สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน 706 กลอุบาย​ร้อยเล่ห์​

Now you are reading สัญญารัก คบกับประธานฮั่ว30วัน Chapter 706 กลอุบาย​ร้อยเล่ห์​ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ที่นี่อยู่ไม่ไกลจากสถานที่จัดงานเลี้ยง พอขึ้นรถ ไม่นานก็เดินทางมาถึงแล้ว

เมื่อเปิดประตูรถ เย้นหว่านก็เห็นพรมสีแดงแบบเดียวกันในวิดีโอ และพระราชวังที่หรูหรา

การเต้นของหัวใจเธอก็เร็วขึ้น และตอนนี้โห้หลีเฉินก็อยู่ภายในงานแล้ว

ไม่รู้ว่าตอนที่เขาเห็นเธอ จะมีปฏิกิริยาอย่างไร

“ เสี่ยวหว่าน มานี่ครับ”

เซอร์ยุนซียืนอยู่บนพรมแดง พร้อมกับยื่นแขนออกเล็กน้อย เพื่อให้เธอควงแขน

รอบ ๆด้าน มีสื่อมวลชนที่ยังยืนรอถ่ายภาพอยู่ไม่น้อย พวกเขาเห็นท่านดยุกก็รีบหยิบกล้องและสปอตไลท์ขึ้นมาถ่ายทันที โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ตอนที่พวกเขาเห็นผู้หญิงอีกคนเดินลงมาจากรถของท่านดยุก ทุกคนก็พากันตกตะลึงกันไปหมด

สำหรับ ท่านดยุกที่มักจะไม่มาร่วมงานเลี้ยงเท่าไหร่แล้ว มันค่อนข้างผิดปกติ แล้วครั้งนี้เขาก็ยังคงพาผู้หญิงมาร่วมงานด้วย

หญิงคนนี้ต้องไม่ใช่คนธรรมดาอย่างแน่นอน

ต้อง มีอะไรในกอไผ่แน่นอน

เย้นหว่านมองไปรอบ ๆ ด้วยท่าทางตื่นตัว จากนั้นก็มองไปทางเซอร์ยุนซีที่กำลังส่งยิ้มหวามมาให้ แล้วขมวดคิ้วเล็กน้อย

เดินตามด้านข้างของโห้หลีเฉิน เธอยังคงไวต่อการขุดคุ้ยข่าวของนักข่าวเหล่านี้

เธอไม่ต้องการมีความสัมพันธ์ที่สร้างความเข้าใจผิดกับเซอร์ยุนซี

เย้นหว่านครุ่นคิดอยู่ครู่หนึ่ง เธอจงใจใช้มือทั้งสองข้างจับชายกระโปรงแล้วเดินตรงไป และเมื่อเดินไปถึงด้านข้างของเซอร์ยุนซีเธอก็เดินผ่านหน้าเขาไปโดยไม่สนใจเขาเลย

เซอร์ยุนซียืนค้าง จ้องมองไปที่แผ่นหลังอันสง่างามของหญิงสาวที่เดินผ่านเขาไป

เธอไม่เห็นเขาอยู่ในสายตาจริงๆสินะ

บรรดานักข่าวต่างพากันตกใจและประหลาดใจมาก กล้องที่เตรียมไว้ไม่ทันได้กดชัตเตอร์

นี่มันเกิดอะไรขึ้น ผู้หญิงคนนี้ไม่ได้เป็นคู่ควงเดินพรมแดงของท่านดยุกหรอกเหรอ

หรือว่าพวกเขาจะเข้าใจผิดไปเอง

ก็ว่าอยู่ ท่านดยุกผู้สูงส่ง ข้างกายท่านจะมีผู้หญิงยืนเคียงข้างได้อย่างไร จะบอกว่าเขาเป็นเกย์ยังน่าเชื่อถือมากกว่าเลย

บรรดานักข่าวต่างระบายความสงสัยของตัวเองออกมา

เซอร์ยุนซีมองตรงไปที่แผ่นหลังของเย้นหว่านที่อยู่ห่างออกไป แล้วมุมปากของเขาก็ยกยิ้มอย่างชอบใจ

คิดจะหลบหลีกไม่ให้มีข่าวกับเขาสินะ

มันไม่ง่ายขนาดนั้นหรอก

เขาก้าวขายาว เดินตรงไปทางเย้นหว่าน แค่ไม่กี่ก้าว ก็เดินมาถึงข้างกายเธอ

เขายกแขนขึ้น แล้ววางมันลงบนไหล่ของเย้นหว่าน

“แชะ แชะ”

บรรดานักข่าวพากันตื่นตกใจขึ้นมาอีกครั้ง

เย้นหว่านเริ่มปวดขมับเพิ่มขึ้น ผู้ชายคนนี้เป็นพวกหน้าด้านหน้าทนหรือไงกัน

เธอหันหน้ามาแล้วจ้องหน้าเขาอย่างดุร้าย ก่อนจะแสยะยิ้มอย่างข่มขู่

“ ถ้าคุณกล้าแตะต้องตัวฉัน ฉันจะกัดคุณให้ตายไปเลย

เซอร์ยุนซีหยุดนิ่ง บาดแผลที่แขนของเขาที่เพิ่งหายดีได้ไม่นาน เริ่มกลับมามีอาการเจ็บเล็กน้อย

ดูเธอตัวเล็ก แต่ฟันของเธอแหลมคมมาก

ยิ่งไปกว่านั้น เขากำลังจะไปขออีกฝ่ายแต่งงานในเร็ว ๆ นี้ หากเขาทำให้เธอรำคาญ แล้วไม่ยอมรับว่าชอบเขาในภายหลังเขาจะทำอย่างไร

ข่มกลั้นอารมณ์ไว้ก่อน

ทันทีที่เซอร์ยุนซีดึงแขนเขากลับ แล้วเกาท้ายทอยของตัวเองอย่างเป็นธรรมชาติ

บรรดานักข่าว“… “

นี่ท่านดยุกกำลังล้อพวกเขาเล่นหรือเปล่า

ในเวลานี้ ภายในห้องจัดเลี้ยง

แสงไฟหรี่ลง โดยสถานที่ที่สว่างกว่าเล็กน้อย ก็คือเวทีเต้นรำที่ส่องสว่าง

ชายและหญิงควงแขนกันเดินเข้าไป แล้วเต้นรำอย่างสง่างามและงดงาม

เจ้าหญิงซาอินติยืนอยู่ข้างๆโห้หลีเฉิน เธอลังเลอยู่สักพัก ก่อนจะเอ่ยพูดอย่างเขิน ๆ ว่า

“ หลี่เฉินเราไปเต้นรำกันไหมคะ”

การเต้นรำ ส่วนใหญ่ผู้ชายจะเป็นฝ่ายเชิญผู้หญิง แต่ไม่ว่าเธอจะรอนานแค่ไหน โห้หลีเฉินก็ไม่เชิญเธอสักที

ด้วยความอ่อนใจ เธอจึงต้องออกปากพูดด้วยตัวเอง

โห้หลีเฉินถือแก้วไวน์แดงไว้ในมือ ก่อนจะยกขึ้นจิบอย่างดูดี แววตาของเขาไม่แยแส และไม่รู้ว่ากำลังมองที่ไหนอยู่

น้ำเสียงของเขาเย็นชาและเฉยเมย “เจ็บเท้า ไม่อยากเต้น”

ซาอินติตกตะลึงอยู่ครู่หนึ่ง ก่อนจะย่นคิ้วด้วยความกังวล แล้วถามอย่างเป็นห่วงว่า

“ งั้นฉันจะพาคุณไปนั่งพักที่ห้องพักก่อนไหมคะ คุณยืนมาทั้งคืน คงเหนื่อยมากแล้ว”

ไปที่ห้องพักกับเธอแค่สองคน โห้หลีเฉินไม่เอาด้วยหรอก

ในงานเลี้ยงนี้ซาอินติตัวติดเดินตามเขาอยู่ตลอด ซึ่งทำให้เขาใกล้จะหมดความอดทน ที่เขามาร่วมงานเลี้ยงยังมีธุระสำคัญต้องทำ และเขาต้องการทำความรู้จักกับคนไม่น้อย จึงไม่มีเวลามาสนใจเธอ

โห้หลีเฉินปฏิเสธอย่างเด็ดขาด“ ไม่จำเป็น”

น้ำเสียงของเขาเย็นชาและห่างเหินมาก

ซาอินติ อยากจะพูดอะไรบางอย่าง แต่เมื่อมองไปที่ใบหน้าเฉยเมยของชายหนุ่ม เธอก็ขยับปาก แต่เธอก็ไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกไป

แม้ว่าเธอจะสูงส่งเป็นถึงเจ้าหญิง แต่เธอก็แตกต่างจากผู้หญิงคนอื่น ๆ ในประเทศเบียนหนาน เธอสูงส่ง เป็นที่เคารพสำหรับคนในประเทศ แต่เธอยังคงได้รับผลกระทบด้วยเช่นกัน

เมื่อต้องเผชิญหน้ากับผู้ชายที่เธอชอบ เธอจะพยายามเอาอกเอาใจโดยไม่ห่วงศักดิ์ศรีของตัวเองเลย สำหรับเธอแล้ว มันเหมือนเป็นสิ่งที่เธอทำด้วยความเต็มใจ

ตัวอย่างเช่นตอนนี้ การปฏิเสธที่ไม่แยแสของโห้หลีเฉิน เดิมทีเธอต้องการจะเกลี้ยกล่อม แต่ก็ไม่ได้พูดอะไรออกไป

เธออยากเต้นรำกับเขา

เขาไม่อยากเต้น เธอก็ต้องโอนอ่อนตามเขา เธอยืนข้างๆเขา เขาจ้องมองคนอื่นเต้นรำอยู่บนเวที เธอจ้องมองเขา

เพลงจบไปแล้วหนึ่งเพลง

ไฟในที่งานเปิดสว่างในช่วงเวลาสั้น ๆ

แขกที่เต้นรำเริ่มแยกย้ายกันไป บางคนรออยู่ที่เดิม และมีบางคนเดินเข้าไปในฟลอร์เต้นรำ เพื่อรอการเริ่มเพลงต่อไป

และในเวลานี้เอง เดิมทีบรรยากาศโรแมนติกที่มีในงาน กลับเกิดความวุ่นวายขึ้นมา

เห็นแค่ว่า คนส่วนใหญ่ในงานต่างมองไปที่ประตูด้วยความตะลึงพรึงเพริด

“ว้าว นั่นมันท่านดยุกนี่นา”

“ เขามางานเลี้ยงแบบนี้ด้วย แล้วยังมากับคู่ควงผู้หญิงอีกต่างหาก”

“เขาไม่เคยพาผู้หญิงมาด้วยแบบนี้เลย ฉันว่าคงจะไม่ใช่คู่ควงมางาน แต่เป็นแฟนสาวมากกว่า คุณพระช่วย ท่านดยุกผู้ส่งศักดิ์ของเรา มีความรักแล้วอย่างนั้นเหรอ”

“อกหักดังเป๊าะเลยเรา ฮือฮือ … แต่เธอเห็นไหม ผู้หญิงคนนั้นสวยมากจริงๆ”

“ พอยืนอยู่ข้างท่านดยุกแล้ว ดูเหมาะสมกันมากเลย”

เสียงพูดคุยกันดังขึ้น จึงกลายเป็นหัวข้อสนทนาหลักในงานทันที

ท่านดยุกอย่างนั้นเหรอ

เมื่อได้ยินเสียงสนทนา โห้หลีเฉินก็เลิกคิ้ว แล้วเหลือบมอง ทันทีที่เขามองไป ใบหน้าอันหล่อเหลาของเขาก็ดำคล้ำเหมือนก้นหม้อในทันที

ความกดอากาศรอบตัวลดลงอย่างรวดเร็ว ราวกับพายุที่รุนแรงกำลังจะก่อตัวขึ้น

มันน่ากลัวมาก

เจ้าหญิงกำลังมองด้วยความสงสัย แต่พอรู้สึกถึงความกดดันและอันตราย เธอรู้สึกตกใจเล็กน้อย ก่อนจะมองไปที่โห้หลีเฉินที่จู่ๆก็ดูอันตรายและน่ากลัวด้วยความประหลาดใจ

“ หลีเฉินคะ มีอะไรหรือเปล่า” เธอถามเสียงอ่อน

โห้หลีเฉินไม่แม้แต่จะมองเธอด้วยซ้ำ เขามองตรงไปทางของประตูทางเข้าที่มีชายและหญิงเดินเข้ามา

ผู้หญิงที่แต่งตัวสวยคนนั้น ก็คือเย้นหว่านนั่นเอง

เขาไม่ได้บอกให้เธออยู่บ้านไม่ต้องออกไปไหนเหรอ แล้วทำไมเธอถึงมาที่นี่ในชุดหรูหราแบบนี้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น เธอยังควงแขนของผู้ชายน่าตายคนนั้นอย่างสนิทสนมอีกต่างหาก

สายตาที่เฉียบคมและดุดันของโห้หลีเฉิน เหมือนกับว่ามันเป็นดาบแหลมคม ที่สามารถตัดแขนของเซอร์ยุนซีจนขาดได้

ในเวลานี้เอง เย้นหว่านก็พยายามอย่างหนักที่จะดึงแขนของเธอออกจากการจับกุม

ตอนที่เข้าประตูมา เพราะเธอไม่มีจดหมายเชิญ เธอจึงต้องทำเหมือนเป็นคู่ควงมางานร่วมกับเซอร์ยุนซีถึงจะเข้าไปได้ ทำให้เธอต้องควงแขนของเซอร์ยุนซีเอาไว้

เดิมทีคิดว่าต้องควงแขนไม่นาน แต่ผู้ชายหน้าด้านคนนี้กลับหนีบข้อมือเธอไว้ ไม่ให้เธอดึงมือกลับได้

เย้นหว่านรู้สึกโมโหจนควันแทบจะออกหู แต่พอเธอเดินเข้าไปในประตู ก็กลายเป็นจุดสนใจของทุกคนในงานทันที สายตาที่มองเธออย่างร้อนแรง ทำให้เธอต้องแยกยิ้มอย่างรักษามารยาทออกไป

เธอยิ้มอย่างแข็งกระด้างและไม่เต็มใจ

เสียงเล็ก ๆพูดขู่ “คุณปล่อยฉันเดี๋ยวนี้เลยนะ”

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด