สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1223 ทะนุถนอมอิสตรี

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1223 ทะนุถนอมอิสตรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวจ้องไปยังป่ายฉีอย่างเย็นชาและดื้อรั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเจตนาฆ่า

คนตรงหน้านี้ นอกจากจะเป็นครูผู้ฝึกแล้ว เธอแล้วยังเป็นคนที่อยากฆ่าที่สุดด้วย

เธอไม่สนใจอาการบาดเจ็บและแผลเน่าเปื่อยทั่วตัวเลยแม้แต่น้อย เธอเดินด้วยความยากลำบากและมุ่งไปหาเขาอย่างแน่วแน่

ในมือของเธอถือกริช กำลังจะปลิดชีพเขาด้วยท่าทีโหดเหี้ยม

ท่าทางดุร้าย

จิตสังหารแผ่ซ่านออกมา

เพราะการปรากฏตัวของเธอ แม้แต่อุณหภูมิรอบ ๆ ก็แทบจะลดลงหลายองศาจนเย็นยะเยือกตามไปด้วย

ป่ายฉีเตรียมรับมืออย่างเต็มที่ มาถึงทางตันแล้ว ไม่ใช่เธอตาย ก็เขาที่สิ้นชีพ

ชั่วพริบตาที่หญิงสาวโจมตี ป่ายฉีก็กระโจนไปเข้าไปเช่นกัน ทั้งสองประมือกัน….

เสียง “เคร้ง” ดังขึ้น กริชในมือของหญิงสาวหล่นลงกับพื้น เธอยืนโซเซ มุมปากซึมเลือด ร่างกายโงนเงน

การต่อสู้เมื่อครู่นี้ การตอบสนองของเธอช้ามาก เรียกได้ว่าถูกป่ายฉีเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว

อาวุธตกไปแล้ว ก็ยังกำหมัด

ด้วยพละกำลังมหาศาลและศักดิ์ศรีที่ดื้อรั้นของเธอ ถึงได้อดทนยืนอยู่โดยไม่ล้มลงได้

ป่ายฉียืนห่างออกไปสองเมตร สีหน้าเอาจริงเอาจังเปลี่ยนเป็นสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นในวินาทีถัดมา

มุมปากของเขายกสูง คิ้วเลิกโค้ง ลำพองอย่างเต็มที่

“เธอสู้ฉันไม่ได้แล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”

เสียงหัวเราะอวดดีน่ารำคาญดังอยู่เต็มรูหู ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด สีหน้าย่ำแย่อย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าสภาพร่างกายของตัวเองในตอนนี้กำลังแย่จนเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่ามันแตกต่างกับป่ายฉีมากขนาดนี้!

เธอสู้เขาไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?

ไม่! ไม่!

ถึงเธอตายก็ต้องลากเขาลงนรกไปด้วย เธอจะต้องฆ่าไอ้สารเลวนี่ให้ได้

“ฉัน จะ ฆ่า นาย!”

ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำ เธอกัดฟันแล้วพุ่งเข้าโจมตีป่ายฉีอย่างสุดชีวิต

ดังคำกล่าวที่ว่าอูฐที่ผอมตายก็ยังใหญ่กว่าม้า มนุษย์พันธุ์แกร่งที่บาดเจ็บก็ยังอันตรายยิ่ง

ป่ายฉีใช้ความเร็วที่ค่อนข้างสบาย ๆ ยิ่งขึ้นหลบหลีกการโจมตีของหญิงสาวได้อย่างเฉียบขาด

เขาพูดพลางยิ้มยียวน

“สาวน้อย รู้แพ้ชนะกันแล้ว เธอจะดึงดันไปทำไมกันล่ะ? เธอฆ่าฉันไม่ได้ แต่ฉันฆ่าเธอได้อย่างง่ายดาย แต่เธอโชคดีนะ ที่ได้เจอกับฉันที่หล่อเหลาใจดีขนาดนี้ มีแค่เราสองคนอยู่ในสถานที่ที่ขนาดนกก็ยังไม่เข้ามาขี้นี่ ฉันยังไม่ค่อยอยากจะรีบฆ่าเธออีก”

“ถ้าเธอก็จะไม่ฆ่าฉัน งั้นเรามาจับมือเป็นพันธมิตรกันชั่วคราวไหม?”

หญิงสาวทำหูทวนลมกับคำแนะนำของป่ายฉี เมื่อไม่มีกริชแล้ว เธอก็ซัดกำปั้นใส่เขาอย่างดุร้าย

ป่ายฉี “เฮ้อ เธอจะต้องฆ่าฉันไปให้ได้ทำไมกัน? สถานที่บ้า ๆ นี้ ไม่มีอาหารไม่มีน้ำ หรือว่า เธอจะฆ่าฉันแล้วกินเนื้อฉันประทังความหิวงั้นเหรอ?”

หมัดของหญิงสาวต่อยวืดอีกครั้ง ร่างกายซวนเซไปเล็กน้อยก่อนจะฝืนยืนอย่างมั่นคง

เธอจ้องป่ายฉีอย่างจริงจังแล้วด่าทออย่างเหลือทน

“น่าขยะแขยง! นายต่างหากล่ะที่จะกินเนื้อคนลง”

เมื่อเห็นเธอยอมพูดแล้ว แววตาของป่ายฉีก็ฉายแววหยอกล้อแล้วพูดขึ้นอีก “ในเมื่อเธอไม่คิดจะกินเนื้อฉัน งั้นหลังจากที่ฆ่าฉันแล้วเธอจะตายไปด้วยกันกับฉันที่นี่งั้นเหรอ? จิ๊ ๆ นี่เธอรักฉันแต่แรกพบไปแล้ว แล้วอยากจะตายร่วมโลงกับฉันงั้นเหรอ?”

“ฉันฆ่านายแล้ว ค่อยออกไป” หญิงสาวพูดลอดไรฟันออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ใบหน้าซีดขาวนั้นก็ยังไม่อาจปกปิดความเกลียดชังต่อคำว่าตายร่วมโลงได้ที่ว่า

ใครมันจะไปอยากตายลงหลุมเดียวกันกับผู้ชายไร้ยางอายน่ารังเกียจนี่กัน

ป่ายฉีเลิกคิ้ว ชี้ไปที่หน้าผาข้างหลังที่ทั้งสูงทั้งชัน “ฉันเพิ่งจะลองมาแล้ว ผานี่ปีนขึ้นไปไม่ได้ ถ้าเธอฆ่าฉัน ก็ยังต้องตายอยู่ที่นี่ด้วยความอ่อนเพลีย”

ในสายตาเย็นชาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหยามเหยียด

“ฉันออกไปได้”

เธอออกไปได้?

แววตาของป่ายฉีเป็นประกาย “เธอจะออกไปยังไง? มีวิธีงั้นเหรอ?”

หญิงสาวกำหมัดแน่นอีกครั้ง เธอพูดอย่างช้า ๆ ด้วยเจตนาฆ่าเต็มเปี่ยม

“ไม่เกี่ยวกับนาย นายจะต้องตายอยู่ที่นี่”

เธอพุ่งเข้าโจมตีป่ายฉีอีกครั้งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

ป่ายฉีหลบการโจมตีของเธออย่างสบาย ๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเหมือนก่อนหน้านี้ ดวงตากลอกไปมาบนร่างของหญิงสาว

กราดโจมตีไปมา

ทางไกลขนาดนี้ เธอไม่มีทางเดินกลับองค์กรได้แน่ นอกจากนี้ข้างหน้ากระเบิดไปแล้ว ไม่มีทางไปได้เช่นกัน

แต่เธอพูดว่าออกไปได้ ถ้าอย่างนั้นเธอจะต้องหมายถึงปีนขึ้นไปจากตรงนี้แน่นอน

ป่ายฉีสงสัยกับการอนุมานนี้อย่างมาก บนตัวของเธอซ่อนเครื่องมือที่สามารถใช้ปีนเอาไว้ แม้ชุดรัดรูปที่เธอสวมจะยังมองอะไรไม่ออกก็ตาม

แต่ถึงผู้หญิงคนนี้จะเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง แต่กลับเกลียดการพูดโกหก

“สาวน้อย พวกเราถอยกันคนละก้าวเป็นไง? เธอบอกวิธีการให้ฉัน ฉันจะไม่ฆ่าเธอ”

การเคลื่อนไหวของป่ายฉีเร็วขึ้นเล็กน้อย และก้าวนำหญิงสาวไปก่อนหนึ่งก้าวทุกครั้ง ทำให้การโจมตีของเธอล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ถึงยังไงทั้งสองคนก็ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ทั้งยังเต็มไปด้วยบาดแผล การเคลื่อนไหวไปมาแบบนี้นั้นทำให้เหนื่อยล้าอย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวแทบจะต่อยไม่ไหวอยู่แล้ว

แต่ในสายตาของเธอกลับมีแค่ว่าจะฆ่าป่ายฉีอย่างไร คำพูดอื่นและความคิดที่จะเอ่ยปากนั้นไม่มีเลยแม้แต่น้อย

ป่ายฉีหมดทางจะไต่ถาม ดวงตาของเขาหรี่ลงราวกับได้ตัดสินใจอะไรอย่างเด็ดเดี่ยวแล้ว

“เธอบังคับฉันเองนะ!”

ทันใดนั้นเขาก็เลิกหลบหลีกแล้วโจมตีอย่างดุเดือด

หญิงสาวที่อ่อนแรงจนถึงขีดจำกัดไปแล้วนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา การโจมตีทั้งเร็วและแรง หญิงสาวที่ไม่อาจทางตอบสนองได้ไหวก็ถูกโจมตีจนล้มลงกับพื้นเสียงดัง “ตึง” ในทันที

ชั่วขณะที่ล้มลง เธอก็กระอักเลือดออกมา สีหน้าซีดขาวราวกับใบหน้าของคนตาย

เธอยังมีความรู้สึกอยู่ลาง ๆ และพยายามจะดิ้นรนลุกขึ้น แต่เมื่อล้มลงสักครั้ง ก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นได้อีกต่อไป

เธอพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ก็นอนราบลงกับพื้นด้วยความพ่ายแพ้

ไม่มีกำลังการต่อต้านอีกต่อไป

ป่ายฉีนั่งยอง ๆ ข้างตัวเธอ แววตาเย็นยะเยือก “บอกมาเถอะ เธอมีวิธีอะไรที่จะปีนขึ้นไป? บอกมาแล้วฉันก็จะไม่ฆ่าเธอ”

“อยากฆ่าก็ฆ่า ฉันจะไม่ส่งเสียงอะไรทั้งนั้น”

หญิงสาวกัดฟันอย่างเย็นชา ไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอที่จ้องเขม็งป่ายฉี ยังคงเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เธอยังไม่ยอม

ด้วยฝีมืออันแข็งแกร่งของเธอ ตั้งแต่ทำภารกิจมา เธอก็ไม่เคยเจอคู่ปรับหรือพ่ายแพ้มาก่อนเลย นี่คือครั้งเดียวเท่านั้น

ที่เธอพลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับคนอื่น

ความรู้สึกนี้มันทำให้เธอรู้สึกแย่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก และการพ่ายแพ้นั้น ในโลกของเธอก็คือความตาย

ผู้แพ้ ก็สมควรตาย

ป่ายฉีถอนหายใจ “ดื้อดึงซะจริง”

พูดจบเขาก็ชูมือขึ้น

นิ้วมือสัมผัสที่เอวของหญิงสาว เสียง “คลิก” “คลิก” ดังขึ้น เขาปลดกระดุมที่เอวของหญิงสาวออก

แล้วดึงมันออกอย่างคล่องแคล่ว ก่อนเลิกชุดรัดรูปของหญิงสาวออกเป็นวงกว้าง

ลมเย็นพัดเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ หญิงสาวตะลึงงันในทันที

ใบหน้าที่ซีดขาวเจือสีแดงเรื่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอตวาดอย่างขุ่นเคือง “ไอ้บ้า! ฉันจะฆ่าแก!”

เธอใช้กำลังทั้งหมดพยายามลุกขึ้นและโจมตีป่ายฉี แต่ป่ายฉีกลับยื่นมือมากดไหล่ของเธอเอาไว้แล้วตรึงเธอไว้อย่างสบาย ๆ ทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ป่ายฉีโน้มตัวลง ทันใดนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าของหญิงสาว

เขายกมุมปากขึ้นอย่างหยอกเย้าและมีเจตนาร้ายกาจ “ฉันคนนี้ ทะนุถนอมอิสตรีเป็นที่สุด และยิ่งชอบสาวงามเสียด้วย ในเมื่อเธออยากจะลากฉันมาตายร่วมโลงอยู่กับเธอที่นี่ งั้นฉันเองก็จะให้ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องตายใต้กลีบโบตั๋น เป็นผีที่สง่างาม”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1223 ทะนุถนอมอิสตรี

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1223 ทะนุถนอมอิสตรี at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หญิงสาวจ้องไปยังป่ายฉีอย่างเย็นชาและดื้อรั้น ดวงตาเต็มไปด้วยความเกลียดชังและเจตนาฆ่า

คนตรงหน้านี้ นอกจากจะเป็นครูผู้ฝึกแล้ว เธอแล้วยังเป็นคนที่อยากฆ่าที่สุดด้วย

เธอไม่สนใจอาการบาดเจ็บและแผลเน่าเปื่อยทั่วตัวเลยแม้แต่น้อย เธอเดินด้วยความยากลำบากและมุ่งไปหาเขาอย่างแน่วแน่

ในมือของเธอถือกริช กำลังจะปลิดชีพเขาด้วยท่าทีโหดเหี้ยม

ท่าทางดุร้าย

จิตสังหารแผ่ซ่านออกมา

เพราะการปรากฏตัวของเธอ แม้แต่อุณหภูมิรอบ ๆ ก็แทบจะลดลงหลายองศาจนเย็นยะเยือกตามไปด้วย

ป่ายฉีเตรียมรับมืออย่างเต็มที่ มาถึงทางตันแล้ว ไม่ใช่เธอตาย ก็เขาที่สิ้นชีพ

ชั่วพริบตาที่หญิงสาวโจมตี ป่ายฉีก็กระโจนไปเข้าไปเช่นกัน ทั้งสองประมือกัน….

เสียง “เคร้ง” ดังขึ้น กริชในมือของหญิงสาวหล่นลงกับพื้น เธอยืนโซเซ มุมปากซึมเลือด ร่างกายโงนเงน

การต่อสู้เมื่อครู่นี้ การตอบสนองของเธอช้ามาก เรียกได้ว่าถูกป่ายฉีเล่นงานอยู่ฝ่ายเดียว

อาวุธตกไปแล้ว ก็ยังกำหมัด

ด้วยพละกำลังมหาศาลและศักดิ์ศรีที่ดื้อรั้นของเธอ ถึงได้อดทนยืนอยู่โดยไม่ล้มลงได้

ป่ายฉียืนห่างออกไปสองเมตร สีหน้าเอาจริงเอาจังเปลี่ยนเป็นสดใสมีชีวิตชีวาขึ้นในวินาทีถัดมา

มุมปากของเขายกสูง คิ้วเลิกโค้ง ลำพองอย่างเต็มที่

“เธอสู้ฉันไม่ได้แล้ว ฮ่า ๆ ๆ ๆ!”

เสียงหัวเราะอวดดีน่ารำคาญดังอยู่เต็มรูหู ใบหน้าของหญิงสาวซีดเผือด สีหน้าย่ำแย่อย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าเธอรู้ว่าสภาพร่างกายของตัวเองในตอนนี้กำลังแย่จนเกือบจะถึงขีดจำกัดแล้ว แต่เธอกลับไม่คาดคิดว่ามันแตกต่างกับป่ายฉีมากขนาดนี้!

เธอสู้เขาไม่ได้แล้วงั้นเหรอ?

ไม่! ไม่!

ถึงเธอตายก็ต้องลากเขาลงนรกไปด้วย เธอจะต้องฆ่าไอ้สารเลวนี่ให้ได้

“ฉัน จะ ฆ่า นาย!”

ดวงตาของหญิงสาวแดงก่ำ เธอกัดฟันแล้วพุ่งเข้าโจมตีป่ายฉีอย่างสุดชีวิต

ดังคำกล่าวที่ว่าอูฐที่ผอมตายก็ยังใหญ่กว่าม้า มนุษย์พันธุ์แกร่งที่บาดเจ็บก็ยังอันตรายยิ่ง

ป่ายฉีใช้ความเร็วที่ค่อนข้างสบาย ๆ ยิ่งขึ้นหลบหลีกการโจมตีของหญิงสาวได้อย่างเฉียบขาด

เขาพูดพลางยิ้มยียวน

“สาวน้อย รู้แพ้ชนะกันแล้ว เธอจะดึงดันไปทำไมกันล่ะ? เธอฆ่าฉันไม่ได้ แต่ฉันฆ่าเธอได้อย่างง่ายดาย แต่เธอโชคดีนะ ที่ได้เจอกับฉันที่หล่อเหลาใจดีขนาดนี้ มีแค่เราสองคนอยู่ในสถานที่ที่ขนาดนกก็ยังไม่เข้ามาขี้นี่ ฉันยังไม่ค่อยอยากจะรีบฆ่าเธออีก”

“ถ้าเธอก็จะไม่ฆ่าฉัน งั้นเรามาจับมือเป็นพันธมิตรกันชั่วคราวไหม?”

หญิงสาวทำหูทวนลมกับคำแนะนำของป่ายฉี เมื่อไม่มีกริชแล้ว เธอก็ซัดกำปั้นใส่เขาอย่างดุร้าย

ป่ายฉี “เฮ้อ เธอจะต้องฆ่าฉันไปให้ได้ทำไมกัน? สถานที่บ้า ๆ นี้ ไม่มีอาหารไม่มีน้ำ หรือว่า เธอจะฆ่าฉันแล้วกินเนื้อฉันประทังความหิวงั้นเหรอ?”

หมัดของหญิงสาวต่อยวืดอีกครั้ง ร่างกายซวนเซไปเล็กน้อยก่อนจะฝืนยืนอย่างมั่นคง

เธอจ้องป่ายฉีอย่างจริงจังแล้วด่าทออย่างเหลือทน

“น่าขยะแขยง! นายต่างหากล่ะที่จะกินเนื้อคนลง”

เมื่อเห็นเธอยอมพูดแล้ว แววตาของป่ายฉีก็ฉายแววหยอกล้อแล้วพูดขึ้นอีก “ในเมื่อเธอไม่คิดจะกินเนื้อฉัน งั้นหลังจากที่ฆ่าฉันแล้วเธอจะตายไปด้วยกันกับฉันที่นี่งั้นเหรอ? จิ๊ ๆ นี่เธอรักฉันแต่แรกพบไปแล้ว แล้วอยากจะตายร่วมโลงกับฉันงั้นเหรอ?”

“ฉันฆ่านายแล้ว ค่อยออกไป” หญิงสาวพูดลอดไรฟันออกมาอย่างชัดถ้อยชัดคำ ใบหน้าซีดขาวนั้นก็ยังไม่อาจปกปิดความเกลียดชังต่อคำว่าตายร่วมโลงได้ที่ว่า

ใครมันจะไปอยากตายลงหลุมเดียวกันกับผู้ชายไร้ยางอายน่ารังเกียจนี่กัน

ป่ายฉีเลิกคิ้ว ชี้ไปที่หน้าผาข้างหลังที่ทั้งสูงทั้งชัน “ฉันเพิ่งจะลองมาแล้ว ผานี่ปีนขึ้นไปไม่ได้ ถ้าเธอฆ่าฉัน ก็ยังต้องตายอยู่ที่นี่ด้วยความอ่อนเพลีย”

ในสายตาเย็นชาของหญิงสาวเต็มไปด้วยความหยามเหยียด

“ฉันออกไปได้”

เธอออกไปได้?

แววตาของป่ายฉีเป็นประกาย “เธอจะออกไปยังไง? มีวิธีงั้นเหรอ?”

หญิงสาวกำหมัดแน่นอีกครั้ง เธอพูดอย่างช้า ๆ ด้วยเจตนาฆ่าเต็มเปี่ยม

“ไม่เกี่ยวกับนาย นายจะต้องตายอยู่ที่นี่”

เธอพุ่งเข้าโจมตีป่ายฉีอีกครั้งอย่างรุนแรงและรวดเร็ว

ป่ายฉีหลบการโจมตีของเธออย่างสบาย ๆ แต่มันกลับไม่เป็นอย่างที่คิดเหมือนก่อนหน้านี้ ดวงตากลอกไปมาบนร่างของหญิงสาว

กราดโจมตีไปมา

ทางไกลขนาดนี้ เธอไม่มีทางเดินกลับองค์กรได้แน่ นอกจากนี้ข้างหน้ากระเบิดไปแล้ว ไม่มีทางไปได้เช่นกัน

แต่เธอพูดว่าออกไปได้ ถ้าอย่างนั้นเธอจะต้องหมายถึงปีนขึ้นไปจากตรงนี้แน่นอน

ป่ายฉีสงสัยกับการอนุมานนี้อย่างมาก บนตัวของเธอซ่อนเครื่องมือที่สามารถใช้ปีนเอาไว้ แม้ชุดรัดรูปที่เธอสวมจะยังมองอะไรไม่ออกก็ตาม

แต่ถึงผู้หญิงคนนี้จะเย็นชาเหมือนน้ำแข็ง แต่กลับเกลียดการพูดโกหก

“สาวน้อย พวกเราถอยกันคนละก้าวเป็นไง? เธอบอกวิธีการให้ฉัน ฉันจะไม่ฆ่าเธอ”

การเคลื่อนไหวของป่ายฉีเร็วขึ้นเล็กน้อย และก้าวนำหญิงสาวไปก่อนหนึ่งก้าวทุกครั้ง ทำให้การโจมตีของเธอล้มเหลวครั้งแล้วครั้งเล่า

แต่ถึงยังไงทั้งสองคนก็ไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน ทั้งยังเต็มไปด้วยบาดแผล การเคลื่อนไหวไปมาแบบนี้นั้นทำให้เหนื่อยล้าอย่างมาก

เห็นได้ชัดว่าหญิงสาวแทบจะต่อยไม่ไหวอยู่แล้ว

แต่ในสายตาของเธอกลับมีแค่ว่าจะฆ่าป่ายฉีอย่างไร คำพูดอื่นและความคิดที่จะเอ่ยปากนั้นไม่มีเลยแม้แต่น้อย

ป่ายฉีหมดทางจะไต่ถาม ดวงตาของเขาหรี่ลงราวกับได้ตัดสินใจอะไรอย่างเด็ดเดี่ยวแล้ว

“เธอบังคับฉันเองนะ!”

ทันใดนั้นเขาก็เลิกหลบหลีกแล้วโจมตีอย่างดุเดือด

หญิงสาวที่อ่อนแรงจนถึงขีดจำกัดไปแล้วนั้นไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา การโจมตีทั้งเร็วและแรง หญิงสาวที่ไม่อาจทางตอบสนองได้ไหวก็ถูกโจมตีจนล้มลงกับพื้นเสียงดัง “ตึง” ในทันที

ชั่วขณะที่ล้มลง เธอก็กระอักเลือดออกมา สีหน้าซีดขาวราวกับใบหน้าของคนตาย

เธอยังมีความรู้สึกอยู่ลาง ๆ และพยายามจะดิ้นรนลุกขึ้น แต่เมื่อล้มลงสักครั้ง ก็ไม่มีเรี่ยวแรงจะลุกขึ้นได้อีกต่อไป

เธอพยายามอยู่หลายครั้ง แต่ก็นอนราบลงกับพื้นด้วยความพ่ายแพ้

ไม่มีกำลังการต่อต้านอีกต่อไป

ป่ายฉีนั่งยอง ๆ ข้างตัวเธอ แววตาเย็นยะเยือก “บอกมาเถอะ เธอมีวิธีอะไรที่จะปีนขึ้นไป? บอกมาแล้วฉันก็จะไม่ฆ่าเธอ”

“อยากฆ่าก็ฆ่า ฉันจะไม่ส่งเสียงอะไรทั้งนั้น”

หญิงสาวกัดฟันอย่างเย็นชา ไม่เกรงกลัวเลยแม้แต่น้อย ดวงตาของเธอที่จ้องเขม็งป่ายฉี ยังคงเต็มไปด้วยจิตสังหาร

เธอยังไม่ยอม

ด้วยฝีมืออันแข็งแกร่งของเธอ ตั้งแต่ทำภารกิจมา เธอก็ไม่เคยเจอคู่ปรับหรือพ่ายแพ้มาก่อนเลย นี่คือครั้งเดียวเท่านั้น

ที่เธอพลาดท่าพ่ายแพ้ให้กับคนอื่น

ความรู้สึกนี้มันทำให้เธอรู้สึกแย่ยิ่งกว่าความตายเสียอีก และการพ่ายแพ้นั้น ในโลกของเธอก็คือความตาย

ผู้แพ้ ก็สมควรตาย

ป่ายฉีถอนหายใจ “ดื้อดึงซะจริง”

พูดจบเขาก็ชูมือขึ้น

นิ้วมือสัมผัสที่เอวของหญิงสาว เสียง “คลิก” “คลิก” ดังขึ้น เขาปลดกระดุมที่เอวของหญิงสาวออก

แล้วดึงมันออกอย่างคล่องแคล่ว ก่อนเลิกชุดรัดรูปของหญิงสาวออกเป็นวงกว้าง

ลมเย็นพัดเข้าไปในเสื้อผ้าของเธอ หญิงสาวตะลึงงันในทันที

ใบหน้าที่ซีดขาวเจือสีแดงเรื่อขึ้นมาอย่างรวดเร็ว เธอตวาดอย่างขุ่นเคือง “ไอ้บ้า! ฉันจะฆ่าแก!”

เธอใช้กำลังทั้งหมดพยายามลุกขึ้นและโจมตีป่ายฉี แต่ป่ายฉีกลับยื่นมือมากดไหล่ของเธอเอาไว้แล้วตรึงเธอไว้อย่างสบาย ๆ ทำให้เธอไม่สามารถเคลื่อนไหวได้

ป่ายฉีโน้มตัวลง ทันใดนั้นใบหน้าหล่อเหลาก็ขยับเข้ามาใกล้ใบหน้าของหญิงสาว

เขายกมุมปากขึ้นอย่างหยอกเย้าและมีเจตนาร้ายกาจ “ฉันคนนี้ ทะนุถนอมอิสตรีเป็นที่สุด และยิ่งชอบสาวงามเสียด้วย ในเมื่อเธออยากจะลากฉันมาตายร่วมโลงอยู่กับเธอที่นี่ งั้นฉันเองก็จะให้ตัวเองไม่ได้รับความเป็นธรรมไม่ได้ ยังไงฉันก็ต้องตายใต้กลีบโบตั๋น เป็นผีที่สง่างาม”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+