สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 501 นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 501 นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 501 นี่เพิ่งจะเริ่มต้นเท่านั้นเอง

“ดีใจจนบื้อไปแล้วหรือ”

เย้นโม่หลินเห็นป่ายฉียืนนิ่งไม่ขยับ ก็เอ่ยเร่งอย่างหมดความอดทน “ไม่มีเรื่องอะไรแล้ว ก็รีบไปหยิบยาลดอาการบวมมาเดี๋ยวนี้”

ป่ายฉีมุมปากกระตุก “ผมไม่บีบเธอให้ตายก็ถือว่าเมตตามากแล้ว คุณยังจะให้ผมรักษาบาดแผลให้เธออีกหรือ”

เขาไม่เคยใจดีมีเมตตาขนาดนี้มาก่อน

เย้นโม่หลินขมวดคิ้ว ออกคำสั่งด้วยน้ำเสียงที่ไม่อนุญาตให้สงสัย

“ให้เวลานายหนึ่งนาทีในการไปหยิบมา”

เอ่ยจบแล้ว เขาก็ไม่มองป่ายฉีเลยแม้แต่น้อย แต่ย่อตัวลงไปข้างกายกู้จื่อเฟย มองข้อเท้าของเธอเงียบๆ

ยื่นมือออกไปคลายเหล็กลวดเหล่านั้นด้วยการกระทำที่แผ่วเบา “คุณอย่าขยับ เดี๋ยวก็ดีแล้ว”

ป่ายฉีรู้สึกตื่นเต้น หัวใจอ่อนไหวแทบตาย

เขาคิดอยากจะหยิบยาพิษที่ทำให้แผลเน่ามา เพื่อเพิ่มอาการบาดเจ็บที่ข้อเท้าให้กับกู้จื่อเฟยจริงๆ!

แต่เมื่อความคิดนี้เพิ่งจะผุดขึ้นมาในสมองของเขา ก็ถูกเขากดมันลงไปทันที

เขาเคยเห็นเย้นโม่หลินเป็นห่วงและเอาใจใส่ผู้หญิงคนหนึ่งขนาดนี้เมื่อไรกัน อีกทั้งการเคลื่อนไหวนั่นด้วย แค่คลายเหล็กลวดเท่านั้นเอง ยังจะระมัดระวังขนาดนั้น กลัวว่าการแตะต้องเธอจะทำให้เธอเจ็บปวดได้

ท่าทางระมัดระวังแบบนั้น ป่ายฉีสาบานเลยว่า ชั่วชีวิตนี้เขายังไม่เคยพบเห็นมาก่อน

กู้จื่อเฟยมองชายหนุ่มที่อยู่เบื้องหน้าตะลึงค้าง หัวใจเต้นเร็วกว่าเดิมขึ้นไปอีกจังหวะหนึ่ง

แม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อย แต่ความเจ็บนั้น กลับเทียบไม่ได้กับอาการใจเต้นและความดีใจในตอนนี้

ยากนั้นที่จะได้เห็นเย้นโม่หลินอ่อนโยนและเอาใจใส่เธอแบบนี้สักครั้ง

อีกทั้ง เมื่อครู่นี้เขาก็เพิ่งจะปกป้องเธอ จัดการป่ายฉีเรียบร้อยด้วยบุคลิกลักษณะโหดเหี้ยมและเต็มไปด้วยความเผด็จการ ทั้งยังช่วยชีวิตเธอ

“พี่เย้น เมื่อครู่โชคดีที่มีพี่ ไม่อย่างนั้นชีวิตน้อยๆของฉันก็คงจะไม่เหลือแล้ว บุญคุณในการช่วยชีวิตนี้ ไม่สามารถตอบแทนได้ ไม่สู้ให้ฉันมอบหัวใจและร่างกายทั้งหมดให้กับพี่เถอะ”

การคลายเหล็กลวดของเย้นโม่หลินชะงักไปเล็กน้อย ร่างกายแข็งทื่อ เหมือนกับถูกฟ้าผ่ากะทันหันอย่างไรอย่างนั้น

นัยน์ตาเขาพราวระยับไม่หยุด เม้มริมฝีปากบางแน่น ถึงขั้นรู้สึกว่าร่างกายส่วนบนและล่างล้วนไม่มีที่ใดปกติเลย

ความรู้สึกแบบนี้ ทำให้เขาลนลานทำอะไรไม่ถูก

“อย่าคิดมากไปเลย เดิมป่ายฉีก็ไม่ได้คิดจะฆ่าเธอจริงๆ”

เย้นโม่หลินเอ่ยเสียงแข็งรอดไรฟันออกมาประโยคหนึ่ง และก้มหน้าลงคลายเหล็กลวดที่พันกันอยู่ต่อไป

เพียงแต่การเคลื่อนไหวในครั้งนี้ ได้เปลี่ยนจากการระมัดระวังเป็นระเบียบแบบแผน เป็นสับสนวุ่นวายอยู่บ้าง

ป่ายฉียังไม่ได้เดินจากไป ได้ยินคำพูดนี้ ก็คิ้วกระตุก เอ่ยอย่างตรงไปตรงมาว่า

“เมื่อครู่ที่คิดจะฆ่าเธอ ฉันจริงจัง”

ขนอ่อนทั่วร่างเธอจึงลุกชันตาม ป่ายฉีคนนี้ดูแล้วจิตใจดีงามสง่า แต่ภายใต้เปลือกนอกที่น่ามองนั้น มีปีศาจร้ายผู้โหดเหี้ยมตนหนึ่งอาศัยอยู่ เต็มไปด้วยความอันตรายเป็นอย่างมาก

ล่วงเกินไม่ได้

เธอยื่นมือออกไปจับแขนเย้นโม่หลินเอาไว้ นิ้วมือเกร็งแน่น น้ำเสียงเต็มไปด้วยความหวาดกลัว

“พี่เย้น พี่เป็นผู้มีพระคุณช่วยชีวิตฉันจริงๆนะคะ”

ดังนั้น ต้องมอบหัวใจและร่างกายให้อยู่แล้ว

เย้นโม่หลินเหลือบตาขึ้นมองป่ายฉีอย่างเชือดเฉือนด้วยความโหดเหี้ยมทันที

เจ้าสารเลวนี่ ปกติก็ให้ความร่วมมือกับเขาเป็นอย่างดี ไม่ต้องพูดก็รู้ว่าจะต้องทำอย่างไรต่อไป แต่วันนี้กลับกล้าเลื่อยขาบันไดเขา

คอยดูเถอะว่ากลับไปแล้ว เขาจะจัดการหมอนี่อย่างไร!

ระหว่างที่คิดอยู่นั้น ก็มีกลิ่นน้ำหอมเบาบางลอยมาปะทะหน้าเย้นโม่หลิน เห็นเพียงแค่กู้จื่อเฟยโผเข้ามา มือคู่นั้นคล้องแขนเขาเอาไว้

ใบหน้าเล็กได้รูปของเธอ ดูน่าสงสารอย่างเห็นได้ชัด “พี่เย้น ป่ายฉีคิดจะฆ่าฉันแบบนี้ ฉันกลัวค่ะ ในเมื่อพี่ช่วยฉันแล้ว ก็ต้องรับผิดชอบฉันจนถึงที่สุด ดีไหมคะ”

เสียงขอร้องอย่างนุ่มนวลนั้นทำให้ผู้คนเกือบจะไร้หนทางปฏิเสธ

เย้นโม่หลินตะลึงค้าง ความสามารถในการควบคุมตัวเองและความใจเย็นอย่างยิ่งของตัวเองนั้นเกือบจะพังทลายลง สมองก็เบลอเสียจนเกือบจะรับปากเธอ

แต่เมื่อคำพูดมาถึงริมฝีปาก สุดท้ายแล้วก็ถูกสติสัมปชัญญะของเขาฝืนกดมันลงไปอีก

รับผิดชอบ เรื่องแบบนี้เขาไม่สามารถทำได้

“วางใจเถอะ มีพี่อยู่ หลังจากนี้เขาไม่กล้าทำอะไรเธอหรอก”

เย้นโม่หลินปลอบประโลมด้วยเสียงทุ้มต่ำ ดึงแขนออกมาจากอ้อมกอดของกู้จื่อเฟยอย่างไม่เป็นตัวเองที่สุด

กู้จื่อเฟยหดหู่เล็กน้อย สติสัมปชัญญะของเย้นโม่หลินนั้นแข็งแกร่งเกินไปแล้ว แบบนี้ก็ยังไม่ถูกเธอล่อลวงอีก

น่าเสียดาย น่าเสียดาย

ป่ายฉีที่อยู่ด้านข้างเห็นแล้วก็ชื่นชมด้วยความประหลาดใจ

เขาไม่ได้มองผิดไปใช่ไหม แม้ว่าเย้นโม่หลินจะปากแข็งปฏิเสธไป แต่ว่าหูของเขากลับแดงขึ้นมาเล็กน้อยจริงๆ

ใบหูของเย้นโม่หลินแดงอย่างนั้นหรือ นี่เป็นข่าวใหญ่อันน่าประหลาดในโลกนี้เลย

ป่ายฉีมีความคิดหนึ่งผุดขึ้นมา จึงแสร้งทำหน้าตาโมโห เอ่ยฮึดฮัดว่า “รอตอนที่นายไม่อยู่แล้ว ฉันค่อยลงมือก็ได้”

กู้จื่อเฟยนัยน์ตาหดวูบ ตกใจเสียจนกอดแขนเย้นโม่หลินเอาไว้แน่นทันที

ครั้งนี้เธอดูเหมือนจะถูกทำให้ตกใจเป็นอย่างมาก ร่างกายครึ่งบนโผเข้าไป ส่วนอ่อนนุ่มแนบชิดเข้ากับแขนเย้นโม่หลิน

อ่อนนุ่มเสียจนบรรยายไม่ถูก

ร่างกายของเย้นโม่หลินเกร็งขึ้นมาทันที ความร้อนแปลกๆปะทุขึ้นภายในร่างกายกะทันหัน

สมควรตาย

ก็แค่กอดเขานิดหน่อย ปฏิกิริยาตอบสนองของเขามากขนาดนี้เชียวหรือ

ไม่สิ ควรจะบอกว่าเขาไม่เคยใกล้ชิดกับผู้หญิงแบบนี้มาก่อน ดังนั้นถึงได้มีปฏิกิริยาตอบสนองมากขนาดนี้!

เย้นโม่หลินอารมณ์เสีย หันหน้า ส่งสายตาเย็นยะเยือกทิ่มแทงไปทางป่ายฉี

“นายมีเวลาเหลืออีกสิบวินาที”

เสียงเอ่ยพูดแต่ละคำในประโยคนั้นคล้ายกับว่าเล็ดลอดออกมาจากไรฟัน เต็มไปด้วยการข่มขู่

ป่ายฉีมุมปากกระตุก ไม่ยินยอมเป็นอย่างมาก

บาดแผลแค่นั้นทายานิดหน่อยก็หายแล้ว แต่อาการหูแดงของคุณชายใหญ่เย้นกลับเป็นครั้งแรกที่ได้เห็นเข้าใจไหม

ไม่ดูสักหน่อย ก็น่าเสียดายมาก

อีกอย่าง เขายังไม่รู้แน่ชัดเลยว่า เย้นโม่หลินเป็นอะไรกันแน่ ถึงได้ปฏิบัติต่อกู้จื่อเฟยไม่เหมือนกับคนอื่นแบบนี้

เห็นป่ายฉีที่ยังละล้าละลังยืนนิ่งอยู่ สีหน้าของเย้นโม่หลินก็ไม่น่ามองยิ่งกว่าเดิม

ความรู้สึกแปลกประหลาดที่อัดแน่นอยู่เต็มท้องทั้งหมดได้กลายเป็นโทสะที่จะปลดปล่อยใส่ผู้คนแทน จึงหันไประบายใส่ป่ายฉีว่า

“ยังเหลืออีก 5 วินาที ถ้าหากว่าเอามาไม่ได้ นายก็ไปอาฟริกาได้เลย”

“ให้ตายเถอะ! เพื่อยาน้ำขวดหนึ่งเท่านั้นเอง นายต้องทำขนาดนี้เชียว!”

ป่ายฉีแทบจะโกรธจนขนพอง

นี่มันโหดร้ายเกินไปหน่อยแล้ว

เขาไม่กล้าล่าช้าอีกเสี้ยววินาทีเดียว ตัดใจหมุนตัวและวิ่งตรงไปทางห้องเก็บยาด้วยความเร็วสูงทันที

เย้นหว่านที่ประคองโห้หลีเฉินยืนอยู่หน้าประตูห้องเก็บอุปกรณ์การรักษาทางการแพทย์

เห็นป่ายฉีวิ่งมาอย่างเร่งรีบ ก็เอ่ยถามว่า “ป่ายฉี คุณทำอะไรน่ะ สามารถรักษาให้กู้ซึงได้แล้วใช่ไหม”

ป่ายฉีกลับไม่หยุดเท้า ตรงผ่านประตูห้องเก็บอุปกรณ์การรักษาทางการแพทย์ มุ่งหน้าไปยังห้องเก็บยาทันที

วิ่งไป พลางเอ่ยพูดไปว่า “ไม่มีเวลาแล้ว คุณไปหาคุณหมอที่อยู่ห้องข้างๆ ให้เขาจัดการก่อนนะ”

ในใจของเย้นหว่านรู้สึกยินดี สายตาที่มองไปทางป่ายฉีที่วิ่งอย่างรีบร้อนนั้นเจือไปด้วยรอยยิ้ม แสร้งทำเป็นตะโกนด้วยความร้อนใจว่า

“แต่ว่าฉันไม่วางใจในฝีมือการรักษาของคุณหมอท่านอื่นนินา”

“บาดแผลเล็กน้อย พวกเขาสามารถจัดการได้! อีกครู่หนึ่งผมจะมารับช่วงต่อ………”

ป่ายฉีเอ่ยจบแล้ว ก็พุ่งตัวออกมาจากห้องเก็บยา และวิ่งกลับไปยังสถานที่ที่กู้จื่อเฟยอยู่อย่างรวดเร็วอีกครั้ง

เย้นหว่านและโห้หลีเฉินที่ยื่นอยู่หน้าประตู มองคนสามคนที่อยู่ภายในห้องเก็บอุปกรณ์รักษาทางการแพทย์แล้ว ก็เห็นได้ชัดว่าต้องใช้เวลาอีกเล็กน้อย

เธอหันหน้ามามองโห้หลีเฉิน แย้มริมฝีปากยิ้มออกมา

“คุณคำนวณได้แม่นยำจริงๆ”

กระทั่งเธอก็ยังคิดไม่ถึงว่า การที่กู้จื่อเฟยสร้างความเสียหายภายในห้องเก็บอุปกรณ์รักษาทางการแพทย์ จะได้ผลลัพธ์ดีขนาดนี้ จับป่ายฉีและเย้นโม่หลินเอาไว้เสียอยู่หมัด

โดยเฉพาะเย้นโม่หลินที่ปฏิบัติต่อกู้จื่อเฟยอย่างเอาใจใส่เสียขนาดนั้น!

โห้หลีเฉินกวาดตามองผ่านใบหน้าเย็นชาของเย้นโม่หลินไปเงียบๆ เม้มริมฝีปาก

เอ่ยด้วยน้ำเสียงลึกซึ้งว่า “นี่เพิ่งจะเป็นการเริ่มต้นเท่านั้นเอง”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด