หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 888 คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 888 คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ลูกผลึกแสงห้าลูกลอยอยู่เบื้องหน้าทั้งสอง

แสงลึกลับเปล่งออกมา ริ้วแสงระยับกำจายไม่ได้รุนแรง ทว่าก็เพียงพอที่จะทำให้คนตื่นตาและหลงใหล นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ชัดเจนเกี่ยวกับราคาของที่อยู่ในลูกผลึกแสงเหล่านั้น

แม้แต่ขั้วอำนาจสูงสุดในภูมิภาคทางเหนือก็จะแย่งชิงสิ่งเหล่านี้ไปให้จงได้ แม้ไม่ง่ายที่จะสร้างจั้นเจิ้นซือ แต่อย่างน้อยสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขามีโอกาสเลี้ยงดูจั้นเจิ้นซือได้ เมื่อไรที่สำเร็จพวกเขาก็จะได้รับประโยชน์มหาศาล

ดวงตาของมู่เฉินจ้องมองลูกผลึกแสงทั้งห้าพลางเลียริมฝีปาก จากนั้นเขากับจินไถหลิวหลีก็แลกเปลี่ยนสายตากัน แต่ละฝ่ายเห็นความตื่นเต้นที่ยากจะห้ามไว้ในสายตาของกันและกัน

“เข้าหาพวกมันด้วยคลื่นจิตของเจ้า” จักรพรรดิเทียนเจิ้นยิ้มขณะที่พูด “คัมภีร์จิตเป็นสิ่งที่แย่งชิงไม่ได้ หากไม่สามารถเข้ากันได้ก็จะไม่สัมฤทธิ์ผล ถ้าเจ้าฝืนฝึกก็รังแต่จะทำให้ตัวเองบาดเจ็บ ดังนั้นถ้าไม่มีโชค ครั้งนี้พวกเจ้าก็ได้แต่กลับไปมือเปล่าแล้ว”

หัวใจของมู่เฉินและจินไถหลิวหลีบีบเค้นแน่น ขณะที่พวกเขาไตร่ตรองถึงความโหดร้ายในการก้าวเป็นจั้นเจิ้นซือ ไม่ต้องพูดถึงความเสี่ยงทางด้านศาสตร์คลื่นจิตเลย มิหนำซ้ำยังต้องเข้ากันได้อีกด้วย…

แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสองไม่ได้มีอำนาจต่อรองอะไร จึงทำได้เพียงหายใจเข้าสุดปอดจากนั้นก็หลับตาลง หัวใจของพวกเขาสงบ คลื่นจิตที่ไร้รูปพรั่งพรูออกมา

เมื่อการมองเห็นมืดลงพร้อมกับด้วยการเคลื่อนไหวของคลื่นจิต มู่เฉินก็รับรู้ได้ถึงลูกผลึกแสงทั้งห้าที่ปรากฏเบื้องหน้า แต่ละลูกมีสีสันแตกต่างกัน แต่ทุกลูกล้วนเปล่งประกายลึกลับออกมา ท่ามกลางแสงทั้งห้าลูกที่อยู่ตรงกลางเปล่งประกายเจิดจ้าที่สุด

เห็นได้ชัดว่าลูกผลึกแสงนั้นน่าจะเป็นวิชาที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นทิ้งเอาไว้ซึ่งสมบูรณ์แบบที่สุด ในทางตรงกันข้ามอีกสี่ลูกค่อนข้างมืดทึบกว่าลูกตรงกลาง

ทว่ามู่เฉินก็ไม่แปลกใจกับสิ่งนี้ เพราะนี่สอดคล้องกับที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นบอกว่าศาสตร์คลื่นจิตที่เหลือเขาได้มาโดยบังเอิญ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเขา

มู่เฉินหยุดอยู่รอบนอกของลูกผลึกแสงนาน ก่อนที่จะเคลื่อนไปตรงกลาง ในเมื่อมีทักษะวิชาสมบูรณ์แบบ ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างเขาจะยอมแพ้ ยังไงก็ต้องลองดู ถ้าโชคดีเข้ากันได้ เขาก็จะจบการเดินทางนี้ด้วยการเก็บเกี่ยวเต็มรูปแบบ

คลื่นจิตของมู่เฉินกวาดเข้าหาลูกผลึกแสงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะม้วนตัวไปรอบๆ

ทว่าเมื่อคลื่นจิตเคลื่อนตัวอยู่รอบๆ ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากลูกผลึกแสง แม้ว่าประกายมันวาวจะดูสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังห่างไกลจากความเข้ากันได้

ความพยายามของมู่เฉินในการรับวิชาฝึกคลื่นจิตที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นทิ้งไว้ล้มเหลวทันที

ราวกับว่าน้ำเย็นราดรดบนหัวเขา ทำให้หัวใจเขาหนาวจับจิต แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ก็ยังเสียใจกับความล้มเหลวที่เข้ากันไม่ได้

แพ้ก็คือแพ้ มู่เฉินไม่ใช่คนที่ปล่อยวางไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มขมขื่นถอนตัวออก ในเมื่อเข้ากันไม่ได้กับคัมภีร์จิตที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นสร้างขึ้น เขาก็ลองกับลูกอื่นละกัน

ขณะที่คลื่นจิตของมู่เฉินถอยออก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่ามีคลื่นจิตอีกสายเคลื่อนเข้ามาใกล้ เห็นชัดว่าเป็นของจินไถหลิวหลี นางรู้สึกถึงความสำคัญของลูกผลึกแสงลูกนี้เช่นกัน

คลื่นจิตของมู่เฉินสัมผัสได้ถึงคลื่นจิตของจินไถหลิวหลีที่ม้วนตัวรอบลูกผลึกแสงเย็น

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

แต่เพียงแค่คลื่นจิตของจินไถหลิวหลีห้อมล้อมรอบลูกผลึกแสง มู่เฉินก็เห็นแสงระเบิดออกมารุนแรงในทันที ลูกผลึกแสงที่ไม่แสดงปฏิกิริยาต่อคลื่นจิตของมู่เฉิน กลับเปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์ลูกย่อมเปล่งประกายระยิบระยับ

มู่เฉินพูดไม่ออกกับภาพเบื้องหน้า ต่อให้เขาเป็นคนไม่ยึดติดกับอะไรมาก แต่ตอนนี้ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย ไอ้ลูกผลึกแสงนั่นไม่ตอบสนองต่อเขา ทว่ากลับตอบสนองอย่างรุนแรงต่อจินไถหลิวหลี มันชอบผู้หญิงมากกว่าผู้ชายรึไง?

เมื่อลูกผลึกแสงเปล่งประกายแวววาว จินไถหลิวหลีก็มีอาการตื่นเต้นมากจนไม่สามารถรักษาความสงบนิ่งของตนได้อีก นางเบิกตากว้างมองไปที่ลูกผลึกแสงด้วยดวงตางดงาม

“ขะ…ข้าทำสำเร็จเหรอ?” จินไถหลิวหลีพึมพำขณะที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดง นั่นเป็นการแสดงออกของความตื่นเต้นมาก ความสามารถด้านขุมพลังหลิงของนางไม่สูงมาก ถ้าไม่ใช่เพราะทรัพยากรมหาศาลของหมู่ตึกเทวะ นางคงไม่สามารถบรรลุระดับจื้อจุนขั้นสี่ได้ ดังนั้นนางจึงตระหนักได้ว่าเส้นทางขุมพลังหลิงไม่เหมาะที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง การเป็นจั้นเจิ้นซือต่างหากที่จะทำให้นางเป็นหนึ่ง

นางไม่อาจจินตนาการเลยว่าจะสิ้นหวังเพียงใดหากเส้นทางสุดท้ายนี้ถูกสกัดไว้ หมู่ตึกเทวะทำลายตระกูลของนาง บังคับให้นางเข้าร่วมสำนัก เพราะพวกเขาเห็นพรสวรรค์รัศมีจั้นยี่ที่นางมี แต่ถ้านางไม่สามารถเป็นจั้นเจิ้นซือได้ หมู่ตึกเทวะก็คงจะไม่เหลียวแลนางอีกเลย เวลานั้นนางและครอบครัวที่เหลือก็จะตกอยู่ในอันตราย

แต่โชคดีที่สวรรค์ไม่ได้ปิดประตูทุกบาน เส้นทางสุดท้ายของนางในที่สุดก็ต้อนรับด้วยอ้อมแขนที่อ้ากว้าง

มู่เฉินลืมตาขึ้นมามองจินไถหลิวหลีที่สองตาแดงก่ำจากความตื่นเต้น เขาอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเงียบลง ดูเหมือนว่านางมีอดีตขมขื่นมากมาย

เห็นได้ชัดว่านางต้องการทักษะวิชานี้มากกว่าเขา

ขณะที่คิดได้ร่องรอยความเสียดายในใจของมู่เฉินก็หายไป แม้ว่าการเป็นจั้นเจิ้นซือจะยอดเยี่ยม ทว่าก็ไม่ใช่หนทางเดียวของมู่เฉิน นี่ทำให้เขามีไพ่ตายเพิ่มขึ้นในแขนเสื้อเท่านั้น

ดังนั้นแม้จะไม่สามารถเป็นจั้นเจิ้นซือได้ คนอย่างมู่เฉินก็ไม่สิ้นหวัง นอกจากนี้ถึงวิชาศาสตร์คลื่นจิตของจักรพรรดิเทียนเจิ้นจะไม่เหมาะสำหรับเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าวิชาอื่นจะไม่เหมาะกับเขา มหาพันภพกว้างใหญ่ไพศาล แม้วิชาศาสตร์คลื่นจิตจะหายาก แต่ชัดว่าไม่ได้มีแค่ของจักรพรรดิเทียนเจิ้น

“ดูเหมือนว่าเจ้ากับข้าจะมีโชคชะตาต่อกันจริงๆ” จักรพรรดิเทียนเจิ้นยิ้มมองจินไถหลิวหลี สายตาของเขาก็อ่อนโยนยิ่งขึ้น

“ขอบคุณผู้อาวุโส!” จินไถหลิวหลีพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ

จักรพรรดิเทียนเจิ้นสะบัดมือ ลูกผลึกแสงก็ลอยออกมา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นริ้วแสงพุ่งเข้าไปที่หว่างคิ้วของ จินไถหลิวหลีและหายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อลูกผลึกแสงฝังลึกลงไปในหว่างคิ้ว ร่างจินไถหลิวหลีก็กระตุก คิ้วมุ่นเข้าหากัน เห็นได้ชัดว่านางได้รับข้อมูลขึ้นในหัวสมองขณะนี้

“ข้าได้ผนึกวิชาไว้ในหัวสมองของเจ้าแล้ว เจ้าสามารถเรียกขึ้นมาดูได้ตลอดเวลาที่ต้องการ มีประสบการณ์มากมายของข้าถูกเก็บไว้ในนั้นเจ้าสามารถเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้เอง ข้าไม่สามารถตามสอนเจ้าได้ ดังนั้นเส้นทางในอนาคตเจ้าต้องเดินไปด้วยตนเอง” จักรพรรดิเทียนเจิ้นกล่าวเสียงนุ่ม

จินไถหลิวหลีประสานมือคำนับ “ขอบพระคุณท่านอาจารย์”

นางเปลี่ยนการเรียกขานจักรพรรดิเทียนเจิ้นอย่างชาญฉลาด จากมุมหนึ่งนางที่ได้รับมรดกของเขาก็ถือเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิเทียนเจิ้นจริงๆ

“ฮ่าๆๆๆ” เมื่อได้ยินคำเรียกขานนี่ จักรพรรดิเทียนเจิ้นก็หัวเราะอย่างอดไม่ได้ขณะที่พยักหน้า “ดีๆ ไม่คิดว่าข้าจะได้ผู้สืบทอดก่อนลาลับด้วย หวังว่าทักษะของข้าจะเบ่งบานในมือของเจ้านะ”

จินไถหลิวหลีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นนางก็มองไปที่มู่เฉินอย่างอึดอัด นั่นเป็นเพราะตอนนี้อีกฝ่ายยังไม่มีอะไรในมือเลย

จักรพรรดิเทียนเจิ้นมองไปที่มู่เฉินครุ่นคิดสั้นๆ “ยังมีลูกผลึกแสงสี่ลูกนะ ทำไมเจ้าไม่ลองดูว่าจะเข้ากันได้ไหม? สิ่งเหล่านี้ข้าได้รับมาระหว่างตอนมีชีวิตอายุ อย่าคิดว่าข้าแค่หยิบมาส่งๆ วิชาที่อยู่ในลูกผลึกแสงทั้งสี่นี้ล้วนมีชื่อลือลั่นใต้หล้า หากไม่ใช่เพราะได้รับความเสียหาย พวกมันมีคุณค่าเหนือล้ำกว่าวิชาที่ข้าทิ้งเอาไว้อีก”

เมื่อได้ยินคำพูดนั่น มู่เฉินก็อึ้งไป เขามองลูกผลึกแสงทั้งสี่ด้วยความประหลาดใจ ตอนแรกเขาคิดว่าพวกมันเป็นแค่วิชาธรรมดาทั่วไป ไม่คิดว่าจะมีต้นกำเนิดเช่นนั้น

“เสียหายและไม่สมบูรณ์รึ?”

สายตาของมู่เฉินวูบไหวจากนั้นก็คลี่ยิ้ม ระหว่างทางมาที่นี่เขาได้รับสิ่งที่ไม่สมบูรณ์มาหลายอย่าง กระทั่งร่างเทพสุริยะที่เขาได้รับการถ่ายทอดก็เป็นเพียงร่างต้นของร่างมหาเทพนิรันดร์ ดังนั้นเขาจึงสนใจในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์มากกว่าด้วยซ้ำ

“งั้นข้าจะลองใหม่” มู่เฉินควบคุมคลื่นจิตและหลับตาลงอีกครั้ง คลื่นจิตของเขากวาดออกไปวูบไหวบนพื้นผิวลูกผลึกแสงทั้งสี่

จินไถหลิวหลีและจักรพรรดิเทียนเจิ้นจ้องมองไปที่มู่เฉิน พวกเขาสัมผัสได้ว่าคลื่นจิตของชายหนุ่มห่อหุ้มลูกผลึกแสงทั้งหมดและรอคอย แต่ไม่ถึงนาทีม่านตาของพวกเขาก็แข็งค้าง นั่นเป็นเพราะพวกเขาเห็นแสงพร่างพราวออกมาจากลูกผลึกแสงที่อยู่ทางด้านซ้ายสุด

ลูกผลึกแสงลูกนี้มีสีดำ ทว่าภายในเหมือนจะมีประกายสายฟ้าแล่นแปลบปลาบ เสียงฟ้าร้องดังคลุมเครือออกมา

เมื่อจักรพรรดิเทียนเจิ้นเห็นมู่เฉินมีความเข้ากันสูงขนาดนี้กับลูกผลึกแสงลูกนี้ ดวงตาก็วูบไหว ส่วนลึกปรากฏแววตกใจและประหลาดใจ

มู่เฉินลืมตาขึ้น มองลูกผลึกแสงด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาโบกมือลูกผลึกแสงก็บินเข้ามาร่อนลงในมือเขา

มู่เฉินลังเลสั้นๆ ก่อนจะกำลูกผลึกแสง เกลียวแสงเคลื่อนเข้ามา ร่างเขาก็สั่นเบาๆ ราวกับว่ามีบางสิ่งเข้ามาในหัวสมองพร้อมกับเสียงสายฟ้าฟาด

เสียงกัมปนาทสะท้อนไปทั่ว ลำแสงก่อตัวเป็นอักขระโบราณปรากฏในหัวสมองของมู่เฉิน

คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 888 คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 888 คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่ at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 888 คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่

ลูกผลึกแสงห้าลูกลอยอยู่เบื้องหน้าทั้งสอง

แสงลึกลับเปล่งออกมา ริ้วแสงระยับกำจายไม่ได้รุนแรง ทว่าก็เพียงพอที่จะทำให้คนตื่นตาและหลงใหล นั่นเป็นเพราะพวกเขารู้ชัดเจนเกี่ยวกับราคาของที่อยู่ในลูกผลึกแสงเหล่านั้น

แม้แต่ขั้วอำนาจสูงสุดในภูมิภาคทางเหนือก็จะแย่งชิงสิ่งเหล่านี้ไปให้จงได้ แม้ไม่ง่ายที่จะสร้างจั้นเจิ้นซือ แต่อย่างน้อยสิ่งเหล่านี้ก็ทำให้พวกเขามีโอกาสเลี้ยงดูจั้นเจิ้นซือได้ เมื่อไรที่สำเร็จพวกเขาก็จะได้รับประโยชน์มหาศาล

ดวงตาของมู่เฉินจ้องมองลูกผลึกแสงทั้งห้าพลางเลียริมฝีปาก จากนั้นเขากับจินไถหลิวหลีก็แลกเปลี่ยนสายตากัน แต่ละฝ่ายเห็นความตื่นเต้นที่ยากจะห้ามไว้ในสายตาของกันและกัน

“เข้าหาพวกมันด้วยคลื่นจิตของเจ้า” จักรพรรดิเทียนเจิ้นยิ้มขณะที่พูด “คัมภีร์จิตเป็นสิ่งที่แย่งชิงไม่ได้ หากไม่สามารถเข้ากันได้ก็จะไม่สัมฤทธิ์ผล ถ้าเจ้าฝืนฝึกก็รังแต่จะทำให้ตัวเองบาดเจ็บ ดังนั้นถ้าไม่มีโชค ครั้งนี้พวกเจ้าก็ได้แต่กลับไปมือเปล่าแล้ว”

หัวใจของมู่เฉินและจินไถหลิวหลีบีบเค้นแน่น ขณะที่พวกเขาไตร่ตรองถึงความโหดร้ายในการก้าวเป็นจั้นเจิ้นซือ ไม่ต้องพูดถึงความเสี่ยงทางด้านศาสตร์คลื่นจิตเลย มิหนำซ้ำยังต้องเข้ากันได้อีกด้วย…

แต่เห็นได้ชัดว่าทั้งสองไม่ได้มีอำนาจต่อรองอะไร จึงทำได้เพียงหายใจเข้าสุดปอดจากนั้นก็หลับตาลง หัวใจของพวกเขาสงบ คลื่นจิตที่ไร้รูปพรั่งพรูออกมา

เมื่อการมองเห็นมืดลงพร้อมกับด้วยการเคลื่อนไหวของคลื่นจิต มู่เฉินก็รับรู้ได้ถึงลูกผลึกแสงทั้งห้าที่ปรากฏเบื้องหน้า แต่ละลูกมีสีสันแตกต่างกัน แต่ทุกลูกล้วนเปล่งประกายลึกลับออกมา ท่ามกลางแสงทั้งห้าลูกที่อยู่ตรงกลางเปล่งประกายเจิดจ้าที่สุด

เห็นได้ชัดว่าลูกผลึกแสงนั้นน่าจะเป็นวิชาที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นทิ้งเอาไว้ซึ่งสมบูรณ์แบบที่สุด ในทางตรงกันข้ามอีกสี่ลูกค่อนข้างมืดทึบกว่าลูกตรงกลาง

ทว่ามู่เฉินก็ไม่แปลกใจกับสิ่งนี้ เพราะนี่สอดคล้องกับที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นบอกว่าศาสตร์คลื่นจิตที่เหลือเขาได้มาโดยบังเอิญ ไม่ใช่สิ่งที่เป็นของเขา

มู่เฉินหยุดอยู่รอบนอกของลูกผลึกแสงนาน ก่อนที่จะเคลื่อนไปตรงกลาง ในเมื่อมีทักษะวิชาสมบูรณ์แบบ ก็เป็นไปไม่ได้ที่คนอย่างเขาจะยอมแพ้ ยังไงก็ต้องลองดู ถ้าโชคดีเข้ากันได้ เขาก็จะจบการเดินทางนี้ด้วยการเก็บเกี่ยวเต็มรูปแบบ

คลื่นจิตของมู่เฉินกวาดเข้าหาลูกผลึกแสงอย่างรวดเร็ว ก่อนจะม้วนตัวไปรอบๆ

ทว่าเมื่อคลื่นจิตเคลื่อนตัวอยู่รอบๆ ก็ไม่มีการเคลื่อนไหวใดๆ จากลูกผลึกแสง แม้ว่าประกายมันวาวจะดูสว่างขึ้นเล็กน้อย แต่ก็ยังห่างไกลจากความเข้ากันได้

ความพยายามของมู่เฉินในการรับวิชาฝึกคลื่นจิตที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นทิ้งไว้ล้มเหลวทันที

ราวกับว่าน้ำเย็นราดรดบนหัวเขา ทำให้หัวใจเขาหนาวจับจิต แม้ว่าเขาจะรู้สึกไม่มั่นใจ แต่ก็ยังเสียใจกับความล้มเหลวที่เข้ากันไม่ได้

แพ้ก็คือแพ้ มู่เฉินไม่ใช่คนที่ปล่อยวางไม่ได้ ทันใดนั้นเขาก็ยิ้มขมขื่นถอนตัวออก ในเมื่อเข้ากันไม่ได้กับคัมภีร์จิตที่จักรพรรดิเทียนเจิ้นสร้างขึ้น เขาก็ลองกับลูกอื่นละกัน

ขณะที่คลื่นจิตของมู่เฉินถอยออก ทันใดนั้นเขาก็รู้สึกได้ว่ามีคลื่นจิตอีกสายเคลื่อนเข้ามาใกล้ เห็นชัดว่าเป็นของจินไถหลิวหลี นางรู้สึกถึงความสำคัญของลูกผลึกแสงลูกนี้เช่นกัน

คลื่นจิตของมู่เฉินสัมผัสได้ถึงคลื่นจิตของจินไถหลิวหลีที่ม้วนตัวรอบลูกผลึกแสงเย็น

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

แต่เพียงแค่คลื่นจิตของจินไถหลิวหลีห้อมล้อมรอบลูกผลึกแสง มู่เฉินก็เห็นแสงระเบิดออกมารุนแรงในทันที ลูกผลึกแสงที่ไม่แสดงปฏิกิริยาต่อคลื่นจิตของมู่เฉิน กลับเปลี่ยนเป็นดวงอาทิตย์ลูกย่อมเปล่งประกายระยิบระยับ

มู่เฉินพูดไม่ออกกับภาพเบื้องหน้า ต่อให้เขาเป็นคนไม่ยึดติดกับอะไรมาก แต่ตอนนี้ก็รู้สึกไม่พอใจขึ้นมาเล็กน้อย ไอ้ลูกผลึกแสงนั่นไม่ตอบสนองต่อเขา ทว่ากลับตอบสนองอย่างรุนแรงต่อจินไถหลิวหลี มันชอบผู้หญิงมากกว่าผู้ชายรึไง?

เมื่อลูกผลึกแสงเปล่งประกายแวววาว จินไถหลิวหลีก็มีอาการตื่นเต้นมากจนไม่สามารถรักษาความสงบนิ่งของตนได้อีก นางเบิกตากว้างมองไปที่ลูกผลึกแสงด้วยดวงตางดงาม

“ขะ…ข้าทำสำเร็จเหรอ?” จินไถหลิวหลีพึมพำขณะที่ดวงตาเปลี่ยนเป็นสีแดง นั่นเป็นการแสดงออกของความตื่นเต้นมาก ความสามารถด้านขุมพลังหลิงของนางไม่สูงมาก ถ้าไม่ใช่เพราะทรัพยากรมหาศาลของหมู่ตึกเทวะ นางคงไม่สามารถบรรลุระดับจื้อจุนขั้นสี่ได้ ดังนั้นนางจึงตระหนักได้ว่าเส้นทางขุมพลังหลิงไม่เหมาะที่จะสร้างความแข็งแกร่งให้ตัวเอง การเป็นจั้นเจิ้นซือต่างหากที่จะทำให้นางเป็นหนึ่ง

นางไม่อาจจินตนาการเลยว่าจะสิ้นหวังเพียงใดหากเส้นทางสุดท้ายนี้ถูกสกัดไว้ หมู่ตึกเทวะทำลายตระกูลของนาง บังคับให้นางเข้าร่วมสำนัก เพราะพวกเขาเห็นพรสวรรค์รัศมีจั้นยี่ที่นางมี แต่ถ้านางไม่สามารถเป็นจั้นเจิ้นซือได้ หมู่ตึกเทวะก็คงจะไม่เหลียวแลนางอีกเลย เวลานั้นนางและครอบครัวที่เหลือก็จะตกอยู่ในอันตราย

