สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1011 ฉันจะฟังคุณ

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1011 ฉันจะฟังคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"สถานการณ์ทางนั้นพังทลายลงหมดแล้ว และฉันยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนี้ได้แต่เพียงสำรวจสถานการณ์แล้ววางแผนอีกที"

กู้จื่อเฟยรีบพูดขึ้น "ฉันไปกับเธอด้วย"

เพราะกลัวป่ายฉีจะไม่เห็นด้วยจึงรีบพูดเสริม

"จุดมุ่งหมายของเธอคือฉัน แนะนำว่าฉันควรจะไปด้วยและมีแผนสำรอง ฉันไปเธอถึงจะลงมือ พวกเราจึงจะมีโอกาสหาเบาะแสได้"

ป่ายฉีเป็นกังวลว่ากู้จื่อเฟยจะเป็นอันตรายจริง ๆ แต่เมื่อถึงนึกสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว กู้จื่อเฟยอาจจะทำให้ได้ชัยชนะจากสถานการณ์อันตรายนี้ และหาตัวเย้นโม่หลินได้โดยไว

หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ป่ายฉีก็พยักหน้า

"หลังจากไปที่นั่นต้องเชื่อฟังผมทุกอย่าง ห้ามทำอะไรตามอำเภอใจเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามจะต้องคุยกับผม พวกเราจะต้องปรึกษากัน"

"ได้ ฉันจะฟังคุณ"

กู้จื่อเฟยพยักหน้าโดยไม่ลังเลและพูดเร่ง "งั้นก็รีบออกเดินทางเถอะ เวลาไม่รอท่า"

เร็วขึ้นหนึ่งนาทีอาจเกี่ยวกับความเป็นความตาย

ป๋ายฉีพร้อมพวกและพากู้จื่อเฟยออกไปจากบ้านตระกูลเย้นไปด้วยอย่างลับๆ

พวกเขาใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อไปให้ถึงเมืองเจียง

ตระกูลเย้นมีฐานลับอยู่ที่เมืองเจียงแห่งหนึ่ง เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและมีความโดดเด่น ไม่เคยแก่งแย่งชิงดีกับใครแต่กลับมีส่วนในการควบคุมสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งและการดำเนินงานของตระกูลเย้นอย่างลับๆ

ที่นี่เป็นหนึ่งในฐานที่ถูกโจมตี

ในตอนที่ป่ายฉีพากู้จื่อเฟยมาถึงที่นี่นั้น มีกำแพงที่พังทลายอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับความเสียหายมากมาย

มีคราบเลือดและซากศพอยู่ทุกหนแห่ง

อีกทั้งยังมีปลอกกระสุน

กู้จื่อเฟยเดินเข้าไป กลับได้รับลมหายใจเย็นและตัวสั่น เธอรู้สึกถึงความหนาวเหน็บจากฝ่าเท้า

เธอเม้มริมฝีปากแน่นไม่กล้าพูดอะไร

ในใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาของเธอเป็นประกายเมื่อมองไปรอบๆ

เย้นโม่หลินตกอยู่ในอันตรายจากที่นี่รึเปล่า?

ที่นี่จะมีเบาะแสอะไรเหลืออยู่บ้างไหม?

"เธอตามฉันมาและต้องระวังให้มาก"

จู่ ๆ ป่ายฉีก็ยื่นมือออกไปจับให้กู้จื่อเฟยตามอยู่ข้างหลังตนเอง ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง

ที่นี่ไม่สงบ

ถึงแม้ในใจของกู้จื่อเฟยจะทั้งกระวนกระวายและเป็นกังวลและไม่กล้าจะทำอะไรตามอำเภอใจ จึงได้แต่เชื่อฟังป่ายฉีแต่โดยดี

ครั้งนี้ป่ายฉีพาคนมาด้วยยี่สิบกว่าคน พวกเขาล้อมวงและปกป้องกู้จื่อเฟยที่อยู่ตรงกลางและเดินเข้าไปด้านใน

ที่นี่เป็นคฤหาสน์และไม่มีร่องรอยของผู้คนเลยแม้แต่น้อย

แท้จริงแล้วคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ตายหมดแล้ว หลังจากที่พวกเย้นโม่หลินก็ถูกซุ่มโจมตี

กล้องวงจรปิดก็ถูกทำลายไปจนหมด

ของที่มีค่าพอที่หาเจอในสถานที่เกิดเหตุคือชิ้นส่วนเสื้อผ้าเล็กๆ ของเย้นโม่หลินซึ่งดูเหมือนจะขาดออกมาและมันเต็มไปด้วยเลือด

กู้จื่อเฟยดึงเศษผ้าแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

เธอต้องเข้มแข็ง

และจะถอยไม่ได้

"เบาะแสจากที่นี่ถูกคนทำลายไปจนหมด พวกเขารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะมาจึงได้เอามันออกไปหมดแล้ว"

ป่ายฉีมีสีหน้าล้ำลึก "เราไม่ควรอยู่ที่นี่นาน ไปก่อนเถอะ"

กู้จื่อเฟยตามไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

พวกเขาไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมแต่หาสถานที่และตั้งค่ายที่พักในป่า

และเตรียมพร้อมตลอดเวลา

เมื่อเห็นพวกเขากางเต็นท์ ในที่สุดกู้จื่อเฟยก็คว้าป่ายฉีไว้อย่างใจจดใจจ่อ

"ว่าไง? หรือว่ายังไม่รู้อีกว่าเย้นโม่หลินอยู่ที่ไหน? งั้นต่อไปเราจะทำยังไง?"

ที่ฐานลับนอกจากเศษผ้าแล้วก็ไม่ได้อะไรอีกเลย จึงทำให้เธอหวาดกลัวและเหน็บหนาว

เพราะความอันตรายในฐานลับ พอบอกว่าจะไปเธอก็ไป แต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าในใจเธอตื่นตระหนกและกลัวมากแค่ไหน

การได้รู้ว่าหาเย้นโม่หลินไม่เจอและไม่มีข่าวคราวของเขามันทำให้เธอเกิดความกลัวอย่างช่วยไม่ได้

ป่ายฉีมีสีหน้าเคร่งขรึมและทนที่จะเห็นกู้จื่อเฟยที่แทบจะพังทลายไม่ได้

อย่างไรเสียเธอก็อยู่ที่นี่แล้ว และตกอยู่ในอันตรายด้วย เขาต้องบอกสถานการณ์ทุกอย่างกับเธอ

"ตอนนี้เบาะแสที่ฐานลับถูกทำลายหมดแล้ว การที่คิดว่าจะได้เบาะแสเพื่อหาตัวเย้นมั่วหลินจากที่นั่นเป็นไปไม่ได้แล้ว"

"แม้แต่รอบๆ ก็เงียบไปหมด เงียบจนแปลกประหลาด ถ้าหากฉันคาดไม่ผิด ตอนที่พวกเราไปถึงก็ถูกจับตาดูแล้ว พวกเราอาจจะถูกโจมตีได้ทุกเวลา"

"ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าต้องการจะตามหาเย้นโม่หลิน พวกเราจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบ แต่อีกนานแค่ไหนถึงจะหาเขาเจอ ฉันไม่อาจรับประกันได้"

คำพูดเหล่านั้นเหมือนกำลังกดให้เธอจมลงไปในน้ำลึกลงเรื่อย ๆ

กู้จื่อเฟยรู้สึกว่าแม้แต่หายใจยังลำบาก

ป่ายฉีขมวดคิ้ว "กู้จื่อเฟย เธอต้องเข้มแข็ง เย้นโม่หลินไม่ได้อ่อนแออย่างที่เธอคิด ต่อให้เกิดอะไรที่ไม่คาดคิดกับเขา เธอก็อย่ากลัว เข้าใจไหม?"

ป่ายฉีพูดเสียงขรึมด้วยความอดทนและให้กำลังใจอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

กู้จื่อเฟยหน้าซีดเหมือนกระดาษ

คำพูดของเธอทุกคำเหมือนถูกเค้นออกมาจากซอกฟัน "ฉัน ฉันเข้าใจแล้ว เธอทำธุระเถอะ"

เธอแสร้งทำเป็นสงบและระงับอารมณ์ไว้และมันก็ชัดเจนมาก

ป่ายฉีลังเลอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า

"ฉันกำลังจะจัดให้คนออกไปโดยรอบเพื่อสืบหาเบาะแสของพี่ใหญ่ ถ้าเขาถูกจู่โจมคงจะไปไหนได้ไม่ไกล เราใช้วิธีการค้นหาแบบปูพรมจะต้องหาแน่"

