สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1187 หนีไปแล้ว

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1187 หนีไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำถามที่น่าสงสัย ทำให้รู้สึกหวั่นใจขึ้นมาทันที

ในเวลาเดียวกัน ผู้ชายคนนั้นก็ออกคำสั่งออกมาอย่างเด็ดขาด “จับตัวพวกเขาไว้!”

พอสิ้นเสียง คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็พุ่งเข้าไปล้อมรอบไว้ทันที

หัวหน้ายื่นมือออกมาอีกครั้ง แล้วคว้าเข้าไปในเต็นท์อย่างรวดเร็ว

เย้นหว่านโกรธมาก “พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาจับคนตามใจชอบ ออกไปให้พ้นนะ ถ้าทำอะไรอีกฉันจะเรียกรปภ.ขึ้นมา”

เธอตะโกนพูดอย่างโมโห พยายามจะเข้าไปขวางผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายหยาบคายคนนั้นผลักออกไปอย่างแรง

ความแตกต่างระหว่างเรี่ยวแรงของผู้ชายกับผู้หญิง ทำให้เย้นหว่านไม่สามารถต้านทานได้ เธอสะดุดล้มลงกระแทกกับโต๊ะข้างเตียง

โคมไฟบนโต๊ะเองก็เกิดเสียง “เพล้ง” ตกลงบนพื้น ตรงเอวของเธอถูกกระแทกจนเจ็บอย่างหนัก

“ที่รัก”

โห้หลีเฉินรีบวิ่งเข้าไป ดึงเย้นหว่านมากอดไว้ “เป็นอะไรหรือเปล่า? เจ็บตรงไหนบ้าง?”

เย้นหว่านไม่สนใจความเจ็บปวดของเธอเอง แล้วมองไปที่ผู้ชายคนนั้นด้วยตื่นกลัว

“จะให้เขาทำร้ายหยูเซิงไม่ได้”

แน่นอน ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็เห็นกับตา มือใหญ่ของผู้ชายคนนั้นคว้าคอเสื้อของโห้หยูเซิงไว้ แล้วดึงเขาออกมา

โห้หยูเซิงเป็นโรคปิดกั้นตัวเอง และไม่ยอมให้คนอื่นสัมผัสเลย เขาเคนเจอสถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

พอถูกผู้ชายคนนั้นจับ ก็ทำให้เขาต่อต้านอย่างสุดขีด

“อ๊ากอ๊ากอ๊าก!”

เขากรีดร้องอย่างรุนแรงในลำคอ เขากรีดร้องเสียงสูงจนลำคอแทบฉีกขาด

เขาดิ้นรนอย่างหวาดกลัว สะบัดมือกับเท้าของเขาอย่างแรง ใบหน้าเล็กของเขาซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว ท่าทางของเขากลัวอย่างยิ่ง

หัวใจของเย้นหว่านเหมือนถูกกรีดแทง

เดิมทีโห้หยูเซิงก็เป็นโรคปิดกั้นตัวเองอยู่แล้ว ตอนนี้อุตส่าห์ยอมเข้าใกล้พวกเธอ แต่กลับถูกข่มขู่แบบนี้ คงจะทิ้งเงาด้านลบและความทรงจำที่เลวร้ายไว้ในใจของเขา

“พี่ชาย ปล่อยพี่ชายหนูนะ คนไม่ดี!”

แรบบิทพูดแล้ววิ่งไปทางผู้ชายคนนั้น แล้วทุบตีด้วยหมัดเล็กๆ ของเธอ

สีหน้าของผู้ชายผู้นั้นดุร้ายและเย็นชามาก “ยัยหนูตัวแสบ จับเธอไปด้วย”

เขาพูดจบ รีบเอื้อมมือไปจับแรบบิทไว้ด้วย

เย้นหว่านถลึงตาจนแทบแตก ผู้ชายน่าตายคนนี้ กล้าดียังไง กล้าดียังไงถึงทำกับลูกชายและลูกสาวของเธอแบบนี้

เธอจะต้องฆ่าเขาให้ได้

เย้นหว่านพุ่งตัวเข้าไปหาเขาด้วยความโมโห ในเวลาเดียวกัน โห้หลีเฉินเร็วกว่า เขาก้าวขายาวเข้าไป ก่อนที่มือของผู้ชายคนนั้นจะจับแรบบิทได้ หมัดของเขาก็ชกใส่ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นแล้ว

เรี่ยวแรงมหาศาล ราวกับภูเขาทับลงมา ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ท่าทางดุร้ายถูกชกจนอาเจียนออกมาเป็นเลือดทันที ก่อนจะเซถอยหลังไปหลายก้าว

ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ โห้หยูเซิงที่ดิ้นอยู่ตลอดเวลาก็ดิ้นหลุดจากมือของเขาได้

ทันทีที่ขาของเขาลงถึงพื้น เขาก็กรีดร้องพร้อมกับวิ่งออกไป

“หยูเซิง อย่าวิ่งหนีนะลูก!”

เย้นหว่านตกใจรีบวิ่งตาม แต่เธอวิ่งไปไม่ถึงสองก้าว ก็มีผู้ชายสองคนคว้าข้อมือของเธอไว้

ความล่าช้าในครั้งนี้ ทำให้เย้นหว่านได้แต่ยืนมองโห้หยูเซิงวิ่งออกจากห้องไป

เธอหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ ร่างกายของเธอสั่นเทาไม่หยุด

โห้หยูเซิงไม่เคยออกมาข้างนอก ยังไม่เคยติดต่อกับใครในโลกภายนอกมาก่อน เขายังเด็กมากขนาดนั้น จะต้องตกใจมากแน่ๆ

“หยูเซิง! ไอ้สารเลว ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ โห้หลีเฉิน รีบตามหยูเซิงไปเดี๋ยวนี้!”

เย้นหว่านดิ้นรนอย่างรุนแรง เธอไม่เคยเคียดแค้นแบบนี้มาก่อน ทำไมเธอถึงไม่มีทักษะการต่อสู้ที่ร้ายกาจบ้าง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถูกผู้ชายสองคนนี้จับไว้ จนไม่สามารถหยุดหยูเซิงไว้ได้

ถ้าหากหยูเซิงเป็นอะไรไป เธอจะเกลียดตัวเองไปตลอดชีวิต

“บ้าเอ้ย!”

โห้หลีเฉินสบถออกมา ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง แต่ผู้ชายอีกสองคนพุ่งตัวเข้าไปหาเขาราวกับหมาป่าผู้หิวโหย

เขาถูกบังคับให้ต่อสู้

“พี่ชาย พี่ชายคะ”

พวกผู้ใหญ่ต่อสู้กัน จนไม่มีเวลาดูแลลูกๆ แรบบิทเห็นโห้หยูเซิงวิ่งออกไป จึงรีบวิ่งลอดหว่างขาของพวกผู้ใหญ่ออกไปอย่างรวดเร็ว

แล้วรีบวิ่งตามหลังพี่ชายไป

พริบตาเดียว ก็หายลับสายตาไป

ดวงตาของเย้นหว่านเบิกกว้าง ตกใจจนลูกตาแทบจะถลนออกมา

“แรบบิท กลับมานะลูก อย่าวิ่งออกไป แรบบิท!”

เย้นหว่านกรีดร้องด้วยความกลัว แล้วตะโกนเรียกสุดเสียง

แม้ว่าจะตะโกนเรียกจนเสียงแหบ แต่ก็ไม่เห็นพวกลูกๆ หันกลับมา

ความกลัวที่ไม่มีที่สิ้นสุดโจมตีเธอในทันทีเหมือนมหันตภัยร้ายแรงกำลังพุ่งเข้ามาหาเธอ

เธอเหมือนตกนรกทั้งเป็น

“เย้นหว่าน อย่าเพิ่งร้อนใจ เราจะไปหาพวกลูกๆ เดี๋ยวนี้ ลูกๆ ยังวิ่งไปไหนไม่ไกล”

โห้หลีเฉินจัดการทีละคน จนผู้ชายทั้งสี่กระเด็นไปติดผนังเรียบร้อย แล้วรีบดึงเย้นหว่านที่กำลังยืนเหม่อมุ่งหน้าออกไปข้างนอก

เย้นหว่านได้สติกลับมา แล้วรีบวิ่งตามไป

แต่เธอตกใจมากจริงๆ ตัวสั่นเทาไปหมด ขาของเธอไร้เรี่ยวแรง แม้แต่วิ่งก็ไม่ไหว เธอเซตัวไปข้างหน้า จนเกือบจะล้มลงกับพื้น

โชคดีที่โห้หลีเฉินสังเกตเห็นทัน แล้วหันกลับไปคว้าตัวเธอไว้

เขาก้มหน้าลงมอง จึงเห็นเธอหน้าซีดราวกับหน้ากระดาษ ก็รู้สึกปวดใจเหมือนถูกมีดกรีดแทง

“คุณรอผมอยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมไปตามลูกๆ กลับมาเอง ที่รัก เชื่อผมสิ ลูกยังเด็กคงวิ่งไปได้ไม่ไกล”

“ฉันจะไปตามหาด้วย…”

เย้นหว่านพิงกำแพงพยายามยืนขึ้น แต่ขาของเธอก็สั่นไม่หยุด ไม่มีแรงจะลุกขึ้นยืน

เธอแทบอยากจะบีบคอตัวเองตาย

“คุณ คุณรีบไปตามหาพวกลูกเถอะค่ะ ไม่ต้องสนใจฉัน”

เย้นหว่านรีบผลักโห้หลีเฉินออกไป ลูกๆ วิ่งหนีไป ทุกนาทีและทุกวินาทีล้วนมีค่า จะมาเสียเวลาเพราะเธอไม่ได้

โห้หลีเฉินเหลือบมองเธออย่างเป็นห่วง “รอผมอยู่ที่นี่!”

หลังจากพูดสั่ง เขาก็ไม่กล้ารอช้าอีกต่อไป รีบเดินไปที่ลิฟต์เพื่อออกตามหาลูกๆ

เย้นหว่านมองแผ่นหลังของโห้หลีเฉินเดินจากไปอย่างรีบร้อน ในใจของเธอเหมือนมีไฟร้อนแผดเผา จนหัวใจของเธอถูกแผดเผาจนเป็นเถ้าถ่าน

เธอกลัว กลัวมากว่าลูกทั้งสองจะประสบอุบัติเหตุ

เธอรับผลลัพธ์นี้ไม่ได้จริงๆ

เย้นหว่านยกมือพยุงที่กำแพง บังคับขาที่สั่นเทาของตัวเอง กัดฟันของตัวเองแน่น แล้วพยายามก้าวไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง

เธอจะนั่งรออยู่ที่นี่ไม่ได้

เธอต้องไปตามหาพวกเขา จะหยุดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

แต่โห้หยูเซิงวิ่งออกไป ด้วยนิสัยของเขา จะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ ความกังวลที่ไม่สิ้นสุดเหมือนหนอนที่คอยกัดหัวใจของเธอ ส่วนลึกในใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

แม้แต่พยุงกำแพงอยู่ก็ยังยืนไม่ไหว

“ตึง” เย้นหว่านล้มลงกับพื้นอีกครั้ง

เธอล้มลงอย่างกะทันหัน เข่าของเธอจึงเจ็บมาก แต่เธอตื่นตระหนกและด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรเลย

เธอใช้มือทั้งสองข้างพยุงจนลุกขึ้นยืนได้ จากนั้นก็เดินโซเซต่อไปอีกครั้ง

เธอต้องรีบหาพวกเขาให้เจอ มีคนเพิ่มก็มีกำลังมากขึ้นด้วย

เธอเหมือนกำลังเดินไปบนเส้นทางที่ยาวและลำบากที่สุดในโลก จนในที่สุดเย้นหว่านก็เดินมาถึงมุมทางเดินแยกทางด้านหน้า ทางเดินนี้ยาวมาก แบ่งออกเป็นสองทาง สุดทางเดินด้านซ้ายคือลิฟต์และบันไดหนีไฟ และสุดทางเดินด้านขวาก็มีทางเดินหนีไฟเช่นกัน

โห้หลีเฉินจะไปหา ก็คงจะไปทางที่มีลิฟต์แน่นอน

เพราะฉะนั้นเธอจะต้องไปหาอีกทางที่มีแต่บันไดหนีไฟ

โห้หยูเซิงยังเด็กมากขนาดนั้น คงไม่สามารถกดลิฟต์เองได้ ดังนั้นเขาจึงอาจจะวิ่งเข้าไปทางบันไดหนีไฟ

ตอนนี้เขาอาจจะซ่อนตัวอยู่ตรงบันไดหนีไฟก็ได้

พอคิดได้ว่าน่าจะมีความเป็นไปได้นี้ เย้นหว่านก็เดินเร็วขึ้น เธอเดินโซเซเข้าไปทางบันไดหนีไฟ

โรงแรมนี้มีทั้งหมดสี่สิบชั้น ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ชั้นยี่สิบแปด

ในตำแหน่งปัจจุบันของเธอ เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเด็กๆ จะวิ่งขึ้นข้างบน หรือวิ่งลงข้างล่าง

เธอจะไปทางไหนดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1187 หนีไปแล้ว

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1187 หนีไปแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

คำถามที่น่าสงสัย ทำให้รู้สึกหวั่นใจขึ้นมาทันที

ในเวลาเดียวกัน ผู้ชายคนนั้นก็ออกคำสั่งออกมาอย่างเด็ดขาด “จับตัวพวกเขาไว้!”

พอสิ้นเสียง คนที่อยู่ข้างหลังเขาก็พุ่งเข้าไปล้อมรอบไว้ทันที

หัวหน้ายื่นมือออกมาอีกครั้ง แล้วคว้าเข้าไปในเต็นท์อย่างรวดเร็ว

เย้นหว่านโกรธมาก “พวกคุณมีสิทธิ์อะไรมาจับคนตามใจชอบ ออกไปให้พ้นนะ ถ้าทำอะไรอีกฉันจะเรียกรปภ.ขึ้นมา”

เธอตะโกนพูดอย่างโมโห พยายามจะเข้าไปขวางผู้ชายคนนั้น แต่ผู้ชายหยาบคายคนนั้นผลักออกไปอย่างแรง

ความแตกต่างระหว่างเรี่ยวแรงของผู้ชายกับผู้หญิง ทำให้เย้นหว่านไม่สามารถต้านทานได้ เธอสะดุดล้มลงกระแทกกับโต๊ะข้างเตียง

โคมไฟบนโต๊ะเองก็เกิดเสียง “เพล้ง” ตกลงบนพื้น ตรงเอวของเธอถูกกระแทกจนเจ็บอย่างหนัก

“ที่รัก”

โห้หลีเฉินรีบวิ่งเข้าไป ดึงเย้นหว่านมากอดไว้ “เป็นอะไรหรือเปล่า? เจ็บตรงไหนบ้าง?”

เย้นหว่านไม่สนใจความเจ็บปวดของเธอเอง แล้วมองไปที่ผู้ชายคนนั้นด้วยตื่นกลัว

“จะให้เขาทำร้ายหยูเซิงไม่ได้”

แน่นอน ก่อนที่เธอจะพูดจบ เธอก็เห็นกับตา มือใหญ่ของผู้ชายคนนั้นคว้าคอเสื้อของโห้หยูเซิงไว้ แล้วดึงเขาออกมา

โห้หยูเซิงเป็นโรคปิดกั้นตัวเอง และไม่ยอมให้คนอื่นสัมผัสเลย เขาเคนเจอสถานการณ์แบบนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน?

พอถูกผู้ชายคนนั้นจับ ก็ทำให้เขาต่อต้านอย่างสุดขีด

“อ๊ากอ๊ากอ๊าก!”

เขากรีดร้องอย่างรุนแรงในลำคอ เขากรีดร้องเสียงสูงจนลำคอแทบฉีกขาด

เขาดิ้นรนอย่างหวาดกลัว สะบัดมือกับเท้าของเขาอย่างแรง ใบหน้าเล็กของเขาซีดเผือดด้วยความหวาดกลัว ท่าทางของเขากลัวอย่างยิ่ง

หัวใจของเย้นหว่านเหมือนถูกกรีดแทง

เดิมทีโห้หยูเซิงก็เป็นโรคปิดกั้นตัวเองอยู่แล้ว ตอนนี้อุตส่าห์ยอมเข้าใกล้พวกเธอ แต่กลับถูกข่มขู่แบบนี้ คงจะทิ้งเงาด้านลบและความทรงจำที่เลวร้ายไว้ในใจของเขา

“พี่ชาย ปล่อยพี่ชายหนูนะ คนไม่ดี!”

แรบบิทพูดแล้ววิ่งไปทางผู้ชายคนนั้น แล้วทุบตีด้วยหมัดเล็กๆ ของเธอ

สีหน้าของผู้ชายผู้นั้นดุร้ายและเย็นชามาก “ยัยหนูตัวแสบ จับเธอไปด้วย”

เขาพูดจบ รีบเอื้อมมือไปจับแรบบิทไว้ด้วย

เย้นหว่านถลึงตาจนแทบแตก ผู้ชายน่าตายคนนี้ กล้าดียังไง กล้าดียังไงถึงทำกับลูกชายและลูกสาวของเธอแบบนี้

เธอจะต้องฆ่าเขาให้ได้

เย้นหว่านพุ่งตัวเข้าไปหาเขาด้วยความโมโห ในเวลาเดียวกัน โห้หลีเฉินเร็วกว่า เขาก้าวขายาวเข้าไป ก่อนที่มือของผู้ชายคนนั้นจะจับแรบบิทได้ หมัดของเขาก็ชกใส่ใบหน้าของผู้ชายคนนั้นแล้ว

เรี่ยวแรงมหาศาล ราวกับภูเขาทับลงมา ผู้ชายรูปร่างสูงใหญ่ท่าทางดุร้ายถูกชกจนอาเจียนออกมาเป็นเลือดทันที ก่อนจะเซถอยหลังไปหลายก้าว

ใช้ประโยชน์จากโอกาสนี้ โห้หยูเซิงที่ดิ้นอยู่ตลอดเวลาก็ดิ้นหลุดจากมือของเขาได้

ทันทีที่ขาของเขาลงถึงพื้น เขาก็กรีดร้องพร้อมกับวิ่งออกไป

“หยูเซิง อย่าวิ่งหนีนะลูก!”

เย้นหว่านตกใจรีบวิ่งตาม แต่เธอวิ่งไปไม่ถึงสองก้าว ก็มีผู้ชายสองคนคว้าข้อมือของเธอไว้

ความล่าช้าในครั้งนี้ ทำให้เย้นหว่านได้แต่ยืนมองโห้หยูเซิงวิ่งออกจากห้องไป

เธอหน้าซีดเผือดด้วยความตกใจ ร่างกายของเธอสั่นเทาไม่หยุด

โห้หยูเซิงไม่เคยออกมาข้างนอก ยังไม่เคยติดต่อกับใครในโลกภายนอกมาก่อน เขายังเด็กมากขนาดนั้น จะต้องตกใจมากแน่ๆ

“หยูเซิง! ไอ้สารเลว ปล่อยฉันเดี๋ยวนี้นะ โห้หลีเฉิน รีบตามหยูเซิงไปเดี๋ยวนี้!”

