ลำนำบุปผาพิษ 1941+1942

Now you are reading ลำนำบุปผาพิษ Chapter 1941+1942 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1941 ร่วมผ้าห่ม 3

“หือ?” กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองเขาแวบหนึ่ง “เหตุใดจึงถามเช่นนี้?”

คุณชายฝูอีเอ่ยอย่างไม่อนาทร “เจ้าเดาสิ?”

เดากับผีสิ!

กู้ซีจิ่วเบื่อหน่ายการเล่นเกมทายใจเช่นนี้เป็นที่สุด จึงเงียบไปเสียเลย ก้มหน้าสาละวนต่อไป

คุณชายฝูอีมองดูนาง เรือนผมนางหมาดชื้น ถูกมัดรวบอย่างลวกๆ ม้วนเป็นมวยเดี่ยว มีปอยผมรุ่ยร่ายลงมาตกระข้างแก้ม นางยกมือปัดมันเป็นระยะๆ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นสาวน้อยผู้หนึ่ง แต่กลับมีเสน่ห์ประการหนึ่งที่ไม่อาจบรรยายได้แฝงอยู่

ในใจของเขามีความรู้สึกแปลกๆ คล้ายว่าจะคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้ ราวกับเคยประสบพบพานมาก่อน และยังคงสลักลึกอยู่ในความทรงจำของเขา แต่พอคิดดูให้ละเอียดแล้วกลับคิดไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน

มือไม้นางคล่องแคล่ว ตัดเย็บอาภรณ์ได้รวดเร็วยิ่ง จากนั้นนางขึ้นไปบนเตียง ปลดม่านเตียงลงมา เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ด้านใน

ปกติเธอใช้อาคมเปลี่ยนชุดจนเคยชินแล้ว ยามนี้ต้องใช้มือผลัดเปลี่ยนจึงไม่ชินอยู่บ้าง

ถอดชุดกระโปรงที่หมาดชื้นออกไป และนำชุดตัวในที่อยู่ในถุงเก็บของตนออกมาสวม

ขณะที่กำลังจะหยิบอาภรณ์ชุดนั้น นอกม่านเตียงพลันมีเงาคนวูบไหว คนผู้หนึ่งพุ่งเข้ามา โผเข้าใส่เธอ ลากเข้าไปในผ้าห่มผืนใหญ่ ห่มคลุมเธอและเขาไว้ในโปงผ้าห่ม

การเคลื่อนไหวของเขาดุจสายฟ้าแวบ กู้ซีจิ่วแทบไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองเลย

ขณะที่เธอถูกโผใส่ก็คิดจะซัดฝ่ามือออกไปตามสัญชาตญาณ แค่คล้ายจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีก ฝ่ามือจึงหยุดลง ศีรษะชิดอกเขา ยันเขาออกไปเล็กน้อย “เจ้า…”

“ชู่!” คุณชายฝูอีทาบนิ้วหนึ่งลงบนริมฝีปากของเธอเบาๆ จากนั้นก็ดันเธอเข้าไปในผ้าห่ม แม้แต่ผมสักเส้นของเธอก็ไม่ให้โผล่ออกมา

ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง สุ้มเสียงที่ใสกังวานยิ่งนักของเจ้าวังน้อยแว่วขึ้น “คุณชายฝูอี อาบเสร็จหรือยัง? ต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนน้ำร้อนให้ท่านหน่อยไหม?”

คุณชายฝูอีนั่งอยู่บนเตียง ในเตียงกึ่งเปิดกึ่งปิด เผยให้เห็นร่างของเขาที่พิงเสาเตียงอยู่ ในมือเขาถือตำราม้วนหนึ่งไว้ ปรายตามองเจ้าวังน้อยอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง น้ำเสียงเยือกเย็นนิดๆ “เจ้าวังน้อย ท่านเข้าห้องบุรุษไม่เคยรู้จักสิ่งที่เรียกว่าเคาะประตูหรือไร? โชคดีที่ผู้น้อยอาบน้ำเสร็จแล้ว หากว่าถูกท่านเห็นตอนกำลังออกจากถังเข้า…”

