สามีข้า คือพรานป่า 145 หยุนเคอทําสวน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 145 หยุนเคอทําสวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 145 หยุนเคอทําสวน

 

ตั้งแต่นั้นมา ก็มีลูกค้าตัวจ้อยบนเกวียนของลุงเฉินทุกวัน วันเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่มีวันไหนเลยที่เด็กชายจะเกียจคร้าน!

 

เฉินเฉินนั่งเกวียนไปกลับจากบ้านและโรงเรียนผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันชื่นชมเถียนเถียนไม่หยุดปาก

 

กับน้องชายที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ก็นางก็พยายามอย่างยิ่งเพื่อส่งเขาไปโรงเรียน!

 

เฉินผิงอันที่เคยทําร้ายนางมาก่อน นางก็คืนเงินให้เขาเพื่อสร้างบ้านและคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็ได้รับการดูแล จากนางเช่นกัน

 

แน่นอนว่ายังมีอีกหลายครัวเรือนที่ไม่ได้รับการดูแลเช่นครอบครัวของเฉินเจียวเจียว เพราะครอบครัวของพวกเขาจ้องแต่จะหาข้อจับผิดเมื่อมาทํางานที่บ้านของหยุนเวียน เถียนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่หยุนเถียนเถียนไม่ต้องการพวกเขาเพื่อลดความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

และนางหลี่ที่เป็นศัตรูกับหยุนเสียนเดียนอย่างไม่จบไม่ สิ้น!ไม่ใช่ว่าหยุนเสียนเถียนไม่ต้องการนางแต่นางกลับดูถูกและไม่อยากอยู่ร่วมกับหยุนเถียนเถียน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นางต้องการ!

 

กล่าวถึงหยุนเคอที่ตอนนี้เป็นชายหนุ่มใกล้แต่งงานผู้คนในหมู่บ้านต่างยินดีจะอวยพรให้เขาแต่มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สาปแช่งเขาอย่างชั่วร้าย

 

นั่นคือเฉินเจียวเจียว!

 

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของหญิงสาวถูกทําให้อับอายขายหน้าและถูกประจาน เฉินเจียวเจียวจึงเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านด้วยความสงบเสงี่ยมไปชั่วขณะหนึ่ง

 

แต่ข่าวเสียหายของนางก็ถูกบดบังด้วยเหตุการณ์สะท้านโลกที่หลินชวนฮวาเพิ่งทําลงไปเสียงด่าทอที่ทุกคนมีต่อเฉินเจียวเจียวจึงค่อยซาลง

 

ดังนั้นหญิงสาวผู้นี้จึงได้ออกมาเป็นนางปีศาจอีกครั้ง 

 

ในวันที่หยุนเสียนเถียนพาเฉินเฉินไปฝากเข้าเรียนเฉินเจียวเจียวก็เข้าเมืองเช่นกัน

 

เมื่อหยุนเสียนเถียนและเฉินเฉินไม่อยู่จึงมีเพียงหยุนเคอเท่านั้นที่อยู่ในบ้าน

 

เฉินเจียวเจียวมีแผนการร้ายในใจ! นา งตั้งใจปีนขึ้นไปบนเชิงเกวียนจากนั้นก็หยุดเกวียนแล้วเลี้ยวกลับไป

 

หยุนเคอนั่งอยู่ในห้องด้วยใบหน้ามืดมนเขามองดูหยุนเถียนเถียนเดินออกไปเดิมที่ตั้งใจว่าจะไปด้วยกันใครจะรู้ว่าหยุนเถียนเถียนกลับปฏิเสธเขา!

 

เหตุผลที่นางให้มาช่างน่าเศร้าจริงๆ!

 

“พี่ใหญ่หยุน! เจ้าก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นไม่เหมือนคนทั่วไป ท่านไม่ชอบ ข้าเองก็ไม่ต้องการ แต่เพราะเราถูกสถานการณ์บังคับท่านจึงต้องลงนามในหนังสือแต่งงานเป็นการดีกว่าสําหรับเราที่จะแยกห่างกันให้มากที่สุด หากในภายหน้าท่านมีคนรักก็จะสามารถอธิบายได้!”

 

หยุนเคอโกรธอยู่ในใจ เขาอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ ที่แสนวุ่นวายนี้แล้วเขาจะไปชอบสาว ๆ ในหมู่บ้านได้อย่างไร?

 

แต่เขากลับตอบกลับอีกฝ่ายอย่างประชดประชัน “ก็ดี!ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ตามไป เพื่อไม่ให้ขัดขวางการแต่งงานที่ดีของเจ้า!”

 

เดิมที่หยุนเถียนเถียนเป็นคนฉลาด แต่ใครจะรู้ว่านางจะได้ยินน้ําเสียงประชุดจากปากของหยุนเคอผู้นี้แต่นางก็ยังพอสังเกตว่าอารมณ์ของหยุนเคอดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก 2

 

ดังนั้น หยุนเสียนเถียนซึ่งไม่ต้องการทําให้หยุนเคออารมณ์เสียจึงจับมือเฉินเฉินหันหลังออกจากบ้านไปทันทีโดยไม่คิดถามอะไรต่อ

 

หยุนเคอโกรธอยู่ครู่หนึ่ง นางฟ้าตัวน้อยเจ้ากรรมวิ่งหนีไปหลังจากยั่วยุเขาเสร็จสิ้น นางช่างไร้ความรับผิดชอบอย่างแท้จริง

 

เขาได้แต่ถอนหายใจในใจและนั่งรออยู่ในห้องอย่างอดทน

 

เมื่อกลอนประตูขยับเบา ๆ หยุนเคอตื่นตัวทันที!

 

“ผู้ใด!?”

 

แต่ไม่มีใครตอบกลับ!

 

หยุนเคอเดินออกไปอย่างระวัง เห็นเพียงร่างเล็ก ๆ วิ่งหนีออกไปจากลานบ้าน

 

เขาขมวดคิ้ว เมื่อเห็นเสื้อผ้าน่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน แม้ว่าจะจงใจใส่เสื้อผ้าที่ไม่ทําให้ลื่นล้มในฤดูใบไม้ร่วงแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนรสนิยมของหญิงสาวในหมู่บ้านนี้ได้

 

หยุนเคอไม่ได้ถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงจังเขามองดูบ้านที่ว่างเปล่าและถอนหายใจยาว ก่อนจะหันหลังกลับ เข้าห้องของตัวเอง

 

ที่บ้านไม่มีไร่นาเลยไม่ต้องทํางานหนักเหมือนคนอื่น

 

หญิงสาวเพียงแค่ใช้เนื้อหรือไข่จากในบ้านไปแลกกับผักกับชาวบ้านทุกวัน

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หยุนเคอจึงลุกขึ้นจากเตียง

 

เขาคิดจะทําอะไรน่ะหรือ! หญิงสาวนั้นดูผอมบางแต่ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ เวลาที่นางอยากกินผักใบเขียวที่ไรต้องเข้าหมู่บ้านเพื่อไปแลกเปลี่ยนทุกที ช่างไม่สะดวกเสียจริง! 

 

ถ้าทําแปลงดินผืนหนึ่งให้ในบ้านของนาง นางจะชอบหรือไม่?

 

หยุนเคอเองก็เป็นคนที่คิดสิ่งใด ก็จะทําสิ่งนั้นเช่นกัน!

 

แต่ว่าที่บ้านไม่มีเครื่องมือทําการเกษตรเลย…

 

หยุนเคอเอียงศีรษะและครุ่นคิด ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปที่จะซื้อ สุดท้ายจึงตัดสินใจไปขอยืมที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน 

 

เมื่อมองดูท่านชายผู้นี้ หัวหน้าหมู่บ้านก็เผลอสั่นสะท้านเพราะกลัวว่าจะทําให้เขาขุ่นเคืองโดยไม่ได้ตั้งใจ! คนอื่นในหมู่บ้านอาจจะไม่รู้ แต่เขารู้ดี!

 

หลงเยว่อยู่ในใต้หล้ามาช้านานแล้ว แม้แต่เจ้าเมืองยังไม่สามารถทําอะไรได้ แต่เมื่อตอนที่เห็นสองคนนี้เขากลับเชื่อฟัง! เป็นไปได้ว่าตัวตนของทั้งสองคนนั้นเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก

 

หยุนเคอเดินเข้ามาด้วยท่าที่นิ่งสงบ ” หัวหน้าหมู่บ้าน” 

 

ก่อนที่เขาจะได้พูด หัวหน้าหมู่บ้านก็วางท่อในมือลงแล้วลุกขึ้นยืน “น้องชายหยุน มีอะไรหรือ?”

 

หยุนเคอเหลือบมองหัวหน้าหมู่บ้านด้วยความประหลาดใจ และไม่เข้าใจว่าเหตุใดหัวหน้าหมู่บ้านถึง ดูขวัญอ่อนนัก

 

“ข้ามาหาท่านเพื่อขอยืมจอบสักหน่อย ข้าจะเตรียมทําแปลงเกษตรที่บ้าน”

 

ผู้ใหญ่บ้านรีบเข้าไปหยิบจอบออกมาด้วยตัวเองอย่างรีบร้อน

 

เดิมที่เรื่องไร้สาระเหล่านี้มักเป็นหน้าที่ของภรรยาแต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านจึงยินดีทําเองอย่างไม่ปริปากบ่น

 

“น้องชายหยุน บ้านของเจ้าไม่มีแปลงดิน แล้วจะเอาจอบไปทําอะไร? อยากนั่งจิบชาก่อนสักถ้วยหรือไม่?”

 

หยุนเคอกล่าวออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา “มันไม่ค่อยสะดวกนักเมื่ออยากกินผักจานเล็ก ๆ แล้วต้องคอยหาค นในหมู่บ้านมาแลกอาหารทุกครั้งที่ดินรกร้างสองไร่ นี้เป็นของครอบครัวข้าแล้ว จะเป็นอะไรหรือไม่หากข้าจะทําแปลงปลูกผักเล็ก ๆ ที่นั่น?”

 

หัวหน้าหมู่บ้านส่ายหัวทันที “จะมีปัญหาอะไร? มันเป็นที่ดินของเจ้าอยู่แล้ว จะทําอะไรก็ย่อมได้เ”

 

หยุนเคอพยักหน้า และออกจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านทันทีเมื่อได้รับสิ่งที่ต้องการ

 

แม้หัวหน้าหมู่บ้านจะรู้ดีว่าปกติหยุนเคอก็มีท่าทางเช่นนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อนั่งลงก็ยังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ได้แต่หวังว่าเขาจะ ไม่ทําให้คนผู้นั้นขุ่นเคือง!

 

ตัวเขาเองเป็นเพียงหัวหน้าหมู่บ้านที่มีอํานาจแค่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ แต่สําหรับขุนนางเหล่านั้น เขาเปรียบเสมีอนมดตัวเล็กจ้อยเพียงนิ้วเดียวก็บี้เขาให้ตายได้! ช่างไม่สม เหตุสมผลเลยที่เขาต้องมาคอยระวังคําพูดและการกระทําเช่

 

เมื่อคิดถึงตอนที่เด็กสาวจะได้กินผักที่เขาปลูกหยุนเคอกรู้สึกมีพลังขึ้นมาเนื่องจากฝึกฝนการต่อสู้มาหลายปีจนฝ่ามือหยาบกระด้างแม้จอบที่หยิบมาจะขึ้นสนิมเล็กน้อยแต่ก็ไม่เกินกําลังมากนัก!

 

หลังจากหยุนเสียนเถียนพาเฉินเฉินกลับมาจากการไปเคารพท่านอาจารย์ก็เห็นหยุนเคอโบกมือให้จากสนามด้านหลัง

 

ที่ดินรกร้างสองไร่ หนึ่งในนั้นใช้สร้างบ้าน หลังบ้านยังพอมีที่ดินอยู่บ้างแต่เพื่อความสะดวกหยุนเถียนเถียนจึงซื้อที่ดินสองไร่ด้านหลังด้วย

 

คาดไม่ถึงว่าหยุนเคอจะพลิกฟื้นมันขึ้นมาภายในครึ่งวัน

 

หยุนเถียนเถียนค่อนข้างสับสนกับภาพตรงหน้าไม่น้อยหยุนเคอกําลังพยายามทําอะไร?

 

เมื่อเห็นหยุนเสียนเถียนกลับมา หยุนเคอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักเพราะทําให้บ้านเปลี่ยนแปลงไปหลายที่เขาจึงวางจอบในมือลงแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างต้องการอธิบาย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 145 หยุนเคอทําสวน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 145 หยุนเคอทําสวน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

 

สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 145 หยุนเคอทําสวน

 

ตั้งแต่นั้นมา ก็มีลูกค้าตัวจ้อยบนเกวียนของลุงเฉินทุกวัน วันเวลาผันผ่านไปอย่างรวดเร็วไม่มีวันไหนเลยที่เด็กชายจะเกียจคร้าน!

 

เฉินเฉินนั่งเกวียนไปกลับจากบ้านและโรงเรียนผู้คนในหมู่บ้านต่างพากันชื่นชมเถียนเถียนไม่หยุดปาก

 

กับน้องชายที่ไม่มีความสัมพันธ์ทางสายเลือด แต่ก็นางก็พยายามอย่างยิ่งเพื่อส่งเขาไปโรงเรียน!

 

เฉินผิงอันที่เคยทําร้ายนางมาก่อน นางก็คืนเงินให้เขาเพื่อสร้างบ้านและคนส่วนใหญ่ในหมู่บ้านก็ได้รับการดูแล จากนางเช่นกัน

 

แน่นอนว่ายังมีอีกหลายครัวเรือนที่ไม่ได้รับการดูแลเช่นครอบครัวของเฉินเจียวเจียว เพราะครอบครัวของพวกเขาจ้องแต่จะหาข้อจับผิดเมื่อมาทํางานที่บ้านของหยุนเวียน เถียนนั่นจึงเป็นสาเหตุที่หยุนเถียนเถียนไม่ต้องการพวกเขาเพื่อลดความวุ่นวายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต

 

และนางหลี่ที่เป็นศัตรูกับหยุนเสียนเดียนอย่างไม่จบไม่ สิ้น!ไม่ใช่ว่าหยุนเสียนเถียนไม่ต้องการนางแต่นางกลับดูถูกและไม่อยากอยู่ร่วมกับหยุนเถียนเถียน ทั้งหมดนี้เป็นสิ่งที่นางต้องการ!

 

กล่าวถึงหยุนเคอที่ตอนนี้เป็นชายหนุ่มใกล้แต่งงานผู้คนในหมู่บ้านต่างยินดีจะอวยพรให้เขาแต่มีผู้หญิงเพียงคนเดียวเท่านั้นที่สาปแช่งเขาอย่างชั่วร้าย

 

นั่นคือเฉินเจียวเจียว!

 

อย่างไรก็ตาม ครอบครัวของหญิงสาวถูกทําให้อับอายขายหน้าและถูกประจาน เฉินเจียวเจียวจึงเก็บตัวอยู่แต่ในบ้านด้วยความสงบเสงี่ยมไปชั่วขณะหนึ่ง

 

แต่ข่าวเสียหายของนางก็ถูกบดบังด้วยเหตุการณ์สะท้านโลกที่หลินชวนฮวาเพิ่งทําลงไปเสียงด่าทอที่ทุกคนมีต่อเฉินเจียวเจียวจึงค่อยซาลง

 

ดังนั้นหญิงสาวผู้นี้จึงได้ออกมาเป็นนางปีศาจอีกครั้ง 

 

ในวันที่หยุนเสียนเถียนพาเฉินเฉินไปฝากเข้าเรียนเฉินเจียวเจียวก็เข้าเมืองเช่นกัน

 

เมื่อหยุนเสียนเถียนและเฉินเฉินไม่อยู่จึงมีเพียงหยุนเคอเท่านั้นที่อยู่ในบ้าน

 

เฉินเจียวเจียวมีแผนการร้ายในใจ! นา งตั้งใจปีนขึ้นไปบนเชิงเกวียนจากนั้นก็หยุดเกวียนแล้วเลี้ยวกลับไป

 

หยุนเคอนั่งอยู่ในห้องด้วยใบหน้ามืดมนเขามองดูหยุนเถียนเถียนเดินออกไปเดิมที่ตั้งใจว่าจะไปด้วยกันใครจะรู้ว่าหยุนเถียนเถียนกลับปฏิเสธเขา!

 

เหตุผลที่นางให้มาช่างน่าเศร้าจริงๆ!

 

“พี่ใหญ่หยุน! เจ้าก็รู้ว่าความสัมพันธ์ของเรานั้นไม่เหมือนคนทั่วไป ท่านไม่ชอบ ข้าเองก็ไม่ต้องการ แต่เพราะเราถูกสถานการณ์บังคับท่านจึงต้องลงนามในหนังสือแต่งงานเป็นการดีกว่าสําหรับเราที่จะแยกห่างกันให้มากที่สุด หากในภายหน้าท่านมีคนรักก็จะสามารถอธิบายได้!”

 

หยุนเคอโกรธอยู่ในใจ เขาอยู่ในสถานที่เล็ก ๆ ที่แสนวุ่นวายนี้แล้วเขาจะไปชอบสาว ๆ ในหมู่บ้านได้อย่างไร?

 

แต่เขากลับตอบกลับอีกฝ่ายอย่างประชดประชัน “ก็ดี!ถ้าอย่างนั้นข้าจะไม่ตามไป เพื่อไม่ให้ขัดขวางการแต่งงานที่ดีของเจ้า!”

 

เดิมที่หยุนเถียนเถียนเป็นคนฉลาด แต่ใครจะรู้ว่านางจะได้ยินน้ําเสียงประชุดจากปากของหยุนเคอผู้นี้แต่นางก็ยังพอสังเกตว่าอารมณ์ของหยุนเคอดูเหมือนจะไม่ค่อยดีนัก 2

 

ดังนั้น หยุนเสียนเถียนซึ่งไม่ต้องการทําให้หยุนเคออารมณ์เสียจึงจับมือเฉินเฉินหันหลังออกจากบ้านไปทันทีโดยไม่คิดถามอะไรต่อ

 

หยุนเคอโกรธอยู่ครู่หนึ่ง นางฟ้าตัวน้อยเจ้ากรรมวิ่งหนีไปหลังจากยั่วยุเขาเสร็จสิ้น นางช่างไร้ความรับผิดชอบอย่างแท้จริง

 

เขาได้แต่ถอนหายใจในใจและนั่งรออยู่ในห้องอย่างอดทน

 

เมื่อกลอนประตูขยับเบา ๆ หยุนเคอตื่นตัวทันที!

 

“ผู้ใด!?”

 

แต่ไม่มีใครตอบกลับ!

 

หยุนเคอเดินออกไปอย่างระวัง เห็นเพียงร่างเล็ก ๆ วิ่งหนีออกไปจากลานบ้าน

 

เขาขมวดคิ้ว เมื่อเห็นเสื้อผ้าน่าจะเป็นคนในหมู่บ้าน แม้ว่าจะจงใจใส่เสื้อผ้าที่ไม่ทําให้ลื่นล้มในฤดูใบไม้ร่วงแต่ก็ไม่สามารถเปลี่ยนรสนิยมของหญิงสาวในหมู่บ้านนี้ได้

 

หยุนเคอไม่ได้ถือว่าเหตุการณ์นี้เป็นเรื่องจริงจังเขามองดูบ้านที่ว่างเปล่าและถอนหายใจยาว ก่อนจะหันหลังกลับ เข้าห้องของตัวเอง

 

ที่บ้านไม่มีไร่นาเลยไม่ต้องทํางานหนักเหมือนคนอื่น

 

หญิงสาวเพียงแค่ใช้เนื้อหรือไข่จากในบ้านไปแลกกับผักกับชาวบ้านทุกวัน

 

เมื่อคิดถึงเรื่องนี้หยุนเคอจึงลุกขึ้นจากเตียง

 

เขาคิดจะทําอะไรน่ะหรือ! หญิงสาวนั้นดูผอมบางแต่ไม่ชอบกินเนื้อสัตว์ เวลาที่นางอยากกินผักใบเขียวที่ไรต้องเข้าหมู่บ้านเพื่อไปแลกเปลี่ยนทุกที ช่างไม่สะดวกเสียจริง! 

 

ถ้าทําแปลงดินผืนหนึ่งให้ในบ้านของนาง นางจะชอบหรือไม่?

 

หยุนเคอเองก็เป็นคนที่คิดสิ่งใด ก็จะทําสิ่งนั้นเช่นกัน!

 

แต่ว่าที่บ้านไม่มีเครื่องมือทําการเกษตรเลย…

 

หยุนเคอเอียงศีรษะและครุ่นคิด ตอนนี้ดูเหมือนว่าจะสายเกินไปที่จะซื้อ สุดท้ายจึงตัดสินใจไปขอยืมที่บ้านผู้ใหญ่บ้าน 

 

เมื่อมองดูท่านชายผู้นี้ หัวหน้าหมู่บ้านก็เผลอสั่นสะท้านเพราะกลัวว่าจะทําให้เขาขุ่นเคืองโดยไม่ได้ตั้งใจ! คนอื่นในหมู่บ้านอาจจะไม่รู้ แต่เขารู้ดี!

 

หลงเยว่อยู่ในใต้หล้ามาช้านานแล้ว แม้แต่เจ้าเมืองยังไม่สามารถทําอะไรได้ แต่เมื่อตอนที่เห็นสองคนนี้เขากลับเชื่อฟัง! เป็นไปได้ว่าตัวตนของทั้งสองคนนั้นเป็นสิ่งที่อธิบายได้ยาก

 

หยุนเคอเดินเข้ามาด้วยท่าที่นิ่งสงบ ” หัวหน้าหมู่บ้าน” 

 

ก่อนที่เขาจะได้พูด หัวหน้าหมู่บ้านก็วางท่อในมือลงแล้วลุกขึ้นยืน “น้องชายหยุน มีอะไรหรือ?”

 

หยุนเคอเหลือบมองหัวหน้าหมู่บ้านด้วยความประหลาดใจ และไม่เข้าใจว่าเหตุใดหัวหน้าหมู่บ้านถึง ดูขวัญอ่อนนัก

 

“ข้ามาหาท่านเพื่อขอยืมจอบสักหน่อย ข้าจะเตรียมทําแปลงเกษตรที่บ้าน”

 

ผู้ใหญ่บ้านรีบเข้าไปหยิบจอบออกมาด้วยตัวเองอย่างรีบร้อน

 

เดิมที่เรื่องไร้สาระเหล่านี้มักเป็นหน้าที่ของภรรยาแต่คนที่อยู่ตรงหน้าเขาไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป ดังนั้นหัวหน้าหมู่บ้านจึงยินดีทําเองอย่างไม่ปริปากบ่น

 

“น้องชายหยุน บ้านของเจ้าไม่มีแปลงดิน แล้วจะเอาจอบไปทําอะไร? อยากนั่งจิบชาก่อนสักถ้วยหรือไม่?”

 

หยุนเคอกล่าวออกมาด้วยเสียงอันแผ่วเบา “มันไม่ค่อยสะดวกนักเมื่ออยากกินผักจานเล็ก ๆ แล้วต้องคอยหาค นในหมู่บ้านมาแลกอาหารทุกครั้งที่ดินรกร้างสองไร่ นี้เป็นของครอบครัวข้าแล้ว จะเป็นอะไรหรือไม่หากข้าจะทําแปลงปลูกผักเล็ก ๆ ที่นั่น?”

 

หัวหน้าหมู่บ้านส่ายหัวทันที “จะมีปัญหาอะไร? มันเป็นที่ดินของเจ้าอยู่แล้ว จะทําอะไรก็ย่อมได้เ”

 

หยุนเคอพยักหน้า และออกจากบ้านของหัวหน้าหมู่บ้านทันทีเมื่อได้รับสิ่งที่ต้องการ

 

แม้หัวหน้าหมู่บ้านจะรู้ดีว่าปกติหยุนเคอก็มีท่าทางเช่นนี้อยู่แล้ว แต่เมื่อนั่งลงก็ยังครุ่นคิดเรื่องนี้อยู่ ได้แต่หวังว่าเขาจะ ไม่ทําให้คนผู้นั้นขุ่นเคือง!

 

ตัวเขาเองเป็นเพียงหัวหน้าหมู่บ้านที่มีอํานาจแค่ในหมู่บ้านเล็ก ๆ แห่งนี้ แต่สําหรับขุนนางเหล่านั้น เขาเปรียบเสมีอนมดตัวเล็กจ้อยเพียงนิ้วเดียวก็บี้เขาให้ตายได้! ช่างไม่สม เหตุสมผลเลยที่เขาต้องมาคอยระวังคําพูดและการกระทําเช่

 

เมื่อคิดถึงตอนที่เด็กสาวจะได้กินผักที่เขาปลูกหยุนเคอกรู้สึกมีพลังขึ้นมาเนื่องจากฝึกฝนการต่อสู้มาหลายปีจนฝ่ามือหยาบกระด้างแม้จอบที่หยิบมาจะขึ้นสนิมเล็กน้อยแต่ก็ไม่เกินกําลังมากนัก!

 

หลังจากหยุนเสียนเถียนพาเฉินเฉินกลับมาจากการไปเคารพท่านอาจารย์ก็เห็นหยุนเคอโบกมือให้จากสนามด้านหลัง

 

ที่ดินรกร้างสองไร่ หนึ่งในนั้นใช้สร้างบ้าน หลังบ้านยังพอมีที่ดินอยู่บ้างแต่เพื่อความสะดวกหยุนเถียนเถียนจึงซื้อที่ดินสองไร่ด้านหลังด้วย

 

คาดไม่ถึงว่าหยุนเคอจะพลิกฟื้นมันขึ้นมาภายในครึ่งวัน

 

หยุนเถียนเถียนค่อนข้างสับสนกับภาพตรงหน้าไม่น้อยหยุนเคอกําลังพยายามทําอะไร?

 

เมื่อเห็นหยุนเสียนเถียนกลับมา หยุนเคอก็รู้สึกไม่ค่อยสบายใจนักเพราะทําให้บ้านเปลี่ยนแปลงไปหลายที่เขาจึงวางจอบในมือลงแล้วเดินเข้าไปหาอีกฝ่ายอย่างต้องการอธิบาย

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+