รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6)

Now you are reading รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ Chapter 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายรุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6) นี่ก็ปาไปวันที่เก้าแล้วหลังจากที่ลู่หมิงยึดถ้ำแห่งนี้ไว้เป็นฐานในช่วงเวลาที่ผ่านมาลู่หมิงได้ออกสำรวจป่าแห่งนี้อย่างบ้าคลั่งแต่ก็ไม่มีอะไรที่พอจะเชื่อมโยงไปสู่ใจกลางของป่าเขาวงกตเลยแถมสามวันก่อนเขาดันหลงอยู่ในอนาคตเขตของพวกเอนท์อีกต่างหากซึ่งกว่าจะออกมาได้เล่นเอาลำบากอยู่เหมือนกัน แม้การติดอยู่ในดันเจี้ยนนานๆจะไม่ใช่เรื่องดีแต่นั่นก็ไม่ได้แย่สำหรับเขาในตอนนี้เพราะนอกจากลู่หมิงจะได้ฟาร์มคริสตัลค่าสถานะแล้วเขายังมีเวลาในการเพิ่มพลังเวทย์เพื่อเลื่อนขั้นอีกด้วย แถมในเวลาว่างลู่หมิงก็ยังคงศึกษาเวทมนต์จากลูกแก้วบันทึกความทรงจำลู่หมิงย่างปลาที่ตกมาได้ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจและดูแผนที่ที่เขาได้ทำการบันทึกเอาไว้ในระหว่างการสำรวจ ” อืม…บริเวณฝั่งตะวันออกสำรวจจนเกือบจะหมดแล้วแต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยทางตะวันออกก็เช่นกัน” ลู่หมิงเกาหัวของตัวเองก่อนจะเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาดู ลู่หมิงอายุ 18 กรุ๊ปเลือด AB คลาสอาร์คเมจขั้น1 ระดับสีเขียว จิตวิญญาณดวงดาวระดับ 2 ค่าสถานะ Str 27 (+50)(+2) Vit 15 (+50) Agi 32 (+50)(+1) Int 85 (+50) ค่าชื่อเสียง 5 -ค่าสถานะรวมทั้งสี่ถึงสองร้อยแต้มจึงจะสามารถเลื่อนสู่ระดับต่อไปได้ขาดอีก41แต้ม ” ฉันใกล้จะเลื่อนขั้นเป็นระดับสีฟ้าแล้วหากฟาร์มอีกสักหน่อย” ” ดูเหมือนทางเดียวที่จะไปถึงใจกลางเขาวงกตได้คงเป็นทิศเหนือเท่านั้นสินะ” ขาว” ลู่หมิงพูดพร้อมกับมองไปยังแผนที่ก่อนจะบ่นอุบออกมา ” มันดูง่ายเกินไปหรือเปล่านะ? ” เขาคิดทบทวนก่อนจะบ่นออกมาอีกครั้ง ” อ้าาาโถ่!! ช่างเถอะยังไงก็ต้องไปอยู่ดี” ลู่หมิงตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังทิศเหนือในวันพรุ่งนี้เขาต้องการจะออกจากดันเจี้ยนแห่งนี้ให้เร็วที่สุดแม้ป่าแห่งนี้จะเป็นสวรรค์ของนักฟาร์มแต่การที่อยู่ที่นี้นานๆมันไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ เพราะเขายังมีอย่างอื่นที่ต้องทำด้านนอกอีกฉะนั้นจะมามัวโอ้เอ้อยู่ที่นี่ไม่ได้ เช้าวันต่อมาลู่หมิงจัดการเก็บของทุกอย่างและเดินออกจากถ้ำมุ่งหน้าสู่ใจกลางป่าเขาวงกตลู่หมิงพุ่งตัวผ่านป่าไปอย่างรวดเร็วโดยที่แทบจะไม่สนใจมอนสเตอร์ตามทางเลยแม้แต่น้อย ลู่หมิงเลือกจะโจมตีมอนสเตอร์ที่โผล่มาขวางทางเท่านั้นส่วนมอนสเตอร์ที่สามารถหลบเลี่ยงได้ลู่หมิงก็จะปล่อยผ่านมันไปเนื่องจากไม่อยากเสียเวลากับพวกมัน ลู่หมิงใช้เวลากว่าครึ่งวันในที่สุดเขาก็พบเจอกับเบาะแสเล็กๆที่อาจจะนำพาเขาไปยังใจกลางป่าเขาวงกต หลังจากที่ลู่หมิงเดินทางมาเป็นเวลานานเขาก็สังเกตุเห็นต้นไม้และดอกไม้มากขึ้นแน่นอนว่ามันอาจจะไม่แตกต่างอะไรมากนักหากอยู่ในป่าแต่อย่าลืมว่าป่าที่คุณอยู่ในตอนนี้เป็นป่าทึบที่แทบจะไม่มีแสงอาทิตย์ส่องลงมายังพื้นดินเลยดังนั้นต้นไม้บริเวณพื้นดินส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาแสงแดดมากนัก แต่ในตอนนี้ลู่หมิงเริ่มพบเจอกับต้นไม้ที่อาศัยแสงแดดในการอยู่รอดเช่นต้นคาร์ทหรืออาติคาร์ดังนั้นแสดงว่าเส้นทางด้านหน้าจะต้องเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่แสงแดดส่องถึงอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นต้นไม้พวกนี้คงจะไม่สามารถอยู่รอดได้ หลังจากมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางเดิมอยู่นานในที่สุดลู่หมิงก็หลุดพ้นออกมาจากเขตป่าทึบ เมื่อออกมาลู่หมิงก็ต้องแปลกใจเพราะสถานที่ตรงหน้าแตกต่างจากด้านหลังของเขาเป็นอย่างมากมันเป็นทุ่งโล้งกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและลำธารขนาดใหญ่บรรยากาศที่ร่มรื่นและธรรมชาติอันงดงามราวกับสรวงสวรรค์ของเหล่าสัตว์เลยทีเดียว แต่สำหรับลู่หมิงแล้วเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดเดียวเพราะห่างไปไม่กี่ร้อยเมตรเขาได้สังเกตุเห็นแท่นบูชาตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทุ่งหญ้า ในตอนแรกลู่หมิงก็ดีใจอยู่หรอกแต่เมื่อสายตาของเขาสะดุดเข้ากับก้อนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากแท่นบูชาเขาก็ต้องแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา มองจากระยะไกลลู่หมิงไม่มั่นใจนักว่าสิ่งนั้นคืออะไรแต่จากพลังเวทย์ที่แผ่ออกมาจากร่างกายของมันสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้านั่นอันตราย ความรุนแรงและหนาแน่นของพลังเวทย์นั้นบ่งบอกได้เลยว่าเจ้าก้อนสีน้ำตาลนั้นเป็นราชาของสถานที่แห่งนี้และคาดว่าเหตุผลที่ภายในป่ามีมอนสเตอร์เต็มไปด้วยก็คงเพราะมันกำลังหนีเจ้าสิ่งนั้นอย่างแน่นอน ลู่หมิงสูดหายใจก่อนจะเดินเข้าไปเพราะไม่ว่าเจ้าสิ่งนั้นจะเป็นตัวอะไรเขาก็จำเป็นจะต้องสู้กับมันเพื่อที่จะออกไปจากดันเจี้ยนแห่งนี้ ลู่หมิงไม่มีทางเลือกเลยเมื่อลู่หมิงเข้าไปใกล้ๆกลับพบว่ามันไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยจนกระทั้งเขากับมันห่างกันเพียงแค่
ร้อยเมตรเท่านั้น ลู่หมิงจึงคิดว่ามันคงจะไม่โจมตีเขาหากเขาไม่ไปกระตุ้นมันลู่หมิงจนหันความสนใจไปที่แท่นบูชาแต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่คิดจะลดความระวังตัวลงจากเจ้าก้อนขนนี่เลย ในขณะที่ลู่หมิงกำลังจะเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชาจู่ๆเจ้าก้อนขนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ก็ขยับและหันมาคำรามใส่ลู่หมิง โฮกกกกกกกกกกกกกกกก!!

นิยายรุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6)

นี่ก็ปาไปวันที่เก้าแล้วหลังจากที่ลู่หมิงยึดถ้ำแห่งนี้ไว้เป็นฐานในช่วงเวลาที่ผ่านมาลู่หมิงได้ออกสำรวจป่าแห่งนี้อย่างบ้าคลั่งแต่ก็ไม่มีอะไรที่พอจะเชื่อมโยงไปสู่ใจกลางของป่าเขาวงกตเลยแถมสามวันก่อนเขาดันหลงอยู่ในอนาคตเขตของพวกเอนท์อีกต่างหากซึ่งกว่าจะออกมาได้เล่นเอาลำบากอยู่เหมือนกัน

แม้การติดอยู่ในดันเจี้ยนนานๆจะไม่ใช่เรื่องดีแต่นั่นก็ไม่ได้แย่สำหรับเขาในตอนนี้เพราะนอกจากลู่หมิงจะได้ฟาร์มคริสตัลค่าสถานะแล้วเขายังมีเวลาในการเพิ่มพลังเวทย์เพื่อเลื่อนขั้นอีกด้วย

แถมในเวลาว่างลู่หมิงก็ยังคงศึกษาเวทมนต์จากลูกแก้วบันทึกความทรงจำลู่หมิงย่างปลาที่ตกมาได้ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจและดูแผนที่ที่เขาได้ทำการบันทึกเอาไว้ในระหว่างการสำรวจ

” อืม…บริเวณฝั่งตะวันออกสำรวจจนเกือบจะหมดแล้วแต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยทางตะวันออกก็เช่นกัน”

ลู่หมิงเกาหัวของตัวเองก่อนจะเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาดู

ลู่หมิงอายุ 18 กรุ๊ปเลือด AB

คลาสอาร์คเมจขั้น1

ระดับสีเขียว

จิตวิญญาณดวงดาวระดับ 2

ค่าสถานะ

Str 27 (+50)(+2)

Vit 15 (+50)

Agi 32 (+50)(+1)

Int 85 (+50)

ค่าชื่อเสียง 5

-ค่าสถานะรวมทั้งสี่ถึงสองร้อยแต้มจึงจะสามารถเลื่อนสู่ระดับต่อไปได้ขาดอีก41แต้ม

” ฉันใกล้จะเลื่อนขั้นเป็นระดับสีฟ้าแล้วหากฟาร์มอีกสักหน่อย”

” ดูเหมือนทางเดียวที่จะไปถึงใจกลางเขาวงกตได้คงเป็นทิศเหนือเท่านั้นสินะ” ขาว”

ลู่หมิงพูดพร้อมกับมองไปยังแผนที่ก่อนจะบ่นอุบออกมา

” มันดูง่ายเกินไปหรือเปล่านะ? ”

เขาคิดทบทวนก่อนจะบ่นออกมาอีกครั้ง

” อ้าาาโถ่!! ช่างเถอะยังไงก็ต้องไปอยู่ดี”

ลู่หมิงตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังทิศเหนือในวันพรุ่งนี้เขาต้องการจะออกจากดันเจี้ยนแห่งนี้ให้เร็วที่สุดแม้ป่าแห่งนี้จะเป็นสวรรค์ของนักฟาร์มแต่การที่อยู่ที่นี้นานๆมันไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่

เพราะเขายังมีอย่างอื่นที่ต้องทำด้านนอกอีกฉะนั้นจะมามัวโอ้เอ้อยู่ที่นี่ไม่ได้

เช้าวันต่อมาลู่หมิงจัดการเก็บของทุกอย่างและเดินออกจากถ้ำมุ่งหน้าสู่ใจกลางป่าเขาวงกตลู่หมิงพุ่งตัวผ่านป่าไปอย่างรวดเร็วโดยที่แทบจะไม่สนใจมอนสเตอร์ตามทางเลยแม้แต่น้อย

ลู่หมิงเลือกจะโจมตีมอนสเตอร์ที่โผล่มาขวางทางเท่านั้นส่วนมอนสเตอร์ที่สามารถหลบเลี่ยงได้ลู่หมิงก็จะปล่อยผ่านมันไปเนื่องจากไม่อยากเสียเวลากับพวกมัน

ลู่หมิงใช้เวลากว่าครึ่งวันในที่สุดเขาก็พบเจอกับเบาะแสเล็กๆที่อาจจะนำพาเขาไปยังใจกลางป่าเขาวงกต

หลังจากที่ลู่หมิงเดินทางมาเป็นเวลานานเขาก็สังเกตุเห็นต้นไม้และดอกไม้มากขึ้นแน่นอนว่ามันอาจจะไม่แตกต่างอะไรมากนักหากอยู่ในป่าแต่อย่าลืมว่าป่าที่คุณอยู่ในตอนนี้เป็นป่าทึบที่แทบจะไม่มีแสงอาทิตย์ส่องลงมายังพื้นดินเลยดังนั้นต้นไม้บริเวณพื้นดินส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาแสงแดดมากนัก

แต่ในตอนนี้ลู่หมิงเริ่มพบเจอกับต้นไม้ที่อาศัยแสงแดดในการอยู่รอดเช่นต้นคาร์ทหรืออาติคาร์ดังนั้นแสดงว่าเส้นทางด้านหน้าจะต้องเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่แสงแดดส่องถึงอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นต้นไม้พวกนี้คงจะไม่สามารถอยู่รอดได้

หลังจากมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางเดิมอยู่นานในที่สุดลู่หมิงก็หลุดพ้นออกมาจากเขตป่าทึบ

เมื่อออกมาลู่หมิงก็ต้องแปลกใจเพราะสถานที่ตรงหน้าแตกต่างจากด้านหลังของเขาเป็นอย่างมากมันเป็นทุ่งโล้งกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและลำธารขนาดใหญ่บรรยากาศที่ร่มรื่นและธรรมชาติอันงดงามราวกับสรวงสวรรค์ของเหล่าสัตว์เลยทีเดียว

แต่สำหรับลู่หมิงแล้วเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดเดียวเพราะห่างไปไม่กี่ร้อยเมตรเขาได้สังเกตุเห็นแท่นบูชาตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทุ่งหญ้า

ในตอนแรกลู่หมิงก็ดีใจอยู่หรอกแต่เมื่อสายตาของเขาสะดุดเข้ากับก้อนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากแท่นบูชาเขาก็ต้องแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา

มองจากระยะไกลลู่หมิงไม่มั่นใจนักว่าสิ่งนั้นคืออะไรแต่จากพลังเวทย์ที่แผ่ออกมาจากร่างกายของมันสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้านั่นอันตราย

ความรุนแรงและหนาแน่นของพลังเวทย์นั้นบ่งบอกได้เลยว่าเจ้าก้อนสีน้ำตาลนั้นเป็นราชาของสถานที่แห่งนี้และคาดว่าเหตุผลที่ภายในป่ามีมอนสเตอร์เต็มไปด้วยก็คงเพราะมันกำลังหนีเจ้าสิ่งนั้นอย่างแน่นอน

ลู่หมิงสูดหายใจก่อนจะเดินเข้าไปเพราะไม่ว่าเจ้าสิ่งนั้นจะเป็นตัวอะไรเขาก็จำเป็นจะต้องสู้กับมันเพื่อที่จะออกไปจากดันเจี้ยนแห่งนี้

ลู่หมิงไม่มีทางเลือกเลยเมื่อลู่หมิงเข้าไปใกล้ๆกลับพบว่ามันไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยจนกระทั้งเขากับมันห่างกันเพียงแค่
ร้อยเมตรเท่านั้น

ลู่หมิงจึงคิดว่ามันคงจะไม่โจมตีเขาหากเขาไม่ไปกระตุ้นมันลู่หมิงจนหันความสนใจไปที่แท่นบูชาแต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่คิดจะลดความระวังตัวลงจากเจ้าก้อนขนนี่เลย

ในขณะที่ลู่หมิงกำลังจะเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชาจู่ๆเจ้าก้อนขนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ก็ขยับและหันมาคำรามใส่ลู่หมิง

โฮกกกกกกกกกกกกกกกก!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6)

Now you are reading รุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ Chapter 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายรุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6) นี่ก็ปาไปวันที่เก้าแล้วหลังจากที่ลู่หมิงยึดถ้ำแห่งนี้ไว้เป็นฐานในช่วงเวลาที่ผ่านมาลู่หมิงได้ออกสำรวจป่าแห่งนี้อย่างบ้าคลั่งแต่ก็ไม่มีอะไรที่พอจะเชื่อมโยงไปสู่ใจกลางของป่าเขาวงกตเลยแถมสามวันก่อนเขาดันหลงอยู่ในอนาคตเขตของพวกเอนท์อีกต่างหากซึ่งกว่าจะออกมาได้เล่นเอาลำบากอยู่เหมือนกัน แม้การติดอยู่ในดันเจี้ยนนานๆจะไม่ใช่เรื่องดีแต่นั่นก็ไม่ได้แย่สำหรับเขาในตอนนี้เพราะนอกจากลู่หมิงจะได้ฟาร์มคริสตัลค่าสถานะแล้วเขายังมีเวลาในการเพิ่มพลังเวทย์เพื่อเลื่อนขั้นอีกด้วย แถมในเวลาว่างลู่หมิงก็ยังคงศึกษาเวทมนต์จากลูกแก้วบันทึกความทรงจำลู่หมิงย่างปลาที่ตกมาได้ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจและดูแผนที่ที่เขาได้ทำการบันทึกเอาไว้ในระหว่างการสำรวจ ” อืม…บริเวณฝั่งตะวันออกสำรวจจนเกือบจะหมดแล้วแต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยทางตะวันออกก็เช่นกัน” ลู่หมิงเกาหัวของตัวเองก่อนจะเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาดู ลู่หมิงอายุ 18 กรุ๊ปเลือด AB คลาสอาร์คเมจขั้น1 ระดับสีเขียว จิตวิญญาณดวงดาวระดับ 2 ค่าสถานะ Str 27 (+50)(+2) Vit 15 (+50) Agi 32 (+50)(+1) Int 85 (+50) ค่าชื่อเสียง 5 -ค่าสถานะรวมทั้งสี่ถึงสองร้อยแต้มจึงจะสามารถเลื่อนสู่ระดับต่อไปได้ขาดอีก41แต้ม ” ฉันใกล้จะเลื่อนขั้นเป็นระดับสีฟ้าแล้วหากฟาร์มอีกสักหน่อย” ” ดูเหมือนทางเดียวที่จะไปถึงใจกลางเขาวงกตได้คงเป็นทิศเหนือเท่านั้นสินะ” ขาว” ลู่หมิงพูดพร้อมกับมองไปยังแผนที่ก่อนจะบ่นอุบออกมา ” มันดูง่ายเกินไปหรือเปล่านะ? ” เขาคิดทบทวนก่อนจะบ่นออกมาอีกครั้ง ” อ้าาาโถ่!! ช่างเถอะยังไงก็ต้องไปอยู่ดี” ลู่หมิงตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังทิศเหนือในวันพรุ่งนี้เขาต้องการจะออกจากดันเจี้ยนแห่งนี้ให้เร็วที่สุดแม้ป่าแห่งนี้จะเป็นสวรรค์ของนักฟาร์มแต่การที่อยู่ที่นี้นานๆมันไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่ เพราะเขายังมีอย่างอื่นที่ต้องทำด้านนอกอีกฉะนั้นจะมามัวโอ้เอ้อยู่ที่นี่ไม่ได้ เช้าวันต่อมาลู่หมิงจัดการเก็บของทุกอย่างและเดินออกจากถ้ำมุ่งหน้าสู่ใจกลางป่าเขาวงกตลู่หมิงพุ่งตัวผ่านป่าไปอย่างรวดเร็วโดยที่แทบจะไม่สนใจมอนสเตอร์ตามทางเลยแม้แต่น้อย ลู่หมิงเลือกจะโจมตีมอนสเตอร์ที่โผล่มาขวางทางเท่านั้นส่วนมอนสเตอร์ที่สามารถหลบเลี่ยงได้ลู่หมิงก็จะปล่อยผ่านมันไปเนื่องจากไม่อยากเสียเวลากับพวกมัน ลู่หมิงใช้เวลากว่าครึ่งวันในที่สุดเขาก็พบเจอกับเบาะแสเล็กๆที่อาจจะนำพาเขาไปยังใจกลางป่าเขาวงกต หลังจากที่ลู่หมิงเดินทางมาเป็นเวลานานเขาก็สังเกตุเห็นต้นไม้และดอกไม้มากขึ้นแน่นอนว่ามันอาจจะไม่แตกต่างอะไรมากนักหากอยู่ในป่าแต่อย่าลืมว่าป่าที่คุณอยู่ในตอนนี้เป็นป่าทึบที่แทบจะไม่มีแสงอาทิตย์ส่องลงมายังพื้นดินเลยดังนั้นต้นไม้บริเวณพื้นดินส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาแสงแดดมากนัก แต่ในตอนนี้ลู่หมิงเริ่มพบเจอกับต้นไม้ที่อาศัยแสงแดดในการอยู่รอดเช่นต้นคาร์ทหรืออาติคาร์ดังนั้นแสดงว่าเส้นทางด้านหน้าจะต้องเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่แสงแดดส่องถึงอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นต้นไม้พวกนี้คงจะไม่สามารถอยู่รอดได้ หลังจากมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางเดิมอยู่นานในที่สุดลู่หมิงก็หลุดพ้นออกมาจากเขตป่าทึบ เมื่อออกมาลู่หมิงก็ต้องแปลกใจเพราะสถานที่ตรงหน้าแตกต่างจากด้านหลังของเขาเป็นอย่างมากมันเป็นทุ่งโล้งกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและลำธารขนาดใหญ่บรรยากาศที่ร่มรื่นและธรรมชาติอันงดงามราวกับสรวงสวรรค์ของเหล่าสัตว์เลยทีเดียว แต่สำหรับลู่หมิงแล้วเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดเดียวเพราะห่างไปไม่กี่ร้อยเมตรเขาได้สังเกตุเห็นแท่นบูชาตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทุ่งหญ้า ในตอนแรกลู่หมิงก็ดีใจอยู่หรอกแต่เมื่อสายตาของเขาสะดุดเข้ากับก้อนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากแท่นบูชาเขาก็ต้องแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา มองจากระยะไกลลู่หมิงไม่มั่นใจนักว่าสิ่งนั้นคืออะไรแต่จากพลังเวทย์ที่แผ่ออกมาจากร่างกายของมันสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้านั่นอันตราย ความรุนแรงและหนาแน่นของพลังเวทย์นั้นบ่งบอกได้เลยว่าเจ้าก้อนสีน้ำตาลนั้นเป็นราชาของสถานที่แห่งนี้และคาดว่าเหตุผลที่ภายในป่ามีมอนสเตอร์เต็มไปด้วยก็คงเพราะมันกำลังหนีเจ้าสิ่งนั้นอย่างแน่นอน ลู่หมิงสูดหายใจก่อนจะเดินเข้าไปเพราะไม่ว่าเจ้าสิ่งนั้นจะเป็นตัวอะไรเขาก็จำเป็นจะต้องสู้กับมันเพื่อที่จะออกไปจากดันเจี้ยนแห่งนี้ ลู่หมิงไม่มีทางเลือกเลยเมื่อลู่หมิงเข้าไปใกล้ๆกลับพบว่ามันไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยจนกระทั้งเขากับมันห่างกันเพียงแค่
ร้อยเมตรเท่านั้น ลู่หมิงจึงคิดว่ามันคงจะไม่โจมตีเขาหากเขาไม่ไปกระตุ้นมันลู่หมิงจนหันความสนใจไปที่แท่นบูชาแต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่คิดจะลดความระวังตัวลงจากเจ้าก้อนขนนี่เลย ในขณะที่ลู่หมิงกำลังจะเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชาจู่ๆเจ้าก้อนขนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ก็ขยับและหันมาคำรามใส่ลู่หมิง โฮกกกกกกกกกกกกกกกก!!

นิยายรุ่งอรุณแห่งโลกาวินาศ ตอนที่ 65: ดันเจี้ยนพิเศษโคลเวอร์การ์เด้น (6)

นี่ก็ปาไปวันที่เก้าแล้วหลังจากที่ลู่หมิงยึดถ้ำแห่งนี้ไว้เป็นฐานในช่วงเวลาที่ผ่านมาลู่หมิงได้ออกสำรวจป่าแห่งนี้อย่างบ้าคลั่งแต่ก็ไม่มีอะไรที่พอจะเชื่อมโยงไปสู่ใจกลางของป่าเขาวงกตเลยแถมสามวันก่อนเขาดันหลงอยู่ในอนาคตเขตของพวกเอนท์อีกต่างหากซึ่งกว่าจะออกมาได้เล่นเอาลำบากอยู่เหมือนกัน

แม้การติดอยู่ในดันเจี้ยนนานๆจะไม่ใช่เรื่องดีแต่นั่นก็ไม่ได้แย่สำหรับเขาในตอนนี้เพราะนอกจากลู่หมิงจะได้ฟาร์มคริสตัลค่าสถานะแล้วเขายังมีเวลาในการเพิ่มพลังเวทย์เพื่อเลื่อนขั้นอีกด้วย

แถมในเวลาว่างลู่หมิงก็ยังคงศึกษาเวทมนต์จากลูกแก้วบันทึกความทรงจำลู่หมิงย่างปลาที่ตกมาได้ก่อนจะลุกขึ้นบิดขี้เกียจและดูแผนที่ที่เขาได้ทำการบันทึกเอาไว้ในระหว่างการสำรวจ

” อืม…บริเวณฝั่งตะวันออกสำรวจจนเกือบจะหมดแล้วแต่ไม่มีข้อมูลอะไรเลยทางตะวันออกก็เช่นกัน”

ลู่หมิงเกาหัวของตัวเองก่อนจะเปิดหน้าต่างค่าสถานะขึ้นมาดู

ลู่หมิงอายุ 18 กรุ๊ปเลือด AB

คลาสอาร์คเมจขั้น1

ระดับสีเขียว

จิตวิญญาณดวงดาวระดับ 2

ค่าสถานะ

Str 27 (+50)(+2)

Vit 15 (+50)

Agi 32 (+50)(+1)

Int 85 (+50)

ค่าชื่อเสียง 5

-ค่าสถานะรวมทั้งสี่ถึงสองร้อยแต้มจึงจะสามารถเลื่อนสู่ระดับต่อไปได้ขาดอีก41แต้ม

” ฉันใกล้จะเลื่อนขั้นเป็นระดับสีฟ้าแล้วหากฟาร์มอีกสักหน่อย”

” ดูเหมือนทางเดียวที่จะไปถึงใจกลางเขาวงกตได้คงเป็นทิศเหนือเท่านั้นสินะ” ขาว”

ลู่หมิงพูดพร้อมกับมองไปยังแผนที่ก่อนจะบ่นอุบออกมา

” มันดูง่ายเกินไปหรือเปล่านะ? ”

เขาคิดทบทวนก่อนจะบ่นออกมาอีกครั้ง

” อ้าาาโถ่!! ช่างเถอะยังไงก็ต้องไปอยู่ดี”

ลู่หมิงตัดสินใจที่จะเดินทางไปยังทิศเหนือในวันพรุ่งนี้เขาต้องการจะออกจากดันเจี้ยนแห่งนี้ให้เร็วที่สุดแม้ป่าแห่งนี้จะเป็นสวรรค์ของนักฟาร์มแต่การที่อยู่ที่นี้นานๆมันไม่ใช่เรื่องดีสักเท่าไหร่

เพราะเขายังมีอย่างอื่นที่ต้องทำด้านนอกอีกฉะนั้นจะมามัวโอ้เอ้อยู่ที่นี่ไม่ได้

เช้าวันต่อมาลู่หมิงจัดการเก็บของทุกอย่างและเดินออกจากถ้ำมุ่งหน้าสู่ใจกลางป่าเขาวงกตลู่หมิงพุ่งตัวผ่านป่าไปอย่างรวดเร็วโดยที่แทบจะไม่สนใจมอนสเตอร์ตามทางเลยแม้แต่น้อย

ลู่หมิงเลือกจะโจมตีมอนสเตอร์ที่โผล่มาขวางทางเท่านั้นส่วนมอนสเตอร์ที่สามารถหลบเลี่ยงได้ลู่หมิงก็จะปล่อยผ่านมันไปเนื่องจากไม่อยากเสียเวลากับพวกมัน

ลู่หมิงใช้เวลากว่าครึ่งวันในที่สุดเขาก็พบเจอกับเบาะแสเล็กๆที่อาจจะนำพาเขาไปยังใจกลางป่าเขาวงกต

หลังจากที่ลู่หมิงเดินทางมาเป็นเวลานานเขาก็สังเกตุเห็นต้นไม้และดอกไม้มากขึ้นแน่นอนว่ามันอาจจะไม่แตกต่างอะไรมากนักหากอยู่ในป่าแต่อย่าลืมว่าป่าที่คุณอยู่ในตอนนี้เป็นป่าทึบที่แทบจะไม่มีแสงอาทิตย์ส่องลงมายังพื้นดินเลยดังนั้นต้นไม้บริเวณพื้นดินส่วนใหญ่จะเป็นต้นไม้ที่ไม่จำเป็นจะต้องพึ่งพาแสงแดดมากนัก

แต่ในตอนนี้ลู่หมิงเริ่มพบเจอกับต้นไม้ที่อาศัยแสงแดดในการอยู่รอดเช่นต้นคาร์ทหรืออาติคาร์ดังนั้นแสดงว่าเส้นทางด้านหน้าจะต้องเป็นพื้นที่โล่งกว้างที่แสงแดดส่องถึงอย่างแน่นอนไม่เช่นนั้นต้นไม้พวกนี้คงจะไม่สามารถอยู่รอดได้

หลังจากมุ่งหน้าตรงไปยังทิศทางเดิมอยู่นานในที่สุดลู่หมิงก็หลุดพ้นออกมาจากเขตป่าทึบ

เมื่อออกมาลู่หมิงก็ต้องแปลกใจเพราะสถานที่ตรงหน้าแตกต่างจากด้านหลังของเขาเป็นอย่างมากมันเป็นทุ่งโล้งกว้างที่เต็มไปด้วยต้นไม้ใบหญ้าและลำธารขนาดใหญ่บรรยากาศที่ร่มรื่นและธรรมชาติอันงดงามราวกับสรวงสวรรค์ของเหล่าสัตว์เลยทีเดียว

แต่สำหรับลู่หมิงแล้วเขาไม่ได้รู้สึกแบบนั้นเลยสักนิดเดียวเพราะห่างไปไม่กี่ร้อยเมตรเขาได้สังเกตุเห็นแท่นบูชาตั้งตระหง่านอยู่ตรงกลางทุ่งหญ้า

ในตอนแรกลู่หมิงก็ดีใจอยู่หรอกแต่เมื่อสายตาของเขาสะดุดเข้ากับก้อนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ที่อยู่ไม่ไกลจากแท่นบูชาเขาก็ต้องแสดงสีหน้าประหลาดใจออกมา

มองจากระยะไกลลู่หมิงไม่มั่นใจนักว่าสิ่งนั้นคืออะไรแต่จากพลังเวทย์ที่แผ่ออกมาจากร่างกายของมันสามารถบอกได้อย่างชัดเจนเลยว่าเจ้านั่นอันตราย

ความรุนแรงและหนาแน่นของพลังเวทย์นั้นบ่งบอกได้เลยว่าเจ้าก้อนสีน้ำตาลนั้นเป็นราชาของสถานที่แห่งนี้และคาดว่าเหตุผลที่ภายในป่ามีมอนสเตอร์เต็มไปด้วยก็คงเพราะมันกำลังหนีเจ้าสิ่งนั้นอย่างแน่นอน

ลู่หมิงสูดหายใจก่อนจะเดินเข้าไปเพราะไม่ว่าเจ้าสิ่งนั้นจะเป็นตัวอะไรเขาก็จำเป็นจะต้องสู้กับมันเพื่อที่จะออกไปจากดันเจี้ยนแห่งนี้

ลู่หมิงไม่มีทางเลือกเลยเมื่อลู่หมิงเข้าไปใกล้ๆกลับพบว่ามันไม่ขยับเลยแม้แต่น้อยจนกระทั้งเขากับมันห่างกันเพียงแค่
ร้อยเมตรเท่านั้น

ลู่หมิงจึงคิดว่ามันคงจะไม่โจมตีเขาหากเขาไม่ไปกระตุ้นมันลู่หมิงจนหันความสนใจไปที่แท่นบูชาแต่ถึงอย่างงั้นเขาก็ไม่คิดจะลดความระวังตัวลงจากเจ้าก้อนขนนี่เลย

ในขณะที่ลู่หมิงกำลังจะเดินเข้าไปใกล้แท่นบูชาจู่ๆเจ้าก้อนขนสีน้ำตาลขนาดใหญ่ก็ขยับและหันมาคำรามใส่ลู่หมิง

โฮกกกกกกกกกกกกกกกก!!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+