เจ้าวังน้อยหน้าแดงอยู่บ้าง แต่ก็เอ่ยยิ้มๆ ไปว่า “จะเป็นไปได้ยังไง? เราผู้เป็นเจ้าวังคะเนไว้ว่าคุณชายคงจะอาบน้ำเสร็จแล้วถึงได้เข้ามาสอบถาม ที่สำคัญที่สุดคือเกรงว่าน้ำจะเย็นแล้ว แขกผู้มีเกียรติจะเหน็บหนาวเอาได้…”

นางเอ่ยอธิบาย พลางกวาดตามองรอบห้องอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง ค้นหาเบาะแสที่พอจะเป็นไปได้

เป็นอย่างที่คิด นางไม่พบอะไรเลย

เจ้าวังน้อยไม่ถอดใจ มองคุณชายฝูอีที่คลุมผ่าห่มไว้ครึ่งหนึ่ง ร่างกายกว่าครึ่งของคุณชายฝูอีอยู่ภายในผ้าห่ม นั่งอย่างเฉื่อยชา คู่ขาข้างหนึ่งไว้อย่างสบายๆ มองไม่เห็นความพิกลอันใดภายใต้ผ้าห่มของเขา

ตอนนี้นางมีเรื่องขอร้องคนผู้นี้อยู่ ย่อมไม่คิดจะล่วงเกินเขาเข้าจริงๆ และยิ่งไม่คิดจะเลิกผ้าห่มของเขาด้วย ทำเช่นนั้นถือเป็นการหักหน้ากันจริงๆ

นางสนทนากับคุณชายฝูอีด้วยวาจาสุภาพสองสามประโยค ก็หันหลังจากไปอีกครั้ง ก่อนจะจากไปยังสั่งการให้มนุษย์ครึ่งสัตว์สองคนเข้ามาแบกถังอาบน้ำออกไปด้วย

ภายในห้องกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

คุณชายฝูอีกัดฟัน “ลุกขึ้น!”

เดิมทีกู้ซีจิ่วก็เกรงว่าเจ้าวังน้อยผู้นั้นจะฉุกสงสัย เธอจึงหมอบซุกอยู่ตรงหว่างขาของคุณชายฝูอี แน่นอนว่าใบหน้าของเธอตะแคงซบกับเอวส่วนในของเขา แทบจะคว่ำเกยอยู่บนร่างเขาแล้ว

ตอนนี้ร่างกายเธอเล็กจ้อย เช่นนี้แล้วพอซุกอยู่ในผ้าห่มจึงทำให้ผู้อื่นมองพิรุธไม่ออก

ขอเพียงเจ้าวังน้อยผู้นั้นไม่เลิกผ้าห่มออกก็จะไม่พบตัวเธอ!

———————————————————————–

บทที่ 1942 ร่วมผ้าห่ม 4

เจ้าวังน้อยไม่พบตัวเธอจริงๆ แต่ท่าทางที่เธอหมอบซุกอยู่ตรงหว่างขาของเขาเช่นนี้ก็คลุมเครือเกินไปแล้ว

เธอยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า สวมเพียงชุดชั้นใน ชุดชั้นในของเธอเป็นแบบยุคปัจจุบัน มิใช่เสื้อตัวยาวและกางเกงตัวยาวแบบยุคโบราณ

ถึงแม้คุณชายฝูอีจะสวมเสื้อคลุมตัวใน แต่ก็สามารถสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มของร่างกายเธอได้…

ความรู้สึกเช่นนี้ยากจะบรรยาย ชั่วชีวิตนี้เขายังไม่เคยใกล้ชิดกับสตรีคนได้เช่นนี้มาก่อน! แถมอีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กหญิงตัวน้อยด้วย…

เขาไม่ควรช่วยนางเลย!

ช่วยจนเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นมากมายปานนี้!

ทำให้เขาสูญเสียครั้งแรกไปมากมายนัก ร่วมอ่างกับสตรีเป็นครั้งแรก ร่วมผ้าห่มกับสตรีเป็นครั้งแรก…

เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขารังเกียจการที่ผู้อื่นเข้าใกล้ในระยะสามจั้งยิ่ง แม้แต่เหล่าศิษย์น้องชายหญิงของเขาก็ไม่กล้าล้ำเส้น ยามนี้กลับถูกสาวน้อยที่ไม่รู้มาโผล่มาจากไหนฉกฉวยไปหมด!

ที่สำคัญกว่านั้นคือนางหมอบอยู่ตรงตรงนั้นของเขา ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเริ่มปฏิกิริยาขึ้นมา…

กู้ซีจิ่วจนปัญญาแล้วจริงๆ ถึงได้แนบชิดเขาเช่นนี้ จากนั้นก็สัมผัสได้ว่าส่วนนั้นของเขามีปฏิกิริยาขึ้นมา นูนทิ่มสีข้างเธอ…

กู้ซีจิ่วย่อมทราบว่านั่นหมายถึงอะไร ในใจกระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง ทว่าไม่อาจขยับได้

เธอแนบทับบนร่างเขา กลิ่นหอมอ่อนจางคล้ายบุปผาคล้ายโอสถอวลอยู่ที่ปลายจมูก ทำให้เธอใจสั่นไหว

แน่นอน อาการใจสั่นนี้หยุดลงเพราะสัมผัสถึงปฏิกิริยาของเขาได้…

ด้วยเหตุนี้อาการใจสั่นจึงแปรเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วน!

รอจนเจ้าวังน้อยออกไป ขณะที่เธอกำลังจะกลิ้งออกไปด้านข้าง ถอยห่างจากเขาเล็กน้อย กลับได้ยินเขาเอ่ยเสียงต่ำเช่นนี้

ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงไม่ขวยอายแล้ว!

เธอมุดออกมาจากผ้าห่ม เลิกคิ้วมองเขา “หนุ่มน้อย เป็นเจ้าที่ทับข้าก่อน!”

คุณชายฝูอีพูดไม่ออกเลย เช่นนั้นแล้วอย่างไรเล่า? เขาไม่ได้ให้นางมาแปะอยู่บนร่างเขาเช่นนี้เสียหน่อย ซ้ำยังทับอยู่บนส่วนอ่อนไหวของเขาด้วย!

สายตาเขาร่อนลงบนดวงหน้าพริ้มเพราของกู้ซีจิ่ว ไม่อาจปฏิเสธได้เลย นางงดงามยิ่งนัก งามจนทำให้เขาเห็นครั้งแรกก็จิตใจหวั่นไหว อยากช่วยเหลือนางไปตามสัญชาตญาณ…

ยามนี้ดวงหน้าพริ้มเพรานั้นขาวกระจ่าง ไม่มีความรู้สึกเขินอายที่ต้องร่วมผ้าห่มกับบุรุษแปลกหน้าเลยสักนิด…

มิใช่ว่านางสมควรจะเขินอายหรอกหรือ?!

จู่ๆ ในใจเขาก็ค่อนข้างขุ่นเคืองเพราะความไม่ ‘สำรวม’ ของเด็กสาวผู้นี้

เขาหลุบตามองนาง “ก็จริง เป็นข้าที่ทับเจ้าก่อน แต่เจ้าไม่รู้สึกอายบ้างหรือ? มิใช่ว่าสมควรต้องหน้าแดงสักหน่อยหรอกหรือ?”

กู้ซีจิ่วใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานปานนี้ ฝึกฝนหนังหน้าจนหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองมาตั้งนานแล้ว

เขินอาย?

เมื่อครู่เธอทำตัวไม่ถูกนิดหน่อยจริงๆ แต่พอถูกเขาถามเช่นนี้ ความทำตัวไม่ถูกทั้งหมดของเธอก็สลายหายไปจนสิ้น

เธอหยักยิ้มแวบหนึ่ง สุ้มเสียงไม่อนาทรร้อนใจ “นี่มีอะไรให้หน้าแดงด้วยหรือ? ข้า…ก็แค่คล้อยตามสถานการณ์เท่านั้น” ฝ่ามือเธอตบไหล่เขาคราหนึ่ง “หนุ่มน้อย ทำการใหญ่อย่าใส่ใจเรื่องหยุมหยิม เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมากถึงเพียงนั้น”

คุณชายฝูอีผินหน้ามองมือน้อยๆ ของนาง ยิ้มมิเชิงยิ้ม “ข้าเป็นบุรุษ ย่อมไม่ใส่ใจเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ แต่เจ้า…”

“ข้าก็ไม่สนใจเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้เหมือนกัน วางใจเถอะ ข้าจะไม่เรียกร้องให้เจ้ารับผิดชอบด้วยเหตุนี้” ในสายตากู้ซีจิ่ว อีกฝ่ายยังคงเป็นหญ้าอ่อนต้นหนึ่ง ส่วนเธอก็ไม่คิดจะเป็นวัวแก่…

คุณชายฝูอีถูกประโยคนี้ของนางหยุดเอาไว้จริงๆ เขาหรี่ตามองนาง จู่ๆ ก็อยากลองทดสอบดูว่าขีดจำกัดของนางอยู่ตรงไหน…

เขาพลิกกายในทันใด กดนางลงไปอีกครั้ง!

กู้ซีจิ่วไม่ทันตั้งตัว ต่อให้ตั้งตัวทัน ตัวเธอที่ยามนี้ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่อาจหลบหลีกการทาบทับอย่างรุนแรงของเขาได้!

แปลกมาก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเธอสำแดงพลังวิญญาณออกมาไม่ได้เลยสักกระผีก ทำไมเจ้าหนุ่มนี่ถึงสำแดงออกมาได้ล่ะ?!

ร่างกายเธอกระจิ๋วหลิว ถูกเขาทับไว้ใต้ร่างโดยสมบูรณ์ และเธอยังคงไม่ได้สวมเสื้อผ้า เผยผิวพรรณนวลเนียนส่วนใหญ่ออกมา ร่างกายที่ปรับเปลี่ยนแล้วของเธอยังคงสมส่วนนัก ทรวงอกโค้งนูนยิ่งแล้ว นอนอยู่บนเตียงเช่นนี้มีเสน่ห์เย้ายวนคนอย่างที่ไม่อาจบรรยายได้

————————————–

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

ลำนำบุปผาพิษ 1941+1942

Now you are reading ลำนำบุปผาพิษ Chapter 1941+1942 at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 1941 ร่วมผ้าห่ม 3

“หือ?” กู้ซีจิ่วเลิกคิ้วมองเขาแวบหนึ่ง “เหตุใดจึงถามเช่นนี้?”

คุณชายฝูอีเอ่ยอย่างไม่อนาทร “เจ้าเดาสิ?”

เดากับผีสิ!

กู้ซีจิ่วเบื่อหน่ายการเล่นเกมทายใจเช่นนี้เป็นที่สุด จึงเงียบไปเสียเลย ก้มหน้าสาละวนต่อไป

คุณชายฝูอีมองดูนาง เรือนผมนางหมาดชื้น ถูกมัดรวบอย่างลวกๆ ม้วนเป็นมวยเดี่ยว มีปอยผมรุ่ยร่ายลงมาตกระข้างแก้ม นางยกมือปัดมันเป็นระยะๆ เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเป็นสาวน้อยผู้หนึ่ง แต่กลับมีเสน่ห์ประการหนึ่งที่ไม่อาจบรรยายได้แฝงอยู่

ในใจของเขามีความรู้สึกแปลกๆ คล้ายว่าจะคุ้นเคยกับสถานการณ์เช่นนี้ ราวกับเคยประสบพบพานมาก่อน และยังคงสลักลึกอยู่ในความทรงจำของเขา แต่พอคิดดูให้ละเอียดแล้วกลับคิดไม่ออกว่าเคยพบที่ไหน

มือไม้นางคล่องแคล่ว ตัดเย็บอาภรณ์ได้รวดเร็วยิ่ง จากนั้นนางขึ้นไปบนเตียง ปลดม่านเตียงลงมา เปลี่ยนเสื้อผ้าอยู่ด้านใน

ปกติเธอใช้อาคมเปลี่ยนชุดจนเคยชินแล้ว ยามนี้ต้องใช้มือผลัดเปลี่ยนจึงไม่ชินอยู่บ้าง

ถอดชุดกระโปรงที่หมาดชื้นออกไป และนำชุดตัวในที่อยู่ในถุงเก็บของตนออกมาสวม

ขณะที่กำลังจะหยิบอาภรณ์ชุดนั้น นอกม่านเตียงพลันมีเงาคนวูบไหว คนผู้หนึ่งพุ่งเข้ามา โผเข้าใส่เธอ ลากเข้าไปในผ้าห่มผืนใหญ่ ห่มคลุมเธอและเขาไว้ในโปงผ้าห่ม