เย้นหว่านดิ้นรนอย่างรุนแรง เธอไม่เคยเคียดแค้นแบบนี้มาก่อน ทำไมเธอถึงไม่มีทักษะการต่อสู้ที่ร้ายกาจบ้าง ไม่อย่างนั้นเธอคงไม่ถูกผู้ชายสองคนนี้จับไว้ จนไม่สามารถหยุดหยูเซิงไว้ได้

ถ้าหากหยูเซิงเป็นอะไรไป เธอจะเกลียดตัวเองไปตลอดชีวิต

“บ้าเอ้ย!”

โห้หลีเฉินสบถออกมา ก่อนจะหันหลังเดินออกไปจากห้อง แต่ผู้ชายอีกสองคนพุ่งตัวเข้าไปหาเขาราวกับหมาป่าผู้หิวโหย

เขาถูกบังคับให้ต่อสู้

“พี่ชาย พี่ชายคะ”

พวกผู้ใหญ่ต่อสู้กัน จนไม่มีเวลาดูแลลูกๆ แรบบิทเห็นโห้หยูเซิงวิ่งออกไป จึงรีบวิ่งลอดหว่างขาของพวกผู้ใหญ่ออกไปอย่างรวดเร็ว

แล้วรีบวิ่งตามหลังพี่ชายไป

พริบตาเดียว ก็หายลับสายตาไป

ดวงตาของเย้นหว่านเบิกกว้าง ตกใจจนลูกตาแทบจะถลนออกมา

“แรบบิท กลับมานะลูก อย่าวิ่งออกไป แรบบิท!”

เย้นหว่านกรีดร้องด้วยความกลัว แล้วตะโกนเรียกสุดเสียง

แม้ว่าจะตะโกนเรียกจนเสียงแหบ แต่ก็ไม่เห็นพวกลูกๆ หันกลับมา

ความกลัวที่ไม่มีที่สิ้นสุดโจมตีเธอในทันทีเหมือนมหันตภัยร้ายแรงกำลังพุ่งเข้ามาหาเธอ

เธอเหมือนตกนรกทั้งเป็น

“เย้นหว่าน อย่าเพิ่งร้อนใจ เราจะไปหาพวกลูกๆ เดี๋ยวนี้ ลูกๆ ยังวิ่งไปไหนไม่ไกล”

โห้หลีเฉินจัดการทีละคน จนผู้ชายทั้งสี่กระเด็นไปติดผนังเรียบร้อย แล้วรีบดึงเย้นหว่านที่กำลังยืนเหม่อมุ่งหน้าออกไปข้างนอก

เย้นหว่านได้สติกลับมา แล้วรีบวิ่งตามไป

แต่เธอตกใจมากจริงๆ ตัวสั่นเทาไปหมด ขาของเธอไร้เรี่ยวแรง แม้แต่วิ่งก็ไม่ไหว เธอเซตัวไปข้างหน้า จนเกือบจะล้มลงกับพื้น

โชคดีที่โห้หลีเฉินสังเกตเห็นทัน แล้วหันกลับไปคว้าตัวเธอไว้

เขาก้มหน้าลงมอง จึงเห็นเธอหน้าซีดราวกับหน้ากระดาษ ก็รู้สึกปวดใจเหมือนถูกมีดกรีดแทง

“คุณรอผมอยู่ที่นี่ เดี๋ยวผมไปตามลูกๆ กลับมาเอง ที่รัก เชื่อผมสิ ลูกยังเด็กคงวิ่งไปได้ไม่ไกล”

“ฉันจะไปตามหาด้วย…”

เย้นหว่านพิงกำแพงพยายามยืนขึ้น แต่ขาของเธอก็สั่นไม่หยุด ไม่มีแรงจะลุกขึ้นยืน

เธอแทบอยากจะบีบคอตัวเองตาย

“คุณ คุณรีบไปตามหาพวกลูกเถอะค่ะ ไม่ต้องสนใจฉัน”

เย้นหว่านรีบผลักโห้หลีเฉินออกไป ลูกๆ วิ่งหนีไป ทุกนาทีและทุกวินาทีล้วนมีค่า จะมาเสียเวลาเพราะเธอไม่ได้

โห้หลีเฉินเหลือบมองเธออย่างเป็นห่วง “รอผมอยู่ที่นี่!”

หลังจากพูดสั่ง เขาก็ไม่กล้ารอช้าอีกต่อไป รีบเดินไปที่ลิฟต์เพื่อออกตามหาลูกๆ

เย้นหว่านมองแผ่นหลังของโห้หลีเฉินเดินจากไปอย่างรีบร้อน ในใจของเธอเหมือนมีไฟร้อนแผดเผา จนหัวใจของเธอถูกแผดเผาจนเป็นเถ้าถ่าน

เธอกลัว กลัวมากว่าลูกทั้งสองจะประสบอุบัติเหตุ

เธอรับผลลัพธ์นี้ไม่ได้จริงๆ

เย้นหว่านยกมือพยุงที่กำแพง บังคับขาที่สั่นเทาของตัวเอง กัดฟันของตัวเองแน่น แล้วพยายามก้าวไปข้างหน้าอย่างสุดกำลัง

เธอจะนั่งรออยู่ที่นี่ไม่ได้

เธอต้องไปตามหาพวกเขา จะหยุดไม่ได้แม้แต่วินาทีเดียว

แต่โห้หยูเซิงวิ่งออกไป ด้วยนิสัยของเขา จะต้องเกิดเรื่องขึ้นแน่ๆ ความกังวลที่ไม่สิ้นสุดเหมือนหนอนที่คอยกัดหัวใจของเธอ ส่วนลึกในใจของเธอเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

แม้แต่พยุงกำแพงอยู่ก็ยังยืนไม่ไหว

“ตึง” เย้นหว่านล้มลงกับพื้นอีกครั้ง

เธอล้มลงอย่างกะทันหัน เข่าของเธอจึงเจ็บมาก แต่เธอตื่นตระหนกและด้านชาจนไม่รู้สึกอะไรเลย

เธอใช้มือทั้งสองข้างพยุงจนลุกขึ้นยืนได้ จากนั้นก็เดินโซเซต่อไปอีกครั้ง

เธอต้องรีบหาพวกเขาให้เจอ มีคนเพิ่มก็มีกำลังมากขึ้นด้วย

เธอเหมือนกำลังเดินไปบนเส้นทางที่ยาวและลำบากที่สุดในโลก จนในที่สุดเย้นหว่านก็เดินมาถึงมุมทางเดินแยกทางด้านหน้า ทางเดินนี้ยาวมาก แบ่งออกเป็นสองทาง สุดทางเดินด้านซ้ายคือลิฟต์และบันไดหนีไฟ และสุดทางเดินด้านขวาก็มีทางเดินหนีไฟเช่นกัน

โห้หลีเฉินจะไปหา ก็คงจะไปทางที่มีลิฟต์แน่นอน

เพราะฉะนั้นเธอจะต้องไปหาอีกทางที่มีแต่บันไดหนีไฟ

โห้หยูเซิงยังเด็กมากขนาดนั้น คงไม่สามารถกดลิฟต์เองได้ ดังนั้นเขาจึงอาจจะวิ่งเข้าไปทางบันไดหนีไฟ

ตอนนี้เขาอาจจะซ่อนตัวอยู่ตรงบันไดหนีไฟก็ได้

พอคิดได้ว่าน่าจะมีความเป็นไปได้นี้ เย้นหว่านก็เดินเร็วขึ้น เธอเดินโซเซเข้าไปทางบันไดหนีไฟ

โรงแรมนี้มีทั้งหมดสี่สิบชั้น ตอนนี้พวกเธออยู่ที่ชั้นยี่สิบแปด

ในตำแหน่งปัจจุบันของเธอ เธอไม่สามารถรู้ได้เลยว่าเด็กๆ จะวิ่งขึ้นข้างบน หรือวิ่งลงข้างล่าง

เธอจะไปทางไหนดี

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+