ตอนที่ 285 คุยงานใหญ่

 

 

เมื่อเห็นหลินเยียนเข้าไปในรถแข่ง สมาชิกทีมซีเอ็ชวัน ต่างมีสีหน้ากลัดกลุ้ม สบตากันไปมา ทำไมต้องให้เธอแข่งด้วย จะวิ่งไม่ชนะเธอจริงๆ อย่างนั้นเหรอ…

 

 

เฮ่อหมิงไข่ที่อยู่ไม่ไกลกำลังเปลี่ยนรถแข่งคันใหม่

 

 

ขณะที่สมาชิกทีมซีเอ็ชวัน กำลังเตรียมขึ้นรถ ชายวัยกลางคนสวมชุดสูทคนหนึ่งซึ่งไม่รู้ว่าโผล่มาจากที่ไหน กลับสาวเท้าเร็วๆ เข้าสู่สนาม เดินไปจนถึงด้านข้างรถแข่งสีเงินของหลินเยียนพร้อมเคาะประตูรถภายใต้สายตาประหลาดใจของทุกคน

 

 

หลินเยียนลดกระจกรถลงทันที มองชายวัยกลางคนสวมชุดสูทที่ใบหน้าประดับรอบยิ้มด้วยความสงสัยอยู่บ้าง

 

 

“คุณผู้หญิงท่านนี้ สวัสดีครับ” ชายวัยกลางคนยิ้มพลางเอ่ยปากพูด

 

 

“คุณคือ?” หลินเยียนถาม

 

 

“คือแบบนี้ครับ คุณให้ผมไปนั่งข้างคนขับได้ไหม ผมอยากคุยกับคุณผู้หญิงสักหน่อยครับ” ชายวัยกลางคนอธิบาย

 

 

หลินเยียนผลักเปิดประตูฝั่งที่นั่งข้างคนขับทันที มองชายวัยกลางคนเข้ามานั่ง

 

 

“คุณผู้หญิง คุณเรียกผมว่ามาร์ตินก็ได้นะครับ” ชายวัยกลางคนพูดอย่างมีมารยาทอย่างยิ่ง

 

 

“หลินเยียน” หลินเยียนแนะนำตัวเองง่ายๆ

 

 

“คุณหลิน ยินดีที่ได้รู้จักครับ” ชายวัยกลางคนผงกศีรษะ

 

 

“คือว่าคุณมาร์ติน ขอถามหน่อยว่าคุณมาหาฉันมีธุระอะไร นี่ฉันกำลังจะแข่งอยู่นะ…” หลินเยียนมองมาร์ติน ใบหน้ามีแต่ความประหลาดใจ

 

 

“ฮ่าๆ คุณหลิน การแข่งของคุณไม่สำคัญ คุณหลินเป็นคนในวงการแข่งรถเหมือนกัน น่าจะรู้ว่าเมืองนอกกำลังจะผลิตภาพยนตร์ฟอร์มยักษ์ที่เกี่ยวกับวงการรถแข่งเรื่องหนึ่งใช่ไหมครับ” มาร์ติน กล่าวระคนยิ้ม

 

 

“เรื่องที่ใช้ลั่งหมั่งเป็นต้นแบบเรื่องนั้นเหรอคะ?” หลินเยียนครุ่นคิด เหมือนจะเคยได้ยินมาบ้าง

 

 

“ถูกต้องครับ” มาร์ตินผงกศีรษะ “คุณหลิน ขอพูดตามความจริง ผมเห็นว่ารูปร่างกับรูปลักษณ์ภายนอกของคุณเหมาะกับตัวละครตัวหนึ่งในภาพยนต์เรื่องนี้มาก ไม่ทราบว่าคุณหลินสนใจจะลองดูหรือเปล่าครับ?”

 

 

“เหมาะที่จะเป็นใครคะ?” หลินเยียนหลุดปากพูดออกไปโดยอัตโนมัติ

 

 

“ตัวละครนี้น่ะเหรอครับ ผมเชื่อว่าคุณหลินไม่มีทางไม่รู้จัก นอกจากนี้ถ้าเทสหน้ากล้องสำเร็จ เชื่อว่าคุณหลินต้องรู้สึกเป็นเกียรติและภาคภูมิใจที่ได้แสดงบทนี้แน่นอนครับ เธอก็คือคนที่เร็วที่สุดในโลก เรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา!”

