หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 898 อีกไม่ไกล

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 898 อีกไม่ไกล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ถ้ำกว้างขวางเต็มไปด้วยควันหนากำลังเต้นระริก ดูเหมือนว่าจะมีเสียงบางอย่างเปล่งออกมา ภายในควันก็คือแก่นคลื่นหลิงที่บริสุทธิ์ที่สุด เศษเสี้ยวเล็กๆ นี่กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหนึ่งก็ยากที่จะกลั่นกรองได้ แม้จะใช้เวลาทั้งเดือนก็ตาม

ดังนั้นจึงมองเห็นได้ว่ามีคลื่นหลิงมหาศาลเพียงใดอัดแน่นอยู่ภายในถ้ำ

ภายในถ้ำเงียบสงบ ควันที่คละคลุ้งก็กระเพื่อมราวกับว่ามีหลุมน้ำวนปรากฏในจุดลึกที่สุด ทำให้ควันไหลหายไปตามกระแสน้ำวนนี้

ปลายหลุมน้ำวนสามารถมองเห็นร่างที่นั่งนิ่งราวกับก้อนหิน โดยที่ควันเหล่านี้พุ่งเข้าไปในร่างเขาผ่านทางนาสิกประสาท

ร่างนี้ก็คือมู่เฉินซึ่งกำลังพยายามบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า

เมื่อควันที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายมากขึ้น ผิวของเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงและร้อนระอุ เม็ดเหงื่อผุดออกมาจากรูขุมขน แต่ทันทีที่สัมผัสกับผิวหนังที่ลวกร้อนของเขา เม็ดเหงื่อก็ส่งเสียงฟู่ๆ แล้วระเหยไป

คิ้วของมู่เฉินขมวดแน่น ชัดว่าแก่นคลื่นหลิงในเม็ดยาหยุ่นลั้วไม่ได้กลั่นง่ายอย่างที่เขาคิดไว้ นั่นเป็นเพราะคลื่นหลิงบริสุทธิ์เกินไป ดังนั้นหากเขาต้องการดูดซับให้สำเร็จ เขาก็ต้องทำให้พลังงานเจือจางลงโดยคลื่นหลิงของตนเองเสียก่อน จากนั้นถึงจะรวมเข้ากับจุดจื้อจุนไห่เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานของเขา

ทว่ากระบวนการนี้ก็ช้านัก

มู่เฉินที่อยู่ในระหว่างการเพาะบ่มพลังก็ขมวดคิ้วแน่น ในเวลาเดียวกันเมื่อเขาพยายามกลั่นแก่นคลื่นหลิง สมองก็หมุนวนเร็วรี่ จากการประเมินเขาต้องการเวลาประมาณสองเดือน สำหรับการจะดูดซับยาหยุ่นลั้วสองหมื่นเม็ดนี้

ช่วงเวลานี้เกินกว่าที่มู่เฉินรับได้ เนื่องจากตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในหอวิหคโลกันตร์ แต่อยู่ในสงครามล่าที่อันตรายอย่างยิ่ง ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าพรรคพวกจะรอสองเดือนไหวไหม แค่สถานการณ์ที่อาจแปรปรวนในช่วงสองเดือนก็เพียงพอที่จะทำให้การฝึกฝนของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่า หากสถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ เขาอาจต้องเผชิญกับการตอบโต้จากคลื่นหลิงของตนเองด้วย

ดังนั้นเขาต้องพยายามย่นเวลาให้สั้นลง

แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่งานง่าย มู่เฉินเคยรวมเอาเพลิงอมตะไว้ภายในคลื่นหลิง ดังนั้นความเร็วในการกลั่นของเขาจึงเร็วกว่าจอมยุทธ์ธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องยากเพียงใดในการกลั่นแก่นคลื่นหลิงในยาหยุ่นลั้ว

เกี่ยวกับการกลั่นก็ต้องใช้เพลิงที่มีประสิทธิภาพมากสุดอย่างชัดเจน ดังนั้นถ้ามู่เฉินต้องการที่จะเพิ่มความเร็วในการกลั่น เขาก็ต้องใช้เพลิงที่รุนแรงกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความเร็ว

แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ เนื่องจากเขาเคยรวมเพลิงอมตะไว้เท่านั้น แม้ว่าสายฟ้าฤทัยปีศาจดำอาจจะมีผลต่อการกลั่นบ้าง แต่ก็ด้อยกว่าเพลิงอมตะในแง่ของการกลั่นคลื่นหลิงตามลักษณะของมัน

“เพลิงอื่นๆ รึ?”

