ลำนำบุปผาพิษ 1560+1561

Now you are reading ลำนำบุปผาพิษ Chapter 1560+1561 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1560 บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งใดเชื่อถือได้บ้าง?

ตี้ฝูอีพูดความจริงด้วยน้ำเสียงเย็นชา

กู้ซีจิ่วสะอึก “แต่…ข้าเป็นคนฝึกฝนมันมา! ข้าทำให้มันหลุดพ้นจากสถานะสวะไร้ค่า ฝึกฝนจนพลังวิญญาณบรรลุขั้นแปด ข้าแก้แค้นแทนเจ้าของร่างเดิม เจ้าของร่างเดิมก็ยินยอมพร้อมใจยกมันให้ข้าแล้ว…”

เธอจ้องมองตี้ฝูอี “ท่านเคยบอกกับข้าว่าร่างกายนี้ไม่ได้เตรียมไว้เพื่อนาง หรือตอนนั้นท่านโกหกข้า?”

นัยน์ตาตี้ฝูอีพลันวาบไหว ไม่พูดจาอันใด นิ้วมือภายใต้ชายเสื้อพลันกระชับแน่นจนปลายนิ้วซีดขาว

“ตี้ฝูอี แปดปีก่อนข้าเคยสละร่างกายนี้ให้ท่าน แต่เหตุใดตอนนั้นท่านจึงไล่ตามข้าไปที่ป่าทมิฬ? ท่านได้สิ่งที่ท่านปรารถนาแล้ว เหตุใดยังต้องตามหาข้า? อีกทั้งยังเสี่ยงอันตรายมากมายขนาดนั้น…เพราะเหตุใด? ในเมื่อคนที่ท่านตั้งใจจะฟื้นคืนชีพให้คือนาง ท่านคงจะรักนางมาก เช่นนั้นเหตุใดจึงแต่งงานกับข้าในเขตหวงห้าม? รักใคร่หวานชื่นกันมาแปดปี…เพราะเหตุใด?”

สมองของเธอที่ถูกกระเทือนจนว่างเปล่าเริ่มกลับมาทำงานดังเดิม ความเศร้าโศกเสียใจที่ค่อยๆ ก่อตัวขึ้นหลั่งไหลออกจากส่วนต่างๆ ของร่างกายไปรวมตัวกันกลางหน้าอก และเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว ทำให้ใบหน้าที่เดิมทีซีดขาวเริ่มแดงระเรื่อ

มือและเท้าของเธอเย็นวาบ ทว่าหัวใจกลับมีเปลวเพลิงลุกโชนขึ้นอย่างต่อเนื่อง เพียงพอที่จะจุดพลังทั้งหมดในร่างกาย ทำให้ดวงตาของเธอร้อนแรงแผดเผา “ตี้ฝูอี บอกข้ามา ท่านทำเช่นนี้เพราะอะไรกันแน่?!”

ตี้ฝูอีหลุบตาลงเล็กน้อย “ขอโทษ”

เขากล่าวเพียงหนึ่งคำก็ก้าวมาในฉับพลัน เชือกเมฆาหลากสีเส้นหนึ่งบินออกจากชายเสื้อ เห็นได้ชัดว่าคืออาวุธวิเศษ กู้ซีจิ่วรีบร้อนจะหลบหนี แต่กลับหนีการผูกรัดของอาวุธวิเศษนี้ไม่พ้น…

แทบในชั่วพริบตา เธอถูกเชือกเมฆามัดไว้อย่างแน่นหนา ยืนทื่ออยู่ตรงหน้าตี้ฝูอีเสมือนไม้ท่อนหนึ่ง

เธอไม่เพียงแต่ขยับเขยื้อนไม่ได้ ทั้งยังเอื้อนเอ่ยวาจาไม่ได้ด้วย ทำได้เพียงมองเขาก้าวเข้ามาตาไม่กะพริบ เมื่อชายเสื้อสะบัด เธอก็ตกเข้าสู่อ้อมกอดของเขาแล้ว

กลิ่นหอมเย็นอวลปลายจมูก หัวใจตกนรกอเวจี

หัวใจของกู้ซีจิ่วหนักอึ้งโดยสมบูรณ์

“กู้ซีจิ่ว…” เขาเอ่ย “เจ้านอนหลับสักตื่นเถิด ตื่นขึ้นมาก็จะไม่เป็นอะไรแล้ว…” ฝ่ามือขาวนวลผุดผ่องของเขากดลงบนหน้าผากนาง ลำแสงส่องสว่างเริ่มปรากฏ…

เธอรู้สึกหวาดกลัวอย่างเห็นได้ชัด นัยน์ตาฉายแววหวาดกลัว ดวงตาแดงก่ำ ถึงแม้พูดจาไม่ได้ ทว่าน้ำตากลับรินไหลจากหางตา หยาดน้ำตาเปียกชุ่มริมฝ่ามือของเขา ทำให้ฝ่ามือเขาหยุดชะงักเล็กน้อย

“ไม่ต้องกลัว…” เขาเอ่ยด้วยน้ำเสียงหม่นหมอง ในที่สุดแสงสีขาวก็หลั่งไหลเข้าสู่หน้าผากนาง

วินาทีที่กู้ซีจิ่วหลับใหล ความคิดหนึ่งผุดขึ้นในใจ…บนโลกใบนี้ยังมีสิ่งใดเชื่อถือได้บ้าง?

หลานเหยากวงออกตามหาพี่สาวที่หายตัวไปจนจะบ้าคลั่งแล้ว!

เขาแทบจะใช้องครักษ์ส่วนตัวของวังเผ่าเงือกจนหมดสิ้น กลับไม่มีผู้ใดรู้ว่ากู้ซีจิ่วหายตัวไปที่ใด

ยิ่งไปกว่านั้นคนส่วนมากยังไม่เคยเห็นประมุขเงือกที่เพิ่งฟื้นคืนชีพใหม่คนนี้ จึงได้แต่อาศัยรูปวาดที่หลานเหยากวงวาดรูปลักษณ์นางเป็นเบาะแสในการตามหาชั่วคราว

ทักษะการวาดรูปของหลานเหยากวงเรียกได้ว่าไม่ค่อยดีนัก ภาพเหมือนที่วาดออกมาไม่มีเสน่ห์ความงามแม้แต่น้อย องครักษ์เหล่านั้นตามหาผู้คนมากมายจากภาพเหมือนนั้น แต่หลานเหยากวงและหลานจิ้งอี๋ชี้ตัว พิสูจน์ว่าไม่ใช่…

“พี่ เกรงว่านางจะไม่ใช่พี่หญิงจิ้งเคอของพวกเรา แต่เป็นกู้ซีจิ่ว! ข้าว่าแววตานางไม่เหมือนเลยสักนิด…” หลานจิ้งอี๋อดไม่ได้ที่จะเอ่ยความคิดเห็นของตัวเอง

“ไม่มีทาง พี่หวงไม่เคยโกหกเรา เขาบอกว่าคนที่ตื่นขึ้นมาคือพี่หญิงจิ้งเคอของพวกเรา เช่นนั้นนางก็คือพี่หญิงจิ้งเคอ! อย่างไรเสีย นางก็หลับใหลมานานนับพันปี อาจไม่ค่อยคุ้นชินกับวังเงือกในปัจจุบัน หรือนางอาจจะออกไปตามหาสหายเก่า…”

————————————————————————————-

บทที่ 1561 หรือว่าเกิดความผิดพลาด?

“ไม่มีทาง! พวกเราเคยไปหาที่บ้านสหายสนิทเหล่านั้นของนางมาแล้วมิใช่หรือ? นางไม่ได้ไปหาพวกเขาเลย! พี่ ท่านตื่นสักทีเถอะ ชาวเงือกอย่างพวกเราพอตายแล้ววิญญาณจะแตกสลายไปอย่างแท้จริง ไม่เคยได้ยินเลยว่ามีใครที่สามารถฟื้นคืนชีพได้ บางทีพี่หวงอาจเกรงว่าพวกเราจะเสียใจ จึงมอบคำโป้ปดที่สุดแสนงดงามให้พวกเรา ทำให้พวกเรามีความหวัง…”

หลานเหยากวงระเบิดโทสะออกมาทันที “จิ้งอี๋ ความจริงแล้วเจ้าไม่ปรารถนาให้พี่หญิงคืนชีพขึ้นมาใช่หรือไม่?! ยามเจ้าเยาว์วัยถึงแม้พี่หญิงจะรักใคร่ห่วงใยเจ้ายิ่งนัก แต่เจ้าก็ยังเล็ก เกรงว่าคงจำนางไม่ได้ด้วยซ้ำ ไม่มีความรู้สึกต่อนางเลย! แต่ว่ายามนั้นนางห่วงใยเจ้า รักเจ้า อุ้มเจ้าอยู่เสมอจริงๆ ทำให้ข้าอิจฉาเพราะเรื่องนี้…เหตุใดเจ้าถึงไร้มโนธรรมได้ถึงเพียงนี้?!”

ใบหน้าเฉิดฉันของหลานจิ้งอี๋แดงก่ำ “พี่! ท่านพูดเหลวไหลอะไรอยู่? ข้า…ข้าจะไม่ปรารถนาให้พี่หญิงฟื้นคืนได้อย่างไร? ข้าเพียงแค่พูดไปตามจริงเท่านั้น…”

“เจ้าชอบพี่หวงใช่ไหมล่ะ? เจ้าเกรงว่าถ้าพี่หญิงจิ้งเคอฟื้นขึ้นมาจะครองคู่โบยบินกับพี่หวง ทำให้เจ้าหมดโอกาส…” หลานเหยากวงตกอยู่ในความโกรธ จึงเอ่ยข้อสงสัยที่วนเวียนอยู่ในใจก่อนหน้านี้ออกมาจนหมด “เจ้าอย่าได้เห็นว่าข้าเป็นคนโง่! ความคิดในใจเจ้าไม่อาจปิดบังข้าได้!”

หลานจิ้งอี๋แทบจะเต้นผางแล้ว “ไม่ใช่นะ…”

ขณะที่สองพี่น้องกำลังทะเลาะถกเถียงกันอยู่ตรงนั้น องครักษ์ด้านนอกก็เอ่ยรายงาน “ท่านเทพศักดิ์สิทธิ์หวงถูมาเยือน เขาอุ้มคนผู้หนึ่งไว้ในอ้อมแขน เหมือน…เหมือนคนในภาพเหมือนของฝ่าบาทเลยพ่ะย่ะค่ะ…”

สองพี่น้องเงียบลง

คนทั้งสองรีบพุ่งออกไปทันที

เมื่อพวกเขาออกไปก็เห็นตี้ฝูอีที่กำลังสาวเท้าก้าวเข้ามา หญิงสาวที่เขาอุ้มไว้ก็คือ ‘หลานจิ้งเคอ’ ซึ่งหาตัวไม่พบ

“พี่หวง นี่…” หลานเหยากวงปราดเข้าไปต้อนรับ

ตี้ฝูอีชูนิ้วหนึ่งขึ้นมา เอ่ยอย่างรวบรัดยิ่งประโยคหนึ่ง “อย่าเพิ่งถามอะไร รีบไปเตรียมค่ายอาคมสงบจิต!”

หลานเหยากวงมึนงงดั่งน้ำเข้าหัว แต่อย่างไรก็ไม่กล้าถามมาก รีบรุดไปติดตั้งค่ายอาคม

หลานจิ้งอี๋หมายจะพูดอะไร จึงก้าวตามหลังตี้ฝูอีไป จวบจนตี้ฝูอีวางหญิงสาวในอ้อมแขนลงไปในโลงแก้วผลึกใบนั้นแล้ว เธอถึงได้รวบรวมความกล้าเอ่ยถาม “พี่หวง นาง…นางใช่พี่หญิงจิ้งเคอของพวกเราจริงๆ หรือ?”

สีหน้าตี้ฝูอีไร้อารมณ์ ไม่ได้ตอบคำถามของนาง

“พี่หวง? จิ้งอี๋รู้สึกว่านางไม่เหมือนพี่หญิงจิ้งเคอของข้าเลย หรือว่า…หรือว่าเกิดความผิดพลาด?”

ตี้ฝูอีวาดแขนเสื้อในทันใด คลื่นแสงสีรุ้งพลันลอยออกมา ด้วยเหตุนี้ หลานจิ้งอี๋จึงถูกมัดไว้เหมือนบ๊ะจ่าง ขยับเขยื้อนไม่ได้สักนิด และเอื้อนเอ่ยวาจาไม่ได้เลยสักครึ่งคำ

ตี้ฝูอีโบกแขนเสื้ออีกครั้ง หลานจิ้งอี๋ก็ไปยืนแปะอยู่ข้างฝาทันที เสมือนภาพฝาผนัง

หลานจิ้งอี๋ทึ่มทื่อไปแล้ว

นางตื่นตระหนกอยู่ในใจ ทำได้เพียงมองตี้ฝูอียุ่งง่วนอยู่หน้าโลงแก้วผลึก ส่วนหลานเหยากวงก็เริ่มเปิดค่ายอาคมเหล่านั้นของโลงแก้วผลึกแล้ว แสงผลึกเจ็ดสีสาดส่องอยู่ภายในโลงแก้ว เรื่องที่ตี้ฝูอีกระทำก็คือชักนำแสงผลึกเหล่านี้ขึ้นมา แยกออกจากกัน แล้วนำมาผสมรวมกันอีกครั้ง ก่อตัวเป็นปราการแสงเจ็ดสีหลังหนึ่ง โอบล้อมหญิงสาวภายในโลงแก้วผลึกเอาไว้อย่างสมบูรณ์

หลานเหยากวงก็เคยทำเช่นนี้มาแล้ว แต่ตี้ฝูอีกลับทำได้คล่องแคล่วราบรื่นกว่าเขามากนัก แน่นอนว่าประสิทธิภาพย่อมดีกว่าด้วยเช่นกัน

หลานเหยากวงมีข้อสงสัยอยู่เต็มท้อง แต่เมื่อเห็นตี้ฝูอีทำพิธีด้วยสีหน้าเรียบนิ่งอย่างต่อเนื่อง เขาจึงไม่กล้าถามเลยสักประโยค ทำได้เพียงอดกลั้นเอาไว้ก่อน

อาคมชุดนี้ตี้ฝูอีเคยสอนหลานเหยากวงแล้ว ถึงแม้หลานเหยากวงจะฝึกฝนอยู่นับครั้งไม่ถ้วน ใช้ได้คล่องแคล่วยิ่งนักแล้ว แต่ก็ไม่ทราบว่าที่แท้แล้วอาคมชุดนี้มีไว้ใช้ทำอะไรกันแน่

ยามนี้พอเห็นตี้ฝูอีลงมือด้วยตัวเอง หัวใจเขาก็ปั่นป่วนขึ้นมา

หรือว่าก่อนหน้านี้ตนจะทำผิดพลาดไป ดังนั้นจึงเกิดเหตุเหนือความคาดหมายบางอย่างขึ้นใช่ไหม?

พี่หญิงที่ยากนักกว่าจะฟื้นคืนสติขึ้นมาได้คงไม่…หลับใหลไปอีกกระมัง?!

————————————————————————————-

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด