สามีข้า คือพรานป่า 230 การแต่งงาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 230 การแต่งงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 230 การแต่งงาน

“ท่านพรากความบริสุทธิ์ของลูกสาวข้าไป หากไม่ยอมรับผิดชอบ ข้าเกรงว่าท่านจะไม่สามารถเข้าสอบขุนนางได้”

เมื่อได้ยินดังนั้น จางชิงเฟิงก็รู้สึกโกรธจนตัวสั่น “เพราะต้องการให้ข้าแต่งงานกับนาง ลุงเฉินจึงสั่งลูกสาวผู้ไร้ยางอายให้ทําเช่นนี้ เพื่อบีบบังคับข้าด้วยวิธีอยุติธรรมอย่างนั้นหรือ?”

เฉินซึ่งรู้สึกโกรธต่อคําพูดของจางชิงเฟิงเป็นอย่างมากจึงตบโต๊ะพลางพูดว่า “จางชิงเฟิง เจ้าต่างหากที่ไร้ยางอาย!”

“เดิมที่เจ้าตั้งใจจะแต่งงานกับลูกสาวของข้าไม่ใช่หรือ? เหตุใดครานี้จึงกลับลําหันหอกเช่นนี้?”

แน่นอนว่าจางชิงเฟิงไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ แพร่กระจายไปถึงหูของผู้อื่นได้ เพราะหากใครรู้ก็จะทําให้เขาหมดโอกาสในการสอบขุนนางได้

แม้จางชิงเฟิงจะไม่อยากยอมรับเพียงใดก็ปฏิเสธไม่ได้ เขาไม่สามารถยอมสูญเสียตําแหน่ง เพียงเพราะหญิงไร้ยางอายผู้นี้ เช่นนั้นแล้วเขาจึงทําได้เพียงกัดฟันแต่งงานกับเฉินไฉ่อเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

“แผนการของท่านลุงช่างแยบยลนัก แน่นอนว่าข้าปฏิเสธอะไรไม่ได้ และคงต้องกลับไปคุยกับพ่อเพื่อให้เขาจัดการเรื่องงานแต่งให้เร็วที่สุด งานแต่งจะแล้วเสร็จในเดือนหน้า”

เมื่อพูดจบจางชิงเฟิงโบกมือและเดินออกจากบ้านไปทันที…

ครอบครัวเฉินคว้าเอาจุดอ่อนของจางชิงเฟิงไปได้อย่างมีชัย ขณะที่ครอบครัวจางต้องเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

ใครเล่าจะคิดว่าขุนนางผู้ชาญฉลาดจะติดกับดักของพวกเขาได้ เห็นได้ชัดว่าหญิงผู้นี้ทั้งไร้ยางอายและไม่ปฏิบัติตามวิถีสตรี นางกล้าหยุดรถม้าของนายน้อยหลี่และสารภาพรักต่อหน้าผู้คนมากมายมาแล้ว

หากมีใครล่วงรู้คงไม่ดีแน่ เพราะจางชิวไฉ่ต้องการให้ลูกชายเข้ารับตําแหน่งต่อเมื่อเขาเกษียณอายุ

จางชิวไฉน้ําตาซึมด้วยความผิดหวังเมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกว่าลูกชายมีสิทธิ์แต่งงานกับหญิงที่ดีและเพียบพร้อม แต่กลับตกหลุมพลางจนต้องแต่งงานกับหญิงไร้ยางอายเช่นนี้ ไม่ว่านางจะน่ารังเกียจเพียงใด จางชิงเฟิงก็ต้องอดทนยอมรับให้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น การสอบเลื่อนขั้นขุนนางหรือที่เรียกว่าการสอบจักรพรรดิกําลังจะมาถึงในปีหน้า จางชิวไฉ่จะไม่มีทางยอมให้ลูกชายต้องพลาดโอกาสเพราะข้อบกพร่องนี้ได้

“ท่านพ่อ… อย่าคิดมากไปเลย หากข้าสอบเลื่อนขั้นได้ก็จะต้องเข้าไปประจําการยังสํานักราชการ หญิงผู้นี้จะต้องกลับไปอยู่กับพ่อของนาง และอาจได้รับการสั่งสอนจนมีระเบียบวินัยมากขึ้น แต่หากไม่ สักวันหนึ่งข้าก็ต้องได้เป็นใหญ่ในอนาคต เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะหย่ากับนาง… หากนางไม่ยอม ข้าก็จะรับเอานางบําเรอเข้ามาในบ้าน แน่นอนว่าคงไม่มีใครห้ามข้าได้”

จางชิวไฉ่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่เป็นไรหรอก จริงสิ จากนี้ไปจงจําให้ดี อย่ามองใครเพียงผิวเผินอีก ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วว่าหญิงผู้นี้นั้นน่ารังเกียจ น่าเสียดายที่เจ้าตกหลุมพรางนาง และตอนนี้… เอ๊ะ!”

ครอบครัวจางค่อนข้างตื่นตัวสูง พวกเขาตั้งใจ จะใช้เวลาสามวันในการดําเนินการเรื่องการแต่งงานให้เสร็จสิ้น

เดิมที่เฉินซ่งตั้งใจว่าหากไม่ได้รับสินสอดในจํานวนที่มากพอก็จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง

แต่เนื่องจากแผนการของเขา จางชิงเฟิงจึงต้องจํายอมแต่งงานกับเฉินไฉ่อีอีกครั้ง หากจะทําเช่นนั้นคงจะดูน่ารังเกียจเกินไป

ท้ายที่สุดแล้ว คนที่ล้มเหลวและเสียเปรียบมากที่สุดก็คือครอบครัวเฉิน

น่าเสียดายที่หยุนเสียนเถียนเดินทางเข้าไปในเมืองเสียก่อน จึงไม่ได้ยินเหตุการณ์อันน่าสะอิดสะเอียนนี้

บ้านในเมืองที่หยุนเถียนเถียนอาศัยอยู่ประกอบไปด้วยสนามหญ้า และมีทางเข้าออกสองทาง เรียบง่ายแต่มีทุกอย่างครบครันและสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นบ้านของนางยังอยู่ใกล้กับบ้านของเฉินชิวไฉ่ ซึ่งทําให้เฉินเฉินประหยัดเวลาเดินทางไปเรียนได้เป็นอย่างมาก ทําให้มีเวลาเหลือในการศึกษาตํารามากยิ่งขึ้น

ตอนนี้นายน้อยหอื่นับว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสําเร็จและมีชื่อเสียงโด่งดัง จนพ่อของเขาได้ยินและสนใจ จากนั้นไม่นานเขาก็ได้เรียกนายน้อยหลึกลับไปยังฟูเฉิงทันที

ในฐานะลูกชายคงเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธพ่อของตน หลังจากได้รับจดหมายเรียกตัวจํานวนสองฉบับจากผู้เป็นพ่อ นายน้อยหลี่ก็รีบมาหาหยุนเถียนเถียนอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเขาจะจากไป แต่ธุรกรรมเหล่านี้ยังต้องดําเนินต่อให้ได้

หยุนเถียนเถียนแสดงความยินดีต่อเขา แต่นายน้อยหลี่กลับทําหน้าบึ้งตึง “ไม่หรอก วันที่ต้องลําบากจริงๆยังมาไม่ถึง”

“ลูกพี่ลูกน้องของข้าเป็นคนไม่เอาไหนและมักจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเสมอ เกรงว่าเมื่อกลับไปเขาอาจหาทางใส่ร้ายข้าได้ หยุนเถียนเถียน ข้าขอร้องเจ้าเนื่องจากเราในฐานะคู่ค้า โปรดอย่าร่วมธุรกิจกับใครนอกจากข้า โปรดให้เวลาข้า วันหนึ่งข้าจะต้องสามารถควบคุมตะกูลหลี่ได้ เพราะนั่นเป็นของแม่ข้ามาตั้งแต่เดิม

หยุนเถียนเถียนคิดอย่างรอบคอบด้วยธุรกรรมเหล่านี้ นางต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าหรืออาหารอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหลังจากที่เฉินเฉินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางแล้ว ทั้งสองก็ต้องย้ายไปที่ฟูเฉิง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่นางต้องการลงหลักปักฐานที่นี่”เอาล่ะ ข้าก็เบื่อที่ต้องไปหาคู่ค้าใหม่เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือค่าไม่มีอํานาจจึงอาจถูกฆ่าตายเพราะเงินได้ ซึ่งไม่คุ้มเลยจริงๆ“ขณะที่หลี่ซื่อฮว่ากําลังจะจากไป เขาแอบกระซิบถามหยุนเถียนเถียนเบาๆ” ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าคือใครกันแน่? เหตุใดท่านผู้พิพากษาจึงให้เกียรติเจ้านัก เราก็ร่วมงานกันมาหลายปีแล้ว ยังไม่เชื่อใจข้าอีกหรือ?“หยุนเทียนเถียนกลอกตาอย่างขุ่นเคือง”ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่จะให้ข้าบอกท่านได้อย่างไรในเมื่อข้ายังไม่ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของข้าเลย ไม่รู้ว่าเหตุใดท่านผู้พิพากษาถึงให้เกียรติข้านัก? ข้าเพียงอยากมาที่นี่เพราะแม่หลี่ซื่อฮว่าพยักหน้า”หากในอนาคตตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผย ก็จงปิดข้าไว้ให้ดีๆ เอาล่ะ ข้าคงเสียเวลากับเจ้าได้ไม่มาก พ่อส่งจดหมายสองฉบับ แวดงว่าคงอยากให้ข้ากลับไปจริงๆ อย่างไรก็ตาม หากเจ้ามาที่ฟูเฉิงก็มาหาข้า แต่หากเจ้าเจอคู่ค้าที่ดีกว่า ก็จงร่วมมือกับเขาเถิด”

หยุนเกียนเถียนพยักหน้าพยักหน้ารับและไม่ได้ตอบกลับอะไร

นายน้อยหลี่เดินออกไปขึ้นรถม้าและมุ่งหน้าไปที่ฟูเฉิงด้วยความโศกเศร้า ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเสียใจและลังเลเพียงใด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 230 การแต่งงาน

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 230 การแต่งงาน at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 230 การแต่งงาน

“ท่านพรากความบริสุทธิ์ของลูกสาวข้าไป หากไม่ยอมรับผิดชอบ ข้าเกรงว่าท่านจะไม่สามารถเข้าสอบขุนนางได้”

เมื่อได้ยินดังนั้น จางชิงเฟิงก็รู้สึกโกรธจนตัวสั่น “เพราะต้องการให้ข้าแต่งงานกับนาง ลุงเฉินจึงสั่งลูกสาวผู้ไร้ยางอายให้ทําเช่นนี้ เพื่อบีบบังคับข้าด้วยวิธีอยุติธรรมอย่างนั้นหรือ?”

เฉินซึ่งรู้สึกโกรธต่อคําพูดของจางชิงเฟิงเป็นอย่างมากจึงตบโต๊ะพลางพูดว่า “จางชิงเฟิง เจ้าต่างหากที่ไร้ยางอาย!”

“เดิมที่เจ้าตั้งใจจะแต่งงานกับลูกสาวของข้าไม่ใช่หรือ? เหตุใดครานี้จึงกลับลําหันหอกเช่นนี้?”

แน่นอนว่าจางชิงเฟิงไม่สามารถปล่อยให้เรื่องนี้ แพร่กระจายไปถึงหูของผู้อื่นได้ เพราะหากใครรู้ก็จะทําให้เขาหมดโอกาสในการสอบขุนนางได้

แม้จางชิงเฟิงจะไม่อยากยอมรับเพียงใดก็ปฏิเสธไม่ได้ เขาไม่สามารถยอมสูญเสียตําแหน่ง เพียงเพราะหญิงไร้ยางอายผู้นี้ เช่นนั้นแล้วเขาจึงทําได้เพียงกัดฟันแต่งงานกับเฉินไฉ่อเพื่อรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้น

“แผนการของท่านลุงช่างแยบยลนัก แน่นอนว่าข้าปฏิเสธอะไรไม่ได้ และคงต้องกลับไปคุยกับพ่อเพื่อให้เขาจัดการเรื่องงานแต่งให้เร็วที่สุด งานแต่งจะแล้วเสร็จในเดือนหน้า”

เมื่อพูดจบจางชิงเฟิงโบกมือและเดินออกจากบ้านไปทันที…

ครอบครัวเฉินคว้าเอาจุดอ่อนของจางชิงเฟิงไปได้อย่างมีชัย ขณะที่ครอบครัวจางต้องเต็มไปด้วยความโศกเศร้าเสียใจ

ใครเล่าจะคิดว่าขุนนางผู้ชาญฉลาดจะติดกับดักของพวกเขาได้ เห็นได้ชัดว่าหญิงผู้นี้ทั้งไร้ยางอายและไม่ปฏิบัติตามวิถีสตรี นางกล้าหยุดรถม้าของนายน้อยหลี่และสารภาพรักต่อหน้าผู้คนมากมายมาแล้ว

หากมีใครล่วงรู้คงไม่ดีแน่ เพราะจางชิวไฉ่ต้องการให้ลูกชายเข้ารับตําแหน่งต่อเมื่อเขาเกษียณอายุ

จางชิวไฉน้ําตาซึมด้วยความผิดหวังเมื่อได้ยินสิ่งที่เกิดขึ้น เขารู้สึกว่าลูกชายมีสิทธิ์แต่งงานกับหญิงที่ดีและเพียบพร้อม แต่กลับตกหลุมพลางจนต้องแต่งงานกับหญิงไร้ยางอายเช่นนี้ ไม่ว่านางจะน่ารังเกียจเพียงใด จางชิงเฟิงก็ต้องอดทนยอมรับให้ได้

ยิ่งไปกว่านั้น การสอบเลื่อนขั้นขุนนางหรือที่เรียกว่าการสอบจักรพรรดิกําลังจะมาถึงในปีหน้า จางชิวไฉ่จะไม่มีทางยอมให้ลูกชายต้องพลาดโอกาสเพราะข้อบกพร่องนี้ได้

“ท่านพ่อ… อย่าคิดมากไปเลย หากข้าสอบเลื่อนขั้นได้ก็จะต้องเข้าไปประจําการยังสํานักราชการ หญิงผู้นี้จะต้องกลับไปอยู่กับพ่อของนาง และอาจได้รับการสั่งสอนจนมีระเบียบวินัยมากขึ้น แต่หากไม่ สักวันหนึ่งข้าก็ต้องได้เป็นใหญ่ในอนาคต เมื่อเวลานั้นมาถึงข้าจะหย่ากับนาง… หากนางไม่ยอม ข้าก็จะรับเอานางบําเรอเข้ามาในบ้าน แน่นอนว่าคงไม่มีใครห้ามข้าได้”

จางชิวไฉ่พยักหน้าอย่างช่วยไม่ได้ “ไม่เป็นไรหรอก จริงสิ จากนี้ไปจงจําให้ดี อย่ามองใครเพียงผิวเผินอีก ข้าเคยบอกเจ้าไปแล้วว่าหญิงผู้นี้นั้นน่ารังเกียจ น่าเสียดายที่เจ้าตกหลุมพรางนาง และตอนนี้… เอ๊ะ!”

ครอบครัวจางค่อนข้างตื่นตัวสูง พวกเขาตั้งใจ จะใช้เวลาสามวันในการดําเนินการเรื่องการแต่งงานให้เสร็จสิ้น

เดิมที่เฉินซ่งตั้งใจว่าหากไม่ได้รับสินสอดในจํานวนที่มากพอก็จะเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นให้ทุกคนฟัง

แต่เนื่องจากแผนการของเขา จางชิงเฟิงจึงต้องจํายอมแต่งงานกับเฉินไฉ่อีอีกครั้ง หากจะทําเช่นนั้นคงจะดูน่ารังเกียจเกินไป

ท้ายที่สุดแล้ว คนที่ล้มเหลวและเสียเปรียบมากที่สุดก็คือครอบครัวเฉิน

น่าเสียดายที่หยุนเสียนเถียนเดินทางเข้าไปในเมืองเสียก่อน จึงไม่ได้ยินเหตุการณ์อันน่าสะอิดสะเอียนนี้

บ้านในเมืองที่หยุนเถียนเถียนอาศัยอยู่ประกอบไปด้วยสนามหญ้า และมีทางเข้าออกสองทาง เรียบง่ายแต่มีทุกอย่างครบครันและสะดวกสบาย ยิ่งไปกว่านั้นบ้านของนางยังอยู่ใกล้กับบ้านของเฉินชิวไฉ่ ซึ่งทําให้เฉินเฉินประหยัดเวลาเดินทางไปเรียนได้เป็นอย่างมาก ทําให้มีเวลาเหลือในการศึกษาตํารามากยิ่งขึ้น

ตอนนี้นายน้อยหอื่นับว่าเป็นบุคคลที่ประสบความสําเร็จและมีชื่อเสียงโด่งดัง จนพ่อของเขาได้ยินและสนใจ จากนั้นไม่นานเขาก็ได้เรียกนายน้อยหลึกลับไปยังฟูเฉิงทันที

ในฐานะลูกชายคงเป็นไปไม่ได้ที่จะปฏิเสธพ่อของตน หลังจากได้รับจดหมายเรียกตัวจํานวนสองฉบับจากผู้เป็นพ่อ นายน้อยหลี่ก็รีบมาหาหยุนเถียนเถียนอย่างรวดเร็ว
แม้ว่าเขาจะจากไป แต่ธุรกรรมเหล่านี้ยังต้องดําเนินต่อให้ได้

หยุนเถียนเถียนแสดงความยินดีต่อเขา แต่นายน้อยหลี่กลับทําหน้าบึ้งตึง “ไม่หรอก วันที่ต้องลําบากจริงๆยังมาไม่ถึง”

“ลูกพี่ลูกน้องของข้าเป็นคนไม่เอาไหนและมักจะสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่นเสมอ เกรงว่าเมื่อกลับไปเขาอาจหาทางใส่ร้ายข้าได้ หยุนเถียนเถียน ข้าขอร้องเจ้าเนื่องจากเราในฐานะคู่ค้า โปรดอย่าร่วมธุรกิจกับใครนอกจากข้า โปรดให้เวลาข้า วันหนึ่งข้าจะต้องสามารถควบคุมตะกูลหลี่ได้ เพราะนั่นเป็นของแม่ข้ามาตั้งแต่เดิม

หยุนเถียนเถียนคิดอย่างรอบคอบด้วยธุรกรรมเหล่านี้ นางต้องกังวลเรื่องเสื้อผ้าหรืออาหารอีกต่อไป อย่างไรก็ตาม ในอนาคตหลังจากที่เฉินเฉินได้รับการแต่งตั้งให้เป็นขุนนางแล้ว ทั้งสองก็ต้องย้ายไปที่ฟูเฉิง ดังนั้นจึงไม่มีอะไรที่นางต้องการลงหลักปักฐานที่นี่”เอาล่ะ ข้าก็เบื่อที่ต้องไปหาคู่ค้าใหม่เช่นกัน ยิ่งไปกว่านั้นคือค่าไม่มีอํานาจจึงอาจถูกฆ่าตายเพราะเงินได้ ซึ่งไม่คุ้มเลยจริงๆ“ขณะที่หลี่ซื่อฮว่ากําลังจะจากไป เขาแอบกระซิบถามหยุนเถียนเถียนเบาๆ” ตัวตนที่แท้จริงของเจ้าคือใครกันแน่? เหตุใดท่านผู้พิพากษาจึงให้เกียรติเจ้านัก เราก็ร่วมงานกันมาหลายปีแล้ว ยังไม่เชื่อใจข้าอีกหรือ?“หยุนเทียนเถียนกลอกตาอย่างขุ่นเคือง”ไม่ใช่ไม่ไว้ใจ แต่จะให้ข้าบอกท่านได้อย่างไรในเมื่อข้ายังไม่ทราบถึงตัวตนที่แท้จริงของข้าเลย ไม่รู้ว่าเหตุใดท่านผู้พิพากษาถึงให้เกียรติข้านัก? ข้าเพียงอยากมาที่นี่เพราะแม่หลี่ซื่อฮว่าพยักหน้า”หากในอนาคตตัวตนของเจ้าถูกเปิดเผย ก็จงปิดข้าไว้ให้ดีๆ เอาล่ะ ข้าคงเสียเวลากับเจ้าได้ไม่มาก พ่อส่งจดหมายสองฉบับ แวดงว่าคงอยากให้ข้ากลับไปจริงๆ อย่างไรก็ตาม หากเจ้ามาที่ฟูเฉิงก็มาหาข้า แต่หากเจ้าเจอคู่ค้าที่ดีกว่า ก็จงร่วมมือกับเขาเถิด”

หยุนเกียนเถียนพยักหน้าพยักหน้ารับและไม่ได้ตอบกลับอะไร

นายน้อยหลี่เดินออกไปขึ้นรถม้าและมุ่งหน้าไปที่ฟูเฉิงด้วยความโศกเศร้า ไม่มีใครรู้เลยว่าเขาเสียใจและลังเลเพียงใด

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+