ครู่หนึ่งก็พูดขึ้น "เธอออกไปหากับฉันด้วยเป็นไง? หรืออยากจะอยู่ที่นี่ ที่นี่มีความปลอดภัยสูง"

"ฉันไปกับเธอด้วย!" กู้จื่อเฟยพูดออกมาอย่างไม่ต้องคิด

นี่คือสิ่งที่ป่ายฉีคาดไว้แล้ว

ถึงแม้ออกไปด้วยกันจะอันตรายกว่า แต่สิ่งที่กู้จื่อเฟยไม่สามารถทำได้ในตอนนี้คือสงบสติอารมณ์และเลิกคิดเกี่ยวกับมัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแบกรับเรื่องแบบนี้ เธอทำให้ตัวเองกลัวแทบตาย

หาต่อไปมันอาจจะยังคงสนับสนุนเธอได้

ป่ายฉีจึงแบ่งทีมออกเป็นกลุ่มเล็กๆ หลายๆ ทีม แบ่งงานอย่างชัดเจน และออกค้นหารูปแบบปูพรม

กู้จื่อเฟยให้ความร่วมมือตลอดและเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุด ไม่ยอมปล่อยเงื่อนงำใดๆ แม้แต่บนพื้นหรือผืนหญ้า

ซึ่งมันทำให้เธอได้เจอจริงๆ

"ตรงนี้มีปลอกกระสุน"

กู้จื่อเฟยหาปลอกกระสุนเธอจากพงหญ้าที่ไม่มีใครสนใจ

ป่ายฉีรีบหันกลับมาและรับปลอกกระสุนไปและมองดูปลอกกระสุนในมืออย่างละเอียดและตาก็เป็นประกายในทันใด

"นี่เป็นปลอกกระสุนของพี่ใหญ่! เขามาที่นี่!"

กู้จื่อเฟยดีใจมากขึ้นมาทันที "ถ้าอย่างนั้นเขาอาจจะอยู่แถว ๆ นี้รึเปล่า?"

"เป็นไปได้และเป็นไปได้ว่าอาจจะไปไกลแล้ว แค่ที่มั่นใจคือเขาใช้เส้นทางนี้"

ป่ายฉีมองไปรอบๆ อย่างละเอียด

ป่าแถวนี้มีลักษณะซับซ้อน ดูจากภายนอกเหมือนจะไม่มีร่องรอยการต่อสู้อะไร และมีเพียงปลอกกระสุนเพียงนัดเดียว

แต่เขามั่นใจว่าในตอนที่เย้นโม่หลินหลบอยู่ที่นี่นั้นมันคงไม่ได้สงบแบบนี้แน่

มีคนตั้งใจเก็บกวาดที่นี่!

เพื่อกลบร่องรอ

"จัดคนมาตรงนี้และเริ่มค้นหาให้ละเอียดห้ามละเลยเบาะแสแม้เพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะตรงสถานที่ที่มีภูมิประเทศที่ซับซ้อน หากพี่ใหญ่ถูกตามล่าจะต้องเข้ามาหลบในนี้แน่"

ป่ายฉีออกคำสั่งลูกน้อง

หัวใจของกู้จื่อเฟยหนักอึ้ง ในที่สุดก็ค้นพบแสงสว่าง

ไม่ว่าอย่างไรก็มีหนทางแล้ว

มีความเป็นไปได้มากว่าเย้นโม่หลินจะอยู่แถวนี้

รอเธอ จะต้องรอเธอไปหาเขาอยู่แน่ ๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1011 ฉันจะฟังคุณ

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1011 ฉันจะฟังคุณ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

"สถานการณ์ทางนั้นพังทลายลงหมดแล้ว และฉันยังไม่รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกันแน่ ตอนนี้ได้แต่เพียงสำรวจสถานการณ์แล้ววางแผนอีกที"

กู้จื่อเฟยรีบพูดขึ้น "ฉันไปกับเธอด้วย"

เพราะกลัวป่ายฉีจะไม่เห็นด้วยจึงรีบพูดเสริม

"จุดมุ่งหมายของเธอคือฉัน แนะนำว่าฉันควรจะไปด้วยและมีแผนสำรอง ฉันไปเธอถึงจะลงมือ พวกเราจึงจะมีโอกาสหาเบาะแสได้"

ป่ายฉีเป็นกังวลว่ากู้จื่อเฟยจะเป็นอันตรายจริง ๆ แต่เมื่อถึงนึกสถานการณ์ในปัจจุบันแล้ว กู้จื่อเฟยอาจจะทำให้ได้ชัยชนะจากสถานการณ์อันตรายนี้ และหาตัวเย้นโม่หลินได้โดยไว

หลังจากลังเลครู่หนึ่ง ป่ายฉีก็พยักหน้า

"หลังจากไปที่นั่นต้องเชื่อฟังผมทุกอย่าง ห้ามทำอะไรตามอำเภอใจเด็ดขาด ไม่ว่าจะเป็นเรื่องอะไรก็ตามจะต้องคุยกับผม พวกเราจะต้องปรึกษากัน"

"ได้ ฉันจะฟังคุณ"

กู้จื่อเฟยพยักหน้าโดยไม่ลังเลและพูดเร่ง "งั้นก็รีบออกเดินทางเถอะ เวลาไม่รอท่า"

เร็วขึ้นหนึ่งนาทีอาจเกี่ยวกับความเป็นความตาย

ป๋ายฉีพร้อมพวกและพากู้จื่อเฟยออกไปจากบ้านตระกูลเย้นไปด้วยอย่างลับๆ

พวกเขาใช้ความเร็วสูงสุดเพื่อไปให้ถึงเมืองเจียง

ตระกูลเย้นมีฐานลับอยู่ที่เมืองเจียงแห่งหนึ่ง เป็นตระกูลที่มีชื่อเสียงและมีความโดดเด่น ไม่เคยแก่งแย่งชิงดีกับใครแต่กลับมีส่วนในการควบคุมสิ่งที่สำคัญอย่างยิ่งและการดำเนินงานของตระกูลเย้นอย่างลับๆ

ที่นี่เป็นหนึ่งในฐานที่ถูกโจมตี

ในตอนที่ป่ายฉีพากู้จื่อเฟยมาถึงที่นี่นั้น มีกำแพงที่พังทลายอยู่ทุกหนทุกแห่ง และเห็นได้ชัดว่าพวกเขาได้รับความเสียหายมากมาย

มีคราบเลือดและซากศพอยู่ทุกหนแห่ง

อีกทั้งยังมีปลอกกระสุน

กู้จื่อเฟยเดินเข้าไป กลับได้รับลมหายใจเย็นและตัวสั่น เธอรู้สึกถึงความหนาวเหน็บจากฝ่าเท้า

เธอเม้มริมฝีปากแน่นไม่กล้าพูดอะไร

ในใจเต็มไปด้วยความตื่นตระหนก ดวงตาของเธอเป็นประกายเมื่อมองไปรอบๆ

เย้นโม่หลินตกอยู่ในอันตรายจากที่นี่รึเปล่า?

ที่นี่จะมีเบาะแสอะไรเหลืออยู่บ้างไหม?

"เธอตามฉันมาและต้องระวังให้มาก"

จู่ ๆ ป่ายฉีก็ยื่นมือออกไปจับให้กู้จื่อเฟยตามอยู่ข้างหลังตนเอง ด้วยสีหน้าและน้ำเสียงจริงจัง

ที่นี่ไม่สงบ

ถึงแม้ในใจของกู้จื่อเฟยจะทั้งกระวนกระวายและเป็นกังวลและไม่กล้าจะทำอะไรตามอำเภอใจ จึงได้แต่เชื่อฟังป่ายฉีแต่โดยดี

ครั้งนี้ป่ายฉีพาคนมาด้วยยี่สิบกว่าคน พวกเขาล้อมวงและปกป้องกู้จื่อเฟยที่อยู่ตรงกลางและเดินเข้าไปด้านใน

ที่นี่เป็นคฤหาสน์และไม่มีร่องรอยของผู้คนเลยแม้แต่น้อย

แท้จริงแล้วคนที่อาศัยอยู่ที่นี่ตายหมดแล้ว หลังจากที่พวกเย้นโม่หลินก็ถูกซุ่มโจมตี

กล้องวงจรปิดก็ถูกทำลายไปจนหมด

ของที่มีค่าพอที่หาเจอในสถานที่เกิดเหตุคือชิ้นส่วนเสื้อผ้าเล็กๆ ของเย้นโม่หลินซึ่งดูเหมือนจะขาดออกมาและมันเต็มไปด้วยเลือด

กู้จื่อเฟยดึงเศษผ้าแน่น ดวงตาของเธอแดงก่ำ แต่เธอกลั้นน้ำตาไว้ไม่อยู่

เธอต้องเข้มแข็ง

และจะถอยไม่ได้

"เบาะแสจากที่นี่ถูกคนทำลายไปจนหมด พวกเขารู้อยู่แล้วว่าพวกเขาจะมาจึงได้เอามันออกไปหมดแล้ว"

ป่ายฉีมีสีหน้าล้ำลึก "เราไม่ควรอยู่ที่นี่นาน ไปก่อนเถอะ"

กู้จื่อเฟยตามไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ

พวกเขาไม่ได้เข้าพักที่โรงแรมแต่หาสถานที่และตั้งค่ายที่พักในป่า

และเตรียมพร้อมตลอดเวลา

เมื่อเห็นพวกเขากางเต็นท์ ในที่สุดกู้จื่อเฟยก็คว้าป่ายฉีไว้อย่างใจจดใจจ่อ

"ว่าไง? หรือว่ายังไม่รู้อีกว่าเย้นโม่หลินอยู่ที่ไหน? งั้นต่อไปเราจะทำยังไง?"

ที่ฐานลับนอกจากเศษผ้าแล้วก็ไม่ได้อะไรอีกเลย จึงทำให้เธอหวาดกลัวและเหน็บหนาว

เพราะความอันตรายในฐานลับ พอบอกว่าจะไปเธอก็ไป แต่สวรรค์เท่านั้นที่รู้ว่าในใจเธอตื่นตระหนกและกลัวมากแค่ไหน

การได้รู้ว่าหาเย้นโม่หลินไม่เจอและไม่มีข่าวคราวของเขามันทำให้เธอเกิดความกลัวอย่างช่วยไม่ได้

ป่ายฉีมีสีหน้าเคร่งขรึมและทนที่จะเห็นกู้จื่อเฟยที่แทบจะพังทลายไม่ได้

อย่างไรเสียเธอก็อยู่ที่นี่แล้ว และตกอยู่ในอันตรายด้วย เขาต้องบอกสถานการณ์ทุกอย่างกับเธอ

"ตอนนี้เบาะแสที่ฐานลับถูกทำลายหมดแล้ว การที่คิดว่าจะได้เบาะแสเพื่อหาตัวเย้นมั่วหลินจากที่นั่นเป็นไปไม่ได้แล้ว"

"แม้แต่รอบๆ ก็เงียบไปหมด เงียบจนแปลกประหลาด ถ้าหากฉันคาดไม่ผิด ตอนที่พวกเราไปถึงก็ถูกจับตาดูแล้ว พวกเราอาจจะถูกโจมตีได้ทุกเวลา"

"ในสถานการณ์แบบนี้ถ้าต้องการจะตามหาเย้นโม่หลิน พวกเราจะต้องเพิ่มความระมัดระวังและรอบคอบ แต่อีกนานแค่ไหนถึงจะหาเขาเจอ ฉันไม่อาจรับประกันได้"

คำพูดเหล่านั้นเหมือนกำลังกดให้เธอจมลงไปในน้ำลึกลงเรื่อย ๆ

กู้จื่อเฟยรู้สึกว่าแม้แต่หายใจยังลำบาก

ป่ายฉีขมวดคิ้ว "กู้จื่อเฟย เธอต้องเข้มแข็ง เย้นโม่หลินไม่ได้อ่อนแออย่างที่เธอคิด ต่อให้เกิดอะไรที่ไม่คาดคิดกับเขา เธอก็อย่ากลัว เข้าใจไหม?"

ป่ายฉีพูดเสียงขรึมด้วยความอดทนและให้กำลังใจอย่างที่ไม่เคยทำมาก่อน

กู้จื่อเฟยหน้าซีดเหมือนกระดาษ

คำพูดของเธอทุกคำเหมือนถูกเค้นออกมาจากซอกฟัน "ฉัน ฉันเข้าใจแล้ว เธอทำธุระเถอะ"

เธอแสร้งทำเป็นสงบและระงับอารมณ์ไว้และมันก็ชัดเจนมาก

ป่ายฉีลังเลอย่างช่วยไม่ได้แล้วพูดว่า

"ฉันกำลังจะจัดให้คนออกไปโดยรอบเพื่อสืบหาเบาะแสของพี่ใหญ่ ถ้าเขาถูกจู่โจมคงจะไปไหนได้ไม่ไกล เราใช้วิธีการค้นหาแบบปูพรมจะต้องหาแน่"

ครู่หนึ่งก็พูดขึ้น "เธอออกไปหากับฉันด้วยเป็นไง? หรืออยากจะอยู่ที่นี่ ที่นี่มีความปลอดภัยสูง"

"ฉันไปกับเธอด้วย!" กู้จื่อเฟยพูดออกมาอย่างไม่ต้องคิด

นี่คือสิ่งที่ป่ายฉีคาดไว้แล้ว

ถึงแม้ออกไปด้วยกันจะอันตรายกว่า แต่สิ่งที่กู้จื่อเฟยไม่สามารถทำได้ในตอนนี้คือสงบสติอารมณ์และเลิกคิดเกี่ยวกับมัน นี่เป็นครั้งแรกที่เธอแบกรับเรื่องแบบนี้ เธอทำให้ตัวเองกลัวแทบตาย

หาต่อไปมันอาจจะยังคงสนับสนุนเธอได้

ป่ายฉีจึงแบ่งทีมออกเป็นกลุ่มเล็กๆ หลายๆ ทีม แบ่งงานอย่างชัดเจน และออกค้นหารูปแบบปูพรม

กู้จื่อเฟยให้ความร่วมมือตลอดและเป็นคนที่กระตือรือร้นที่สุด ไม่ยอมปล่อยเงื่อนงำใดๆ แม้แต่บนพื้นหรือผืนหญ้า

ซึ่งมันทำให้เธอได้เจอจริงๆ

"ตรงนี้มีปลอกกระสุน"

กู้จื่อเฟยหาปลอกกระสุนเธอจากพงหญ้าที่ไม่มีใครสนใจ

ป่ายฉีรีบหันกลับมาและรับปลอกกระสุนไปและมองดูปลอกกระสุนในมืออย่างละเอียดและตาก็เป็นประกายในทันใด

"นี่เป็นปลอกกระสุนของพี่ใหญ่! เขามาที่นี่!"

กู้จื่อเฟยดีใจมากขึ้นมาทันที "ถ้าอย่างนั้นเขาอาจจะอยู่แถว ๆ นี้รึเปล่า?"

"เป็นไปได้และเป็นไปได้ว่าอาจจะไปไกลแล้ว แค่ที่มั่นใจคือเขาใช้เส้นทางนี้"

ป่ายฉีมองไปรอบๆ อย่างละเอียด

ป่าแถวนี้มีลักษณะซับซ้อน ดูจากภายนอกเหมือนจะไม่มีร่องรอยการต่อสู้อะไร และมีเพียงปลอกกระสุนเพียงนัดเดียว

แต่เขามั่นใจว่าในตอนที่เย้นโม่หลินหลบอยู่ที่นี่นั้นมันคงไม่ได้สงบแบบนี้แน่

มีคนตั้งใจเก็บกวาดที่นี่!

เพื่อกลบร่องรอ

"จัดคนมาตรงนี้และเริ่มค้นหาให้ละเอียดห้ามละเลยเบาะแสแม้เพียงเล็กน้อย โดยเฉพาะตรงสถานที่ที่มีภูมิประเทศที่ซับซ้อน หากพี่ใหญ่ถูกตามล่าจะต้องเข้ามาหลบในนี้แน่"

ป่ายฉีออกคำสั่งลูกน้อง

หัวใจของกู้จื่อเฟยหนักอึ้ง ในที่สุดก็ค้นพบแสงสว่าง

ไม่ว่าอย่างไรก็มีหนทางแล้ว

มีความเป็นไปได้มากว่าเย้นโม่หลินจะอยู่แถวนี้

รอเธอ จะต้องรอเธอไปหาเขาอยู่แน่ ๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+