สามีข้า คือพรานป่า 100 รสชาติหอมหวาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 100 รสชาติหอมหวาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 100 รสชาติหอมหวาน

 

เฉินเฉินดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เขาจ้องมองหยุนเคอไม่วางตา

 

ในตอนนั้นเองหยุนเถียนเถียนก็เดินเข้ามา

 

“เฉินเอ๋อ ถ้าเจ้าอยากประสบความสําเร็จในอนาคต เจ้าต้องรีบตัดความสัมพันธ์ระหว่างบิดาและมารดาของเจ้าให้ได้ หรือเจ้าคาดหวังอะไรกับพวกเขา?”

 

“แน่นอน ถ้าเจ้ายังลังเลที่จะแยกทางกับพวกเขา งั้นก็จงใช้ชีวิตปากยื่นปากยาวไปเช่นนี้เถิด! อย่างไรเจ้ากับข้าก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด”

 

หยุนเถียนเถียนยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนไม่ได้ผล นางโบกมือเตรียมจะจากไป

 

ใครจะคาดคิดว่า เฉินเฉินกลับจับแขนเสื้อของนางไว้แน่น และร้องให้ออกมา “ข้ารู้ว่าพี่สาวดีกับข้า ข้าจะเชื่อฟังท่าน”

 

หยุนเถียนเถียนถอนหายใจออกมา ถึงอย่างนั้นเด็กคนนี้ก็อายุเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น จะให้แยกห่างจากครอบครัวได้อย่างไรกัน

 

เช่นนี้นางจึงปรับอารมณ์และกล่าวออกอย่างใจเย็น “เด็กน้อยเอ๋ย เมื่อครอบครัวไม่ได้ดีกับเรา เราจะกตัญญไปเพื่ออะไร? ยิ่งเจ้ากตัญญูต่อพวกเขามากเท่าไหร่มันเป็นการกระทําที่โง่มาก สักวันหนึ่งเดินผิงอันกับหลินชวนฮวาก็แก่ลง ข้าไม่รังเกียจเจ้าหรอกหากจะทิ้งพวกเขาไว้ตามลําพัง ตอนนี้เจ้ายังเด็กไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความชั่วร้ายของพวกเขาได้ แต่ถ้านานไปกว่านี้มันจะยิ่งเป็นปัญหา”

 

“ข้ารู้ว่าเจ้ายังต้องพึ่งพาครอบครัว ดังนั้นข้าเลยไม่ได้บังคับที่จะให้เจ้าไปจากพวกเขา เฉินเฉิน ข้ายังรอได้ อดทนได้ เมื่อเจ้าพร้อมแล้วข้าจะเป็นคนพาเจ้าออกมาเอง!”

 

หยุนเสียนเถียนพูดจบก็หันมองหยุนเคอ

 

“พี่ใหญ่หยุน ข้าสามารถสอนสิ่งเหล่านี้ได้เท่าที่ข้าทําได้ ข้าไม่สามารถสอนการเขียนให้เขาได้ ข้าขอร้อง และข้าเชี่อว่าเจ้าจะไม่ได้ปฏิเสธคําขอร้องนี้”

 

“ข้าขอตัวไปซ่อมชุดให้เฉินเอ๋อก่อน โปรดช่วยสอนเขาด้วย”

 

เมื่อได้ยินคํากล่าวเช่นนี้ หยุนเคอก็รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อเด็กสาวคนนี้กล้าที่จะขอร้องด้วยน้ําเสียงเช่นนั้น คนหัวสูงเช่นนางแต่ท่าทางที่เสนอออกมากลับน่ารักเสียจริง

 

แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมา หยุนเคอก็รู้สึกปลงตก เขาไม่น่าคาดหวังกับนางเลย…

 

ความเป็นจริงเขาก็ไม่คิดเกี่ยวกับมันเลยสักนิด แต่เพราะหยุนเถียนเถียนกลัวว่าเขาจะไม่ตอบรับเลยเสนอผลประโยชน์ให้

 

ใครจะไปรู้ว่าผลประโยชน์ขนาดนี้ใครบ้างจะไม่ตอบรับขอให้เขาช่วย แต่กลับพูดกับเขาอย่างไม่ใยดี?

 

หยุนเคอพ่นลมหายใจออกจมูกอย่างเย็นชา หยุนเถียนเถียนรู้สึกงุนงง นี่เขาอารมณ์ไม่ดีเหรอ หรือว่านางกล่าวอะไรผิดไป?

 

“พี่ใหญ่หยุน พวกเรากําลังจะร่วมมือการค้าขาย ตอนนี้เจ้าช่วยชี้แนะเฉินเฉินเถิด อย่าใจร้ายนักเลย”

 

เฉินเฉินตกใจกับบรรยากาศในห้องที่เริ่มจะกดดัน เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา ส่วนพี่สาวของเขาซื้อหยุนเคอแบบไม่กลัวตายเลยสักนิด

 

หยุนเคอหัวเราะออกมาอย่างยอมแพ้ต่อสาวน้อยตรงหน้า

 

ช่างเถอะ ทําไมต้องคิดเล็กคิดน้อยกับสาวน้อยคนนี้กัน ไม่แน่นางอาจจะไม่รู้อะไรด้วยซ้ําว่าเพราะอะไรเขาจึงไม่พอใจ…

 

หยุนเคอรู้สึกชีวิตที่จืดชืดน่าเบื่อของเขากําลังจะมีสีสันขึ้นมาเพราะสาวน้อยคนนี้ นางกล้าหาญ ร่าเริงราวกับแสงอาทิตย์ที่ส่องประกายในก้อนเมฆหนาทึบ

 

หยุนเถียนเถียนเห็นว่าวิธีการยั่วยุนี้ไม่ทําให้หยุนเคอหลงกล นางจริงเปลี่ยนวิธีอีกครั้ง

 

เด็กสาวบุ้ยปากและเขย่าแขนเสื้อของหยุนเคอเบา ๆ “พี่ใหญ่หยุน เจ้าช่วยข้าเถอะนะ นะพี่ใหญ่!”

 

หยุนเคอเห็นรอยยิ้มหวานก็พลันพยักหน้าตอบกลับอย่างไร้สติ

 

จนกระทั่งหยุนเถียนเถียนโห่ร้องเขาจึงฟื้นคืนสติ กลับมาพร้อมกับลอบสบถในใจ นี่ข้าทําอะไรโง่ๆลงไปอีกแล้ว!”

 

การสอนเด็กเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เขาไม่เคยคิดที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตกลงแล้วเขาก็ไม่สามารถกลับคําได้ หยุนเคอชี้ไปที่โต๊ะและมองไปที่เฉินเฉิน “ยังไม่รีบไปฝึกคัดตัวอักษรอีกหรือ?”

 

เฉินเฉินไม่กล้าเหมือนพี่สาวที่จะต่อต้านชายหนวดเคราคนนี้ เขารีบไปนั่งที่โต๊ะ กางหนังสือเริ่มใช้หมึกของตัวเอง

 

“แล้วเจ้ามาหาข้าทําไม?”

 

หยุนเคอไม่อ้อมค้อม ถามนางออกไปโดยตรงเพื่อเตือนสติของหยุนเถียนเถียน

 

“อ้อ ก่อนหน้านี้ที่ข้าคุยกับนายน้อยหลี่ ข้าจะทําให้เหยื่อของเจ้ามีกลิ่นที่หอมหวานเพื่อส่งไปที่ร้านอาหารของเขา เช่นนี้ข้าจึงมาสอนวิธีการนั้นให้เจ้า”

 

หยุนเคอไม่พูดอะไรและเดินเข้าครัวไป

 

เมื่อคืนเด็กคนนี้ไม่ได้ไปด้วย แต่เขาก็ยังเรียนรู้วิธีของนางมาบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้มากนัก แต่ที่ได้มานับว่าไม่เลวเลย

 

หยุนเถียนเถียนยิ้ม ดูท่าหยุนเคอจะฉลาดกว่าที่นางคิดไว้เสียอีก แม้ในอนาคตนางจะไม่ได้ตามขึ้นไปบนเขา แต่สักวันหนึ่งเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่านางแน่ นางไม่อาจดูถูกความสามารถในการเรียนรู้ของคนยุคโบราณเหล่านี้ได้เลย

 

“เจ้าต้องลอกหนังมันออกก่อน และโรยเกลือให้ทั่วเนื้อ เสร็จแล้วรอจนถึงเย็นวันพรุ่งนี้เราถึงจะเริ่มรมควันให้มันหอมหวานน่ารับประทาน

 

หยุนเถียนเถียนคิดอย่างรอบคอบ กลิ่นหอมควันจากเนื้อรมควันอาจจะธรรมดาเกินไป ต้องมีลูกเล่นสักหน่อย!

 

“เสี่ยวเถา เจ้ามีเครื่องปรุงอะไรบ้าง เช่นซอสถั่วเหลืองหรืออะไรทํานองนั้น?”

 

เสี่ยวเถาไม่แม้แต่เปิดเปลือกตาขึ้น “นี่เจ้ายังต้องถามอีกเหรอ เสี่ยวเถามีทุกอย่างที่เจ้าต้องการ!”

 

“เยี่ยม! ข้าขอซอสถั่วเหลือสองขวด”

 

เสี่ยวเถาหักตัวเลขในระบบของนางอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็มีขวดซอสถั่วเหลืองสองขวดก็ปรากฏขึ้นมาในอากาศ โชคดีจริงๆที่ระบบนี้พร้อมใช้งานตลอดเวลา มันไม่ใช่ขวดพลาสติกเหมือนช่วงเวลาที่นางจากมา แต่มันมาในรูปแบบขวดกระเบื้อง

 

“พี่ใหญ่หยุน ข้าว่าทาแค่เกลือน่าจะไม่เพียงพอ ทําไมพี่ไม่ลองเอาใช้สิ่งนี้ทาไปบนนั้นด้วยล่ะ?”

 

พูดจบหยุนเถียนเถียนก็โยนขวดทั้งสองออกไป ไม่กลัวว่าคนตรงหน้าจะเห็นมิติของนาง ยังไงเดี๋ยวก็ต้องรู้อยู่ดี งั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องปิดบัง

 

หยุนเคอเห็นการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติของหยุนเถียนเถียนก็รู้สึกสบายใจอย่างไม่รู้ตัว อย่างน้อยนางก็ไม่เห็นว่าเขาเป็นคนนอกดังเช่นเคย

 

ถึงอย่างนั้น หยุนเถียนเถียนก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะกลัวว่าชายคนนี้จะถามเรื่องมิติอย่างกะทันหัน โชคดีที่หยุนเคอรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้ตั้งนานแล้ว

 

เมื่อคิดดูจากสภาพ หยุนเถียนเถียนคนเดิมไม่อาจทําเช่นนี้ได้แน่ สาวน้อยคนนั้นคงตายตกไปนานแล้ว ส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณมาจากที่ใด

 

นางคงฉวยโอกาสที่หยุนเถียนเถียนจากไป แล้วยึดครองร่างสาวน้อยคนนี้แทน

 

สัตว์ประหลาดย่อมมีอาวุธวิเศษเป็นของตัวเอง ไม่มีทางที่จะซ่อนความลับสองสิ่งได้พร้อมกัน

 

หยุนเคอเหลือบมองหยุนเถียนเถียนอย่างลึกซึ้ง และไม่ได้พูดอะไรมา แต่เดิมหยุนเถียนเถียนคิดข้อแก้ตัว แต่เมื่อหยุนเคอไม่ได้พูดอะไรออกมา นางจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

แม้ทั้งสองจะค่อนข้างคุ้นเคยกัน แต่นางก็ยังรู้สึกว่าบางอย่างเขาไม่ควรจะถาม!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 100 รสชาติหอมหวาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 100 รสชาติหอมหวาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามีข้า…คือพรานป่า ตอนที่ 100 รสชาติหอมหวาน

 

เฉินเฉินดูเหมือนจะเข้าใจแต่ก็ไม่เข้าใจอยู่ดี เขาจ้องมองหยุนเคอไม่วางตา

 

ในตอนนั้นเองหยุนเถียนเถียนก็เดินเข้ามา

 

“เฉินเอ๋อ ถ้าเจ้าอยากประสบความสําเร็จในอนาคต เจ้าต้องรีบตัดความสัมพันธ์ระหว่างบิดาและมารดาของเจ้าให้ได้ หรือเจ้าคาดหวังอะไรกับพวกเขา?”

 

“แน่นอน ถ้าเจ้ายังลังเลที่จะแยกทางกับพวกเขา งั้นก็จงใช้ชีวิตปากยื่นปากยาวไปเช่นนี้เถิด! อย่างไรเจ้ากับข้าก็ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องทางสายเลือด”

 

หยุนเถียนเถียนยิ่งพูดก็ยิ่งรู้สึกเหมือนไม่ได้ผล นางโบกมือเตรียมจะจากไป

 

ใครจะคาดคิดว่า เฉินเฉินกลับจับแขนเสื้อของนางไว้แน่น และร้องให้ออกมา “ข้ารู้ว่าพี่สาวดีกับข้า ข้าจะเชื่อฟังท่าน”

 

หยุนเถียนเถียนถอนหายใจออกมา ถึงอย่างนั้นเด็กคนนี้ก็อายุเพียงแค่เจ็ดปีเท่านั้น จะให้แยกห่างจากครอบครัวได้อย่างไรกัน

 

เช่นนี้นางจึงปรับอารมณ์และกล่าวออกอย่างใจเย็น “เด็กน้อยเอ๋ย เมื่อครอบครัวไม่ได้ดีกับเรา เราจะกตัญญไปเพื่ออะไร? ยิ่งเจ้ากตัญญูต่อพวกเขามากเท่าไหร่มันเป็นการกระทําที่โง่มาก สักวันหนึ่งเดินผิงอันกับหลินชวนฮวาก็แก่ลง ข้าไม่รังเกียจเจ้าหรอกหากจะทิ้งพวกเขาไว้ตามลําพัง ตอนนี้เจ้ายังเด็กไม่สามารถที่จะหลีกเลี่ยงความชั่วร้ายของพวกเขาได้ แต่ถ้านานไปกว่านี้มันจะยิ่งเป็นปัญหา”

 

“ข้ารู้ว่าเจ้ายังต้องพึ่งพาครอบครัว ดังนั้นข้าเลยไม่ได้บังคับที่จะให้เจ้าไปจากพวกเขา เฉินเฉิน ข้ายังรอได้ อดทนได้ เมื่อเจ้าพร้อมแล้วข้าจะเป็นคนพาเจ้าออกมาเอง!”

 

หยุนเสียนเถียนพูดจบก็หันมองหยุนเคอ

 

“พี่ใหญ่หยุน ข้าสามารถสอนสิ่งเหล่านี้ได้เท่าที่ข้าทําได้ ข้าไม่สามารถสอนการเขียนให้เขาได้ ข้าขอร้อง และข้าเชี่อว่าเจ้าจะไม่ได้ปฏิเสธคําขอร้องนี้”

 

“ข้าขอตัวไปซ่อมชุดให้เฉินเอ๋อก่อน โปรดช่วยสอนเขาด้วย”

 

เมื่อได้ยินคํากล่าวเช่นนี้ หยุนเคอก็รู้สึกสบายใจขึ้น เมื่อเด็กสาวคนนี้กล้าที่จะขอร้องด้วยน้ําเสียงเช่นนั้น คนหัวสูงเช่นนางแต่ท่าทางที่เสนอออกมากลับน่ารักเสียจริง

 

แต่เมื่อได้ยินประโยคต่อมา หยุนเคอก็รู้สึกปลงตก เขาไม่น่าคาดหวังกับนางเลย…

 

ความเป็นจริงเขาก็ไม่คิดเกี่ยวกับมันเลยสักนิด แต่เพราะหยุนเถียนเถียนกลัวว่าเขาจะไม่ตอบรับเลยเสนอผลประโยชน์ให้

 

ใครจะไปรู้ว่าผลประโยชน์ขนาดนี้ใครบ้างจะไม่ตอบรับขอให้เขาช่วย แต่กลับพูดกับเขาอย่างไม่ใยดี?

 

หยุนเคอพ่นลมหายใจออกจมูกอย่างเย็นชา หยุนเถียนเถียนรู้สึกงุนงง นี่เขาอารมณ์ไม่ดีเหรอ หรือว่านางกล่าวอะไรผิดไป?

 

“พี่ใหญ่หยุน พวกเรากําลังจะร่วมมือการค้าขาย ตอนนี้เจ้าช่วยชี้แนะเฉินเฉินเถิด อย่าใจร้ายนักเลย”

 

เฉินเฉินตกใจกับบรรยากาศในห้องที่เริ่มจะกดดัน เขาไม่กล้าที่จะพูดอะไรออกมา ส่วนพี่สาวของเขาซื้อหยุนเคอแบบไม่กลัวตายเลยสักนิด

 

หยุนเคอหัวเราะออกมาอย่างยอมแพ้ต่อสาวน้อยตรงหน้า

 

ช่างเถอะ ทําไมต้องคิดเล็กคิดน้อยกับสาวน้อยคนนี้กัน ไม่แน่นางอาจจะไม่รู้อะไรด้วยซ้ําว่าเพราะอะไรเขาจึงไม่พอใจ…

 

หยุนเคอรู้สึกชีวิตที่จืดชืดน่าเบื่อของเขากําลังจะมีสีสันขึ้นมาเพราะสาวน้อยคนนี้ นางกล้าหาญ ร่าเริงราวกับแสงอาทิตย์ที่ส่องประกายในก้อนเมฆหนาทึบ

 

หยุนเถียนเถียนเห็นว่าวิธีการยั่วยุนี้ไม่ทําให้หยุนเคอหลงกล นางจริงเปลี่ยนวิธีอีกครั้ง

 

เด็กสาวบุ้ยปากและเขย่าแขนเสื้อของหยุนเคอเบา ๆ “พี่ใหญ่หยุน เจ้าช่วยข้าเถอะนะ นะพี่ใหญ่!”

 

หยุนเคอเห็นรอยยิ้มหวานก็พลันพยักหน้าตอบกลับอย่างไร้สติ

 

จนกระทั่งหยุนเถียนเถียนโห่ร้องเขาจึงฟื้นคืนสติ กลับมาพร้อมกับลอบสบถในใจ นี่ข้าทําอะไรโง่ๆลงไปอีกแล้ว!”

 

การสอนเด็กเป็นเรื่องที่ยุ่งยาก เขาไม่เคยคิดที่จะต้องมาทำอะไรแบบนี้มาก่อน

 

อย่างไรก็ตาม ในเมื่อตกลงแล้วเขาก็ไม่สามารถกลับคําได้ หยุนเคอชี้ไปที่โต๊ะและมองไปที่เฉินเฉิน “ยังไม่รีบไปฝึกคัดตัวอักษรอีกหรือ?”

 

เฉินเฉินไม่กล้าเหมือนพี่สาวที่จะต่อต้านชายหนวดเคราคนนี้ เขารีบไปนั่งที่โต๊ะ กางหนังสือเริ่มใช้หมึกของตัวเอง

 

“แล้วเจ้ามาหาข้าทําไม?”

 

หยุนเคอไม่อ้อมค้อม ถามนางออกไปโดยตรงเพื่อเตือนสติของหยุนเถียนเถียน

 

“อ้อ ก่อนหน้านี้ที่ข้าคุยกับนายน้อยหลี่ ข้าจะทําให้เหยื่อของเจ้ามีกลิ่นที่หอมหวานเพื่อส่งไปที่ร้านอาหารของเขา เช่นนี้ข้าจึงมาสอนวิธีการนั้นให้เจ้า”

 

หยุนเคอไม่พูดอะไรและเดินเข้าครัวไป

 

เมื่อคืนเด็กคนนี้ไม่ได้ไปด้วย แต่เขาก็ยังเรียนรู้วิธีของนางมาบ้าง ถึงแม้จะไม่ได้มากนัก แต่ที่ได้มานับว่าไม่เลวเลย

 

หยุนเถียนเถียนยิ้ม ดูท่าหยุนเคอจะฉลาดกว่าที่นางคิดไว้เสียอีก แม้ในอนาคตนางจะไม่ได้ตามขึ้นไปบนเขา แต่สักวันหนึ่งเขาจะต้องแข็งแกร่งกว่านางแน่ นางไม่อาจดูถูกความสามารถในการเรียนรู้ของคนยุคโบราณเหล่านี้ได้เลย

 

“เจ้าต้องลอกหนังมันออกก่อน และโรยเกลือให้ทั่วเนื้อ เสร็จแล้วรอจนถึงเย็นวันพรุ่งนี้เราถึงจะเริ่มรมควันให้มันหอมหวานน่ารับประทาน

 

หยุนเถียนเถียนคิดอย่างรอบคอบ กลิ่นหอมควันจากเนื้อรมควันอาจจะธรรมดาเกินไป ต้องมีลูกเล่นสักหน่อย!

 

“เสี่ยวเถา เจ้ามีเครื่องปรุงอะไรบ้าง เช่นซอสถั่วเหลืองหรืออะไรทํานองนั้น?”

 

เสี่ยวเถาไม่แม้แต่เปิดเปลือกตาขึ้น “นี่เจ้ายังต้องถามอีกเหรอ เสี่ยวเถามีทุกอย่างที่เจ้าต้องการ!”

 

“เยี่ยม! ข้าขอซอสถั่วเหลือสองขวด”

 

เสี่ยวเถาหักตัวเลขในระบบของนางอย่างไม่เกรงใจ จากนั้นก็มีขวดซอสถั่วเหลืองสองขวดก็ปรากฏขึ้นมาในอากาศ โชคดีจริงๆที่ระบบนี้พร้อมใช้งานตลอดเวลา มันไม่ใช่ขวดพลาสติกเหมือนช่วงเวลาที่นางจากมา แต่มันมาในรูปแบบขวดกระเบื้อง

 

“พี่ใหญ่หยุน ข้าว่าทาแค่เกลือน่าจะไม่เพียงพอ ทําไมพี่ไม่ลองเอาใช้สิ่งนี้ทาไปบนนั้นด้วยล่ะ?”

 

พูดจบหยุนเถียนเถียนก็โยนขวดทั้งสองออกไป ไม่กลัวว่าคนตรงหน้าจะเห็นมิติของนาง ยังไงเดี๋ยวก็ต้องรู้อยู่ดี งั้นไม่มีประโยชน์อะไรที่จะต้องปิดบัง

 

หยุนเคอเห็นการเคลื่อนไหวอย่างเป็นธรรมชาติของหยุนเถียนเถียนก็รู้สึกสบายใจอย่างไม่รู้ตัว อย่างน้อยนางก็ไม่เห็นว่าเขาเป็นคนนอกดังเช่นเคย

 

ถึงอย่างนั้น หยุนเถียนเถียนก็รู้สึกกังวลเล็กน้อย เพราะกลัวว่าชายคนนี้จะถามเรื่องมิติอย่างกะทันหัน โชคดีที่หยุนเคอรู้เรื่องราวทั้งหมดนี้ตั้งนานแล้ว

 

เมื่อคิดดูจากสภาพ หยุนเถียนเถียนคนเดิมไม่อาจทําเช่นนี้ได้แน่ สาวน้อยคนนั้นคงตายตกไปนานแล้ว ส่วนคนที่อยู่ตรงหน้าก็ไม่รู้ว่าเป็นวิญญาณมาจากที่ใด

 

นางคงฉวยโอกาสที่หยุนเถียนเถียนจากไป แล้วยึดครองร่างสาวน้อยคนนี้แทน

 

สัตว์ประหลาดย่อมมีอาวุธวิเศษเป็นของตัวเอง ไม่มีทางที่จะซ่อนความลับสองสิ่งได้พร้อมกัน

 

หยุนเคอเหลือบมองหยุนเถียนเถียนอย่างลึกซึ้ง และไม่ได้พูดอะไรมา แต่เดิมหยุนเถียนเถียนคิดข้อแก้ตัว แต่เมื่อหยุนเคอไม่ได้พูดอะไรออกมา นางจึงถอนหายใจอย่างโล่งอก

 

แม้ทั้งสองจะค่อนข้างคุ้นเคยกัน แต่นางก็ยังรู้สึกว่าบางอย่างเขาไม่ควรจะถาม!

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+