สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1344 กระแสจิต

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1344 กระแสจิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ป่ายฉีพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ฉันรับรองได้ว่า หานจื่อต้องอยู่ที่นี่แน่นอน”

เย้นหว่านเลิกคิ้วขึ้น “นายเอาอะไรมารับรองกัน? หรือนายรับรู้ผ่านทางกระแสจิตหรือไง?”

ตั้งแต่ที่ป่ายฉีพูดแบบนี้ออกมา เย้นหว่านก็เชื่อทันที ที่เธอถามแบบนี้ ก็เพื่อคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดลง

ป่ายฉีมองค้อนเธอแล้วพูดอย่างโมโห

“กระแสจิตบ้าบออะไรกัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับหานจื่อสักหน่อย ที่ฉันติดเครื่องติดตามไว้บนตัวหานจื่อ เป็นเครื่องติดตามที่วิจัยขึ้นมาใหม่ล่าสุด ใส่เข้าไปในแผลของหานจื่อ แม้ว่าเครื่องอะไรก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ถ้าเครื่องติดตามนี้ออกจากตัวคนก็จะใช้การไม่ได้อีก”

ดังนั้นถ้าเครื่องติดตามนี้ออกจากตัวหานจื่อ ก็จะไม่มีทางพาพวกเขามาที่นี่ได้

แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วหานจื่ออยู่ที่ไหนล่ะ?

นึกถึงแหล่งกบดานที่ฝู้ยวนสร้างขึ้นครั้งก่อน โห้หลีเฉินก็พูดเสียงทุ้มว่า: “หานจื่ออยู่ด้านล่างใต้ดิน”

เย้นหว่านมุมปากกระตุกอย่างอดไม่ได้ “ไม่หรอกมั้ง? สร้างห้องปฏิบัติการใต้ดินในป่าทึบแบบนี้น่ะเหรอ? นี่เป็นเรื่องที่ลำบากมากเลยนะ ฝู้ยวนเก่งขนาดนั้นเชียว?”

ต่างกับการสร้างห้องปฏิบัติการใต้ดินในเมือง ในเมืองจะทำอะไรก็สะดวกสบายมาก การสร้างอะไรก็ง่ายไปหมด แต่ในป่าทึบนี้กลับแตกต่างออกไปเป็นโขเลย

อุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆก็ยากที่จะนำเข้ามาได้ และยังเดินทางลำบากเพราะมีโคลนเกือบทุกที่ ไม่เหมาะกับการขุดและสร้างฐานไว้ใต้ดินเลย ไม่งั้นมีโอกาสสูงมากที่จะถล่มลงมา

นี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้เลย

“เขามีความสามารถนี้ไหม ตอนกลางคืนพวกเราลงไปก็จะรู้เอง” โห้หลีเฉินพูดเสียงทุ้ม

ตอนกลางวันมีแสงแดดส่องสว่างจ้าเกินไป จะทำอะไรก็ไม่สะดวก อีกอย่างที่นี่ก็ยังเป็นป่าทึบอีกด้วย ไม่รู้ว่าจุดไหนมีกล้องวงจรปิดหรือคนคอยสังเกตการณ์หรือเปล่า มีเพียงลงมือตอนกลางคืนเท่านั้นถึงจะปลอดภัยที่สุด

ว่าแล้ว โห้หลีเฉินก็ปูเสื่อลงบนพื้น แล้วดึงเย้นหว่านลงมานั่งด้วยกัน

“เดินมาทั้งคืนแล้ว เธอพักผ่อนและกินอาหารเพิ่มแรงหน่อยเถอะ”

โห้หลีเฉินเอาอาหารออกมาจากกระเป๋า แม้จะเป็นการจัดกระเป๋าแบบทหาร แต่ส่วนของเย้นหว่านก็มีข้าวเปล่าและผักสดใหม่ อุ่นอัตโนมัติก็กินได้แล้ว

ส่วนคนอื่นก็กินคุกกี้ง่ายๆ ขนาดป่ายฉียังกินแค่นี้เลย

เย้นหว่านถือกล่องข้าวไว้ เธอรู้สึกเกรงใจทุกคน “ทุกคนกินข้าวกล่องนี้ด้วยกันไหม?”

“ไม่ต้องหรอก พวกเขาแข็งแรงจะตาย ทนได้”

โห้หลีเฉินปฏิเสธคำแนะนำของเย้นหว่านทันที เขาเทซุปอุ่นๆจากกระบอกฉนวนที่เตรียมมาให้เย้นหว่าน

เย้นหว่านเห็นอาหารของตัวเองแล้ว ก็แทบจะเหมือนกับการออกมาปิกนิกเลย

เธอหน้าแดงระเรื่อ “คุณโห้ ในกระเป๋าของนายคงไม่ได้มีแต่อาหารของฉันใช่ไหม?”

ครั้งนี้ต้องเดินทางใกล้ แถมยังมีอันตรายรออยู่ข้างหน้าด้วย จำเป็นต้องแบกของสำคัญหลายอย่าง ในกระเป๋าเย้นโม่หลินก็มีอุปกรณ์จำเป็นเต็มไปหมด

โห้หลีเฉินพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจ “อืม”

เย้นหว่านรู้สึกหมดคำจะพูด ในที่สุดก็ถึงรู้ว่า ทำไมป่ายฉีที่เป็นคนป่วยกระเป๋าเขาถึงได้ใหญ่ขนาดนั้น

คงเป็นของที่โห้หลีเฉินแบ่งให้พวกเขาแบกสินะ

แม้โห้หลีเฉินจะพูดแบบนี้แต่ก็มีเหตุผลของเขา ผู้ชายพวกนี้แข็งแรงจริงๆ กินคุกกี้แห้งๆก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว อดทนได้แน่นอน

เธอก็เคยลำบากและเผชิญเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เธอสามารถกินคุกกี้กับทุกคนได้ แต่โห้หลีเฉินกลับรอบคอบมาก แน่นอนว่าเธอจะต้องสุขใจกับการดูแลของสามีตัวเอง

ความรู้สึกที่สู้ไปพร้อมกับโห้หลีเฉิน ทำให้เย้นหว่านรู้สึกมีความสุขและดีใจอย่างมาก

เธอดื่มซุปแล้วตักซุปป้อนให้โห้หลีเฉิน จากนั้นก็พูดเสียงอ่อนว่า “นายก็ดื่มด้วยสิ”

โห้หลีเฉินมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง เขาอ้าปากแล้วดื่มเข้าไป

ป่ายฉีที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้กุมท้องไว้ ทำท่าคลื่นไส้ “นี่ๆๆ หวานไปไหม ระวังหน่อยสิ ที่นี่ยังมีคนโสดอยู่เลยนะ! นี่มันผิดศีลธรรมมากเลยนะ”

เย้นหว่านพูดอย่างได้ใจ “งั้นนายก็จำแค้นครั้งนี้ไว้ด้วยล่ะ เดี๋ยวถ้านายหาแฟนได้ ก็เอากลับมาอวดพวกฉันสิ”

ป่ายฉี: “……” นี่มันยากกว่าการกินอาหารหมาจนอิ่มเสียอีก

มาถึงสถานที่เป้าหมายแล้ว ทุกคนสลับกันสังเกตการณ์ตอนกลางวัน ระวังรอบข้างไว้ ส่วนคนอื่นก็ตั้งแคมป์นอนพักผ่อนเอาแรง

เพราะยังไงพวกเขาก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว แถมตอนกลางคืนยังมีศึกครั้งใหญ่อีก ตอนกลางวันเป็นเวลาเดียวที่พวกเขาพักผ่อนได้

พวกเขาใช้เต็นท์ที่ซ่อนได้อย่างมิดชิด เป็นสีเดียวกับต้นไม้ต้นหญ้ารอบๆ และมีขนาดเล็กมากด้วย สามารถนอนได้แค่คนเดียวเท่านั้น

แต่โห้หลีเฉินกลับนอนเบียดกับเย้นหว่านในนั้น

ป่ายฉีทนดูไม่ไหว “แสบตาจริงๆ”

เขามุดเข้าเต็นท์ตัวเองไปอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็นอนในที่ที่ของตัวเอง

ภายในเต็นท์ โห้หลีเฉินกอดเย้นหว่านไว้แน่น แล้วกระซิบพูดกับเธอว่า “เบียดไปไหม?”

เย้นหว่านพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าเบียดล่ะก็ นายจะออกไปเหรอ?”

“ไม่ออก”

โห้หลีเฉินพูดอย่างมั่นใจ จากนั้นเขาก็กอดเย้นหว่านไว้แน่นกว่าเดิม “ฉันไม่รู้สึกว่าเบียดเลย ฉันอยากกอดเธอแบบนี้มากกว่า”

หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันเลยก็ยิ่งดี

“แน่นอีกหน่อยฉันคงถูกนายรัดจนขาดอากาศหายใจแล้วล่ะ” เย้นหว่านหัวเราะแล้วด่าเขา แต่ก็ยังเขยิบเข้าไปในอ้อมกอดเขาอยู่ดี เธอหาท่านอนที่สบาย จากนั้นก็กอดเขาไว้แน่นๆ

โห้หลีเฉินกอดเธออย่างพึงพอใจ ไม่มีความเสียใจเลย เหมือนได้ครอบครองโลกทั้งใบ

หรืออาจเป็นเพราะถูกโห้หลีเฉินกอดไว้ มีเขาอยู่ข้างกาย ทำให้แม้เย้นหว่านจะอยู่ในป่า ก็ยังนอนหลับได้อย่างสบายใจ ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกที ฟ้าก็มืดลงแล้ว

เย้นหว่านตื่นขึ้นมาแล้วมุดออกมาจากเต็นท์ เห็นเต็นท์คนอื่นเก็บกันหมดแล้ว โห้หลีเฉินก็กำลังถือกล่องข้าวร้อนๆรอตัวเองอยู่

เขาเห็นเธอตื่นแล้วก็ยิ้มหวานแล้วพูดว่า “ตื่นมาทันเวลาพอดีเลย เพิ่งอุ่นกับข้าวเสร็จเตรียมปลุกเธอพอดี”

“อาจจะเป็นเพราะใจตรงกันก็ได้”

เย้นหว่านมองดูกล่องข้าวอย่างเขินอาย ความหมายก็คือว่า อาจจะเป็นเธอกับอาหารที่ใจตรงกัน

โห้หลีเฉินไม่ได้ว่าอะไรเธอ เขาเรียกเธอไปนั่งข้างๆ แล้วยื่นอาหารที่อุ่นเสร็จแล้วให้เธอ

ตอนนี้เอง ถังจุ้ยเดินออกมา เก็บเต็นท์ของเย้นหว่านเงียบๆ

เย้นหว่านกินข้าวแล้วมองคนอื่นๆ จากนั้นก็ถามว่า “ทำไมทุกคนถึงไม่กินล่ะ?”

เย้นโม่หลินตอบ “พวกเรากินก่อนเธอจะตื่นขึ้นมาแล้วล่ะ”

ที่แท้พวกเขาก็กำลังรอเธออยู่นี่เอง และกำลังรอฟ้ามืดด้วย

เย้นหว่านกินไปด้วยถามไปด้วยว่า “สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

“เกือบแล้วล่ะ”

เย้นโม่หลินพูด “ตั้งเป้าเส้นทางไว้แล้วล่ะ และเดาตำแหน่งทางเข้าได้คร่าวๆแล้ว รอฟ้ามืดสนิทก่อน พวกเราจะเข้าไปใกล้ช้าๆ เพื่อไม่เป็นจุดเด่น พวกนั้นไม่ได้วางไฟและเครื่องมือไฟฟ้าอื่นที่ส่องสว่างได้ไว้บนพื้นดินเลย แต่นี่ก็เป็นประโยชน์มากสำหรับพวกเราเหมือนกัน”

ดูแล้วเย้นโม่หลินกับคนอื่นคงสำรวจมาหมดแล้วสินะ

เย้นหว่านไม่ใช่แกนหลักในการเดินทางครั้งนี้ ควบคุมและวางแผนความปลอดภัยไม่ใช่หน้าที่เธอ เธอได้ยินแล้วก็ค่อยโล่งอกไปที พอสบายใจแล้วก็กินข้าวอร่อยขึ้นกว่าเดิมอีก

หลังจากกินอิ่มแล้ว ฟ้าก็มืดสนิทลงไปด้วย

เย้นหว่านเก็บข้าวของ เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็มองลงไปข้างล่าง

คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ ป่าทึบมืดไปหมด เห็นแค่เงารางๆเท่านั้น เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดมิด ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวในใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 1344 กระแสจิต

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 1344 กระแสจิต at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ป่ายฉีพูดอย่างเรียบเฉยว่า “ฉันรับรองได้ว่า หานจื่อต้องอยู่ที่นี่แน่นอน”

เย้นหว่านเลิกคิ้วขึ้น “นายเอาอะไรมารับรองกัน? หรือนายรับรู้ผ่านทางกระแสจิตหรือไง?”

ตั้งแต่ที่ป่ายฉีพูดแบบนี้ออกมา เย้นหว่านก็เชื่อทันที ที่เธอถามแบบนี้ ก็เพื่อคลายบรรยากาศที่ตึงเครียดลง

ป่ายฉีมองค้อนเธอแล้วพูดอย่างโมโห

“กระแสจิตบ้าบออะไรกัน ฉันไม่ได้เป็นอะไรกับหานจื่อสักหน่อย ที่ฉันติดเครื่องติดตามไว้บนตัวหานจื่อ เป็นเครื่องติดตามที่วิจัยขึ้นมาใหม่ล่าสุด ใส่เข้าไปในแผลของหานจื่อ แม้ว่าเครื่องอะไรก็ไม่สามารถตรวจสอบได้ ถ้าเครื่องติดตามนี้ออกจากตัวคนก็จะใช้การไม่ได้อีก”

ดังนั้นถ้าเครื่องติดตามนี้ออกจากตัวหานจื่อ ก็จะไม่มีทางพาพวกเขามาที่นี่ได้

แต่ในเมื่อเป็นแบบนี้ แล้วหานจื่ออยู่ที่ไหนล่ะ?

นึกถึงแหล่งกบดานที่ฝู้ยวนสร้างขึ้นครั้งก่อน โห้หลีเฉินก็พูดเสียงทุ้มว่า: “หานจื่ออยู่ด้านล่างใต้ดิน”

เย้นหว่านมุมปากกระตุกอย่างอดไม่ได้ “ไม่หรอกมั้ง? สร้างห้องปฏิบัติการใต้ดินในป่าทึบแบบนี้น่ะเหรอ? นี่เป็นเรื่องที่ลำบากมากเลยนะ ฝู้ยวนเก่งขนาดนั้นเชียว?”

ต่างกับการสร้างห้องปฏิบัติการใต้ดินในเมือง ในเมืองจะทำอะไรก็สะดวกสบายมาก การสร้างอะไรก็ง่ายไปหมด แต่ในป่าทึบนี้กลับแตกต่างออกไปเป็นโขเลย

อุปกรณ์การก่อสร้างต่างๆก็ยากที่จะนำเข้ามาได้ และยังเดินทางลำบากเพราะมีโคลนเกือบทุกที่ ไม่เหมาะกับการขุดและสร้างฐานไว้ใต้ดินเลย ไม่งั้นมีโอกาสสูงมากที่จะถล่มลงมา

นี่ก็เป็นเหตุผลที่พวกเขาไม่เคยคิดถึงความเป็นไปได้นี้เลย

“เขามีความสามารถนี้ไหม ตอนกลางคืนพวกเราลงไปก็จะรู้เอง” โห้หลีเฉินพูดเสียงทุ้ม

ตอนกลางวันมีแสงแดดส่องสว่างจ้าเกินไป จะทำอะไรก็ไม่สะดวก อีกอย่างที่นี่ก็ยังเป็นป่าทึบอีกด้วย ไม่รู้ว่าจุดไหนมีกล้องวงจรปิดหรือคนคอยสังเกตการณ์หรือเปล่า มีเพียงลงมือตอนกลางคืนเท่านั้นถึงจะปลอดภัยที่สุด

ว่าแล้ว โห้หลีเฉินก็ปูเสื่อลงบนพื้น แล้วดึงเย้นหว่านลงมานั่งด้วยกัน

“เดินมาทั้งคืนแล้ว เธอพักผ่อนและกินอาหารเพิ่มแรงหน่อยเถอะ”

โห้หลีเฉินเอาอาหารออกมาจากกระเป๋า แม้จะเป็นการจัดกระเป๋าแบบทหาร แต่ส่วนของเย้นหว่านก็มีข้าวเปล่าและผักสดใหม่ อุ่นอัตโนมัติก็กินได้แล้ว

ส่วนคนอื่นก็กินคุกกี้ง่ายๆ ขนาดป่ายฉียังกินแค่นี้เลย

เย้นหว่านถือกล่องข้าวไว้ เธอรู้สึกเกรงใจทุกคน “ทุกคนกินข้าวกล่องนี้ด้วยกันไหม?”

“ไม่ต้องหรอก พวกเขาแข็งแรงจะตาย ทนได้”

โห้หลีเฉินปฏิเสธคำแนะนำของเย้นหว่านทันที เขาเทซุปอุ่นๆจากกระบอกฉนวนที่เตรียมมาให้เย้นหว่าน

เย้นหว่านเห็นอาหารของตัวเองแล้ว ก็แทบจะเหมือนกับการออกมาปิกนิกเลย

เธอหน้าแดงระเรื่อ “คุณโห้ ในกระเป๋าของนายคงไม่ได้มีแต่อาหารของฉันใช่ไหม?”

ครั้งนี้ต้องเดินทางใกล้ แถมยังมีอันตรายรออยู่ข้างหน้าด้วย จำเป็นต้องแบกของสำคัญหลายอย่าง ในกระเป๋าเย้นโม่หลินก็มีอุปกรณ์จำเป็นเต็มไปหมด

โห้หลีเฉินพยักหน้าอย่างไม่มั่นใจ “อืม”

เย้นหว่านรู้สึกหมดคำจะพูด ในที่สุดก็ถึงรู้ว่า ทำไมป่ายฉีที่เป็นคนป่วยกระเป๋าเขาถึงได้ใหญ่ขนาดนั้น

คงเป็นของที่โห้หลีเฉินแบ่งให้พวกเขาแบกสินะ

แม้โห้หลีเฉินจะพูดแบบนี้แต่ก็มีเหตุผลของเขา ผู้ชายพวกนี้แข็งแรงจริงๆ กินคุกกี้แห้งๆก็เป็นเรื่องธรรมดาอยู่แล้ว อดทนได้แน่นอน

เธอก็เคยลำบากและเผชิญเหตุการณ์แบบนี้มาก่อน เธอสามารถกินคุกกี้กับทุกคนได้ แต่โห้หลีเฉินกลับรอบคอบมาก แน่นอนว่าเธอจะต้องสุขใจกับการดูแลของสามีตัวเอง

ความรู้สึกที่สู้ไปพร้อมกับโห้หลีเฉิน ทำให้เย้นหว่านรู้สึกมีความสุขและดีใจอย่างมาก

เธอดื่มซุปแล้วตักซุปป้อนให้โห้หลีเฉิน จากนั้นก็พูดเสียงอ่อนว่า “นายก็ดื่มด้วยสิ”

โห้หลีเฉินมองเธอด้วยแววตาลึกซึ้ง เขาอ้าปากแล้วดื่มเข้าไป

ป่ายฉีที่อยู่ข้างๆก็อดไม่ได้กุมท้องไว้ ทำท่าคลื่นไส้ “นี่ๆๆ หวานไปไหม ระวังหน่อยสิ ที่นี่ยังมีคนโสดอยู่เลยนะ! นี่มันผิดศีลธรรมมากเลยนะ”

เย้นหว่านพูดอย่างได้ใจ “งั้นนายก็จำแค้นครั้งนี้ไว้ด้วยล่ะ เดี๋ยวถ้านายหาแฟนได้ ก็เอากลับมาอวดพวกฉันสิ”

ป่ายฉี: “……” นี่มันยากกว่าการกินอาหารหมาจนอิ่มเสียอีก

มาถึงสถานที่เป้าหมายแล้ว ทุกคนสลับกันสังเกตการณ์ตอนกลางวัน ระวังรอบข้างไว้ ส่วนคนอื่นก็ตั้งแคมป์นอนพักผ่อนเอาแรง

เพราะยังไงพวกเขาก็ไม่ได้นอนมาทั้งคืนแล้ว แถมตอนกลางคืนยังมีศึกครั้งใหญ่อีก ตอนกลางวันเป็นเวลาเดียวที่พวกเขาพักผ่อนได้

พวกเขาใช้เต็นท์ที่ซ่อนได้อย่างมิดชิด เป็นสีเดียวกับต้นไม้ต้นหญ้ารอบๆ และมีขนาดเล็กมากด้วย สามารถนอนได้แค่คนเดียวเท่านั้น

แต่โห้หลีเฉินกลับนอนเบียดกับเย้นหว่านในนั้น

ป่ายฉีทนดูไม่ไหว “แสบตาจริงๆ”

เขามุดเข้าเต็นท์ตัวเองไปอย่างไม่พอใจ จากนั้นก็นอนในที่ที่ของตัวเอง

ภายในเต็นท์ โห้หลีเฉินกอดเย้นหว่านไว้แน่น แล้วกระซิบพูดกับเธอว่า “เบียดไปไหม?”

เย้นหว่านพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ถ้าเบียดล่ะก็ นายจะออกไปเหรอ?”

“ไม่ออก”

โห้หลีเฉินพูดอย่างมั่นใจ จากนั้นเขาก็กอดเย้นหว่านไว้แน่นกว่าเดิม “ฉันไม่รู้สึกว่าเบียดเลย ฉันอยากกอดเธอแบบนี้มากกว่า”

หลอมละลายเป็นเนื้อเดียวกันเลยก็ยิ่งดี

“แน่นอีกหน่อยฉันคงถูกนายรัดจนขาดอากาศหายใจแล้วล่ะ” เย้นหว่านหัวเราะแล้วด่าเขา แต่ก็ยังเขยิบเข้าไปในอ้อมกอดเขาอยู่ดี เธอหาท่านอนที่สบาย จากนั้นก็กอดเขาไว้แน่นๆ

โห้หลีเฉินกอดเธออย่างพึงพอใจ ไม่มีความเสียใจเลย เหมือนได้ครอบครองโลกทั้งใบ

หรืออาจเป็นเพราะถูกโห้หลีเฉินกอดไว้ มีเขาอยู่ข้างกาย ทำให้แม้เย้นหว่านจะอยู่ในป่า ก็ยังนอนหลับได้อย่างสบายใจ ตอนที่ลืมตาขึ้นมาอีกที ฟ้าก็มืดลงแล้ว

เย้นหว่านตื่นขึ้นมาแล้วมุดออกมาจากเต็นท์ เห็นเต็นท์คนอื่นเก็บกันหมดแล้ว โห้หลีเฉินก็กำลังถือกล่องข้าวร้อนๆรอตัวเองอยู่

เขาเห็นเธอตื่นแล้วก็ยิ้มหวานแล้วพูดว่า “ตื่นมาทันเวลาพอดีเลย เพิ่งอุ่นกับข้าวเสร็จเตรียมปลุกเธอพอดี”

“อาจจะเป็นเพราะใจตรงกันก็ได้”

เย้นหว่านมองดูกล่องข้าวอย่างเขินอาย ความหมายก็คือว่า อาจจะเป็นเธอกับอาหารที่ใจตรงกัน

โห้หลีเฉินไม่ได้ว่าอะไรเธอ เขาเรียกเธอไปนั่งข้างๆ แล้วยื่นอาหารที่อุ่นเสร็จแล้วให้เธอ

ตอนนี้เอง ถังจุ้ยเดินออกมา เก็บเต็นท์ของเย้นหว่านเงียบๆ

เย้นหว่านกินข้าวแล้วมองคนอื่นๆ จากนั้นก็ถามว่า “ทำไมทุกคนถึงไม่กินล่ะ?”

เย้นโม่หลินตอบ “พวกเรากินก่อนเธอจะตื่นขึ้นมาแล้วล่ะ”

ที่แท้พวกเขาก็กำลังรอเธออยู่นี่เอง และกำลังรอฟ้ามืดด้วย

เย้นหว่านกินไปด้วยถามไปด้วยว่า “สถานการณ์ตอนนี้เป็นยังไงบ้าง?”

“เกือบแล้วล่ะ”

เย้นโม่หลินพูด “ตั้งเป้าเส้นทางไว้แล้วล่ะ และเดาตำแหน่งทางเข้าได้คร่าวๆแล้ว รอฟ้ามืดสนิทก่อน พวกเราจะเข้าไปใกล้ช้าๆ เพื่อไม่เป็นจุดเด่น พวกนั้นไม่ได้วางไฟและเครื่องมือไฟฟ้าอื่นที่ส่องสว่างได้ไว้บนพื้นดินเลย แต่นี่ก็เป็นประโยชน์มากสำหรับพวกเราเหมือนกัน”

ดูแล้วเย้นโม่หลินกับคนอื่นคงสำรวจมาหมดแล้วสินะ

เย้นหว่านไม่ใช่แกนหลักในการเดินทางครั้งนี้ ควบคุมและวางแผนความปลอดภัยไม่ใช่หน้าที่เธอ เธอได้ยินแล้วก็ค่อยโล่งอกไปที พอสบายใจแล้วก็กินข้าวอร่อยขึ้นกว่าเดิมอีก

หลังจากกินอิ่มแล้ว ฟ้าก็มืดสนิทลงไปด้วย

เย้นหว่านเก็บข้าวของ เตรียมตัวพร้อมแล้ว ก็มองลงไปข้างล่าง

คืนนี้ไม่มีพระจันทร์ ป่าทึบมืดไปหมด เห็นแค่เงารางๆเท่านั้น เป็นเหมือนสัตว์ร้ายที่หลบซ่อนอยู่ในความมืดมิด ทำให้คนรู้สึกหวาดกลัวในใจ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+