สามีข้า คือพรานป่า 17 ถ้ำ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 17 ถ้ำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ยังมีแรงเหลือที่จะพร่ำบ่นอยู่… คงไม่หิวเท่าไหร่สินะ”

เฉินเถียนเถียนที่ได้ยินเสียงนั้นสะดุ้งตัวโหยงพร้อมหันขวับไปหาต้นเสียงทันที

หยุนเคอวางไก่ป่าลงก่อนจะเริ่มหากิ่งไม้มาเพื่อจุดไฟ

“เจ้า… เจ้ากลับมาทำไม?”

หยุนเคอไม่ได้ตอบอะไร เพียงก้มหน้าหาฟืนต่อไป ในฤดูนี้กิ่งไม้จะแห้งและเปราะ เพียงใช้มือหักก็หลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นไม่นาน บริเวณที่เฉินเถียนเถียนนั่งก็เต็มไปด้วยกิ่งไม้ นางตกตะลึงต่อสิ่งที่เห็นจนไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร แต่หยุนเคอไม่ได้สนใจพร้อมกับหยิบไก่ป่าไปล้างที่ริมธารอย่างกระฉับกระเฉง

เฉินเถียนเถียนนั่งนิ่งและจ้องมองไก่ป่า เพียงคิดถึงช่วงเวลาที่มันถูกย่างก็ทำให้นางน้ำลายสออย่างไม่อาจอดกลั้น

หยุนเคอหลุดขำเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของอีกฝ่าย แต่เพราะนางดุราวกับพยัคฆ์ หากเผลอหัวเราะเสียงดังคงโดนตะครุบเป็นแน่!

การจุดไฟในป่าแม้จะมีควันลอยขโมงแต่ก็ยังมีต้นไม้ใหญ่บดบังไว้ หยุนเคอย่างไก่ตัวนั้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย ขณะที่เฉินเถียนเถียนนั่งจ้องด้วยความหิวโหย…

แม้ไม่รู้ว่าหยุนเคอจะแบ่งให้กินหรือไม่ แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากอ้อนวอนเขา! เฉินเถียนเถียนทราบดีว่าหากจะเอาตัวรอดในป่าได้ก็ต้องล่าสัตว์เป็นก่อน แต่การเริ่มต้นลงมือนั้นไม่ง่ายเลย

ผ่านไปไม่นาน กลิ่นหอมของไก่คละคลุ้งไปทั่วจนทำให้เฉินเถียนเถียนหุบปากแน่นเพราะกลัวน้ำลายจะไหลออก!

ในที่สุดไก่ป่าอันหอมหวนก็สุกสักที หยุนเคอดับไฟก่อนจะนำใบ้ไม้มาห่อไก่ย่างตัวนั้นไว้

เห็นอย่างนั้นแล้วเฉินเถียนเถียนกลัวว่าหากไม่พูดอะไร หยุนเคอต้องไม่ยอมแบ่งไก่ให้เธอแน่จึงรีบร้องออก “ท่านลุง… เรามาตกลงข้อแลกเปลี่ยนกันดีไหม? ดูเอาเถิด ตอนนี้ข้าหิวเหลือเกิน หากยังไม่ได้กินอะไรข้าตายแน่! ขอยืมไก่ของท่านสักครึ่งตัวได้หรือไม่?”

‘ท่านลุงงั้นเหรอ? ผมข้ายังคงดกดำอยู่จะเป็นลุงได้อย่างไร?!’

“ยืม? แล้วเจ้าจะหามาคืนข้าได้หรือ?”

เฉินเถียนเถียนรู้สึกได้ถึงการดูถูก ‘เห็นข้าเป็นคนคิดเอาเปรียบผู้อื่นหรือไร?!’

“ได้สิ! ข้าเขียนจะใบสัญญาไว้ให้ราคาเท่ากับท้องตลาดเลย!”

หยุนเคอขมวดคิ้ว ‘หญิงผู้นี้นับว่าไม่ธรรมดา โดนขังอยู่ในบ้านมาโดยตลอดจนไม่รู้จักสังคมข้างนอก และแน่นอนว่าแม่เลี้ยงคงไม่ได้สอนนางแน่!’

‘แต่นางเขียนหนังสือเป็นงั้นหรือ?’

ทันใดนั้นหยุนเคอจึงหลุดปากถามด้วยความสงสัย “เจ้าเขียนหนังสือเป็นเหรอ? หรือต่อให้ข้าเป็นคนเขียนสัญญา เจ้าจะอ่านออกหรือ? ไม่กลัวข้าเอาเปรียบหรือไร?”

เฉินเถียนเถียนรู้สึกไม่พอใจและสบถอยู่ในใจ ‘กล้าหาว่าข้าอ่านหนังสือไม่ออกได้อย่างไร? สมัยนี้ใครเขาไม่เรียนหนังสือกัน?’

ทันใดนั้นนางตระหนักได้ว่าตนอยู่ในยุคโบราณและเฉินเถียนเถียนคนเดิมก็อ่านหนังสือไม่ออก เช่นนี้นางจึงเงียบและไม่ตอบโต้กลับ

“ข้าอ่านไม่เป็นหรอก แต่เจ้าสอนข้าสิ!”

เพียงมองตาก็ทำให้หยุนเคอรู้ว่าแท้จริงแล้วนางอ่านออกเขียนได้ แต่กลับปิดบังเพราะเหตุใดกัน แต่ถึงแม้จะสงสัยมากเพียงใดหยุนเคอก็ตระหนักได้ว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องของนาง

“ไม่ต้องหรอก… ข้าให้!” หยุนเคอกล่าวพลางยื่นไก่ย่างให้นาง

“ให้ข้าหมดเลยเหรอ? เจ้าไม่กินเหรอ?” ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ทำให้เฉินเถียนเถียนไม่อาจรับรู้ได้ถึงสีหน้าของเขา

“จะกินไหม?”

เฉินเถียนเถียนผู้หิวโหยจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร? ในเมื่อเขาปรุงและย่างไก่ป่าให้เห็นถึงขนาดนี้ คงไม่ได้ประสงค์ร้ายหรือกลั่นแกล้งนางโดยการใส่ยาพิษลงไปหรอก เช่นนี้เฉินเถียนเถียนรีบยื่นมือไปรับทันที

“ค่อย ๆ กินล่ะ หากติดคอตายข้าคงช่วยอะไรไม่ได้นะ!” หยุนเคอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

จากนั้นเฉินเถียนเถียนจึงเริ่มกินไก่อย่างตะกละตะกลามด้วยความหิวโหยจนมันติดคอนางเข้าจริง ๆ!

หยุนเคอคิดในใจ ‘ข้าไม่เคยพบหญิงที่ไร้สติเช่นนี้มาก่อนเลย!’

แม้จะหงุดหงิดใจแค่ไหนแต่หยุนเคอก็รีบหยิบกระบอกไม้ไผ่ไปตักน้ำมาให้นางอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณนะ” เฉินเถียนเถียนกล่าวขอบคุณพร้อมสำลักเฮือกใหญ่

หยุนเคอเดินจากไปทันทีโดยไม่หยิบอะไรติดมือไปด้วย แม้เฉินเถียนเถียนจะกำลังยุ่งอยู่กับการกิน แต่นางก็ตระหนักได้ว่าควรกล่าวขอบคุณเขาก่อน ดังนั้นนางจึงรีบวิ่งตามหยุนเคอไปทันที

แต่เพราะหยุนเคอมีวิชาตัวเบาจึงเดินได้เร็วและทิ้งห่างเฉินเถียนเถียนไปไกลจนลับตา แต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้และเดินตามไปอย่างเร่งรีบ

ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นตำรวจ หากไล่ตามคนเพียงเท่านี้ยังทำไม่ได้ คงเสียชื่อแย่!

ไม่ว่าหยุนเคอจะมีวิชาที่แกร่งกล้าแค่ไหน ก็ย่อมต้องมีรอยเท้าหลงเหลืออยู่บ้าง… ต้องค้นหาให้ละเอียด!

เฉินเถียนเถียนเดินตามหาเขาไปจนถึงถ้ำ ‘ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเขาเป็นคนป่า แต่… เป็นคนป่าที่อาศัยอยู่ในถ้ำจริง ๆ เหรอ?’ เฉินเถียนเถียนได้แต่คิดในใจ

“ลุง? ลุง? อยู่หรือไหม?”

หยุนเคอแปลกใจ ‘ข้าทิ้งนางไว้แล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้ยินเสียงนางอีกล่ะ?’

