สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 257 ผู้หญิงของเขาช่างน่าสนใจ

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 257 ผู้หญิงของเขาช่างน่าสนใจ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่257 ผู้หญิงของเขาช่างน่าสนใจ

เย้นหว่านรีบสะบัดความคิดออกจากหัว ก่อนจะหยิบตะเกียบขึ้นมาเตรียมจะรับประทานอาหาร

กำลังจะคีบอาหาร เธอก็กลับสังเกตได้ว่าที่ตรงหน้าของโห้หลีเฉินมีอาหารที่เขาไม่ชอบวางอยู่หนึ่งจาน

โรงแรมถึงแม้ว่าจะเห็นอกเห็นใจส่งข้าวมาให้ทาน ซึ่งนั่นก็น่าจะเป็นของที่จัดเตรียมไว้ ไม่ได้สั่งอาหาร จึงไม่ได้ดูแลถึงความชื่นชอบ หรือรสชาติ แต่เย้นหว่านรู้ว่าโห้หลีเฉินคนนี้นั้นเป็นคนที่ค่อนข้างจะจุกจิก

ดังนั้นเธอจึงยื่นมือเข้าไปหยิบอาหารจานนั้นของเขาออกมาและวางไว้ในตำแหน่งที่ห่างที่สุด

จากนั้นก็เลือกหยิบเอาอาหารที่โห้หลีเฉินค่อนข้างชอบไปวางไว้ให้แทน

การเคลื่อนไหวของเธอนั้นมันดูเจริญตาและมีทักษะสูง

ทำให้โห้หลีเฉินต้องชะงักมือและมองไปที่เธอ

พอวางให้เรียบร้อยแล้ว เย้นหว่านก็ช้อนตาเห็นโห้หลีเฉินกำลังมองอยู่ เธอจึงตกใจเล็กน้อย เพิ่งจะมารู้ตัวในสิ่งที่ทำไป

เมื่อครู่เธอไม่ได้อยากที่จะเปลี่ยนกับข้าวให้กับโห้หลีเฉิน แต่มือมันไปเองอัตโนมัติิ

มันก็เหมือนกับนิสัยพิเศษของเธอเวลาที่ได้อยู่ใกล้เขานั้นแหละ

แต่มันก็ออกจะ…..น่าอายหน่อยๆ

ใบหน้าของเธอแดงระเรื่อขึ้นมา เย้นหว่านกะพริบตามองไปทางโห้หลีเฉินก่อนจะพูดอย่างกระอึกกระอักออกมาอยู่ไม่กี่คำ

“ขอโทษที มันเคยหน่ะ” เวลาเพียงสั้นนั้นมันไม่อาจเปลี่ยนแปลงได้

โห้หลีเฉินมองลึกลงไปในดวงตาของเธอ แววตาวาววับ

เขาพูดด้วยเสียงเบาๆ “ดีจริง”

ใบหน้าของเย้นหว่านแดงระเรื่อ ยิ่งรู้สึกไม่เป็นตัวเองเข้าไปอีก

เธอรีบหันสายตาเบนออกทันที เธอไม่กล้ามองโห้หลีเฉินอีกแล้ว จึงรีบก้มหน้าก้มตาลงเริ่มกินข้าว

โห้หลีเฉินมองไปที่หัวที่ก้มงุดๆ ของเย้นหว่าน ราวกับพอจะจินตนาการถึงความอับอายของเธอได้อย่างไรอย่างนั้น ริมฝีปากของเขาจึงอดที่จะกระตุกยิ้มขึ้นไม่ได้

ที่แท้เธอเองก็ไม่ใช่ว่าจะไม่รู้สึกอะไรกับเขาเลย

เขาที่อยู่ในอารมณ์ที่ดี อีกทั้งยังอาหารรสชาติดีพ่วงเข้าไปอีกก็หยิบตะเกียบขึ้นมาคีบและกินอาหารอย่างสง่างาม

อาหารมื้อนี้ เป็นการรับประทานที่มีอารมณ์หลากเหลือหลาย

ถึงแม้ว่าอาหารจะอร่อย เย้นหว่านกลับกินอย่างไม่ลืมหูลืมตา พอกินเข้าไปอย่างไม่พักจนเสร็จเธอก็วางตะเกียบลง

“คุณโห้ ฉันกินเสร็จแล้ว คุณกินต่อเลยนะ ฉันขอตัวไปพักก่อนหล่ะ”

พูดจบเย้นหว่านก็หมุนตัวเดินก้มหัวงุดๆ ตรงไปยังโซฟาที่เธอได้จองเอาไว้

ในใจยังมีความหดหู่อย่างที่ไม่สามารถจะบรรยายได้อยู่ ไอ้เจ้ามือบ้า ความเคยชินบ้าๆ เกือบจะฆ่าคนตายอยู่แล้วไหมหล่ะ

โห้หลีเฉินเองก็วางตะเกียบลงก่อนจะเช็ดปากด้วยผ้าอย่างสง่างาม

ดวงตาของเขาประกายขัน จ้องมองไปยังเย้นหว่าน

เย้นหว่านมองหาผ้าห่มผืนบาง เพื่อปกปิดร่างกาย ก่อนจะนอนลงโซฟาและปิดตาลงพร้อมจะนอน

นอนห้องเดียวกันกับโห้หลีเฉินทำให้หัวใจของเธอเต้นระรัว

ราวกับความง่วงมันอันตรธานหายไปหมดสิ้น

เย้นหว่านพยายามข่มใจ ทำตัวให้พร้อมแก่การนอนหลับ แต่เธอยังไม่ทันจะนอนหลับ หูก็ได้ยินเสียงดังขึ้นที่ข้างโซฟาเบาๆ

มันเป็นเสียงของคนนั่งลงมาบนโซฟา

โห้หลีเฉินมานั่งข้างๆ นี่ทำไมกัน?

เย้นหว่านเริ่มรู้สึกประหม่าขึ้นมา อารมณ์ง่วงอะไรก็ไม่มีแล้ว ขนตาของเธอสั่นระริก อยากที่จะลืมตามองสักหน่อย

แต่กลับรู้สึกว่าถ้าหากเธอลืมตาขึ้นมาจะต้องตรงกับเขาอย่างแน่นอน แบบนี้มันจะไม่รู้สึกเขินๆ อย่างนั้นหรอ?

กวนใจเป็นบ้า

เย้นหว่านลังเลอยู่ชั่วครู่ ก่อนจะแกล้งดิ้นพลิกตัวไปหันหน้าไปทางด้านข้างโซฟา

จากนั้นก็ค่อยๆ หรี่ตามองน้อยๆ แอบมองไปที่แหล่งกำเนิดเสียง

ดูเพียงเท่านั้น เธอก็ชะงักด้วยความประหลาดใจ

เธอเห็นเพียงแสงที่ส่องมาทางหน้าต่างเข้ามาตกกระทบที่ไหล่ของชายหนุ่ม ราวกับว่าร่างกายของเขาได้รับแสงแดดที่อ่อนโยน มันดูสวยงามราวกับความฝัน

เขาใส่เสื้อสีขาว คอเสื้อค่อนข้างกว้างมันจึงเปิดให้เห็นถึงความละเอียดอ่อนของกล้ามเนื้อและไหปลาร้า

เขานั่งขัดสมาธิท่าทางสบาย มือขาวเรียวยาวถือหนังสือเล่มหนึ่งอยู่

ในชั่วขณะนั้น เขามองมันอย่างตั้งใจ ดูจริงจัง นั่นทำให้ใบหน้าที่หล่อเหลาของเขานั้นมันยิ่งมีเสน่ห์ดึงดูดสายตาขึ้นไปอีก

ผู้ชายจะหล่อที่สุดตอนตั้งใจทำอะไรสักอย่าง ผู้ชายจะดูมีเสน่ห์ที่สุดตอนอ่านหนังสือ

และเขาในตอนนี้ มันเป็นทั้งสองอย่างเลย

ที่แท้เขาก็มานั่งตรงนี้เพื่อจะอ่านหนังสือนี่เอง

เมื่อเห็นโห้หลีเฉินตั้งใจอ่านหนังสือ ไม่ได้สนใจอะไรเธอ เย้นหว่านจึงลืมเรื่องที่จะแอบลอบมองเขา จึงเหม่อลอยมองไปตรงไปที่เขาจังๆ

มันเป็นภาพที่ช่างสวยงามดูน่าประทับใจ

เธออดไม่ได้ที่จะอยากให้ภาพข้างหน้าถูกสต๊าฟเอาไว้ หากถ้ามันสามารถที่จะอยู่ตลอดไป และหากจะซ่อนมันเอาไว้แบบนี้ มันก็คงจะดีมากทีเดียว

จริงๆแล้ว เธอนั้นมองโห้หลีเฉินได้อย่างสบายตาสบายใจ

โห้หลีเฉินมองไปที่หนังสือ เย้นหว่านมองไปที่เขา ในช่วงเวลาบ่ายที่เงียบงัน

ความประหม่าที่เคยมีตอนนี้กลายเป็นสงบนิ่ง การต่อต้านที่เธอมีต่อโห้หลีเฉินนั้นราวกับว่ามันผ่านมาแล้วเนิ่นนาน