การเคลื่อนไหวของเขาดุจสายฟ้าแวบ กู้ซีจิ่วแทบไม่ทันมีปฏิกิริยาตอบสนองเลย

ขณะที่เธอถูกโผใส่ก็คิดจะซัดฝ่ามือออกไปตามสัญชาตญาณ แค่คล้ายจะนึกอะไรขึ้นมาได้อีก ฝ่ามือจึงหยุดลง ศีรษะชิดอกเขา ยันเขาออกไปเล็กน้อย “เจ้า…”

“ชู่!” คุณชายฝูอีทาบนิ้วหนึ่งลงบนริมฝีปากของเธอเบาๆ จากนั้นก็ดันเธอเข้าไปในผ้าห่ม แม้แต่ผมสักเส้นของเธอก็ไม่ให้โผล่ออกมา

ประตูถูกเปิดออกอีกครั้ง สุ้มเสียงที่ใสกังวานยิ่งนักของเจ้าวังน้อยแว่วขึ้น “คุณชายฝูอี อาบเสร็จหรือยัง? ต้องการให้พวกเขาเปลี่ยนน้ำร้อนให้ท่านหน่อยไหม?”

คุณชายฝูอีนั่งอยู่บนเตียง ในเตียงกึ่งเปิดกึ่งปิด เผยให้เห็นร่างของเขาที่พิงเสาเตียงอยู่ ในมือเขาถือตำราม้วนหนึ่งไว้ ปรายตามองเจ้าวังน้อยอย่างเฉยชาแวบหนึ่ง น้ำเสียงเยือกเย็นนิดๆ “เจ้าวังน้อย ท่านเข้าห้องบุรุษไม่เคยรู้จักสิ่งที่เรียกว่าเคาะประตูหรือไร? โชคดีที่ผู้น้อยอาบน้ำเสร็จแล้ว หากว่าถูกท่านเห็นตอนกำลังออกจากถังเข้า…”

เจ้าวังน้อยหน้าแดงอยู่บ้าง แต่ก็เอ่ยยิ้มๆ ไปว่า “จะเป็นไปได้ยังไง? เราผู้เป็นเจ้าวังคะเนไว้ว่าคุณชายคงจะอาบน้ำเสร็จแล้วถึงได้เข้ามาสอบถาม ที่สำคัญที่สุดคือเกรงว่าน้ำจะเย็นแล้ว แขกผู้มีเกียรติจะเหน็บหนาวเอาได้…”

นางเอ่ยอธิบาย พลางกวาดตามองรอบห้องอย่างรวดเร็วแวบหนึ่ง ค้นหาเบาะแสที่พอจะเป็นไปได้

เป็นอย่างที่คิด นางไม่พบอะไรเลย

เจ้าวังน้อยไม่ถอดใจ มองคุณชายฝูอีที่คลุมผ่าห่มไว้ครึ่งหนึ่ง ร่างกายกว่าครึ่งของคุณชายฝูอีอยู่ภายในผ้าห่ม นั่งอย่างเฉื่อยชา คู่ขาข้างหนึ่งไว้อย่างสบายๆ มองไม่เห็นความพิกลอันใดภายใต้ผ้าห่มของเขา

ตอนนี้นางมีเรื่องขอร้องคนผู้นี้อยู่ ย่อมไม่คิดจะล่วงเกินเขาเข้าจริงๆ และยิ่งไม่คิดจะเลิกผ้าห่มของเขาด้วย ทำเช่นนั้นถือเป็นการหักหน้ากันจริงๆ

นางสนทนากับคุณชายฝูอีด้วยวาจาสุภาพสองสามประโยค ก็หันหลังจากไปอีกครั้ง ก่อนจะจากไปยังสั่งการให้มนุษย์ครึ่งสัตว์สองคนเข้ามาแบกถังอาบน้ำออกไปด้วย

ภายในห้องกลับสู่ความเงียบสงบอีกครั้ง

คุณชายฝูอีกัดฟัน “ลุกขึ้น!”

เดิมทีกู้ซีจิ่วก็เกรงว่าเจ้าวังน้อยผู้นั้นจะฉุกสงสัย เธอจึงหมอบซุกอยู่ตรงหว่างขาของคุณชายฝูอี แน่นอนว่าใบหน้าของเธอตะแคงซบกับเอวส่วนในของเขา แทบจะคว่ำเกยอยู่บนร่างเขาแล้ว

ตอนนี้ร่างกายเธอเล็กจ้อย เช่นนี้แล้วพอซุกอยู่ในผ้าห่มจึงทำให้ผู้อื่นมองพิรุธไม่ออก

ขอเพียงเจ้าวังน้อยผู้นั้นไม่เลิกผ้าห่มออกก็จะไม่พบตัวเธอ!

