หุบเหวแห่งความตาย ทำให้ผู้เล่นสามารถปลดล็อคความสามารถพิเศษของ ‘เทคนิคบ่มเพาะเทพสงคราม’ ได้ }

{ ผู้เล่นได้รับทักษะพิเศษ : ความเย่อหยิ่งของเทพสงคราม }

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ 16 : สถานีรถไฟใต้ดิน (4)

Now you are reading รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ Chapter 16 : สถานีรถไฟใต้ดิน (4) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลู่หมิงยิ้มออกมาด้วยความตื่นเต้น ก่อนจะจ้องมองไปยังด้านใน ทันใดนั้นก็มีกรงเล็บสีเงินขนาดใหญ่พุ่งตรงมาเขาอย่างรวดเร็ว ลู่หมิงยกทวนขึ้นมาป้องกันก่อนจะกล่าวออกมาด้วยรอยยิ้มว่า

 

“ในที่สุดแกก็ทนไม่ไหวแล้วสินะ”

 

ลู่หมิงกระโดดถอยหลังเพื่อตั้งหลักเล็กน้อยก่อนจะพิจารณาเรดวูฟจ่าฝูงตรงหน้า ซึ่งมันก็จ้องมองมาทางลู่หมิงด้วยเช่นกัน ทั้งคู่จ้องมองกันอยู่สักพักที่เรดวูฟจ่าฝูงจะกระโจนเข้าใส่ลู่หมิงพร้อมกับอ้าปากโชว์คมเขี้ยวที่แหลมคมของมัน

 

ลู่หมิงยิ้มก่อนจะสบัดทวนใส่มัน เมื่อเรดวูฟจ่าฝูงเห็นทวนของลู่หมิงมันก็รีบยกขาข้างหนึ่งมาป้องกันทันที ลู่หมิงที่เห็นว่าเรดวูฟป้องกันการโจมตีของเขาทางตัวเขาเองก็ไม่รอช้ารีบพลิกตัวเปลี่ยนท่าทันที

 

เรดวูฟกระโจนหลบไปทางด้านข้างอย่างรวดเร็ว ทำเอาลู่หมิงแปลกใจกับปฏิกิริยาของมันเล็กน้อย

 

‘เจ้านี่มันไวใช้ได้เลยแหะ’

 

ลู่หมิงไม่ปล่อยให้โอกาสหลุดลอยไปเขาตะโกนบอกกับพวกจางเหว่ยว่า

 

“พวกนายรีบออกไปจากสถานีเดียวนี้เลย”

 

จางเหว่ยที่กำลังกวัดแกว่งกระบี่อยู่นั้นได้ยินคำพูดของลู่หมิงเขาก็อดที่จะหันกลับมาถามไม่ได้

 

“แล้วนายล่ะ ?”

 

“ฉันจะไล่ไปจัดการจ่าฝูงของมัน นายไม่ต้องห่วงพวกนายรีบออกกันเดียวนี้เลย”

 

จางเหว่ยที่ได้ยินแบบนั้นก็กัดฟันเล็กน้อยเขาอยากจะกลับไปช่วยลู่หมิงสู้ แต่ด้วยการที่พวกเขานั้นแค่สู้กับเรดวูฟทั่วไปก็ลำบากมากแล้ว การจะตามลู่หมิงไปนั้นอาจจะยิ่งสร้างภาระให้กับเขามากขึ้นไปอีก

 

แม้ภายนอกจางเหว่ยอาจจะดูเหมือนพวกหุนหันและใช้อารมณ์ตัดสินมากกว่าใช้สมอง แต่เมื่อเจอเหตุการณ์คับขันเขาก็มักจะกลายเป็นผู้นำที่ดีอยู่เสมอ นี่อาจจะเป็นเพราะเขาได้รับยีนความเป็นผู้นำมาจากผู้เป็นพ่อ แต่จะอะไรก็ช่างเอาเป็นว่าในอนาคตจางเหว่ยนั้นจะกลายเป็นผู้นำที่ดีอย่างแน่นอน

 

จางเหว่ยพาคนอื่นๆขึ้นไปด้านบน เมื่อลู่หมิงเห็นแบบนั้นเขาก็อดไม่ได้ที่ยิ้มออกมาและหันไปสนใจกับเรดวูฟจ่าฝูงต่อ ลู่หมิงไม่รอช้ารีบไล่ตามเรดวูฟจ่าฝูงไป ซึ่งระหว่างทางเขาก็ได้สังหารเรดวูฟธรรมดาและไล่ต้อนตัวจ่าฝูงไปด้วย

 

ทั้งคู่รุกรับสลับกันอย่างบ้าคลั้ง จากที่ได้แลกการปะทะกันมาสักพักลู่หมิงก็คาดว่าตัวของเรดวูฟจ่าฝูงน่าจะมีบางอย่างที่พิเศษคอยช่วยเหลือมันเพราะตอนนี้ลู่หมิงมีค่าสถานะทั้งสี่มากกว่า 25 แต้มการที่จะมีมอนสเตอร์ในระดับนี้สู้กับเขาได้ พวกมันจะต้องมีอะไรที่พิเศษ

 

ซึ่งลู่หมิงคาดว่าน่าจะเป็นเขาที่หน้าผากของมันและดูเหมือนว่าการคาดเดาของเขาจะถูกต้อง เขาบนหน้าผากของเรดวูฟจ่าฝูงเรืองแสงออกมา ก่อนที่กรงเล็บของมันจะเข้าปะทะกับทวนของลู่หมิง

 

อึก !!

