สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 263 เข้าใจความหมายของเขาผิดแล้ว

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 263 เข้าใจความหมายของเขาผิดแล้ว at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 263 เข้าใจความหมายของเขาผิดแล้ว

โห้หลีเฉินเป็นใครกัน ประธานใหญ่ระดับสูงที่มีอิทธิพลมีอำนาจ แค่กวักมือก็มีนักออกแบบนับไม่ถ้วนมาออกแบบเสื้อผ้าดีที่สุดให้เขา และถ้าเขาอยากออกแบบด้วยตนเอง ก็จะต้องมีนักออกแบบนับไม่ถ้วนมาช่วยเหลือเขา

แต่เขากลับเลือกหล่อนแล้ว

ถึงแม้หล่อนจะมีคุณงามความดีที่นำเสนอตนเอง แต่ว่าทีน่ากลับรู้สึกว่าการที่โห้หลีเฉินตอบรับมา อาจจะยังเป็นเพราะหล่อน

โดยเฉพาะผู้ชายคนหนึ่ง มักจะปฏิเสธคำเชื้อเชิญของสาวงามคนหนึ่งไม่ได้ง่ายดายนัก

เย้นหว่านมองโห้หลีเฉินด้วยความแปลกใจ ทำหน้าปิดบัง

ทำไมเธอจะไม่รู้ เขายังสนใจการออกแบบชุดเจ้าสาวด้วย?

และคิดภาพที่โห้หลีเฉินออกแบบชุดเจ้าสาว ชื่นชมชุดเจ้าสาว เย้นหว่านรู้สึกหัวใจเต้นเร็วหน่อยอย่างน่าประหลาดใจ

ที่ผ่านมานี้ โห้หลีเฉินเหมือนบอกว่าอยากแต่งงานกับเธอ ถ้าเขาออกแบบชุดเจ้าสาวจริง จะให้เธอใส่หรือไม่?

ไม่ ไม่

เย้นหว่านรีบส่ายหน้า โห้หลีเฉินยอมรับเป็นนัยว่ากลับเมืองหนานจะถอนหมั้นกับเธอ และไม่อาจจะแต่งงานกับเธอได้แล้ว เขาสนใจชุดเจ้าสาว หรือว่าออกแบบชุดเจ้าสาว ก็ไม่เกี่ยวข้องกับเธอทั้งนั้น

สายตาของโห้หลีเฉินหยุดที่ตัวของทีน่าชั่วพริบตาเดียว จากนั้นหมุนย้ายมาที่ตัวของเย้นหว่าน

เขามองเธออยู่ พูดด้วยเสียงต่ำ “ฉันคิดจะออกแบบชุดเจ้าสาวตัวหนึ่ง”

เย้นหว่านตะลึงค้างทันใด ตกใจอย่างหาที่เปรียบไม่ได้

โห้หลีเฉินคิดจะออกแบบชุดเจ้าสาวจริงด้วย แถมยังออกแบบด้วยตนเองอีก

นี่เขาอยากทำอะไร?

เขาจ้องมองหน้าของเธอที่ทำเป็นสงบนิ่ง มุมปากขีดเส้นรัศมีวงกลมที่สนุกผ่านไป และพูดต่อไปว่า

“ฉันยังไม่ค่อยชำนาญเท่าไร เธอช่วยฉันนะ?”

ต้องการให้เธอช่วย?

พอเย้นหว่านนึกถึงชุดเจ้าสาวสามคำนี้ หัวใจเต้นเร็วราวกับจะกระโดดออกมาจากในหน้าอกแล้ว

ที่น่าประหลาดใจ ตั้งแต่ต้นจนจบเธอกลับนำชุดเจ้าสาวที่โห้หลีเฉินพูดมาเชื่อมด้วยกันกับตัวเธอเอง

แต่ทั้งที่เขาไม่ได้พูดชัดเจนว่าจะให้เธอ ส่วนความสัมพันธ์ของพวกเขาก็เป็นการวางแผนถอนหมั้น……

เป็นเธอที่คิดเข้าข้างตนเองมากไปมั้ง! เป็นเธอคิดเข้าข้างตัวเองอย่างแน่นอน!

แต่ว่าหัวใจยังคงเต้นแรงไม่สงบลง ควบคุมไม่อยู่แล้ว

เหมือนว่าแม้แต่ลมหายใจเย้นหว่านยังสั่นไปหมด สายตาเธอเปล่งประกาย เสียงที่พูดจาตะกุกตะกักติดอ่าง

“ฉัน อะแฮ่ม ฉันไม่เคยสัมผัสทางนี้เท่าไร ฉันเลยไม่ค่อยเข้าใจ”

“ไม่ว่าเสื้อผ้าแบบไหน ล้วนมีวิธีการที่ต่างกันแต่ได้ผลลัพธ์เหมือนกันหมด ถ้าเธอบอกว่าไม่เข้าใจ ก็ไม่มีสิทธิ์เป็นนักออกแบบของโห้ถิงกรุ๊ปแล้ว”

โห้หลีเฉินพูดแบบจริงจัง

เย้นหว่านกลับถูกอุดจนเป็นใบ้พูดไม่ออก ถ้าเธอตอบโต้อีก ก็จะพัวพันกับงานของเธอเข้า และคนตรงหน้าท่านนี้ นอกจากมีความสัมพันธ์ที่ไม่กระจ่างแบบนั้นแล้ว ยังเป็นเจ้านายบนสุดของเธออีกด้วย

เกี่ยวพันกับอาชีพการงาน

มุมปากเย้นหว่านหดลง ไม่กล้าปฏิเสธ และไม่กล้าตอบรับ ลูกตาหมุนวนหลายรอบ เงยหน้ามองทางทีน่า

“ผู้อำนวยการทีน่า เมื่อกี้คุณบอกว่าใครแก้ไขปัญหาของชุดตัวนี้ได้ จะส่งชุดให้เขาใช่มั้ยคะ?”

คนที่แก้ไขชุดคือโห้หลีเฉิน ถ้ามอบชุดให้ ก็ต้องมอบให้โห้หลีเฉิน

แน่นอนว่าทีน่าเต็มใจอยู่แล้ว บนหน้าสวยงามมีรอยยิ้มที่อ่อนโยนสง่างาม “แน่นอน คุณโห้คะ รอเดี๋ยวนะ ฉันให้คนนำชุดที่จัดเสร็จส่งไปที่ห้องของคุณนะคะ”

“ได้”

โห้หลีเฉินเพียงแค่พยักหน้าไปตามนั้น สายตาที่เปื้อนรอยยิ้มกับตกบนตัวของเย้นหว่าน

ผู้หญิงคนนี้รู้จักเปลี่ยนหัวข้อจริงๆ เลย

หลังจากเรื่องเสื้อผ้าผ่านไป ทุกคนต่างแยกย้าย ไปชื่นชมเสื้อผ้าชุดอื่น

เย้นหว่านกลับไม่มีอารมณ์อยู่ต่อไปอีกสักนิด

หลังเรื่องเมื่อสักครู่ เธอยืนอยู่ข้างกายโห้หลีเฉิน ไม่มีเวลาไหนที่ไม่รู้สึกว่าแก้มร้อนผ่าวจนลนลาน

ดูเสื้อผ้าต่อไปอีกเธอก็ไม่มีจิตใจศึกษาเรียนรู้แล้ว

เย้นหว่านหาเหตุผลหนึ่ง แล้วออกไปจากงานแฟชั่นอย่างตรงไปตรงมา ก่อนจะกลับไปที่ห้องพัก

ครั้งนี้ โห้หลีเฉินเหมือนคิดจะปล่อยให้เย้นหว่านสบายหน่อย จึงไม่ได้ไปที่ห้องด้วย

เย้นหว่านกลับมาถึงห้องที่กว้างขวาง ทิ้งศีรษะลงบนเตียง เหมือนปลาที่โดนดึงเอาเอ็นทิ้ง แนบไปบนผ้าห่มอย่างอ่อนพลิ้ว

ในสมองฉายภาพในห้องจัดแสดงเมื่อสักครู่นี้ราวกับฉายภาพยนตร์

ท่วงท่าหล่อสง่าของโห้หลีเฉิน

โห้หลีเฉินยกมือขยับ ฉีกชุดขาดอย่างหล่อเหลา

โห้หลีเฉินกระซิบที่ข้างหูเธอ บอกว่าเขาอยากทำชุดเจ้าสาวด้วยตนเองสักชุด

แต่ละฉากแฉลบผ่านไปในสมอง ใจของเย้นหว่านเต้นเร็วขึ้นอย่างควบคุมไม่ได้ แก้มแดงขึ้น ลวกขึ้นโดยอัตโนมัติ

มีความรู้สึกอะไรที่แปลกไป ที่ทรวงอกของเธอค่อยๆ ทอดตัวยาวเหยียด

……

“ก๊อกๆๆ”

เสียงเคาะประตูเบาๆ ดังขึ้น

ที่นอนอยู่บนเตียงใหญ่ พอเย้นหว่านได้ยินเสียงก็ตื่นขึ้นมา เธอมองเพดานขาวสะอาดก็ตะลึง เธอหลับไปอย่างไม่รู้สึกตัว

กลัดกลุ้มใจจริงๆ

เธอรีบปีนตัวขึ้นมา เหยียบเท้าเปล่าบนพื้น จากนั้นเดินเข้าไปเปิดประตู

พอเปิดประตูออก หน้าประตูปรากฏใบหน้าที่หล่อเหลาเกินไปใบนั้นของโห้หลีเฉิน สูทสีฟ้าสว่างขับให้ความสงบสง่างามของเขาเด่นขึ้นอย่างเทียบไม่ได้

เย้นหว่านตะลึงเล็กน้อย “คุณโห้ มีธุระเหรอ?”

โห้หลีเฉินเม้มริมฝีปากบาง พินิจพิเคราะห์เย้นหว่านบนลงล่างรอบหนึ่ง จากผมยุ่งเหยิงที่หญิงสาวยังไม่ทันได้จัดการ จนถึงเท้าเปล่าที่เหยียบอยู่บนพื้นด้วย

เขาขมวดคิ้วแล้วก้าวเข้ามา ก่อนจะยื่นมืออุ้มเย้นหว่านขึ้น

“อ๊ะ……”

เมื่อเสียน้ำหนักถ่วงกะทันหัน ทำให้เย้นหว่านตกใจใหญ่ กอดคอของโห้หลีเฉินไว้โดยจิตใต้สำนึก

มองชายหนุ่มที่อยู่ใกล้แค่คืบ เธอประหม่าจนหายใจขาดห้วงไป

“คุณโห้ คุณจะทำอะไร? ปล่อยฉันลงไปนะ!”

โห้หลีเฉินไม่ได้สนใจการดิ้นรนของเธอ แขนที่มีแรงกอดเธออย่างเผด็จการ ก้าวใหญ่ๆ เดินไปที่ข้างเตียงในห้องนอน

จากนั้นวางเธอลงด้วยการกระทำที่นุ่มนวล

พอได้รับอิสระ เย้นหว่านลนลานจนไม่สนใจภาพลักษณ์ทั้งนั้น รีบกลิ้งคลานไปที่อีกฟากของเตียง ท่าทางรีบร้อนจะกระโดดลงเตียง

ตอนที่กำลังอยากจะกระโดด ด้านหลังก็มีเสียงสั่งการของชายหนุ่มที่เย็นเฉียบกดดันลอยมา

“ขึ้น เตียง!”

เห็นเธอเป็นคนโง่เหรอ? ให้เธอขึ้นเตียงก็ขึ้นเตียง!

ในใจเย้นหว่านคลุ้มคลั่งพร่ำบ่น แต่ว่าร่างกายกลับแข็งค้างอย่างไม่สบอารมณ์มาก ไม่ได้กล้าเดินไปข้างหน้าสักสองก้าวอีก

เธออายอยู่นิดหน่อย และแอบดูถูกตนเอง

โห้หลีเฉินขมวดคิ้ว ก้าวใหญ่ๆ อ้อมเตียงเข้ามา แล้วเดินไปทางเย้นหว่าน

ร่างชายหนุ่มสูงใหญ่เข้ามาใกล้ ชั่วขณะนั้นเย้นหว่านประหม่าขึ้นมา ทั้งตัวตึงแน่นอย่างรุนแรง

“คุณ คุณอย่าเข้ามานะ! คุณเคยบอกว่าจะไม่ทำอะไรฉัน คุณอย่าไร้ยางอายสกปรกเลวทรามขนาดนั้นได้มั้ย คุณ……”

คำพูดเสียงแหลมของเย้นหว่านไม่ทันจบ ทันใดนั้นก็ติดอยู่ตรงลำคอ

เธอมองชายหนุ่มตรงหน้าอย่างแปลกไป พูดให้ถูกต้องคือมองในมือชายหนุ่มถือรองเท้าแตะไว้

โห้หลีเฉินเดินมาตรงหน้าของเย้นหว่าน นั่งยองลงมา ฝ่ามือกว้างใหญ่กุมเท้าเปล่าของเย้นหว่านไว้ ยกขึ้นเบาๆ

เย้นหว่านทึ่งไปทั้งตัว

เธอมองโห้หลีเฉินจับเท้าเปล่าของเธออย่างตกตะลึงพรึงเพริด นำรองเท้าแตะสวมที่เท้าเธอทีละข้างไป

ที่แท้เขาอุ้มเธอเข้ามา เป็นเพราะเธอไม่ได้ใส่รองเท้า!

ผู้ชายคนนี้……

เย้นหว่านหัวใจเต้นราวฟ้าร้อง

การนั่งยองลงมาสวมรองเท้าให้คนอื่น การกระทำแบบนี้กลับโดนโห้หลีเฉินทำอย่างเป็นระเบียบ แม้กระทั่งยังเป็นอารมณ์สูงสง่า ทั้งตัวแพร่กระจายกลิ่นอายที่น่าหลงใหล

จากนั้นเขาก็ลุกขึ้นมา ยืนอยู่ระยะห่างครึ่งก้าว มองเย้นหว่านด้วยสายตาริบหรี่

มุมปากส่งเสียงหัวเราะ “ด้านหลังไร้ยางอายสกปรกเลวทราม ยังมีอะไรอีกมั้ย?”

ชั่วขณะนั้นหน้าของเย้นหว่านแดงไปจนถึงหลังหู

ไม่มีหน้าเจอใครแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด