สามีข้า คือพรานป่า 94 เจรจาค้าขาย

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 94 เจรจาค้าขาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 94 เจรจาค้าขาย

 

นายน้อยหลี่ถึงกับถอนหายใจ เด็กสาวผู้งดงามคนนี้ช่างปากคอเราะร้ายยิ่ง!

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าขายมันอย่างไรล่ะ?”

 

พออีกฝ่ายพูดเรื่องค้าขาย รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนหน้าของเถียนเถียน มันงดงามเสียจนอีกฝ่ายตกตะลึง นางหันไปหาหยุนเคอพร้อมร้องเรียก “พี่ชายหยุน นายน้อยหลี่ต้องการซื้อเหยื่อ พี่จงบอกกล่าวราคากับเขา”

 

หยุนเคอพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืน “พวกมันทั้งหมดราคาเพียงยี่สิบเหลียงเท่านั้น ขายทั้งหมดไม่แยก…”

 

ราคานี้นับว่าถูกยิ่ง ขนาดหมูยังราคายี่สิบสี่เหลียง แต่เหยื่อกองนี้กลับถูกกว่าหมูเสียอีก

 

นายน้อยหลีเหลือบมองหยุนเคอพร้อมกับเผยสีหน้าเย็นชาออกมา

 

“โอ้ นี่คือพี่ชายสุดที่รักของเจ้างั้นหรือ? ไม่ไหวเอาซะเลย หากเทียบกับข้าแล้วผู้ใดดูดีกว่ากัน?”

 

คราวแรกหยุนเถียนเถียนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ แต่เมื่อได้ยินคําถามนั้นใบหน้าพลันแดงเรื่อขึ้นมา ส่วนหยุนเคอที่มีใจอยู่แล้วก็พลันอึดอัดไม่น้อย

 

หยุนเถียนเถียนกล่าวตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ในใจของนายน้อยมีเพียงเรื่องเลวทรามงั้นหรือ? เราเป็นเพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น ท่านบอกจะซื้อเหยื่อมิใช่หรือไร? รีบเลือกเร็วเข้า!”

 

นายน้อยหลี่เพียงยกยิ้มอย่างไม่ถือสา แต่เสี่ยวชื่อที่ยืนอยู่ด้านข้างพลันเบิกตากว้าง “สาวบ้านนอก! เจ้ากล้าพูดจาเช่นนี้กับนายน้อยได้อย่างไร?”

 

หยุนเถียนเถียนถลึงตากลับอย่างไม่ยอมแพ้ “หากยังไม่หยุดล้อเล่น ข้าสามารถทําได้มากกว่านี้”

 

ทั้งหยุนเคอและหลี่ซื่อฮวามองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทําเช่นไร เหตุใดทั้งสองจึงทะเลาะกันราวกับเด็กน้อย

 

“เอาเช่นนั้น! ยังไงซะตระกูลของข้าก็เปิดร้านอาหาร ข้าต้องการเหยื่อพวกนี้ก็จริงแต่ต้องการเพียงเนื้อของมันเท่านั้น ส่วนขนของมันข้าไม่สนใจ”

 

เถียนเถียนรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย นางเหลือบมองหยุนเคอด้านข้างและเห็นว่าเขายังคงนิ่งเฉย นางจึงถึงวิสาสะกล่าวออกไปอย่างเด็ดขาด “เรื่องนั้นง่ายดายยิ่ง เพียงแค่ยี่สิบห้าเหวินต่อหนึ่งตัวเท่านั้น! เดี๋ยวข้าจะให้เขาเอามันไป ถลกหนังแล้วจึงส่งมอบให้ท่าน”

 

หลีซื่อฮวาหยักหน้าแล้วให้เสี่ยวซื่อจัดการจ่ายเงิน

 

“เอาล่ะ มันมีประมาณสี่สิบจิน ก็ประมาณหนึ่งถึงสองตําลึง งั้นข้าให้สามตําลึงแล้วกัน เดี๋ยวพวกเจ้าไปที่หลังร้านของข้า แล้วถลกหนังออกมันออกที่นั่น!”

 

หยุนเถียนเถียนสะกิดหยุนเคอให้รีบเอาเหยื่อให้ตะกร้า แล้วเดินตามหลังหลี่ซื่อฮวาไป

 

นางเดินเคียงข้างกับหยุนเคอไม่ห่าง แต่ว่ากลับมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นจนทําให้ตกตะลึงไม่น้อย

 

หลี่ซื่อฮวาคล้ายกับนกยูงรําแพนหางไปมาก็มิปาน ขณะที่เขากําลังเดินโปรยเสน่ห์นั้นพลันหันกลับมาขยิบตาให้สาวน้อยอย่างมีเล่ห์นัย

 

บางคนที่เห็นอย่างนั้นก็พลันเขินอายเพราะไม่รู้ว่าเขาคือใคร แต่บางคนที่รู้จักชื่อเสียของนายน้อยเผยสีหน้าราวกับเห็นผี ทั้งหมดรีบเดินหลบไปราวกับว่ากลัวจะถูกจับตัวไป หากเขาเพียงสนใจขึ้นมา

 

เถียนเถียนเดินตามนายน้อยหลีจนไปถึงหลังร้านอาหาร

 

เสี่ยวซื่อวิ่งเข้าไปเรียกพ่อครัว พวกเขาพูดคุยกันอยู่สองคําก่อนอีกฝ่ายจะหยิบมีดออกมา

 

หยุนเคอก้มลงและเริ่มทํางานทันที มันคืองานที่ต้องพิถีพิถันและเต็มไปด้วยเลือดเหม็นคาว แต่หยุนเคอกลับทําออกมาได้ดียิ่ง

 

หลี่ซื่อฮวาใช้โอกาสที่เถียนเถียนอยู่คนเดียวเข้าหานางอีกครั้ง “นี่สาวน้อย เจ้าทํางานหนักเช่นนี้เพื่ออันใด? มาทํางานกับข้าดีหรือไม่… เจ้าไม่จําเป็นต้องทํางานหนักเลย เพียงแค่รับใช้ข้าเท่านั้น”

 

หยุนเคอได้ยินอย่างนั้นพลันโกรธจัดจนเกือบกระชาก หนังสัตว์ฉีกขาดเสียหาย

 

หยุนเถียนเถียนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆ ท้ายที่สุดนางจึงกล่าวออกมา “นายน้อยหลีเลิกสนใจข้าเถิด มีหญิงสาวมากมายต้องการรับใช้ท่าน อย่างไรซะมันไม่ดีกว่าหรือหากเราสองคนมาร่วมมือค้าขาย ท่านลืมแล้วหรือไรว่าข้ากุมความลับของท่านอยู่ หากข้าพลังปากกล่าวออกจะกล่าวโทษข้ามิได้”

 

ความลับ?

 

นางมีความลับอะไรกับเจ้าหนุ่มคนนี้!?

 

หยุนเคอส่ายศีรษะพร้อมกับจัดการถลกหนังกระต่ายตรงหน้าอย่างเร่งมือ

 

ส่วนเสี่ยวซื่อส่ายศีรษะพร้อมกล่าวเย้ย “ฝีมือเจ้าก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรนัก เจ้ากําลังจะทําให้หนังดีๆ กลับกลายเป็นไร้ประโยชน์”

 

แต่หยุนเคอไม่ได้กล่าวตอบ เขาเพียงโยนหนังของกระต่ายทิ้งไปอย่างไม่แยแส แต่ใครจะคาดคิดว่าเถียนเถียนจะร้องออก “โอ้! สิ่งนั้นมีประโยชน์กับข้า เก็บไว้ก่อน!”

 

“เจ้าชอบของเช่นนี้หรือ? หากเจ้ามารับใช้นายน้อยของข้า เจ้าจะได้รับของดีมากมาย”

 

หยุนเถียนเถียนเผยสีหน้าไม่พอใจให้เสี่ยวชื่อ “ดูท่านายน้อยของเจ้าจะชื่นชอบหญิงสาววัยแรกแย้มเสียจริงนะ แต่เห็นหรือไม่ว่าหญิงสาวที่พบเจอเขาต่างก็พากันวิ่งหนีอย่างหวาดกลัว ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าพูดคุยกับเขาตรงๆโดยไม่ขลาดเขลา เอาล่ะ กล่าวก็คือความกล้าของข้านั้นมากมายยิ่งและข้าไม่สนใจเขา อ้อ! นายน้อยของเจ้านั้นหล่อเหลานัก แต่ก็เพียงเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะเขาคือนายน้อยหลี่ เจ้าคิดว่าผู้ใดอยากจะมองหน้าเขาบ้างล่ะ?!”

 

หยุนเถียนเถียนรู้สึกผิดยิ่งที่กล่าววาจาเช่นนั้นออกไป ยังไงเสียทั้งหมดก็เป็นเรื่องจริง ใบหน้าหล่อเหลาแต่ชื่อเสียงค่อนไปทางเลวทราม หญิงสาวใดจะต้องการติดตามเขากันล่ะ?

 

บ้าชะมัด เด็กสาวคนนี้พูดมากเกินไปหรือไม่ เจ้ากล้าชื่นชมคนอื่นว่าหล่อเหลางั้นหรือ? ลองดูหากว่าข้าโกนหนวดเคราออก ก็คงจะ…

 

ช่างมันเถอะ หยุนเคอเพียงถอนหายใจออก เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทําไมเขาต้องโกรธสาวน้อยคนนี้ด้วย แต่เพื่อไม่ให้เด็กคนนี้ได้มีโอกาสคุยกับนายน้อยหลี่ หยุนเคอจึงเร่งจัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ

 

“เอาล่ะ… นายน้อยหลี่!”

 

หยุนเคอโยนหนังเหล่านั้นลงตะกร้าด้านหลัง และเรียกให้พ่อครัวในร้านนํามันไปชั่งน้ําหนัก

 

ตอนนั้นเองหยุนเถียนเถียนกลับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงดึง แขนเสื้อของหลี่ซื่อฮวาไว้ “นายน้อยหลี่ อย่างไรร้านอาหารของร้านก็ต้องการเนื้อ อย่างนั้นให้ข้าส่งมันมาที่ร้านของท่านเลยจะดีหรือไม่?”

 

หลี่ซื่อฮวาใช้พัดเคาะหัวหญิงสาว “เมืองเล็กๆเช่นนี้ เจ้าคิดว่าร้านอาหารมันจะไปได้ดีสักแค่ไหนเชียว”

 

หยุนเถียนเถียนหรี่ตาลงเล็กน้อยทําท่าเหมือนวางแผน “นายน้อยหลี่ ท่านมีร้านอาหารเพียงแคในเมืองนี้เท่านั้นหรือ แล้วเมืองอื่นล่ะ?”

 

หลี่ซื่อฮวาเหลือบมองสาวน้อยก่อนจะกล่าวตอบ “ร้านอาหารในเมืองมีไม่มาก แต่การจะส่งของไปที่นั้นค่อนข้างลําบากและมีค่าใช้จ่าย หรือว่าเจ้าจะรับผิดชอบส่วนนี้ให้ข้า?”

 

เถียนเถียนเงียบไปครู่ก่อนจะตระหนักถึงอะไรบางอย่าง ก่อนหน้านี้นางจําได้ว่ายายเคยทําเนื้อตากแห้ง ซึ่งจนถึงตอนนี้นางยังไม่เคยเห็นเลยว่ายุคนี้มีสิ่งของเหล่านั้น หรือว่า…

 

“นายน้อยหลี่! ข้ามีวิธีที่จะทําให้เนื้อเหล่านี้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น ลองให้ข้าทํามันแล้วส่งให้ร้านอาหารของท่านดีหรือไม่? ยังไงซะท่านก็ลองชิมมันดูก่อน หากว่าชื่นชอบ มันก็จะเป็นการร่วมมือของเราสองคนในอนาคต เช่นนี้ดีหรือไม่?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

สามีข้า คือพรานป่า 94 เจรจาค้าขาย

Now you are reading สามีข้า คือพรานป่า Chapter 94 เจรจาค้าขาย at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ตอนที่ 94 เจรจาค้าขาย

 

นายน้อยหลี่ถึงกับถอนหายใจ เด็กสาวผู้งดงามคนนี้ช่างปากคอเราะร้ายยิ่ง!

 

“ถ้าอย่างนั้นเจ้าขายมันอย่างไรล่ะ?”

 

พออีกฝ่ายพูดเรื่องค้าขาย รอยยิ้มหวานผุดขึ้นบนหน้าของเถียนเถียน มันงดงามเสียจนอีกฝ่ายตกตะลึง นางหันไปหาหยุนเคอพร้อมร้องเรียก “พี่ชายหยุน นายน้อยหลี่ต้องการซื้อเหยื่อ พี่จงบอกกล่าวราคากับเขา”

 

หยุนเคอพยักหน้าพร้อมกับลุกขึ้นยืน “พวกมันทั้งหมดราคาเพียงยี่สิบเหลียงเท่านั้น ขายทั้งหมดไม่แยก…”

 

ราคานี้นับว่าถูกยิ่ง ขนาดหมูยังราคายี่สิบสี่เหลียง แต่เหยื่อกองนี้กลับถูกกว่าหมูเสียอีก

 

นายน้อยหลีเหลือบมองหยุนเคอพร้อมกับเผยสีหน้าเย็นชาออกมา

 

“โอ้ นี่คือพี่ชายสุดที่รักของเจ้างั้นหรือ? ไม่ไหวเอาซะเลย หากเทียบกับข้าแล้วผู้ใดดูดีกว่ากัน?”

 

คราวแรกหยุนเถียนเถียนไม่ได้สนใจเรื่องพวกนี้ แต่เมื่อได้ยินคําถามนั้นใบหน้าพลันแดงเรื่อขึ้นมา ส่วนหยุนเคอที่มีใจอยู่แล้วก็พลันอึดอัดไม่น้อย

 

หยุนเถียนเถียนกล่าวตอบอย่างไม่สบอารมณ์ “ในใจของนายน้อยมีเพียงเรื่องเลวทรามงั้นหรือ? เราเป็นเพื่อนบ้านที่ช่วยเหลือซึ่งกันและกันเท่านั้น ท่านบอกจะซื้อเหยื่อมิใช่หรือไร? รีบเลือกเร็วเข้า!”

 

นายน้อยหลี่เพียงยกยิ้มอย่างไม่ถือสา แต่เสี่ยวชื่อที่ยืนอยู่ด้านข้างพลันเบิกตากว้าง “สาวบ้านนอก! เจ้ากล้าพูดจาเช่นนี้กับนายน้อยได้อย่างไร?”

 

หยุนเถียนเถียนถลึงตากลับอย่างไม่ยอมแพ้ “หากยังไม่หยุดล้อเล่น ข้าสามารถทําได้มากกว่านี้”

 

ทั้งหยุนเคอและหลี่ซื่อฮวามองหน้ากันอย่างไม่รู้จะทําเช่นไร เหตุใดทั้งสองจึงทะเลาะกันราวกับเด็กน้อย

 

“เอาเช่นนั้น! ยังไงซะตระกูลของข้าก็เปิดร้านอาหาร ข้าต้องการเหยื่อพวกนี้ก็จริงแต่ต้องการเพียงเนื้อของมันเท่านั้น ส่วนขนของมันข้าไม่สนใจ”

 

เถียนเถียนรู้สึกกระอักกระอ่วนไม่น้อย นางเหลือบมองหยุนเคอด้านข้างและเห็นว่าเขายังคงนิ่งเฉย นางจึงถึงวิสาสะกล่าวออกไปอย่างเด็ดขาด “เรื่องนั้นง่ายดายยิ่ง เพียงแค่ยี่สิบห้าเหวินต่อหนึ่งตัวเท่านั้น! เดี๋ยวข้าจะให้เขาเอามันไป ถลกหนังแล้วจึงส่งมอบให้ท่าน”

 

หลีซื่อฮวาหยักหน้าแล้วให้เสี่ยวซื่อจัดการจ่ายเงิน

 

“เอาล่ะ มันมีประมาณสี่สิบจิน ก็ประมาณหนึ่งถึงสองตําลึง งั้นข้าให้สามตําลึงแล้วกัน เดี๋ยวพวกเจ้าไปที่หลังร้านของข้า แล้วถลกหนังออกมันออกที่นั่น!”

 

หยุนเถียนเถียนสะกิดหยุนเคอให้รีบเอาเหยื่อให้ตะกร้า แล้วเดินตามหลังหลี่ซื่อฮวาไป

 

นางเดินเคียงข้างกับหยุนเคอไม่ห่าง แต่ว่ากลับมีเรื่องราวบางอย่างเกิดขึ้นจนทําให้ตกตะลึงไม่น้อย

 

หลี่ซื่อฮวาคล้ายกับนกยูงรําแพนหางไปมาก็มิปาน ขณะที่เขากําลังเดินโปรยเสน่ห์นั้นพลันหันกลับมาขยิบตาให้สาวน้อยอย่างมีเล่ห์นัย

 

บางคนที่เห็นอย่างนั้นก็พลันเขินอายเพราะไม่รู้ว่าเขาคือใคร แต่บางคนที่รู้จักชื่อเสียของนายน้อยเผยสีหน้าราวกับเห็นผี ทั้งหมดรีบเดินหลบไปราวกับว่ากลัวจะถูกจับตัวไป หากเขาเพียงสนใจขึ้นมา

 

เถียนเถียนเดินตามนายน้อยหลีจนไปถึงหลังร้านอาหาร

 

เสี่ยวซื่อวิ่งเข้าไปเรียกพ่อครัว พวกเขาพูดคุยกันอยู่สองคําก่อนอีกฝ่ายจะหยิบมีดออกมา

 

หยุนเคอก้มลงและเริ่มทํางานทันที มันคืองานที่ต้องพิถีพิถันและเต็มไปด้วยเลือดเหม็นคาว แต่หยุนเคอกลับทําออกมาได้ดียิ่ง

 

หลี่ซื่อฮวาใช้โอกาสที่เถียนเถียนอยู่คนเดียวเข้าหานางอีกครั้ง “นี่สาวน้อย เจ้าทํางานหนักเช่นนี้เพื่ออันใด? มาทํางานกับข้าดีหรือไม่… เจ้าไม่จําเป็นต้องทํางานหนักเลย เพียงแค่รับใช้ข้าเท่านั้น”

 

หยุนเคอได้ยินอย่างนั้นพลันโกรธจัดจนเกือบกระชาก หนังสัตว์ฉีกขาดเสียหาย

 

หยุนเถียนเถียนยิ้มเล็กน้อยก่อนจะหัวเราะเบาๆ ท้ายที่สุดนางจึงกล่าวออกมา “นายน้อยหลีเลิกสนใจข้าเถิด มีหญิงสาวมากมายต้องการรับใช้ท่าน อย่างไรซะมันไม่ดีกว่าหรือหากเราสองคนมาร่วมมือค้าขาย ท่านลืมแล้วหรือไรว่าข้ากุมความลับของท่านอยู่ หากข้าพลังปากกล่าวออกจะกล่าวโทษข้ามิได้”

 

ความลับ?

 

นางมีความลับอะไรกับเจ้าหนุ่มคนนี้!?

 

หยุนเคอส่ายศีรษะพร้อมกับจัดการถลกหนังกระต่ายตรงหน้าอย่างเร่งมือ

 

ส่วนเสี่ยวซื่อส่ายศีรษะพร้อมกล่าวเย้ย “ฝีมือเจ้าก็ไม่ได้ยอดเยี่ยมอะไรนัก เจ้ากําลังจะทําให้หนังดีๆ กลับกลายเป็นไร้ประโยชน์”

 

แต่หยุนเคอไม่ได้กล่าวตอบ เขาเพียงโยนหนังของกระต่ายทิ้งไปอย่างไม่แยแส แต่ใครจะคาดคิดว่าเถียนเถียนจะร้องออก “โอ้! สิ่งนั้นมีประโยชน์กับข้า เก็บไว้ก่อน!”

 

“เจ้าชอบของเช่นนี้หรือ? หากเจ้ามารับใช้นายน้อยของข้า เจ้าจะได้รับของดีมากมาย”

 

หยุนเถียนเถียนเผยสีหน้าไม่พอใจให้เสี่ยวชื่อ “ดูท่านายน้อยของเจ้าจะชื่นชอบหญิงสาววัยแรกแย้มเสียจริงนะ แต่เห็นหรือไม่ว่าหญิงสาวที่พบเจอเขาต่างก็พากันวิ่งหนีอย่างหวาดกลัว ข้าเป็นเพียงคนเดียวที่กล้าพูดคุยกับเขาตรงๆโดยไม่ขลาดเขลา เอาล่ะ กล่าวก็คือความกล้าของข้านั้นมากมายยิ่งและข้าไม่สนใจเขา อ้อ! นายน้อยของเจ้านั้นหล่อเหลานัก แต่ก็เพียงเท่านั้น หากไม่ใช่เพราะเขาคือนายน้อยหลี่ เจ้าคิดว่าผู้ใดอยากจะมองหน้าเขาบ้างล่ะ?!”

 

หยุนเถียนเถียนรู้สึกผิดยิ่งที่กล่าววาจาเช่นนั้นออกไป ยังไงเสียทั้งหมดก็เป็นเรื่องจริง ใบหน้าหล่อเหลาแต่ชื่อเสียงค่อนไปทางเลวทราม หญิงสาวใดจะต้องการติดตามเขากันล่ะ?

 

บ้าชะมัด เด็กสาวคนนี้พูดมากเกินไปหรือไม่ เจ้ากล้าชื่นชมคนอื่นว่าหล่อเหลางั้นหรือ? ลองดูหากว่าข้าโกนหนวดเคราออก ก็คงจะ…

 

ช่างมันเถอะ หยุนเคอเพียงถอนหายใจออก เขาไม่รู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้น ทําไมเขาต้องโกรธสาวน้อยคนนี้ด้วย แต่เพื่อไม่ให้เด็กคนนี้ได้มีโอกาสคุยกับนายน้อยหลี่ หยุนเคอจึงเร่งจัดการสิ่งที่อยู่ตรงหน้าอย่างตั้งใจ

 

“เอาล่ะ… นายน้อยหลี่!”

 

หยุนเคอโยนหนังเหล่านั้นลงตะกร้าด้านหลัง และเรียกให้พ่อครัวในร้านนํามันไปชั่งน้ําหนัก

 

ตอนนั้นเองหยุนเถียนเถียนกลับนึกอะไรขึ้นมาได้จึงดึง แขนเสื้อของหลี่ซื่อฮวาไว้ “นายน้อยหลี่ อย่างไรร้านอาหารของร้านก็ต้องการเนื้อ อย่างนั้นให้ข้าส่งมันมาที่ร้านของท่านเลยจะดีหรือไม่?”

 

หลี่ซื่อฮวาใช้พัดเคาะหัวหญิงสาว “เมืองเล็กๆเช่นนี้ เจ้าคิดว่าร้านอาหารมันจะไปได้ดีสักแค่ไหนเชียว”

 

หยุนเถียนเถียนหรี่ตาลงเล็กน้อยทําท่าเหมือนวางแผน “นายน้อยหลี่ ท่านมีร้านอาหารเพียงแคในเมืองนี้เท่านั้นหรือ แล้วเมืองอื่นล่ะ?”

 

หลี่ซื่อฮวาเหลือบมองสาวน้อยก่อนจะกล่าวตอบ “ร้านอาหารในเมืองมีไม่มาก แต่การจะส่งของไปที่นั้นค่อนข้างลําบากและมีค่าใช้จ่าย หรือว่าเจ้าจะรับผิดชอบส่วนนี้ให้ข้า?”

 

เถียนเถียนเงียบไปครู่ก่อนจะตระหนักถึงอะไรบางอย่าง ก่อนหน้านี้นางจําได้ว่ายายเคยทําเนื้อตากแห้ง ซึ่งจนถึงตอนนี้นางยังไม่เคยเห็นเลยว่ายุคนี้มีสิ่งของเหล่านั้น หรือว่า…

 

“นายน้อยหลี่! ข้ามีวิธีที่จะทําให้เนื้อเหล่านี้มีรสชาติที่ดียิ่งขึ้น ลองให้ข้าทํามันแล้วส่งให้ร้านอาหารของท่านดีหรือไม่? ยังไงซะท่านก็ลองชิมมันดูก่อน หากว่าชื่นชอบ มันก็จะเป็นการร่วมมือของเราสองคนในอนาคต เช่นนี้ดีหรือไม่?”

 

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+