ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ 190 แปลงร่าง (3)

Now you are reading ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ Chapter 190 แปลงร่าง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในยุคสมัยของมหาจักรพรรดิเจินอู่ กล่าวกันว่าสัตว์ปีกมีสามร้อยหกสิบชนิด ที่สง่าและฉลาดที่สุดคือนกเหยี่ยวไห่ตงชิง นิสัยกร้าวแกร่งโดดเด่นเป็นสง่า สมเป็นราชันแห่งปักษีโดยแท้

 

 

มันดุร้ายและเชื่องยาก แต่ปีกขนท่าทางกลับงดงามเช่นนี้

 

 

เพียงเห็นครั้งแรกเขาก็หลงใหลไปกับราชันแห่งปักษี แม้มันจะไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ แต่พระพันผีที่โปรดปรานในตัวเขายังคงประทานนกล้ำค่านี้ให้แก่เขาอย่างไม่เสียดาย

 

 

เพื่อฝึกพญาเหยี่ยว เขาจึงไม่เสียดายเลยที่ถูกกรงเล็บของมันทำเอาบาดเจ็บ

 

 

น่าเสียดาย…ภายหลัง…หึ

 

 

เหมยซูหัวร่อเบาๆ ไม่หวนคำนึงต่อ เพียงแลดูเงาร่างชิวเยี่ยไป๋ที่เหินไปเหินมาอย่างคล่องแคล่วในวงล้อมของเหล่าทหาร

 

 

ครั้งที่แล้วยังไม่อาจฝึกพญาเหยี่ยวให้เชื่องได้ แต่คราวนี้เขาจะต้องให้เหยี่ยวตัวนี้เชื่องลงและให้เขาใช้สอย อีกทั้งยอมแนบชิดอยู่ข้างกายเขาให้ได้!

 

 

แน่นอน ก่อนอื่นต้องจับนกเหยี่ยวที่ดุดันตัวนี้ให้ได้ก่อน!

 

 

ยามนี้เหมยซูมิรู้ว่า เขากำลังติดกับชิวเยี่ยไป๋เหมือนใครอีกคน

 

 

แม้เหมยซูจะเป็นเจ้าแห่งพ่อค้าวาณิช แต่ด้วยสาเหตุบางประการ แก่นแท้ของเขากลับยืนกรานในความทระนงเหมือนชนชั้นสูง

 

 

และแม้ใครคนนั้นจะเป็นผู้สูงศักดิ์ แต่กลับมิได้ตระหนักในข้อนี้ ไม่เพียงลงมือก่อนเขา แถมยังเหี้ยมโหดและไร้ยางอายยิ่งกว่า

 

 

ทว่าเห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าจะถูกคนเห็นเป็นเสือดาวหรือนกเหยี่ยวไห่ตงชิง ชิวเยี่ยไป๋ไม่รู้สึกแม้แต่น้อยว่าการถูกเปรียบเทียบเป็นสัตว์หน้าขนเป็นการชื่นชมอย่างหนึ่ง

 

 

นี่เป็นเรื่องวันข้างหน้า

 

 

จะกล่าวถึงขณะนี้ เห็นกระบวนท่าของชิวเยี่ยไป๋ค่อยๆ ช้าลง เดิมทีนางใช้กระบวนท่าเดียวก็กวาดคนได้นับสิบ บัดนี้ทำได้เพียงห้าหกคน แม้ความเคลื่อนไหวยังคงดุดันเช่นเดิม แต่คู่ต่อสู้ก็เริ่มรับมือได้กับอากัปกิริยาที่ช้าลง

 

 

รองพ่อบ้านที่ยืนดูอยู่ข้างๆ สีหน้าได้ใจ เข้าใกล้เหมยซูกระซิบว่า “คุณชายใหญ่ พวกเราเตรียมจะลงมือไหม”

 

 

เหมยซูที่นั่งบนบ่าของเยียนหนูกล่าวเนือยๆ ว่า “รออีกหน่อย อย่าให้พวกมันหยุด ใครเด็ดหัวชิวเยี่ยไป๋ได้ ข้าไม่เพียงจะสมนาคุณด้วยทองคำพันตำลึง ยังจะให้มันเลื่อนตำแหน่งสามขั้นด้วย”

 

 

ในแถบไหวหนาน แม้ข้าราชการท้องถิ่นดูเหมือนจะใหญ่โต แต่ในความเป็นจริงคนที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายและให้ใครขึ้นลงในวงราชการกลับเป็นเหมยซู…ผู้เป็นประมุขของบ้านตระกูลเหมยในปัจจุบันที่อยู่ไกลถึงราชธานี

 

 

นี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเขาจึงระดมทหารทางการในไหวหนานได้และยังใช้ระเบิดอสุนีบาตได้

 

 

รองพ่อบ้านฟังแล้วก็งงงัน “คุณชายใหญ่ ท่านว่าจะจับคนคนนี้มิใช่หรือ แล้วเมื่อครู่ทำไมจึง…”

 

 

ทำไมจึงไม่ใช้ระเบิดอสุนีบาตถล่มที่นี่ให้ราบคาบเลยเล่า

 

 

เหมยซูนั่งบนบ่าเยียนหนู ขยับตัวเล็กน้อย กล่าวอย่างไม่มั่นใจว่า “พวกกระสอบหญ้าพวกนี้ ตายไปก็ไม่ต้องเสียดาย เดิมทีฝีมือก็ไม่เอาไหนอยู่แล้ว บัดนี้เห็นข้านั่งอยู่ที่นี่จึงทำทีขึงขัง แต่ความจริงถูกพลังฝีมือของชิวเยี่ยไป๋ข่มจนระย่อแล้ว ดังนั้นพวกมันก็แค่ทำท่าทำทางไปอย่างนั้นเอง ถ้าจะอาศัยพวกมัน ก็มิรู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะจับตัวได้ อีกอย่างชิวเยี่ยไป๋คงรู้ตัวก่อนอย่างรวดเร็ว นั่นยิ่งแย่ไปใหญ่”

 

 

ตกรางวัลงามย่อมมีผู้กล้า เขาเพียงต้องการให้กระสอบหญ้าพวกนี้รักษาความขึงขังไว้เท่านั้น ถ้าลากจนชิวเยี่ยไป๋หมดเรี่ยวแรงได้ยิ่งดี

 

 

“ขอรับ!” รองพ่อบ้านชื่นชมความคิดของคุณชายตนมาตลอด ยามนี้ยิ่งชื่นชมจนหมดหัวใจ จากนั้นก็ถ่ายทอดคำสั่งทันที แม่ทัพจรยุทธ์แห่งกองกำลังหู่เวยถึงกับชักดาบด้วย จี้เข้าใส่ชิวเยี่ยไป๋อย่างยินดีและตวาดใส่ลูกน้อง!

 

 

“ทหารทุกคนฟังคำสั่ง ใครจับโจรผู้นี้ได้ รางวัลทองคำพันตำลึงเลื่อนตำแหน่งสามขั้น!”

 

 

พอได้ยินบรรดาทหารที่เดิมทีถูกชิวเยี่ยไป๋ฟาดฟันจนกลัวก็มีอาการดีใจ และห้าวหาญเหมือนได้เสริมเลือดไก่โถมเข้าฟาดฟันใส่ชิวเยี่ยไป๋

 

 

เห็นได้ชัดว่าชิวเยี่ยไป๋ต้องออกแรงหนักกว่าเดิม นางเหลือบมองทางด้านนี้ด้วยแววตาเกรี้ยวกราดทันที ทำให้ริมฝีปากของเหมยซูโค้งเป็นรอยยิ้มและพูดด้วยการขยับริมฝีปาก

 

 

หวังว่าคุณชายสี่จะชมชอบการละเล่นที่เหมยซูตั้งใจทำเพื่อเจ้านะ

 

 

ชิวเยี่ยไป๋แววตาเย็นเยียบ พลันสะบัดดาบฟันใส่ก้านคอทหารคนหนึ่งที่จู่โจมตน พร้อมชิงดาบใหญ่ในมือ พลิกข้อมือคราหนึ่ง ดาบใหญ่ก็หลุดจากมือหมุนเคว้งเข้าใส่เหมยซู

 

 

ดาบใหญ่ที่หนาหนักนี้พุ่งไปด้วยระดับความเร็วเหมือนซัดอาวุธลับทั่วไป พริบตาเดียวก็ถึงเบื้องหน้าเหมยซู พุ่งใส่อกของเขาอย่างดุดัน

 

 

เหมยซูเอี้ยวหลบ ขณะเดียวกันก็คว้าบ่าของเยียนหนู เยียนหนูที่ร่างกายใหญ่โตถึงกับหมุนคว้างกับที่รอบหนึ่ง จากนั้นย้ายเหมยซูไปนั่งลงบนบ่าอีกข้าง แต่ตัวเขากลับหลบไม่พ้น ดาบใหญ่จึงพุ่งมากระแทกเข้าใส่ใบหน้าจนเลือดกำเดาไหลอาบ!

 

 

ส่วนชิวเยี่ยไป๋ก็ถูกพวกทหารที่เห็นแก่เงินรางวัลล้อมไว้อย่างแน่นหนาอีกครั้ง

 

 

ทหารที่เดิมทีล้อมโจวอวี่กับเหล่าเจอกูอยู่ พอได้ยินคำสั่งก็มีหลายคนเปลี่ยนเป้าหมายไปล้อมโจมตีชิวเยี่ยไป๋

 

 

ทางด้านนี้แม้แรงกดดันของโจวอวี่จะลดลง แต่พอเห็นชิวเยี่ยไป๋ทางด้านโน้นกำลังคับขันก็ร้อนใจมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เดิมทีเขาเห็นชิวเยี่ยไป๋กับเหมยซูและเจ้าตัวใหญ่ที่แบกเหมยซูไว้กำลังโรมรันพันตู ปลีกตัวไม่ได้จึงมิได้นำเอาเรื่องหยวนเจ๋อไปรบกวนนาง

 

 

เขาสู้ยอมปะทะตรงๆ จนถูกฟันหลายดาบ เบียดจนถึงข้างตัวหยวนเจ๋อ ขับไล่พวกที่หมายปองร้ายหลวงจีนโง่งมให้พ้นไปอย่างแข็งขัน แต่เขาตัวคนเดียวไม่มีปัญญาไปช่วยชิวเยี่ยไป๋แล้ว!

 

 

โจวอวี่ประจันหน้ากับพวกทหารที่จับจ้องและล้อมตนไว้ พลางเตะหยวนเจ๋อที่ขดตัวกับพื้นอย่างอดมิได้ ด่าอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ไอ้หลวงจีนโง่ รีบลุกขึ้นเร็ว เจ้าจะเสแสร้งถึงเมื่อใด ใต้เท้าตกอยู่ในอันตรายเจ้ารีบตบไอ้พวกละเมิดเบื้องสูงเข้าไปในหินเร็วเข้า!”

 

 

แต่ไม่รู้ว่าหยวนเจ๋อทำอะไรอยู่ จึงนิ่งไม่ไหวติง เอาแต่ขดตัวซุกอยู่ในซอกมุม

 

 

โจวอวี่ร้อนใจจนเส้นเลือดบนใบหน้าปูดโปน แต่ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่พัวพันกับพวกทหารที่พุ่งเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน

 

 

จะกล่าวถึงชิวเยี่ยไป๋ที่เผชิญกับพวกตั๊กแตนที่ล้อมตนไว้ พวกทหารที่ไม่กลัวถูกตีถูกฆ่า ใบหน้าของนางฉายแววเกรี้ยวกราด การลงมือยิ่งไม่ปรานี แต่ท่วงท่าของนางช้าลงทุกที

 

 

ยุทธวิธีทะเลคนและการหมุนเวียนเข้าโจมตีเช่นนี้ เหมาะสมที่จะรับมือกับยอดฝีมือชั้นแนวหน้าในยุทธจักรเช่นชิวเยี่ยไป๋ที่สุดแล้ว

 

 

ท่ามกลางคนชุลมุน กระบี่ดาบลอยว่อน พลังคุ้มกันร่างกายของนางก็อ่อนลง ถึงกับต้านดาบกระบี่ที่พุ่งใส่มิได้ จึงถูกฟันใส่หลังอย่างถนัดถนี่!

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ 190 แปลงร่าง (3)

Now you are reading ลวงเล่ห์ร้ายชายาร้อยพิษ Chapter 190 แปลงร่าง (3) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ในยุคสมัยของมหาจักรพรรดิเจินอู่ กล่าวกันว่าสัตว์ปีกมีสามร้อยหกสิบชนิด ที่สง่าและฉลาดที่สุดคือนกเหยี่ยวไห่ตงชิง นิสัยกร้าวแกร่งโดดเด่นเป็นสง่า สมเป็นราชันแห่งปักษีโดยแท้

 

 

มันดุร้ายและเชื่องยาก แต่ปีกขนท่าทางกลับงดงามเช่นนี้

 

 

เพียงเห็นครั้งแรกเขาก็หลงใหลไปกับราชันแห่งปักษี แม้มันจะไม่ยอมให้เขาเข้าใกล้ แต่พระพันผีที่โปรดปรานในตัวเขายังคงประทานนกล้ำค่านี้ให้แก่เขาอย่างไม่เสียดาย

 

 

เพื่อฝึกพญาเหยี่ยว เขาจึงไม่เสียดายเลยที่ถูกกรงเล็บของมันทำเอาบาดเจ็บ

 

 

น่าเสียดาย…ภายหลัง…หึ

 

 

เหมยซูหัวร่อเบาๆ ไม่หวนคำนึงต่อ เพียงแลดูเงาร่างชิวเยี่ยไป๋ที่เหินไปเหินมาอย่างคล่องแคล่วในวงล้อมของเหล่าทหาร

 

 

ครั้งที่แล้วยังไม่อาจฝึกพญาเหยี่ยวให้เชื่องได้ แต่คราวนี้เขาจะต้องให้เหยี่ยวตัวนี้เชื่องลงและให้เขาใช้สอย อีกทั้งยอมแนบชิดอยู่ข้างกายเขาให้ได้!

 

 

แน่นอน ก่อนอื่นต้องจับนกเหยี่ยวที่ดุดันตัวนี้ให้ได้ก่อน!

 

 

ยามนี้เหมยซูมิรู้ว่า เขากำลังติดกับชิวเยี่ยไป๋เหมือนใครอีกคน

 

 

แม้เหมยซูจะเป็นเจ้าแห่งพ่อค้าวาณิช แต่ด้วยสาเหตุบางประการ แก่นแท้ของเขากลับยืนกรานในความทระนงเหมือนชนชั้นสูง

 

 

และแม้ใครคนนั้นจะเป็นผู้สูงศักดิ์ แต่กลับมิได้ตระหนักในข้อนี้ ไม่เพียงลงมือก่อนเขา แถมยังเหี้ยมโหดและไร้ยางอายยิ่งกว่า

 

 

ทว่าเห็นได้ชัดว่า ไม่ว่าจะถูกคนเห็นเป็นเสือดาวหรือนกเหยี่ยวไห่ตงชิง ชิวเยี่ยไป๋ไม่รู้สึกแม้แต่น้อยว่าการถูกเปรียบเทียบเป็นสัตว์หน้าขนเป็นการชื่นชมอย่างหนึ่ง

 

 

นี่เป็นเรื่องวันข้างหน้า

 

 

จะกล่าวถึงขณะนี้ เห็นกระบวนท่าของชิวเยี่ยไป๋ค่อยๆ ช้าลง เดิมทีนางใช้กระบวนท่าเดียวก็กวาดคนได้นับสิบ บัดนี้ทำได้เพียงห้าหกคน แม้ความเคลื่อนไหวยังคงดุดันเช่นเดิม แต่คู่ต่อสู้ก็เริ่มรับมือได้กับอากัปกิริยาที่ช้าลง

 

 

รองพ่อบ้านที่ยืนดูอยู่ข้างๆ สีหน้าได้ใจ เข้าใกล้เหมยซูกระซิบว่า “คุณชายใหญ่ พวกเราเตรียมจะลงมือไหม”

 

 

เหมยซูที่นั่งบนบ่าของเยียนหนูกล่าวเนือยๆ ว่า “รออีกหน่อย อย่าให้พวกมันหยุด ใครเด็ดหัวชิวเยี่ยไป๋ได้ ข้าไม่เพียงจะสมนาคุณด้วยทองคำพันตำลึง ยังจะให้มันเลื่อนตำแหน่งสามขั้นด้วย”

 

 

ในแถบไหวหนาน แม้ข้าราชการท้องถิ่นดูเหมือนจะใหญ่โต แต่ในความเป็นจริงคนที่มีอำนาจชี้เป็นชี้ตายและให้ใครขึ้นลงในวงราชการกลับเป็นเหมยซู…ผู้เป็นประมุขของบ้านตระกูลเหมยในปัจจุบันที่อยู่ไกลถึงราชธานี

 

 

นี่เองจึงเป็นสาเหตุที่ทำไมเขาจึงระดมทหารทางการในไหวหนานได้และยังใช้ระเบิดอสุนีบาตได้

 

 

รองพ่อบ้านฟังแล้วก็งงงัน “คุณชายใหญ่ ท่านว่าจะจับคนคนนี้มิใช่หรือ แล้วเมื่อครู่ทำไมจึง…”

 

 

ทำไมจึงไม่ใช้ระเบิดอสุนีบาตถล่มที่นี่ให้ราบคาบเลยเล่า

 

 

เหมยซูนั่งบนบ่าเยียนหนู ขยับตัวเล็กน้อย กล่าวอย่างไม่มั่นใจว่า “พวกกระสอบหญ้าพวกนี้ ตายไปก็ไม่ต้องเสียดาย เดิมทีฝีมือก็ไม่เอาไหนอยู่แล้ว บัดนี้เห็นข้านั่งอยู่ที่นี่จึงทำทีขึงขัง แต่ความจริงถูกพลังฝีมือของชิวเยี่ยไป๋ข่มจนระย่อแล้ว ดังนั้นพวกมันก็แค่ทำท่าทำทางไปอย่างนั้นเอง ถ้าจะอาศัยพวกมัน ก็มิรู้ว่าเมื่อไหร่ถึงจะจับตัวได้ อีกอย่างชิวเยี่ยไป๋คงรู้ตัวก่อนอย่างรวดเร็ว นั่นยิ่งแย่ไปใหญ่”

 

 

ตกรางวัลงามย่อมมีผู้กล้า เขาเพียงต้องการให้กระสอบหญ้าพวกนี้รักษาความขึงขังไว้เท่านั้น ถ้าลากจนชิวเยี่ยไป๋หมดเรี่ยวแรงได้ยิ่งดี

 

 

“ขอรับ!” รองพ่อบ้านชื่นชมความคิดของคุณชายตนมาตลอด ยามนี้ยิ่งชื่นชมจนหมดหัวใจ จากนั้นก็ถ่ายทอดคำสั่งทันที แม่ทัพจรยุทธ์แห่งกองกำลังหู่เวยถึงกับชักดาบด้วย จี้เข้าใส่ชิวเยี่ยไป๋อย่างยินดีและตวาดใส่ลูกน้อง!

 

 

“ทหารทุกคนฟังคำสั่ง ใครจับโจรผู้นี้ได้ รางวัลทองคำพันตำลึงเลื่อนตำแหน่งสามขั้น!”

 

 

พอได้ยินบรรดาทหารที่เดิมทีถูกชิวเยี่ยไป๋ฟาดฟันจนกลัวก็มีอาการดีใจ และห้าวหาญเหมือนได้เสริมเลือดไก่โถมเข้าฟาดฟันใส่ชิวเยี่ยไป๋

 

 

เห็นได้ชัดว่าชิวเยี่ยไป๋ต้องออกแรงหนักกว่าเดิม นางเหลือบมองทางด้านนี้ด้วยแววตาเกรี้ยวกราดทันที ทำให้ริมฝีปากของเหมยซูโค้งเป็นรอยยิ้มและพูดด้วยการขยับริมฝีปาก

 

 

หวังว่าคุณชายสี่จะชมชอบการละเล่นที่เหมยซูตั้งใจทำเพื่อเจ้านะ

 

 

ชิวเยี่ยไป๋แววตาเย็นเยียบ พลันสะบัดดาบฟันใส่ก้านคอทหารคนหนึ่งที่จู่โจมตน พร้อมชิงดาบใหญ่ในมือ พลิกข้อมือคราหนึ่ง ดาบใหญ่ก็หลุดจากมือหมุนเคว้งเข้าใส่เหมยซู

 

 

ดาบใหญ่ที่หนาหนักนี้พุ่งไปด้วยระดับความเร็วเหมือนซัดอาวุธลับทั่วไป พริบตาเดียวก็ถึงเบื้องหน้าเหมยซู พุ่งใส่อกของเขาอย่างดุดัน

 

 

เหมยซูเอี้ยวหลบ ขณะเดียวกันก็คว้าบ่าของเยียนหนู เยียนหนูที่ร่างกายใหญ่โตถึงกับหมุนคว้างกับที่รอบหนึ่ง จากนั้นย้ายเหมยซูไปนั่งลงบนบ่าอีกข้าง แต่ตัวเขากลับหลบไม่พ้น ดาบใหญ่จึงพุ่งมากระแทกเข้าใส่ใบหน้าจนเลือดกำเดาไหลอาบ!

 

 

ส่วนชิวเยี่ยไป๋ก็ถูกพวกทหารที่เห็นแก่เงินรางวัลล้อมไว้อย่างแน่นหนาอีกครั้ง

 

 

ทหารที่เดิมทีล้อมโจวอวี่กับเหล่าเจอกูอยู่ พอได้ยินคำสั่งก็มีหลายคนเปลี่ยนเป้าหมายไปล้อมโจมตีชิวเยี่ยไป๋

 

 

ทางด้านนี้แม้แรงกดดันของโจวอวี่จะลดลง แต่พอเห็นชิวเยี่ยไป๋ทางด้านโน้นกำลังคับขันก็ร้อนใจมาก แต่ทำอะไรไม่ได้ เดิมทีเขาเห็นชิวเยี่ยไป๋กับเหมยซูและเจ้าตัวใหญ่ที่แบกเหมยซูไว้กำลังโรมรันพันตู ปลีกตัวไม่ได้จึงมิได้นำเอาเรื่องหยวนเจ๋อไปรบกวนนาง

 

 

เขาสู้ยอมปะทะตรงๆ จนถูกฟันหลายดาบ เบียดจนถึงข้างตัวหยวนเจ๋อ ขับไล่พวกที่หมายปองร้ายหลวงจีนโง่งมให้พ้นไปอย่างแข็งขัน แต่เขาตัวคนเดียวไม่มีปัญญาไปช่วยชิวเยี่ยไป๋แล้ว!

 

 

โจวอวี่ประจันหน้ากับพวกทหารที่จับจ้องและล้อมตนไว้ พลางเตะหยวนเจ๋อที่ขดตัวกับพื้นอย่างอดมิได้ ด่าอย่างโกรธเกรี้ยวว่า “ไอ้หลวงจีนโง่ รีบลุกขึ้นเร็ว เจ้าจะเสแสร้งถึงเมื่อใด ใต้เท้าตกอยู่ในอันตรายเจ้ารีบตบไอ้พวกละเมิดเบื้องสูงเข้าไปในหินเร็วเข้า!”

 

 

แต่ไม่รู้ว่าหยวนเจ๋อทำอะไรอยู่ จึงนิ่งไม่ไหวติง เอาแต่ขดตัวซุกอยู่ในซอกมุม

 

 

โจวอวี่ร้อนใจจนเส้นเลือดบนใบหน้าปูดโปน แต่ทำอะไรไม่ได้จึงได้แต่พัวพันกับพวกทหารที่พุ่งเข้ามาไม่หยุดไม่หย่อน

 

 

จะกล่าวถึงชิวเยี่ยไป๋ที่เผชิญกับพวกตั๊กแตนที่ล้อมตนไว้ พวกทหารที่ไม่กลัวถูกตีถูกฆ่า ใบหน้าของนางฉายแววเกรี้ยวกราด การลงมือยิ่งไม่ปรานี แต่ท่วงท่าของนางช้าลงทุกที

 

 

ยุทธวิธีทะเลคนและการหมุนเวียนเข้าโจมตีเช่นนี้ เหมาะสมที่จะรับมือกับยอดฝีมือชั้นแนวหน้าในยุทธจักรเช่นชิวเยี่ยไป๋ที่สุดแล้ว

 

 

ท่ามกลางคนชุลมุน กระบี่ดาบลอยว่อน พลังคุ้มกันร่างกายของนางก็อ่อนลง ถึงกับต้านดาบกระบี่ที่พุ่งใส่มิได้ จึงถูกฟันใส่หลังอย่างถนัดถนี่!

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+