ความคิดมู่เฉินหมุนวนเร็วจี๋ พักใหญ่ความคิดหนึ่งก็วูบขึ้นในใจ อึดใจกระแสจิตของเขาก็พุ่งเข้าไปในจุดจื้อจุนไห่

ภายในจุดจื้อจุนไห่อันยิ่งใหญ่ คลื่นหลิงไร้ขอบเขตระยิบระยับอยู่บนเกลียวคลื่นมากมาย ช่างเป็นฉากที่งดงาม เนื่องจากที่แห่งนี้คือจุดกำเนิดของพลังงานสำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนทุกคน

คลื่นหลิงก่อตัวขึ้นเป็นร่างของมู่เฉินเหนือจุดจื้อจุนไห่ เขามองไปที่ทะเลพลังยิ่งใหญ่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง ยามนี้มีคลื่นหลิงเทเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นการรวมเข้าในจุดจื้อจุนไห่ของแก่นคลื่นหลิงที่ได้รับการชำระ

ทว่ามู่เฉินก็ยังไม่พอใจกับความเร็วนี้

“มาลองกันหน่อย…”

มู่เฉินครุ่นคิดสั้นๆ จากนั้นก็กัดฟันกรอดโดยไม่เหลืออาการลังเล มือวาดกระบวนท่าวูบไหว สร้างตราประทับแปลกประหลาดขึ้น

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตราประทับในมือ คลื่นปั่นป่วนก็ถูกดันขึ้นในทะเลพลัง ขณะที่คลื่นหลิงไร้ขอบเขตส่งเสียงครางกระหึ่มก่อนจะรวมตัวกันบนท้องฟ้า การรวมตัวของคลื่นหลิงดำเนินไปเป็นเวลาสิบลมหายใจ ก่อนที่เจดีย์สีดำขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นเหนือจุดจื้อจุนไห่

เจดีย์สีดำดูเก่าแก่และแข็งแกร่ง ขณะกำจายคลื่นลึกลับโบราณออกมา สิ่งนี้คุ้นเคยนัก เพราะนี่คือเจดีย์เก้าชั้นที่มู่เฉินไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานาน!

นี่เป็นวัตถุที่เขาสร้างขึ้นจากคัมภีร์ต้าฝูถู แต่จนบัดนี้มู่เฉินก็ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่ามันทรงพลังและลึกลับเพียงใด ย้อนกลับไปที่ทวีปเป่ยชาง มารดาของเขาปรากฏตัวในร่างดวงจิตสกัดกลั่นจอมยุทธ์มังกรเหลืองพร้อมกับร่างเทห์สวรรค์เขย่าขวัญจอมยุทธ์คนอื่นๆ แม้ว่ามู่เฉินจะทำแบบนั้นได้ในตอนนี้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเทียบความแข็งแกร่งของเจดีย์เขากับร่างดวงจิตของมารดา

แต่ถึงกระนั้นก็แสดงให้เห็นว่าเจดีย์ฝูถูเก้าชั้นนี้ทรงพลังเพียงใด

ทว่าหลังจากที่มู่เฉินเดินทางมายังภูมิภาคทางเหนือ เขาก็แทบไม่ได้ใช้วิชานี้อีก นั่นเป็นเพราะตอนที่เขากำลังจะออกจากสำนักศึกษาเป่ยชาง หลิงซีเตือนว่าอย่าเปิดเผยเจดีย์ฝูถูก่อนที่เขาจะมีพลังป้องกันตัวเองได้มากกว่านี้ มิฉะนั้นถ้าเขาถูกค้นพบก็อาจดึงดูดความหายนะมาสู่ตนเอง

นั่นเป็นเพราะเจดีย์นี้เกี่ยวข้องกับเผ่าลึกลับของมารดาเขา ด้วยขุมพลังในปัจจุบันของเขาเห็นได้ว่ายังไม่มีคุณสมบัติที่จะไปปะทะกับเผ่าลึกลับนั่น

มู่เฉินยืนอยู่บนท้องฟ้า จ้องมองไปที่เจดีย์อย่างเงียบๆ จากนั้นก็เม้มปากค่อยๆ กำมือ

บางทีพลังของเขาอาจยังไม่เพียงพอในตอนนี้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงการเติบโตของตนเอง เกือบสองปีแล้วที่เขามาอยู่ในภูมิภาคทางเหนือ ตอนที่มาถึงเขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหนึ่งเท่านั้น มิหนำซ้ำยังไม่ได้ฝึกฝนร่างเทห์สวรรค์เลยสักนิด ทว่าตอนนี้เขากำลังจะบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า ยิ่งกว่านั้นด้วยพื้นฐานทักษะและพลังรัศมีจั้นยี่ที่ทรงประสิทธิภาพ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกเขาก็ไม่กลัวที่ต้องต่อกรด้วย

การเติบโตของเขารวดเร็วมาก ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าต้องมีสักวันที่คนอ่อนแออย่างเขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นยอดยุทธ์แท้จริง

ในเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นตระกูลลั่วเสินหรือเผ่าลึกลับของมารดา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีก

เขาเชื่อว่าตนจะผงาดขึ้นเทียบเคียงจอมยุทธ์ชั้นนำในโลกนี้ เขาแค่ต้องการเวลา

ฮา

มู่เฉินสูดอากาศเต็มปอด ระงับอารมณ์พลุ่งพล่านลง จากนั้นก็เบนสายตามองเจดีย์ฝูถูที่ถูกเรียกขึ้นมา ด้วยพลังในปัจจุบัน เจดีย์ที่เผยตัวไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าในอดีต ยังได้รับการปรับแต่งด้วยรูปมังกรสลักในทั้งเก้าชั้นของเจดีย์ ทำให้เจดีย์สีดำยิ่งดูลึกลับและทรงเกียรติมากขึ้น

มู่เฉินจ้องมองเจดีย์ จากนั้นก็วาดกระบวนท่าอีกครั้ง เมื่อตราประทับเปลี่ยนแปลง มังกรที่สลักบนชั้นทั้งเก้าของเจดีย์ก็เริ่มส่องสว่างขึ้น

โฮก!

เสียงคำรามของมังกรสั่นสะเทือนสวรรค์และโลกดังกึกก้องไปทั่ว เจดีย์เจิดจรัสด้วยแสงสีทองอร่าม ขณะที่มังกรทองคำจำนวนมากบินฉวัดเฉวียนออกมา ในเวลาไม่กี่ลมหายใจก็มีมังกรทองคำมากกว่าสามสิบตัวพุ่งเข้าไปในเจดีย์

ฉ่า! ฉ่า!

เมื่อมังกรตัวใหญ่พุ่งเข้าไปในเจดีย์ ก็กลายเป็นเปลวไฟสีทองและรวมตัวกัน เปลวไฟแทรกซึมในเจดีย์ราวกับว่าสามารถเผาผลาญทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ ระลอกคลื่นที่ครอบงำกำจายออกไป

เพลิงเหล่านั้นเป็นเปลวไฟพิเศษที่กลั่นจากเจดีย์ฝูถู ซึ่งเป็นสิ่งที่มู่เฉินต้องการในตอนนี้

“เพลิงครอบงำนี้น่าจะได้ผลที่ดีในการกลั่นแก่นคลื่นหลิง”

มู่เฉินมองเพลิงสีทองในเจดีย์ เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้น เจดีย์ที่ก่อขึ้นก็แข็งแกร่งกว่าในอดีตอย่างชัดเจน ครั้งก่อนที่เขาใช้เจดีย์ก็มีมังกรทองคำเพียงห้าตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้มีมากกว่าถึงหกเท่า!

ทว่าเทียบกับตอนนั้นที่มารดาใช้เจดีย์ก็มีมังกรทองคำนับร้อยตัว ดูเหมือนจะยังมีช่องว่างระหว่างเขากับมารดาอยู่มาก หลิงเจิ้นต้าจงซือที่เทียบระดับเทียนจื้อจุนน่าสะพรึงกลัวจริงๆ…

มู่เฉินส่ายหัวระงับอาการทอดถอนหายใจในใจ จากนั้นด้วยความคิดสายหนึ่ง มิติเหนือจุดจื้อจุนไห่ก็ถูกแยกออก เกลียวควันสีฟ้าอมเขียวลอยพล่านให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นวันพิพากษาโลก

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

เจดีย์ส่งเสียงกระหึ่มขณะสั่นสะเทือน จากนั้นก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยการควบคุมของมู่เฉิน ตัวเจดีย์แกว่งไปแกว่งมาเบาๆ ก่อนที่แรงดูดน่ากลัวจะระเบิดออกมา

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เกลียวควันสีฟ้าอมเขียวพ่นออกมาราวกับมังกรนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาในเจดีย์

ฉ่า! ฉ่า!

เปลวเพลิงสีทองในเจดีย์เริ่มพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง พวกมันพุ่งออกไปห่อหุ้มควันสีฟ้าอมเขียวที่เข้ามา ปลดปล่อยอุณหภูมิน่าสะพรึงกลัวอย่างเต็มกำลัง

ควันสีฟ้าอมเขียวพวยพุ่ง แยกตัว จากนั้นคลื่นหลิงบริสุทธิ์ในเกลียวควันสีฟ้าอมเขียวก็ระเบิดออกมาราวกับกระแสน้ำ

ครืน!

เจดีย์ฝูถูสั่นไหว กระแสคลื่นหลิงมากมายเทลงมาจากเจดีย์พร้อมกับเกลียวควันสีฟ้าอมเขียว พุ่งลงสู่กับทะเลพลังเบื้องล่าง

ดังนั้นจุดจื้อจุนไห่จึงพลุ่งพล่านอย่างรุนแรงในเวลานี้ ความผันผวนของคลื่นหลิงป่าเถื่อนอย่างต่อเนื่อง จุดจื้อจุนไห่ที่หยุดนิ่งมานานก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เมื่อเห็นฉากนี้ ในที่สุดมู่เฉินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เขายิ้มบางก่อนที่จะนั่งลง ด้วยความช่วยเหลือของเจดีย์ในการกลั่น สิ่งที่เขาต้องทำก็คือรอ…

ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler 898 อีกไม่ไกล

Now you are reading หนึ่งในใต้หล้า The Great Ruler Chapter 898 อีกไม่ไกล at นิยาย นิยายออนไลน์ นิยายวาย นิยาย pdf OreNovel.Com.

หนึ่งในใต้หล้า 大主宰

บทที่ 898 อีกไม่ไกล

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

ถ้ำกว้างขวางเต็มไปด้วยควันหนากำลังเต้นระริก ดูเหมือนว่าจะมีเสียงบางอย่างเปล่งออกมา ภายในควันก็คือแก่นคลื่นหลิงที่บริสุทธิ์ที่สุด เศษเสี้ยวเล็กๆ นี่กระทั่งจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหนึ่งก็ยากที่จะกลั่นกรองได้ แม้จะใช้เวลาทั้งเดือนก็ตาม

ดังนั้นจึงมองเห็นได้ว่ามีคลื่นหลิงมหาศาลเพียงใดอัดแน่นอยู่ภายในถ้ำ

ภายในถ้ำเงียบสงบ ควันที่คละคลุ้งก็กระเพื่อมราวกับว่ามีหลุมน้ำวนปรากฏในจุดลึกที่สุด ทำให้ควันไหลหายไปตามกระแสน้ำวนนี้

ปลายหลุมน้ำวนสามารถมองเห็นร่างที่นั่งนิ่งราวกับก้อนหิน โดยที่ควันเหล่านี้พุ่งเข้าไปในร่างเขาผ่านทางนาสิกประสาท

ร่างนี้ก็คือมู่เฉินซึ่งกำลังพยายามบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า

เมื่อควันที่หลั่งไหลเข้ามาในร่างกายมากขึ้น ผิวของเขาก็เริ่มแปรเปลี่ยนเป็นสีแดงและร้อนระอุ เม็ดเหงื่อผุดออกมาจากรูขุมขน แต่ทันทีที่สัมผัสกับผิวหนังที่ลวกร้อนของเขา เม็ดเหงื่อก็ส่งเสียงฟู่ๆ แล้วระเหยไป

คิ้วของมู่เฉินขมวดแน่น ชัดว่าแก่นคลื่นหลิงในเม็ดยาหยุ่นลั้วไม่ได้กลั่นง่ายอย่างที่เขาคิดไว้ นั่นเป็นเพราะคลื่นหลิงบริสุทธิ์เกินไป ดังนั้นหากเขาต้องการดูดซับให้สำเร็จ เขาก็ต้องทำให้พลังงานเจือจางลงโดยคลื่นหลิงของตนเองเสียก่อน จากนั้นถึงจะรวมเข้ากับจุดจื้อจุนไห่เพื่อเปลี่ยนเป็นพลังงานของเขา

ทว่ากระบวนการนี้ก็ช้านัก

มู่เฉินที่อยู่ในระหว่างการเพาะบ่มพลังก็ขมวดคิ้วแน่น ในเวลาเดียวกันเมื่อเขาพยายามกลั่นแก่นคลื่นหลิง สมองก็หมุนวนเร็วรี่ จากการประเมินเขาต้องการเวลาประมาณสองเดือน สำหรับการจะดูดซับยาหยุ่นลั้วสองหมื่นเม็ดนี้

ช่วงเวลานี้เกินกว่าที่มู่เฉินรับได้ เนื่องจากตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในหอวิหคโลกันตร์ แต่อยู่ในสงครามล่าที่อันตรายอย่างยิ่ง ทุกอย่างก็เกิดขึ้นได้ ไม่ต้องพูดถึงว่าพรรคพวกจะรอสองเดือนไหวไหม แค่สถานการณ์ที่อาจแปรปรวนในช่วงสองเดือนก็เพียงพอที่จะทำให้การฝึกฝนของเขาล้มเหลวไม่เป็นท่า หากสถานการณ์เลวร้ายกว่านี้ เขาอาจต้องเผชิญกับการตอบโต้จากคลื่นหลิงของตนเองด้วย

ดังนั้นเขาต้องพยายามย่นเวลาให้สั้นลง

แต่เห็นได้ชัดว่าไม่ใช่งานง่าย มู่เฉินเคยรวมเอาเพลิงอมตะไว้ภายในคลื่นหลิง ดังนั้นความเร็วในการกลั่นของเขาจึงเร็วกว่าจอมยุทธ์ธรรมดาทั่วไป แต่ก็ยังไม่เพียงพอ ทำให้เห็นว่าเป็นเรื่องยากเพียงใดในการกลั่นแก่นคลื่นหลิงในยาหยุ่นลั้ว

เกี่ยวกับการกลั่นก็ต้องใช้เพลิงที่มีประสิทธิภาพมากสุดอย่างชัดเจน ดังนั้นถ้ามู่เฉินต้องการที่จะเพิ่มความเร็วในการกลั่น เขาก็ต้องใช้เพลิงที่รุนแรงกว่าเดิมเพื่อเพิ่มความเร็ว

แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายที่จะทำเรื่องนี้ให้สำเร็จ เนื่องจากเขาเคยรวมเพลิงอมตะไว้เท่านั้น แม้ว่าสายฟ้าฤทัยปีศาจดำอาจจะมีผลต่อการกลั่นบ้าง แต่ก็ด้อยกว่าเพลิงอมตะในแง่ของการกลั่นคลื่นหลิงตามลักษณะของมัน

“เพลิงอื่นๆ รึ?”

ความคิดมู่เฉินหมุนวนเร็วจี๋ พักใหญ่ความคิดหนึ่งก็วูบขึ้นในใจ อึดใจกระแสจิตของเขาก็พุ่งเข้าไปในจุดจื้อจุนไห่

ภายในจุดจื้อจุนไห่อันยิ่งใหญ่ คลื่นหลิงไร้ขอบเขตระยิบระยับอยู่บนเกลียวคลื่นมากมาย ช่างเป็นฉากที่งดงาม เนื่องจากที่แห่งนี้คือจุดกำเนิดของพลังงานสำหรับจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนทุกคน

คลื่นหลิงก่อตัวขึ้นเป็นร่างของมู่เฉินเหนือจุดจื้อจุนไห่ เขามองไปที่ทะเลพลังยิ่งใหญ่ก่อนจะเงยหน้าขึ้นมอง ยามนี้มีคลื่นหลิงเทเข้ามาอย่างต่อเนื่อง นั่นเป็นการรวมเข้าในจุดจื้อจุนไห่ของแก่นคลื่นหลิงที่ได้รับการชำระ

ทว่ามู่เฉินก็ยังไม่พอใจกับความเร็วนี้

“มาลองกันหน่อย…”

มู่เฉินครุ่นคิดสั้นๆ จากนั้นก็กัดฟันกรอดโดยไม่เหลืออาการลังเล มือวาดกระบวนท่าวูบไหว สร้างตราประทับแปลกประหลาดขึ้น

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

พร้อมกับการเปลี่ยนแปลงของตราประทับในมือ คลื่นปั่นป่วนก็ถูกดันขึ้นในทะเลพลัง ขณะที่คลื่นหลิงไร้ขอบเขตส่งเสียงครางกระหึ่มก่อนจะรวมตัวกันบนท้องฟ้า การรวมตัวของคลื่นหลิงดำเนินไปเป็นเวลาสิบลมหายใจ ก่อนที่เจดีย์สีดำขนาดใหญ่จะปรากฏขึ้นเหนือจุดจื้อจุนไห่

เจดีย์สีดำดูเก่าแก่และแข็งแกร่ง ขณะกำจายคลื่นลึกลับโบราณออกมา สิ่งนี้คุ้นเคยนัก เพราะนี่คือเจดีย์เก้าชั้นที่มู่เฉินไม่ได้ใช้มาเป็นเวลานาน!

นี่เป็นวัตถุที่เขาสร้างขึ้นจากคัมภีร์ต้าฝูถู แต่จนบัดนี้มู่เฉินก็ไม่สามารถวิเคราะห์ได้ว่ามันทรงพลังและลึกลับเพียงใด ย้อนกลับไปที่ทวีปเป่ยชาง มารดาของเขาปรากฏตัวในร่างดวงจิตสกัดกลั่นจอมยุทธ์มังกรเหลืองพร้อมกับร่างเทห์สวรรค์เขย่าขวัญจอมยุทธ์คนอื่นๆ แม้ว่ามู่เฉินจะทำแบบนั้นได้ในตอนนี้ แต่ก็เป็นไปไม่ได้ที่จะเทียบความแข็งแกร่งของเจดีย์เขากับร่างดวงจิตของมารดา

แต่ถึงกระนั้นก็แสดงให้เห็นว่าเจดีย์ฝูถูเก้าชั้นนี้ทรงพลังเพียงใด

ทว่าหลังจากที่มู่เฉินเดินทางมายังภูมิภาคทางเหนือ เขาก็แทบไม่ได้ใช้วิชานี้อีก นั่นเป็นเพราะตอนที่เขากำลังจะออกจากสำนักศึกษาเป่ยชาง หลิงซีเตือนว่าอย่าเปิดเผยเจดีย์ฝูถูก่อนที่เขาจะมีพลังป้องกันตัวเองได้มากกว่านี้ มิฉะนั้นถ้าเขาถูกค้นพบก็อาจดึงดูดความหายนะมาสู่ตนเอง

นั่นเป็นเพราะเจดีย์นี้เกี่ยวข้องกับเผ่าลึกลับของมารดาเขา ด้วยขุมพลังในปัจจุบันของเขาเห็นได้ว่ายังไม่มีคุณสมบัติที่จะไปปะทะกับเผ่าลึกลับนั่น

มู่เฉินยืนอยู่บนท้องฟ้า จ้องมองไปที่เจดีย์อย่างเงียบๆ จากนั้นก็เม้มปากค่อยๆ กำมือ

บางทีพลังของเขาอาจยังไม่เพียงพอในตอนนี้ แต่เขาก็สัมผัสได้ถึงการเติบโตของตนเอง เกือบสองปีแล้วที่เขามาอยู่ในภูมิภาคทางเหนือ ตอนที่มาถึงเขาเป็นจอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหนึ่งเท่านั้น มิหนำซ้ำยังไม่ได้ฝึกฝนร่างเทห์สวรรค์เลยสักนิด ทว่าตอนนี้เขากำลังจะบรรลุขุมพลังจื้อจุนขั้นห้า ยิ่งกว่านั้นด้วยพื้นฐานทักษะและพลังรัศมีจั้นยี่ที่ทรงประสิทธิภาพ แม้แต่จอมยุทธ์ขุมพลังจื้อจุนขั้นหกเขาก็ไม่กลัวที่ต้องต่อกรด้วย

การเติบโตของเขารวดเร็วมาก ดังนั้นเขาจึงมั่นใจว่าต้องมีสักวันที่คนอ่อนแออย่างเขาจะเติบโตขึ้นมาเป็นยอดยุทธ์แท้จริง

ในเวลานั้นไม่ว่าจะเป็นตระกูลลั่วเสินหรือเผ่าลึกลับของมารดา เขาก็ไม่จำเป็นต้องกลัวอีก

เขาเชื่อว่าตนจะผงาดขึ้นเทียบเคียงจอมยุทธ์ชั้นนำในโลกนี้ เขาแค่ต้องการเวลา

ฮา

มู่เฉินสูดอากาศเต็มปอด ระงับอารมณ์พลุ่งพล่านลง จากนั้นก็เบนสายตามองเจดีย์ฝูถูที่ถูกเรียกขึ้นมา ด้วยพลังในปัจจุบัน เจดีย์ที่เผยตัวไม่เพียงแต่มีขนาดใหญ่กว่าในอดีต ยังได้รับการปรับแต่งด้วยรูปมังกรสลักในทั้งเก้าชั้นของเจดีย์ ทำให้เจดีย์สีดำยิ่งดูลึกลับและทรงเกียรติมากขึ้น

มู่เฉินจ้องมองเจดีย์ จากนั้นก็วาดกระบวนท่าอีกครั้ง เมื่อตราประทับเปลี่ยนแปลง มังกรที่สลักบนชั้นทั้งเก้าของเจดีย์ก็เริ่มส่องสว่างขึ้น

โฮก!

เสียงคำรามของมังกรสั่นสะเทือนสวรรค์และโลกดังกึกก้องไปทั่ว เจดีย์เจิดจรัสด้วยแสงสีทองอร่าม ขณะที่มังกรทองคำจำนวนมากบินฉวัดเฉวียนออกมา ในเวลาไม่กี่ลมหายใจก็มีมังกรทองคำมากกว่าสามสิบตัวพุ่งเข้าไปในเจดีย์

ฉ่า! ฉ่า!

เมื่อมังกรตัวใหญ่พุ่งเข้าไปในเจดีย์ ก็กลายเป็นเปลวไฟสีทองและรวมตัวกัน เปลวไฟแทรกซึมในเจดีย์ราวกับว่าสามารถเผาผลาญทุกสรรพสิ่งในโลกใบนี้ ระลอกคลื่นที่ครอบงำกำจายออกไป

เพลิงเหล่านั้นเป็นเปลวไฟพิเศษที่กลั่นจากเจดีย์ฝูถู ซึ่งเป็นสิ่งที่มู่เฉินต้องการในตอนนี้

“เพลิงครอบงำนี้น่าจะได้ผลที่ดีในการกลั่นแก่นคลื่นหลิง”

มู่เฉินมองเพลิงสีทองในเจดีย์ เมื่อพลังของเขาเพิ่มขึ้น เจดีย์ที่ก่อขึ้นก็แข็งแกร่งกว่าในอดีตอย่างชัดเจน ครั้งก่อนที่เขาใช้เจดีย์ก็มีมังกรทองคำเพียงห้าตัวเท่านั้น แต่ตอนนี้มีมากกว่าถึงหกเท่า!

ทว่าเทียบกับตอนนั้นที่มารดาใช้เจดีย์ก็มีมังกรทองคำนับร้อยตัว ดูเหมือนจะยังมีช่องว่างระหว่างเขากับมารดาอยู่มาก หลิงเจิ้นต้าจงซือที่เทียบระดับเทียนจื้อจุนน่าสะพรึงกลัวจริงๆ…

มู่เฉินส่ายหัวระงับอาการทอดถอนหายใจในใจ จากนั้นด้วยความคิดสายหนึ่ง มิติเหนือจุดจื้อจุนไห่ก็ถูกแยกออก เกลียวควันสีฟ้าอมเขียวลอยพล่านให้ความรู้สึกราวกับว่าเป็นวันพิพากษาโลก

ฮึ่ม! ฮึ่ม!

เจดีย์ส่งเสียงกระหึ่มขณะสั่นสะเทือน จากนั้นก็ทะยานขึ้นสู่ท้องฟ้าด้วยการควบคุมของมู่เฉิน ตัวเจดีย์แกว่งไปแกว่งมาเบาๆ ก่อนที่แรงดูดน่ากลัวจะระเบิดออกมา

ฟิ้ว! ฟิ้ว!

เกลียวควันสีฟ้าอมเขียวพ่นออกมาราวกับมังกรนับไม่ถ้วนพุ่งเข้ามาในเจดีย์

ฉ่า! ฉ่า!

เปลวเพลิงสีทองในเจดีย์เริ่มพลุ่งพล่านอย่างรุนแรง พวกมันพุ่งออกไปห่อหุ้มควันสีฟ้าอมเขียวที่เข้ามา ปลดปล่อยอุณหภูมิน่าสะพรึงกลัวอย่างเต็มกำลัง

ควันสีฟ้าอมเขียวพวยพุ่ง แยกตัว จากนั้นคลื่นหลิงบริสุทธิ์ในเกลียวควันสีฟ้าอมเขียวก็ระเบิดออกมาราวกับกระแสน้ำ

ครืน!

เจดีย์ฝูถูสั่นไหว กระแสคลื่นหลิงมากมายเทลงมาจากเจดีย์พร้อมกับเกลียวควันสีฟ้าอมเขียว พุ่งลงสู่กับทะเลพลังเบื้องล่าง

ดังนั้นจุดจื้อจุนไห่จึงพลุ่งพล่านอย่างรุนแรงในเวลานี้ ความผันผวนของคลื่นหลิงป่าเถื่อนอย่างต่อเนื่อง จุดจื้อจุนไห่ที่หยุดนิ่งมานานก็เริ่มเพิ่มขึ้นอีกครั้ง

เมื่อเห็นฉากนี้ ในที่สุดมู่เฉินก็รู้สึกโล่งใจอย่างมาก เขายิ้มบางก่อนที่จะนั่งลง ด้วยความช่วยเหลือของเจดีย์ในการกลั่น สิ่งที่เขาต้องทำก็คือรอ…

ขุมพลังจื้อจุนขั้นห้าอยู่ใกล้แค่เอื้อมแล้ว

Comments

การแสดงความเห็นถูกปิด

×

Pengaturan Membaca

Background :

Size :

A-16A+