สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 170 คำมั่นสัญญาของผู้ชาย

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 170 คำมั่นสัญญาของผู้ชาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 170 คำมั่นสัญญาของผู้ชาย

เนื่องจากมู่หรุงชิ่นเป็นคนสวยและสูงส่ง พอเธอร้องไห้ด้วยความเสียใจแบบนี้แล้ว มันทำให้ใจคนหวั่นไหวได้ง่ายๆ

แต่ความสงสัยทั้งหมดได้สะสมอยู่ภายในใจเย้นหว่านแล้ว

เธอจะไม่เชื่อใจมู่หรุงชิ่นง่ายๆแบบนั้นอีกแล้ว

แม้เธอจะไม่รู้ว่าความจริงคืออะไรกันแน่ แต่ดูเหมือนว่าจะไม่ได้เป็นไปตามที่มู่หรุงชิ่นพูด

ถึงเธอกับโห้หลีเฉินจะเป็นคนรักกัน แต่คงไม่ใช่คนที่รักกันถึงขนาดนั้นอย่างแน่นอน

“คุณมู่หรุง คุณก็พูดเองนี่ ว่าความรักระหว่างชายหญิงล้วนเป็นเรื่องเห็นแก่ตัว โห้หลีเฉินเป็นคนหล่อและโดดเด่นเสียขนาดนั้น จะมีผู้หญิงสักกี่คนที่สามารถต้านทานเสน่ห์ของเขาหรือไม่ชอบเขาได้ล่ะ? ฉันเองก็เป็นมนุษย์คนหนึ่ง ฉันก็หวั่นไหวเหมือนผู้หญิงคนอื่นๆ ถ้าฉันได้แต่งงานกับโห้หลีเฉิน ฉันก็คงไม่ยอมให้คุณกับเขาได้อยู่ด้วยกันหรอก ดังนั้นถือโอกาสตอนที่ยังไม่สายเกิน คุณไปคุยกับโห้หลีเฉินดีดีเถอะ ให้เขาถอนหมั้นกับฉัน”

“แต่ว่า…”

มู่หรุงชิ่นขมวดคิ้วแน่น เธอมีความรู้สึกซับซ้อน

เธอไม่สามารถพูดเรื่องการถอนหมั้นออกไปได้

เย้นหว่านขมวดคิ้วมองมู่หรุงชิ่น และพูดต่อ “คุณมู่หรุง หรือว่าคุณก็ไม่สามารถเกลี้ยกล่อมโห้หลีเฉินได้?”

“จะเป็นไปได้อย่างไรล่ะ!”

มู่หรุงชิ่นตอบโต้อย่างไม่คิดด้วยสีหน้าหนักแน่น

เธอคิดว่าเย้นหว่านกำลังสงสัยเธอแล้ว ถ้าเธอเปิดเผยตัวเองในเวลานี้ จะเป็นการยืนยันข้อพิสูจน์ของเย้นหว่านได้โดยตรง

เธอจึงพยายามเล่นละครฉากนี้ต่อไป

“ถึงอย่างไรตระกูลโห้ก็เป็นตระกูลร่ำรวยอันดับต้นๆแห่งเมืองเฉิงหนาน เรื่องการแต่งงานของเฉินเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าอยู่ๆต้องถอนหมั้นกะทันหันจะต้องได้รับผลกระทบอย่างมาก เธอจะต้องให้เวลาเขาจัดการ และด้วยนิสัยของเฉิน ฉันก็ต้องใช้เวลาพยายามเกลี้ยกล่อมเขาอยู่หลายครั้ง”

“อืม งั้นคงต้องรบกวนคุณมู่หรุงแล้ว”

เย้นหว่านยิ้มอย่างสุภาพ จากนั้นก็ดึงมือออกมาจากมู่หรุงชิ่น เธอเดินไปที่เคาน์เตอร์เครื่องดื่มแล้วเทน้ำผลไม้ใส่แก้ว

จากนั้นก็ยื่นให้มู่หรุงชิ่น “ดื่มหน่อยไหม?”

“ไม่ต้องหรอก เธอพักผ่อนเถอะ ฉันต้องไปแล้ว”

หลังจากที่พูดจบ มู่หรุงชิ่นก็เดินออกไปข้างนอกโดยไม่หันกลับมามองข้างหลัง เธอเดินอย่างรีบร้อนราวกับว่าเธอไม่ต้องการอยู่ที่นี่แม้แต่วินาทีเดียว

เธอใจฝ่อจนดูลุกลี้ลุกลนอย่างช่วยไม่ได้

เดิมทีเธอเตรียมการมาอย่างดีแล้วเพื่อที่จะโกหกเย้นหว่าน แต่ไม่รู้ว่ามีอะไรผิดพลาดถึงทำให้เย้นหว่านเริ่มสงสัยในตัวเธอ

หรือเย้นหว่านตกหลุมรักโห้หลีเฉินไปแล้ว ก็เลยจะประกาศสงครามกับเธอ?

ไม่ว่าจะอย่างไร แต่ที่แน่ๆจะต้องไม่ใช่เรื่องดีสำหรับเธอ

เธอต้องหาวิธีจัดการกับเรื่องนี้ เธอจะไม่มีวันยอมให้เย้นหว่านได้แต่งงานกับโห้หลีเฉินเป็นอันขาด

ของของเธอ คนที่เธอรัก แม้ว่าชาตินี้เธอจะไม่ได้แต่งงานกับโห้หลีเฉิน เธอก็ยอม

จากนั้นมู่หรุงชิ่นก็เดินไปยังห้องรับแขก โห้หลีเฉินจึงลุกขึ้นทันทีเพื่อส่งแขก

ฉินฉู่รู้ดีว่าโห้หลีเฉินจะต้องไปอยู่เป็นเพื่อนเย้นหว่าน แม้ปากจะโอดครวญว่า “เห็นเมียดีกว่าเพื่อน” แต่เขาก็จากไปอย่างเข้าใจ

จากนั้นโห้หลีเฉินก็กลับมาที่ห้อง

เย้นหว่านยังคงถือแก้วน้ำผลไม้ไว้ในมือโดยไม่ได้ดื่ม เธอไม่คิดว่าโห้หลีเฉินจะขึ้นมาเร็วขนาดนี้

เธอหรี่ตาอย่างครุ่นคิด

“คุณขึ้นมาทำไม?”

“พวกเขาไปกันหมดแล้ว”

โห้หลีเฉินตอบกลับอย่างเป็นธรรมชาติ และเดินไปที่เตียงของเย้นหว่าน

เย้นหว่านถาม “มู่หรุงชิ่นไม่ได้ไปหาคุณหรือ? ฉันยังคิดว่าพอพวกฉินฉู่ไปแล้ว คุณจะได้อยู่คุยกับมู่หรุงชิ่นตามลำพัง”

“ฉันจะต้องคุยอะไรกับเธอ”

ในขณะที่โห้หลีเฉินพูดก็นั่งลงบนเตียง

เขาพิงลงพนักเตียงแล้วยื่นมือรับเย้นหว่านเข้าสู่อ้อมแขนตัวเอง

การเคลื่อนไหวของเขาเป็นไปอย่างคุ้นเคย

ในช่วงไม่กี่วันที่ผ่านมา เย้นหว่านก็โดนเขากอดจนชินแล้ว แต่พอนึกถึงมู่หรุงชิ่นที่เข้ามาที่นี่เมื่อกี้นี้ เธอก็รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย

แม้เธอจะสงสัยในเรื่องนี้ แต่ท้ายที่สุดแล้วก็ไม่รู้ว่าความจริงคืออะไรกันแน่

ระหว่างโห้หลีเฉินและมู่หรุงชิ่นมีความสัมพันธ์อะไรกัน

เธอยืดหลังตรงและขยับออกห่างจากโห้หลีเฉิน

เธอพูดว่า “มู่หรุงชิ่นบอกว่าจะเกลี้ยกล่อมคุณให้ถอนหมั้นกับฉัน”

ใบหน้าของโห้หลีเฉินเริ่มเปลี่ยนเป็นอึมครึม เขาจ้องตาเย้นหว่าน

และพูดด้วยอารมณ์ไม่สู้ดี “เธอยังคิดจะถอนหมั้นอยู่อีกหรือ?”

คอยให้มู่หรุงชิ่นมาเกลี้ยกล่อมเธอ? จะมีประโยชน์อะไร

เย้นหว่านพยักหน้า และพูดกับโห้หลีเฉินอย่างจริงจัง “มู่หรุงชิ่นก็เห็นด้วย”

“ไม่ว่าเธอหรือใครหน้าไหนจะเห็นด้วยหรือไม่ เย้นหว่าน…ฉันจะแต่งงานกับเธอ”

น้ำเสียงทุ้มต่ำของโห้หลีเฉินฟังดูเผด็จการ

เขาโน้มตัวไปข้างหน้า และจูบริมฝีปากของเย้นหว่านที่เหมือนอยากจะพูดอะไรต่อ

“ฮึก!”

เย้นหว่านไม่ได้เตรียมตัวตั้งรับสัมผัสที่นุ่มนวลและอบอุ่นบนริมฝีปาก เธอตกใจจนสมองขาวโพลน

ทำไมอยู่ๆโห้หลีเฉินถึงจูบเธอแบบนี้?

พอเธอรู้สึกตัวก็พยายามดิ้นและผลักเขาออก แต่โห้หลีเฉินกลับยึดไหล่เธอไว้และดึงเธอเข้าสู่อ้อมกอด

จูบของเขารุนแรงขึ้น ริมฝีปากและลิ้นของเขาทะลวงเข้าไปในแอ่งน้ำในปากของเธอเหมือนกำลังถูกช่วงชิงอะไรบางอย่าง

การครอบงำเหมือนเป็นการป่าวประกาศว่านี่คืออาณาเขตของเขา

เย้นหว่านโดนจูบจนแทบทนไม่ไหว สมองขาวโพลน ร่างกายอ่อนยวบ ปฏิกิริยาของร่างกายทั้งหมดไม่สามารถควบคุมได้ เหมือนเขากำลังกอดโคลนไว้ในอ้อมแขน

ไม่รู้ว่าจูบไปนานเท่าไหร่ เย้นหว่านหายใจเหนื่อยหอบหลังจากที่โดนจูบราวกับฝนโปรยปราย โห้หลีเฉินจำต้องยอมปล่อยเธออย่างไม่เต็มใจ

เขากอดเธอที่อ่อนยวบในอ้อมแขน เสียงต่ำของเขาไม่อาจต้านทานได้

“ฉันจะแต่งงานกับเธอ”

ไม่มีใครปฏิเสธได้ แม้แต่เย้นหว่าน

คำมั่นสัญญาเป็นเหมือนค้อนหนัก ทุกคำทุกประโยคทุบลงไปในหัวใจของเธอ

——

เย้นซินถือโอกาสตอนที่เย้นหว่านกำลังบาดเจ็บไปเสิร์ฟกาแฟและของว่างให้โห้หลีเฉิน ไม่ง่ายเลยที่จะมีโอกาสอยู่กับโห้หลีเฉินในห้องหนังสือตามลำพัง

อย่างไรก็ตามโห้หลีเฉินกลับไม่มองเธออยู่ในสายตา อีกทั้งยังไม่ยอมให้เธออยู่ที่นั่นนาน

ด้วยเหตุนี้เธอกับโห้หลีเฉินจึงยังไม่มีความคืบหน้าใดๆ

หากยังเป็นแบบนี้ต่อไป เธอกลัวว่าพอถึงวันที่โห้หลีเฉินกับเย้นหว่านแต่งงานกัน เธอจะไม่มีโอกาสจับโห้หลีเฉินได้สำเร็จ

เย้นซินร้อนใจและตัดสินใจที่จะไม่รอให้เป็นเช่นนี้อีกต่อไป

เธอคิดแล้วตัดสินใจ

เธอฉวยโอกาสตอนที่โห้หลีเฉินไม่อยู่แล้วเข้าไปในห้องเย้นหว่าน

หลังจากที่พูดคุยกับเย้นหว่านเสร็จ เธอก็พูดขึ้นมาว่า

“พี่ ฉันขอยืมชุดกระโปรงสีฟ้าตัวนั้นได้ไหม? เพราะเพื่อนที่โรงเรียนจัดงานเลี้ยงกันกะทันหัน เสื้อผ้าฉันเพิ่งซักก็เลยแห้งไม่ทัน”

ชุดกระโปรงนั้นเป็นชุดที่เย้นหว่านออกเงินซื้อเองจึงค่อนข้างดูดี ใส่ออกมาแล้วก็จะไม่ดูเสียหน้า

ชุดนั้นเป็นชุดที่เย้นหว่านชอบใส่บ่อยๆ เย้นซินใส่ไปงานเลี้ยงก็เหมาะดีเหมือนกัน

เธอพยักหน้าตกลง “อยู่ในห้องแต่งตัว เธอเข้าไปหยิบสิ”

“อืม”

เย้นซินรีบเข้าไปอย่างรวดเร็ว

หลังจากเข้าไปในห้องแต่งตัว เธอก็ต้องประหลาดใจอย่างมากเมื่อได้เห็นการตกแต่งภายใน

เดิมทีคิดว่าเย้นหว่านพักอยู่ในบ้านโห้หลีเฉินเป็นการชั่วคราวเหมือนกับเธอ เธอคงสวมชุดที่พกมาจากบ้านเท่านั้น อย่างมากที่สุดโห้หลีเฉินอาจจะเพิ่มให้เธอแค่ไม่กี่ชุด

แต่ไม่คิดมาก่อนเลยว่าห้องแต่งตัวที่ใหญ่โตโอ่อ่าห้องนี้จะมีเสื้อผ้าของผู้หญิงเกือบครึ่งห้อง และทั้งหมดล้วนเป็นของเย้นหว่าน

มีแม้กระทั่งกระเป๋าแบรนด์เนม รองเท้า แว่นกันแดด …

เรียกได้ว่ามีครบทุกอย่างที่ผู้หญิงต้องใช้ ทั้งยังเป็นของดีทั้งนั้น เหมือนสั่งตัดมาเพื่อเย้นหว่านโดยเฉพาะ

เย้นหว่านมาพักอยู่ที่นี่เพียงชั่วคราว หรือเธอมาเป็นนายหญิงที่นี่กันแน่!

นี่ยิ่งทำให้เย้นซินรู้สึกอิจฉา เธอแอบสัญญากับตัวเองว่าทั้งหมดจะต้องตกเป็นของเธอในเร็วนี้ๆ

เธอมองไปรอบๆห้อง จากนั้นก็หาชุดกระโปรงสีฟ้าของเย้นหว่าน พอเจอแล้วจึงหยิบมันออกมา

เย้นหว่านยังอยู่ในช่วงพักฟื้นจึงนั่งเล่นโทรศัพท์อยู่บนเตียง เธอไม่คิดว่าการให้เย้นซินยืมชุดในครั้งนี้ ต่อไปจะเกิดอะไรขึ้น…

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด