สามีข้า คือพรานป่า 138 หญิงชราที่เอาแต่พูดพล่าม

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 138 หญิงชราที่เอาแต่พูดพล่าม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 138 หญิงชราที่เอาแต่พูดพล่าม

 

“ป้าหลัว ข้าเคารพท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่ท่านไม่มีหลักฐานว่าข้าเป็นคนทํา แล้วจะมาตําหนิข้าเช่นนี้ได้อย่างไร?”

 

แน่นอนว่าหยุนเถียนเถียนไม่มีทางยอมรับ แม้นางจะทําผิดจริง ซึ่งเรื่องนี้ทําให้หยุนเคอรู้สึกขบขันยิ่ง

 

เนื่องจากผู้คนในเกวียนให้ความสนใจต่อการโต้เถียงกันของทั้งคู่ จนไม่ทันสังเกตเห็นมือของหยุนเถียนเถียนที่เอื้อมออกไปผลักนางหลัว แต่หยุนเคอกลับเห็นทุกอย่างอย่า งชัดเจน ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจหญิงชรา เพราะในสายตาของเขามีเพียงเถียนเถียนคนเดียวเท่านั้น

 

เขาเห็นมือของหญิงสาวเหยียดออกและสะบัดมือของหญิงชราอย่างเงียบเชียบจนทําให้นางตกลงจากเกวียนวัวอย่างน่าเวทนา

 

ลุงเฉินเองก็ทําหน้าชื่อด้วยความไม่รู้ จากการขับเกวียนวัว มาหลายปีและรู้จักผู้คนมามาก ทุกคนในหมู่บ้านต่างรู้ดีว่าหญิงชราผู้นี้เป็นคนซุ่มซ่ามและไม่รู้จักระวัง อาจเป็นเพราะกลัวขายหน้านางจึงโยนความผิดให้เถียนเถียน!

 

“พี่หลัว ทุกคนต่างจ้องมองอยู่และไม่มีใครเห็นว่าหญิงสาวผลักท่านลงมาเลย หากจะกล่าวหานางก็ต้องมีหลักฐานเสียก่อน เราไม่สามารถตัดสินใครได้หากไร้หลักฐาน หรือท่านมักจะตัดสินคนจากคําพูดของผู้อื่นหรือ?”

 

หลี่เสี่ยวเหอก้มศีรษะลงด้วยความเขินอายและ เหลือบมองหยุนเทียนเถียนอย่างขอโทษแต่ไม่กล้าทําอะไร เพราะหากแม่สามีถูกประจานหรือขายหน้าเมื่อไหร่ นางจะ ต้องทุกข์ทรมานและน้อมรับการด่าทอเพื่อระบายอารมณ์ทันที!

 

หยุนเถียนเถียนไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าได้ช่วยเหลือหลี่เสี่ยวเหอ และสั่งสอนแม่สามีผู้ดื้อด้านของนาง! 

 

หยุนเคอลุกขึ้น ด้วยร่างอันสูงใหญ่ เงาของเขาจึงปกคลุมหญิงชราที่ยืนอยู่บนพื้นทันที

 

“ป้าหลัว ไปสํานักราชการกันเถิด! หากท่านคิดว่าคู่หมั้นของข้าเป็นคนลงมือ นางเป็นเพียงเด็กอายุสิบสี่จะคิดทําอะไรได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”

 

เฉินเฉินกล่าวเสริมเช่นกัน “ใช่แล้ว… พี่สาว… เราไปที่สํารักราชการกันเถิด! ป้าหลัวกล่าวหาและทําลายชื่อเสียงของพี่ ไปฟ้องผู้พิพากษากัน”

 

นางหลัวชะงักด้วยความหวาดกลัวเมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะพาไปยังสํานักราชการ

 

“หึ ข้าจะไม่มีวันนั่งเกวียนวัวเก่า ๆ และผุพังนี้อีก!”

 

หญิงชราพูดพลางจ้องไปยังลูกสะใภ้ หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกอายเป็นอย่างมาก จึงกระโดดลงจากเกวียนและเดินออกไปพร้อมกับแม่สามีของตน

 

หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยเพราะตลาดแออัดยิ่ง นางจึงต้องไปแต่เช้าเพื่อทําการจองแผงลอย หากยังคงเดินอยู่เช่นนี้คงไม่มีทางไปทัน

 

ส่วนลุงเฉินก็บังคับเกวียนของตนต่อไปโดยไม่ได้เรียกเก็บค่าโดยสารจากสองแม่ลูก

 

เมื่อเดินทางมาถึง หยุนเถียนเถียนจัดเรียงเรียงดอกไม้ประดิษฐ์ของนางที่มีรูปร่างคล้ายลูกแมวซึ่งดูน่ารักไว้บนพื้น ไม่นานก็มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งเข้ามา

 

กว่านางหลัวและหลีเสียวเหอมาถึงก็พบว่าสายเกินไป เพราะดอกไม้ของหยุนเถียนเถียนกําลังจะขายหมด

 

แม้พวกเขามักจะพูดจาถากถางหยุนเถียนเถียน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร!

 

” ของ ๆ เจ้าสวยขนาดนี้ขายเพียงอันละสองเหวินได้อย่างไร?!” นางหลัวหันมาก่นด่าลูกสะใภ้ของตนเองก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้กล่าวอะไรเสียอีก

 

เพราะนางเห็นว่าดอกไม้ของหยุนเถียนเถียนในราคาหก เหวินนั้นขายดียิ่ง จึงไม่อยากขายสินค้าของตนในราคาที่ต่ํากว่า!

 

“เจ้าค้าขายด้วยความสงสารหรืออย่างงไร?! ดูสิ ดอกไม้ อันน่าเกลียดของหญิงนั้นยังขายได้ในราคาหกเหวิน แต่เจ้ากลับขายเพียงสองเหวิน นี่เจ้าโง่หรืออย่างไร?!”

 

หลี่เสี่ยวเหอก้มศีรษะลงด้วยความโกรธพลางพูดเสียงต่ํา “พวกเรามาช้าเกินไป และคนส่วนใหญ่ก็ซื้อดอกไม้ของนางไปแล้ว ดอกไม้ของพวกเราไม่สวยมากพอจึงขายได้ไม่มาก… ไม่มีใครอยากได้หรอก!”

 

“พูดจาไร้สาระอะไรกัน! จะค้าขายก็ต้องนึกถึงกําไร ข้าไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเจ้าจึงขายไม่ได้! ไปให้พ้น เดี๋ยวหญิงชราคนนี้จะทําให้ดู ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง เหตุใดลูกชายข้าจึงต้องแต่งงานกับหญิงโง่เง่าเช่นเจ้าด้วย คงต้องพบความซวยไปทั้งชาติ!”

 

นางหลัวผลักหลี่เสี่ยวเหอออกไป นางก็ไม่สนใจสายตาของคนอื่นที่กําลังมองมาพร้อมตะโกนเสียงดัง

 

“ทุกคน เร่เข้ามาจ้า ปิ่นปักผมดอกไม้สวย ๆ เพียงชิ้นละหกเหวิน!”

 

หญิงชราโวยวายอยู่นานแต่ก็ไม่มีลูกค้าใดเข้าร้านสักคน ชาวบ้านทั้งหมดเดินผ่านไปมาโดยไม่สนใจแผงของนางแม้แต่น้อย

 

หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกอบจนหนทางและเห็นว่าความพยายามทั้งหมดของตนเองกําลังจะพังทลาย นางรีบก้าวไปด้านหน้าก่อนจะกล่าวเตือนสติอีกฝ่าย “ท่านแม่! หากทําเช่น นี้ต่อมันจะขายไม่ได้ ฟังข้าเถิด ขายเพียงอันละสองเหวินก็พอ!”

 

นางหลัวที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกไม่พอใจยิ่ง ลูกสะใภ้นอกคอกคนนี้บังอาจมาสั่งสอนนางได้อย่างไร… เหตุใดจึงไม่คิดไว้หน้าขาในฐานะแม่สามี!

 

“ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าที่ไม่ได้เรื่อง ไม่มีใครมาซื้อของก็เพราะความโง่เง่าของเจ้า! นี่ข้าใจดีเกินไปงั้นหรือที่ยอมให้เจ้าพักผ่อนก่อนที่จะมาขายของ? เพราะเรื่องนี้ใช่หรือไม่จึงทําให้เจ้ากลายเป็นคนเกียจคร้าน!”

 

ความเจ็บแค้นในใจของหลี่เสี่ยวเหอยิ่งมากขึ้น นางปฏิบัติต่อแม่สามีอย่างดีมาโดยตลอด และนางยังทําดีกว่าลูกสะใภ้บ้านอื่นด้วยซ้ํา แต่การขายของไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทําได้โดยง่าย ทั้งหมดเป็นเพราะความโลภของแม่สามีผู้นี้ อีกฝ่ายต้องการขายของคุณภาพต่ําในราคาสูงลิ่ว!

 

แต่ความผิดพลาดทั้งหมดกลับถูกโยนให้หลี่เสี่ยวเหอ นางจึงทําได้เพียงกัดฟันแน่นเพื่อกลั้นมิให้น้ําตาไหลออก หากร้องไห้ออกมาเกรงว่าแม่สามีจะพลันตําหนิ เรื่องอื่นได้อีก

 

ส่วนเถียนเถียนไม่สนใจแม่ผัวลูกใภ้คู่นี้แม้แต่น้อย นางเดินจูงมือเฉินเฉินและจากไปพร้อมหยุนเคอนานแล้ว

 

ส่วนหยุนเคอกําลังมองมือน้อยของเด็กสาวที่ดึงชายเสื้อ เขาไว้และครุ่นคิดบางอย่าง

 

สาวน้อยเจ้าปัญหา… นี่เจ้าไม่รู้จักระยะห่างระหว่างชายหญิงหรือไร? การถึงเสื้อของชายไว้มั่นเช่นนี้มันมิใช่เรื่องดีงาม!”

 

หยุนเคอแปลกใจที่ตนเองไม่รู้สึกโกรธต่อสิ่งที่หญิงสาวกระทําแม้แต่น้อย แต่กลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก!

 

ขณะที่กําลังล่องลอยอยู่ในห้วงความคิดเหล่านั้น หยุนเคอก็ถูกหยุนเสียนเถียนลากไปยังร้านอาหารโดยไม่รู้ตัว 

 

หยุนเถียนเถียนไม่รีรอและเดินเข้าไปในร้ายอาหารทันที

 

“เจ้าของร้านอยู่หรือไม่?”

 

เจ้าของร้านที่แท้จริงไม่ได้ออกมาต้อนรับอีกฝ่ายด้วยตนเองแต่กลับยืนเหยียดยิ้มอยู่ในมุมมืด

 

” ขอทานมาจากไหน? ออกไปเสีย! อย่ามายุ่งกับร้านของเรา!”

 

หยุนเถียนเถียนทุบโต๊ะอย่างรุนแรงด้วยความโมโห “เจ้านายของพวกเจ้าสอนให้ต้อนรับแขกเช่นนี้หรือ?!”

 

“พวกเจ้าเป็นแขกงั้นหรือ? หึ! สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเช่นนี้ จะมีเงินซื้ออาหารจากร้านของเราได้อย่างไร?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 138 หญิงชราที่เอาแต่พูดพล่าม

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 138 หญิงชราที่เอาแต่พูดพล่าม at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 138 หญิงชราที่เอาแต่พูดพล่าม

 

“ป้าหลัว ข้าเคารพท่านในฐานะผู้อาวุโส แต่ท่านไม่มีหลักฐานว่าข้าเป็นคนทํา แล้วจะมาตําหนิข้าเช่นนี้ได้อย่างไร?”

 

แน่นอนว่าหยุนเถียนเถียนไม่มีทางยอมรับ แม้นางจะทําผิดจริง ซึ่งเรื่องนี้ทําให้หยุนเคอรู้สึกขบขันยิ่ง

 

เนื่องจากผู้คนในเกวียนให้ความสนใจต่อการโต้เถียงกันของทั้งคู่ จนไม่ทันสังเกตเห็นมือของหยุนเถียนเถียนที่เอื้อมออกไปผลักนางหลัว แต่หยุนเคอกลับเห็นทุกอย่างอย่า งชัดเจน ทว่าเขากลับไม่ได้สนใจหญิงชรา เพราะในสายตาของเขามีเพียงเถียนเถียนคนเดียวเท่านั้น

 

เขาเห็นมือของหญิงสาวเหยียดออกและสะบัดมือของหญิงชราอย่างเงียบเชียบจนทําให้นางตกลงจากเกวียนวัวอย่างน่าเวทนา

 

ลุงเฉินเองก็ทําหน้าชื่อด้วยความไม่รู้ จากการขับเกวียนวัว มาหลายปีและรู้จักผู้คนมามาก ทุกคนในหมู่บ้านต่างรู้ดีว่าหญิงชราผู้นี้เป็นคนซุ่มซ่ามและไม่รู้จักระวัง อาจเป็นเพราะกลัวขายหน้านางจึงโยนความผิดให้เถียนเถียน!

 

“พี่หลัว ทุกคนต่างจ้องมองอยู่และไม่มีใครเห็นว่าหญิงสาวผลักท่านลงมาเลย หากจะกล่าวหานางก็ต้องมีหลักฐานเสียก่อน เราไม่สามารถตัดสินใครได้หากไร้หลักฐาน หรือท่านมักจะตัดสินคนจากคําพูดของผู้อื่นหรือ?”

 

หลี่เสี่ยวเหอก้มศีรษะลงด้วยความเขินอายและ เหลือบมองหยุนเทียนเถียนอย่างขอโทษแต่ไม่กล้าทําอะไร เพราะหากแม่สามีถูกประจานหรือขายหน้าเมื่อไหร่ นางจะ ต้องทุกข์ทรมานและน้อมรับการด่าทอเพื่อระบายอารมณ์ทันที!

 

หยุนเถียนเถียนไม่ได้ต้องการอะไรไปมากกว่าได้ช่วยเหลือหลี่เสี่ยวเหอ และสั่งสอนแม่สามีผู้ดื้อด้านของนาง! 

 

หยุนเคอลุกขึ้น ด้วยร่างอันสูงใหญ่ เงาของเขาจึงปกคลุมหญิงชราที่ยืนอยู่บนพื้นทันที

 

“ป้าหลัว ไปสํานักราชการกันเถิด! หากท่านคิดว่าคู่หมั้นของข้าเป็นคนลงมือ นางเป็นเพียงเด็กอายุสิบสี่จะคิดทําอะไรได้ถึงขนาดนี้เชียวหรือ?”

 

เฉินเฉินกล่าวเสริมเช่นกัน “ใช่แล้ว… พี่สาว… เราไปที่สํารักราชการกันเถิด! ป้าหลัวกล่าวหาและทําลายชื่อเสียงของพี่ ไปฟ้องผู้พิพากษากัน”

 

นางหลัวชะงักด้วยความหวาดกลัวเมื่อได้ยินว่าพวกเขาจะพาไปยังสํานักราชการ

 

“หึ ข้าจะไม่มีวันนั่งเกวียนวัวเก่า ๆ และผุพังนี้อีก!”

 

หญิงชราพูดพลางจ้องไปยังลูกสะใภ้ หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกอายเป็นอย่างมาก จึงกระโดดลงจากเกวียนและเดินออกไปพร้อมกับแม่สามีของตน

 

หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกกระวนกระวายใจเล็กน้อยเพราะตลาดแออัดยิ่ง นางจึงต้องไปแต่เช้าเพื่อทําการจองแผงลอย หากยังคงเดินอยู่เช่นนี้คงไม่มีทางไปทัน

 

ส่วนลุงเฉินก็บังคับเกวียนของตนต่อไปโดยไม่ได้เรียกเก็บค่าโดยสารจากสองแม่ลูก

 

เมื่อเดินทางมาถึง หยุนเถียนเถียนจัดเรียงเรียงดอกไม้ประดิษฐ์ของนางที่มีรูปร่างคล้ายลูกแมวซึ่งดูน่ารักไว้บนพื้น ไม่นานก็มีลูกค้ากลุ่มหนึ่งเข้ามา

 

กว่านางหลัวและหลีเสียวเหอมาถึงก็พบว่าสายเกินไป เพราะดอกไม้ของหยุนเถียนเถียนกําลังจะขายหมด

 

แม้พวกเขามักจะพูดจาถากถางหยุนเถียนเถียน แต่ก็ไม่ใช่เรื่องแปลกใหม่อะไร!

 

” ของ ๆ เจ้าสวยขนาดนี้ขายเพียงอันละสองเหวินได้อย่างไร?!” นางหลัวหันมาก่นด่าลูกสะใภ้ของตนเองก่อนที่อีกฝ่ายจะทันได้กล่าวอะไรเสียอีก

 

เพราะนางเห็นว่าดอกไม้ของหยุนเถียนเถียนในราคาหก เหวินนั้นขายดียิ่ง จึงไม่อยากขายสินค้าของตนในราคาที่ต่ํากว่า!

 

“เจ้าค้าขายด้วยความสงสารหรืออย่างงไร?! ดูสิ ดอกไม้ อันน่าเกลียดของหญิงนั้นยังขายได้ในราคาหกเหวิน แต่เจ้ากลับขายเพียงสองเหวิน นี่เจ้าโง่หรืออย่างไร?!”

 

หลี่เสี่ยวเหอก้มศีรษะลงด้วยความโกรธพลางพูดเสียงต่ํา “พวกเรามาช้าเกินไป และคนส่วนใหญ่ก็ซื้อดอกไม้ของนางไปแล้ว ดอกไม้ของพวกเราไม่สวยมากพอจึงขายได้ไม่มาก… ไม่มีใครอยากได้หรอก!”

 

“พูดจาไร้สาระอะไรกัน! จะค้าขายก็ต้องนึกถึงกําไร ข้าไม่แปลกใจเลยว่าเหตุใดเจ้าจึงขายไม่ได้! ไปให้พ้น เดี๋ยวหญิงชราคนนี้จะทําให้ดู ช่างไร้ประโยชน์เสียจริง เหตุใดลูกชายข้าจึงต้องแต่งงานกับหญิงโง่เง่าเช่นเจ้าด้วย คงต้องพบความซวยไปทั้งชาติ!”

 

นางหลัวผลักหลี่เสี่ยวเหอออกไป นางก็ไม่สนใจสายตาของคนอื่นที่กําลังมองมาพร้อมตะโกนเสียงดัง

 

“ทุกคน เร่เข้ามาจ้า ปิ่นปักผมดอกไม้สวย ๆ เพียงชิ้นละหกเหวิน!”

 

หญิงชราโวยวายอยู่นานแต่ก็ไม่มีลูกค้าใดเข้าร้านสักคน ชาวบ้านทั้งหมดเดินผ่านไปมาโดยไม่สนใจแผงของนางแม้แต่น้อย

 

หลี่เสี่ยวเหอรู้สึกอบจนหนทางและเห็นว่าความพยายามทั้งหมดของตนเองกําลังจะพังทลาย นางรีบก้าวไปด้านหน้าก่อนจะกล่าวเตือนสติอีกฝ่าย “ท่านแม่! หากทําเช่น นี้ต่อมันจะขายไม่ได้ ฟังข้าเถิด ขายเพียงอันละสองเหวินก็พอ!”

 

นางหลัวที่ได้ยินอย่างนั้นก็รู้สึกไม่พอใจยิ่ง ลูกสะใภ้นอกคอกคนนี้บังอาจมาสั่งสอนนางได้อย่างไร… เหตุใดจึงไม่คิดไว้หน้าขาในฐานะแม่สามี!

 

“ทั้งหมดเป็นเพราะเจ้าที่ไม่ได้เรื่อง ไม่มีใครมาซื้อของก็เพราะความโง่เง่าของเจ้า! นี่ข้าใจดีเกินไปงั้นหรือที่ยอมให้เจ้าพักผ่อนก่อนที่จะมาขายของ? เพราะเรื่องนี้ใช่หรือไม่จึงทําให้เจ้ากลายเป็นคนเกียจคร้าน!”

 

ความเจ็บแค้นในใจของหลี่เสี่ยวเหอยิ่งมากขึ้น นางปฏิบัติต่อแม่สามีอย่างดีมาโดยตลอด และนางยังทําดีกว่าลูกสะใภ้บ้านอื่นด้วยซ้ํา แต่การขายของไม่ใช่สิ่งที่จะสามารถทําได้โดยง่าย ทั้งหมดเป็นเพราะความโลภของแม่สามีผู้นี้ อีกฝ่ายต้องการขายของคุณภาพต่ําในราคาสูงลิ่ว!

 

แต่ความผิดพลาดทั้งหมดกลับถูกโยนให้หลี่เสี่ยวเหอ นางจึงทําได้เพียงกัดฟันแน่นเพื่อกลั้นมิให้น้ําตาไหลออก หากร้องไห้ออกมาเกรงว่าแม่สามีจะพลันตําหนิ เรื่องอื่นได้อีก

 

ส่วนเถียนเถียนไม่สนใจแม่ผัวลูกใภ้คู่นี้แม้แต่น้อย นางเดินจูงมือเฉินเฉินและจากไปพร้อมหยุนเคอนานแล้ว

 

ส่วนหยุนเคอกําลังมองมือน้อยของเด็กสาวที่ดึงชายเสื้อ เขาไว้และครุ่นคิดบางอย่าง

 

สาวน้อยเจ้าปัญหา… นี่เจ้าไม่รู้จักระยะห่างระหว่างชายหญิงหรือไร? การถึงเสื้อของชายไว้มั่นเช่นนี้มันมิใช่เรื่องดีงาม!”

 

หยุนเคอแปลกใจที่ตนเองไม่รู้สึกโกรธต่อสิ่งที่หญิงสาวกระทําแม้แต่น้อย แต่กลับมีความสุขอย่างบอกไม่ถูก!

 

ขณะที่กําลังล่องลอยอยู่ในห้วงความคิดเหล่านั้น หยุนเคอก็ถูกหยุนเสียนเถียนลากไปยังร้านอาหารโดยไม่รู้ตัว 

 

หยุนเถียนเถียนไม่รีรอและเดินเข้าไปในร้ายอาหารทันที

 

“เจ้าของร้านอยู่หรือไม่?”

 

เจ้าของร้านที่แท้จริงไม่ได้ออกมาต้อนรับอีกฝ่ายด้วยตนเองแต่กลับยืนเหยียดยิ้มอยู่ในมุมมืด

 

” ขอทานมาจากไหน? ออกไปเสีย! อย่ามายุ่งกับร้านของเรา!”

 

หยุนเถียนเถียนทุบโต๊ะอย่างรุนแรงด้วยความโมโห “เจ้านายของพวกเจ้าสอนให้ต้อนรับแขกเช่นนี้หรือ?!”

 

“พวกเจ้าเป็นแขกงั้นหรือ? หึ! สวมเสื้อผ้าขาดรุ่งริ่งเช่นนี้ จะมีเงินซื้ออาหารจากร้านของเราได้อย่างไร?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+