สามีข้า คือพรานป่า 37 ลืมไปแล้วหรือ?

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 37 ลืมไปแล้วหรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ในโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นเถียนเถียนคนเดิมหรือคนปัจจุบัน ข้าก็รู้จักเพียงผู้ชายไม่กี่คนเท่านั้น แล้วข้าจะหาผู้ชายที่ไหนมาแต่งงานได้เล่า?’

ตอนนี้เถียนเถียนอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น หากอยู่ในภพเดิมก็คงเรียนอยู่ในชั้นมัธยมต้น… แค่คิดเรื่องนี้ก็ทำให้ปวดหัวยิ่ง!

หลังจากที่ทุกคนจากไป นางก็เดินออกมาจากตรงนั้นด้วยเช่นกัน… ท้ายที่สุดแล้วการต่อสู้ครั้งนี้นางก็พ่ายแพ้!

เฉินเถียนเถียนเดินไปเรื่อย ๆ ด้วยความผิดหวัง แต่เมื่อถึงสี่แยกนางเห็นหลี่ซื่อฮวายืนอยู่ข้างรถม้า เขาเอ่ยปากถามอย่างหยอกเย้า “เฮ้สาวน้อย เจ้ายอมแพ้แล้วงั้นหรือ? ข้าเห็นว่าผู้เฒ่าพวกนั้นบังคับให้เจ้าแต่งงานให้โดยเร็ว!”

เฉินเถียนเถียนยังคงรู้สึกขอบคุณต่อนายน้อยหลี่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเขาบ้าง…

“นายน้อยหลี่… เหตุใดยังคงหยุดอยู่ที่นี่ มารอฉุดเด็กสาวจากหมู่บ้านเทพธิดาอีกแล้วเหรอ?”

เสี่ยวซื่อยิ้มจางพร้อมกล่าวตอบ “รอฉุดเด็กสาวอย่างนั้นเหรอ? ไม่คิดว่าจะมีหญิงเข้ามาติดพันนายน้อยของข้าบ้างหรือ?”

ส่วนนายน้อยหลี่ไม่ได้พูดอะไรตอบแต่เอื้อมมือไปตบหัวของเสี่ยวซื่อเบา ๆ! อีกฝ่ายหดคอและก้าวถอยหลังไปทันที!

“สาวน้อย… สิ่งที่ข้าพูดวันนี้ช่วยชีวิตเจ้าได้ เจ้าไม่คิดสำนึกบ้างหรือ?”

เฉินเทียนเถียนกลอกตาโดยไม่ได้พูดอะไรตอบ นายน้อยหลี่เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“เอาล่ะ! ข้าไม่ได้ช่วยเพราะเจ้ากตัญญูหรืออะไรหรอก แต่เจ้าเป็นหญิงน่าสงสารและข้าก็ไม่อยากมีปัญหาภายหลัง!”

หลังพูดจบหลี่ซื่อฮวาก็โบกพัดในมือไปมาอย่างสง่างาม

“พูดถึงแม่เลี้ยงของเจ้าแล้ว นางช่างโง่เขลาเสียจริง มันสายเกินไปแล้วที่จะปิดบังเรื่องนี้ นางกล้าพูดออกมาได้อย่างไร?! ดูเหมือนในอนาคตเฉิงเยี่ยจะลำบากไม่น้อย ชื่อเสียงของนักปราชญ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากข่าวเรื่องแม่ของเขากระจายออกไป… ใครเล่าจะกล้ารับเขาเป็นศิษย์?”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเฉินเถียนเถียนพลันตื่นเต้น ดูเหมือนว่านางจะไม่ต้องจัดการอีกฝ่ายด้วยตนเองแล้ว นายน้อยหลี่ช่างปราดเปรื่องนัก… เขาไม่ยอมให้หลินชวนฮวาใช้ตนเป็นเครื่องมือเลยสักนิด!

“แท้จริงแล้วท่านเป็นคนอย่างไรกันแน่? หากมองจากภายนอกก็คงเห็นว่าท่านโหดร้ายและบ้ากาม แต่ตอนนี้ชายที่อยู่ตรงหน้าข้ากลับไม่เป็นเช่นนั้นแม้แต่น้อย… ใครจะไปคาดคิดว่านายน้อยหลี่จะสงสารเด็กสาวตัวเล็กเช่นข้า กล่าวคำยืนยันความบริสุทธิ์ให้ข้าด้วยความสัตย์จริง… ทุกสิ่งที่ปรากฏมันชวนให้ข้าสับสนเพราะเรื่องราวที่ได้ยินมามิใช่อย่างนี้!”

ได้ยินอย่างนั้นหลี่ซื่อฮวาก็ตื่นตระหนกไม่น้อย เด็กสาวผู้นี้ไม่ได้ตัดสินเขาจากเรื่องราวที่ได้ยินงั้นหรือ… นางไม่ได้คิดว่าเขาเลวร้ายจริง ๆ หรือ?

เฉินเถียนเถียนยังคงไม่หยุดจ้อ “ไม่ใช่ข้าอยากโอ้อวดอะไร แต่หากไม่ใช่เพราะข้าขาดสารอาหารจนผ่ายผอม… ข้าก็นับว่าเป็นหญิงงามเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็ไม่คิดจะทำอะไรข้า มันจึงทำให้ข้าตกใจไม่น้อยเพราะอย่างไรแล้วชื่อเสียงและกิตติศัพท์ความโหดร้ายของตระกูลหลี่นั้นเลื่องลือนัก!”

“ข้าได้ข่าวมาว่าแม่เลี้ยงของนายน้อยก็โหดเหี้ยมเช่นเดียวกับแม่เลี้ยงของข้า! แต่ว่าแม่เลี้ยงของข้านั้นกดขี่ข่มเหงและใส่ร้ายเพื่อตัดอนาคตของข้าให้จบสิ้น! การที่นางต้องเผชิญหน้ากับนายน้อยหลี่นั้นนับว่าสมน้ำสมเนื้อไม่น้อย ข้าเพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วท่านไม่ได้เห็นด้วยกับนางแต่ก็ไม่ต้องการจะมีปัญหากับผู้ใดจึงแสร้งโอนอ่อนตามบทบาท เมื่อสบโอกาสที่อีกฝ่ายคลายความระวังตัวท่านจึงจะทุบตีในคราวเดียวใช่หรือไม่?!”

นายน้อยหลี่ถึงกับชะงักงันด้วยความตกตะลึง ใบหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมพร้อมเสี่ยวซื่อที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านข้าง… ไม่มีใครรู้ว่านายน้อยทำอะไรลงไปบ้างนอกจากตัวของเขาเอง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับถูกเปิดเผยโดยแม่สาวน้อยตรงหน้า! เขาคงไม่ฆ่าตัวตายเพราะโกรธาใช่หรือไม่?

“แม่นางเฉินเถียนเถียน… นับว่าเจ้าฉลาดหลักแหลมยิ่ง แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากรู้มากไปย่อมส่งผลร้ายตามมา อย่างเช่นตอนนี้ข้าคิดว่าควรจะฆ่าปิดปากเจ้าดีหรือไม่?!”

เฉินเถียนเถียนถอยกรูดอย่างไม่รู้ตัว นางรู้สึกได้ว่าทุกถ้อยคำที่นายน้อยหลี่กล่าวออกล้วนแต่เป็นความจริงและเขาสามารถสังหารนางได้จริง ๆ!

“เอาล่ะ… คราวนี้ถือว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน แต่สำหรับเรื่องราวกงการของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งวุ่นวายเด็ดขาดจำไว้ให้ดี! รีบไปให้พ้นหน้าข้าซะ…”

ทันทีที่เขาพูดจบ เฉินเถียนเถียนสับขาวิ่งหนีไปทันที คำพูดและอำนาจของนายน้อยผู้นี้ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างน้อยก็ทำให้นางกลัวได้!

แต่ความจริงแล้วไม่เห็นต้องกลัวอะไร คนเราเกิดมาก็ต้องตาย!

หากเขาต้องการจะฆ่าใครจริง ๆ เฉินเถียนเถียนอาจไม่ใช่เป้าหมายของชายหนุ่มทั้งสองก็ได้! เพราะถ้าหากใช่… พวกเขาคงไม่ปล่อยให้นางวิ่งหนีออกมาหรอก

หลี่ซื่อฮวาเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา แต่หญิงตรงหน้ากลับวิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายป่า… เขาควรทำอย่างไรหากนางเอาเรื่องทั้งหมดนี้ไปแพร่งพราย?

ในโลกนี้… ใครสามารถเก็บความลับได้ดีที่สุด?

คนตายไงล่ะ!

เสี่ยวซื่อมองไปที่ใบหน้าอันเคร่งขรึมของนายน้อยก่อนจะรวบรวมความกล้าและเอ่ยปากถาม “นายน้อยต้องการให้ข้าหยุดนางหรือไม่?”

แม้ว่าเขาจะโกรธแต่ก็ยกมือเพื่อปฏิเสธอย่างไม่หยี่ระ…

“ไม่ต้องหรอก! นางจะไม่นำเรื่องนี้ไปแพร่งพรายเพื่อแลกกับคำว่ากตัญญูแน่… นอกจากนี้นางยังสามารถใช้เรื่องทั้งหมดเพื่อเรียกร้องบางสิ่งจากข้าได้ตามต้องการ เช่นนี้นางจึงไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเพราะมันไม่เกิดผลดีอะไรกับนางเลยแม้แต่น้อย!”

“แต่ในกรณีที่…”

“ไม่มีอะไรหรอก เจ้านี่โง่เหมือนกับหลินชวนฮวาหรือไงนะ? เหตุใดจึงพูดกล่าวไม่เข้าใจสักที!”

เฉินเถียนเถียนหลบหนีไปจนสุดทางก่อนจะเช็ดเหงื่อบนหน้าผากด้วยความตื่นตระหนกพร้อมกับบ่นพึมพำ “โอ้พระเจ้า! นายน้อยผู้นี้น่ากลัวยิ่ง หยุนเคอก็ลึกลับ แต่นายน้อยหลี่ก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้โดยง่าย!”

ขณะที่กำลังนึกคิด เถียนเถียนก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาว่าเหตุใดนางจึงนึกถึงหยุนเค่อ? นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้พบเจอเขา?

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางก็ตระหนักได้ว่าตนสามารถอ่านใจนายน้อยหลี่ได้ แต่สำหรับหยุนเคอ… ช่างยากเย็นนัก!

ไม่รู้เลยว่าหน้าตาของหยุนเคอตอนนี้เป็นเช่นไร หนวดเครายังคงรุงรังหรือไม่? เฉินเถียนเถียนคิดในขณะที่เดินกลับบ้าน! แม้ว่านางจะไม่อยากกลับแต่ตอนนี้ก็ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้ว!

เด็กสาวก้มศีรษะและรีบเดินกลับบ้านไป ผู้คนรอบข้างมองดูนาง ไม่มีผู้ใดเห็นว่าใบหน้าของนางเป็นเช่นไร ดูเหมือนว่าวันนี้นางจะเศร้าโศกยิ่ง

คงต้องเป็นเช่นนั้นแน่เพราะบิดาผู้ให้กำเนิดถือว่าลูกสาวแท้ ๆ เป็นศัตรู ทั้งยังอยากให้นางโดนถ่วงน้ำ!

แต่ในความเป็นจริง เฉินเถียนเถียนไม่ได้รู้สึกเศร้าโศกแต่อย่างใด แม้ว่านางจะรู้สึกเศร้าเล็กน้อยในตอนที่เจอเหตุการณ์นี้ครั้งแรกแต่เสี่ยวเถาพูดถูก เขาไม่ใช่พ่อของนาง แล้วทำไมจะต้องเสียใจด้วย?

นางไม่รู้เลยว่าเฉินผิงอันเป็นใครในตอนนี้… แม้แต่ความเห็นอกเห็นใจจากชาวบ้าน เฉินเถียนเถียนก็ยังเลือกที่จะไม่สนใจ แม้จะรู้ว่าพวกเขาสงสารและเห็นใจ แต่ก็ไม่สามารถทำให้นางเอาชนะได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นกลับถูกบังคับให้แต่งงานอีกด้วย!

ผู้คนในหมู่บ้านอยู่กันอย่างสงบสุข ปลอดภัย ท่ามกลางชื่อเสียงอันเสื่อมเสียของนาง ความเห็นอกเห็นใจที่มอบให้ นับว่าไร้ประโยชน์ บางคนก็เย่อหยิ่งและประสงค์ร้าย นินทาลับหลังและลอบกัด ซึ่งนางเห็นมันทะลุปรุโปร่งแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 37 ลืมไปแล้วหรือ?

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 37 ลืมไปแล้วหรือ? at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

‘ในโลกใบนี้ไม่ว่าจะเป็นเถียนเถียนคนเดิมหรือคนปัจจุบัน ข้าก็รู้จักเพียงผู้ชายไม่กี่คนเท่านั้น แล้วข้าจะหาผู้ชายที่ไหนมาแต่งงานได้เล่า?’

ตอนนี้เถียนเถียนอายุเพียงสิบสี่ปีเท่านั้น หากอยู่ในภพเดิมก็คงเรียนอยู่ในชั้นมัธยมต้น… แค่คิดเรื่องนี้ก็ทำให้ปวดหัวยิ่ง!

หลังจากที่ทุกคนจากไป นางก็เดินออกมาจากตรงนั้นด้วยเช่นกัน… ท้ายที่สุดแล้วการต่อสู้ครั้งนี้นางก็พ่ายแพ้!

เฉินเถียนเถียนเดินไปเรื่อย ๆ ด้วยความผิดหวัง แต่เมื่อถึงสี่แยกนางเห็นหลี่ซื่อฮวายืนอยู่ข้างรถม้า เขาเอ่ยปากถามอย่างหยอกเย้า “เฮ้สาวน้อย เจ้ายอมแพ้แล้วงั้นหรือ? ข้าเห็นว่าผู้เฒ่าพวกนั้นบังคับให้เจ้าแต่งงานให้โดยเร็ว!”

เฉินเถียนเถียนยังคงรู้สึกขอบคุณต่อนายน้อยหลี่ แต่ก็อดไม่ได้ที่จะเหน็บแนมเขาบ้าง…

“นายน้อยหลี่… เหตุใดยังคงหยุดอยู่ที่นี่ มารอฉุดเด็กสาวจากหมู่บ้านเทพธิดาอีกแล้วเหรอ?”

เสี่ยวซื่อยิ้มจางพร้อมกล่าวตอบ “รอฉุดเด็กสาวอย่างนั้นเหรอ? ไม่คิดว่าจะมีหญิงเข้ามาติดพันนายน้อยของข้าบ้างหรือ?”

ส่วนนายน้อยหลี่ไม่ได้พูดอะไรตอบแต่เอื้อมมือไปตบหัวของเสี่ยวซื่อเบา ๆ! อีกฝ่ายหดคอและก้าวถอยหลังไปทันที!

“สาวน้อย… สิ่งที่ข้าพูดวันนี้ช่วยชีวิตเจ้าได้ เจ้าไม่คิดสำนึกบ้างหรือ?”

เฉินเทียนเถียนกลอกตาโดยไม่ได้พูดอะไรตอบ นายน้อยหลี่เห็นอย่างนั้นก็อดไม่ได้ที่จะหัวเราะออกมา

“เอาล่ะ! ข้าไม่ได้ช่วยเพราะเจ้ากตัญญูหรืออะไรหรอก แต่เจ้าเป็นหญิงน่าสงสารและข้าก็ไม่อยากมีปัญหาภายหลัง!”

หลังพูดจบหลี่ซื่อฮวาก็โบกพัดในมือไปมาอย่างสง่างาม

“พูดถึงแม่เลี้ยงของเจ้าแล้ว นางช่างโง่เขลาเสียจริง มันสายเกินไปแล้วที่จะปิดบังเรื่องนี้ นางกล้าพูดออกมาได้อย่างไร?! ดูเหมือนในอนาคตเฉิงเยี่ยจะลำบากไม่น้อย ชื่อเสียงของนักปราชญ์เป็นสิ่งที่สำคัญมาก หากข่าวเรื่องแม่ของเขากระจายออกไป… ใครเล่าจะกล้ารับเขาเป็นศิษย์?”

เมื่อได้ยินอย่างนั้นเฉินเถียนเถียนพลันตื่นเต้น ดูเหมือนว่านางจะไม่ต้องจัดการอีกฝ่ายด้วยตนเองแล้ว นายน้อยหลี่ช่างปราดเปรื่องนัก… เขาไม่ยอมให้หลินชวนฮวาใช้ตนเป็นเครื่องมือเลยสักนิด!

“แท้จริงแล้วท่านเป็นคนอย่างไรกันแน่? หากมองจากภายนอกก็คงเห็นว่าท่านโหดร้ายและบ้ากาม แต่ตอนนี้ชายที่อยู่ตรงหน้าข้ากลับไม่เป็นเช่นนั้นแม้แต่น้อย… ใครจะไปคาดคิดว่านายน้อยหลี่จะสงสารเด็กสาวตัวเล็กเช่นข้า กล่าวคำยืนยันความบริสุทธิ์ให้ข้าด้วยความสัตย์จริง… ทุกสิ่งที่ปรากฏมันชวนให้ข้าสับสนเพราะเรื่องราวที่ได้ยินมามิใช่อย่างนี้!”

ได้ยินอย่างนั้นหลี่ซื่อฮวาก็ตื่นตระหนกไม่น้อย เด็กสาวผู้นี้ไม่ได้ตัดสินเขาจากเรื่องราวที่ได้ยินงั้นหรือ… นางไม่ได้คิดว่าเขาเลวร้ายจริง ๆ หรือ?

เฉินเถียนเถียนยังคงไม่หยุดจ้อ “ไม่ใช่ข้าอยากโอ้อวดอะไร แต่หากไม่ใช่เพราะข้าขาดสารอาหารจนผ่ายผอม… ข้าก็นับว่าเป็นหญิงงามเช่นเดียวกัน แต่ถึงอย่างนั้นท่านก็ไม่คิดจะทำอะไรข้า มันจึงทำให้ข้าตกใจไม่น้อยเพราะอย่างไรแล้วชื่อเสียงและกิตติศัพท์ความโหดร้ายของตระกูลหลี่นั้นเลื่องลือนัก!”

“ข้าได้ข่าวมาว่าแม่เลี้ยงของนายน้อยก็โหดเหี้ยมเช่นเดียวกับแม่เลี้ยงของข้า! แต่ว่าแม่เลี้ยงของข้านั้นกดขี่ข่มเหงและใส่ร้ายเพื่อตัดอนาคตของข้าให้จบสิ้น! การที่นางต้องเผชิญหน้ากับนายน้อยหลี่นั้นนับว่าสมน้ำสมเนื้อไม่น้อย ข้าเพิ่งรู้ว่าแท้จริงแล้วท่านไม่ได้เห็นด้วยกับนางแต่ก็ไม่ต้องการจะมีปัญหากับผู้ใดจึงแสร้งโอนอ่อนตามบทบาท เมื่อสบโอกาสที่อีกฝ่ายคลายความระวังตัวท่านจึงจะทุบตีในคราวเดียวใช่หรือไม่?!”

นายน้อยหลี่ถึงกับชะงักงันด้วยความตกตะลึง ใบหน้าของเขาพลันเคร่งขรึมพร้อมเสี่ยวซื่อที่ยืนตัวสั่นอยู่ด้านข้าง… ไม่มีใครรู้ว่านายน้อยทำอะไรลงไปบ้างนอกจากตัวของเขาเอง แต่ตอนนี้ทุกอย่างกลับถูกเปิดเผยโดยแม่สาวน้อยตรงหน้า! เขาคงไม่ฆ่าตัวตายเพราะโกรธาใช่หรือไม่?

“แม่นางเฉินเถียนเถียน… นับว่าเจ้าฉลาดหลักแหลมยิ่ง แต่เจ้ารู้หรือไม่ว่าหากรู้มากไปย่อมส่งผลร้ายตามมา อย่างเช่นตอนนี้ข้าคิดว่าควรจะฆ่าปิดปากเจ้าดีหรือไม่?!”

เฉินเถียนเถียนถอยกรูดอย่างไม่รู้ตัว นางรู้สึกได้ว่าทุกถ้อยคำที่นายน้อยหลี่กล่าวออกล้วนแต่เป็นความจริงและเขาสามารถสังหารนางได้จริง ๆ!

“เอาล่ะ… คราวนี้ถือว่าข้าจะปล่อยเจ้าไปก่อน แต่สำหรับเรื่องราวกงการของข้า เจ้าไม่มีสิทธิ์เข้ามายุ่งวุ่นวายเด็ดขาดจำไว้ให้ดี! รีบไปให้พ้นหน้าข้าซะ…”

ทันทีที่เขาพูดจบ เฉินเถียนเถียนสับขาวิ่งหนีไปทันที คำพูดและอำนาจของนายน้อยผู้นี้ทรงพลังอย่างไม่น่าเชื่อ อย่างน้อยก็ทำให้นางกลัวได้!

แต่ความจริงแล้วไม่เห็นต้องกลัวอะไร คนเราเกิดมาก็ต้องตาย!

หากเขาต้องการจะฆ่าใครจริง ๆ เฉินเถียนเถียนอาจไม่ใช่เป้าหมายของชายหนุ่มทั้งสองก็ได้! เพราะถ้าหากใช่… พวกเขาคงไม่ปล่อยให้นางวิ่งหนีออกมาหรอก

หลี่ซื่อฮวาเผยสีหน้าเคร่งขรึมออกมา แต่หญิงตรงหน้ากลับวิ่งเร็วยิ่งกว่ากระต่ายป่า… เขาควรทำอย่างไรหากนางเอาเรื่องทั้งหมดนี้ไปแพร่งพราย?

ในโลกนี้… ใครสามารถเก็บความลับได้ดีที่สุด?

คนตายไงล่ะ!

เสี่ยวซื่อมองไปที่ใบหน้าอันเคร่งขรึมของนายน้อยก่อนจะรวบรวมความกล้าและเอ่ยปากถาม “นายน้อยต้องการให้ข้าหยุดนางหรือไม่?”

แม้ว่าเขาจะโกรธแต่ก็ยกมือเพื่อปฏิเสธอย่างไม่หยี่ระ…

“ไม่ต้องหรอก! นางจะไม่นำเรื่องนี้ไปแพร่งพรายเพื่อแลกกับคำว่ากตัญญูแน่… นอกจากนี้นางยังสามารถใช้เรื่องทั้งหมดเพื่อเรียกร้องบางสิ่งจากข้าได้ตามต้องการ เช่นนี้นางจึงไม่จำเป็นต้องเอาเรื่องนี้ไปบอกใครเพราะมันไม่เกิดผลดีอะไรกับนางเลยแม้แต่น้อย!”

“แต่ในกรณีที่…”

“ไม่มีอะไรหรอก เจ้านี่โง่เหมือนกับหลินชวนฮวาหรือไงนะ? เหตุใดจึงพูดกล่าวไม่เข้าใจสักที!”

เฉินเถียนเถียนหลบหนีไปจนสุดทางก่อนจะเช็ดเหงื่อบนหน้าผากด้วยความตื่นตระหนกพร้อมกับบ่นพึมพำ “โอ้พระเจ้า! นายน้อยผู้นี้น่ากลัวยิ่ง หยุนเคอก็ลึกลับ แต่นายน้อยหลี่ก็ไม่ใช่คนที่จะจัดการได้โดยง่าย!”

ขณะที่กำลังนึกคิด เถียนเถียนก็รู้สึกแปลกใจขึ้นมาว่าเหตุใดนางจึงนึกถึงหยุนเค่อ? นานแค่ไหนแล้วที่ไม่ได้พบเจอเขา?

เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ นางก็ตระหนักได้ว่าตนสามารถอ่านใจนายน้อยหลี่ได้ แต่สำหรับหยุนเคอ… ช่างยากเย็นนัก!

ไม่รู้เลยว่าหน้าตาของหยุนเคอตอนนี้เป็นเช่นไร หนวดเครายังคงรุงรังหรือไม่? เฉินเถียนเถียนคิดในขณะที่เดินกลับบ้าน! แม้ว่านางจะไม่อยากกลับแต่ตอนนี้ก็ไม่มีที่อื่นให้ไปแล้ว!

เด็กสาวก้มศีรษะและรีบเดินกลับบ้านไป ผู้คนรอบข้างมองดูนาง ไม่มีผู้ใดเห็นว่าใบหน้าของนางเป็นเช่นไร ดูเหมือนว่าวันนี้นางจะเศร้าโศกยิ่ง

คงต้องเป็นเช่นนั้นแน่เพราะบิดาผู้ให้กำเนิดถือว่าลูกสาวแท้ ๆ เป็นศัตรู ทั้งยังอยากให้นางโดนถ่วงน้ำ!

แต่ในความเป็นจริง เฉินเถียนเถียนไม่ได้รู้สึกเศร้าโศกแต่อย่างใด แม้ว่านางจะรู้สึกเศร้าเล็กน้อยในตอนที่เจอเหตุการณ์นี้ครั้งแรกแต่เสี่ยวเถาพูดถูก เขาไม่ใช่พ่อของนาง แล้วทำไมจะต้องเสียใจด้วย?

นางไม่รู้เลยว่าเฉินผิงอันเป็นใครในตอนนี้… แม้แต่ความเห็นอกเห็นใจจากชาวบ้าน เฉินเถียนเถียนก็ยังเลือกที่จะไม่สนใจ แม้จะรู้ว่าพวกเขาสงสารและเห็นใจ แต่ก็ไม่สามารถทำให้นางเอาชนะได้อยู่ดี ยิ่งไปกว่านั้นกลับถูกบังคับให้แต่งงานอีกด้วย!

ผู้คนในหมู่บ้านอยู่กันอย่างสงบสุข ปลอดภัย ท่ามกลางชื่อเสียงอันเสื่อมเสียของนาง ความเห็นอกเห็นใจที่มอบให้ นับว่าไร้ประโยชน์ บางคนก็เย่อหยิ่งและประสงค์ร้าย นินทาลับหลังและลอบกัด ซึ่งนางเห็นมันทะลุปรุโปร่งแล้ว!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+