หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 44 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ต้น)

Now you are reading หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ Chapter 44 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 44 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ต้น)

เมื่อได้ยินเสียงนั้น เยี่ยฉวนพลันตัวแข็งทื่อทันที !

ช่างเป็นเสียงที่คุ้นเคยนัก !

เสียงของสตรีตรงหน้าทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว เพราะมันไม่ต่างกับเสียงของสตรีลึกลับในหอคอยเรือนจำ แม้แต่นิด !

“นางออกมาแล้ว ?”

“นางออกมาได้งั้นหรือ ?”

เยี่ยฉวนรู้สึกงงงวยอย่างที่สุด

หลังจากได้รับคำท้าทายจากสตรีลึกลับ จ้าวหอฮั่นพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย “ให้คนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักอัปสรเมรัยออกมาสู้กับเจ้างั้นรึ ? ยโสนัก ! ข้าเกรงว่าแม้แต่อาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปชิงก็ยัง มิกล้าพูดเช่นนั้น”

เป็นที่รู้กันดีว่าอำนาจของสำนักอัปสรเมรัยไม่ได้จำกัดอยู่ในแคว้นเจียงแต่เพียงเท่านั้น ทว่ายังแผ่ขยายไปทั่วทั้งทวีปชิงอีกด้วย !

ในทวีปชิงนั้น แม้ว่าราชวงศ์ที่ปกครองจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่กระนั้นสำนักอัปสรเมรัยกลับยังคงยืน หยัดอยู่มาได้ตลอด !

ผลลัพธ์แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่าง !

สตรีลึกลับไม่ได้กล่าวอะไรอีก ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ มืออันบอบบางของนางค่อย ๆ หยิบยกแม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่ด้านล่างขึ้นมา ทันใดนั้น ! เมื่อสายน้ำมารวมตัวกัน แม่น้ำนั่นก็พลันควบแน่นและกลายเป็นกระบี่วารีต่อหน้าต่อตาผู้คนที่กำลังหวาดกลัว !

เมื่อมองลงไปด้านล่าง

น้ำในแม่น้ำก็แห้งหายจนเกือบหมด !

เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ทุกคนในที่นั้นต่างก็แสดงท่าทีแตกต่างกันไป

ไม่เว้นแม้แต่ จ้าวหอฮั่น !

การเคลื่อนย้ายวัตถุแบบนั้นมันคืออะไรกัน ?

“ระวัง !”

ทันใดนั้นเสียงของสตรีลึกลับก็พลันดังขึ้นภายในหัวของเยี่ยฉวน “เจ้าจงดูไว้เสีย นี่คือ ‘หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา’ ที่แท้จริง !!!”

เมื่อกล่าวจบ กระบี่วารีพลันกลายเป็นลำแสงที่พุ่งพาดผ่านตัวคนไป

รวดเร็วอะไรขนาดนี้ ?

ไม่ใช่สิ !

ทุกคนในที่นั้นสามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน !

อย่างไรก็ตาม สีหน้าของจ้าวหอฮั่นกลับดูเปลี่ยนไปมาก ในขณะนี้การโจมตีด้วยกระบี่นี้พุ่งเป้าไปที่เขา โดยตรง ทว่าการโจมตีครั้งนี้กลับเคลื่อนที่ไปมาด้วยความเร็วต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ นี่มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ?เขาไม่เข้าใจความหมายของการฟาดฟันกระบี่ครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย !

การต่อสู้ครั้งนี้ได้เกินขอบเขตความรู้ความเข้าใจของเขาไปมากแล้ว !

ถึงกระนั้นจ้าวหอฮั่นก็ไม่ได้นิ่งเฉยรอรับความตายที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ เขาพับมืออย่างรวดเร็ว จากนั้นพลันมีลำแสงสีทองปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัวทันที ในเวลาเดียวกันนั้นสองมือเคลื่อนไหวก็ได้ประสานกันเป็นกระบวนท่า ก่อนที่เขาจะกระแทกฝ่ามือออกไปข้างหน้าอย่างดุเดือด “ฝ่ามือหมื่นขุนเขา !”

