สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 169 การข่มกันของผู้หญิง

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 169 การข่มกันของผู้หญิง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 169 การข่มกันของผู้หญิง

เย้นหว่านหยุดเท้า เธอหันกลับไปมองมู่หรุงชิ่น ใบหน้าเธอเริ่มซีดขึ้นมาเล็กน้อย

หัวใจของเธอขยับเล็กน้อย เธอแสร้งทำเป็นอายและพูดว่า

“ยังมีรอยช้ำเล็กๆน้อยๆค่ะ แต่โห้หลีเฉินบอกว่าอย่าเพิ่งเดิน เวลาไปไหนมาไหนเขาจึงต้องคอยอุ้มฉัน”

ยิ่งเพิ่มความประหลาดใจให้กับมู่หรุงชิ่น “โห้หลีเฉินเป็นคนอุ้มเธอขึ้นๆลงๆงั้นหรือ?”

เย้นหว่านพยักหน้า

เธอสังเกตเห็นมู่หรุงชิ่นมีสีหน้าที่เปลี่ยนไป จากนั้นก็กดเสียงให้ต่ำลง “แผลที่อยู่บนร่างกายฉันก็มีโห้หลีเฉินเป็นคนช่วยดูแลเองให้ทั้งหมด”

เย้นหว่านจ้องหน้ามู่หรุงชิ่น และถามอย่างช่วยไม่ได้

“ตอนที่คุณประสบอุบัติเหตุทางรถยนต์ครั้งนั้น โห้หลีเฉินก็ดูแลคุณแบบนี้ไม่ใช่หรือ?”

มู่หรุงชิ่นตัวแข็งทื่อ แววตาสัมผัสได้ถึงความผิดหวังอย่างรวดเร็ว

อุบัติเหตุทางรถยนต์ในครั้งนั้นที่เกือบจะเอาชีวิตไม่รอด ทำให้โห้หลีเฉินหันมาสนใจเธอได้เพียงเล็กน้อย เขาแค่มาเยี่ยมเธอและสัญญาว่าในอนาคตจะดูแลเธอ แค่นี้เธอก็พอใจมากแล้ว

เธอคิดว่าโห้หลีเฉินก็เป็นคนแบบนี้อยู่แล้ว นี่เป็นสิ่งที่เขาทำได้มากที่สุด และอบอุ่นที่สุดที่เขาสามารถทำให้ผู้หญิงคนหนึ่งได้

เธอภูมิใจและพอใจกับมันมาตลอด

แต่ตั้งแต่ได้เจอกับเย้นหว่าน ทุกอย่างก็สูญเสียความสมดุล

ตอนนั้นเธอได้รับบาดเจ็บสาหัสและไม่สามารถลุกขึ้นยืนได้ แต่โห้หลีเฉินกลับไม่เคยประคองเธอแม้แต่ครั้งเดียว

แล้วตอนนี้ล่ะ เย้นหว่านเป็นแผลเล็กๆน้อยๆตรงเท้า โห้หลีเฉินถึงกับอุ้มขึ้นอุ้มลง ทำเหมือนกับเธอเป็นตุ๊กตากระเบื้องเคลือบลายครามที่กลัวว่าเธอจะเจ็บหรือหกล้ม

ซึ่งตรงกันข้ามกับเธอ ภายในใจของโห้หลีเฉิน เธอไม่ได้มีความสำคัญมากไปกว่าหญ้าต้นหนึ่ง

เย้นหว่านสังเกตพฤติกรรมของมู่หรุงชิ่นที่แสดงออกมา และยังสังเกตเห็นความสูญเสียผ่านทางแววตาของมู่หรุงชิ่น

เธอลังเลและถามด้วยความประหลาดใจเล็กน้อย

“คุณมู่หรุง หรือว่าโห้หลีเฉินไม่ได้ดูแลคุณแบบนี้?”

มันทำให้เธอนึกย้อนไปตอนที่เข้ารับการรักษาตัวกับป่ายฉี มู่หรุงชิ่นเพิ่งจะเข้าไปรับการรักษา และตอนที่เธอต้องการจะถอดใจไม่ทำการรักษา โห้หลีเฉินกลับให้เว่ยชีมาอยู่ดูแลเธอ

อย่างไรก็ตามโห้หลีเฉินก็ยังไปตรวจสุขภาพเป็นเพื่อนเธอซึ่งมันไม่ได้สำคัญอะไร

ในตอนนั้นเย้นหว่านก็คิดว่ามันแปลกๆ เธอมองปฏิกิริยาของมู่หรุงชิ่นในตอนนี้ ความคิดที่อยู่ภายในใจเย้นหว่านก็แทบหลุดออกมา

เมื่อเห็นความสงสัยผ่านทางแววตาของเย้นหว่าน มู่หรุงชิ่นก็เรียกสติกลับมาได้และกลุ้มใจเล็กน้อย

เธอบอกว่า “แน่นอนว่าเฉินดูแลเอาใจใส่ฉันอย่างดี เขาก็เป็นคนแบบนี้แหละ ภายนอกดูเย็นชา แต่ที่จริงแล้วเป็นคนอ่อนโยนมาก เขามักจะรู้สึกผิดอยู่เสมอ ดังนั้นพอเขาเห็นเธอเป็นแบบนี้ก็เลยต้องดูแลเธอเป็นอย่างดี”

น้ำเสียงของเธอสงบและใจกว้างราวกับว่าไม่ได้คิดอะไรกับเย้นหว่าน

มันยิ่งทำให้เธอดูเป็นคนรักมากขึ้น

คราวนี้เย้นหว่านกลับไม่ได้เป็นเหมือนหลายครั้งก่อนหน้านี้ ในใจเธอพยายามหลีกเลี่ยงความสงสัยและความไม่สบายใจ

เธอมองมู่หรุงชิ่นตรงๆและพูดว่า “คุณมู่หรุง อันที่จริงฉันกับโห้หลีเฉินก็เป็นชายโสดหญิงม่ายที่อยู่ในห้องเดียวกัน…คุณจะไม่หึงเลยหรือ?”

มู่หรุงชิ่นยิ้มหน้าแข็งค้าง

หึงงั้นหรือ แน่นอนว่าเธอหึง แต่เธอกลับไม่มีคุณสมบัติที่จะหึงด้วยซ้ำ

เธอแสร้งทำเป็นคนใจกว้างและพูดว่า “เธอเล่นบทเป็นคู่หมั้นกำมะลอกับเฉินได้ ฉันก็รู้สึกขอบคุณเธอมากแล้ว แม้ว่าฉันกับเฉินจะเป็นคนรักกันจริง แต่เธอก็เป็นคู่หมั้นในนามของเขา ถ้าเธอคิดจะแย่งเขาไป ฉันก็ไม่โทษเธอ

แค่เธอเต็มใจคอยสนับสนุนเขา ฉันก็ซาบซึ้งใจเธอมาโดยตลอด

เฉินยังบอกฉันว่าเธอจะไม่มีวันยอมรับคำขอแต่งงานของเขา”

เย้นหว่านใจสั่นไปชั่วขณะ เธอลืมเรื่องนี้ไปได้สักพักแล้ว ไม่คิดว่าตอนนี้มู่หรุงชิ่นจะยกมันขึ้นมาพูดอีกครั้ง

คิ้วสวยของมู่หรุงชิ่นดูเศร้าใจเล็กน้อย แต่กลับแฝงไปด้วยการยอมแพ้ต่อความรักที่ลึกซึ้ง

“เสี่ยวหว่าน เธอรู้เรื่องราวระหว่างฉันกับเฉิน และเธอก็เป็นเจ้าสาวที่คุณย่าโห้เป็นคนเลือก สำหรับฉันแล้วการแต่งงานระหว่างเธอกับเฉินจึงเป็นทางเลือกที่ดีที่สุด หากเฉินจะต้องแต่งงานกับใครสักคน ฉันยอมรับ…หากคนคนนั้นคือเธอ”

“ยอมให้เป็นฉัน? เพราะฉันเต็มใจหมั้นหลอกๆกับโห้หลีเฉิน แล้วจะเต็มใจแต่งงานหลอกๆกับเขางั้นหรือ? เพราะฉันรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกคุณ ดังนั้นคุณก็เลยไม่กังวลว่าฉันจะมีความรู้สึกกับโห้หลีเฉินหรือกวนใจเขาในอนาคตใช่ไหม?”

เย้นหว่านถามอย่างห้วนๆดวงตาของเธอยังคงคมกริบ

มู่หรุงชิ่นตกใจเพราะเธอไม่คิดว่าเย้นหว่านที่เคยอ่อนแอ ทำไมอยู่ๆถึงกลายเป็นแบบนี้ขึ้นมา

ด้วยการถูกเลี้ยงดูมาอย่างดีทำให้เธอยังคงรักษาสีหน้าท่าทางที่แสดงออกมา

“เสี่ยวหว่าน เธออย่าคิดแบบนั้น ฉันไม่ได้ตั้งใจที่จะเอาเปรียบเธอ แต่เธอกับเฉินทำสัญญากันตั้งแต่แรกแล้ว ดังนั้นฉันจึงคิดว่าฉันรับได้ที่พวกเธอจะทำสัญญาแต่งงานกันต่อ แน่นอนว่าฉันไม่ได้ต้องการบังคับเธอ หากเธอไม่อยากแต่ง ฉันกับเฉินก็บังคับเธอไม่ได้”

มู่หรุงชิ่นพูดแต่ละประโยคแต่ละคำด้วยความจริงใจ อันที่จริงเป็นการทำให้คนอื่นเชื่อเสียมากกว่า