โดยไม่รู้เนื้อรู้ตัว เย้นหว่านก็หลับลงไป

ลมหายใจของเธอค่อยๆ สงบราบเรียบลง ชายหนุ่มที่ตั้งใจอ่านหนังสือมาโดยตลอด จู่ๆ ก็ละสายตาออกจากหนังสือ หันมามองไปที่ใบหน้าของเย้นหว่าน

เขามองหน้าเธอก่อนจะกระตุกยิ้มขึ้นมาอย่างร่าเริง

จากนั้น เขาก็ผุดลุกขึ้น เดินมาทางข้างตัวเธออย่างเบาเท้า ก่อนปัดปอยผมของเธอออกและจูบลงเบาๆ ไปที่หน้าผาก

 ——

หนึ่งชั่วโมงหลังจากนั้น

“เย้นหว่าน ตื่นได้แล้ว เย้นหว่าน………”

เสียงตะโกนก้องเข้าไปในฝันของเย้นหว่าน

เธอค่อยๆ ลืมตาขึ้นอย่างสะลึมสะลือ มองใบหน้าชายหนุ่มอย่างประหลาดใจ ใบหน้าเอ่องงงวย เห็นได้ชัดว่ายังไม่ได้สติ

โห้หลีเฉินมองเธอที่กำลังเหม่อลอยอยู่นั้น รอยยิ้มก็ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อเหลา

เขาพูดขึ้นช้าๆ : “ตื่นได้แล้ว”

เย้นหว่านกะพริบตาปริบๆ สติเริ่มมา เธอเพิ่งจะสังเกตเห็นว่าคนที่กำลังปลุกเธออยู่นั้นคือโห้หลีเฉิน

“อ้อ อือ ได้”

เย้นหว่านตอบอย่างไม่รู้ตัว ค่อยๆ ลุกขึ้นนั่งพลางนวดศีรษะที่ยังสะลึมสะลืออยู่

เธอลุกขึ้นจากเตียงอย่างเคยชิน แต่เมื่อสังเกตถึงที่ที่ตัวเองอยู่ได้ ก็ชะงักไป ก่อนจะตื่นเต็มตา

แต่กลับยิ่งสับสนหนักไปอีก

เธอไม่ใช่ว่านอนอยู่บนโซฟาอย่างนั้นหรอ? ทำไมเธอถึงมานอนบนเตียงได้หล่ะ

อีกทั้งโห้หลีเฉินก็ยังยืนอยู่ข้างเตียงของเธอ

“ฉะ ฉันทำไมถึง…..”เย้นหว่านมองไปยังใบหน้าหล่อเหลา พูดขึ้นตะกุกตะกัก “ทำไมถึงได้มาอยู่ที่เตียงหล่ะ? ”

โห้หลีเฉินใบหน้าราบเรียบ “ฉันก็อุ้มเธอมาหน่ะสิ”

เย้นหว่าน: “……..”

เธอนอนบนโซฟาอยู่ดีๆ ทำไมถึงต้องอุ้มเธอมา

อีกอย่าง ทำไมเขาถึงได้พูดอย่างไม่มีอะไรเกิดขึ้นอย่างนั้นหล่ะ อุ้มเธอมานี่ไม่ได้รู้สึกกระดากเขินบ้างเลยหรือไง

เห็นสีหน้าของเย้นหว่านเปลี่ยนไปเปลี่ยนมาแบบนั้นโห้หลีเฉินก็กระตุกยิ้มขึ้นไปอีก

เขามองไปทางเธอก่อนจะทำเสียง หึหึ ขึ้นอย่างเย้ย

“เธอรู้ตัวไหมว่าเธอเป็นคนนอนดิ้น ถ้าไม่ใช่เพราะฉันนะ เธอตกโซฟาไปแล้ว”

เย้นหว่านหน้าแดงขึ้นทันที แน่นอนหล่ะว่าเธอนอนดิ้นจริงๆ ตอนที่หนักเลยก็คือดิ้นไปอยู่อีกด้านของเตียง

ถึงโซฟามันใหญ่ แต่ก็ไม่มีอะไรดีไปกว่าเตียงนอน ตอนที่เธอพลิกตัวนั้น….

หรือว่ามันจะเกือบตกลงมา แล้วโห้หลีเฉินจึงช่วยเธอเอาไว้?

น่าขายหน้าชะมัด

เย้นหว่านเพียงอยากจะเอาผ้าห่มคลุมหัวตัวเองไปซะเลย

โห้หลีเฉินมองท่าทางของเธออย่างนั้น ริมฝีปากก็ยิ้มขึ้นแล้วยิ้มขึ้นอีก ผู้หญิงคนนี้ ทำไมถึงได้น่าสนใจอย่างนี้นะ

เขาหล่ะอยากจะแกล้งเธออีกจริงๆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด