สามีข้า คือพรานป่า 146 เมล็ดพืช

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 146 เมล็ดพืช at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 146 เมล็ดพืช

 

“หยุนเคอ เจ้ากําลังทําอะไรอยู่? ขุดแปลงดินเยอะแยะจะปลูกอะไรหรือ?”

 

หยุนเคอยืนอยู่ตรงแปลงดิน ร่างกายเขาสูงใหญ่จนหยุนเถียนเถียนรู้สึกว่าดวงอาทิตย์ตรงหน้ากําลังถูกบดบัง!

 

“เจ้าชอบกินผักมิใช่หรือ? ข้าก็จะปลูกผักกินเองไง”

 

หลังจากกล่าวจบ เขาพลันรู้สึกประหม่าเกินกว่าจะสบตาอีกฝ่ายเช่นนี้จึงก้มศีรษะแล้วเดินเข้าไปในห้องทันที

 

หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วแม้นางจะอยากกินผักแต่จะกินได้มากแค่ไหนเชียว?จําเป็นต้องรื้อหน้าดินเป็นไร่สองไร่เลยหรือ?

หยุนเคอไม่ได้กินยาผิดสําแดงมาใช่หรือไม่?

 

เฉินเฉินมองเห็นบรรยากาศที่คลุมเครือระหว่างทั้งคู่จึงอดไม่ได้ที่จะอึดอัด

 

ในที่สุดหยุนเถียนเถียนก็พูดขึ้น “ไปกันเถอะ มันเป็นที่ ดินของเขาเองเขาจะทําอะไรก็ได้!เข้าไปหาอะไรกินกันพวกเราหิวแล้ว!”

 

สองพี่น้องเดินเข้าไปในครัวคนหนึ่งกําลังก่อไฟอีกคนกําลังทําอาหารเป็นการร่วมมือกันอย่างขะมักเขม้น

 

หยุนเคอมองดูอยู่ไกลๆจากประตูไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาพลันรู้สึกอิจฉาเด็กน้อยขึ้นมา หรือว่าเมื่อเจ้าเด็กนั่นไปโรงเรียนเขาจะมีโอกาสได้ช่วยหญิงสาวทําอาหารด้วยกัน!?

 

หยุนเคอไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเขาเพ้อฝันมากขึ้นเรื่อยๆคงมีความสุขไม่น้อยหากได้ทําอาหารกับนาง

 

อาหารถูกจัดขึ้นโต๊ะอย่างรวดเร็วด้วยข้าวหอมและเนี้อตากแห้งนึ่ง มีถั่วจานเล็กและแตงกวาอีกหนึ่งชามในฤดูร้อนที่แผดเผาอาหารจานนี้ทําให้ยิ่งรู้สึกสดชื่นไม่น้อย!

 

หยุนเคอชื่นชอบเนื้อมาโดยตลอด แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มรสถั่วและแตงกวาอย่างจริงจัง

 

อ่า รสชาติดีจริง ๆ! เหตุใดถึงไม่เคยทานอาหารจานนี้ในเมืองหลวงมาก่อน?

 

หยุนเถียนเถียนมองดูคนสามคนที่รับประทานอาหารอย่างเงียบๆบรรยากาศค่อนข้างขะมุกขมัว

 

ดังนั้นนางจึงพยายามทําลายความอึมครึม“พี่ใหญ่หยุนเจ้าวางแผนจะปลูกผักชนิดใด?”

 

เป็นครั้งแรกที่หยุนเคอพูดขณะรับประทานอาหารโดยไม่ห่วงภาพพจน์“แค่ปลูกถั่วกับแตงกวาแบบนี้ก็ไม่เลว!”

 

หยุนเถียนเถียนพยักหน้าแม้ว่าตอนนี้จะพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการปลูกถั่วและแตงกวาไปแล้วก็ตามแต่ถึงอย่างไรในฤดูใบไม้ร่วงถั่วและแตงกวาก็ไม่ได้ขาดแคลน!

 

“ดีเลย! แต่แค่สองอย่างในจานนี้เองหรือ?”

 

หยุนเคอหยุดมองหยุนเถียนเถียนด้วยสายตาจริงจัง “เจ้าปลูกอะไรก็ได้ที่เจ้าชอบ”

 

หยุนเถียนเถียนนิ่งเงียบ

 

พี่ชาย! ท่านไม่ได้เตรียมจะปลูกพืชใด ๆ แล้วจะทําอย่างไรกับที่ดินมากมายขนาดนี้? หรือว่างเกินไปจนเบื่อหน่ายงั้นหรือ?

 

“เช่นนั้นก็ปลูกบ้างเถิด!”

 

หยุนเสียนเถียนก้มศีรษะลงเพื่อทานอาหารขณะพูด

 

จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามา!

 

ผ่านมานาน กินข้าวด้วยกันมามากกว่าหนึ่งหรือสองมื้อ!

 

หยุนเคอดูเหมือนจะไม่ชอบกินผัก เขาชอบกินเนื้อไม่ใช่หรือ? เมื่อไหร่กันที่เขาเริ่มเปลี่ยนนิสัยการกิน?

 

ทันใดนั้น หยุนเถียนเถียนก็เงยหน้าขึ้นอย่างสงสัยอย่างนั้นหมายความว่า ทั้งหมดนี้เพื่อนางไม่ใช่เพื่อตัวเขาเองนั่นเป็นเหตุผลที่เขากําลังเตรียมทําการเพาะปลูกใช่หรือไม่?

 

แต่เมื่อเห็นหยุนเคอกินถั่ว หยุนเถียนเถียนก็ปฏิเสธความคิดก่อนหน้านี้ของนางทันที

 

ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะค้นพบว่าผักสีเขียวนั้นอร่อยเขาจึงเปลี่ยนไป

 

แต่ชายผู้นี้จะปลูกผักได้หรือ?

 

หยุนเวียนเถียนคิดเช่นนั้นในใจอยู่สักพักจึงกล่าวคําออก“พี่ใหญ่หยุนเจ้าปลูกผักเป็นหรือ?”

 

หยุนเคอส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว และหลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา

 

แม้ว่าสถานะเดิมของเขาจะไม่เป็นที่โปรดปราน แต่เขาก็มีเกียรติเช่นกัน!เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าการเกษตรเหล่านี้ทําอ ย่างไร?

 

ต่อให้ตกต่ําจนกลายเป็นพรานป่าบนภูเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องการเกษตรในหมู่บ้านเท่าไหร่นัก!

 

หยุนเถียนเถียนก็เห็นอีกว่าหยุนเคอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยและเมื่อเขายื่นตะเกียบไปคืบผักมือของเขาก็แข็งเกร็งเล็กน้อย!

 

ดังนั้นจึงคิดอย่างมีน้ําใจแก่เขา “ช่างเถิด ข้าจะสอนเจ้าเอง!”

 

หยุนเคอรู้สึกดีขึ้นมาทันที หญิงผู้นี้ยังมีมโนธรรมอยู่บ้าง

 

หลังมื้ออาหาร เฉินเฉินเก็บตัวอยู่ในห้องของเขาและเริ่มจัดของสําหรับไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้!

 

หยุนเคอไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร แม้ว่าจะนั่งอยู่ที่ขอบโต๊ะแต่ดวงตาของเขาก็ยังคงมองตามหญิงสาวเดินไปเดินมารอบ

 

หยุนเถียนเถียนล้างจานและตะเกียบจากนั้นก็เดินออกไปที่ลานบ้าน

 

หยุนเคอรีบตามไปและถามขึ้น “เจ้าจะทําอะไร?”

 

“ในเมื่อท่านเตรียมที่ดินไปมากแล้ว แต่ที่บ้านไม่มีเมล็ดพืชเลยข้าคิดว่าน่าจะมีคนในหมู่บ้านที่เก็บไว้บ้างเลยจะไปขอแบ่งมามีอะไรหรือ?”

 

หยุนเคอรู้สึกวุ่ยวายใจกับตัวเองเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ก้มศีรษะลงและไม่ได้กล่าวอะไรต่อ

 

เอาเถอะ แม้ว่าคนผู้นี้จะแปลกไปสักหน่อย แต่หยุนเวียนเถียนก็ไม่ได้คิดมากก่อนจะเดินออกจากประตูไปอย่างรวด เร็ว

 

แม้ว่าหลี่เสี่ยวเหอจะพูดง่าย แต่ว่าแม่สามีนางไม่ค่อยดีนักเช่นนั้นก็ไปหาจี้ชื่อดีกว่า

 

ในเวลานี้ จีชื่อเพิ่งกลับจากทุ่งนา กินข้าวเสร็จก็วางแผนว่าจะพักสักหน่อยก่อนจะออกไปตัดฟื้น

 

นางก็เหมือนคนอื่นในหมู่บ้านและหยุนเถียนก็ให้ความสําคัญกับฟื้นของครอบครัวนางเสมอ

 

ตอนที่หยุนเถียนเถียนเดินเข้ามานั้น เฉินผิงเหอกําลังล้างหน้าอยู่

 

“ลุงใหญ่!”

 

เฉินผิงเหอหันขวับตามเสียง ” เถียนเถียน! เจ้ามาทําอะไรที่บ้านลุงหรือ?”

 

หลานสาวคนนี้มักรู้สึกว่าชีวิตตนต่ําต้อยเสมออีกทั้งเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น เฉินผิงเหอไม่รู้ด้วยซ้ําว่าจะรับมือกับหลานสาวตัวน้อยนี้อย่างไร

 

“หยุนเคอขุดแปลงดินหลังสวน ข้าจึงมาดูว่าลุงพอจะมีเมล็ดพืชบ้างหรือไม่?ปลูกเองน่าจะดีกว่าต้อ งคอยแลกเปลี่ยนอาหารกับชาวบ้านตลอดเวลามันไม่ค่อยสะดวกนัก”

 

เฉินผิงเหอยิ้ม “ถ้าเจ้าอยากกินผักก็แค่มาที่บ้านลุงเหตุใดต้องไปแลกเปลี่ยนอาหาร? ก็แค่ผักที่กินกันในบ้านเท่านั้น ลุงจะให้เจ้าไม่ได้เชียวหรือ?”

 

หยุนเถียนเถียนยิ้มอ่อน “บ้านของท่านลุงเองก็มีคนมากมายแปลงผักเล็กๆนั้นไม่เพียงพอหรอกหลานไม่อยากรบกวนอย่างไรเสียที่ดินก็ถูกขุดไปแล้วเหตุใดไม่แบ่งเมล์ ดพันธ์ให้ข้าขอแค่ที่มีจะเป็นผักชนิดใดก็ไม่สําคัญ”

 

“เรื่องเล็กน้อย ป้าสะใภ้ใหญ่ของเจ้ามักจะเตรียมไว้เพื่อเสมอแม้จะรู้ว่าบ้านของนางมีที่ดินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเดี๋ยวข้าหาให้เจ้าเอาไปได้หมดเลย!ว่าแต่… เจ้ากินข้าว มาหรือยัง?”

 

“กินมาแล้วเจ้าค่ะ!”

 

เฉินผิงเหอเปิดประตูเสียงดังและตะโกนเข้าไปในห้องครัว”จี้หง! จี้หง!”

 

นางจีรีบวิ่งออกไป “ตะโกนอะไร? ตะโกนหาวิญญาณหรือ!”

 

เฉินผิงเหอรู้สึกอับอายต่อหน้าหลานสาวหน้าแก่ๆของเขาแดงขึ้น!

 

“ดูเจ้าสิ! น่าอายอะไรเช่นนี้ หลานสาวของข้าต้องการเมล็ดพันธุ์ผักในบ้านพวกเรายังมีเหลืออีกมากหรือไม่? เอามันออกมาให้นางเถิด”

 

เมื่อเห็นหยุนเสียนเถียน นางงี้ก็รู้สึกอับอายจึงระงับอารมณ์ฉุนเฉียวของตนและพูดด้วยรอยยิ้ม ” เถียนเถียน!เจ้ากินข้าวหรือยัง? หากยังไม่ได้กินก็มากินที่บ้านป้า!”

 

“ป้าใหญ่! ข้ากินแล้ว ท่านไม่ขออะไรอย่างอื่นเลยหรือ?”

 

จี้ชื่อพูดอย่างจริงใจ “มันก็แค่เมล็ดพืชที่ไม่จําเป็นไม่คุ้มที่จะต้องจ่ายเงินเจ้าเอาไปทั้งหมดได้เลย”

 

จี้ชื่อกล่าวขณะหันหลังเข้าไปในห้องพื้นข้าง ๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 146 เมล็ดพืช

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 146 เมล็ดพืช at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

สามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 146 เมล็ดพืช

 

“หยุนเคอ เจ้ากําลังทําอะไรอยู่? ขุดแปลงดินเยอะแยะจะปลูกอะไรหรือ?”

 

หยุนเคอยืนอยู่ตรงแปลงดิน ร่างกายเขาสูงใหญ่จนหยุนเถียนเถียนรู้สึกว่าดวงอาทิตย์ตรงหน้ากําลังถูกบดบัง!

 

“เจ้าชอบกินผักมิใช่หรือ? ข้าก็จะปลูกผักกินเองไง”

 

หลังจากกล่าวจบ เขาพลันรู้สึกประหม่าเกินกว่าจะสบตาอีกฝ่ายเช่นนี้จึงก้มศีรษะแล้วเดินเข้าไปในห้องทันที

 

หยุนเถียนเถียนขมวดคิ้วแม้นางจะอยากกินผักแต่จะกินได้มากแค่ไหนเชียว?จําเป็นต้องรื้อหน้าดินเป็นไร่สองไร่เลยหรือ?

หยุนเคอไม่ได้กินยาผิดสําแดงมาใช่หรือไม่?

 

เฉินเฉินมองเห็นบรรยากาศที่คลุมเครือระหว่างทั้งคู่จึงอดไม่ได้ที่จะอึดอัด

 

ในที่สุดหยุนเถียนเถียนก็พูดขึ้น “ไปกันเถอะ มันเป็นที่ ดินของเขาเองเขาจะทําอะไรก็ได้!เข้าไปหาอะไรกินกันพวกเราหิวแล้ว!”

 

สองพี่น้องเดินเข้าไปในครัวคนหนึ่งกําลังก่อไฟอีกคนกําลังทําอาหารเป็นการร่วมมือกันอย่างขะมักเขม้น

 

หยุนเคอมองดูอยู่ไกลๆจากประตูไม่รู้ว่าเพราะอะไรเขาพลันรู้สึกอิจฉาเด็กน้อยขึ้นมา หรือว่าเมื่อเจ้าเด็กนั่นไปโรงเรียนเขาจะมีโอกาสได้ช่วยหญิงสาวทําอาหารด้วยกัน!?

 

หยุนเคอไม่รู้ด้วยซ้ําว่าเขาเพ้อฝันมากขึ้นเรื่อยๆคงมีความสุขไม่น้อยหากได้ทําอาหารกับนาง

 

อาหารถูกจัดขึ้นโต๊ะอย่างรวดเร็วด้วยข้าวหอมและเนี้อตากแห้งนึ่ง มีถั่วจานเล็กและแตงกวาอีกหนึ่งชามในฤดูร้อนที่แผดเผาอาหารจานนี้ทําให้ยิ่งรู้สึกสดชื่นไม่น้อย!

 

หยุนเคอชื่นชอบเนื้อมาโดยตลอด แต่วันนี้เป็นครั้งแรกที่เขาได้ลิ้มรสถั่วและแตงกวาอย่างจริงจัง

 

อ่า รสชาติดีจริง ๆ! เหตุใดถึงไม่เคยทานอาหารจานนี้ในเมืองหลวงมาก่อน?

 

หยุนเถียนเถียนมองดูคนสามคนที่รับประทานอาหารอย่างเงียบๆบรรยากาศค่อนข้างขะมุกขมัว

 

ดังนั้นนางจึงพยายามทําลายความอึมครึม“พี่ใหญ่หยุนเจ้าวางแผนจะปลูกผักชนิดใด?”

 

เป็นครั้งแรกที่หยุนเคอพูดขณะรับประทานอาหารโดยไม่ห่วงภาพพจน์“แค่ปลูกถั่วกับแตงกวาแบบนี้ก็ไม่เลว!”

 

หยุนเถียนเถียนพยักหน้าแม้ว่าตอนนี้จะพลาดช่วงเวลาที่ดีที่สุดในการปลูกถั่วและแตงกวาไปแล้วก็ตามแต่ถึงอย่างไรในฤดูใบไม้ร่วงถั่วและแตงกวาก็ไม่ได้ขาดแคลน!

 

“ดีเลย! แต่แค่สองอย่างในจานนี้เองหรือ?”

 

หยุนเคอหยุดมองหยุนเถียนเถียนด้วยสายตาจริงจัง “เจ้าปลูกอะไรก็ได้ที่เจ้าชอบ”

 

หยุนเถียนเถียนนิ่งเงียบ

 

พี่ชาย! ท่านไม่ได้เตรียมจะปลูกพืชใด ๆ แล้วจะทําอย่างไรกับที่ดินมากมายขนาดนี้? หรือว่างเกินไปจนเบื่อหน่ายงั้นหรือ?

 

“เช่นนั้นก็ปลูกบ้างเถิด!”

 

หยุนเสียนเถียนก้มศีรษะลงเพื่อทานอาหารขณะพูด

 

จู่ ๆ ก็มีความคิดหนึ่งแวบเข้ามา!

 

ผ่านมานาน กินข้าวด้วยกันมามากกว่าหนึ่งหรือสองมื้อ!

 

หยุนเคอดูเหมือนจะไม่ชอบกินผัก เขาชอบกินเนื้อไม่ใช่หรือ? เมื่อไหร่กันที่เขาเริ่มเปลี่ยนนิสัยการกิน?

 

ทันใดนั้น หยุนเถียนเถียนก็เงยหน้าขึ้นอย่างสงสัยอย่างนั้นหมายความว่า ทั้งหมดนี้เพื่อนางไม่ใช่เพื่อตัวเขาเองนั่นเป็นเหตุผลที่เขากําลังเตรียมทําการเพาะปลูกใช่หรือไม่?

 

แต่เมื่อเห็นหยุนเคอกินถั่ว หยุนเถียนเถียนก็ปฏิเสธความคิดก่อนหน้านี้ของนางทันที

 

ดูเหมือนว่าคนผู้นี้จะค้นพบว่าผักสีเขียวนั้นอร่อยเขาจึงเปลี่ยนไป

 

แต่ชายผู้นี้จะปลูกผักได้หรือ?

 

หยุนเวียนเถียนคิดเช่นนั้นในใจอยู่สักพักจึงกล่าวคําออก“พี่ใหญ่หยุนเจ้าปลูกผักเป็นหรือ?”

 

หยุนเคอส่ายหัวโดยไม่รู้ตัว และหลังจากนั้นใบหน้าของเขาก็ร้อนผ่าวขึ้นมา

 

แม้ว่าสถานะเดิมของเขาจะไม่เป็นที่โปรดปราน แต่เขาก็มีเกียรติเช่นกัน!เขาจะรู้ได้อย่างไรว่าการเกษตรเหล่านี้ทําอ ย่างไร?

 

ต่อให้ตกต่ําจนกลายเป็นพรานป่าบนภูเขา แต่เขาก็ไม่ได้สนใจเรื่องการเกษตรในหมู่บ้านเท่าไหร่นัก!

 

หยุนเถียนเถียนก็เห็นอีกว่าหยุนเคอรู้สึกเขินอายเล็กน้อยและเมื่อเขายื่นตะเกียบไปคืบผักมือของเขาก็แข็งเกร็งเล็กน้อย!

 

ดังนั้นจึงคิดอย่างมีน้ําใจแก่เขา “ช่างเถิด ข้าจะสอนเจ้าเอง!”

 

หยุนเคอรู้สึกดีขึ้นมาทันที หญิงผู้นี้ยังมีมโนธรรมอยู่บ้าง

 

หลังมื้ออาหาร เฉินเฉินเก็บตัวอยู่ในห้องของเขาและเริ่มจัดของสําหรับไปโรงเรียนในวันพรุ่งนี้!

 

หยุนเคอไม่รู้ว่าเขาเป็นอะไร แม้ว่าจะนั่งอยู่ที่ขอบโต๊ะแต่ดวงตาของเขาก็ยังคงมองตามหญิงสาวเดินไปเดินมารอบ

 

หยุนเถียนเถียนล้างจานและตะเกียบจากนั้นก็เดินออกไปที่ลานบ้าน

 

หยุนเคอรีบตามไปและถามขึ้น “เจ้าจะทําอะไร?”

 

“ในเมื่อท่านเตรียมที่ดินไปมากแล้ว แต่ที่บ้านไม่มีเมล็ดพืชเลยข้าคิดว่าน่าจะมีคนในหมู่บ้านที่เก็บไว้บ้างเลยจะไปขอแบ่งมามีอะไรหรือ?”

 

หยุนเคอรู้สึกวุ่ยวายใจกับตัวเองเล็กน้อย แต่สุดท้ายเขาก็ก้มศีรษะลงและไม่ได้กล่าวอะไรต่อ

 

เอาเถอะ แม้ว่าคนผู้นี้จะแปลกไปสักหน่อย แต่หยุนเวียนเถียนก็ไม่ได้คิดมากก่อนจะเดินออกจากประตูไปอย่างรวด เร็ว

 

แม้ว่าหลี่เสี่ยวเหอจะพูดง่าย แต่ว่าแม่สามีนางไม่ค่อยดีนักเช่นนั้นก็ไปหาจี้ชื่อดีกว่า

 

ในเวลานี้ จีชื่อเพิ่งกลับจากทุ่งนา กินข้าวเสร็จก็วางแผนว่าจะพักสักหน่อยก่อนจะออกไปตัดฟื้น

 

นางก็เหมือนคนอื่นในหมู่บ้านและหยุนเถียนก็ให้ความสําคัญกับฟื้นของครอบครัวนางเสมอ

 

ตอนที่หยุนเถียนเถียนเดินเข้ามานั้น เฉินผิงเหอกําลังล้างหน้าอยู่

 

“ลุงใหญ่!”

 

เฉินผิงเหอหันขวับตามเสียง ” เถียนเถียน! เจ้ามาทําอะไรที่บ้านลุงหรือ?”

 

หลานสาวคนนี้มักรู้สึกว่าชีวิตตนต่ําต้อยเสมออีกทั้งเพิ่งมีการเปลี่ยนแปลงบางอย่างขึ้น เฉินผิงเหอไม่รู้ด้วยซ้ําว่าจะรับมือกับหลานสาวตัวน้อยนี้อย่างไร

 

“หยุนเคอขุดแปลงดินหลังสวน ข้าจึงมาดูว่าลุงพอจะมีเมล็ดพืชบ้างหรือไม่?ปลูกเองน่าจะดีกว่าต้อ งคอยแลกเปลี่ยนอาหารกับชาวบ้านตลอดเวลามันไม่ค่อยสะดวกนัก”

 

เฉินผิงเหอยิ้ม “ถ้าเจ้าอยากกินผักก็แค่มาที่บ้านลุงเหตุใดต้องไปแลกเปลี่ยนอาหาร? ก็แค่ผักที่กินกันในบ้านเท่านั้น ลุงจะให้เจ้าไม่ได้เชียวหรือ?”

 

หยุนเถียนเถียนยิ้มอ่อน “บ้านของท่านลุงเองก็มีคนมากมายแปลงผักเล็กๆนั้นไม่เพียงพอหรอกหลานไม่อยากรบกวนอย่างไรเสียที่ดินก็ถูกขุดไปแล้วเหตุใดไม่แบ่งเมล์ ดพันธ์ให้ข้าขอแค่ที่มีจะเป็นผักชนิดใดก็ไม่สําคัญ”

 

“เรื่องเล็กน้อย ป้าสะใภ้ใหญ่ของเจ้ามักจะเตรียมไว้เพื่อเสมอแม้จะรู้ว่าบ้านของนางมีที่ดินเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเดี๋ยวข้าหาให้เจ้าเอาไปได้หมดเลย!ว่าแต่… เจ้ากินข้าว มาหรือยัง?”

 

“กินมาแล้วเจ้าค่ะ!”

 

เฉินผิงเหอเปิดประตูเสียงดังและตะโกนเข้าไปในห้องครัว”จี้หง! จี้หง!”

 

นางจีรีบวิ่งออกไป “ตะโกนอะไร? ตะโกนหาวิญญาณหรือ!”

 

เฉินผิงเหอรู้สึกอับอายต่อหน้าหลานสาวหน้าแก่ๆของเขาแดงขึ้น!

 

“ดูเจ้าสิ! น่าอายอะไรเช่นนี้ หลานสาวของข้าต้องการเมล็ดพันธุ์ผักในบ้านพวกเรายังมีเหลืออีกมากหรือไม่? เอามันออกมาให้นางเถิด”

 

เมื่อเห็นหยุนเสียนเถียน นางงี้ก็รู้สึกอับอายจึงระงับอารมณ์ฉุนเฉียวของตนและพูดด้วยรอยยิ้ม ” เถียนเถียน!เจ้ากินข้าวหรือยัง? หากยังไม่ได้กินก็มากินที่บ้านป้า!”

 

“ป้าใหญ่! ข้ากินแล้ว ท่านไม่ขออะไรอย่างอื่นเลยหรือ?”

 

จี้ชื่อพูดอย่างจริงใจ “มันก็แค่เมล็ดพืชที่ไม่จําเป็นไม่คุ้มที่จะต้องจ่ายเงินเจ้าเอาไปทั้งหมดได้เลย”

 

จี้ชื่อกล่าวขณะหันหลังเข้าไปในห้องพื้นข้าง ๆ

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+