———————————————————————–

บทที่ 1942 ร่วมผ้าห่ม 4

เจ้าวังน้อยไม่พบตัวเธอจริงๆ แต่ท่าทางที่เธอหมอบซุกอยู่ตรงหว่างขาของเขาเช่นนี้ก็คลุมเครือเกินไปแล้ว

เธอยังไม่ได้สวมเสื้อผ้า สวมเพียงชุดชั้นใน ชุดชั้นในของเธอเป็นแบบยุคปัจจุบัน มิใช่เสื้อตัวยาวและกางเกงตัวยาวแบบยุคโบราณ

ถึงแม้คุณชายฝูอีจะสวมเสื้อคลุมตัวใน แต่ก็สามารถสัมผัสถึงความอ่อนนุ่มของร่างกายเธอได้…

ความรู้สึกเช่นนี้ยากจะบรรยาย ชั่วชีวิตนี้เขายังไม่เคยใกล้ชิดกับสตรีคนได้เช่นนี้มาก่อน! แถมอีกฝ่ายยังเป็นแค่เด็กหญิงตัวน้อยด้วย…

เขาไม่ควรช่วยนางเลย!

ช่วยจนเกิดเรื่องยุ่งยากขึ้นมากมายปานนี้!

ทำให้เขาสูญเสียครั้งแรกไปมากมายนัก ร่วมอ่างกับสตรีเป็นครั้งแรก ร่วมผ้าห่มกับสตรีเป็นครั้งแรก…

เห็นอยู่ชัดๆ ว่าเขารังเกียจการที่ผู้อื่นเข้าใกล้ในระยะสามจั้งยิ่ง แม้แต่เหล่าศิษย์น้องชายหญิงของเขาก็ไม่กล้าล้ำเส้น ยามนี้กลับถูกสาวน้อยที่ไม่รู้มาโผล่มาจากไหนฉกฉวยไปหมด!

ที่สำคัญกว่านั้นคือนางหมอบอยู่ตรงตรงนั้นของเขา ไม่น่าเชื่อว่าเขาจะเริ่มปฏิกิริยาขึ้นมา…

กู้ซีจิ่วจนปัญญาแล้วจริงๆ ถึงได้แนบชิดเขาเช่นนี้ จากนั้นก็สัมผัสได้ว่าส่วนนั้นของเขามีปฏิกิริยาขึ้นมา นูนทิ่มสีข้างเธอ…

กู้ซีจิ่วย่อมทราบว่านั่นหมายถึงอะไร ในใจกระอักกระอ่วนอย่างยิ่ง ทว่าไม่อาจขยับได้

เธอแนบทับบนร่างเขา กลิ่นหอมอ่อนจางคล้ายบุปผาคล้ายโอสถอวลอยู่ที่ปลายจมูก ทำให้เธอใจสั่นไหว

แน่นอน อาการใจสั่นนี้หยุดลงเพราะสัมผัสถึงปฏิกิริยาของเขาได้…

ด้วยเหตุนี้อาการใจสั่นจึงแปรเปลี่ยนเป็นกระอักกระอ่วน!

รอจนเจ้าวังน้อยออกไป ขณะที่เธอกำลังจะกลิ้งออกไปด้านข้าง ถอยห่างจากเขาเล็กน้อย กลับได้ยินเขาเอ่ยเสียงต่ำเช่นนี้

ด้วยเหตุนี้ กู้ซีจิ่วจึงไม่ขวยอายแล้ว!

เธอมุดออกมาจากผ้าห่ม เลิกคิ้วมองเขา “หนุ่มน้อย เป็นเจ้าที่ทับข้าก่อน!”

คุณชายฝูอีพูดไม่ออกเลย เช่นนั้นแล้วอย่างไรเล่า? เขาไม่ได้ให้นางมาแปะอยู่บนร่างเขาเช่นนี้เสียหน่อย ซ้ำยังทับอยู่บนส่วนอ่อนไหวของเขาด้วย!

สายตาเขาร่อนลงบนดวงหน้าพริ้มเพราของกู้ซีจิ่ว ไม่อาจปฏิเสธได้เลย นางงดงามยิ่งนัก งามจนทำให้เขาเห็นครั้งแรกก็จิตใจหวั่นไหว อยากช่วยเหลือนางไปตามสัญชาตญาณ…

ยามนี้ดวงหน้าพริ้มเพรานั้นขาวกระจ่าง ไม่มีความรู้สึกเขินอายที่ต้องร่วมผ้าห่มกับบุรุษแปลกหน้าเลยสักนิด…

มิใช่ว่านางสมควรจะเขินอายหรอกหรือ?!

จู่ๆ ในใจเขาก็ค่อนข้างขุ่นเคืองเพราะความไม่ ‘สำรวม’ ของเด็กสาวผู้นี้

เขาหลุบตามองนาง “ก็จริง เป็นข้าที่ทับเจ้าก่อน แต่เจ้าไม่รู้สึกอายบ้างหรือ? มิใช่ว่าสมควรต้องหน้าแดงสักหน่อยหรอกหรือ?”

กู้ซีจิ่วใช้ชีวิตอยู่บนโลกนี้มานานปานนี้ ฝึกฝนหนังหน้าจนหนายิ่งกว่ากำแพงเมืองมาตั้งนานแล้ว

เขินอาย?

เมื่อครู่เธอทำตัวไม่ถูกนิดหน่อยจริงๆ แต่พอถูกเขาถามเช่นนี้ ความทำตัวไม่ถูกทั้งหมดของเธอก็สลายหายไปจนสิ้น

เธอหยักยิ้มแวบหนึ่ง สุ้มเสียงไม่อนาทรร้อนใจ “นี่มีอะไรให้หน้าแดงด้วยหรือ? ข้า…ก็แค่คล้อยตามสถานการณ์เท่านั้น” ฝ่ามือเธอตบไหล่เขาคราหนึ่ง “หนุ่มน้อย ทำการใหญ่อย่าใส่ใจเรื่องหยุมหยิม เจ้าไม่จำเป็นต้องคิดมากถึงเพียงนั้น”

คุณชายฝูอีผินหน้ามองมือน้อยๆ ของนาง ยิ้มมิเชิงยิ้ม “ข้าเป็นบุรุษ ย่อมไม่ใส่ใจเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้ แต่เจ้า…”

“ข้าก็ไม่สนใจเรื่องหยุมหยิมเช่นนี้เหมือนกัน วางใจเถอะ ข้าจะไม่เรียกร้องให้เจ้ารับผิดชอบด้วยเหตุนี้” ในสายตากู้ซีจิ่ว อีกฝ่ายยังคงเป็นหญ้าอ่อนต้นหนึ่ง ส่วนเธอก็ไม่คิดจะเป็นวัวแก่…

คุณชายฝูอีถูกประโยคนี้ของนางหยุดเอาไว้จริงๆ เขาหรี่ตามองนาง จู่ๆ ก็อยากลองทดสอบดูว่าขีดจำกัดของนางอยู่ตรงไหน…

เขาพลิกกายในทันใด กดนางลงไปอีกครั้ง!

กู้ซีจิ่วไม่ทันตั้งตัว ต่อให้ตั้งตัวทัน ตัวเธอที่ยามนี้ไม่มีพลังวิญญาณก็ไม่อาจหลบหลีกการทาบทับอย่างรุนแรงของเขาได้!

แปลกมาก เห็นกันอยู่ชัดๆ ว่าเธอสำแดงพลังวิญญาณออกมาไม่ได้เลยสักกระผีก ทำไมเจ้าหนุ่มนี่ถึงสำแดงออกมาได้ล่ะ?!

ร่างกายเธอกระจิ๋วหลิว ถูกเขาทับไว้ใต้ร่างโดยสมบูรณ์ และเธอยังคงไม่ได้สวมเสื้อผ้า เผยผิวพรรณนวลเนียนส่วนใหญ่ออกมา ร่างกายที่ปรับเปลี่ยนแล้วของเธอยังคงสมส่วนนัก ทรวงอกโค้งนูนยิ่งแล้ว นอนอยู่บนเตียงเช่นนี้มีเสน่ห์เย้ายวนคนอย่างที่ไม่อาจบรรยายได้

————————————–

Related

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+