ฉับพลันนั้น มีพลังงานแสงสีทองปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนโดยรอบ ภูผารอบด้านต่างกำลังสั่นสะเทือน พร้อมกันอย่างรุนแรง ในไม่ช้าลำแสงพลังงานสีน้ำตาลราวกับดินร่วนที่ไร้สิ้นสุดพลันพุ่งออกมาจากภูเขาเหล่านี้ พลังงานทั้งหมดได้ไหลลงจานแผ่นสีทองเสมือนแม่น้ำที่ไหลลงสู่มหาสมุทร ต่อมาจานแผ่นนั้นก็ได้สั่นไหวอย่างแรงจนระเบิดเป็นสีทองสุกใส มันสว่างจ้าเสียยิ่งกว่าแสงแดดที่แผดเผาเสียอีก !

ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่ยืนมองอยู่ กระบี่ของสตรีลึกลับผู้นั้นในที่สุดก็ถูกคู่ต่อสู้โจมตีกลับแล้ว

ในทีแรกพวกเขาคิดว่าภูเขาจะพังทลายและโลกจะต้องแตกสลายเป็นแน่ แต่ทว่าภาพที่ได้เห็นต่อไปนั้นกลับทำให้พวกเขาแข็งค้างกลายเป็นหิน

เมื่อกระบี่วารีอยู่ห่างจากจานแผ่นทองคำประมาณ 1 จั้ง จานแผ่นนั้นกลับพลันแตกออกไม่มีชิ้นดี ก่อนจะกลายเป็นลำแสงสีทองที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า ซึ่งต่างจากกระบี่วารีที่ไม่ได้เร่งความเร็วแม้แต่นิด !!

จ้าวหอฮั่นมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ กระบี่วารีเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ และ ชายชราเองก็ไม่สามารถที่จะปัดป้องมันได้ สุดท้ายแล้วจึงได้แต่ปล่อยให้กระบี่วารีเล่มนั้นแทงเข้ามาที่ตรงกลางหว่างคิ้ว !

สตรีลึกลับยังคงยืนตระหง่านอยู่ไกล ๆ เผชิญกับสายตานับร้อยคู่ของคนที่มารวมตัวกัน ทว่านางไม่ได้ หันหลังกลับมามองเลยแม้แต่น้อย !

พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ !

เป็นความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ด้วยการลงกระบี่เพียงครั้งเดียว !

อีกด้านหนึ่ง ฮั่นเซียงเหมิงและชายชราต่างก็ตัวสั่นเทิ้มด้วยความตกใจ !

แม้เยี่ยฉวนจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของจ้าวหอฮั่นผู้นี้ แต่ทุกคนรู้ ! ในแคว้นเจียงแห่งนี้นั้น ความแข็ง แกร่งของจ้าวหอฮั่นย่อมติดหนึ่งในห้าอันดับแรกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กระนั้นสตรีนางนี้ก็ยังสามารถเอาชนะ เขาได้ด้วยการฟาดฟันกระบี่เพียงหนึ่งครั้งและไม่มีเกินกว่านั้น

เป็นไปได้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วนางก็คือจ้าวแห่งกระบี่ ?

ทันใดนั้นเสียงของสตรีลึกลับก็พลันดังขึ้นอีกครา “การโจมตีด้วย ‘หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา’ หมายความว่า หากข้าต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ เขาย่อมยังหายใจ แต่หากข้าต้องการให้เขาตาย ชีวิตของเขาย่อมดับสิ้น เมื่อข้าได้ชักกระบี่ครั้งหนึ่งแล้ว ข้าสามารถตัดสินความเป็นและความตายของศัตรูได้ภายในครั้งเดียว เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?”

เยี่ยฉวนสำลักเล็กน้อย “ข้า ข้าไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ !”

สตรีลึกลับพยักหน้าเล็กน้อย “เป็นเรื่องปกติ หากบอกว่าเข้าใจสิข้าคงจะต้องตีเจ้าสักทีแล้ว แม้ว่าเจ้า อาจจะยังไม่เข้าใจทักษะอันลึกซึ้งได้ในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าเห็นการกวัดแกว่งกระบี่ เจ้าย่อมต้องมี ความคิดทั่วไปอยู่ในใจ แค่เพียงเท่านี้ก็เป็นประโยชน์กับเจ้ามากแล้ว”

เยี่ยฉวนมองอย่างพินิจพิจารณา “ข้าจะต้องเข้าใจเรื่องนี้ได้แน่ ๆ!”

สตรีลึกลับพยักหน้ารับ “เรียกให้คนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักอัปสรเมรัยออกมาสู้กับข้าเสีย หากข้าไม่สามารถโจมตีคน ๆ นั้นได้ภายในหนึ่งกระบี่ ถือว่าข้าแพ้ !”

ทุกคนเงียบงัน

จ้าวหอฮั่นมองไปยังสตรีลึกลับ  ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “คราวนี้เป็นตาของสำนักอัปสรเมรัยของข้าบ้างแล้ว…”

เสียงของจ้าวหอฮั่นหยุดลงกะทันหัน นั่นเพราะกระบี่วารีที่ปักอยู่ระหว่างคิ้วได้เจาะเข้าไปในกะโหลก ศีรษะอีกครึ่งนิ้ว !

เลือดสด ๆ พลันไหลทะลัก !

สตรีลึกลับพูดขึ้นอีกครั้ง “ร่างกายของเจ้านั้นอ่อนแอจนแม้แต่จะพูดก็ยังไม่ไหว แต่ที่ข้าเลือกให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ นั่นก็เพราะว่าข้าต้องการให้เจ้าเป็นพยานรู้เห็นว่าข้าได้กลั่นแกล้งสำนักอัปสรเมรัยอย่างไรบ้าง เอาละ ตอนนี้ก็จงส่งคนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักอัปสรเมรัยออกมาสู้กับข้าเดี๋ยวนี้ !”

หลังจากที่ได้ฟังคำพูดเหล่านั้น สีหน้าของจ้าวหอฮั่นก็ไม่ต่างอะไรจากคนเพิ่งกล้ำกลืนฝืนกินยาขมเข้า ไป ชายชราทำท่าพร้อมจะขย้อนออกได้ทุกเมื่อ

เขารู้ทันทีว่าสำนักอัปสรเมรัยเจอศัตรูตัวฉกาจเข้าให้แล้ว !

ว่าแต่ภูมิภาคเล็ก ๆ อย่างแคว้นเจียงไปมีคนที่แข็งแกร่งได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?

ในขณะนั้นเอง พลันมีจุดสีดำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอันห่างไกล มันเริ่มขยายวงใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

ทันใดนั้นจะมีเสียงหัวเราะดังขึ้นมากลางอากาศ “ข้าคือจ้าวหอชั้นที่แปด ไม่รู้ว่าสำนักอัปสรเมรัยไปทำอะไรให้ท่านขุ่นเคืองมากขนาดนี้…”

ไม่รอช้า กระบี่วารีที่กำลังจดจ่ออยู่ที่จ้าวหอฮั่นพลันตั้งขึ้นและพุ่งตรงไปบนท้องฟ้า

ความเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างรวดเร็วเหนือคาด

“อ้ากกก !”

บนท้องฟ้ามีเสียงร้องดังขึ้น ก่อนที่ในพริบตาศีรษะเปื้อนเลือดของชายชราจะค่อย ๆ ตกลงมาจากก้อน เมฆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ 44 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ต้น)

Now you are reading หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์หนึ่งกระบี่นิจนิรันดร์ Chapter 44 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ต้น) at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

บทที่ 44 เจ้าจงดิ้นรนไปเถิด ส่วนข้าจะอยู่ยงคงกระพัน (ต้น)

เมื่อได้ยินเสียงนั้น เยี่ยฉวนพลันตัวแข็งทื่อทันที !

ช่างเป็นเสียงที่คุ้นเคยนัก !

เสียงของสตรีตรงหน้าทำให้เขาสั่นไปทั้งตัว เพราะมันไม่ต่างกับเสียงของสตรีลึกลับในหอคอยเรือนจำ แม้แต่นิด !

“นางออกมาแล้ว ?”

“นางออกมาได้งั้นหรือ ?”

เยี่ยฉวนรู้สึกงงงวยอย่างที่สุด

หลังจากได้รับคำท้าทายจากสตรีลึกลับ จ้าวหอฮั่นพลันหรี่ตาลงเล็กน้อย “ให้คนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักอัปสรเมรัยออกมาสู้กับเจ้างั้นรึ ? ยโสนัก ! ข้าเกรงว่าแม้แต่อาณาจักรฮั่นอันยิ่งใหญ่ที่สุดของทวีปชิงก็ยัง มิกล้าพูดเช่นนั้น”

เป็นที่รู้กันดีว่าอำนาจของสำนักอัปสรเมรัยไม่ได้จำกัดอยู่ในแคว้นเจียงแต่เพียงเท่านั้น ทว่ายังแผ่ขยายไปทั่วทั้งทวีปชิงอีกด้วย !

ในทวีปชิงนั้น แม้ว่าราชวงศ์ที่ปกครองจะมีการเปลี่ยนแปลง แต่กระนั้นสำนักอัปสรเมรัยกลับยังคงยืน หยัดอยู่มาได้ตลอด !

ผลลัพธ์แค่นั้นก็เพียงพอแล้วที่จะพิสูจน์อะไรบางอย่าง !

สตรีลึกลับไม่ได้กล่าวอะไรอีก ท่ามกลางสายตานับร้อยคู่ มืออันบอบบางของนางค่อย ๆ หยิบยกแม่น้ำสายใหญ่ที่อยู่ด้านล่างขึ้นมา ทันใดนั้น ! เมื่อสายน้ำมารวมตัวกัน แม่น้ำนั่นก็พลันควบแน่นและกลายเป็นกระบี่วารีต่อหน้าต่อตาผู้คนที่กำลังหวาดกลัว !

เมื่อมองลงไปด้านล่าง

น้ำในแม่น้ำก็แห้งหายจนเกือบหมด !

เมื่อเห็นฉากนี้แล้ว ทุกคนในที่นั้นต่างก็แสดงท่าทีแตกต่างกันไป

ไม่เว้นแม้แต่ จ้าวหอฮั่น !

การเคลื่อนย้ายวัตถุแบบนั้นมันคืออะไรกัน ?

“ระวัง !”

ทันใดนั้นเสียงของสตรีลึกลับก็พลันดังขึ้นภายในหัวของเยี่ยฉวน “เจ้าจงดูไว้เสีย นี่คือ ‘หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา’ ที่แท้จริง !!!”

เมื่อกล่าวจบ กระบี่วารีพลันกลายเป็นลำแสงที่พุ่งพาดผ่านตัวคนไป

รวดเร็วอะไรขนาดนี้ ?

ไม่ใช่สิ !

ทุกคนในที่นั้นสามารถมองเห็นภาพได้อย่างชัดเจน !

อย่างไรก็ตาม สีหน้าของจ้าวหอฮั่นกลับดูเปลี่ยนไปมาก ในขณะนี้การโจมตีด้วยกระบี่นี้พุ่งเป้าไปที่เขา โดยตรง ทว่าการโจมตีครั้งนี้กลับเคลื่อนที่ไปมาด้วยความเร็วต่ำอย่างไม่น่าเชื่อ นี่มันหมายความว่าอะไรกันแน่ ?เขาไม่เข้าใจความหมายของการฟาดฟันกระบี่ครั้งนี้เลยแม้แต่น้อย !

การต่อสู้ครั้งนี้ได้เกินขอบเขตความรู้ความเข้าใจของเขาไปมากแล้ว !

ถึงกระนั้นจ้าวหอฮั่นก็ไม่ได้นิ่งเฉยรอรับความตายที่อีกฝ่ายหยิบยื่นให้ เขาพับมืออย่างรวดเร็ว จากนั้นพลันมีลำแสงสีทองปรากฏขึ้นรอบ ๆ ตัวทันที ในเวลาเดียวกันนั้นสองมือเคลื่อนไหวก็ได้ประสานกันเป็นกระบวนท่า ก่อนที่เขาจะกระแทกฝ่ามือออกไปข้างหน้าอย่างดุเดือด “ฝ่ามือหมื่นขุนเขา !”

ฉับพลันนั้น มีพลังงานแสงสีทองปรากฏขึ้นต่อหน้าทุกคนโดยรอบ ภูผารอบด้านต่างกำลังสั่นสะเทือน พร้อมกันอย่างรุนแรง ในไม่ช้าลำแสงพลังงานสีน้ำตาลราวกับดินร่วนที่ไร้สิ้นสุดพลันพุ่งออกมาจากภูเขาเหล่านี้ พลังงานทั้งหมดได้ไหลลงจานแผ่นสีทองเสมือนแม่น้ำที่ไหลลงสู่มหาสมุทร ต่อมาจานแผ่นนั้นก็ได้สั่นไหวอย่างแรงจนระเบิดเป็นสีทองสุกใส มันสว่างจ้าเสียยิ่งกว่าแสงแดดที่แผดเผาเสียอีก !

ท่ามกลางสายตาของทุกคนที่ยืนมองอยู่ กระบี่ของสตรีลึกลับผู้นั้นในที่สุดก็ถูกคู่ต่อสู้โจมตีกลับแล้ว

ในทีแรกพวกเขาคิดว่าภูเขาจะพังทลายและโลกจะต้องแตกสลายเป็นแน่ แต่ทว่าภาพที่ได้เห็นต่อไปนั้นกลับทำให้พวกเขาแข็งค้างกลายเป็นหิน

เมื่อกระบี่วารีอยู่ห่างจากจานแผ่นทองคำประมาณ 1 จั้ง จานแผ่นนั้นกลับพลันแตกออกไม่มีชิ้นดี ก่อนจะกลายเป็นลำแสงสีทองที่กระจัดกระจายไปทั่วท้องฟ้า ซึ่งต่างจากกระบี่วารีที่ไม่ได้เร่งความเร็วแม้แต่นิด !!

จ้าวหอฮั่นมองภาพที่เกิดขึ้นตรงหน้าด้วยสายตาไม่อยากจะเชื่อ กระบี่วารีเข้าใกล้มากขึ้นเรื่อย ๆ และ ชายชราเองก็ไม่สามารถที่จะปัดป้องมันได้ สุดท้ายแล้วจึงได้แต่ปล่อยให้กระบี่วารีเล่มนั้นแทงเข้ามาที่ตรงกลางหว่างคิ้ว !

สตรีลึกลับยังคงยืนตระหง่านอยู่ไกล ๆ เผชิญกับสายตานับร้อยคู่ของคนที่มารวมตัวกัน ทว่านางไม่ได้ หันหลังกลับมามองเลยแม้แต่น้อย !

พ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ !

เป็นความพ่ายแพ้อย่างสมบูรณ์ด้วยการลงกระบี่เพียงครั้งเดียว !

อีกด้านหนึ่ง ฮั่นเซียงเหมิงและชายชราต่างก็ตัวสั่นเทิ้มด้วยความตกใจ !

แม้เยี่ยฉวนจะไม่รู้ถึงความแข็งแกร่งของจ้าวหอฮั่นผู้นี้ แต่ทุกคนรู้ ! ในแคว้นเจียงแห่งนี้นั้น ความแข็ง แกร่งของจ้าวหอฮั่นย่อมติดหนึ่งในห้าอันดับแรกอย่างไม่ต้องสงสัย แต่กระนั้นสตรีนางนี้ก็ยังสามารถเอาชนะ เขาได้ด้วยการฟาดฟันกระบี่เพียงหนึ่งครั้งและไม่มีเกินกว่านั้น

เป็นไปได้หรือไม่ว่าแท้จริงแล้วนางก็คือจ้าวแห่งกระบี่ ?

ทันใดนั้นเสียงของสตรีลึกลับก็พลันดังขึ้นอีกครา “การโจมตีด้วย ‘หนึ่งกระบี่ชี้ชะตา’ หมายความว่า หากข้าต้องการให้เขามีชีวิตอยู่ เขาย่อมยังหายใจ แต่หากข้าต้องการให้เขาตาย ชีวิตของเขาย่อมดับสิ้น เมื่อข้าได้ชักกระบี่ครั้งหนึ่งแล้ว ข้าสามารถตัดสินความเป็นและความตายของศัตรูได้ภายในครั้งเดียว เจ้าเข้าใจหรือไม่ ?”

เยี่ยฉวนสำลักเล็กน้อย “ข้า ข้าไม่ค่อยเข้าใจเท่าไหร่ !”

สตรีลึกลับพยักหน้าเล็กน้อย “เป็นเรื่องปกติ หากบอกว่าเข้าใจสิข้าคงจะต้องตีเจ้าสักทีแล้ว แม้ว่าเจ้า อาจจะยังไม่เข้าใจทักษะอันลึกซึ้งได้ในตอนนี้ แต่อย่างไรก็ตามเมื่อเจ้าเห็นการกวัดแกว่งกระบี่ เจ้าย่อมต้องมี ความคิดทั่วไปอยู่ในใจ แค่เพียงเท่านี้ก็เป็นประโยชน์กับเจ้ามากแล้ว”

เยี่ยฉวนมองอย่างพินิจพิจารณา “ข้าจะต้องเข้าใจเรื่องนี้ได้แน่ ๆ!”

สตรีลึกลับพยักหน้ารับ “เรียกให้คนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักอัปสรเมรัยออกมาสู้กับข้าเสีย หากข้าไม่สามารถโจมตีคน ๆ นั้นได้ภายในหนึ่งกระบี่ ถือว่าข้าแพ้ !”

ทุกคนเงียบงัน

จ้าวหอฮั่นมองไปยังสตรีลึกลับ  ก่อนจะยิ้มออกมาอย่างขมขื่น “คราวนี้เป็นตาของสำนักอัปสรเมรัยของข้าบ้างแล้ว…”

เสียงของจ้าวหอฮั่นหยุดลงกะทันหัน นั่นเพราะกระบี่วารีที่ปักอยู่ระหว่างคิ้วได้เจาะเข้าไปในกะโหลก ศีรษะอีกครึ่งนิ้ว !

เลือดสด ๆ พลันไหลทะลัก !

สตรีลึกลับพูดขึ้นอีกครั้ง “ร่างกายของเจ้านั้นอ่อนแอจนแม้แต่จะพูดก็ยังไม่ไหว แต่ที่ข้าเลือกให้เจ้ามีชีวิตอยู่ต่อ นั่นก็เพราะว่าข้าต้องการให้เจ้าเป็นพยานรู้เห็นว่าข้าได้กลั่นแกล้งสำนักอัปสรเมรัยอย่างไรบ้าง เอาละ ตอนนี้ก็จงส่งคนที่แข็งแกร่งที่สุดของสำนักอัปสรเมรัยออกมาสู้กับข้าเดี๋ยวนี้ !”

หลังจากที่ได้ฟังคำพูดเหล่านั้น สีหน้าของจ้าวหอฮั่นก็ไม่ต่างอะไรจากคนเพิ่งกล้ำกลืนฝืนกินยาขมเข้า ไป ชายชราทำท่าพร้อมจะขย้อนออกได้ทุกเมื่อ

เขารู้ทันทีว่าสำนักอัปสรเมรัยเจอศัตรูตัวฉกาจเข้าให้แล้ว !

ว่าแต่ภูมิภาคเล็ก ๆ อย่างแคว้นเจียงไปมีคนที่แข็งแกร่งได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่กัน ?

ในขณะนั้นเอง พลันมีจุดสีดำปรากฏขึ้นบนท้องฟ้าอันห่างไกล มันเริ่มขยายวงใหญ่ขึ้นเรื่อย ๆ

ทันใดนั้นจะมีเสียงหัวเราะดังขึ้นมากลางอากาศ “ข้าคือจ้าวหอชั้นที่แปด ไม่รู้ว่าสำนักอัปสรเมรัยไปทำอะไรให้ท่านขุ่นเคืองมากขนาดนี้…”

ไม่รอช้า กระบี่วารีที่กำลังจดจ่ออยู่ที่จ้าวหอฮั่นพลันตั้งขึ้นและพุ่งตรงไปบนท้องฟ้า

ความเคลื่อนไหวเป็นไปอย่างรวดเร็วเหนือคาด

“อ้ากกก !”

บนท้องฟ้ามีเสียงร้องดังขึ้น ก่อนที่ในพริบตาศีรษะเปื้อนเลือดของชายชราจะค่อย ๆ ตกลงมาจากก้อน เมฆ

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+