แต่โชคดีที่สวรรค์ไม่ได้ปิดประตูทุกบาน เส้นทางสุดท้ายของนางในที่สุดก็ต้อนรับด้วยอ้อมแขนที่อ้ากว้าง

มู่เฉินลืมตาขึ้นมามองจินไถหลิวหลีที่สองตาแดงก่ำจากความตื่นเต้น เขาอึ้งไปชั่วครู่ก่อนที่จะเงียบลง ดูเหมือนว่านางมีอดีตขมขื่นมากมาย

เห็นได้ชัดว่านางต้องการทักษะวิชานี้มากกว่าเขา

ขณะที่คิดได้ร่องรอยความเสียดายในใจของมู่เฉินก็หายไป แม้ว่าการเป็นจั้นเจิ้นซือจะยอดเยี่ยม ทว่าก็ไม่ใช่หนทางเดียวของมู่เฉิน นี่ทำให้เขามีไพ่ตายเพิ่มขึ้นในแขนเสื้อเท่านั้น

ดังนั้นแม้จะไม่สามารถเป็นจั้นเจิ้นซือได้ คนอย่างมู่เฉินก็ไม่สิ้นหวัง นอกจากนี้ถึงวิชาศาสตร์คลื่นจิตของจักรพรรดิเทียนเจิ้นจะไม่เหมาะสำหรับเขา ก็ไม่ได้หมายความว่าวิชาอื่นจะไม่เหมาะกับเขา มหาพันภพกว้างใหญ่ไพศาล แม้วิชาศาสตร์คลื่นจิตจะหายาก แต่ชัดว่าไม่ได้มีแค่ของจักรพรรดิเทียนเจิ้น

“ดูเหมือนว่าเจ้ากับข้าจะมีโชคชะตาต่อกันจริงๆ” จักรพรรดิเทียนเจิ้นยิ้มมองจินไถหลิวหลี สายตาของเขาก็อ่อนโยนยิ่งขึ้น

“ขอบคุณผู้อาวุโส!” จินไถหลิวหลีพูดด้วยดวงตาแดงก่ำ

จักรพรรดิเทียนเจิ้นสะบัดมือ ลูกผลึกแสงก็ลอยออกมา จากนั้นก็เปลี่ยนเป็นริ้วแสงพุ่งเข้าไปที่หว่างคิ้วของ จินไถหลิวหลีและหายไปอย่างรวดเร็ว

เมื่อลูกผลึกแสงฝังลึกลงไปในหว่างคิ้ว ร่างจินไถหลิวหลีก็กระตุก คิ้วมุ่นเข้าหากัน เห็นได้ชัดว่านางได้รับข้อมูลขึ้นในหัวสมองขณะนี้

“ข้าได้ผนึกวิชาไว้ในหัวสมองของเจ้าแล้ว เจ้าสามารถเรียกขึ้นมาดูได้ตลอดเวลาที่ต้องการ มีประสบการณ์มากมายของข้าถูกเก็บไว้ในนั้นเจ้าสามารถเรียนรู้จากสิ่งเหล่านี้เอง ข้าไม่สามารถตามสอนเจ้าได้ ดังนั้นเส้นทางในอนาคตเจ้าต้องเดินไปด้วยตนเอง” จักรพรรดิเทียนเจิ้นกล่าวเสียงนุ่ม

จินไถหลิวหลีประสานมือคำนับ “ขอบพระคุณท่านอาจารย์”

นางเปลี่ยนการเรียกขานจักรพรรดิเทียนเจิ้นอย่างชาญฉลาด จากมุมหนึ่งนางที่ได้รับมรดกของเขาก็ถือเป็นผู้สืบทอดของจักรพรรดิเทียนเจิ้นจริงๆ

“ฮ่าๆๆๆ” เมื่อได้ยินคำเรียกขานนี่ จักรพรรดิเทียนเจิ้นก็หัวเราะอย่างอดไม่ได้ขณะที่พยักหน้า “ดีๆ ไม่คิดว่าข้าจะได้ผู้สืบทอดก่อนลาลับด้วย หวังว่าทักษะของข้าจะเบ่งบานในมือของเจ้านะ”

จินไถหลิวหลีพยักหน้าอย่างเชื่อฟัง จากนั้นนางก็มองไปที่มู่เฉินอย่างอึดอัด นั่นเป็นเพราะตอนนี้อีกฝ่ายยังไม่มีอะไรในมือเลย

จักรพรรดิเทียนเจิ้นมองไปที่มู่เฉินครุ่นคิดสั้นๆ “ยังมีลูกผลึกแสงสี่ลูกนะ ทำไมเจ้าไม่ลองดูว่าจะเข้ากันได้ไหม? สิ่งเหล่านี้ข้าได้รับมาระหว่างตอนมีชีวิตอายุ อย่าคิดว่าข้าแค่หยิบมาส่งๆ วิชาที่อยู่ในลูกผลึกแสงทั้งสี่นี้ล้วนมีชื่อลือลั่นใต้หล้า หากไม่ใช่เพราะได้รับความเสียหาย พวกมันมีคุณค่าเหนือล้ำกว่าวิชาที่ข้าทิ้งเอาไว้อีก”

เมื่อได้ยินคำพูดนั่น มู่เฉินก็อึ้งไป เขามองลูกผลึกแสงทั้งสี่ด้วยความประหลาดใจ ตอนแรกเขาคิดว่าพวกมันเป็นแค่วิชาธรรมดาทั่วไป ไม่คิดว่าจะมีต้นกำเนิดเช่นนั้น

“เสียหายและไม่สมบูรณ์รึ?”

สายตาของมู่เฉินวูบไหวจากนั้นก็คลี่ยิ้ม ระหว่างทางมาที่นี่เขาได้รับสิ่งที่ไม่สมบูรณ์มาหลายอย่าง กระทั่งร่างเทพสุริยะที่เขาได้รับการถ่ายทอดก็เป็นเพียงร่างต้นของร่างมหาเทพนิรันดร์ ดังนั้นเขาจึงสนใจในสิ่งที่ไม่สมบูรณ์มากกว่าด้วยซ้ำ

“งั้นข้าจะลองใหม่” มู่เฉินควบคุมคลื่นจิตและหลับตาลงอีกครั้ง คลื่นจิตของเขากวาดออกไปวูบไหวบนพื้นผิวลูกผลึกแสงทั้งสี่

จินไถหลิวหลีและจักรพรรดิเทียนเจิ้นจ้องมองไปที่มู่เฉิน พวกเขาสัมผัสได้ว่าคลื่นจิตของชายหนุ่มห่อหุ้มลูกผลึกแสงทั้งหมดและรอคอย แต่ไม่ถึงนาทีม่านตาของพวกเขาก็แข็งค้าง นั่นเป็นเพราะพวกเขาเห็นแสงพร่างพราวออกมาจากลูกผลึกแสงที่อยู่ทางด้านซ้ายสุด

ลูกผลึกแสงลูกนี้มีสีดำ ทว่าภายในเหมือนจะมีประกายสายฟ้าแล่นแปลบปลาบ เสียงฟ้าร้องดังคลุมเครือออกมา

เมื่อจักรพรรดิเทียนเจิ้นเห็นมู่เฉินมีความเข้ากันสูงขนาดนี้กับลูกผลึกแสงลูกนี้ ดวงตาก็วูบไหว ส่วนลึกปรากฏแววตกใจและประหลาดใจ

มู่เฉินลืมตาขึ้น มองลูกผลึกแสงด้วยความประหลาดใจ จากนั้นเขาโบกมือลูกผลึกแสงก็บินเข้ามาร่อนลงในมือเขา

มู่เฉินลังเลสั้นๆ ก่อนจะกำลูกผลึกแสง เกลียวแสงเคลื่อนเข้ามา ร่างเขาก็สั่นเบาๆ ราวกับว่ามีบางสิ่งเข้ามาในหัวสมองพร้อมกับเสียงสายฟ้าฟาด

เสียงกัมปนาทสะท้อนไปทั่ว ลำแสงก่อตัวเป็นอักขระโบราณปรากฏในหัวสมองของมู่เฉิน

คัมภีร์จิตจิ่วเจี๋ยเหลยหยู่!

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+