“ถ้าไม่ว่าอะไร ข้าขอเข้าไปนะ!” ทันทีที่พูดจบเฉินเถียนเถียนก็เดินเข้าไปในถ้ำโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเดินเข้ามาถึงขนาดนี้คงทำอะไรไม่ได้ หยุนเคอแสยะยิ้มพลางคิดในใจอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร

‘หากตั้งใจจะเข้ามาอยู่แล้ว จะถามข้าเพื่อสิ่งใดกัน?’

“กลับไปซะ!” หยุนเคอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา!

“เพราะข้ากินอาหารของเจ้าจึงอยากมาขอบคุณและเพียงอยากเห็นว่าเจ้าอยู่ที่ไหน… หากวันหนึ่งข้าได้ดีจะกลับมาตอบแทน!”

“ในเมื่อเห็นแล้วก็ออกไปเสีย!”

“ก็ได้… แต่ที่นี่ดูเหมือนว่าจะอยู่อาศัยได้ลำบากไม่น้อย!” เฉินเถียนเถียนแสร้งทำราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่หยุนเคอบอกก่อนจะเดินสำรวจรอบ ๆ ถ้ำ

แม้จะลำบากไป แต่ถ้ำแห่งนี้ก็สะอาดเรียบร้อย! รอบผนังถ้ำได้กลิ่นกำมะถันคละคลุ้ง!

‘เขาต้องใช้ไล่มดแน่! ไม้ท่อนเหล่านี้ที่ใช้แทนเลื่อย เขาสร้างมันเองสินะ’

ภายในถ้ำยังประกอบไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้ที่ทำจากหิน ลึกเข้าไปด้านใน มีเตียงหนึ่งหลังที่ทำจากหินอ่อนด้วย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 17 ถ้ำ

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 17 ถ้ำ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

“ยังมีแรงเหลือที่จะพร่ำบ่นอยู่… คงไม่หิวเท่าไหร่สินะ”

เฉินเถียนเถียนที่ได้ยินเสียงนั้นสะดุ้งตัวโหยงพร้อมหันขวับไปหาต้นเสียงทันที

หยุนเคอวางไก่ป่าลงก่อนจะเริ่มหากิ่งไม้มาเพื่อจุดไฟ

“เจ้า… เจ้ากลับมาทำไม?”

หยุนเคอไม่ได้ตอบอะไร เพียงก้มหน้าหาฟืนต่อไป ในฤดูนี้กิ่งไม้จะแห้งและเปราะ เพียงใช้มือหักก็หลุดออกมาได้อย่างง่ายดาย

จากนั้นไม่นาน บริเวณที่เฉินเถียนเถียนนั่งก็เต็มไปด้วยกิ่งไม้ นางตกตะลึงต่อสิ่งที่เห็นจนไม่รู้จะตอบสนองอย่างไร แต่หยุนเคอไม่ได้สนใจพร้อมกับหยิบไก่ป่าไปล้างที่ริมธารอย่างกระฉับกระเฉง

เฉินเถียนเถียนนั่งนิ่งและจ้องมองไก่ป่า เพียงคิดถึงช่วงเวลาที่มันถูกย่างก็ทำให้นางน้ำลายสออย่างไม่อาจอดกลั้น

หยุนเคอหลุดขำเบา ๆ เมื่อได้ยินเสียงกลืนน้ำลายของอีกฝ่าย แต่เพราะนางดุราวกับพยัคฆ์ หากเผลอหัวเราะเสียงดังคงโดนตะครุบเป็นแน่!

การจุดไฟในป่าแม้จะมีควันลอยขโมงแต่ก็ยังมีต้นไม้ใหญ่บดบังไว้ หยุนเคอย่างไก่ตัวนั้นด้วยใบหน้าเรียบเฉย ขณะที่เฉินเถียนเถียนนั่งจ้องด้วยความหิวโหย…

แม้ไม่รู้ว่าหยุนเคอจะแบ่งให้กินหรือไม่ แต่นางก็ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วนอกจากอ้อนวอนเขา! เฉินเถียนเถียนทราบดีว่าหากจะเอาตัวรอดในป่าได้ก็ต้องล่าสัตว์เป็นก่อน แต่การเริ่มต้นลงมือนั้นไม่ง่ายเลย

ผ่านไปไม่นาน กลิ่นหอมของไก่คละคลุ้งไปทั่วจนทำให้เฉินเถียนเถียนหุบปากแน่นเพราะกลัวน้ำลายจะไหลออก!

ในที่สุดไก่ป่าอันหอมหวนก็สุกสักที หยุนเคอดับไฟก่อนจะนำใบ้ไม้มาห่อไก่ย่างตัวนั้นไว้

เห็นอย่างนั้นแล้วเฉินเถียนเถียนกลัวว่าหากไม่พูดอะไร หยุนเคอต้องไม่ยอมแบ่งไก่ให้เธอแน่จึงรีบร้องออก “ท่านลุง… เรามาตกลงข้อแลกเปลี่ยนกันดีไหม? ดูเอาเถิด ตอนนี้ข้าหิวเหลือเกิน หากยังไม่ได้กินอะไรข้าตายแน่! ขอยืมไก่ของท่านสักครึ่งตัวได้หรือไม่?”

‘ท่านลุงงั้นเหรอ? ผมข้ายังคงดกดำอยู่จะเป็นลุงได้อย่างไร?!’

“ยืม? แล้วเจ้าจะหามาคืนข้าได้หรือ?”

เฉินเถียนเถียนรู้สึกได้ถึงการดูถูก ‘เห็นข้าเป็นคนคิดเอาเปรียบผู้อื่นหรือไร?!’

“ได้สิ! ข้าเขียนจะใบสัญญาไว้ให้ราคาเท่ากับท้องตลาดเลย!”

หยุนเคอขมวดคิ้ว ‘หญิงผู้นี้นับว่าไม่ธรรมดา โดนขังอยู่ในบ้านมาโดยตลอดจนไม่รู้จักสังคมข้างนอก และแน่นอนว่าแม่เลี้ยงคงไม่ได้สอนนางแน่!’

‘แต่นางเขียนหนังสือเป็นงั้นหรือ?’

ทันใดนั้นหยุนเคอจึงหลุดปากถามด้วยความสงสัย “เจ้าเขียนหนังสือเป็นเหรอ? หรือต่อให้ข้าเป็นคนเขียนสัญญา เจ้าจะอ่านออกหรือ? ไม่กลัวข้าเอาเปรียบหรือไร?”

เฉินเถียนเถียนรู้สึกไม่พอใจและสบถอยู่ในใจ ‘กล้าหาว่าข้าอ่านหนังสือไม่ออกได้อย่างไร? สมัยนี้ใครเขาไม่เรียนหนังสือกัน?’

ทันใดนั้นนางตระหนักได้ว่าตนอยู่ในยุคโบราณและเฉินเถียนเถียนคนเดิมก็อ่านหนังสือไม่ออก เช่นนี้นางจึงเงียบและไม่ตอบโต้กลับ

“ข้าอ่านไม่เป็นหรอก แต่เจ้าสอนข้าสิ!”

เพียงมองตาก็ทำให้หยุนเคอรู้ว่าแท้จริงแล้วนางอ่านออกเขียนได้ แต่กลับปิดบังเพราะเหตุใดกัน แต่ถึงแม้จะสงสัยมากเพียงใดหยุนเคอก็ตระหนักได้ว่าไม่ควรเข้าไปยุ่งเรื่องของนาง

“ไม่ต้องหรอก… ข้าให้!” หยุนเคอกล่าวพลางยื่นไก่ย่างให้นาง

“ให้ข้าหมดเลยเหรอ? เจ้าไม่กินเหรอ?” ด้วยใบหน้าที่เต็มไปด้วยหนวดเครารุงรัง ทำให้เฉินเถียนเถียนไม่อาจรับรู้ได้ถึงสีหน้าของเขา

“จะกินไหม?”

เฉินเถียนเถียนผู้หิวโหยจะกล้าปฏิเสธได้อย่างไร? ในเมื่อเขาปรุงและย่างไก่ป่าให้เห็นถึงขนาดนี้ คงไม่ได้ประสงค์ร้ายหรือกลั่นแกล้งนางโดยการใส่ยาพิษลงไปหรอก เช่นนี้เฉินเถียนเถียนรีบยื่นมือไปรับทันที

“ค่อย ๆ กินล่ะ หากติดคอตายข้าคงช่วยอะไรไม่ได้นะ!” หยุนเคอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

จากนั้นเฉินเถียนเถียนจึงเริ่มกินไก่อย่างตะกละตะกลามด้วยความหิวโหยจนมันติดคอนางเข้าจริง ๆ!

หยุนเคอคิดในใจ ‘ข้าไม่เคยพบหญิงที่ไร้สติเช่นนี้มาก่อนเลย!’

แม้จะหงุดหงิดใจแค่ไหนแต่หยุนเคอก็รีบหยิบกระบอกไม้ไผ่ไปตักน้ำมาให้นางอย่างรวดเร็ว

“ขอบคุณนะ” เฉินเถียนเถียนกล่าวขอบคุณพร้อมสำลักเฮือกใหญ่

หยุนเคอเดินจากไปทันทีโดยไม่หยิบอะไรติดมือไปด้วย แม้เฉินเถียนเถียนจะกำลังยุ่งอยู่กับการกิน แต่นางก็ตระหนักได้ว่าควรกล่าวขอบคุณเขาก่อน ดังนั้นนางจึงรีบวิ่งตามหยุนเคอไปทันที

แต่เพราะหยุนเคอมีวิชาตัวเบาจึงเดินได้เร็วและทิ้งห่างเฉินเถียนเถียนไปไกลจนลับตา แต่นางก็ยังไม่ยอมแพ้และเดินตามไปอย่างเร่งรีบ

ไม่ว่าอย่างไรนางก็เป็นตำรวจ หากไล่ตามคนเพียงเท่านี้ยังทำไม่ได้ คงเสียชื่อแย่!

ไม่ว่าหยุนเคอจะมีวิชาที่แกร่งกล้าแค่ไหน ก็ย่อมต้องมีรอยเท้าหลงเหลืออยู่บ้าง… ต้องค้นหาให้ละเอียด!

เฉินเถียนเถียนเดินตามหาเขาไปจนถึงถ้ำ ‘ใคร ๆ ต่างก็บอกว่าเขาเป็นคนป่า แต่… เป็นคนป่าที่อาศัยอยู่ในถ้ำจริง ๆ เหรอ?’ เฉินเถียนเถียนได้แต่คิดในใจ

“ลุง? ลุง? อยู่หรือไหม?”

หยุนเคอแปลกใจ ‘ข้าทิ้งนางไว้แล้วไม่ใช่หรือ? ทำไมถึงได้ยินเสียงนางอีกล่ะ?’

“ถ้าไม่ว่าอะไร ข้าขอเข้าไปนะ!” ทันทีที่พูดจบเฉินเถียนเถียนก็เดินเข้าไปในถ้ำโดยที่ยังไม่ได้รับอนุญาต เมื่อเดินเข้ามาถึงขนาดนี้คงทำอะไรไม่ได้ หยุนเคอแสยะยิ้มพลางคิดในใจอย่างไม่รู้จะทำเช่นไร

‘หากตั้งใจจะเข้ามาอยู่แล้ว จะถามข้าเพื่อสิ่งใดกัน?’

“กลับไปซะ!” หยุนเคอพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา!

“เพราะข้ากินอาหารของเจ้าจึงอยากมาขอบคุณและเพียงอยากเห็นว่าเจ้าอยู่ที่ไหน… หากวันหนึ่งข้าได้ดีจะกลับมาตอบแทน!”

“ในเมื่อเห็นแล้วก็ออกไปเสีย!”

“ก็ได้… แต่ที่นี่ดูเหมือนว่าจะอยู่อาศัยได้ลำบากไม่น้อย!” เฉินเถียนเถียนแสร้งทำราวกับว่าไม่ได้ยินสิ่งที่หยุนเคอบอกก่อนจะเดินสำรวจรอบ ๆ ถ้ำ

แม้จะลำบากไป แต่ถ้ำแห่งนี้ก็สะอาดเรียบร้อย! รอบผนังถ้ำได้กลิ่นกำมะถันคละคลุ้ง!

‘เขาต้องใช้ไล่มดแน่! ไม้ท่อนเหล่านี้ที่ใช้แทนเลื่อย เขาสร้างมันเองสินะ’

ภายในถ้ำยังประกอบไปด้วยโต๊ะและเก้าอี้ที่ทำจากหิน ลึกเข้าไปด้านใน มีเตียงหนึ่งหลังที่ทำจากหินอ่อนด้วย!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+