สามีข้า คือพรานป่า 203 เฉินไฉ่อผู้ไม่ยอมแพ้

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 203 เฉินไฉ่อผู้ไม่ยอมแพ้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายสามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 203 เฉินไฉ่อผู้ไม่ยอมแพ้

 

หากเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาเพียงกระดิกนิ้ว อีกฝ่ายก็พุ่งปรี่เข้ามาเดินตามเขาอย่างเต็มใจแล้ว

 

แต่หยุนเถียนเกี่ยนกลับแตกต่างออกไป สามัญสํานึกของนางแกร่งกล้ากว่าสตร์ทั่วไปถ้าวันนั้นเขากระทําการหยาบ เกรงว่านางคงจะเกลียดชังเขาไปจวบจนวันตายแน่

!

เขาจําได้ดีวันที่นางหลบหนี เด็กสาวมีเพียงชุดนอนบาง ๆ ซึ่งไม่มีแม้แต่รองเท้า แม่นางจะได้พบเจอหยุนเคอบนภูเขา… แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะได้เห็นอะไรบ้าง

 

ด้วยคําพูดของนายอําเภอ หลี่ซื่อฮวาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจและตัดสินใจว่านับจากวันนี้ไปเขาจะกอดต้นขาของเด็กสาวผู้นี้ไว้ให้มั่น

 

แต่สําหรับหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้นพลันเหงื่อแตกซ่าน คราวแรกเขาคิดเพียงว่าคําพูดเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายล่อลวงให้เขาหวั่นเกรง แต่ตอนนี้ดูเหมือนเด็กสาวคนนั้นจะ

มีสถานะที่แข็งแกร่งจนเขาไม่สามารถยั่วยุได้จริง ๆ เสียแล้ว!

 

“ท่านนายอําเภอโปรดยกโทษให้ข้าเถิด หลังจากวันนี้ไปข้าจะดูแลบุตรสาวและภรรยาให้ดีจะไม่ให้พวกนางออกไปสร้างความวุ่นวายให้กับเด็กสาวคนนั้นอีกต่อไป!”

 

หัวหน้าหมู่บ้านถึงกับร้องขอความเมตตา ส่วนเฉินไฉ่อเดินกลับไปที่ห้องด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น

นางไม่เต็มใจที่จะอยู่ตรงนี้จึงไตร่ตรองหาวิธีการอย่างตึงเครียด แต่หลังจากคิดอยู่นานนางก็

สามารถตัดสินใจได้

 

นั่นก็คือขัดคําสั่งผู้เป็นพ่อฑ์ะนางต้องการออกไปเสิร์ฟข่าให้กับแขก ตราบใดที่ได้สบตากับนายน้อยหลีสักหน่อย เขาอาจจะขึ้นข้อบนางบ้างก็ได้…ไม่ลองไม่รู้

 

เฉินไฉ่อนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกับเริ่มประทินผิวอย่างตั้งใจ หลังจากจัดการใบหน้าพร้อมพรมน้ําหอมเสร็จสิ้น นางค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากห้องไปอย่าง

 

และนางก็ไม่ลืมที่จะหยิบยกกาน้ําข้ามาด้วย

 

“ท่านนายอําเภอ นายน้อยหล ข้าขอรินน้ําขาให้สักหน่อย…”

 

ใบหน้าของนายอําเภอและนายน้อยหลีกระตุกเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกขนพอง ส่วนใบหน้าของเฉินข่งกลายเป็นสีฟ้าไปแล้วเพราะโกรธจัดเขาลอบสาปแช่งลูกสาวอยู่ภายใน ใจนังตัวดี! ในที่สุดเจ้าก็คิดจะสร้างปัญหาให้กับข้า!”

 

“หญิงสาวคนนี้เองงั้นหรือ? โอ้เจ้าเป็นถึงหัวหน้าหมู่บ้าน หน้าที่คือคอยดูแลความเรียบร้อย

ของชาวบ้านทุกคน แต่กลับไม่สามารถควบคุมลูกสาวตนเองได้ใช่หรือไม่?”

 

นายอําเภอกล่าวออกอย่างไม่อ้อมค้อม เขาไม่คิดไว้หน้าหญิงสาวคนนี้เลย… หากอีกฝ่ายต้องการจะแตกหัก เขาก็ไม่คิดจะหยุดยั้งเรื่องราวแน่!

 

หัวหน้าหมู่บ้านได้แต่พยักหน้ารับอย่างละอายใจ ในตอนนี้เขาไม่มีคําใดจะแก้ตัวอีกต่อไปแม้ว่าจะเป็นเพียงครอบครัวในชนบท แต่วันนี้มีแขกที่เป็นบุรุษมาเยี่ยมเยือนที่บ้านถึงสองคน

ทว่าเด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือนซึ่งควรจะอยู่ในห้องอย่างเงียบเชียบกลับออกมาเดินเพ่นพ่านอย่าง

ไร้ยางอาย!

 

เรื่องทั้งหมดเกิดเพราะชาสามถ้วยเท่านั้น แต่เฉินไฉ่อได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ยังไม่ยอมแพ้นางยังคงลอบส่งสายตาให้กับหลี่ซื่อฮวาอย่างมีความหวัง

 

“นายน้อยหลไม่ได้มาที่บ้านเรานานมากแล้ว เช่นนี้เชิญอยู่ร่วมรับประทานอาหารก่อนเถิดค่อยกลับ”

 

ก่อนที่นายน้อยหลี่จะทันได้ตอบกลับ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่นก่อนจะก้มลงกระซิบที่ใบหูของนายอําเภออย่างจริงจัง

 

ใบหน้าของนายอําเภอแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมหลังจากได้ฟังคํากล่าวเหล่านั้น

 

“เฉินข่ง… ข้าไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าจะเหิมเกริมถึงขั้นกล้าปล่อยปะละเลยให้ลูกสาวตนไปวุ่นวายที่บ้านของแม่นางหยุนเจ้ากล้าปล่อยให้ภรรยาและลูกสาวทําลายชื่อเสียงของนางในที่สาธารณะอย่างนั้นหรือ? เจ้าก็รู้ว่านางเป็นคนที่ผู้มีอํานาจหนุนหลังอยู่ แต่ก็ยังกล้ายั่วยุ?”

 

หัวหน้าหมู่บ้านได้ฟังเช่นนั้นถึงกับนั่งไม่ติด เขาคุกเข่าลงพร้อมกล่าวอ้อนวอน “นายท่านโปรดเมตตา ข้าไม่กล้าทําเช่นนั้นอีกแล้ว ต่อไปนี้ข้าน้อยจะดูแลบุตรหลานให้ดีและไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับนางได้อีก!

 

แน่นอนว่านายอําเภอไม่คิดจะปล่อยเขาไป เขากล่าวออกด้วยสีหน้าทิ้งตึง “การกระทําเล็กน้อยที่บ้านของเฉินฉ่เกินวันนั้นเป็นความผิดร้ายแรง เจ้าคิดว่าไม่มีผู้ใดมองออกงั้นหรือ? เจ้าจงนั่งรอให้ดีและสวดภาวนาให้สาวน้อยยกโทษให้เจ้าแล้วกัน แต่หากถามข้า… เจ้าไม่สมควรที่จะได้รับตําแหน่งของหัวหน้าหมู่บ้านอีกต่อไป!”

 

เมื่อเอ็นไฉ่อเห็นว่าพ่อของตนคุกเข่าต่อหน้านายอําเภอ นางจึงขมวดคิ้วแน่นก่อนจะไตร่ตรองว่านี่คือโอกาสอันดีเยี่ยมที่จะเผยให้นายน้อยหลี่เห็นถึงความกตัญญของตน

 

เขั้นนี้เฉินไฉอีจึงรีบคุกเข่าลงบ้าง “ท่านนายอําเภอ ท่านพ่อมักจะเสียสละเรื่องส่วนตัวมากมายในหลายปีที่ดํารงตําแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน เขาไม่เคยทําผิดใดเลย แต่ท่านกลับต่อว่าท่านพ่อเพียงเพื่อต้องการปกป้องเด็กสาวตัวน้อยคนนั้นน่ะหรือ? มันไม่ดูเป็นการลําเอียงไปหน่อยหรือไรกัน?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนายอําเภอพลันเขียวคล้ํา “เฉินซึ่ง! เจ้าก็มีอายุมานานจนใกล้จะเข้าโลง

แต่ยังไม่อาจสั่งสอนมารยาทให้กับบุตรสาวตนเองได้เลยหรือไร? เจ้าคงคิดว่า

ตนเองไม่ผิดและข้าพูดจาไร้สาระใช่หรือไม่! เมื่อข้าถึงกับมาสั่งสอนเจ้าด้วยตนเอง แต่เจ้ากลับคิดว่าข้ากําลังลําเอียง.. ข้าก็คงไม่อาจรับปากว่าเจ้าจะได้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านต่อไปได้ วันนี้เจ้าถึงกับปล่อยให้ลูกสาวกล่าวดูหมิ่นข้าเช่นนี้ มันมากเกินกว่าที่ข้าจะรับได้”

 

หัวหน้าหมู่บ้านเผยใบหน้าซีดขาวไร้โลหิตก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าลําคอลูกสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้าง “ไฉ่อ! เข้าห้องไปเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่! ไสหัวไปซะ!”

 

แผนการที่วาดฝันของเฉินไฉ่อพังทลายในทันใด แต่หางตาก็ยังเหลือบหานายน้อยหลี่และเห็นว่าอีกฝ่ายเผยใบหน้าเย้ยหยันออก

 

หลี่ซื่อฮวากล่าวตอบด้วยท่วงท่าสบาย ๆ “นายอําเภอคงยังไม่รู้อะไร หญิงผู้นี้แตกต่างจากคนอื่นสักหน่อย นางสามารถขวางรถม้าของข้าบนถนนได้อย่างกล้าหาญ อีกทั้งนางยังกล้าประณามแม่นางหยุนด้วยตนเอง… นางบอกว่าไม่เชื่อว่าแม่นางหยุนเพียงแค่ทําการค้าร่วมกับ

ข้า!”

 

นายอําเภอได้ยินอย่างนั้นถึงกับโกรธจัด เขาตบโต๊ะเสียงดังก่อนจะตะคอกกลับ“ทํามากเกินไปแล้ว!”

 

หากคนอื่นพูดเช่นนี้ เฉินไฉ่อคงไม่คิดตอบโต้ แต่คําพูดเหล่านั้นกลับออกมาจากปากของนายน้อยหลี่ เช่นนี้จึงทําให้นางคิดหนักไม่น้อย

 

“เหตุใดนายน้อยหลีจึงปกป้องนางเช่นกัน? นางมอบผลประโยช์น์ใดให้ท่านงั้นหรือ… นางก็เป็นเพียงสาวน้อยที่เติบโตในขั้นบท แล้วจะสามารถไปร่วมมือทําการค้ากับนายน้อยหลได้เช่นไร? นางก็เพียงแค่ใช้ความงามล่อลวงให้นายน้อยหลงกลเท่านั้น นอกจากนี้แม้นางจะทําการค้าร่วมกับท่าน แต่นางก็มีคู่หมั้นหมายอยู่แล้ว จึงควรเป็นหยุนเคอที่ต้องออกมาเจรจากับท่านด้วยตนเอง แต่นางเป็นสตรีกลับออกหน้าเองทั้งหมด มันคือสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่!?”

 

นายน้อยหลี่เหยียดยิ้มอย่างดูถูก “สิ่งที่แม่นางเฉินกล่าวช่างไร้เหตุผลนัก เป็นเพราะเจ้าทําเช่นนางไม่ได้ จึงกล่าวโทษว่านางไม่สามารถทําได้! เจ้าก็รู้หนังสือมิใช่หรือ… แต่กลับไม่รู้จักคํากล่าวที่ว่า ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด หรือยังไงกัน?!”

 

ในตอนนั้นเองใบหน้าของหลี่ซื่อฮวาเผยความดูถูกออก รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏบนใบหน้าก่อนจะกล่าวต่อ “อยากให้เจ้าหัดดูตัวเองเสียบ้าง อย่างน้อยก็ช่วยรับรู้เถิดว่าเจ้าไม่มีสิ่งใดจะเทียบ เทียมกับนางได้เลย!”

 

ใบหน้าเงินไฉอีร้อนผ่าว นางรู้สึกอับอายจนน้ําตาเอ่อล้นอาบสองแก้ม!

 

หัวหน้าหมู่บ้านได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งรู้สึกหนักอึ้งในใจ เขาคลานขึ้นไปด้านหน้าก่อนจะกล่าวอย่างปกป้อง “นายน้อยหลี่! อย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวของข้า โปรดอย่าได้กล่าววาจาทําร้ายน้ําใจนางเช่นนี้เลย!”

 

“ให้ข้าเห็นแก่ใบหน้าของเจ้างั้นหรือ? เจ้ากําลังคิดสิ่งใดอยู่

ลูกสาวของเจ้าไม่มีสิ่งใดให้ข้าต้องปฏิบัติดีด้วย! ตอนนี้ท่านหัวหน้าหมู่บ้านควรจะเอาศีรษะทุบลงพื้นเพื่อกล่าวคําขอโทษมิใช่กล่าวโทษผู้อื่นที่พูดความจริงออก”

 

ความโหดเหี้ยมของนายน้อยหลทําให้สองพ่อลูกถึงกับตื่นตระหนก

 

“แม่นางหยุนมีอิสระที่จะค้าขายกับข้า! แล้วแม่นางเฉินมีสิทธิ์ใดจึงไปกล่าวร้ายต่อผู้อื่นเช่น

นั้น? ท่านหัวหน้าหมู่บ้านคิดว่าลูกสาวของเจ้าปฏิบัติตัวได้ดีแล้วงั้นหรือ?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 203 เฉินไฉ่อผู้ไม่ยอมแพ้

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 203 เฉินไฉ่อผู้ไม่ยอมแพ้ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

นิยายสามีข้า… คือพรานป่า ตอนที่ 203 เฉินไฉ่อผู้ไม่ยอมแพ้

 

หากเป็นผู้หญิงคนอื่น เขาเพียงกระดิกนิ้ว อีกฝ่ายก็พุ่งปรี่เข้ามาเดินตามเขาอย่างเต็มใจแล้ว

 

แต่หยุนเถียนเกี่ยนกลับแตกต่างออกไป สามัญสํานึกของนางแกร่งกล้ากว่าสตร์ทั่วไปถ้าวันนั้นเขากระทําการหยาบ เกรงว่านางคงจะเกลียดชังเขาไปจวบจนวันตายแน่

!

เขาจําได้ดีวันที่นางหลบหนี เด็กสาวมีเพียงชุดนอนบาง ๆ ซึ่งไม่มีแม้แต่รองเท้า แม่นางจะได้พบเจอหยุนเคอบนภูเขา… แต่เขาก็พอจะคาดเดาได้ว่าอีกฝ่ายจะได้เห็นอะไรบ้าง

 

ด้วยคําพูดของนายอําเภอ หลี่ซื่อฮวาพยักหน้ารับอย่างเข้าใจและตัดสินใจว่านับจากวันนี้ไปเขาจะกอดต้นขาของเด็กสาวผู้นี้ไว้ให้มั่น

 

แต่สําหรับหัวหน้าหมู่บ้านแล้ว เมื่อได้ยินเช่นนั้นพลันเหงื่อแตกซ่าน คราวแรกเขาคิดเพียงว่าคําพูดเหล่านี้เป็นเพียงกลอุบายล่อลวงให้เขาหวั่นเกรง แต่ตอนนี้ดูเหมือนเด็กสาวคนนั้นจะ

มีสถานะที่แข็งแกร่งจนเขาไม่สามารถยั่วยุได้จริง ๆ เสียแล้ว!

 

“ท่านนายอําเภอโปรดยกโทษให้ข้าเถิด หลังจากวันนี้ไปข้าจะดูแลบุตรสาวและภรรยาให้ดีจะไม่ให้พวกนางออกไปสร้างความวุ่นวายให้กับเด็กสาวคนนั้นอีกต่อไป!”

 

หัวหน้าหมู่บ้านถึงกับร้องขอความเมตตา ส่วนเฉินไฉ่อเดินกลับไปที่ห้องด้วยจิตใจที่ว้าวุ่น

นางไม่เต็มใจที่จะอยู่ตรงนี้จึงไตร่ตรองหาวิธีการอย่างตึงเครียด แต่หลังจากคิดอยู่นานนางก็

สามารถตัดสินใจได้

 

นั่นก็คือขัดคําสั่งผู้เป็นพ่อฑ์ะนางต้องการออกไปเสิร์ฟข่าให้กับแขก ตราบใดที่ได้สบตากับนายน้อยหลีสักหน่อย เขาอาจจะขึ้นข้อบนางบ้างก็ได้…ไม่ลองไม่รู้

 

เฉินไฉ่อนั่งลงที่หน้าโต๊ะเครื่องแป้งพร้อมกับเริ่มประทินผิวอย่างตั้งใจ หลังจากจัดการใบหน้าพร้อมพรมน้ําหอมเสร็จสิ้น นางค่อย ๆ ก้าวเดินออกจากห้องไปอย่าง

 

และนางก็ไม่ลืมที่จะหยิบยกกาน้ําข้ามาด้วย

 

“ท่านนายอําเภอ นายน้อยหล ข้าขอรินน้ําขาให้สักหน่อย…”

 

ใบหน้าของนายอําเภอและนายน้อยหลีกระตุกเล็กน้อยและอดไม่ได้ที่จะรู้สึกขนลุกขนพอง ส่วนใบหน้าของเฉินข่งกลายเป็นสีฟ้าไปแล้วเพราะโกรธจัดเขาลอบสาปแช่งลูกสาวอยู่ภายใน ใจนังตัวดี! ในที่สุดเจ้าก็คิดจะสร้างปัญหาให้กับข้า!”

 

“หญิงสาวคนนี้เองงั้นหรือ? โอ้เจ้าเป็นถึงหัวหน้าหมู่บ้าน หน้าที่คือคอยดูแลความเรียบร้อย

ของชาวบ้านทุกคน แต่กลับไม่สามารถควบคุมลูกสาวตนเองได้ใช่หรือไม่?”

 

นายอําเภอกล่าวออกอย่างไม่อ้อมค้อม เขาไม่คิดไว้หน้าหญิงสาวคนนี้เลย… หากอีกฝ่ายต้องการจะแตกหัก เขาก็ไม่คิดจะหยุดยั้งเรื่องราวแน่!

 

หัวหน้าหมู่บ้านได้แต่พยักหน้ารับอย่างละอายใจ ในตอนนี้เขาไม่มีคําใดจะแก้ตัวอีกต่อไปแม้ว่าจะเป็นเพียงครอบครัวในชนบท แต่วันนี้มีแขกที่เป็นบุรุษมาเยี่ยมเยือนที่บ้านถึงสองคน

ทว่าเด็กสาวที่ยังไม่ออกเรือนซึ่งควรจะอยู่ในห้องอย่างเงียบเชียบกลับออกมาเดินเพ่นพ่านอย่าง

ไร้ยางอาย!

 

เรื่องทั้งหมดเกิดเพราะชาสามถ้วยเท่านั้น แต่เฉินไฉ่อได้ยินอย่างนั้นแล้วก็ยังไม่ยอมแพ้นางยังคงลอบส่งสายตาให้กับหลี่ซื่อฮวาอย่างมีความหวัง

 

“นายน้อยหลไม่ได้มาที่บ้านเรานานมากแล้ว เช่นนี้เชิญอยู่ร่วมรับประทานอาหารก่อนเถิดค่อยกลับ”

 

ก่อนที่นายน้อยหลี่จะทันได้ตอบกลับ เจ้าหน้าที่คนหนึ่งวิ่งเข้ามาด้วยสีหน้าแตกตื่นก่อนจะก้มลงกระซิบที่ใบหูของนายอําเภออย่างจริงจัง

 

ใบหน้าของนายอําเภอแปรเปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมหลังจากได้ฟังคํากล่าวเหล่านั้น

 

“เฉินข่ง… ข้าไม่คิดมาก่อนว่าเจ้าจะเหิมเกริมถึงขั้นกล้าปล่อยปะละเลยให้ลูกสาวตนไปวุ่นวายที่บ้านของแม่นางหยุนเจ้ากล้าปล่อยให้ภรรยาและลูกสาวทําลายชื่อเสียงของนางในที่สาธารณะอย่างนั้นหรือ? เจ้าก็รู้ว่านางเป็นคนที่ผู้มีอํานาจหนุนหลังอยู่ แต่ก็ยังกล้ายั่วยุ?”

 

หัวหน้าหมู่บ้านได้ฟังเช่นนั้นถึงกับนั่งไม่ติด เขาคุกเข่าลงพร้อมกล่าวอ้อนวอน “นายท่านโปรดเมตตา ข้าไม่กล้าทําเช่นนั้นอีกแล้ว ต่อไปนี้ข้าน้อยจะดูแลบุตรหลานให้ดีและไม่ให้ยุ่งเกี่ยวกับนางได้อีก!

 

แน่นอนว่านายอําเภอไม่คิดจะปล่อยเขาไป เขากล่าวออกด้วยสีหน้าทิ้งตึง “การกระทําเล็กน้อยที่บ้านของเฉินฉ่เกินวันนั้นเป็นความผิดร้ายแรง เจ้าคิดว่าไม่มีผู้ใดมองออกงั้นหรือ? เจ้าจงนั่งรอให้ดีและสวดภาวนาให้สาวน้อยยกโทษให้เจ้าแล้วกัน แต่หากถามข้า… เจ้าไม่สมควรที่จะได้รับตําแหน่งของหัวหน้าหมู่บ้านอีกต่อไป!”

 

เมื่อเอ็นไฉ่อเห็นว่าพ่อของตนคุกเข่าต่อหน้านายอําเภอ นางจึงขมวดคิ้วแน่นก่อนจะไตร่ตรองว่านี่คือโอกาสอันดีเยี่ยมที่จะเผยให้นายน้อยหลี่เห็นถึงความกตัญญของตน

 

เขั้นนี้เฉินไฉอีจึงรีบคุกเข่าลงบ้าง “ท่านนายอําเภอ ท่านพ่อมักจะเสียสละเรื่องส่วนตัวมากมายในหลายปีที่ดํารงตําแหน่งหัวหน้าหมู่บ้าน เขาไม่เคยทําผิดใดเลย แต่ท่านกลับต่อว่าท่านพ่อเพียงเพื่อต้องการปกป้องเด็กสาวตัวน้อยคนนั้นน่ะหรือ? มันไม่ดูเป็นการลําเอียงไปหน่อยหรือไรกัน?”

 

เมื่อได้ยินเช่นนั้น ใบหน้าของนายอําเภอพลันเขียวคล้ํา “เฉินซึ่ง! เจ้าก็มีอายุมานานจนใกล้จะเข้าโลง

แต่ยังไม่อาจสั่งสอนมารยาทให้กับบุตรสาวตนเองได้เลยหรือไร? เจ้าคงคิดว่า

ตนเองไม่ผิดและข้าพูดจาไร้สาระใช่หรือไม่! เมื่อข้าถึงกับมาสั่งสอนเจ้าด้วยตนเอง แต่เจ้ากลับคิดว่าข้ากําลังลําเอียง.. ข้าก็คงไม่อาจรับปากว่าเจ้าจะได้เป็นหัวหน้าหมู่บ้านต่อไปได้ วันนี้เจ้าถึงกับปล่อยให้ลูกสาวกล่าวดูหมิ่นข้าเช่นนี้ มันมากเกินกว่าที่ข้าจะรับได้”

 

หัวหน้าหมู่บ้านเผยใบหน้าซีดขาวไร้โลหิตก่อนจะเอื้อมมือไปคว้าลําคอลูกสาวที่นั่งคุกเข่าอยู่ด้านข้าง “ไฉ่อ! เข้าห้องไปเดี๋ยวนี้ ไม่ต้องมายุ่งเรื่องของผู้ใหญ่! ไสหัวไปซะ!”

 

แผนการที่วาดฝันของเฉินไฉ่อพังทลายในทันใด แต่หางตาก็ยังเหลือบหานายน้อยหลี่และเห็นว่าอีกฝ่ายเผยใบหน้าเย้ยหยันออก

 

หลี่ซื่อฮวากล่าวตอบด้วยท่วงท่าสบาย ๆ “นายอําเภอคงยังไม่รู้อะไร หญิงผู้นี้แตกต่างจากคนอื่นสักหน่อย นางสามารถขวางรถม้าของข้าบนถนนได้อย่างกล้าหาญ อีกทั้งนางยังกล้าประณามแม่นางหยุนด้วยตนเอง… นางบอกว่าไม่เชื่อว่าแม่นางหยุนเพียงแค่ทําการค้าร่วมกับ

ข้า!”

 

นายอําเภอได้ยินอย่างนั้นถึงกับโกรธจัด เขาตบโต๊ะเสียงดังก่อนจะตะคอกกลับ“ทํามากเกินไปแล้ว!”

 

หากคนอื่นพูดเช่นนี้ เฉินไฉ่อคงไม่คิดตอบโต้ แต่คําพูดเหล่านั้นกลับออกมาจากปากของนายน้อยหลี่ เช่นนี้จึงทําให้นางคิดหนักไม่น้อย

 

“เหตุใดนายน้อยหลีจึงปกป้องนางเช่นกัน? นางมอบผลประโยช์น์ใดให้ท่านงั้นหรือ… นางก็เป็นเพียงสาวน้อยที่เติบโตในขั้นบท แล้วจะสามารถไปร่วมมือทําการค้ากับนายน้อยหลได้เช่นไร? นางก็เพียงแค่ใช้ความงามล่อลวงให้นายน้อยหลงกลเท่านั้น นอกจากนี้แม้นางจะทําการค้าร่วมกับท่าน แต่นางก็มีคู่หมั้นหมายอยู่แล้ว จึงควรเป็นหยุนเคอที่ต้องออกมาเจรจากับท่านด้วยตนเอง แต่นางเป็นสตรีกลับออกหน้าเองทั้งหมด มันคือสิ่งที่เหมาะสมหรือไม่!?”

 

นายน้อยหลี่เหยียดยิ้มอย่างดูถูก “สิ่งที่แม่นางเฉินกล่าวช่างไร้เหตุผลนัก เป็นเพราะเจ้าทําเช่นนางไม่ได้ จึงกล่าวโทษว่านางไม่สามารถทําได้! เจ้าก็รู้หนังสือมิใช่หรือ… แต่กลับไม่รู้จักคํากล่าวที่ว่า ความรู้ไม่มีที่สิ้นสุด หรือยังไงกัน?!”

 

ในตอนนั้นเองใบหน้าของหลี่ซื่อฮวาเผยความดูถูกออก รอยยิ้มขี้เล่นปรากฏบนใบหน้าก่อนจะกล่าวต่อ “อยากให้เจ้าหัดดูตัวเองเสียบ้าง อย่างน้อยก็ช่วยรับรู้เถิดว่าเจ้าไม่มีสิ่งใดจะเทียบ เทียมกับนางได้เลย!”

 

ใบหน้าเงินไฉอีร้อนผ่าว นางรู้สึกอับอายจนน้ําตาเอ่อล้นอาบสองแก้ม!

 

หัวหน้าหมู่บ้านได้ยินอย่างนั้นก็ยิ่งรู้สึกหนักอึ้งในใจ เขาคลานขึ้นไปด้านหน้าก่อนจะกล่าวอย่างปกป้อง “นายน้อยหลี่! อย่างไรนางก็เป็นบุตรสาวของข้า โปรดอย่าได้กล่าววาจาทําร้ายน้ําใจนางเช่นนี้เลย!”

 

“ให้ข้าเห็นแก่ใบหน้าของเจ้างั้นหรือ? เจ้ากําลังคิดสิ่งใดอยู่

ลูกสาวของเจ้าไม่มีสิ่งใดให้ข้าต้องปฏิบัติดีด้วย! ตอนนี้ท่านหัวหน้าหมู่บ้านควรจะเอาศีรษะทุบลงพื้นเพื่อกล่าวคําขอโทษมิใช่กล่าวโทษผู้อื่นที่พูดความจริงออก”

 

ความโหดเหี้ยมของนายน้อยหลทําให้สองพ่อลูกถึงกับตื่นตระหนก

 

“แม่นางหยุนมีอิสระที่จะค้าขายกับข้า! แล้วแม่นางเฉินมีสิทธิ์ใดจึงไปกล่าวร้ายต่อผู้อื่นเช่น

นั้น? ท่านหัวหน้าหมู่บ้านคิดว่าลูกสาวของเจ้าปฏิบัติตัวได้ดีแล้วงั้นหรือ?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+