 

 

“อ้อ” พอได้ยิน หลินเยียนก็เปล่งเสียงด้วยใบหน้าไร้ความรู้สึก

 

 

ครั้นเห็นสีหน้าเรียบเฉยของหลินเยียน มาร์ตินก็ตกใจอยู่บ้าง นั่นคือเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาเชียวนะ ทำไมไม่เห็นผู้หญิงคนนี้แสดงความดีใจและตื่นเต้นแม้แต่น้อยเลยล่ะ

 

 

หลินเยียนนึกไม่ถึงเลยว่าตัวเองมาแข่งรถแท้ๆ แต่ยังจะได้งานมาอีกชิ้น แต่ว่า…ตัวเองแสดงเป็นตัวเอง…เธอไม่สนใจเลยจริงๆ ไม่มีความท้ายทายเลยสักนิด

 

 

“ซีนยาวประมาณห้านาที แต่ค่าตอบแทนกลับเกือบเจ็ดหลัก คุณไม่ลองคิดดูสักหน่อยเหรอครับ?” มาร์ตินพูดต่อไป

 

 

“คุณมาร์ติน ฉันคิดว่าบทนี้ต้องเป็นฉันเท่านั้น มันสร้างมาเพื่อฉันโดยเฉพาะเลย!” จู่ๆ หลินเยียนก็ยืนขึ้นจนหัวเกือบชนกับเพดานรถ

 

 

มาร์ติน “…”

 

 

เมื่อกี้ยังทำหน้าตาเฉยชา ไม่สนใจสักนิดอยู่เลยไม่ใช่เหรอ…

 

 

“มา คุณมาร์ติน คุณออกมา”

 

 

หลินเยียนนวดศีรษะ เปิดประตูอย่างรวดเร็วพร้อมเดินลงไปทันที

 

 

เมื่อเห็นมาร์ตินลงจากรถแล้ว หลินเยียนก็ใช้เท้าข้างหนึ่งเหยียบฝากระโปรงรถ หัวเราะเบาๆ แล้วพูดว่า “คุณมาร์ติน เป็นยังบ้าง เหมือนหรือเปล่าคะ?”

 

 

“คือว่า คุณหลิน ยังจะแข่งอีกหรือเปล่าครับ?”

 

 

สมาชิกทีมซีเอ็ชวัน ที่อยู่ด้านข้างคนหนึ่งมองหลินเยียนด้วยสีหน้าสงสัย

 

 

หลินเยียนกับชายวัยกลางคนสวมชุดสูทคนนี้กำลังคุยอะไรกันอยู่นะ?

 

 

“ไปๆๆ !” หลินเยียนโบกมือ “แข่งกับผีน่ะสิ ฉันกำลังคุยงานใหญ่อยู่นะ อย่ามาก่อกวน!”

 

 

พอได้ยินคำพูดของหลินเยียน พวกของมู่มู่กับก็อดซีจากทีม ซีเอ็ชวัน ต่างมีสีหน้างุนงง อยู่ดีๆ ทำไมถึงคุยเรื่องงานได้?

 

 

 

 

 

ตอนที่ 286 ช่างเหมาะเหลือเกิน!

 

 

หลินเยียนไม่สนใจสมาชิกทีมซีเอ็ชวันเช่นกัน สายตาจับจ้องมาร์ติน หัวเราะเบาๆ พร้อมเอ่ยว่า “คุณมาร์ติน บทนี้ต้องเป็นของฉันเท่านั้น คุณลองดูสิว่าท่าของฉันเหมือนหรือเปล่า”

 

 

“เอ่อ…” มาร์ตินจ้องมองหลินเยียน พูดเหมือนกำลังครุ่นคิดอะไรบางอย่าง “แบบนี้ออกจะไม่ค่อยเหมือนนะครับ เยวาไม่น่าให้ความรู้สึกดิบเถื่อนแบบนี้

 

 

เพียงแต่ผมไม่รู้เรื่องในวงการรถแข่งของพวกคุณเหมือนกัน ผมแค่รับผิดชอบในการเลือกนักแสดงจากเมืองจีนเท่านั้น ส่วนการเทสหน้ากล้องทำโดยผู้เชี่ยวชาญระดับสูง แต่ผมให้สิทธิในการเทสหน้ากล้องแก่คุณหลินได้”

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

ไม่รู้จักเยวา งั้นนายพูดทำไมยะ!

 

 

เพียงแต่เพื่อค่าตัวของนักแสดงรับเชิญที่มีมูลค่าเกือบเจ็ดหลัก คงได้แต่อดทนแล้ว

 

 

“คุณมาร์ติน ขอพูดตามความจริงนะคะ ตัวฉันนอกจากเป็นนักแข่งรถแล้วยังเป็นนักแสดงอาชีพด้วย ถ้าให้ฉันแสดง นั่นมันช่างเหมาะเหลือเกิน ใช่แล้ว ถ้าฉันต้องไปเทสหน้ากล้อง คุณคิดว่ายากไหมคะ” หลินเยียนจ้องมาร์ตินพลางแย้มยิ้มเล็กน้อย

 

 

พอมาร์ตินได้ยินก็ถอยหลังไปหลายก้าว สำรวจหลินเยียนอย่างละเอียด เขาผงกศีรษะพร้อมตอบว่า “ก่อนหน้านี้ผมหาข้อมูลเพิ่มเติมจากบันทึกวิดีโอของเยวาอย่างหนัก รู้สึกว่ารูปลักษณ์ภายนอกของคุณหลินสอดคล้องมาก แต่ถ้าอยากเทสหน้ากล้องผ่าน ความยากก็มีมากเช่นกันครับ

 

 

นั่นเพราะผู้ที่มีคุณสมบัติเทสหน้ากล้องในเมืองจีนก็มีอยู่พันกว่าคนแล้ว มิหนำซ้ำจากข้อมูลใหม่ล่าสุดที่ผมได้รับมา นักแสดงหญิงที่มีชื่อเสียงมากคนหนึ่งของเมืองจีนก็ได้รับสิทธิเทสหน้ากล้องด้วย แถมยังมีสิทธิได้สูงมากครับ”

 

 

“มีสิทธิได้สูงมาก?” หลินเยียนนิ่งอึ้ง “ใครเหรอคะ”

 

 

หลังจากมาร์ตินครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่งก็ตอบกลับมาว่า “เหมือนจะชื่อ… อ้อ แซ่เดียวกับคุณหลิน นักแสดงหญิงคนนั้นชื่อหลินซูหย่าครับ”

 

 

พอมาร์ตินพูดจบ ประกายเย็นเยียบก็ผุดวาบขึ้นภายในดวงตาหลินเยียนทันที

 

 

หลินซูหย่า? แสดงเป็นเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา? เธอคู่ควรอย่างนั้นเหรอ!

 

 

ถ้าไม่ใช่เพราะหลินซูหย่า เรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา จะถูกแบนได้อย่างไร!

 

 

อันที่จริงหลินซูหย่าไม่รู้สถานะเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาของหลินเยียนเลย

 

 

สมัยก่อนหลินซูหย่ามาเยี่ยมเธอตอนอยู่เมืองนอก หลินเยียนไม่เคยเอ่ยเรื่องนี้กับหลินซูหย่าด้วยเช่นกัน

 

 

ดังนั้นตั้งแต่ต้นจนจบ หลินซูหย่ารู้แค่ว่าเธอเป็นนักแข่งรถ ซ้ำยังพอมีชื่อเสียงอยู่บ้าง รายได้ไม่เลว แต่ไม่เคยนึกเลยว่าพี่สาวในไส้ของเธอกลับเป็นเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา

 

 

……

 

 

“คุณหลิน ถ้าไม่เหนือความคาดหมาย ตัวเลือกที่จะได้เป็นเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา สุดท้ายแล้วจะตกอยู่ในมือหลินซูหย่า แต่…ผมคิดแบบนี้นะครับ หลินซูหย่าไม่ได้เป็นนักแข่งรถ ผมเลยคิดว่ายังพอมีโอกาสอยู่บ้าง ดังนั้นช่วงหลายวันมานี้ผมจึงไปดูการแข่งรถทุกที่ อยากจะหานักแข่งรถหญิงที่มีรูปลักษณ์ภายนอกใกล้เคียงเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวาจากการแข่งพวกนั้นเพิ่มขึ้นอีกสักหน่อย ยังไงเสียถ้าหนังเรื่องนี้ใช้คนที่ผมเลือก ผมก็ได้ค่าตอบแทนไม่น้อยเหมือนกัน” มาร์ตินกล่าวระคนหัวเราะด้วยความจริงใจอย่างยิ่ง

 

 

หลินเยียน “…”

 

 

พูดอยู่ครึ่งค่อนวัน ที่แท้ก็พวกแมวมอง เจ้าหน้ากองถ่ายที่เหวี่ยงแหไปทั่วนี่เอง

 

 

โปรดักชันขนาดใหญ่แบบนั้น เจ้าหน้าที่อย่างมาร์ตินต้องเริ่มจากการตามหาตัวเลือกที่เหมาะสมเป็นจำนวนนับร้อยคนจากทุกแห่ง แต่ก็ไม่ได้มีสิทธิมีเสียงอะไร อย่างมากก็ให้โควตาไปเทสหน้ากล้องได้ครั้งหนึ่งเท่านั้น

 

 

“งั้นคุณหาคนที่คล้ายคลึงได้สักกี่คนแล้ว” หลินเยียนถามอย่างอารมณ์เสีย

 

 

พอได้ยินมาร์ตินก็หัวเราะ “ถ้ารวมคุณหลินก็มีสิบกว่าคนแล้ว ที่จริงผมแค่ลองเสี่ยงดวงดูเท่านั้น ถึงยังไงหลินซูหย่าก็มีชื่อเสียงโด่งดังที่เมืองจีนมาก ยิ่งไปกว่านั้นรูปลักษณ์ภายนอกของหลินซูหย่าก็คล้ายคลึงเรซแทร็คส์ กริมรีปเปอร์ เยวา ดังนั้น…”

 

 

หลินเยียนมองมาร์ติน มุมปากกระตุกเล็กน้อย หมอนี่ช่างจริงใจซะจริงเลยนะ!

 

 

“เอาล่ะ คุณหลิน นี่คือนามบัตรของผม ถ้าคุณหลินคิดเสร็จแล้วก็ไปลองเสี่ยงดวงดูก็ได้ครับ” มาร์ตินพูดจบก็ฉวยโอกาสตอนที่หลินเยียนไม่ทันตั้งตัว ยัดนามบัตรใส่มือหลินเยียนใบหนึ่ง จากนั้นก็ออกไปจากสนามทันทีโดยไม่ได้หันกลับมามองอีก