 

การปะทะกันเมื่อคู่ทำเอาลู่หมิงถึงกับชะงักไปครู่หนึ่งเพราะแรงของเจ้าเรดวูฟจ่าฝูงนี้มหาศาลมาก และเจ้าเรดวูฟจ่าฝูงก็ไม่ปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป เขารีบใช้กรงเล็บอีกข้างหนึ่งของมันตะปบใส่ลู่หมิงทันที

 

ลู่หมิงที่กำลังรู้สึกชาจากการปะทะเมื่อครู่อยู่นั้นทำให้ปฏิกิริยาตอบสนองของเขาช้าไปครู่หนึ่ง แต่ถึงอย่างนั้นเขาก็สามารถเอี้ยวตัวหลบได้แต่ด้วยเพราอาการชา ทำให้เขาถูกกรงเล็บของเรดวูฟจ่าฝูงเฉือนเข้าที่เอวของเขา

 

“อ๊า !!”

 

ลู่หมิงกรีดร้องออกมาเล็กน้อยก่อนจะเอี้ยวตัวหลบและใช้ทวนแทงเข้าไปที่ลำตัวของเรดวูฟ

 

“เอ๊ง !!”

 

การโจมตีของทั้งคู่ต่างสร้างบาดแผลให้อีกฝ่าย ลู่หมิงกระโดดถอยหลังออกมาตั้งหลักเล็กน้อย ในตอนนี้ลู่หมิงไม่อยากจะยืดเยื้อการต่อสู้อีกต่อไปแล้วเพราะยิ่งเขาใช้เวลามากเท่าไหร่ อาการบาดเจ็บของเขาก็จะยิ่งรุนแรงมากขึ้นและดีไม่ดีอาจจะทำให้เขาพลาดท่า

 

ทั้งคู่ตั้งหลักเล็กน้อยก่อนจะกระโจนเข้าใส่กัน ลู่หมิงกวัดแกว่งทวนในมือของเขาโจมตีใส่เรดวูฟจ่าฝูงอย่างหนักหน่วง และทางเรดวูฟเองก็เช่นกันมันระดมการโจมตีใส่ลู่หมิงทั้งกัด ทั้งข่วน ทั้งตะปบ

 

ยิ่งสู้กันนานมากเท่าไหร่บาดแผลของทั้งสองฝ่ายก็ยิ่งเพิ่มขึ้น เลือดสาดกระจายไปทั่วบริเวณในตอนนี้ร่างกายของลู่หมิงเริ่มที่จะมีบาดแผลมากขึ้น แม้อีกฝ่ายจะมีมากกว่าเขาแต่ด้วยการที่มันเป็นสัตว์ป่าสัญชาตญาณของมันก็ยิ่งทำให้มันดุร้ายและเกรี้ยวกราดมากยิ่งขึ้น

 

ด้วยความเหนื่อยล้าสะสมและบาดแผลที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้มีจังหวะหนึ่งที่เข่าของลู่หมิงเกิดอาการอ่อนแรงเพียงเสี้ยววินาที แต่ถึงแม้จะเป็นเพียงแค่เวลาเสี้ยววินาที แต่ภายในการต่อสู้ที่เดิมพันด้วยชีวิตแบบนี้ก็อาจทำให้ลู่หมิงนั้นตายได้

 

และแน่นอนว่าเรดวูฟล่าฝูงไม่ยอมปล่อยให้โอกาสนี้หลุดลอยไป มันรีบใช้อุ้งเท้าที่เต็มไปด้วยกรงเล็บอันแหลมคมของมันตวัดเข้าใส่ลู่หมิงทันที ลู่หมิงที่เห็นแบบนั้นก็กรีดร้องออกมาในใจ

 

‘แย่แล้ว !’

 

ตูม !!!

 

‘อั๊ค !!’

 

ลู่หมิงปลิวกระเด็นออกไปกว่าสองเมตรจากการโจมตีเมื่อครู่ โชคดีที่เขานั้นสามารถป้องกันได้ทันเวลาแต่จากแรงปะทะเมื่อครู่ทำให้ตอนนี้กระดูกซี่โครงของเขาหัก

 

ลู่หมิงนอนแช่อยู่กับพื้นเพราะอาการบาดเจ็บของเขา เขาหอยหายใจออกมาและพยายามจะลุกขึ้นแต่ด้วยอาการบาดเจ็บของเขาในตอนนี้ทำให้ทุกการกระทำของลู่หมิงกลายเป็นเชื่องช้าและยากลำบาก

 

เรดวูฟจ่าฝูงรีบกระโจนเข้าใส่ลู่หมิงทันทีเมื่อมันเห็นว่าลู่หมิงกำลังพลาดท่า ลู่หมิงพยายามลุกขึ้นแต่ด้วยอาการบาดเจ็บที่ซี่โครงของเขาทำให้เป็นการยากที่จะลุกขึ้นในตอนนี้

 

‘ฉันจะมาตายที่นี้ไม่ได้ !’

 

ลู่หมิงกัดฟันพยายามลุกขึ้นอย่างสุดความสามารถพร้อมกับจ้องมองเรดวูฟจ่าฝูงที่กำลังใกล้เข้ามา ในจังหวะนั้นเองก็ได้มีบางอย่างปรากฏขึ้นตรงหน้าของเขา

 

{ ด้วยอารมณ์และจิตใจของผู้เล่นที่ไม่ยอมแพ้ต่อความตายที่ใกล้เข้ามาแม้จะอยู่ใกล้หุบเหวแห่งความตาย ทำให้ผู้เล่นสามารถปลดล็อคความสามารถพิเศษของ ‘เทคนิคบ่มเพาะเทพสงคราม’ ได้ }

{ ผู้เล่นได้รับทักษะพิเศษ : ความเย่อหยิ่งของเทพสงคราม }

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+