ทว่า…

ดูเหมือนว่าโห้หลีเฉินไม่ได้บังคับให้เธอแต่งงานสินะ

หลังจากปฏิเสธไปในครั้งที่แล้ว โห้หลีเฉินยังคงพยายามขอเย้นหว่านแต่งงาน เขาใช้หลากหลายวิธี ไม่ว่าจะเป็นวิธีที่นุ่มนวลหรือแข็งกระด้าง เขายังคงยืนยันต่อไปว่าจะต้องแต่งงานกับเธอ

แม้ตอนนี้ทั้งสองฝ่ายจะหมั้นกันได้สักระยะหนึ่งแล้ว และมองว่าไม่ได้เป็นเรื่องเล่นๆ

โห้หลีเฉินคนนี้เป็นคนที่ไม่อาจหลีกเลี่ยงได้

อย่างไรก็ตามมู่หรุงชิ่นกลับบอกว่าโห้หลีเฉินบังคับเธอไม่ได้ นี่เป็นการปลอบใจเย้นหว่านอยู่หรือเปล่า หรือเธอไม่รู้ความคิดที่แท้จริงของโห้หลีเฉิน

เย้นหว่านหรี่ตามองมู่หรุงชิ่น เสียงเธอเบาลง

แต่แฝงไปด้วยความจริงจัง“ถ้าฉันอยากแต่งกับเขาล่ะ”

มู่หรุงชิ่นตัวแข็งในทันที หน้าสวยๆของเธอซีดเผือด

เธอมองไปที่เย้นหว่านด้วยสายตาหวั่นใจ เสียงของเธอดังขึ้นอย่างไม่สามารถควบคุมได้เหมือนไม่อยากจะเชื่อ

“เธออยากแต่งงานกับเขา?”

เย้นหว่านนิ่งไปสักพักราวกับทำสงครามประสาทเล็กน้อย และในที่สุดก็ตัดสินใจและพูดว่า

“คุณเคยพูดไว้ก่อนหน้านี้แล้วนี่…ถ้าฉันต้องการต่อสู้เพื่อความสัมพันธ์นี้ คุณจะยอมให้ฉัน เพราะอย่างไรฉันก็เป็นภรรยาทางนิตินัยของโห้หลีเฉิน”

“แต่นั่นเป็นแค่การพูดเอาใจเธอต่างหากล่ะ!”

มู่หรุงชิ่นไม่สามารถรักษาสีหน้าไว้ได้อีกต่อไป เธอพูดประโยคนั้นออกมาโดยไม่ได้ไตร่ตรอง

พอพูดเสร็จ เธอก็ชะงัก

เย้นหว่านมองเธอตรงๆอย่างครุ่นคิด “ที่แท้คุณมู่หรุงกำลังพูดโกหก”

มู่หรุงชิ่นทำเป็นคนใจดีใจกว้างทุกรูปแบบตั้งแต่แรกเริ่มเพื่อเห็นแก่ความรู้สึกของเธอและโห้หลีเฉิน แต่ดูเหมือนว่ามันเป็นเพียงแค่การเสแสร้ง

หลังจากลองใจไปแล้ว ทุกอย่างก็เผยออกมา

ในเมื่อเธอเสแสร้งแบบนี้ แล้วเรื่องอื่นๆที่เธอพูดจะมีเรื่องไหนจริง เรื่องไหนเท็จบ้าง?

เย้นหว่านมองมู่หรุงชิ่นที่กำลังกระวนกระวายด้วยความสงสัย มู่หรุงชิ่นรู้สึกว่าเรื่องที่เธอพยายามโกหกกำลังจะถูกเปิดเผยโดยอีกฝ่าย

ถ้าเรื่องถูกเปิดเผยออกมา…

เธอไม่กล้าคิดถึงผลลัพธ์

หากเย้นหว่านนำเรื่องนี้ไปบอกกับโห้หลีเฉิน ด้วยนิสัยของโห้หลีเฉินแล้ว เกรงว่าเธอไม่อาจเป็นได้แม้แต่สถานะเพื่อน

และเย้นหว่านอาจจะใช้โอกาสนี้แต่งงานกับโห้หลีเฉิน

ไม่

เธอรับไม่ได้

อยู่ๆขอบตาของมู่หรุงชิ่นเริ่มแดงขึ้น เธอเกือบจะก้าวไปข้างหน้าและคว้ามือเย้นหว่าน

เธอพูดด้วยน้ำเสียงเรียบเฉยและเศร้าใจ “เสี่ยวหว่าน ฉันไม่ได้ตั้งใจจะพูดแบบนั้น เธอก็รู้ว่ามันเป็นความแก่เห็นตัว เฉินรักฉันมากและฉันก็รักเขามาก ฉันจะยกเขาให้คนอื่นไปจริงๆได้อย่างไร? เธอเป็นผู้หญิง เธอก็น่าจะเข้าใจฉันนี่ ใช่ไหม?”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด