ตอนที่ 131 คู่รักที่ไม่เหมาะสมกันแม้แต่น้อย

 

 

หลังจากเสร็จสิ้นการบริหารร่างกาย นักกายภาพหนุ่มอดไม่ได้ที่จะเริ่มพูดคุยกับเธอ “คุณหลิน ความมุ่งมั่นของคุณนี่น่าชื่นชมมากครับ คนส่วนใหญ่มักจะโอดครวญด้วยความเจ็บปวดกันตั้งแต่สิบนาทีแรกแล้ว แต่นี่คุณไม่ปริปากเลยแม้แต่น้อยตลอดเวลาเกือบสองชั่วโมง…”

 

 

“จริงเหรอคะ?” หลินเยียนยิ้มก่อนจะเปลี่ยนสีหน้าเป็นบึ้งตึง “ที่จริงฉันแอบร้องไห้อยู่ในใจน่ะค่ะ คุณแค่ไม่รู้…”

 

 

การกายภาพบำบัดเป็นเรื่องที่เหนื่อยมาก แต่หลินเยียนเคยผ่านการฝึกซ้อมที่เข้มงวดมาแล้วมากมาย เธอจึงชินไปเสียแล้ว

 

 

นักกายภาพบำบัดหนุ่มไม่คาดคิดว่าจะได้ยินคำตอบเช่นนั้น เขาจึงยิ้มออกมาด้วยความขบขัน

 

 

เขาไม่เห็นว่าหลินเยียนจะมีท่าทีอวดดี หยิ่งผยอง หรือเจ้ากี้เจ้าการอย่างที่ใครๆ ร่ำลือกัน เขาเอ่ยกับหลินเยียนว่า “คุณหลิน ขาของคุณบาดเจ็บหนักทั้งที่กระดูกและที่กล้ามเนื้อเลยนะครับ นี่ถ้าไม่ได้หมอผ่าตัดฝีมือดีก็น่าจะถึงขั้นพิการได้เลย ไปทำอะไรมาครับถึงได้เจ็บหนักขนาดนี้”

 

 

ดวงตาของหลินเยียนล่อกแล่กไปมาขณะที่เธอตอบอย่างร่าเริง “ฉันประสบอุบัติเหตุรถชนนิดหน่อยน่ะค่ะ”

 

 

อาการบาดเจ็บของเธอรุนแรงมากถึงขนาดที่ไม่น่าจะเป็นเพียงอุบัติเหตุรถชนทั่วๆ ไป

 

 

แต่นักกายภาพบำบัดก็ไม่ได้ซักถามอะไรต่อเพราะคิดว่าเป็นเรื่องส่วนตัว เขาเพียงพยักหน้าเล็กน้อยก่อนเอ่ยกับเธอว่า “การกายภาพบำบัดวันนี้ก็มีแค่นี้ละครับ สัปดาห์หน้าอย่าลืมกลับมาอีกนะครับ ห้ามปล่อยไว้โดยไม่รักษาให้ทันการเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นกล้ามเนื้อของคุณจะผิดรูปไปอย่างถาวร และการกายภาพบำบัดก็ช่วยอะไรคุณไม่ได้แล้วนะครับ! อาการกล้ามเนื้อผิดรูปอาจจะส่งผลต่อการเคลื่อนไหวที่ต้องการความถูกต้องแม่นยำได้ครับ”

 

 

หลินเยียนพยักหน้า “เข้าใจแล้วค่ะ ขอบคุณมาก!”

 

 

…

 

 

การวิพากษ์วิจารณ์ทางออนไลน์ทวีความเข้มข้นขึ้นเรื่อยๆ

 

 

บัญชีทางการของ ‘พานพบคนที่ใช่’ บนเว่ยป๋อเพิ่งปล่อยภาพถ่ายของเหล่านักแสดงออกมาจนทำให้ชื่อภาพยนตร์ติดอันดับการค้นหายอดนิยม

 

 

เผยหนานซวี่ได้รับคำชมมากมายเนื่องด้วยสไตล์และภาพลักษณ์ของตัวละครที่เขาสวมบทบาท ส่วนรูปภาพของเจี่ยงซือเฟยที่แม้จะผ่านการตัดต่อมาอย่างหนักหน่วงจนแทบจำไม่ได้ว่าเป็นเธอก็ยังได้รับคำชมที่ดีจากเหล่าแฟนๆ นิยายและผู้คนทั่วไป

 

 

ทุกคนดูออกว่าภาพของเจี่ยงซือเฟยถูกตัดต่อและตบแต่งใหม่ แต่เคราะห์ดีที่ชื่อเสียงและภาพพจน์ของเธอนั้นดีงาม แฟนๆ หลายคนต่างประทับใจในตัวเธอ และใครๆ ก็เชื่อมั่นในทักษะการแสดงของเธอ ด้วยเหตุนี้เธอจึงไม่ถูกวิพากษ์วิจารณ์เลยแม้แต่น้อย

 

 

หลินเยียนไม่ได้ร่วมถ่ายภาพในวันนั้น ภาพของตัวละครที่เธอรับบท หลินเพียนรั่ว จึงยังไม่ถูกปล่อยออกมาให้ผู้คนได้รับชมแต่อย่างใด

 

 

แต่ก็ไม่ได้สำคัญอะไรขนาดนั้น เพราะยังไงบทของเธอก็เป็นเพียงบทสมทบ

 

 

ภาพยนตร์ ‘พานพบคนที่ใช่’ ดัดแปลงมาจากนวนิยายชื่อดัง ดังนั้น หลินเพียนรั่วจึงเป็นตัวละครที่มีฐานแฟนคลับอยู่มากมายแม้ว่าเธอจะไม่ได้เป็นตัวเอกก็ตาม

 

 

เมื่อทางกองถ่ายประกาศชื่อผู้ที่จะมารับบทเป็นหลินเพียนรั่ว แฟนๆ ก็พากันโกรธขึ้งที่ได้รู้ว่าหลินเยียนจะเล่นเป็นตัวละครที่พวกเขาชื่นชอบ

 

 

ที่น่าโมโหที่สุดสำหรับแฟนๆ ก็คือ หลินเพียนรั่วนั้นมีคนรักชื่อฟังชั่นหยาง ซึ่งรับบทโดย เว่ยสวีเฟิง ดาราหนุ่มยอดนิยมสุดฮอต!

 

 

ตามเนื้อเรื่องแล้ว หลินเพียนรั่วเป็นประธานสาวสวยบ้าอำนาจจอมบงการ และฟังชั่นหยางเป็นแฟนหนุ่มอายุน้อยสุดเท่ของเธอ!

 

 

แฟนๆ นิยายต่างวาดฝันไว้สูงส่งว่าใครจะได้รับบทคู่รักคู่นี้ แต่สุดท้ายแล้ว บทของหลินเพียนรั่วกลับตกอยู่ในมือของผู้หญิงจอมเจ้าเล่ห์ขี้โกหกอย่างหลินเยียน!

 

 

ด้วยเหตุนี้ บรรดาแฟนๆ จึงรู้สึกเหมือนถูกตบหน้าฉาดใหญ่…

 

 

ความคั่งแค้นของเหล่าแฟนๆ ก็ยิงทวีความรุนแรงมากขึ้นอีกเมื่อมีการปล่อยรูปภาพของเหล่านักแสดงออกมา

 

 

บัญชีทางการของ ‘พานพบคนที่ใช่’ ถูกถล่มด้วยความคิดเห็นจากแฟนๆ จำนวนมหาศาล และเมื่อแฟนๆ ได้เห็นภาพของเว่ยสวีเฟิง พวกเขาก็พากันร้องห่มร้องไห้ราวกับคนในครอบครัวเพิ่งตายจากไป…

 

 

 

 

ตอนที่ 132 นางเอกที่มาพร้อมมงกุฎแสนสวย

 

 

‘ให้ตาย! ทำไมทีมงานถึงจับคู่หลินเยียนกับพี่สวีเฟิงสุดที่รักของพวกเรา? บ้าบอ!’

 

 

‘หลินเยียนมันเป็นยัยอัปลักษณ์ จอมวางแผน แถมยังอวดเก่ง! กล้าดียังไงมารับบทนางฟ้าอย่างหลินเพียนรั่ว? ทีมงานโดนเล่นของตอนออดิชันหรือไงไม่ทราบ?’

 

 

‘ทุกคน ฉันว่าเรามาแบน ‘พานพบคนที่ใช่’ กันเหอะ! ฉันจะไม่ไปดูเด็ดขาดถ้าหลินเยียนเล่นเป็นหลินเพียนรั่ว! ทำไมฉันต้องทนดูอะไรที่ชวนอ้วกด้วยล่ะ?’

 

 

‘ทุกคนไม่เห็นเหรอว่าหลินเพียนรั่วไม่มีรูปโปรโมตน่ะ? ขนาดทีมงานเขายังรู้เลยว่าหลินเยียนมันทุเรศจนไม่ควรเอาภาพมาเผยแพร่ไง!’

 

 

…

 

 

หลังจากที่รายชื่อนักแสดงถูกปล่อยออกมา บรรดาแฟนๆ ของเว่ยสวีเฟิงก็พากันโจมตีหลินเยียนกันอย่างสุดกำลัง บางคนถึงขนาดลงมือตัดภาพใบหน้าของหลินเยียนออกมาแล้วตัดต่อให้ดูเหมือนเป็นภาพผู้ตายในกรอบรูปหน้างานศพเลยทีเดียว

 

 

หลินเยียนไม่ได้ตอบโต้อะไร ที่เธอทำก็แค่โพสต์บนเว่ยป๋อเหมือนเดิมอย่างทุกๆ วัน

 

 

‘วันนี้ฉันรวยแล้วหรือยัง? ตอบ ยังจ้า’

 

 

หลินเยียนไม่ได้สนิทชิดเชื้อกับเว่ยสวีเฟิงเท่าไรนัก เธอรู้จักเขาเพียงผิวเผินแต่เป็นแฟนเพลงตัวยงของเขา

 

 

ตระกูลเว่ยเป็นตระกูลที่ขึ้นชื่อด้านธุรกิจอัญมณีและมีชื่อเสียงพอตัวในเมืองหลวง เว่ยสวีเฟิงเป็นลูกชายคนสุดท้องของครอบครัวและได้รับการปรนเปรอมากที่สุด

 

 

เว่ยสวีเฟิงมีพรสวรรค์ในด้านดนตรีอย่างมาก เขาร่ำเรียนดนตรีมาตั้งแต่ยังเป็นเด็กและได้เดบิวต์ตอนอายุเพียง 18 ปี เขาสามารถแต่งเพลง เขียนเนื้อเพลง ร้องเพลง และเล่นเครื่องดนตรีได้หลากหลายประเภท ความสามารถและพรสวรรค์ด้านดนตรีของเขาทำให้วงการเพลงลุกเป็นไฟเมื่อครั้งที่เขาเพิ่งเดบิวต์ และในไม่ช้า เขาก็เบนเข็มมาเอาดีทางการแสดงแทน

 

 

เขามีความสามารถล้นเหลือจนดูเหมือนว่าได้รับพรจากสวรรค์

 

 

แต่น่าเสียดายที่คนเก่งๆ แบบนี้กลับตกหลุมรักหลินซูหย่าเสียได้

 

 

 

 

ทั้งหลินซูหย่าและเว่ยสวีเฟิงต่างก็ทำงานให้สังกัดไทรอัมพ์ เอนเตอร์เทนเมนต์ เขาถือว่าตัวเองเป็นรุ่นพี่ของหลินซูหย่า เขาจึงเอาใจใส่เธออย่างดีเมื่อครั้งที่หลินซูหย่าเพิ่งเดบิวต์ใหม่ๆ ถึงขนาดที่พาเธอไปทำความรู้จักกับผู้ลงทุนมากหน้าหลายตาและเฝ้าดูแลเธอด้วยความห่วงหาอาทร

 

 

แฟนๆ พากันกุข่าวลือเกี่ยวกับความสัมพันธ์ของทั้งคู่ แต่ต่างฝ่ายก็ต่างออกมายืนกรานว่าเป็นเพียงรุ่นพี่รุ่นน้องที่เคารพเท่านั้น

 

 

ชายหนุ่มหน้าตาดีและหญิงสาวหน้าตาสะสวยนั้นก็ดูเป็นคู่รักที่เหมาะสมกันอยู่ ดังนั้น เมื่อมีข่าวลือว่าทั้งสองกำลังคบหาดูใจ ชื่อเสียงของเว่ยสวีเฟิงและหลินซูหย่าก็ไม่ได้รับผลกระทบแต่อย่างใด แต่ข่าวลือนั้นยังช่วยเพิ่มจำนวนแฟนๆ ที่จับคู่จิ้นได้อีกต่างหาก

 

 

แต่เรื่องที่ไม่มีใครรู้คือเว่ยสวีเฟิงตกหลุมรักหลินซูหย่าเข้าจริงๆ ทุกคนในบริษัทต่างรู้ดีว่าเขาพยายามจีบหลินซูหย่าแม้ว่าเธอจะคบหากับหันอี้เซวียนอยู่แล้ว

 

 

ภาพลักษณ์ดุจนางฟ้าที่แสนน่ารักของหลินซูหย่าดึงดูดความสนใจจากกลุ่มผู้นิยมชมชอบในตัวเธอได้มากโข และเว่ยสวีเฟิงก็เป็นหนึ่งในนั้นเช่นกัน

 

 

ก่อนหน้านี้ เผยอวี่ถังเพิ่งพูดถึงเส้นสายที่แข็งแกร่งในวงการบันเทิงของหลินซูหย่า ซึ่งก็ถือเป็นเรื่องจริง

 

 

พ่อของหลินซูหย่า หลินเยว่ทง เป็นประธานบริษัทไทรอัมพ์ เอนเตอร์เทนเมนต์ แฟนหนุ่มของเธอ หันอี้เซวียน เป็นทายาทบริษัท หัน คอร์เปอเรชั่น รุ่นพี่ของเธอ เว่ยสวีเฟิง เป็นอัจฉริยะด้านดนตรี อวี้จือหัง ที่เป็นครูสอนเปียโนของเธอและนักดนตรีชื่อดัง ส่วนครูสอนการแสดงของเธอเป็นรองอาจารย์ใหญ่ของโรงเรียนการละครและภาพยนตร์ของเมืองหลวง…

 

 

หลินซูหย่าเป็นเสมือนนางเอกในนิยายที่สวมมงกุฎแสนสวยซึ่งส่องประกายระยิบระยับไว้บนศีรษะ ทุกคนต่างรัก เอ็นดู และยินดีช่วยเหลือเธอ ชายหนุ่มหน้าตาดีจำนวนนับไม่ถ้วนก็พากันตกหลุมรักเธอโดยไม่ได้ตั้งใจ

 

 

ในขณะที่หลินเยียนนั้นเป็นนางปีศาจจอมชั่วร้าย

 

 

เมื่อครั้งที่ข่าวลือของหลินซูหย่าและเว่ยสวีเฟิงแพร่สะพัดไปทั่ว จู่ๆ ก็เกิดอีกข่าวลือหนึ่งของหลินเยียนและเว่ยสวีเฟิงขึ้นอย่างกะทันหัน

 

 

มีคนบอกว่าเว่ยสวีเฟิงนั้นแอบชอบหลินเยียนอยู่อย่างลับๆ ซึ่งเรื่องนี้ทำให้บรรดาแฟนคลับโมโหมากทีเดียว

 

 

แต่หลินเยียนไม่ได้โง่ เธอรู้อยู่แล้วว่านั่นเป็นฝีมือของหลินซูหย่า

 

 

เมื่อหลินเยียนรู้ว่าเว่ยสวีเฟิงจะรับบทเป็นฟังชั่นหยาง เธอก็เตรียมใจไว้แล้วว่าจะเกิดเรื่องเช่นนี้ขึ้น

 

 

หลินเยียนคิดว่านายน้อยตระกูลเว่ยคงจะเอะอะมะเทิ่งน่าดูเมื่อทั้งคู่ได้พบกันในกองถ่ายจริงๆ

 

 

และตามที่เธอคาดไว้ เว่ยสวีเฟิงกดถูกใจโพสต์บนเว่ยป๋อที่พูดถึงการกลั่นแกล้งน้องสาวของหลินเยียน และชายหนุ่มยังโพสต์ความคิดเห็นเกี่ยวกับข่าวอื้อฉาวระหว่างเขากับหลินเยียนอีกด้วย

 

 

เว่ยสวีเฟิงตอบกลับว่า ‘ฉันตกหลุมรักหลินเยียนงั้นเหรอ? ก็คงใช่แหละถ้าฉันตาบอดน่ะนะ!’